๙๗ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ค รั้ น ท ร ง พ ร ะ ป ร า ร ภ ธุระจบ ธ จึ่งบัญ ช า น า ย นิ ก า ย ส ร ร พ ท แ ก ล้ ว ท ห า ร ห า ญ ฬุ ค ะ เ น ก ะ เ ก ณ ฑ์ ก า ร เ ร่ ง ทำ อุ ฬุ ม ป์ เ ว จ ร เ ข้ า น ค ร บ ร เ พื่ อ ข้ า ม น ที ธ า ร ถอดความได้ว่า : ครั้นทรงคิดได้ดังนั้นจึงมีพระราชบัญชาแก่เหล่าทหารหาญให้ รีบสร้างแพไม้ไผ่เพื่อข้ามแม่น้ำจะเข้าเมืองของฝ่ายศัตรู พวกทหารรับ ราชโองการแล้วก็ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับ
๙๘ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) เ ข า รั บ พ ร ะ บั ณ ฑู ร อ ดิ ศู ร บ ดี ศ ร ภ า โ ร ป ก ร ณ์ ต อ น ทิ ว รุ่ ง ส ฤ ษ ฎ์ พ ลั น พ ยุ ห า ธิ ทั พ ขั น ธ์ จอมนาถพระยาตรา พลข้าม ณ คงคา โ ด ย แ พ แ ล ะ พ่ ว ง ปั น ถอดความได้ว่า : ในตอนเช้างานนั้นก็เสร็จทันที จอมกษัตริย์เคลื่อนกองทัพอัน มีกำลังพลมากมายลงในแพที่ติดกัน นำกำลังข้ามแม่น้ำ
๙๙ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) จ น ห ม ด พ ห ล เ นื่ อ ง พิ ศ เ นื อ ง ข นั ด ค ล า ขึ้นฝั่ งลุเวสา ลิบุเรศสะดวกดาย ฯ ถอดความได้ว่า : จนกองทัพหมดสิ้น มองดูแน่นขนัด ขึ้นฝั่ งเมืองเวสาลี อย่างสะดวกสบาย
๑๑๐๐๐๐ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) จิตรปทาฉันท์ ๘ นาครธา นิ วิส า ลี เ ห็ น ริปุ มี พลมากมาย ก็ ลุ พ้ น ห ม า ย ข้ า ม ติ ร ช ล พระนครตน มุ่ ง จ ะ ท ล า ย ถอดความได้ว่า : ฝ่ายเมืองเวสาลีมองเห็นข้าศึกจำนวนมากข้ามแม่น้ำมา เพื่อจะทำลายล้างบ้านเมืองของตน
๑๑๐๐๑๑ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ต่ า ง ก็ ต ร ะ ห น ก ม น อ ก เ ต้ น ตื่น บ มิเว้น ต ะ ล ะ ผู้ ค น มจลาจล ทั่ ว บุ ร ค า อลเวงไป เ สี ย ง อ ล ว น ถอดความได้ว่า : ต่างก็ตระหนกตกใจกันถ้วนหน้า ในเมืองเกิดจลาจล วุ่นวายไปทั่วเมือง
๑๑๐๐๒๒ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) สรรพสกล มุ ข ม น ต รี ต ร อ ม ม น ภี รุ ก เ ภ ท ภั ย ท ร ป ร า ศ รั ย บางคณะอา ข ณ ะ นี้ ห น อ ยั ง มิ ก ร ะ ไ ร ถอดความได้ว่า : ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต่างหวาดกลัวภัย บางพวกก็พูดว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นไรหรอก
๑๐๓ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ค ว ร บ ริบ า ล พ ร ะ ท ว า ร มั่ น ต้ า น ป ะ ท ะ กั น อ ริก่ อ น พ อ ชสภารอ ขั ต ติ ย ร า วรโองการ ดำ ริจ ะ ข อ ถอดความได้ว่า : ควรจะป้องกันประตูเมืองเอาไว้ให้มั่นคง ต้านทานข้าศึกเอาไว้ ก่อน รอให้ที่ประชุมเหล่ากษัตริย์มีความเห็นว่าจะทรงทำประการใด
๑๑๐๐๔๔ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ท ร ง ต ริไ ฉ น ก็ จ ะ ไ ด้ ทำ โ ด ย น ย ดำ รั ส ภู บ า ล ก็ เ ค า ะ ก ล อ ง ข า น เสวกผอง ดุ จ ก ล อ ง พั ง อ า ณั ติ ป า น ถอดความได้ว่า : ก็จะได้ดำเนินการตามพระบัญชาของพระองค์เ หล่าข้าราชการ ทั้งหลายก็ตีกลองสัญญาณขึ้นราวกับกลองจะพัง
๑๑๐๐๕๐ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ศั พ ท อุ โ ฆ ษ ป ร ะ ลุ โ ส ต ท้ า ว ลิ จ ฉ วีด้ า ว ข ณ ะ ท ร ง ฟั ง แ ล ะ ล ะ เ ล ย ดั ง ต่าง ธ ก็เฉย ธุ ร ะ กั บ ใ ค ร ไ ท้ มิ อิ นั ง ถอดความได้ว่า : เสียงดังกึกก้องไปถึงพระกรรณกษัตริย์ลิจฉวีต่างองค์ทรงเพิก เฉยราวกับไม่เอาใจใส่ในเรื่องราวของผู้ใด
๑๐๖ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ต่ า ง ก็ บ ค ล า ณสภาคา แ ม้ พ ร ะ ท ว า ร บุ ร ทั่ ว ไ ป และทวารใด ร อ บ ทิ ศ ด้ า น สิ จ ะ ปิ ด มี เ ห็ น น ร ไ ห น ถอดความได้ว่า : ต่างองค์ไม่เสด็จไปที่ประชุม แม้แต่ประตูเมืองรอบทิศทุกบานก็ ไม่มีผู้ใดปิด
๑๐๗ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) สัททูลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙ จอ มทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี ธ า สู่ วิส า ลี นคร โ ด ย ท า ง อั น พ ร ะ ท ว า ร เ ปิ ด น ร นิ ก ร ฤ ๅ ร อ ต่ อ ร อ น อะไร ถอดความได้ว่า : จอมทัพแห่งแคว้นมคธกรีธาทัพเข้าเมืองเวสาลีทางประตูเมือง ที่เปิดอยู่โดยไม่มีผู้คนหรือทหารต่อสู้ประการใด
๑๐๘ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) เ บื้ อ ง นั้ น ท่ า น คุ รุ วั ส ส ก า ร ทิ ช ก็ ไ ป มคธ นำ ทั พ ช เ น น ท ร์ ไ ท และโดย เ ข้ า ป ร า บ ลิ จ ฉ วิขั ต ติ ย์ รั ฐ ช น บ ท สู่ เ งื้ อ ม พ ร ะ หั ต ถ์ ห ม ด ถอดความได้ว่า : ขณะนั้นวัสสการพราหมณ์ผู้เป็นอาจารย์ก็ไปนำทัพของกษัตริย์ แห่งมคธเข้ามาปราบกษัตริย์ลิจฉวีอาณาจักรทั้งหมดก็ตกอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์
๑๐๙ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ไ ป่ พั ก ต้ อ ง จ ะ ก ะ เ ก ณ ฑ์ นิ ก า ย พ ห ล โ ร ย ป ร ะ ยุ ท ธ์ แ ร ง เ ป ลื อ ง ร ะ ด ม โ ป ร ย ณ เดิม ราบคาบเสร็จ ธ เสด็จลุราชคฤหอุต ค ม เ ข ต บุ เ ร ศ ดุ จ ถอดความได้ว่า : โดยที่กองทัพไม่ต้องเปลืองแรงในการต่อสู้ ปราบราบคาบแล้ว เสด็จยังราชคฤห์เมืองยิ่งใหญ่ดังเดิม
๑๑๐ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) เ รื่ อ ง ต้ น ยุ ก ติ ก็ แ ต่ จ ะ ต่ อ พ จ น เ ติ ม ป ร ะ ส ง ค์ ภ า ษิ ต ลิ ขิ ต เ ส ริม ตริดู ฯ ป รุ ง โ ส ต เ ป็ น ค ติ สุ น ท ร า ภ ร ณ จ ง จั บ ข้ อ ป ร ะ โ ย ช น์ ต ร ง ถอดความได้ว่า : เนื้อเรื่องแต่เดิมจบลงเพียงนี้ แต่ประสงค์จะแต่งสุภาษิตเพิ่ม เติมให้ได้รับฟังเพื่อเป็นคติอันทรงคุณค่านำไปคิดไตร่ตรอง
๑๑๑ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ อั น ภู บ ดี ร า ช อ ช า ต ศั ต รู ไ ด้ ลิ จ ฉ วีภู ว ป ร ะ เ ท ศ ส ะ ด ว ก ดี ว ร ร า ช วั ช ชี แลสรรพบรรดา ฑ อ นั ต ถ์ พิ น า ศ ห น า ถึ ง ซึ่ ง พิ บั ติ บี ถอดความได้ว่า : พระเจ้าอชาตศัตรูได้แผ่นดินวัชชีอย่างสะดวก และกษัตริย์ลิจ ฉวีทั้งหลายก็ถึงซึ่งความพินาศล่มจม
๑๑๒ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) เ หี้ ย ม นั้ น เ พ ร า ะ ผั น แ ผ ค ณ ะ แ ต ก แ ล ะ ต่ า ง ม า ถื อ ทิ ฐิ ม า น ส า ห ส โ ท ษ พิ โ ร ธ จ อ ง ทนสิ้น บ ปรองดอง แ ย ก พ ร ร ค ส ม ร ร ค ภิ น ต ริม ลั ก ป ร ะ จั ก ษ์ เ จื อ ข า ด ญ า ณ พิ จ า ร ณ์ ต ร อ ง ถอดความได้ว่า : เหตุเพราะความแตกแยกกันต่างก็มีความยึดมั่นในความคิดของ ตน ผูกโกรธซึ่งกันและกัน ต่างแยกพรรค แตกสามัคคีกัน ไม่ปรองดองกัน ขาด ปัญญาที่จะพิจารณาไตร่ตรอง
๑๑๓ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) เ ชื่ อ อ ร ร ถ ยุ บ ล เ อ า ร ส เ ล่ า ก็ ง่ า ย เ ห ลื อ เหตุหาก ธ มากเมือ ค ติ โ ม ห เ ป็ น มู ล ย น ภ า ว อ า ดู ร จึ่ ง ด า ล ป ร ะ ก า ร ห า ย ศ ศั ก ดิ เ สื่ อ ม น า ม เ สี ย แ ด น ไ ผ ท สู ญ ถอดความได้ว่า : เชื่อถ้อยความของบรรดาพระโอรสอย่างง่ายดาย เหตุที่เป็นเช่น นั้นเพราะกษัตริย์แต่ละพระองค์ทรงมากไปด้วยความหลง จึงทำให้ถึงซึ่งความ ฉิบหาย มีภาวะความเป็นอยู่อันทุกข์ระทม เสียทั้งแผ่นดิน เกียรติยศ และชื่อเสียง ที่เคยมีอยู่
๑๑๔ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ค ว ร ช ม นิ ย ม จั ด คุ รุ วั ส ส ก า ร พ ร า ห ม ณ์ เ ป็ น เ อ ก อุ บ า ย ง า ม ก ล งำ ก ร ะ ทำ ม า พิ เ ค ร า ะ ห์ คิ ด พิ นิ จ ป ร า พุ ท ธ า ทิ บั ณ ฑิ ต ธุ ส มั ค ร ภ า พ ผ ล ร ภ ส ร ร เ ส ริญ ส า ถอดความได้ว่า : ส่วนวัสสการพราหมณ์นั้นน่าชื่นชมอย่างยิ่งเพราะเป็นเลิศใน การกระทำกลอุบายผู้รู้ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้ใคร่ครวญพิจารณากล่าว สรรเสริญว่าชอบแล้วในเรื่องผลแห่งความพร้อมเพรียงกัน
๑๑๕ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ว่ า อ า จ จ ะ อ ว ย ผ า สุ ก ภ า ว ม า ด ล ดีสู่ ณ หมู่ตน บ นิราศนิรันดร คยพรรคสโมสร ห มู่ ใ ด ผิ ส า มั ค คุ ณ ไ ร้ ไ ฉ น ด ล ไ ป่ ป ร า ศ นิ ร า ศ ร อ น ถอดความได้ว่า : ความสามัคคีอาจอำนวยให้ถึงซึ่งสภาพแห่งความผาสุก ณ หมู่ ของตนไม่เสื่อมคลายตลอดไป หากหมู่ใดมีความสามัคคีร่วมชุมนุมกัน ไม่ห่างเหิน กัน สิ่งที่ไร้ประโยชน์จะมาสู่ได้อย่างไร
๑๑๖ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) พ ร้ อ ม เ พ รีย ง ป ร ะ เ ส ริฐ ค รั น เ พ ร า ะ ฉ ะ นั้ น แ ห ล ะ บุ ค ค ล ผู้ ห วั ง เ จ ริญ ต น ธุ ร ะ เ กี่ ย ว ก ะ ห มู่ เ ข า พึ ง ห ม า ย ส มั ค ร เ ป็ น มุ ข เ ป็ น ป ร ะ ธ า น เ อ า ธูรทั่ว ณ ตัวเรา บ มิเห็น ณ ฝ่ายเดียว ถอดความได้ว่า : ความพร้อมเพรียงนั้นประเสริฐยิ่งนัก เพราะฉะนั้นบุคคลใดหวัง ที่จะได้รับความเจริญแห่งตนและมีกิจธุระอันเป็นส่วนรวม ก็พึงตั้งใจเป็นหัวหน้า เอาเป็นธุระด้วยตัวของเราเองโดยมิเห็นประโยชน์ตนแต่ฝ่ายเดียว
๑๑๗ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ค ว ร ย ก ป ร ะ โ ย ช น์ ยื่ น น ร อื่ น ก็ แ ล เ ห ลี ย ว ดู บ้ า ง แ ล ะ ก ล ม เ ก ลี ย ว มิ ต ร ภ า พ ผ ดุ ง ค ร อ ง ท ม ผ่ อ น ผ จ ง จ อ ง ยั้ ง ทิ ฐิ ม า น ห ย่ อ น ม น เ มื่ อ จ ะ ทำ ใ ด อ า รีมิ มี ห ม อ ง ถอดความได้ว่า : ควรยกประโยชน์ให้บุคคลอื่นบ้าง นึกถึงผู้อื่นบ้าง ต้องกลม เกลียว มีความเป็นมิตรกันไว้ ต้องลดทิฐิมานะ รู้จักข่มใจ จะทำสิ่งใดก็เอื้อเฟื้ อกัน ไม่มีความบาดหมางใจ
๑๑๘ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ลาภผลสกลบรร ลุ ก็ ปั น ก็ แ บ่ ง ไ ป ต า ม น้ อ ย แ ล ะ ม า ก ใ จ สุ จ ริต นิ ย ม ธ ร ร ม์ สุ ป ร ะ พ ฤ ติ ส ง ว น พ ร ร ค์ พึ ง ม ร ร ย า ท ยึ ด อุ ป เ ฉ ท ไ ม ต รี รื้ อ ริษ ย า อั น ถอดความได้ว่า : ผลประโยชน์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นก็แบ่งปันกันไป มากบ้างน้อยบ้าง อย่างเป็นธรรม ควรยึดมั่นในมารยาทและความประพฤติที่ดีงาม รักษาหมู่คณะ โดยไม่มีความริษยากันอันจะตัดรอนไมตรี
๑๑๙ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ดั่งนั้น ณ หมู่ใด ผิ บ ไร้สมัครมี พ ร้ อ ม เ พ รีย ง นิ พั ท ธ์ นี ร วิว า ท ร ะ แ ว ง กั น ส ย ค ง ป ร ะ ส บ พ ลั น ห วั ง เ ท อ ญ มิ ต้ อ ง ส ง หิ ต ะ ก อ บ ท วิก า ร ซึ่ ง สุ ข เ ก ษ ม สั น ต์ ถอดความได้ว่า : ดังนั้นถ้าหมู่คณะใดไม่ขาดซึ่งความสามัคคี มีความพร้อม เพรียงกันอยู่เสมอ ไม่มีการวิวาท และระแวงกัน ก็หวังได้โดยไม่ต้องสงสัยว่าคงจะ พบซึ่งความสุข ความสงบ และประกอบด้วยประโยชน์มากมาย
๑๒๐ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ใ ค ร เ ล่ า จ ะ ส า ม า ร ถ มนอาจระรานหาญ หักล้าง บ แหลกลาญ ก็ เ พ ร า ะ พ ร้ อ ม เ พ ร า ะ เ พ รีย ง กั น น ร สู ง ป ร ะ เ ส ริฐ ค รั น ป่ ว ย ก ล่ า ว อ ะ ไ ร ฝู ง เ ฉ พ า ะ มี ชี วีค ร อ ง ฤ ๅ ส ร ร พ สั ต ว์ อั น ถอดความได้ว่า : ใครเล่าจะมีใจกล้าคิดทำสงครามด้วย หวังจะทำลายล้างก็ไม่ได้ ทั้งนี้เพราะความพร้อมเพรียงกันนั่นเอง กล่าวไปไยกับมนุษย์ผู้ประเสริฐหรือ สรรพสัตว์ที่มีชีวิต
๑๒๑ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) แ ม้ ม า ก ผิ กิ่ ง ไ ม้ ผิ ว ใ ค ร จ ะ ใ ค ร่ ล อ มั ด กำ ก ร ะ นั้ น ป อ ง พ ล หั ก ก็ เ ต็ ม ท น สละลี้ ณ หมู่ตน เ ห ล่ า ไ ห น ผิ ไ ม ต รี บ มิพร้อมมิเพรียงกัน กิ จ ใ ด จ ะ ข ว า ย ข ว น ถอดความได้ว่า : แม้แต่กิ่งไม้หากใครจะใคร่ลองเอามามัดเป็นกำ ตั้งใจใช้กำลัง หักก็ยากเต็มทน หากหมู่ใดไม่มีความสามัคคีในหมู่คณะของตน และกิจการอันใด ที่จะต้องขวนขวายทำก็มิพร้อมเพรียงกัน
๑๒๒ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) อ ย่ า ป ร า ร ถ น า ห วั ง สุ ข ทั้ ง เ จ ริญ อั น ม ว ล ม า อุ บั ติ บ ร ร ลุไฉน บ ได้มี พ ภ ยั น ต ร า ย ก ลี ป ว ง ทุ ก ข์ พิ บั ติ ส ร ร ติ ป ร ะ ส ง ค์ ก็ ค ง ส ม แ ม้ ป ร า ศ นิ ย ม ป รี ถอดความได้ว่า : ก็อย่าได้หวังเลยความสุขความเจริญจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ความทุกข์พิบัติอันตรายและความชั่วร้ายทั้งปวง ถึงแม้จะไม่ต้องการก็จะต้องได้ รับเป็นแน่แท้
๑๒๓ เนื้อเรื่องเต็ม (ตอนที่เรียนและถอดคำประพันธ์) ค ว ร ช น ป ร ะ ชุ ม เ ช่ น ค ณ ะ เ ป็ น ส ม า ค ม ส า มั ค คิ ป ร า ร ม ภ นิ พั ท ธ รำ พึ ง ผิ ว มี ก็ คำ นึ ง ไ ป่ มี ก็ ใ ห้ มี จะประสบสุขาลัย ฯ เ นื่ อ ง เ พื่ อ ภิ ย โ ย จึ ง ถอดความได้ว่า : ผู้ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่คณะหรือสมาคม ควรคำนึงถึงความ สามัคคีอยู่เป็นนิจ ถ้ายังไม่มีก็ควรจะมีขึ้น ถ้ามีอยู่แล้วก็ควรให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ขึ้นไปจึงจะถึงซึ่งความสุขความสบาย
วิเคราะห์คุณค่า ๑๒๔ คุณค่าด้านเนื้อหา เนื้อหา พระเจ้าอชาตศัตรูแห่งกรุงราชคฤห์แคว้นมคธ ทรงมีวัสสการพรา หมณ์ที่มีความฉลาดและรอบรู้ ทางด้านศิลปศาสตร์เป็นที่ปรึกษา และ ท่านมีความประสงค์ที่จะขยายอาณาจักรของท่านไปที่เเคว้นวัชชี ของ เหล่ากษัตริย์ลิจฉวี ซึ่งท่านปกครองด้วยการเน้นสามัคคีธรรมเป็น หลัก วัสสการพราหมณ์จึงเริ่มออก อุบายในการทำให้เหล่ากษัตริย์ลิจ ฉวีแตกคอกัน โดยการเรียกพระกุมารของเหล่ากษัตริย์ลิจฉวีมา สอบถามทีละคน ทำให้เหล่าพระกุมารเกิดความระแวงและสงสัย หลัง จากนั้นพระกุมารทั้งหลายจึงไป บอกพระบิดา ทำให้เกิดความ บาดหมางและสิ้นความสามัคคีในเหล่ากษัตริย์ลิจฉวีกันหมด และท้าย ที่สุด ความแตกความสามัคคีนี้ทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูยกทัพมาตี แคว้นวัชชีได้สำเร็จอย่างง่ายดาย
วิเคราะห์คุณค่า ๑๒๕ คุณค่าด้านเนื้อหา โครงเรื่อง แคว้นนั้นยึดมั่นในอปริหานิยธรรม มีความสามัคคี ปรองดองมั่นคง กษัตริย์ผู้ต้องการแผ่อำนาจจึงต้องใช้ อุบายส่งพราหมณ์ปุโรหิตของตนเข้าไปเป็นไส้ศึก หาวิธี ทำลายความสามัคคีของกษัตริย์แคว้นนั้นเสียก่อน แล้วจึง ยกทัพเข้าโจมตี พราหมณ์ปุโรหิตใช้เวลาถึง ๓ ปีจึงดำเนิน กลอุบายทำลายความสามัคคีได้สำเร็จ กษัตริย์แคว้นนั้นก็ แผ่อำนาจเข้าครอบครองแคว้นข้างเคียงเป็นผลสำเร็จ
วิเคราะห์คุณค่า ๑๒๖ คุณค่าด้านเนื้อหา ตัวละคร เหล่ากษัตริย์ลิจฉวีแห่งแคว้นวัซซี -เคยเป็นตัวอย่างของความสามัคคี -ขาดวิจารณญาณและไม่ยึดถือหลักเหตุผล -มีความระแวงและทะนงตน วัสสการพราหมณ์จากแคว้นมคธ -มีความฉลาดหลักแหลมมีสติปัญญาที่ดี -มีความสามารถทางวาทศิลป์ มีเล่ห์เหลี่ยมทางวาจา -รู้จักพลิกแพลงสถานการณ์ -มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอชาตศัตรูและบ้านเมืองของตน
๑๒๗ วิเคราะห์คุณค่า คุณค่าด้านเนื้อหา ฉากท้องเรื่อง เรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์เป็นเรื่องที่เรารับมาจากอินเดีย กวีจึงพยายามพรรณนาฉากให้ บรรยากาศของเรื่องเป็นประเทศอินเดียในสมัยพระเจ้าอชาตศัตรู แต่กวีเป็นคนไทยดังนั้น ฉากจึงมีความเป็นไทยแทรกอยู่บ้าง เช่น การพรรณนาชมบ้านเมือง อำพนพระมนทิรพระราช สุนิวาสวโรฬาร์ อัพภันตรไพจิตรและพา หิรภาคก็พึงชม เล่ห์เลื่อนชะลอดุสิตฐา นมหาพิมานรมย์ มารังสฤษฎ์พิศนิยม ผิจะเทียบก็เทียมทัน สามยอดตลอดระยะระยับ ช่อฟ้าตระการกลจะหยัน วะวะวับสลับพรรณ บราลีพิลาศศุภจรูญ จะเยาะยั่วทิฆัมพ หางหงส์ผจงพิจิตรงอน นภศูลประภัสส ดุจกวักนภาลัย
วิเคราะห์คุณค่า ๑๒๘ คุณค่าด้านเนื้อหา ฉากท้องเรื่อง นับว่าเป็นบทพรรณนาชมบ้านเมืองที่ไพเราะทั้งเสียง จังหวะและลีลา นัยว่านายชิต บุรทัต พรรณนาตอนนี้จากพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทและพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แต่ไม่ใช่ข้อบกพร่อง เสียหายเพราะธรรมดากวีย่อมบรรยายจากสิ่งที่ได้เคยพบเห็น เรียกกันว่าเป็นอนุโลมกวี การพรรณนากระบวนทัพช้างและทัพม้าตอนพระเจ้าอชาตศัตรูกรีธาทัพนั้น นับว่าพรรณนา ได้อย่างน่าเกรงขาม เช่น ขุนคชขึ้นคชชินชาญ คุมพลคชสาร ละตัวกำแหงแข็งขัน เคยเศิกเข้าศึกฮึกครัน เสียงเพรียกเรียกมัน คำรณประดุจเดือดดาล
วิเคราะห์คุณค่า ๑๒๙ คุณค่าด้านเนื้อหา ฉากท้องเรื่อง การพรรณนาชมธรรมชาติซึ่งนับว่านิยมมากในวรรณคดีไทย แต่ในสามัคคีเภทคำฉันท์ ขาดรสนี้ไป ตอนวัสสการพราหมณ์ถูกขับก็ดี หรือตอนพระเจ้าอชาตศัตรูยกทัพก็ดี น่าจะมี บทพรรณนาชมธรรมชาติบ้าง แต่ผู้แต่งเพียงพรรณนาสรุปสั้น ๆ ว่า แรมทางกลางเถื่อน ห่างเพื่อนหาผู้ หนึ่งใดนึกดู เห็นใครไป่มี หลายวันถั่นล่วง เมืองหลวงธานี นามเวสาลี ดุ่มเดาเข้าไป
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๐ คุณค่าด้านเนื้อหา บทเจรจา เป็นการแกล้งต่อว่าของพระเจ้าอชาตศัตรูที่วัสสการพราหมณ์ท้วงติงเรื่องการออกศึก ซึ่งมี การกระแทกกระทั้นแสดงถึงอารมณ์โกรธ “เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน ก็มาเป็น ศึก บ ถึงและมึงก็ยังมิเห็น จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น ประการใด อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมิ่นกู”
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๑ คุณค่าด้านเนื้อหา แก่นเรื่อง -การแตกความสามัคคีของหมู่คณะซึ่งนำไปสู่หายนะ เหล่าโอรสของกษัตริย์ลิจฉวีถูกยุแยงให้แตกกันโดยวัสสการพรา หมณ์ ฝั่ งพระเจ้า อชาตศัตรูจึงใช้โอกาสนี้ในการโจมตีแคว้นวัชชี -การรู้จักใช้สติปัญญาเพื่อเอาชนะศัตรู โดยไม่ต้องใช้กำลัง พระเจ้าอชาตศัตรูใช้ไส้ศึกนั่นคือ วัสสการพราหมณ์เข้าไปยุแยงเหล่า โอรสของกษัตริย์ ลิจฉวีให้แตกสามัคคีกัน ทําให้พระเจ้าอชาตศัตรูมี โอกาสบุกโจมตีแคว้นวัชชีได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ง่ายกว่าการไปบุก โจมตีแคว้นวัชชีซึ่งๆหน้า -การรู้จักเลือกใช้บุคคลให้เหมาะสมกับงานที่ได้รับ จะทำให้งาน สำเร็จด้วยดี
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๒ คุณค่าด้านเนื้อหา แก่นเรื่อง พระเจ้าอชาตศัตรูเลือกให้วัสสการพราหมณ์เป็นผู้ไปยุแยง เหล่าโอรสให้แตกคอกัน ซึ่ง วัสสการพราหมณ์นั้นเป็นพราหมณ์ที่ ฉลาด รอบรู้ศิลปศาสตร์ และมีวาทศิลป์ดี -การเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ และคิดว่าตนดีกว่าผู้อื่นเสมอ ย่อมทำให้เกิด ความเสียหายต่อส่วนรวม เหล่ากษัตริย์ต่างพากันโกรธในสิ่งที่วัสสการณ์พราหมณ์ยุแยง โดยไม่คํานึงถึงผลที่จะเกิด ในภายภาคหน้า อันนำมาสู่การถูก โจมตี
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๓ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การเลือกสรรคำ วรรณคดีประเภทฉันท์แม้จะนิยมใช้คำบาลีสันสกฤตก็ตาม เพราะต้องการบังคับครุ ลหุ แต่ผู้แต่งสามัคคีเภทคำฉันท์ก็เลือกสรรคำได้อย่างไพเราะเหมาะสมเสียงสัมผัส ผู้แต่งได้เลือกสรรหาคำเพื่อเสียงสัมผัสทั้งเสียงสัมผัสพยัญชนะและสระสัมผัส พยัญชนะ เช่น ทิ ช ง ค์ ช า ติ ฉ ล า ด ย ล ค ะ เ น ก ล ค ะ นึ ง ก า ร ก ษั ต ริ ย์ ลิ จ วี ว า ร ร ะ วั ง เ หื อ ด ร ะ แ ว ง ห า ย มี ก า ร เ ล่ น เ สี ย ง พ ยั ญ ช น ะ คำ ว่ า “ ค ะ เ น ก ล - ค ะ นึ ง ก า ร ” กั บ “ ร ะ วั ง เ หื อ ด - ร ะ แ ว ง ห า ย ”
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๔ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ สัมผัสสระ เช่น ล่วงลุประมาณ กาลอนุกรม หนึ่ง ณ นิยม ท่านทวิชงค์ มีการเล่นเสียงสระคำว่า “ประมาณ - กาล” กับ “อนุกรม -นิยม” การเล่นเสียงหนักเบา เช่น อั น ภู บ ดี ร า ไ ด้ ลิ จ ฉ วี ภู แลสรรพบรรดา ถึ ง ซึ่ ง พิ บั ติ บี ว ป ร ะ เ ท ศ ส ะ ด ว ก ดี ช อ ช า ต ศั ต รู ฑ อ นั ต ถ์ พิ น า ศ ห น า ว ร ร า ช วั ช ชี มี ก า ร เ ล่ น เ สี ย ง ห นั ก เ บ า เ ช่ น “ อั น ” เ ป็ น เ สี ย ง ห นั ก “ ร า ” เ ป็ น เ สี ย ง เ บ า ดั ง
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๕ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การเรียบเรียงคำ การใช้คำที่เข้าใจง่าย มีการใช้คำที่ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ง่าย เช่น ตอนวัสสกา รพราหมณ์เข้า เมืองเวสาลี ผู ก ไ ม ต รี จิ ต เ ชิ ง ชิ ด ช อ บ เ ชื่ อ ง กั บ ห มู่ ช า ว เ มื อ ง ฉั น ท์ อั ช ฌ า สั ย ว้ า วุ่ น ว า ย ใ จ เ ล่ า เ รื่ อ ง เ คื อ ง ขุ่ น ด้ า ว ต่ า ง แ ด น ต น จำ เ ป็ น ม า ใ น
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๖ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การใช้โวหารภาพพจน์ -พรรณณาโวหาร เช่น “ควรชมนิยมจัด คุรุวัสสการพราหมณ์ เป็นเอกอุบายงาม กลงำกระทำมา พิเคราะห์คิดพินิจปรา พุ ทธาทิบัณฑิต ธุสมัครภาพผล” รภสรรเสริญสา รสเล่าก็ง่ายเหลือ คติโมหเป็นมูล “เชื่ออรรถยุบลเอา ยนภาวอาดูร เหตุหากธมากเมือ ยศศักดิเสื่อมนาม” จึ่งดาลประการหา เสียแดนไผทสูญ
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๗ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ สาธกโวหาร เช่น “ ค ว ร ย ก ป ร ะ โ ย ช น์ ยื่ น น ร อื่ น ก็ แ ล เ ห ลี ย ว ดู บ้ า ง แ ล ะ ก ล ม เ ก ลี ย ว มิ ต ร ภ า พ ผ ดุ ง ค ร อ ง ท ม ผ่ อ น ผ จ ง จ อ ง ยั้ ง ทิ ฐิ ม า น ห ย่ อ น ม น เ มื่ อ จ ะ ทำ ใ ด ” อ า รี มิ มี ห ม อ ง ลุ ก็ ปั น ก็ แ บ่ ง ไ ป สุ จ ริ ต นิ ย ม ธ ร ร ม์ “ลาภผลสกลบรร สุ ป ร ะ พ ฤ ติ ส ง ว น พ ร ร ค์ ต า ม น้ อ ย แ ล ะ ม า ก ใ จ อุ ป เ ฉ ท ไ ม ต รี ” พึ ง ม ร ร ย า ท ยึ ด รื้ อ ริ ษ ย า อั น
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๘ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เทศนาโวหาร เช่น “ ค ว ร ช น ป ร ะ ชุ ม เ ช่ น ค ณ ะ เ ป็ น ส ม า ค ม ส า มั ค คิ ป ร า ร ม ภ นิ พั ท ธ รำ พึ ง ผิ ว มี ก็ คำ นึ ง ไ ป่ มี ก็ ใ ห้ มี จ ะ ป ร ะ ส บ สุ ข า ลั ย ” เ นื่ อ ง เ พื่ อ ภิ ย โ ย จึ ง
วิเคราะห์คุณค่า ๑๓๙ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ อุปมา เช่น ตอนพระเจ้าอชาตศัตรูกริ้ววัสสการพราหมณ์ สิล่าถอย” “กลกะกากะหวาดขมังธนู บห่อนจะเห็นธวัชริปู วัสสการพราหมณ์เปรียบน้ำพระราชหฤทัยกษัตริย์ลิจฉวี “ เ ม ต ต า ท ย า ลุ ศุ ภ ก ร ร ม อุ ป ถั ม ภ ก า รุ ณ ย์ ส ร ร เ ส ริ ญ เ จ ริ ญ พ ร ะ คุ ณ สุ น ท ร พู น พิ บู ล ง า ม ท ะ นุ ที่ ป ร ะ ทั ง ค ว า ม เ ป รี ย บ ป า น ม ห ร ร ณ พ น ที น ร ห า ก ป ร ะ ส บ เ ห็ น ร้ อ น ก า ย ก ร ะ ห า ย อุ ท ก ย า ม ร ะ อุ ผ่ า ว ก็ ผ่ อ น เ ย็ น สุ ข ปี ติ ดี ใ จ เ อิ บ อิ่ ม ก ร ะ ห ยิ่ ม ห ท ย ค ร า ว ยั ง อุ ณ ห มุ ญ จ น ะ แ ล ะ เ ป็ น การกล่าวถึงความรุ่งเรืองของแคว้นมคธ ภพเลอสุราลัย “เมืองท้าวสิเทียบทิพเสมอ บุลมวลประการมา” เมืองท้าวแหละสมบุรณไพ
วิเคราะห์คุณค่า ๑๔๐ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ อุปลักษณ์ เช่น ตอนวัสสการพราหมณ์กล่าวเปรียบเทียบทหารของแคว้นวัชชีกับทหารของแคว้นมคธว่า “หิ่งห้อยสิแข่งสุริยะไหน จะมิน่าชิวาลาญ” ตอนพระเจ้าอชาตศัตรูทรงเปรียบเทียบการแตกสามัคคีของกษัตริย์ลิจฉวีว่า “ลูกข่างประดาทา รกกาลขว้างไป ห มุ น เ ล่ น ส นุ ก ไ ฉ น ดุจกันฉะนั้นหนอ”
วิเคราะห์คุณค่า ๑๔๑ คุณค่าด้านสังคม ❖คุณค่าด้านสังคม สะท้อนวัฒนธรรมของคนในสังคม ➢ สะท้อนภาพการปกครองโดยระบอบสามัคคีธรรม เน้นโทษของการแตก ความสามัคคี ในหมู่คณะ และเน้นถึงหลักธรรม อปริหานิยธรรม ๗ ประการ ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ส่งผล ให้เกิดความเจริญของหมู่คณะ ปราศจากความ เสื่อม ได้แก่ ■ ไม่เบื่อหน่ายการประชุม เมื่อมีภารกิจก็ประชุมปรึกษาหารือกัน เพื่อช่วยกัน คิดหาทางแก้ไขปัญหา
วิเคราะห์คุณค่า ๑๔๒ คุณค่าด้านสังคม ( )คุณค่าด้านสังคม ต่อ ■ เข้าประชุมพร้อมกัน เลิกประชุมพร้อมกัน ร่วมกันประกอบกิจอันควรกระทำ - มีความสามัคคีกัน ❖■ ยึดมั่นในจารีตประเพณีอันดีงาม และประพฤติดีปฏิบัติตามสิ่งที่บัญญัติไว้ แสดงให้เห็นถึงโทษของการแตกความสามัคคีในหมู่คณะ ➢ ถ้าไม่สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็จะนำบ้านเมืองไปสู่ความหายนะได้ ❖(ฝ่ายตรงข้ามสามารถใช้จุดอ่อนในเรื่องนี้เพื่อโจมตีได้ง่าย) เน้นการใช้สติปัญญาไตร่ตรองในการแก้ไขปัญหามากกว่าการใช้กำลัง
บรรณานุกรม ๑๔๓ nidkawkong.(๒๕๕๖). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://nidkawkong.wordpress.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1 %E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8% A0%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8 %99%E0%B8%97%E0%B9%8C/ (วันที่สืบค้นข้อมูล: ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕). วิกิพีเดีย.(๒๕๖๓). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B 8%95_%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0% B8%B1%E0%B8%95 (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๕). กาญจนา .(๒๕๕๕). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.gotoknow.org/posts/406381 (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๕). ไม่ปรากฏผู้เขียน .(๒๕๕๖). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก http://samakkeepeatchant.blogspot.com/2013/12/blog-post_3427.html?m=1 (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๕).
ไม่ปรากฏผู้เขียน .(๒๕๕๖). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก ๑๔๔ http://samakkeepeatchant.blogspot.com/2013/12/blog-post_4301.html?m=1 (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕). ไม่ปรากฏผู้เขียน .(๒๕๕๖). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก http://samakkeepeatchant.blogspot.com/2013/12/blog- post_3919.html?m=1 (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕). ไม่ปรากฏผู้เขียน .(๒๕๕๖). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก http://samakkeepeatchant.blogspot.com/2013/12/blog- post_2653.html?m=1 (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๕). ไม่ปรากฏผู้เขียน .(๒๕๕๖). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก http://samakkeepeatchant.blogspot.com/2013/12/blog- post_3584.html?m=1 (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๕). ไม่ปรากฏผู้เขียน .(๒๕๕๖). สามัคคีเภทคำฉันท์.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://poommpw.weebly.com/uploads/6/1/3/1/61314895/%E0%B8%A3%E0%B8 %B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99_%E0%B8%AA%E0%B8 %B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B9% 80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%89%E0%B8%B 1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C.docx (วันที่สืบค้นข้อมูล:๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๕).
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148