Charlie and the Chocolate Factory

วิเคราะห์โครงสรา้ งวรรณกรรม เร่อื ง Charlie and the Chocolate Factory 1. โครงเรอื่ ง (Plot) 1.1) ชนิดของโครงเร่ือง โครงเร่ืองหลัก (main plot) คอื มเี ด็กน้อยคนหนึ่งชอ่ื Charlie และเขาอาศัยอยู่ในครอบครวั ที่ คอ่ นข้างยากจน และมีสมาชิกครอบครัวท้ังหมด 7 คนรวมตัวเขา Charlie เปน็ คนท่ชี ืน่ ชอบและหลงใหล ชอ็ กโกแลตมากถึงมากทสี่ ุด แต่ด้วยฐานะทางบ้านท่ไี มไ่ ด้มีเงนิ มากนัก เขาจงึ ได้รอวนั เกิดปลี ะคร้งั ของเขา เทา่ น้นั ถงึ จะได้กินชอ็ กโกแลตหนึง่ แท่ง จนกระทง่ั มปี ระกาศจากเจา้ ของโรงงานชอ็ กโกแลต นนั่ ก็คอ Willy Wonka ทจี่ ะอนุญาตให้ผ้โู ชคดี 5 คนได้เข้าเย่ียมชมโรงงานได้ 1 วัน โดยการตามหาตวั๋ ทองคาทซี่ อ่ นอยูใ่ ต้ กระดาษห่อชอ็ กโกแลต และกระจายขายไปท่ัวทุกมมุ โลก ซ่ึงสาหรับ Charlie แล้วแทบจะไม่มคี วามหวงั ด้วยซ้า แตว่ ันหนงึ่ เขาก็ได้เจอเงนิ ตกอยู่ และเอาไปซ้ือช็อกโกแลตกิน จนทาให้เขาได้ตว๋ั ทองคาใบสดุ ทา้ ย และไดเ้ ข้า โรงงานช็อกโกแลต ในตอนสดุ ท้ายเขาได้เปน็ เด็กท่ี Willy Wonka มอบโรงงานช็อกโกแลตให้ โครงเรอ่ื งย่อย (sub plot) 1) เรื่องราวของตัวละครรองท่ีเปน็ ผู้ไดต้ ั๋วทองคาท้ัง 4 คน ได้แก่ Augustus Gloop, Veruca Salt, Violet Beauregarde และ Mike Teavee ซง่ึ แตล่ ะคนกม็ สี ว่ นทาให้เกดิ เรอื่ งราวตา่ งๆในเรือ่ ง และแต่คนก็มเี ร่ืองราวของชีวิตและครอบครวั แตกต่างกนั และเหตุการณไ์ มค่ าดคดิ ท่เี กดิ กับพวกเขา 2) โครงเรอ่ื งย่อยอกี หน่ึงอย่าง คือ เรื่องราวของตวั ละครอ่ืนๆ ที่มีผลตอ่ เน้ือเร่ือง ไม่วา่ จะเป็น Will Wonka (เจ้าของโรงงานช็อกโกแลต) Oompa Loompas (คนงานผลู้ กึ ลบั ของโรงงานชอ็ กโกแลต) 1.2) องคป์ ระกอบของโครงเร่อื ง 1.2.1) ความขดั แย้ง (conflicts) ความขัดแย้งระหว่างตัวละคร (man against man) เรื่องความขัดแย้งระหวา่ งตัวละครใน วรรณกรรมเรอื่ งน้ีมหี ลายเหตุการณ์มากแต่ไมใ่ ช่ความขัดแย้งของตัวละครหลกั แตเ่ ปน็ ตวั ละครรองในเรอื่ ง เช่น 1) ความขดั แย้ง ชลุ มุนวนุ่ วาย ตอนทท่ี ุกคนตามหาตว๋ั ทองคา Golden tickets และเกิดความแกรง่ แยง่ แขง่ ขนั กนั มากมาย 2) เหตุการณใ์ นบทท่ี 16 The Ooompa Loompas ท่ี Willy Wonka เลา่ ความเปน็ มาของ Oompa Loompas ใหท้ กุ คนฟงั แต่ Mrs. Salt พดู แย้งว่าไมน่ ่าจะมีสถานท่ีแบบน้ีอยบู่ นโลกและยังงบอกอีก วา่ ตัวเองเป็นคุณครสู อนภมู ิศาสตร์ แต่ Willy Wonka กบ็ อกกลับไปวา่ เขาได้ไปเดนิ ป่าและคน้ พบดว้ ยตวั เอง จริงๆ แต่สาหรับฉากนี้กไ็ มไ่ ดเ้ กดิ ความขดั แย้งรนุ แรงมากนัก 3) และในตอนท่ี17 ขณะที่ Augustus Gloop ตกลงไปในธารชอ็ กโกแลต และกาลังจะโดนท่อดูดเข้าไป กเ็ กิดการโตเ้ ถียงเล็กน้อยระหว่าง Mrs. Gloop กับ

Mr. Gloop ว่าใหร้ ีบช่วยลูก4) บทท่ี 23 Square Sweets That Look Round และมีการโตแ้ ยง้ กนั เล็กน้อย ระหว่าง Willy Wonka และเดก็ สองคน Mike Teavee กบั Veruca Salt เรอื่ งรปู รา่ งของขนม มบี ทโตแ้ ย้ง ดงั น้ี… “‘There you are!’ cried Mr. Wonka. ‘Square sweets that look round! ‘They don’t look round to me,’ said Mike Teavee. ‘They look square,’ said Veruca Salt. ‘The look completely square. ‘But they are square,’ said Mr. Wonka. ‘I never said they weren’t. ‘You said they were round!’ said Veruca Salt. ‘I never said anything of the sort,’ said Mr. Wonka. ‘I said they looked round ‘But they don’t look round!’ said Veruca Salt. ‘They look square!’ ‘They look round,’ insisted Mr. Wonka. ‘They most certainly do not look round!’ cried Veruca Salt. ” และยังมีอีกหลาย เหตกุ ารณใ์ นเรื่องที่ผอู้ า่ นไม่ได้หยิบมาเป็นตัวอย่างอกี มากมาย ความขดั แยง้ ภายในจิตใจของตัวละครเอง (man against himself) ผอู้ า่ นยังไมพ่ บเนื้อหาใน ส่วนน้ี ความขดั แย้งระหวา่ งตัวละครและพลังภายนอก (man against outside force) สาหรับ ความขดั แย้งกับพลงั ภายนอก กค็ งต้องยกตวั อย่างชวี ติ ของ Charlie ซ่ึงเปน็ ตวั ละครหลักในเร่อื ง และ ครอบครวั ของเขาที่เป็นครอบครัวทีย่ ากจนมาก และต้องอดม้อื กินมอ้ื มชี ีวติ ทไี่ ม่ดีนกั ทั้งเร่ืองอาหารการกนิ ท่ี อยูอ่ าศยั การต้องประเชิญกบั สภาพอากาศท่ีโหดร้าย และเป็นสงิ่ ทต่ี ัวละครเลือกเองไม่ได้หรือเปน็ ส่ิงทเ่ี อาชนะ ไดย้ าก และมีการบรรยายถงึ ความยากลาบากกบั สงิ่ ที่เขาต้องเผชิญ เชน่ “The house wasn’t nearly large enough for so many people, and life was extremely uncomfortable for them all.” หรือการ บรรยายถงึ ตอนสภาพอากาศ “In the summertime, this wasn’t too bad, but in the winter, freezing cold draughts blew across the floor all night long, and it was awful.” หรอื แม้กระท่ัง ตอนท่ีบรรยายเก่ียวกบั อาหารการกินของทกุ คนในครอบครัวก็บ่งบอกไดว้ ่าพวกเขาต้องอดมือ้ กินมอ้ื หรือไม่ เคยได้กินอยา่ งเตม็ อิ่มสกั มอ้ื “The only meals they could afford were bread and margarine for breakfast, boiled potatoes and cabbage for lunch, and cabbage soup for supper.” และยังมี อีกหลายฉากที่บรรยายถึงความยากลาบากของตัวละคร Charlie ทีแ่ ม้แต่เราที่เป็นคนอ่านเองยังรูส้ กึ สงสาร และรบั รู้ได้

ความขดั แย้งระหว่างความคดิ กบั ความคิด (idea against idea) สาหรบั ความขดั แย้งระหวา่ ง ความคิดกับความคิดในวรรณกรรมเรือ่ ง Charlie and the Chocolate Factory ผอู้ ่านยังไม่พบข้อมลู ในส่วน น้ี 1.2.2) เหตกุ ารณ์ (actions) พัฒนาการของเหตุการณ์ (development of actions) -การปเู รือ่ ง (exposition) ในการปูเรื่องของวรรณกรรมเรื่องนี้ ผแู้ ตง่ ได้บรรยายถงึ ตวั ละคร หลักท่ชี ื่อ Charlie หนนู ้อยที่มฐี านะทางครอบครัวค่อนข้างยากจน มีชีวติ ความเปน็ อยู่ทย่ี ากลาบากทง้ั ที่อยู่ อาศยั อาหารการกิน สภาพอากาศ และความชอบความหลงใหลชอ็ กโกแลตทเ่ี ขาชอบมาก และเหนือสงิ่ อ่ืนใด คอื หมบู่ ้านที่เขาอาศัยอย่มู ีโรงงานชอ็ กโกแลตท่ีใหญ่ทีส่ ุดในโลก และเขาต้องเดินผ่านทุกวันเวลาไป-กลบั โรงเรยี น จนกระท่งั วันหน่ึง มีประกาศจาก Willy Wonka วา่ ให้ผ้โู ชคดี 5คนได้เข้าไปเยี่ยมชมโรงงานได้ โดย จะตอ้ งมตี ั๋วทองคาถงึ จะได้เขา้ ไป และทุกคนจะไดข้ นมหวานและชอ็ กโกแลตต่างๆ มากพอที่จะกนิ ไปตลอด ชีวติ และในเร่ืองยังมกี ารปเู รื่องตัวละครอื่นๆในเรอื่ งอีกด้วย ไมว่ า่ จะเป็นเด็กที่ได้ตัว๋ ทองคาท้ัง 4 คน และ เรือ่ งราวของเจ้าของโรงงานช็อกโกแลต Mr. Willy Wonka -เหตุการณท์ วคี วามเขม้ ขน้ (rising action) เหตุการณต์ ่างๆหลังจากมปี ระกาศจาก Willy Wonka และเริม่ มีผู้ทีไ่ ด้ต๋ัวทองคาทีละใบสองใบ จนกระทั่งเหลือใบสุดท้ายทย่ี ังไมม่ ีคนได้ ยิง่ เปน็ ตอนที่คนอ่าน ลุ้น และเอาใจช่วยตวั ละครหลักของเรามากข้นึ จนสุดท้าย Charlie ก็เป็นผู้ทีไ่ ดต้ ั๋วทองคาเพอื่ เขา้ ไปในโรงงาน ชอ็ กโกแลต และตอนท่เี ป็นวนั เขา้ ไปในโรงงานของ Willy Wonka กเ็ ป็นอีกหนง่ึ ฉากที่ทาใหเ้ ร่อื งเพมิ่ ความ เขม้ ขน้ น่าตดิ ตามมากข้นึ เร่ือยๆ -จุดสดุ ยอดของเร่ือง (climax) ในวรรณกรรมเรื่องน้ีมีเหตุการณ์ทีส่ าคญั หลายเหตกุ ารณ์ เมือ่ เด็กทงั้ 5 คนทีเ่ ปน็ ผ้โู ชคดีและผู้ปกครองได้เขา้ ไปยังโรงงานช็อกโกแลต และเริม่ มเี หตุการณ์ไม่คาดฝันเกดิ ข้นึ กบั ตัวละคร เริ่มจากในบทท่ี 17 Augustus Gloop Goes up to the pipe เม่อื Augustus Gloop ตกลง ไปในธารช็อกโกแลตและถูกดูดโดยท่อสง่ ช็อกโกแลตของโรงงานทาให้เร่ืองราวนา่ ตดิ ตามวา่ จะเกดิ อะไรขนึ้ กบั ตัวละครต่อไป และเหตกุ ารณ์ต่อมาก็คือบทท่ี 21 Good-bye Violet ตอนท่ี Violet Beauregarde กลายเป็น บอลลูนบรเู บอรร์ ่ีเพราะเคีย้ วหมากฝรั่งยง่ิ ทาใหผ้ ู้อา่ นสงสัยว่าแลว้ จะเกดิ อะไรอีก และอีกตอนที่เปน็ ตอนที่ นา่ สนใจ คอื บทที่ 24 Veruca in the Nut Room เมอ่ื Veruca Salt ถูกพวกกระรอกจบั ตวั เธอทง้ิ ลงหลมุ ขยะ ของโรงงาน ต่างก็เปน็ ฉากท่ีทาให้ตกใจ และเกดิ คาถามวา่ แลว้ เดก็ ๆพวกน้ันจะเปน็ อย่างไรบา้ ง และอีกหนง่ึ ตอน ในบททื่ 27 Mike Teavee is sent by Television ที่ Mike Teavee ถูกสง่ ผ่านโทรทัศน์ และเมื่อ ออกมาได้กลับทาให้เขาตวั หดเหลือนิดเดยี ว นับว่าเปน็ เหตกุ ารณท์ ส่ี าคัญและน่าตดิ ตาม ถอื เป็นจดุ สดุ ยอดของ เรื่องราวในวรรณกรรมเร่ืองนี้ก็ว่าได้

-เหตกุ ารณ์คล่คี ลาย (falling action) เมอ่ื เหตุการณ์ทีเ่ ลา่ มาข้างต้นจบลง เร่ืองราวตา่ งๆก็ เรมิ่ ชดั วา่ จะเกดิ อะไรต่อไป เมื่อเหลอื เด็กคนสดุ ท้ายของการเยย่ี มชมโรงงานในครัง้ น้ี และนนั่ ก็คือ หนนู ้อย Charlie ทเ่ี ป็นเดก็ คนเดยี วที่ไม่โดนเหตุการณ์แปลกประหลาดต่างๆ และหลงั จากน้นั Mr. Willy Wonka ก็ได้ บอกวา่ Charlie เปน็ คนชนะ และพาข้ึนไปบนลิฟต์มหัศจรรยอ์ กี ครั้ง แตค่ รงั้ นี้แตกต่างไปจากเดมิ คือ ลิฟต์ สามารถลอยขึ้นไปบนฟา้ เหนือโรงงานได้ และได้เห็นเด็กคนอื่นๆ เดนิ ออกมาจากโรงงาน ในสภาพทเ่ี ปลีย่ นไป จากเดิม และเราก็ได้รู้วา่ สุดท้ายเด็กๆเหล่านั้นเปน็ อย่างไรบ้าง ส่วน Mr. Willy Wonka, Charlie และคุณปู่ Joe ก็ได้ขีล่ ิฟต์ไปท่ีบ้านของ Charlie -บทสรปุ (resolution หรือ denouement) สาหรบั บทสรปุ เรอ่ื งน้ี ก็จบแบบสมหวัง ใน ตอนสดุ ทา้ ย Mr. Willy Wonka ได้บอกวา่ จะยกโรงงานช็อกโกแลตทง้ั หมดของเขาให้ Charlie และตอน สุดท้าย Willy Wonka ก็ได้พาครอบครัวของ Charlie ทุกคน ไมว่ า่ จะเป็น พ่อแมข่ อง Charlie, คุณปู่ Joe, คุณย่า Josephine, คณุ ตา George และคณุ ยาย Georgina ไปอยู่ด้วยกนั ในโรงงานช็อกโกแลต ทม่ี ีเตยี งและ ห้องนอนสาหรบั ทกุ คน และมีอาหารเพียงพอสาหรบั พวกเขาทกุ คน และท่ีสาคญั พวกเขาจะไม่ต้องเผชิญกบั สภาพอากาศทีโ่ หดร้ายอีกต่อไป ลาดบั การเกดิ ของเหตกุ ารณ์ในเรื่อง (sequence of actions) สาหรับวรรณกรรม เร่ือง Charlie and the Chocolate Factory ผูแ้ ต่งมีการเลา่ เร่อื งราว ทัง้ สองแบบโดย 1) แสดงเหตุการณต์ ามลาดบั เวลาที่เกิด (chronological order) คอื การเร่ิมเรอ่ื ง ตามลาดับเวลาตงั้ แตต่ ้นจนจบจากการปเู ร่ืองราวไปจนถงึ บทสรุป ตง้ั แตก่ ารเกรน่ิ นาเร่ืองราวของตวั ละครหลกั อย่าง Charlie และครอบครัวว่ามีความเป็นอยู่หรือฐานะอย่างไรไปจนถงึ สิง่ ทต่ี ัวละครต้องประสบพบเจอ จนกระทั่งถึงบทสรุกท่ตี วั ละครมีการเปลย่ี นแปลงในชวี ติ ตอนท้ายของเรื่อง 2) แบบเล่าเรอ่ื งย้อนอดีตเปน็ ระยะๆ (flashback) ทงั้ ตอนท่ีปู่ Joe เลา่ เรอ่ื งราวตา่ งๆ ในอดตี ของ Willy Wonka กับโรงงานชอ็ กโกแลตให้ Charlie ฟงั อีกทั้งยงั มี ตอนที่ Willy Wonka เล่าเรื่องราวของ Oompa Loompas ให้ทกุ คนท่ีเข้าไปใน โรงงานฟัง 1.3) เทคนิคเพมิ่ ความน่าสนใจให้กบั โครงเรอื่ ง เงอ่ื นงาหรอื ความน่าสงสยั (suspense) สาหรบั วรรณกรรมเร่ืองนี้ผู้อา่ นยังไม่เห็นจุดทีบ่ ่งบอก เงื่อนงาหรือความน่าสงสัยในเรือ่ ง ส่ิงบอกเหตุ (foreshadowing) สาหรบั สิ่งบอกเหตุผู้แตง่ ได้มีการสอดแทรกไว้ในตวั เน้ือเร่ืองก่อน หนา้ ท่จี ะเกิดเหตุการณ์น้นั เข่น การบ่งบอกลักษณะนิสยั ความชอบของตวั ละครบางตวั และกเ็ ปน็ สาเหตุให้ พวกเขาประสบพบเจอกับสิ่งนน้ั ๆ เช่น ตอนที่แนะนาเด็กที่ไดต้ ั๋วทองคาคนแรก คือ Augustus มกี ารบรรยาย วา่ เขาหลงใหลและชอบกินของหวานมากเขา้ ขน้ั ติดจนขาดมันไม่ได้ และเมื่อเข้าโรงงานส่งิ ที่ทาใหเ้ ขาประสบ เหตไุ มค่ าดคดิ กเ็ ป็นเพราะเขาหา้ มตัวเองไม่ได้เมื่อเหน็ ธารชอ็ กโกแลต อกี คนคือ Veruca เธอเป็นคนทเ่ี อาแต่

ใจตวั เองจนเสยี นสิ ยั อยากได้อะไรต้องได้ และถูกตามใจจนเคยตัว พอเข้าไปในโรงงานเธอก็อยากไดท้ ุกอย่าง มาเปน็ ของตัวเอง จนกระท่งั ถึงห้องที่มกี ระรอกและเธออยากไดม้ ากจนไมส่ นใจคาห้ามปรามของคนอน่ื จงึ ทาให้ เธอโดนกระรอกจับทิ้งลงหลุมขยะ คนที่สาม Violet ผู้คร่งั ไคลก้ ารเคีย้ วหมากฝรัง่ เธอชอบเคีย้ วมนั เปน็ ชวี ิต จิตใจ เคย้ี วตลอดเวลา และก็เป็นเหตใุ หเ้ ธอกลายเป็นบอลลูนบรเู บอร์รี่ เพราะเคยี้ วหมากฝรงั่ ของ Willy Wonka ทง้ั ทีเ่ ขาห้ามเธอแล้ววา่ สว่ นผสมมนั ยงั ไมส่ มบรู ณ์ และเดก็ คนสุดท้าย Mike เด็กที่ชอบความรุนแรง และเสพตดิ การดูทีวีช่องท่มี ีเนื้อหารนุ แรงตลอดเวลา ไมส่ นใจอยา่ งอืน่ นอกจากการนัง่ ดูทีวแี ละเลยี นแบบ พฤติกรรมในรายการ พอเขา้ ไปในโรงงานช็อกโกแลต เขาก็ช่นื ชอบห้องทมี่ ีทีวีมากและไม่สนใจคาเตือนของคน อืน่ จนทาให้เขาถูกสง่ เขา้ ไปในทีวี และนเ่ี ป็นสว่ นหนึง่ ท่ีผแู้ ต่งไดส้ อดแทรกส่ิงบอกเหตุหรือจดุ เช่ือมโยง บางอยา่ งใหผ้ ูอ้ ่านไดส้ งั เกต และอาจจะมีอีกหลายจุดท่เี ราไม่ทนั สังเกตหรือจบั จดุ ไมไ่ ด้อีกมากมาย 2. ตัวละคร (Characters) 2.1) คณุ สมบัตขิ องตัวละคร (characteristics) ตวั ละครมีคณุ ค่าหรือไม่ ในวรรณกรรมเรื่องน้ี ตัวละครท่ีมองวา่ มีคุณค่า คือ ปู่ Joe ทมี่ คี วามอบอนุ่ นา่ นบั ถอื และเปน็ ตัวละครที่สาคญั อีกหน่งึ คน และเปน็ คนคอยเล่าเรื่องราวตา่ งๆให้ Charlie ฟงั และแนะนา คอยบอก Charlie ในเรื่องบางเร่ืองทส่ี าคัญเสมอ อีกทัง้ ยังมบี างมุมท่ีตัวละครน้ีทาให้เรามีอารมณร์ ว่ มไปด้วย ท้ังยิ้ม ดีใจ และมีความหวัง ตัวละครมีลักษณะเป็นสากลหรือไม่ ในเรื่องตัวละครสว่ นมากมลี ักษณะนิสยั การคดิ การตัดสินใจ เหมอื นกบั บคุ คลในชีวติ จริง หรอื ทพ่ี บเหน็ ได้ท่วั ๆไป ไม่ใช่จากัดอยู่แค่ในวรรณกรรมเท่านั้น เช่นตวั ละคร Charlie เด็กน้อยผนู้ า่ สงสาร มีครอบครัวทย่ี ากจนขน้ แคน้ หรือเด็กท่ีเอาแต่ใจ ชอบความรนุ แรง ก็มีอยู่ทุกที่ทุก ยุคสมัย พ่อแม่ทตี่ ามใจลูกจนเสยี คนก็มีมากมาย ตัวละครมีเหตุจูงใจท่เี หมาะสมในการแสดงออกหรือไม่ และตัวละครท่ีดมู เี หตจุ งู ใจในการแสดงออก ต่างๆ กค็ ือ Willy Wonka ไม่จะเป็นเรอื่ งท่ีเขาปดิ โรงงานเพราะโกรธทีเ่ จา้ ของโรงงานชอ็ กโกแลตคนอืน่ ส่งคน มาขโมยสูตรทาขนมของเขา และสุดท้ายเขาก็ไม่ไวใ้ จใครอีกและหาคนงานที่ไมใ่ ช่มนุษย์มาทางานแทน และอกี หนึง่ ฉากทีเ่ ขาสร้างเรื่องวา่ หาผู้โชคดีเขาเย่ียมชมโรงงานของเขา แตเ่ พราะเขากาลงั หาเด็กคนสุดท้ายที่เขาจะ ยกโรงงานทงั้ หมดให้ เหตุผลเพราะเขาแกแ่ ละไม่มีญาติพีน่ ้องหรือลูกหลานท่ีไหนที่จะมาดูแลโรงงานแห่งน้ี ซ่ึง เขารักโรงงานนมี้ ากและอยากมอบให้กบั คนทร่ี ักโรงงานนี้เหมือนกัน

2.2) ลกั ษณะนสิ ัยของตัวละคร (characterizations) 2.2.1) มุมมองในด้านลักษณะนสิ ัย สาหรบั วรรณกรรมเร่ืองน้ี ตวั ละครสว่ นใหญม่ ลี ักษณะเป็น ตัวละครสมจริง (round characters) เพราะมีลักษะนิสยั พฤตกิ รรมหลากหลายด้าน ทค่ี ลา้ ยกบั บุคคลในชวี ิตจริง มกี ารเปล่ียนแปลง ทางดา้ นอารมณเ์ หมอื นมนุษย์ทวั่ ไป 2.2.2) มุมมองในดา้ นพฒั นาการ ตัวละครที่มพี ัฒนาการ (dynamic or developing characters) ในเรอื่ งแต่ละตัวละคร ต่างกม็ ีพฒั นาการที่แตกตา่ งกันไป ตัง้ แตต่ ้นจนจบอาจจะมีการเปลีย่ นไปน้อยบา้ ง มากบ้าง และมีพฤติกรรมท่ี แตกตา่ งกนั ไปในแต่ละสถานการณร์ ะหว่างท่เี รื่องราวต่างๆดาเนินอยจู่ นถงึ ตอนจบ 2.3) วธิ ีนาเสนอตัวละคร วิธีผสมผสาน (combination method) ผ้แู ตง่ มีการบรรยายด้วยวิธผี สมผสานกนั หลากหลาย รูปแบบ เพราะในบางครงั้ เนือ้ หาในเร่อื งก็เป็นการบรรยายของผู้แตง่ ทีเ่ ป็นคนเลา่ รายละเอียดต่างๆให้ผู้อ่าน เข้าใจ เช่นผู้แตง่ เลา่ รายละเอียดของ Charlie และครอบครวั ของเขา และในบางคร้งั ก็เป็นการเล่าเรื่องราวผา่ น ตัวละครใดตวั ละครหนง่ึ จากในเร่อื ง ทงั้ ปู่ Joe ท่ีเลา่ เรื่อง Mr. Willy Wonka ให้ Charlie ฟังหรอื เร่ืองขนม หวานและโรงงานชอ็ กโกแลต และตัวละคร Willy Wonka เลา่ ความเป็นมาและเรื่องราวของ Oompa Loompas หรือบางครั้งก็ใหผ้ ู้อา่ นตคี วามเรื่องราวตามเหตุการณ์ท่ีเห็นหรือสัมผัสเอง 3. ฉาก (setting) 3.1) หน้าที่ของฉาก (functions of setting) -ใช้สร้างอารมณ์และบรรยากาศ (build mood and atmosphere) มีการบรรยายถึงฉากที่ทาให้ ผู้อ่านเข้าใจความรูส้ กึ ของตวั ละคร เช่น การบรรยายถงึ ฉากความเป็นอยู่ ลกั ษณะบ้านของครอบครวั Charlie ว่าตอ้ งเจอกบั สภาพอากาศทเี่ ลวรา้ ยในช่วงฤดูหนาว ที่หนาวเหนบ็ หรอื การบรรยายใหเ้ ห็นความคบั แคบของ บ้านท่พี วกเขาอาศัยอยู่ … “The house wasn’t nearly large enough for so many people, and life was extremely uncomfortable for them all. There were only two rooms in the place altogether, and there was only one bed. The bed was given to the four old grandparents because they were so old and tired. They were so tired, they never got out of it.” “In the summertime, this wasn’t too bad, but in the winter, freezing cold draughts blew across the floor all night long, and it was awful.”

-ใช้สรา้ งความน่าสงสัย (build suspense) ผู้อ่านยงั ไม่พบฉากท่สี รา้ งความนา่ สงสัยในเรอ่ื งน้ี -ใช้เป็นส่ิงบอกเหตุ (foreshadowing) ฉากที่นา่ จะเปน็ สิ่งบอกเหตุ คือ ฉากท่ี Charlie เจอเงนิ ท่ีตก อยู่ ซงึ่ เปน็ ส่ิงท่ีทาให้ผูอ้ ่านเรมิ่ ม่ันใจว่า เขาจะต้องเอาเงนิ ไปซ้ือชอ็ กโกแลต และน่าจะทาให้เขาได้ตว๋ั ทองคาใบ สุดทา้ ยแน่ๆ เพราะทผี่ ่านมาตัวละครผดิ หวังมาตลอดและหมดหวงั แล้ว แต่อยๆู่ กลับมาพบเงินท่ีตกอยู่ จึงทาให้ มั่งใจวา่ ต้องไดต้ ว๋ั ทองคา -ใช้แสดงช่วงเวลาการเกดิ ของเร่อื ง ผอู้ า่ นยงั ไม่พบฉากที่บ่งบอกทช่ี ัดเจน -ทาให้เข้าใจลักษณะทางสังคม ฉากท่ีชว่ ยบ่งบอกลักษณะวิถชี ีวิตของตัวละคร ไมว่ า่ จะเป็นบ้าน ห้องนอน หรือความเปน็ อยกู่ ็บ่งบอกได้วา่ ตวั ละครมฐี านะทางครอบครวั เป็นอย่างไร … “There wasn’t even enough money to buy proper food for them all. The only meals they could afford were bread and margarine for breakfast, boiled potatoes and cabbage for lunch, and cabbage soup for supper. Sundays were a bit better. They all looked forward to Sundays because then, although they had exactly the same, everyone was allowed a second helping.” 3.2) ชนิดของฉาก (types of setting) สาหรับเรอื่ งนี้ผูแ้ ตง่ ใช้ฉากเป็น ฉากที่มชี ีวติ (spiritual setting) แตล่ ะฉากในเร่ืองสง่ ผลต่อตัวละคร เปน็ อยา่ งมาก เชน่ ฉากการบรรยายถึงบ้านของ Charlie กับโรงงานช็อกโกแลต แตล่ ะฉากผู้แต่งมีการบรรยาย และให้รายละเอียดเกือบจะทุกซอกทุกมมุ เพ่ือให้ผอู้ ่านได้จินตนาการตามความเป็นจรงิ ได้ 3.3) รายละเอยี ดของฉาก (elements of setting) -ลกั ษณะทางกายภาพของฉาก มีการบรรยายอย่างละเอยี ดไม่ว่าจะเป็นฉากบ้านของ Charlie จานวนห้องนอนในบ้าน เตยี งนอนของปู่ยา่ ตายายของ Charlie วา่ พวกเขาใชเ้ ตยี ง 1 เตยี ง สาหรบั ส่ีคน และ บรรยายถึงลกั ษณะบ้านว่าเป็นบา้ นไมเ้ กา่ ๆ เลก็ ๆ … “They whole of this family – the six grown-ups (count them) and little Charlie Bucket – live together in a small wooden house on the edge of a great town” “The bed was given to the four old grandparents because they were so old and tired. They were so tired, they never got out of it. Grandpa Joe and Grandma Josephine on this side, Grandpa George and Grandma Georgina on this side.” หรอื ในโรงงาน ชอ็ กโกแลตของ Willy Wonka ก็มีการบรรยายถงึ ห้องต่างๆ อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น น้าตก ธารช็อกโกแลต ทุ่งหญ้า หรอื ขนาด รูปร่างหอ้ งตา่ งๆ ในโรงงงาน -รายละเอียดท่แี สดงวิถชี ีวิตของตัวละคร การบรรยายรายละเอียดการดาเนินชวี ติ ของตัวละครต่างๆ เช่น การเดินทางไป-กลับโรงเรยี นของ Charlie การเผชญิ กบั ความหนาวในบา้ นท่ีแทบจะป้องกันความหนาว

ไมไ่ ดเ้ ลย หรือแม้กระทัง่ การบรรยายถึงตัวละครเด็ก 4คน ถึงลักษณะการเลีย้ งดู และความเป็นอย่ขู องแตล่ ะ ครอบครัว -ช่วงเวลาทเ่ี กิดหรือดาเนนิ อยู่ ไม่ได้บ่งบอกชัดเจนมากนัก แตน่ ่าจะเป็นฤดหู นาว และเหตุการณ์วนั ท่ี เดก็ ๆ เข้าไปในโรงงานช็อกโกแลตของ Willy Wonka คือ “The first day in the month of February” -บรบิ ททางสงั คมทม่ี ีผลตอ่ พฤติกรรมของตัวละคร ผอู้ า่ นยงั ไม่พบข้อมลู ในส่วนนี้ 4. วิธกี ารเล่าเรือ่ ง (Point of View) 4.1) แบง่ ตามสถานภาพของผู้เล่า สาหรับการเลา่ เร่ืองผู้แต่งมีการเล่าแบบ “the third person narration” เพราะมีการใช้สรรพนาม แทนตัวละครด้วย “he”, “She”, “them” หรือไม่ก็เรียกชอื่ ของตัวละครนน้ั ๆแทน เป็นการเล่าในมุมมองของ คนภายนอกที่มองเขา้ ไปในเร่ืองคลา้ ยผู้อ่าน 4.2) แบง่ ตามขอบเขตความรู้ของผเู้ ล่า การบรรยายของผู้แต่งใช้การเลา่ แบบผสม (combination) เพราะการใชห้ ลายวธิ ีในการเล่าเร่ืองให้ นา่ สนใจ บางคร้งั ผู้แต่งเลา่ เรื่องราวด้วยความเป็นกลาง (neutral omniscience) ไม่ได้ใส่อารมณ์ความรู้สึก หรอื ความคิดเหน็ ใดๆต่อตัวละคร แต่ก็ยงั มีอกี หลายครั้งทแ่ี ต่งโดยแทรกคาวิจารณห์ รอื ความคิดเห็นต่อตัวละคร ลงไปดว้ ย อีกทั้งยังมีการใช้การเล่าเปน็ บางเรือ่ ง (selective omniscience) เพราะผู้แต่งไมไ่ ด้บอกเร่ืองราว ทง้ั หมดพรอ้ มกันแตเ่ ลา่ รายละเอียดบางเรื่องแลว้ ให้ผอู้ า่ นคอยตดิ ตามเร่ืองราวต่อไปเรื่อยๆเอง หรอื จะเปน็ การ เลา่ ทผ่ี ู้เล่ารูร้ ายละเอียดที่จากัด (the limited narration) ซึ่งให้ตัวละครบางตัวในเรอื่ งเปน็ ผเู้ ลา่ รายละเอียด บางเรื่อง และเฉพาะเร่ืองใดเร่ืองหนึ่ง และยังมเี ล่าจากหลายมุมมอง (multiple viewpoints) ในเรอื่ งบางเร่ือง กใ็ ห้ตวั ละครหลายตวั เปน็ คนเลา่ เหตกุ ารณร์ ว่ มกนั ไม่ใชค่ นใดคนหนึ่ง 5. เทคนคิ การให้รายละเอียดและการบรรยายฉาก (Descriptive and Narration Techniques) 5.1) เทคนิคการให้รายละเอียด (descriptive technique) ในวรรณกรรม Charlie and the Chocolate Factory ผู้แต่งใหร้ ายระเอยี ดสิ่งตา่ งๆอยา่ งละเอียด ไม่วา่ จะเปน็ บุคลิก ลักษณะของตวั ละครแต่ ละตวั หรอื เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ในเร่อื ง เชน่ ลกั ษณะตวั ละคร Willy Wonka ท่ีผูแ้ ตง่ บรรยายว่า …. “He had a black top hat on his head. He wore a tail coat made of a beautiful plum-coloured velvet. His trousers were bottle green…….” และยงั มกี ารใหร้ ายละเอียดตวั ละครอ่นื ๆอีกมากมาย ท้งั ตัว

Charlie, คนในครอบครวั Charlie, ลกั ษณะของเดก็ อีก 4 คน และ Oompa Loompas หรอื การบรรยาย รายละเอียดโรงงานช็อกโกแลตให้เห็นวา่ มีลกั ษณะอย่างไร และนา่ อัศจรรยอ์ ยา่ งไร 5.2) เทคนคิ การบรรยายฉาก (narrative technique) 5.2.1) การบรรยายภาพรวม (panoramic technique) ในเรอ่ื งน้ีมหี ลายฉากทีผ่ แู้ ต่งแค่ให้ รายละเอยี ดเล็กน้อยหรือการบรรยายรวมๆ ไม่ไดเ้ ฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ เชน่ ชว่ งเวลาท่เี กิดในเร่ืองก็ไม่ไดแ้ น่ ชัดนักว่า คอื ชว่ งไหน ปีอะไร วนั ทีเ่ ท่าไหร่ แตแ่ คม่ ีการบรรยายรวมๆ ว่าอยู่ในชว่ งฤดูหนาว และใหผ้ ูอ้ า่ นไดใ้ ช้ จินตนาการเอาเอง 5.2.2) การบรรยายฉากเฉพาะ (scenic technique) และในสว่ นของการบรรยายทีเ่ ฉพาะเจาะจง กค็ ือ ฉากสว่ นมากในโรงงานช็อกโกแลตของ Willy Wonka ที่เมือ่ ถึงห้องทีม่ ีความสาคัญ ผ้แู ตง่ กจ็ ะลง รายละเอียดต่างๆของห้อง และสถานการณ์อย่างชัดเจน จนผูอ้ ่านเหน็ ภาพตามในทนั ที เชน่ ในบทที่ 15 The Chocolate Room มีการบรรยายรายละเอียดตา่ งๆของห้องนี้ … “There were green meadows on either side of the valley, and along the bottom of it there flowed a great brown river. What is more, there was a tremendous waterfall halfway along the river – a steep cliff over which the water curled and rolled in a solid sheet, and then went crashing down into a boiling churning whirlpool o froth and spray. Below the waterfall (and this was the most astonishing sight of all), a whole mass of enormous glass pipes were dangling down into the river from somewhere high up in the ceiling! They really were enormous, those pipes….” 6. บทสนทนา (Dialogue) 6.1) หน้าทีข่ องบทสนทนา 6.1.1) ทาใหผ้ ูอ้ ่านรู้จักลักษณะนิสยั ของตัวละครมากขึ้น บทสนทนาของตัวละครในเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ของแตล่ ะตวั จะชว่ ยบ่งบอกและทาให้เข้าใจลักษณะนิสัยของตัวละครเปน็ อยา่ งดี เชน่ เวลาทต่ี วั ละครปู่Joe คุยหรอื เลา่ เรื่องต่างๆให้ Charlie ฟัง ทาให้เห็นความอบอ่นุ ใจดี และรัก Charlie มาก หรอื เวลาที่ Willy Wonka พูดถึงโรงงานชอ็ กโกแลตและหอ้ งสง่ิ ประดิษฐต์ ่างๆของเขาให้คนอื่น ฟัง ช่วยบ่งบอกไดว้ ่าเขารัก ผกู พัน และหลงใหลโรงงานแห่งนม้ี าก หรือแมก้ ระทั่งบทสนทนาระหวา่ งครอบครัว ของเด็กอีก 4 คน ก็ทาให้เรารู้เลยวา่ พวกเขามนี สิ ัยใจคอ หรือถูกเล้ยี งดมู าอย่างไร

6.1.2) ทาใหเ้ หน็ การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของตัวละคร ในบางบทสนทนาก็แสดงใหเ้ ห็นถงึ อารมณ์ของตวั ละครหรือความร้สู ึก ณ ขณะที่กาลังพดู เชน่ บทสนทนาในบทที่ 5 The Golden Tickets หลงั จากทกุ คนรู้วา่ Willy Wonka ประกาศจะใหผ้ ้โู ชคดี 5 คน ทไี่ ด้ตัว๋ ทองคา (Golden Ticket) เขา้ ไปใน โรงงานของเขาได้ เปน็ บทสนทนาที่บง่ บอกไดว้ ่าตัวละครกาลงั รสู้ กึ อย่างไร มีบทสนทนาดงั นี้… “‘The man’s dotty!’ muttered Grandma Josephine. ‘He’s brilliant!’ cried Grandpa Joe. ‘He’s a magician! Just imagine what will happen now! The whole world will be searching for those Golden tickets! Everyone will be buying Wonka’s chocolate bars in the hope of finding one! He’ll sell more than ever before! Oh, how exciting it would be to find one!’ ‘And all the chocolate and sweets that you could eat for the rest of your life – free!’ said Grandpa George. ‘Just imagine that!’ ‘They’d have to deliver them in a truck!’ said Grandma Georgina. ‘It make me quite ill to think of it,’ said Grandma Josephine.” ซง่ึ เป็นบทสนทนาท่ที าใหผ้ ู้อ่านเข้าใจความร้สู ึกขณะท่ีพูดของแตล่ ะตวั ละคร วา่ มีความต่ืนเต้น และ เป็นเรอื่ งทน่ี ่าเหลือเช่อื 6.1.3) ทาให้ทราบรายละเอียดเพิม่ เติมเก่ียวกับเนอ้ื เรื่องและการดาเนนิ เร่อื ง และมบี างชว่ งบาง ตอนท่ผี ู้แต่งใช้บทสนทนาเปน็ ตวั เฉลยเรื่องราวทค่ี ้างคามาจากการบรรยายกอ่ นหน้า ซ่ึงเปน็ อกี หน่ึงเทคนิคท่ี เพิ่มความน่าสนใจใหเ้ น้ือเรือ่ ง เพราะถา้ ให้ผอู้ า่ นรู้เหตกุ ารณ์ตา่ งๆผา่ นเน้อื เรื่องท่ีบรรยายเฉยๆอาจจะนา่ เบ่ือ เกินไป แต่ถ้าเปน็ ในบทสนทนาของตวั ละครตา่ งๆทม่ี ีความหลากหลายทางน้าเสยี งหรืออารมณก์ ็จะทาให้เร่ืองมี ความตนื่ เตน้ เร้าใจ และมีอารมณร์ ่วมไปดว้ ย 6.2) ลกั ษณะบทสนทนาท่ีดี 6.2.1) เป็นธรรมชาตแิ ละมีการเลอื กสรร (natural and selective) บทสนทนาเกอื บทงั้ หมดใน เร่ืองเป็นบทสนทนาทว่ั ๆไปท่ีผอู้ ่านสามารถเข้าใจได้ และบางบางบทสนทนาก็พบได้ในชีวติ ประจาวันของเรา แต่ก็อาจจะมีบางสว่ นที่ใช้เปน็ ภาษาวรรณกรรมบา้ งแต่ก็สามารถเขา้ ใจอารมณ์ของตวั ละครได้ 6.2.2) เหมาะสมกบั ตวั ละคร (appropriate) และผูแ้ ต่งมีการเลอื กลกั ษณะบทสนทนาไดเ้ หมาะสม กบั ตวั ละคร เช่น Charlie เปน็ เดก็ ค่อนข้างขอ้ี าย แต่มีความสภุ าพ กจ็ ะมีบทสนทนาที่บอกว่าเค้าพดู น้อย แต่ก็ มีกาลเทศะ ส่วนตวั ละคร Veruca Salt ที่เป็นเด็กเอาแตใ่ จ ไมเ่ คยยอมฟงั ใคร บทสนทนาก็จะแสดงใหเ้ ห็นวา่ เธอพดู แตส่ ่งิ ตัวเองอยากไดแ้ ละต้อง โดยไม่ฟังเหตผุ ลหรอื คาพดู ของคนอ่นื เลย หรอื จะเป็นตวั ละคร Willy

Wonka ท่มี ลี ักษณะเป็นคนบุคลิกแปลกๆ การพูด บทสนทนาก็จะพูดถงึ เร่ืองราวแปลกประหลาด หรือส่งิ ท่ีคน อืน่ ไม่คอ่ ยเขา้ ใจดว้ ยเท่าไหร่นัก 7. แก่นเร่อื ง (Theme) สาหรับแกน่ เรอื่ งของวรรณกรรม เรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ผู้อ่านวเิ คราะห์วา่ ผแู้ ตง่ มี จดุ ประสงค์ใหเ้ ด็กท่ีได้อา่ นวรรณกรรมเร่ืองนี้ เอาแบบอย่างตามตัวละครหลกั ของเร่อื ง อยา่ ง Charlie ท่ีถงึ เขา จะเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ยากจน ไม่ได้มโี อกาสในชีวิตเท่าเทียมกับเด็กคนอน่ื ๆในเร่ืองด้วยซา้ แตเ่ พราะ เขาเปน็ เด็กดี ประพฤติตัวดี เช่อื ฟงั คาเตือนหรือคาสอนของผู้ใหญ่จนทาใหใ้ นตอนสดุ ทา้ ยเขากส็ มหวังในสงิ่ ที่ไม่ นา่ เป็นไปได้กบั ชีวติ เขาดว้ ยซ้า เป็นการแสดงให้เห็นลักษณะของเดก็ ท่ีตา่ งกัน อย่างเชน่ เด็ก 4 คน ทแ่ี ต่ละคน มาจากครอบครัวทีฐ่ านะดี มที ุกสิง่ ทุกอย่างทตี่ ้องการ ไม่ต้องอดมื้อกนิ ม้อื หรือทนอากาศหนาว เมือ่ เทียบกับ Charlie แลว้ พวกเขาเป็นเด็กทไ่ี ม่ต้องพยายามอะไรมากมาย เพยี งแค่พ่อแม่มเี งินให้ แต่สิง่ หนงึ่ ตอ่ ให้ฐานะดี แคไ่ หนกไ็ ม่สามารถทาให้พวกเขามีสง่ิ น้ันได้ คือ ลักษณะนสิ ัย ความคดิ และการกระทาทเ่ี หมาะสม ซ่ึงส่ิงเหล่านี้ ไมไ่ ด้มไี ดเ้ พราะฐานะทางครอบครวั แตข่ ึน้ อยู่กับการเลี้ยงดูของพอ่ แม่และครอบครัวเปน็ สิ่งสาคญั เพราะฉะนน้ั แก่นเรือ่ งของวรรณกรรมเรื่องนอ้ี าจจะทาใหค้ นท่ีตอ้ งตระหนกั ถงึ สิง่ น้ีไมใ่ ชแ่ คเ่ ดก็ แตร่ วมถึงคนเป็นพอ่ แมด่ ว้ ย และทาให้เด็กเห็นวา่ ถ้าพวกเขาทาตวั เป็นเด็กดี เชื่อฟงั ผู้ใหญ่ สักวันเขาจะไดใ้ นสงิ่ พวกเขาสมควรจะได้ แตแ่ ก่น เรือ่ งเก่ยี วกับการปลกู ฝังใหเ้ ด็กๆ ทาตัวดี และเป็นเด็กดีถงึ จะได้ในสิ่งทีต่ ้องการไม่ได้มีแคใ่ นเร่ืองของ Charlie and the Chocolate Factory ในวรรณกรรมเด็กอกี หลายเร่ืองก็มกี ารแทรกข้อคิดนีไ้ วเ้ หมอื นกัน 8. แบบแผนของภาษาและน้าเสยี ง (Style and Tone) 8.1) แบบแผนของภาษา (style) 8.1.1) ถ้อยคาท่ใี ช้ (diction) -ใชต้ ามความหมายหน้าคา (denotation) เนอื้ เรื่องส่วนใหญ่มกี ารใช้คาทม่ี ีความหมายตรง ตวั ไมไ่ ด้สลบั ซับซ้อนเม่ือผู้อา่ นอ่านแลว้ สามารถเข้าใจไดว้ า่ ความหมายที่ผู้แต่งต้องการจะสอื่ คอื อะไร เช่น คา ว่า “pool” ในเรือ่ งเราสามารถเข้าใจได้ว่าผ้แู ตง่ ต้องการส่อื ว่าตัวละครน้ัน นา่ สงสาร ยากจน หรอื ลาบาก และ ยังมอี ีกคาท่ีเจอได้บอ่ ยในเรื่อง คอื “enormous” เปน็ คาท่ีจะสือ่ ถึงความย่งิ ใหญ่ มหมึ า หรอื มากกว่าปกติ ท่วั ไป และยังมคี าอีกจานวนมากที่ผ้แู ต่งนามาใชบ้ รรยายใหเ้ รอ่ื งน่าสนใจ -ใส่ความหมายพิเศษลงไปในคา (connotation) ในส่วนของการใช้คาธรรมดาทั่วไป แตแ่ อบ แฝงความหมายพเิ ศษอยู่ในตวั โดยที่ผอู้ า่ นต้องตคี วามลกึ ซ้ึงมากกว่าอา่ นคาที่มีความหมายตรงตวั เชน่ คาว่า “cabbage” ที่ถ้ามองเผนิ ๆ ก็เป็นแคช่ อ่ื ผกั ชนดิ หนง่ึ ไม่ได้พิเศษอะไร แต่ถา้ มองหรือคน้ หาความหมายแฝงอยู่

ลกึ ลงไป ผู้แต่งอาจจะสื่อใหเ้ ห็นว่า กะหลา่ ปลี คอื ของทมี่ ีราคาถูก แถมรสชาติก็แทบจะธรรมดาไม่พิเศษ แต่ ครอบครวั ของ Charlie กลบั ต้องกนิ “cabbage soup” แทบทุกม้ือ น่นั แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความยากจน และไม่ สามารถซื้ออาหารท่มี ีราคาแพงกว่าน้ไี ด้ 8.1.2) ภาพในจินตนาการ (imagine) -ใชว้ ธิ อี ุปมาน (simile) ในวรรณกรรมเรื่องน้ีมกี ารใช้วิธเี ปรยี บเทียบอยา่ งตรงไปตรงมาอยู่ หลายจุด เพื่อใหผ้ ู้อา่ นจนิ ตนาการได้เห็นภาพอย่างชดั เจน เชน่ ในตอนท่ีผู้แต่งบรรยายลักษณะของ ปูย่ า่ ตายา ของ Charlie ในบทที่ 2 วา่ ….. “They were as shriveled as prunes, and as bony as skeletons…..” ซึ่งเมื่ออ่านขอ้ ความนที้ าให้ผู้อ่านเห็นภาพได้ทนั ทีวา่ พวกเขาผอมมาก แทบจะเหมือนโครงกระดูก และอีกหนึง่ จดุ ท่มี ีการใช้ simile ในการบรรยาย ในบทที่ 21 ฉากที่ Violet เคยี้ วหมากฝร่งั แล้วจมูกเธอเรมิ่ เปลย่ี นเปน็ สนี า้ เงิน …. ”Your nose is turning blue as a blueberry!” ถ้าผ้แู ตง่ บรรยายแค่ turning blue อาจจะทาให้ ผอู้ า่ นเข้าใจไดแ้ ต่อาจจะไมร่ วู้ า่ สนี ้าเงินแบบไหน แต่เมอื่ บอกว่า as a blueberry ทาใหเ้ ห็นภาพในทันที หรือ ในตอนเหตุการณ์ต่อเนื่องกันที่ Violet กลายเป็นบอลลูน กม็ ีการใช้ simile ในการทาให้เห็นภาพ โดยคาวา่ … “You’re blowing up like a balloon!” -ใชว้ ิธีอปุ มาอุปไมย (metaphor) ผู้แต่งมีการการบรรยายให้เหน็ ภาพโดยใช้ metaphor เช่น ในบทท่ี 5 ที่คุณปู่ Joe พยายามบรรยายความฉลาดของ Mr. Willy Wonka แต่เขาฉลาดจนหาคามาอธิบายไม่ หมด เลยเปรยี บ Willy Wonka วา่ ฉลาดหลักแหลม ช่างคิด ชา่ งทา “He’s a magician!” ท้ังๆท่จี รงิ แลว้ Willy Wonka ไม่ได้เป็นนักมายากลจริงๆ เพยี งแตเ่ ขามีความฉลาดและมีความคดิ สรา้ งสรรค์ -สญั ลกั ษณ์ (symbol) สาหรบั การใชส้ ญั ลกั ษณใ์ นวรรณกรรมเรื่องน้ี ท่ผี ูอ้ า่ นได้พบ คือการใช้ คาว่า “Golden” ท่ีมาจากบทที่ 5 The Golden Tickets ถา้ มองผิวเผนิ อาจจะไม่ร้วู า่ มนั คอื สญั ลักษณ์ แต่ บางความเชอื่ ทเ่ี ชื่อวา่ ทองคา หรอื สีทองจากสง่ิ ของ หรอื อื่นๆ เปน็ สญั ลักษณข์ องความโชคดี มีลาภ หรือของ ทม่ี ีคา่ มรี าคา และในเรื่องน้ผี ูแ้ ตง่ กไ็ ด้นาสญั ลักษณน์ ้ีมาใช้ โดยใหต้ ๋ัว 5 ใบ ตอ้ งเป็นสีทอง และเป็นสิ่งสาคญั ใน การเขา้ ไปในโรงงานชอ็ กโกแลตของ Willy Wonka 8.1.3) ลักษณะประโยค (syntax) ในการบรรยายเรื่องราวใหน้ า่ สนใจและไม่น่าเบอ่ื การใชร้ ปู แบบประโยคทห่ี ลากหลายอาจจะ เปน็ อีกวิธหี นง่ึ ที่ผู้แตง่ นิยมใช้ และในวรรณกรรมเร่อื งเร่ืองน้ีผ้อู ่านได้พบรูปประโยคทีน่ ่าสนใจ ได้แก่ การใชค้ า ขยายในประโยคมากกว่าหน่ึงคาหรือหนึ่งชนดิ เช่น ในบทที่ 1 มีการนากริ ิยาวิเศษณ์ (Adverb) มาขยายให้ ความหมายมีความชัดเจนมากขน้ึ และผอู้ ่านเขา้ ใจอยา่ งลึกซ้ึง ประโยคดงั นี้ … “The house wasn’t nearly large enough for so many people, and life was extremely uncomfortable for them all ” เนน้ ให้เหน็ ถงึ ความแออดั คบั แคบ ของบ้านที่ครอบครัว Charlie อาศัยอยู่

และยงั มีการสรา้ งประโยค โดยการใส่คาคุณศัพท์ (Adjective) หลายๆ คา เพ่ือเนน้ ย้าสิง่ ที่ผู้ แตง่ ต้องการให้ผู้อา่ นรบั รู้ เข้าใจ และมีอารมณร์ ว่ มไปกับวรรณกรรม มากกวา่ การเขียนประโยคธรรมดาท่วั ไป เช่น ในบทที่ 2 เมื่อปู่ Joe เล่าเร่อื งของ Willy Wonka ให้ Charlie ฟงั ว่าเขาฉลาดปราดเปรอ่ื งขนาดไหน …. “Mr. Willy Wonka is the most amazing, the most fantastic, the most extraordinary chocolate maker the world has ever seen! I thought everybody knew that! ” อกี หนึ่งรูปแบบทผ่ี แู้ ตง่ ใช้บอ่ ย ก็คือ การใช้ประโยคท่ีมีการเปรยี บเทยี บให้เห็นภาพ ดงั ในบท ท่ี 10 ฉากทีบ่ รรยายให้ผ้อู ่านรับรู้ถึงความโหดรา้ ยของสภาพอากาศ และความหนาวเยน็ ท่ี Charlie ตอ้ งเผชญิ … “After the snow, there came freezing gale that blew for days and days without stopping. And oh, how bitter cold it was! Everything that Charlie touched seemed to be made of ice, and each time he stepped outside the door, the wind was like a knife on his cheek.” 8.2) นา้ เสยี ง (tone) 8.2.1) น้าเสยี งต่ากวา่ จริง (understatement) การที่ผแู้ ตง่ บรรยายใหต้ วั ละครแสดงออกหรือพดู ดว้ ยอารมณ์ความรูส้ กึ ทต่ี รงข้ามกับความเป็นจริงหรอื ขดั กับสถานการณ์ท่ีกาลงั เกดิ ขนึ้ เชน่ ในบทที่ 17 ตอนที่ Augustus Gloop โดนทอ่ ส่งชอ็ กโกแลตดูดเข้าไป โดยทคี่ วามเป็นจริงแล้วเปน็ เรื่องท่ีนา่ ตกใจและไมร่ วู้ ่า Augustus จะเป็นอย่างไรบา้ ง แต่ Willy Wonka กลบั พดู กับพอ่ แม่ Augustus ด้วยน้าเสยี งธรรมดา เหมอื น เป็นเรอ่ื งปกติ …. “Keep calm, my dear lady, keep calm. There is no danger! No danger whatsoever! Augustus has gone on a little journey, that’s all. A most interesting little journey. But he’ll come out of it just fine, you wait and see.” และอีกชว่ งหนึ่งของบทสนทนาทว่ี ่า Augustus จะไม่กลายเปน็ มาชเมลโลว เพราะทอ่ ไม่ได้สง่ ไปหอ้ งทามาชเมลโลว แตจ่ ะสง่ ไปห้องอ่ืนแทนซึ่งไม่ เร่อื งทีท่ าให้สบายใจขนึ้ เลย แต่ Willy Wonka กลบั พูดดว้ ยน้าเสยี งท่ัวๆไป … “Because that pipe doesn’t go anywhere near it! That pipe – the one Augustus went up – happens to lead directly to the room where I make a most delicious kind of strawberry-flavoured chocolate- coated fudge…” 8.2.2) น้าเสยี งเกินจริง (hyperbole) การใช้น้าเสียงเกินจริง จากการตั้งใจของผู้พดู เพื่อให้ เรื่องราวหรือเหตุการณท์ ี่กาลังเกิดขน้ึ ดูมอี ะไรกวา่ ความจรงิ เชน่ บทที่ 17 ในตอนท่ี Willy Wonka บอกทาง ใหก้ บั Oompa Loompas กบั พอ่ แมข่ อง Augustus เพ่ือจะไปตามหาเขา แต่Willy Wonka มีการพูดเกินจรงิ ในทานองแกล้ง หรือเลน่ ตลก จนทาให้แมข่ อง Augustus โกรธและโวยวายอีกครง้ั … “You’ll have to hurry! If you leave him in the chocolate-mixing barrel too long, he’s liable to get poured

out into the fudge boiler, and that really would be a disaster, wouldn’t it? My fudge would become quite uneatable!” 8.2.3) น้าเสียงเป็นกลาง (middle tone) เนอื้ หาส่วนใหญ่ในเรือ่ งมกี ารบรรยายตามความเปน็ จริง และเปน็ ไปตามสถานการณ์ ไม่ไดพ้ ูดน้อยไปหรือเกินจริงไป เชน่ การบรรยายลักษณะ หรือความเปน็ มา ต่างๆของเร่ืองหรอื ตัวละคร 8.2.4) นา้ เสยี งเยาะหยัน (irony) ผู้อา่ นยังไม่พบเน้ือหาในสว่ นนี้