งานประดิษฐ์ ความร้พู ืน้ ฐานเกี่ยวกบั งานประดิษฐข์ องตกแต่ง ความหมายของงานประดิษฐ์ หมายถงึ งานท่ีเกิดจากการใช้ความคิดสรา้ งสรรคข์ องมนุษยส์ ร้างหรอื ประดิษฐข์ ึ้นตามวตั ถปุ ระสงคท์ ี่หลากหลาย หรือเพ่ือความสวยงาม หรือ ประดบั ตกแต่งหรือเพื่อประโยชน์ใช้สอยและอาจจะเหมือนจริงหรอื ไมเ่ หมอื น จริงกไ็ ด้ งานประดิษฐ์ เป็นส่วนหน่ึงของคาวา่ ศิลปหตั ถกรรม งานศิลปหตั ถกรรม มาจากการประสมคาว่า “ศิลปะ ” กบั คาว่า ” หตั ถกรรม” ศิลปะ(Arts) หมายถึง ผลงานความคิดสร้างสรรคข์ องมนุษยท์ ี่ปรากฏออกมาในรปู ลกั ษณ์ ต่างๆอย่างมสี นู ทรยี ภาพ ความประทบั ใจ ประสบการณ์และทกั ษะของแต่ละ คน หตั ถกรรม (crafts) หมายถึง เครื่องมือเคร่ืองใช้ท่ีสรา้ งขึ้นด้วยมอื เป็นหลกั เช่น การปัน้ การ แกะสลกั การจกั สาน ซ่ึงเกิดจากฝี มอื ช่างเพียงคนเดียวหรือมากกวา่ หน่ึงคน ความเป็ นมาของงานประดิ ษฐ์ ความเป็นมาของงานประดิษฐ์ ส่ิงประดิษฐ์เกิดขึ้นเพราะมนุษยเ์ ป็นผสู้ รา้ ง ผพู้ ฒั นา ปรบั ปรงุ และเปลี่ยนแปลงแบบ ผลงานด้วยความคิดสร้างสรรคท์ ี่มี อยู่ในแต่ละบคุ คล มีวตั ถปุ ระสงคใ์ นการสร้างส่ิงประดิษฐเ์ พ่ือตอบสนอง ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอย งานประดิษฐ์มีความสมั พนั ธแ์ ละ
เกี่ยวข้องกบั ชีวิตประจาวนั ของคนไทยตงั้ แต่สมยั โบราณ เก่ียวข้องกบั ขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนา หลกั การของงานประดิษฐ์ หลกั การสร้างสรรคง์ านประดิษฐ์ การสร้างสรรคง์ านประดิษฐ์ให้ประดิษฐ์ให้ ประสบผลสาเรจ็ นัน้ ผเู้ รยี นต้องมีความพึงพอใจ ในการทางาน โดยยึด หลกั การดงั นี้ 1. หมนั่ ศึกษาหาความร้ใู นงานที่ตนเองสนใจ โดยศึกษาจากผเู้ ช่ียวชาญการในชมุ ชนการโรงเรยี น จากตวั อย่าง สิ่งประดิษฐ์ที่สนใจ 2. ศึกษาหลกั การ วิธีการ หรอื ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงานโดยการวิเคราะห์ ด้วยตนเองหรือศึกษาจากผ้รู ู้ ผ้เู ช่ียวชาญ หรอื จากส่ือต่าง ๆ เช่น วารสาร หนังสือ เป็นต้น 3. ทดลองการปฏิบตั ิการประดิษฐ์ ผเู้ รยี นต้องศึกษาค้นคว้าและทดลองปฏิบตั ิตามแนวคิดท่ีได้สร้างสรรค์ ไว้ และมีการปรบั ปรงุ แก้ไข ข้อบกพรอ่ งจนสาเรจ็ เป็นชิ้นงานประดิษฐ์ ท่ีพึงพอใจ\\
ประเภทของงานประดิษฐ์ 1. งานประดิษฐ์ท่ีเป็นเอกลกั ษณ์ไทย 1.1งานประดิษฐด์ ้วยดอกไม้สด 1.2 งานประดิษฐ์ด้วยใบตอง 1.3 งานแกะสลกั พืชผกั และผลไม้
1.4งานจกั สาน 2. งานประดิษฐ์ทวั่ ไป 2.1 งานปัน้ 2.2 งานประดิษฐด์ อกไม้ ต้นไมด้ ้วยกระดาษหรอื ผา้
2.3 งานประดิษฐจ์ ากเศษวสั ดหุ รอื วสั ดเุ หลือใช้ 2.4 งานประดิษฐจ์ ากวสั ดธุ รรมชาติ วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ท่ีใช้ในงานประดิษฐ์ ในการทางานประดิษฐ์ จะต้องใช้วสั ดุ เศษวสั ดุ และอปุ กรณ์ต่าง ๆ ดงั นี้ 1. วสั ดทุ ่ีใช้ในงานประดิษฐ์ แบ่งตามลกั ษณะของวสั ดไุ ด้เป็น 3 ประเภท ดงั นี้ 1. วสั ดธุ รรมชาติ เช่น ใบไม้ ก้อนหิน ขนสตั ว์ เกลด็ ปลา เปลือก ไข่ เปลือกหอย เป็นต้น
2. วสั ดสุ งั เคราะห์ เช่น กระดาษ ผา้ พลาสติก เชือกไนลอน เป็น ต้น 3. เศษวสั ดุ มีทงั้ วสั ดธุ รรมชาติและวสั ดสุ งั เคราะห์ เช่น เศษผา้ เศษไม้ เศษโลหะ เศษหนัง หลกั ในการเลือกวสั ดแุ ละเศษวสั ดมุ าใช้ในงานประดิษฐ์ มีดงั นี้ 1. ใช้วสั ดใุ ห้ตรงและเหมาะสมกบั ชนิดของงานประดิษฐ์ 2. ใช้วสั ดทุ ี่หางา่ ยในท้องถ่ิน 3. ใช้วสั ดทุ ี่ปลอดภยั ไม่ก่อให้เกิดอนั ตรายต่อผใู้ ช้ 4. ใช้วสั ดทุ ี่มีความแขง็ แรงและทนทานพลาสติก เศษกระดาษ เป็น ต้น 2. อปุ กรณ์ท่ีใช้ในงานประดิษฐ์ สามารถแบง่ ได้ตามลกั ษณะการใช้งาน ดงั นี้ 1. เครื่องมือที่ใช้วดั ได้แก่ ไม้บรรทดั ไมฉ้ าก ไม้ครงึ่ วงกลม วง เวียน 2. เครือ่ งมือที่ใช้ตดั ได้แก่ กรไกร มดี เหลา คตั เตอร์ 3. เครื่องมือที่ใช้เจาะ ได้แก่ เหลก็ แหลม ตะปู 4. เครื่องมือที่ใช้ตกแต่ง
การออกแบบงานประดิษฐ์ การออกแบบงานประดิษฐ์ เป็นการสรา้ งรปู ลกั ษณ์ของชิ้นงาน โดยอาศยั ความคิดสรา้ งสรรคค์ วามร้คู วามเข้าใจ ในหลกั การออกแบบและนามาใช้ ทา ให้การออกแบบชิ้นงานนัน้ มีคณุ ค่าและน่าสนในย่ิงขึ้น การออกแบบ การออกแบบ หมายถงึ การทาต้นแบบ หรือการทาโครงสร้างของชิ้นงานท่ี ต้องการประดิษฐ์ เพื่อให้ได้ผลงานสาเรจ็ ตามท่ีมุง่ หวงั โดยการเลือกวสั ดุ เลือกสี ท่ีนามาใช้ให้เหมาะสมสวยงาม ท่ีมาของการออกแบบงานประดิษฐ์ 1. การศึกษาแบบของงานที่ตนสนใจจากหนังสือ นิตยสารแล้วทดลอง ปฏิบตั ิ 2. การดดั แปลงแบบท่ีมีอยู่เดิม หรือแบบตวั อย่างโดยทาการศึกษาแบบ จนเกิดความเข้าใจ จึงปฏิบตั ิการ
3. สรา้ งแบบ โดยการนาเอาแนวความคิดหรือความคิดสร้างสรรคข์ อง ตนเองไปผสมผสานทาให้ได้แบบที่เป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร 4. การออกแบบด้วยตนเองคือการออกแบบท่ีเกิดจากแนวคิดของตนเอง และทดลองปฏิบตั ิสร้างแบบจนได้แบบที่สวยงาม เหมาะสมตามความ ต้องการ งานประดิษฐท์ วั่ ไป งานประดิษฐท์ ่ีเกิดจากแนวความคิดหรือความคิดสร้างสรรคท์ ่ีมุง่ สร้าง ผลงานโดยมีจดุ มุ่งหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง - ประดิษฐเ์ พื่อเป็นของเล่น
- ประดิษฐ์เพื่อเป็นของใช้ - ประดิษฐ์ของตกแต่งบา้ น
การออกแบบและกระบวนการทางานประดิษฐ์ การนาวสั ดเุ หลือใช้ได้จากธรรมชาติหรอื จากการสงั เคราะห์ เช่น เปลือกไข่ ฟางข้าว เมลด็ พืช กระดาษ ขวดพลาสติก กระป๋ องน้าอดั ลม เป็นต้น มา ออกแบบสร้างสรรคแ์ ละประดิษฐเ์ ป็นของใช้ต่าง ๆ นัน้ เป็นการใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ทาให้เกิดความเพลิดเพลิน ยงั ช่วยประหยดั ค่าใช้จา่ ยภายในครอบครวั ได้ด้วย หลกั การออกแบบงานประดิษฐ์ การออกแบบที่ดีนัน้ ควรคานึงถึงหลกั การออกแบบ ดงั นี้ 1. หน้าที่ใช้สอย การออกแบบงานประดิษฐจ์ ะต้องคานึงถึงความ เหมาะสม และสามารถใช้งานได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ 2. ความแขง็ แรงและปลอดภยั งานประดิษฐ์บางงานต้องใช้วสั ดทุ ี่ มีความแขง็ แรงทนทานมาก ๆ เพ่ือไมใ่ ห้เป็นอนั ตรายต่อผ้ใู ช้งานประดิษฐ์ นัน้ 3. ความสะดวกสบายในการใช้งาน การออกแบบงานประดิษฐ์ จะต้องคานึงถงึ ความสะดวกสบายในการหยิบใช้งาน 4. ความสวยงาม การออกแบบงานประดิษฐท์ ี่สวยงามน่าใช้จะช่วย ดึงดดู ความสนใจของผ้ใู ช้และผ้พู บเหน็ ได้ 5. การดแู ลรกั ษา ควรออกแบบงานประดิษฐใ์ ห้ดแู ลรกั ษาและ ซ่อมแซมได้งา่ ย รวมทงั้ วิธีการทาความสะอาดท่ีสะดวกและรวดเรว็ ด้วย
การสร้างงานประดิษฐ์ กระบวนการทางานประดิษฐ์ มีขนั้ ตอนดงั นี้ 1. วางแผนงานสารวจความต้องการว่าจะประดิษฐ์ส่ิงใด 2. ออกแบบชิ้นงานที่ต้องการจะประดิษฐ์ 3. เลือกวสั ดทุ ี่จะใช้ในงานประดิษฐใ์ ห้มคี วามเหมะสม 4. ลงมือปฏิบตั ิตามที่ได้ออกแบบไว้ 5. ตรวจสอบและปรบั ปรงุ แก้ไขผลงานการประดิษฐ์
ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ 1. งานประดิษฐ์ทกุ ชิ้นล้วนมจี ดุ ประสงคท์ ี่สาคญั คือการนาไปใช้ประโยชน์ ในด้านต่างๆ และมีความสมั พนั ธเ์ ก่ียวข้องกบั ชีวิตประจาวนั ของไทย 2. งานประดิษฐ์มคี วามสมั พนั ธเ์ กี่ยวข้องขนบธรรมเนียมและประเพณีทาง ศาสนา 3. งานประดิษฐช์ ่วยให้เกิดความภาคภมู ิใจในตนเอง เมอื่ ประดิษฐ์ผลงาน ได้สาเรจ็ และนาไปใช้ตามวตั ถปุ ระสงค์ 4. งานประดิษฐช์ ่วยให้การทางานของสมองและประสาทสมั ผสั ประสาน สมั พนั ธก์ นั ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทางานประดิษฐอ์ ย่างสมา่ เสมอ ทาให้เกิดความคิดสร้างสรรคแ์ ละดดั แปลง ปรบั ปรงุ ผลงานให้ดีขึ้นอย่าง สมา่ เสมอ ทาให้ได้ชิ้นงานที่แปลกใหม่ 5. ใช้เป็นเคร่อื งประดบั ตกแต่ง ของเล่น ของขวญั ที่ระลึกนอกจากนี้การ ประดิษฐผ์ ลงานที่มคี วามประณีตสวยงามและมีความแปลกใหม่ เป็นที่นิยม ชมชอบของผทู้ ี่พบเหน็ สามารถท่ีจะนาไปขายเพิ่มรายได้ให้กบั ตวั เองและ ครอบครวั 6. ร้จู กั ใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์และเป็นการของเหน็ คณุ ค่าของเวลาไม่ ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ 7. เป็นการฝึ กลกั ษณะนิสยั ในการทางานให้มีความอดทนประหยดั และ มองเหน็ คณุ ค่าของสิ่งท่ีเหลือใช้
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: