จะเกิดอะไรขึนเมือทุกคนบนโลก พบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวรา้ ย คู่มือ ¡Òûͧ¡Ñ¹ âäCOVID-19 By Kanyarat Jadsuk
คาํ นาํ สถานการณการแพรระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 หรอื โรค โควดิ 19 (CoronavirusDisease2019(COVID-19) มีการระบาดในวงกวาง องคก ารอนามัยโลก (WHO) ไดประกาศใหโ รคโควิด 19เปนภาวะฉกุ เฉินทาง สาธารณสุขระหวา งประเทศ (Public Health Emergency of InternationalConcern) โดยแนะนําใหทุกประเทศเรง รัดการเฝา ระวงั และปอ งกนั ความเสีย่ งจากโรคโควดิ 19 สําหรับประเทศไทยพบผูปว ยและผู เสียชีวติ เพ่ิมขึ้นอยา งตอ เนอื่ ง และมีโอกาสขยายวงกวางขนึ้ เร่อื ย ๆ โดย เฉพาะอยา งยิง่ แนวโนมทจ่ี ะเกดิ การแพรร ะบาดในสถานศึกษาดังนัน้ การ สรางความตระหนัก รเู ทา ทัน และเตรียมความพรอ มในการรบั มอื กบั การ ระบาดของโรคอยา งมปี ระสิทธภิ าพ จงึ มคี วามจําเปน อยา งยง่ิ เพือ่ ลดความ เสย่ี งและปอ งกันไมใหส ง ผลกระทบตอ สขุ ภาพนกั เรยี นครผู ูสอนและ บุคลากรทางการศึกษา อันเปนทรพั ยากรท่สี ําคัญในการขับเคลื่อนและ พัฒนาประเทศในอนาคต จดั ทาํ โดย นางสาวกญั ญารตั น จาดสขุ
สารบัญ หนา ก เรือ่ ง ข คาํ นํา 1 สารบญั 3 1.มารจู ักโควิค-19 กนั เถอะ 2.อาการเม่อื ติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนาสายพันธุใหม 5 หรือไวรสั โควิด-19 3.กลุมเสี่ยงตดิ เชื้อไวรัสโคโรนาสายพนั ธุใหม 6 หรอื โควิด-19 7 4.โควดิ -19สามารถตดิ ได 3 รู 8 5.วิธปี องกันการตดิ เช้ือไวรัสโคโรนาสายพนั ธใุ หม 6.ความแตกตา งระหวา ง การกกั ตวั การแยกตวั และ 12 การเวน ระยะ คอื อะไร 7.เราควรทาํ อยา งไรเพอื่ ปองกนั ตัวเองและการแพร 14 ระบาดของโรค 8.เราสามารถลดความเส่ียงในการตดิ เชอ้ื หรือการ 15 แพรเ ช้ือไดดว ยการทาํ ตามขอควรระวงั 9.ขณะนีม้ ีวัคซีน ยาหรอื การรักษาโควิด 19 โดยเฉพาะ หรือไม
1 ไวรสั โคโรนา หรือโควดิ -19 คอื อะไร ? ไวรัสโคโรนา (Coronavirus) เปน ไวรสั ทถี่ กู พบครั้งแรกในป 1960แตยังไมทราบแหลงท่มี าอยางชัดเจนวา มาจากทใ่ี ดแตเ ปน ไวรสั ที่ สามารถตดิ เชื้อไดทั้งในมนุษยแ ละสตั วป จ จบุ ันมี การคนพบไวรสั สาย พันธุน ้ีแลว ทง้ั หมด 6 สายพันธุ สว นสายพันธุท่กี ําลังแพรร ะบาดหนกั ท่วั โลกตอนนีเ้ ปน สายพนั ธทุ ่ียังไมเ คยพบมากอนคือ สายพันธทุ ่ี 7 จึงถูก เรยี กวาเปน “ไวรัสโคโรนาสายพนั ธใุ หม” และในภายหลงั ถูกต้ังชื่ออยา ง เปน ทางการวา“โควิด-19”(COVID-19) นั่นเอง
2 ไวรัสโคโรนาเปนไวรสั ในวงศใหญท่ีเปนสาเหตุของโรคท้ังในสตั วแ ละคน ในคนน้ัน ไวรสั โคโรนาหลายสายพนั ธทุ ําใหเ กดิ โรคระบบทางเดนิ หายใจ ต้ังแตโ รคหวดั ธรรมดาจนถึงโรคท่มี ีอาการรุนแรง เชน โรคทางเดิน หายใจตะวันออกกลาง (MERS) และโรคระบบทางเดนิ หายใจเฉียบพลัน รา ยแรง (SARS) ไวรัสโคโรนาท่คี นพบลาสุดทาํ ใหเ กิดโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 คือโรคตดิ ตอ ซึ่งเกิดจากไวรัสโคโรนาชนดิ ทีม่ ีการคนพบลาสุด ไวรสั และโรคอบุ ัตใิ หมนี้ไมเปน ทรี่ ูจกั เลยกอนทจ่ี ะมี การระบาดในเมอื งอูฮั่น ประเทศจีนในเดอื นธนั วาคมป 2019 ขณะนโ้ี รคโค วิด 19 มกี ารระบาดใหญไ ปท่วั สง ผลกระทบแกหลายประเทศทว่ั โลก อาการทวั่ ไปของโรคโควิด 19 พพ่ี บมากทส่ี ุดคือ ไข ,ไอ และออนเพลีย อาการทีพ่ บนอยกวาแตอาจมผี ลตออผปู วยบางรายคือ ปวดเมือ่ ย,คดั จมกู ,นํ้ามกู ไหล,เจบ็ คอ ลิ้นไมรับรส ,จมูกไมไดก ลิ่น, ผ่ืนตามผวิ หนงั , สี ผวิ เปลีย่ นตามน้ิวมือน้วิ เทา อาการเหลา นีม้ ักจะไมรนุ แรงนกั และคอ ยๆ เริ่มทลี ะนอย บางรายติดเชือ้ แตมอี าการไมรุนแรงผูปว ยสว นมาก (80%) หายปวยไดโดยไมต องเขารกั ษาในโรงพยาบาล ประมาณ 1 ใน 5 ของผูตดิ เชื้อโควดิ 19 มีอาการหนกั และหายใจลาํ บาก ผสัู ูงอายแุ ละมีโรคประจาํ ตัว เชน ความดนั โลหิตสงู ,โรคหัวใจ,โรคเบาหวาน หรอื มะเร็งมีแนวโนมทจ่ี ะมี อาการปว ยรนุ แรงกวา อยางไรก็ตามทุกคนสามารถตดิ โรคโควดิ 19 ได และอาจปว ยรุนแรง คนทุกเพศทุกวัยท่ีมีอาการไข และไอรวมกบั อาการ หายใจลําบาก,ติดขดั ,เจ็บหนา อก,เสียงหาย หรือเคลื่อนไหวไมไดค วร ปรึกษาแพทยทนั ที
3 อาการเมอื่ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพนั ธใุ หม หรือไวรสั โควิด-19 อาการของไวรสั โควิด-19 ทีส่ ังเกตไดง า ย ๆดวยตัวเอง อาการทัว่ ไปมีดงั นี้ 1. มีไข 2. เจบ็ คอ 3. ไอแหง ๆ 4. นาํ มกู ไหล 5. หายใจเหน่อื ยหอบ อาการที่พบไมบอ ยนักมดี ังนี้ 1.ปวดเม่ือยเนอ้ื ตัว 2.เจบ็ คอ 3.ทองเสยี 4.ตาแดง 5.ปวดศีรษะ 6.สญู เสยี ความสามารถในการดมกลนิ่ และรับรส 7.มผี ื่นบนผวิ หนงั หรือนิ้วมือนิว้ เทา เปล่ยี นสี
4 อาการรนุ แรงมีดงั นี้ 1.หายใจลาํ บากหรอื หายใจถ่ี 2.เจ็บหนาอกหรอื แนน หนา อก 3.สญู เสยี ความสามารถในการพูดและเคล่ือนไหว โปรดเขารับการรกั ษาทันทีหากมีอาการรนุ แรง และติดตอลวงหนา กอ นไปพบแพทยห รอื ไปสถานพยาบาลเสมอ ผูท่มี ีอาการไมรนุ แรงและไมม ีปญ หาสขุ ภาพอนื่ ๆ ควรรักษาตวั อยทู ่ี บา น โดยเฉล่ยี แลวผทู ี่ติดเช้ือไวรัสจะแสดงอาการปวยใน 5-6 วนั อยา งไรก็ตาม ผูปวยอาจใชเวลานานถึง 14 วันจึงจะแสดงอาการ
5 กลมุ เส่ียงตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนาสายพันธใุ หม หรอื โควดิ -19 เดก็ เล็ก (แตอ าจไมพบอาการรุนแรงเทา ผูสูงอายุ) ผสู ูงอายุ คนทีม่ ีโรคประจําตวั อยูแลว เชนโรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอด เรื้อรงั คนทภี่ มู คิ ุม กันผิดปกติ หรอื กนิ ยากดภูมติ า นทานโรคอยูคน ท่มี ีนํา้ หนกั เกนิ มาตรฐาน (คนอว นมาก) ผทู ี่เดินทางไปในประเทศเส่ียงติดเชอ้ื เชน จนี เกาหลีใต ญี่ปนุ ไตห วัน ฮอ งกง มาเกา สิงคโปร มาเลเซยี เวยี ดนาม อิตาลี อหิ ราน ฯลฯ ผูที่ตอ งทํางาน หรอื รกั ษาผปู วย ตดิ เชื้อไวรสั โคโรนาสาย พันธุใหม หรือโควิด-19 อยางใกลช ิด ผทู ที่ ําอาชีพทตี่ องพบปะชาวตางชาติจาํ นวนมาก เชน คนขบั แท็กซ่ี เจา หนาท่ใี นโรงพยาบาล ลูกเรอื สายการบนิ ตาง ๆ เปนตน
6 โควิด-19สามารถตดิ ได 3 รู โควิด _19 สามารถติดตอ ผานทางการสัมผสั โดยตรง กบั ละอสโดยตรงกบั ละอองของสารคดั หล่ังจากระบบทางเดิน หายใจ และนาํ ลายของผูต ิดเชือ้ เชน ไอ จาม นํามกู นํา ลาย และ ยังสามารถแพรเ ชือ้ จากบุคคลหนึ่งไปสบู คุ คลอน่ื ได จากการ สัมผัสพ้นื ผวิ ที่ปนเปอนเชอื้ ไวรัส ซึ่งเช้ือดงั กลา วสามารถมชี วี ิต อยบู นพืน้ ผิวตางๆหลายชว่ั โมง เม่ือมอื ไปสมั ผสั เชือ้ จะเขา สู รา งกายใน3 ชองทาง คือ รนู ําตา รจู มกู และรูปาก ลงสลู ําคอ ทางเดนิ หายใจ และลงสูปอดในที่สุด 1 รูนา้ํ ตา 2.รูจมูก 3.รูปาก
7 วิธปี อ งกนั การติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา สายพันธใุ หม 1. หลกี เลย่ี งการใกลช ดิ กับผปู วยที่มอี าการไอ จาม นาํ มูกไหล เหน่ือย หอบ เจ็บคอ 2. หลกี เล่ียงการเดินทางไปในพื้นทีเ่ สี่ยง 3. สวมหนากากอนามยั ทุกครั้งเมอ่ื อยูในท่สี าธารณะ 4. ระมดั ระวงั การสัมผัสพืน้ ผวิ ทไี่ มส ะอาด และอาจมเี ชอื้ โรคเกาะอยู รวมถึงสิง่ ท่ีมคี นจบั บอ ยครงั้ เชน ที่จับบน BTS ทเี่ ปด -ปดประตใู นรถ กลอนประตูตา ง ๆ กอกนาํ ราวบนั ได ฯลฯ 5. ลา งมอื ใหสมาํ เสมอดวยสบู หรือแอลกอฮอลเ จลอยา งนอย 20 วนิ าที ความเขมขน ของแอลกอฮอลไมต ํา กวา 70% (ไมผสมนํา) 6. งดจบั ตา จมกู ปากขณะที่ไมไดล างมือ
8 ความแตกตา งระหวาง การกักตวั การแยกตวั และการเวน ระยะ คืออะไร การกักตัวคอื อะไร? การกกั ตัว คือ การจํากดั กิจกรรมตางๆ หรอื การแยกผทู ไ่ี ม ปวย แตอ าจมีประวัติสมั ผสั ใกลชดิ กบั ผปู ว ยโควดิ 19 จุดประสงคคอื เพ่อื ปอ งกันการแพรระบาดของโรคในหวงเวลาที่คนเริ่มมีอาการ เม่อื เห็นวา ไมม ีอาการคลายติดโควดิ -19 หรอื ผลตรวจออกมาพบวา ไมต ิด เชื้อ จึงคอ ยใชช วี ติ รวมกับคนในครอบครัวตามปกติ แตหากจาํ เปน ตองอยกู บั คนอนื่ ๆ ภายในบา น เพราะสถานท่ีไมเ ออ้ื อาํ นวยใหก กั ตัวอยู คนเดยี ว 100% การกกั ตวั เอง จะใชเ วลาประมาณ 14 วนั (ระยะฟกตวั ของโรค) ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ ไดเผยแพรข อ มลู “How to...คุมไวส ังเกต ณ ท่ีพกั อาศัยและแนวทางปฏบิ ตั ”ิ เพอ่ื ใหผูท ี่ ตอ งกักตวั เองปฏิบตั ไิ ดอ ยางถกู ตอง
9 ปฏบิ ัตไิ ดอ ยา งถกู ตองดงั นี้ 1.หลกี เลี่ยงใกลชิดผอู น่ื โดยเฉพาะผปู วยและผูสงู อายุ 2.หยดุ เรียนหรอื ทํางาน รวมทงั้ กจิ กรรมตางๆ 3.ปดปากและจมกู ดวยกระดาษทิชชูท ุกครัง้ ทไี่ อ จาม 4.หามทานอาหารและใชภาชนะรวมกบั ผูอน่ื รวมถงึ ควรแยก ของใชสวนตวั ไมใ ชรวมกับผอู ่ืน เชน ผาเชด็ ตวั หมอน ผาหม แกวน้าํ เปน ตน 5.สวมหนากากอนามัยและอยหู างจากผอู ่นื 1-2 เมตร 6.แยกหองนอน 7.ทําความสะอาดท่ีพกั และของใช 8.ลา งมือบอ ยๆดว ยสบหู รือเจลแอลกอฮอล และสุดทา ย 9.ทิง้ หนากากอนามัยหรอื กระดาษทิชชทู ่ใี ชแลว ใหถ ูกวิธี โดยทิง้ ในถุงพลาสติก ปด ถุงใหสนิท มิดชดิ กอนทิง้ ลงถงั ขยะที่ปด มดิ ชิดและลางมือดว ยสบแู ละนาํ้ นานประมาณ 15-20 วินาที หรือ แอลกอฮอล 70% ขึ้นไปทนั ที
10 การแยกตวั คอื อะไร? การแยกตวั คือ การแยกผูปวยท่มี ีอาการของโรคโควดิ 19 และอาจแพรเช้ือได จึงทาํ เพือ่ ปอ งการปองกันการแพรระบาดของโรค โควิด 19 อ่ืนๆอยบู านและไมไปทํางาน โรงเรยี น หรอื ทีส่ าธารณะ การ แยกตัวเองนี้อาจทําโดยสมัครใจหรือขึน้ อยกู ับคําแนะนาํ ของผใู หการ รกั ษาอยางไรก็ตาม หากทา นอยใู นพน้ื ทท่ี มี่ ีการระบาดของโรคโควดิ 19 ทา นตองเฝา ระวังอาการและไปพบแพทย เมอ่ื ไปสถานพยาบาล ควรสวมหนากากและเวนระยะอยางนอ ย 1 เมตรจากผอู น่ื และไมเ อามือ ไปจับพื้นผวิ ตางๆ หากเปนเด็กปวย ใหด แู ลเดก็ ใหทาํ ตามคาํ แนะนําน้ี ดว ย
11 การเวนระยะหา งคอื อะไร? การเวนระยะหาง คอื การอยูหางกันและกัน องคการอนามัยโลก แนะนาํ ใหเวนระยะอยางนอย 1 เมตรจากผอู ืน่ สวนน้เี ปม าตรการทั่วไปท่ี ทกุ คนควรทําถงึ แมว าจะแข็งแรงดแี ละไมม ีประวัติสัมผัสโรคโควดิ 19 เลย ก็ตามงที่สําคญั ที่ประชาชนทุกคนตองตระหนกั และปฎิบัตเิ ปน ประจาํ การใหค วามรวมมือเม่ือตอ งออกจากนอกบา นทกุ ครัง้ โดยการสวม หนากากอนามัย และเมอ่ื ตองไปในทท่ี ่ีมคี นอยูหนาแนน จะตองเวนระยะ หางประมาณ 1-2 เมตร เพอ่ื ปอ งกนั การติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา 2019 เพราะทุกคร้ังทมี่ ีการจาม หรือไอ จะมลี ะอองฝอยเลก็ ๆ กระจายออกมา จากจมูก หรอื ปาก ซ่ึงอาจมไี วรัสโคโรนา หรอื ไวรัสอนื่ ๆ ทีส่ ามารถทาํ ให ทา นรับเชอื้ โรคได
12 เราสามารถลดความเส่ยี งในการติดเชื้อหรอื การแพรเ ชื้อไดด ว ยการทาํ ตาม ขอ ควรระวังดงั น้ี 1.ลางมอื บอ ยๆใหสะอาดดวยแอลกอฮอลเจลหรือดว ยน้าํ และสบู เพราะการทาํ ความสะอาดมอื ดว ยสองวิธีน้เี ปนการฆา เชอ้ื โรคท่ีอยบู น มอื เรา 2.รักษาระยะอยา งนอ ย 1 เมตร จากผูอนื่ เพราะเมอ่ื คนไอ จาม หรือ พูด จะทําใหเ กิดฝอยละอองขนาดเล็กจากจมูกและลาํ คอซงึ่ อาจมเี ชื้อ โรคได ถา อยใู กลเกนิ ไปก็จะหายใจเอาฝอยละอองเหลานัน้ เขาไปดว ย ซ่ึงมีเช้ือโรคปนอยู ในกรณที ่คี นนั้นไมส บาย 3.เลยี่ งการไปพื้นทีห่ นาแนน เพราะเมอ่ื คนมารวมตัวกนั เปนจํานวน มาก เรามโี อกาสเสย่ี งที่จะเขาใกลผูปว ยโควิด 19 และเม่ือคนหนาแนน กจ็ ะรกั ษาระยะหาง 1 เมตรไดยาก 4.เลยี่ งการเอามอื มาจับตา จมูกและปาก เพราะมอื ไปสัมผสั อะไรมา หลายอยา งและอาจไปสัมผสั เช้ือโรคมาดว ย เมอ่ื มอื ปนเปอนกจ็ ะสง ตอ เชอ้ื โรคไปยงั ตา จมกู และปาก จากนน้ั เชอื้ โรคกจ็ ะเขา สูรางกายและ ทําใหเราปว ย
13 6.อยูบานและแยกตัวเองถึงแมจ ะมอี าการเพียงเลก็ นอย เชน ไอ ปวด ศรี ษะ ไข จนกวา จะหายดี ใหใครมาสง เสบยี งและสงิ่ ของจําเปน แตหาก ตองออกจากบา นใสหนา กากเพ่อื ปอ งกันการไปแพรเช้ือใหผ ูอนื่ เพราะ การเล่ียงการสมั ผสั กับผูอ่นื เปน การปอ งกนั ผอู ืน่ จากเชอื้ โควิด 19 และ เชื้อโรคอน่ื ๆ 7.หากมีอาการไข หรอื ไอรวมกับอาการหายใจลําบาก/ตดิ ขัด ควร ปรึกษาแพทยทันที หากเปนไปได แนะนําใหโ ทรไปลว งหนา เพ่อื สถาน พยาบาลจะไดใหค ําแนะนาํ เพราะหนวยงานของรฐั และทอ งถ่ินมขี อ มลู ของสถานการณล า สุดในพ้ืนท่ขี องทา น การโทรไปแจงลวงหนา จะทําให เจา หนาที่สาธารณสขุ สามารถแนะนาํ ทานใหไ ปยังหนว ยบริการทางการ แพทยไ ดอ ยา งเหมาะสม ทง้ั น้ี เพอ่ื เปนการปอ งกันตวั ทานเองและปอ งการ การแพรกระจายของไวรัสและเชื้อโรคอ่ืนๆดวย 8.ติดตามขาวสารจอมูลจากแหลงท่ีนา เช่ือถอื เชน องคก ารอนามัยโลก และหนวยงานสาธารณสุข เพราะทางการและทองถ่ินจะใหขอ มลู ไดด ี ทส่ี ดุ วา คนในพน้ื ทีค่ วรจะทําอยา งไรเพื่อปองกนั ตนเอง
14 เราควรทําอยางไรเพือ่ ปอ งกันตวั เอง และการแพรระบาดของโรค ตดิ ตามขาวสารขอมลู ลาสดุ เกีย่ วกับการระบาดของโรคโควิด 19 ซง่ึ หาไดจากเว็บไซตขององคการอนามัยโลกและหนว ยงานดาน สาธารณสขุ ของทาน หลายประเทศทวั่ โลกมีตวั เลขผปู วยยืนยันและ หลายประเทศกําลังมกี ารระบาดใหญ ทางการในประเทศจีนและบาง ประเทศประสบความสาํ เรจ็ ในการชะลอการระบาด อยา งไรก็ตาม สถานการณไ มส ามารถคาดเดาไดจึงควรตดิ ตามขา วสารตอ เนือ่ ง ไวรัสที่ทําใหเกิดโรคโควิด-19 จะแพรกระจายผานฝอยละอองเปนหลกั ซง่ึ เกิดขน้ึ เมอ่ื ผตู ิดเช้ือไอ จาม หรอื หายใจออก ฝอยละอองเหลา นม้ี นี ํา้ หนกั มากเกนิ กวา จะลอยอยใู นอากาศ และจะตกลงบนพน้ื หรอื พื้นผวิ อยางรวดเร็วคณุ อาจตดิ เชอื้ ไดจากการหายใจเอาไวรสั เขาสรู างกาย เมื่ออยใู กลช ิดกบั ผูปว ยโควดิ -19 หรอื โดยการสัมผัสพน้ื ผวิ ท่ีมเี ช้อื ไวรัสแลวสัมผัสตา จมกู หรอื ปากของตนเอง
15 ขณะน้ีมีวคั ซนี ยาหรือการรกั ษาโควดิ 19 โดยเฉพาะหรือไม ขณะท่ียาแผนปจ จบุ นั แผนโบราณและการรักษาตามบาน หลายตาํ รับอาจทาํ ใหสบายขน้ึ และบรรเทาอาการไดในกรณีท่อี าการไม รุนแรง แตกย็ ังไมม ยี าปองกันหรอื รกั ษาโควดิ 19โดยเฉพาะ องคการ อนามัยโลกไมแนะนาํ ใหกนิ ยาเองซง่ึ รวมถึงยาปฏิชวี นะตา งๆไมวาจะกิน เพอ่ื ปองกันหรือเพ่ือรกั ษา อยา งไรกต็ าม ขณะนม้ี กี ารทดลองทางคลิก นกิ เพอ่ื ทดลองยาแผนปจจบุ นั และยาแผนโบราณหลายสูตร องคก าร อนามยั โลกอยูระหวา งการประสานความพยายามตา งๆทีจ่ ะพัฒนา วัคซนี ปองกนั และยารกั ษาโควดิ 19 นี้ และจะมาใหขอ มูลขา วสารเม่อื มี ผลของการวจิ ัยออกมา
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: