สมรรถนะหลัก 01021 ปฏบิ ตั งิ านข้ันต้นเก่ยี วกบั การบันทึกบัญชีเจ้าหน้แี ละการจา่ ยเงินตรวจสอบวันครบกาหนดท่ตี ้องชาระเงินให้ถูกต้อง ในปัจจุบนั เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มามีบทบาทในชีวิตประจาวันมากขึน้ การติดต่อสื่อสารจึงทาไดง้ ่ายและมีหลายวธิ ี ดงั นั้นการสั่งซื้อสินค้าจึงเป็นไปอยา่ งสะดวกรวดเร็ว สาหรบั กิจการขนาดเล็กหรอื กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว การสง่ั ซือ้ สินคา้ จะไม่ยุ่งยาก เพราะสว่ นใหญเ่ จ้าของกจิ การจะเป็นผู้ดาเนินการเอง ไมม่ ีขนั้ ตอนยงุ่ ยากเพราะสามารถตัดสินใจไดด้ ้วยตนเอง ช่องทางในการสงั่ ซื้อสินค้ามหี ลายชอ่ งทาง เช่น 1. สงั่ ซื้อโดยตรงกับผปู้ ระกอบการหือผขู้ าย 2. สง่ั ซอื้ ทางโทรศพั ท์ 3. สั่งซอื้ ทางโทรสาร 4. สง่ั ซือ้ ทางจดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 5. สง่ั ซ้อื ทาง Facebook 6. สั่งซอ้ื ทางเวบ็ ไซต์เงื่อนไขเก่ยี วกับการให้เครดติ และส่วนลดเงนิ สด เงื่อนไขเก่ียวกับการให้เครดติ และส่วนลดเงนิ สด ( Credit terms and cash discounts ) คอื ข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อสนิ ค้าและผขู้ ายสนิ คา้ เกยี่ วกับเงือ่ นไขการชาระเงินหรอื ระยะเวลาในการให้เครดิต รวมทง้ั ส่วนลดเงินสดเพอ่ื ให้ผ้ซู ื้อสินค้าและผขู้ ายสนิ ค้าไดร้ ับความพึงพอใจและประโยชน์สงู สุด 1. เงอื่ นไขการชาระเงนิ คอื เงื่อนไขทกี่ าหนดระยะเวลาในการชาระหนี้ พรอ้ มท้ังมีส่วนลดและไมม่ สี ว่ นลด เชน่ - เงื่อนไข N/30 ใหผ้ ้ซู ้อื สนิ ค้าชาระหนีใ้ ห้ผ้ขู ายสินค้าภายใน 30 วนั นบั จากวันที่ปรากฏในใบกากับสนิ ค้า/ใบกากบั ภาษี - เงื่อนไข N/60 ให้ผูซ้ ้ือสินค้าชาระหน้ีใหผ้ ูข้ ายสนิ ค้าภายใน 60 วนั นับจากวันทป่ี รากฏในใบกากบั สินค้า/ใบกากบั ภาษี - เงือ่ นไข 2/10,N/30 ให้ผ้ซู ื้อสนิ ค้าชาระหน้ีใหผ้ ขู้ ายสินค้าภายใน 30 วนั นับจากวนั ที่ปรากฏในใบกากบั สนิ คา้ /ใบกากบั ภาษี แต่หากชาระหนีภ้ ายใน 10 วันนับจากวนั เดียวกนั จะใหส้ ่วนลด 2% - เงอ่ื นไข N/EOM ให้ผ้ซู อ้ื สินคา้ ชาระหน้ีใหผ้ ขู้ ายสินคา้ ภายในสน้ิ เดอื นของเดือนท่ีซ้ือสินค้า - เงื่อนไข 2/10 EOM ใหผ้ ูซ้ ื้อสนิ ค้าชาระหน้ีใหผ้ ขู้ ายสนิ ค้าภายในส้ินเดือนของเดือนถัดไป แตห่ ากชาระหนี้ภายในวันท่ี 10 ของเดอื นถัดไป จะให้ส่วนลด 2%
ตัวอย่างเช่น เมอ่ื วันท่ี 24 มีนาคม 2560 ซอ้ื สินคา้ จากร้านรุ่งฟา้ ราคา 10,000 บาท ได้รบั สว่ นลด 5% เงือ่ นไข 3/10,n/45 ต่อมาเมอ่ื วันท่ี 4 เมษายน 2560 ได้จา่ ยเงนิ สดชาระหนี้ทง้ั หมด - ชว่ งเวลาท่ไี ดร้ ับส่วนลดคือ วนั ที่ 25 มนี าคม – 3 เมษายน 2560 แต่กจิ การชาระหน้ีในวนั ที่ 4 เมษายน 2560 ซงึ่ เกนิ กาหนดเวลาการได้ส่วนลด และกิจการ จะต้องจ่ายชาระหน้เี ปน็ จานวน 9,500 บาท ทาใบสาคญั จา่ ยและจดั ทาชดุ เอกสารประกอบการจ่ายเงินใหถ้ ูกต้องความหมายของสินคา้ สินคา้ ( Goods ) หรือผลติ ภัณฑ์ ( Product ) หมายถงึ กลมุ่ ของสิ่งท่ีมตี วั ตน จบั ต้องได้หรือสมั ผสั ได้ เคลื่อนย้ายได้ สามารถนาเอาไปเป็นกรรมสิทธไิ์ ด้ ในอดีตจะใชก้ ารแลกเปล่ียนกนั ( Barter ) แตป่ ัจจบุ นั เงินตราแลกเปล่ยี นกัน สินค้าหรอื ผลติ ภัณฑ์ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บรโิ ภคได้ โดยมีวัตถปุ ระสงคใ์ นการหากาไร หรอื อาจกล่าวไดว้ ่าสินคา้ คือสง่ิ ของท่ีกจิ การจาหน่ายนนั้ เอง เช่น เครอื่ งสาอาง เสือ้ ผา้ รองเท้า รถยนต์ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เปน็ ตน้ประเภทของสินค้า สินค้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคอื 1. สนิ คา้ ที่มลี ักษณะไม่ถาวร คือ ใช้งานได้ไม่นานหรือใช้แล้วหมดไป ได้แก่ สินคา้ อปุ โภคบรโิ ภค เช่น นา้ มันพืช ผงซกั ฟอก สบู่ ยาสฟี นั เครื่องสาอาง เปน็ ต้น หรอื วัสดุสานักงาน เชน่ ดนิ สอ ปากกา น้ายาลบคาผดิ ลวดเย็บกระดาษ กระดาษถา่ ยเอกสาร เป็นต้น 2. สินค้าทม่ี ีลักษณะถาวร คือ ใชแ้ ล้วไม่หมดไป แต่จะเส่ือมสภาพลงเรื่อย ๆ แล้เม่ือถงึ ระยะเวลาหนึง่ ปกติเกินกวา่ 1 ปี กจ็ ะหมดอายุการใช้งาน ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครอื่ งปรับอากาศ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ กลอ้ งถ่ายรปู เครอื่ งพมิ พ์ เครอื่ งถ่ายเอกสาร เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ข้ันตอนในการจัดซอื้ สินคา้ในการดาเนนิ ธุรกิจของกจิ การจาหน่ายสินค้า จาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องมีสินค้าไว้ใครอบครองอย่างเพียงพอไม่น้อยเกินไปหรือมากเกินไป หากมีสินค้าน้อยเกินไปอาจทาให้สินคา้ ขาดมอื ไมม่ หี รอื ไมพ่ อจาหนา่ ย อาจมผี ลกระทบต่อกิจการ เชน่ อาจเสียส่วนแบ่งในตลาด หรือขาดความน่าเช่ือถือ ในทางตรงกันข้าม หากมีสินค้าไว้มากเกินไป นอกจากเงินทุนจะจมในสินค้าแล้ว สินค้าอาจล้าสมัย และอาจทาให้มีค่าใช้จ่ายสูงเกินความจาเป็น ซ่ึงจะส่งผลต่อราคาสินค้าต่อหน่วยให้ มีราคาสูงตามดังนนั้ ผบู้ รหิ ารจะตอ้ งมคี วามรู้และประสบการณ์ทางด้านบริหารจัดการท่ีจะทาให้มีสินค้าในปริมาณที่เหมาะสมเพียงพอต่อการจาหน่าย การจัดซื้อและการบริหารจัดการเกยี่ วกับสนิ คา้ คงคลงั จงึ เป็นงานที่สาคญั อย่างหนงึ่ ในการประกอบธรุ กจิ ขน้ั ตอนในการซื้อสินค้า ( Procedure in purchasing ) มดี ังน้ีขัน้ ที่ 1 หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบหรอื ดูแลลกู ค้า เชน่ คลังสินคา้ จัดทาใบขอซ้อื สง่ ให้ฝ่ายจดั ซือ้ข้ันท่ี 2 ฝ่ายจัดซื้อพิจารณา และขออนุมัติผู้บริหาร ถ้าได้รับอนุมัติ จะจัดทาใบส่ังซื้อสินค้า ส่งให้ผู้ขาย ถ้าไม่ได้รับอนุมัติ ส่งเ ร่ืองคืนหน่วยงานที่ขอซ้ือในขั้นตอนที่ 1ข้ันท่ี 3 เม่ือผู้ขายได้รับใบส่ังซื้อสินค้า หากซ้ือเป็นเงินสดจะจัดเตรียมสินค้าส่งให้ผู้ส่ังซื้อพร้อมใบกากับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน หากซ้ื อเป็นเงินเชื่อ จะส่งเรื่องให้ฝ่ายเครดติ พจิ ารณา หากไดร้ ับอนุมัตกิ จ็ ะจดั เตรียมสินคา้ และส่งใหผ้ ู้ส่ังซือ้ พร้อมใบกากบั ภาษี/ใบกากับสินค้า/ใบส่งของ หากไม่ไดร้ ับอนุมัตจิ ะแจง้ ใหผ้ ซู้ ื้อทราบขนั้ ท่ี 4 เมื่อผู้ส่งั ซือ้ ไดร้ ับสินคา้ จะต้องมกี ารตรวจสอบ ปริมาณ คณุ ภาพ และคุณลักษณะของสินค้าว่าถูกต้องตรงกับท่ีต้องการหรือไม่ และจัดทาใบรับสินค้าเพอื่ บันทกึ รายละเอียดของสินคา้
ระบุแนวทางควบคุมภายในเกีย่ วกับเจ้าหน้ี การจ่ายเงินและเบิกเงนิ จากธนาคารให้ถูกต้อง ระบบใบสาคัญ (Voucher System) เปน็ ระบบบัญชีท่ีจดั ทาข้ึนมาเพื่อควบคุมการจ่ายเงินของกิจการให้มีความรัดกุมมากขึ้น เพราะในระบบใบสาคัญการจ่ายเงินทุกรายการจะต้องจัดทาใบสาคัญ มีการตรวจสอบเอกสารและได้รับอนุมัติก่อน จึงจะจ่ายได้ การจ่ายเงินทุกคร้ังจะจ่ายเป็นเช็ค เพ่ือลดการผิดพลาดที่จ่ายเป็นเงินสดและสะดวกในการปฏบิ ตั ิงานมากข้ึน การจัดการระบบบัญชีเจ้าหนี้หรือระบบซื้อเป็นเร่ืองสาคัญ ถ้ามีการจัดการเอกสารท่ีดีจะเกิดความคล่องตัวในการ ดาเนินธุรกิจอีกท้ังยังช่วยให้กิจการสามารถตรวจสอบและควบคมุ ความเปน็ ไปในกิจการได้ จะค้นหาภายหลังกส็ ะดวก ซ่ึงการวางระบบบญั ชีเกีย่ วกบั การจดั ซอื้ มีขอบเขตดงั น้ี 1) การซอ้ื สนิ ค้าสาเร็จรปู พสั ดุการผลติ เครอื่ งมือเครอื่ งใช้ จะตอ้ งไดร้ บั การอนุมตั ิและเป็นไปตามระเบียบของการจัดซ้ือ 2) การับของมีการตรวจสอบ ปริมาณและคณุ ภาพ ตรงกบั การสั่งซ้ือ 3) การจ่ายเงนิ ตอ้ งมน่ั ใจวา่ เปน็ สินค้าตามวิธีการและระเบยี บของการจัดซ้ือ 4) ของท่ไี ดร้ บั มาแลว้ มีระบบการควบคมุ ที่เหมาะสม
บนั ทกึ รายการเกย่ี วกบั เจา้ หนี้และการจา่ ยเงนิ ในสมดุ รายวันให้ถกู ต้องการบนั ทึกบญั ชีสินคา้ แบบตอ่ เน่ือง การบนั ทึกบญั ชีสนิ ค้าแบบส้นิ งวดก.ย. 1 สนิ ค้า 30,000 ก.ย. 1 ซื้อ 30,000 เจา้ หนีก้ ารคา้ 30,000 เจา้ หนก้ี ารคา้ 30,000ซื้อสินคา้ เป็นเงนิ เช่ือ 500 ซ้อื สนิ คา้ เปน็ เงนิ เช่ือ 5001 สนิ คา้ 500 3,000 1 ค่าขนส่งเขา้ 500 3,000 เงนิ สด 26,730 เงนิ สด 26,730 270 270จ่ายค่าขนส่งในการซื้อสินคา้ จ่ายค่าขนส่งในการซื้อสินคา้3 เจ้าหนกี้ ารค้า 3,000 3 เจ้าหน้ีการค้า 3,000 สินค้า สง่ คนื และส่วนลดส่งคนื สนิ ค้าทชี่ ารดุ สง่ คนื สินคา้ ท่ีชารดุ11 เจา้ หนี้การคา้ 27,000 11 เจ้าหนก้ี ารคา้ 27,000เงินสด เงนิ สดสินค้า ส่วนลดรับจา่ ยชาระหนค้ี ่าสินคา้ และได้ส่วนลดรบั จ่ายชาระหนค้ี ่าสินคา้ และได้ส่วนลดรบั
ผ่านรายการเกย่ี วกบั เจ้าหน้ีและการจ่ายเงนิ ไปยงั บัญชีแยกประเภทให้ถูกตอ้ งสมุดบญั ชแี ยกประเภท (Ledger) สมุดบญั ชแี ยกประเภทเปน็ สมดุ บญั ชีขั้นปลายทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดข้ึนโดยจาแนกออกใหเ้ ปน็ หมวดหมู่ เพื่อสะดวกในการท่จี ะนาข้อมลู ไปใช้ในการสรปุ ผลการดาเนินงานและฐานะทางการเงนิ ของกิจการ ซึง่ สมดุ บัญชีแยกประเภทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คอื1. สมดุ บัญชีแยกประเภททัว่ ไป (General Ledger) เปน็ สมดุ บัญชแี ยกประเภทหลักท่กี ิจการจะต้องจัดทา โดยสมุดบญั ชีแยกประเภททว่ั ไปนจ้ี ะประกอบไปดว้ ยบญั ชีต่าง ๆ เปน็ จานวนมาก เช่น บญั ชีเงินสด บญั ชีลกู หน้ี บัญชเี จา้ หน้ี บญั ชรี ายได้ บัญชคี า่ ใชจ้ า่ ย เป็นต้น2. สมดุ บัญชแี ยกประเภทยอ่ ย (Subsidiary Ledger) เปน็ สมุดบญั ชีแยกประเภทย่อยที่กจิ การจะจดั ทาหรือไม่ก็ได้ แต่ถา้ จัดทาก็จะชว่ ยใหท้ ราบขอ้ มลู ได้ละเอียดมากขน้ึ ซ่ึงสมดุ บญั ชีแยกประเภทยอ่ ยจะประกอบด้วย- สมดุ บญั ชีแยกประเภทลูกหน้ี (Accounts Receivable Ledger)เป็นสมุดบญั ชีแยกประเภทย่อยของลูกหนี้ โดยแยกลกู หนข้ี องกิจการออกเปน็ รายตวั วา่ แต่ละรายมีรายละเอยี ดอย่างไร จานวนเงนิ เท่าไร เชน่ ลกู หนี้-นาย ก ลกู หนี้-นางสาว ข เป็นต้น ซึ่งตา่ งกับสมดุ บัญชีแยกประเภททว่ั ไป ในสมดุ บญั ชีแยกประเภททว่ั ไปจะมีแต่บัญชีลกู หนี้รวมเทา่ นน้ั ไม่มีบัญชีลกู หนีร้ ายตัว- สมุดบัญชีแยกประเภทเจา้ หนี้ (Accounts Payable Ledger) เป็นสมุดบัญชแี ยกประเภทย่อยของเจ้าหนี้ โดยแยกเจา้ หนี้ของกิจการออกเป็นรายตวั ว่าแตล่ ะรายมีรายละเอยี ดอยา่ งไร จานวนเงินเทา่ ไร เชน่ เจา้ หนี้-นาย เอ เจ้าหน้ี-นางสาว บี เปน็ ตน้ ซง่ึ ตา่ งกับสมุดบัญชแี ยกประเภทท่วั ไป ในสมุดบญั ชแี ยกประเภททว่ั ไปจะมีแต่บัญชีเจ้าหนร้ี วมเท่าน้นั ไม่มีบัญชีเจา้ หน้ีรายตัว เชน่ เดยี วกนั กบั บญั ชแี ยกประเภทลูกหนี้
สมดุ บญั ชแี ยกประเภท (Ledger) สมดุ บญั ชแี ยกประเภทเป็นสมดุ บัญชีข้ันปลายทใ่ี ช้บนั ทึกรายการค้าตา่ ง ๆ ทเี่ กิดขนึ้ โดยจาแนกออกใหเ้ ป็นหมวดหมู่ เพือ่ สะดวกในการท่จี ะนาข้อมูลไปใช้ในการสรปุ ผลการดาเนนิ งานและฐานะทางการเงนิ ของกจิ การ ซงึ่ สมุดบัญชแี ยกประเภทสามารถแบง่ ออกได้เปน็ 2 ชนิด คอื3. สมุดบัญชีแยกประเภททัว่ ไป (General Ledger) เปน็ สมดุ บัญชีแยกประเภทหลกั ที่กจิ การจะต้องจัดทา โดยสมดุ บญั ชีแยกประเภทท่ัวไปนี้จะประกอบไปด้วยบญั ชีตา่ ง ๆ เปน็ จานวนมาก เช่น บญั ชเี งินสด บัญชลี กู หนี้ บญั ชเี จา้ หน้ี บญั ชรี ายได้ บัญชีคา่ ใช้จ่าย เป็นต้น4. สมุดบัญชีแยกประเภทยอ่ ย (Subsidiary Ledger) เปน็ สมดุ บัญชีแยกประเภทย่อยทก่ี จิ การจะจดั ทาหรือไม่กไ็ ด้ แต่ถา้ จัดทากจ็ ะชว่ ยใหท้ ราบข้อมูลไดล้ ะเอยี ดมากขน้ึ ซง่ึ สมดุ บญั ชแี ยกประเภทย่อยจะประกอบด้วย- สมุดบญั ชแี ยกประเภทลูกหน้ี (Accounts Receivable Ledger)เปน็ สมดุ บญั ชีแยกประเภทย่อยของลูกหน้ี โดยแยกลกู หนขี้ องกิจการออกเปน็ รายตวั ว่าแตล่ ะรายมรี ายละเอียดอย่างไร จานวนเงินเท่าไร เชน่ ลกู หนี้-นาย ก ลูกหนี้-นางสาว ข เป็นตน้ ซงึ่ ต่างกับสมดุ บัญชแี ยกประเภททว่ั ไป ในสมุดบัญชแี ยกประเภททวั่ ไปจะมีแต่บญั ชีลกู หนีร้ วมเท่านนั้ ไม่มีบัญชลี กู หนรี้ ายตัว- สมุดบัญชีแยกประเภทเจา้ หนี้ (Accounts Payable Ledger) เป็นสมดุ บญั ชีแยกประเภทย่อยของเจ้าหนี้ โดยแยกเจา้ หนข้ี องกิจการออกเป็นรายตวั วา่ แตล่ ะรายมีรายละเอยี ดอย่างไร จานวนเงินเท่าไร เชน่ เจ้าหน้ี-นาย เอ เจ้าหนี้-นางสาว บี เป็นตน้ ซึ่งตา่ งกับสมดุ บัญชแี ยกประเภทท่ัวไป ในสมุดบญั ชแี ยกประเภทท่ัวไปจะมีแต่บัญชีเจ้าหนร้ี วมเท่าน้นั ไม่มีบัญชีเจา้ หนรี้ ายตวั เช่นเดยี วกนั กบั บญั ชแี ยกประเภทลูกหน้ี
ตรวจสอบบัญชีคมุ ยอดและบัญชีย่อยเจา้ หน้ใี หต้ รงกนับญั ชีคุมยอด (controlling Account) ในกรณีทีก่ จิ การใช้สมุดบัญชีแยกประเภทย่อยลูกหน้ีและเจ้าหน้ี เพอ่ื แสดงรายละเอียดของบัญชลี ูกหนีแ้ ละเจ้าหนีแ้ ตล่ ะรายนนั้ เราจะเรียกบญั ชีลูกหน้แี ละบัญชีเจ้าหนใ้ี นสมดุ บญั ชแี ยกประเภททัว่ ไปนน้ั วา่ “บัญชคี มุ ยอด” เนื่องจากวา่ จานวนเงินของลกู หนรี้ ายตัวเมือ่ รวมกนั แลว้ จะต้องเทา่ กบั ยอดเงนิ ของบญั ชีลูกหนใี้ นสมดุ บญั ชีแยกประเภททว่ั ไปเสมอ เชน่ เดียวกันกับบัญชีเจา้ หนี้ จานวนเงนิ ของเจา้ หนรี้ ายตัวเมอ่ื รวมกันแล้วจะต้องเท่ากับยอดเงินของบัญชเี จา้ หนี้ในสมุดบัญชีแยกประเภทท่วั ไปเสมอเช่นกนั ในบทแรก ๆ ของหนังสอื เล่มนจ้ี ะขออธิบายถึงแต่เฉพาะสมุดบญั ชีแยกประเภททั่วไปเท่านัน้ สาหรับสมุดบญั ชีแยกประเภทย่อยจะได้อธบิ ายใหล้ ะเอยี ดในบทที่ 11 ต่อไป
รปู แบบของสมดุ บญั ชแี ยกประเภท (Account Form) รูปแบบของสมุดบัญชีแยกประเภทมี 2 รปู แบบ คอื1. แบบมาตรฐาน (Standard Account Form)ช่อื บญั ชี เลขท่ีบญั ชี………(Account Name) (Account No…)วนั ท่ี รายการ หน้า เดบิต วันที่ รายการ หน้า เครดติ(Date) (Explanation) บญั ชี (Debit) (Date) (Explanation) บัญชี (Credit) (Ref.) (Ref.) บัญชแี ยกประเภทในรปู แบบมาตรฐานน้ันจะเห็นได้ว่ามีลักษณะคลา้ ยตวั “T” คือแบ่งบัญชีออกเป็น 2ดา้ น ด้านซ้ายคือดา้ นเดบิต และด้านขวาคอื ด้านเครดติดังนัน้ บัญชีแยกประเภทรปู แบบมาตรฐานน้จี งึ มักจะเรียกกันว่า บญั ชีตัว “T” หรอื T-Account บัญชีแยกประเภทรูปแบบมาตรฐานนจ้ี ะใช้กบั สมุดบัญชแี ยกประเภทท่วั ไป
2. แบบแสดงยอดคงเหลือ (Balance Account Form)ชื่อบญั ชี เลขท่ีบญั ชี……….(Account Name) (Account No…)วันที่ รายการ หนา้ เดบิต เครดติ ยอด คงเหลอื(Date) (Explanation) บัญชี (Debit) (Credit) (Balance) (Ref.) รูปแบบของสมุดบัญชแี ยกประเภทแบบแสดงยอดคงเหลอื น้ี จะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ยอดคงเหลือของบญั ชที นั ทวี า่ หากมีรายการค้าเกิดข้ึนยอดคงเหลอื ของบัญชีนน้ั ๆจะเปน็ เท่าไร ซงึ่ โดยทัว่ ไปมกั จะใชก้ ับสมดุ บัญชีแยกประเภทย่อยไมว่ า่ จะเป็นสมุดบญั ชีแยกประเภทลูกหน้ี และสมดุ บัญชีแยกประเภทเจ้าหน้ี เพราะจะทาให้ทราบยอดคงเหลอื ของบญั ชีลูกหน้ีหรือเจ้าหน้ไี ด้ทันที
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: