\"…… sabbadukkha(サッバドゥッカ) nissaraṇa(ニッサラナ), nibbāna(ニッバーナ) sacchikaraṇatthāya (サッチカラナッターヤ), imaṃ(イマン) kāsāvaṃ(カーサーワン) gahetvā (ガヘットワー), pabbājetha(パッバージェータ) maṃ(マン) bhante (バンテー), anukampaṃ(アヌカンパン) upādāya(ウパーダーヤ) ……\" (ขอทา่ นโปรดอนเุ คราะห์รบั ผ้ากาสาวะนี้ และให้การบวชแกก่ ระผม เพอ่ื ทำ� ให้แจ้งซึง่ พระนพิ พาน อันเปน็ เคร่ืองสลัดออกจากทุกข์ทั้งปวงเถิด) เสยี งธรรมทายาทชาวญป่ี ุ่นและชาวตา่ งชาติทีก่ ำ� ลงั ท่องคำ� ขอบรรพชาในขณะน้ี ณ วัด- พระธรรมกายโทชหิ งิ แมจ้ ะมสี �ำเนยี งทีแ่ ตกต่างไปจากท่คี ุน้ เคย แตก่ ็สรา้ งความประทบั ใจได้ ไมแ่ ตกตา่ งจากทเ่ี คยเป็น ท่ามกลางสาธชุ นนับร้อยผู้เดนิ ทางมาร่วมอนโุ มทนาจากท่ัวสารทิศ ธรรมทายาททงั้ ๑๒ ทา่ น ตา่ งเสยี สละเวลาอนั มคี า่ และหาไดย้ ากในสงั คมทม่ี อี ตั ราการแขง่ ขนั ทางธรุ กจิ สงู อยา่ งประเทศญป่ี นุ่ ไดต้ ง้ั ใจเขา้ มาบรรพชาอปุ สมบท เพอ่ื ศกึ ษาพระธรรมวนิ ยั ของ พระสมั มาสัมพุทธเจ้า และประพฤติปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา \"…… ayante(アヤンテー) patto(パットー) (āma(アーマ) bhante(バンテー)), ayaṃ(アヤン) saṅghāṭi (サンガーティ) (āma(アーマ) bhante(バンテー)), ayaṃ(アヤン) uttarāsaṅgo(ウッタラーサンゴー) (āma(アーマ) bhante(バンテー)), ayaṃ(アヤン) antaravāsako(アンタラワーサコー) (āma(アーマ) bhante (バンテー)) ……\" “...... นีค้ อื บาตร (ขอรับทา่ น) นี้คือผ้าสำ� หรับห่มซ้อนนอก (ขอรับท่าน) น้ีคอื ผ้าส�ำหรบั ห่ม (ขอรบั ท่าน) นค้ี อื ผ้าสำ� หรับนุ่ง (ขอรบั ท่าน) ......” พฤศจิกายน ๒๕๖๒ อยู่ในบญุ 49 www.kalyanamitra.org
50 อยู่ในบญุ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ www.kalyanamitra.org
หลังจากธรรมทายาททุกท่านได้บรรพชาและอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยมพี ระครูปลัดสวุ ฒั นโพธิคุณ (สมชาย านวฑุ ฺโฒ) เมตตามาเปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ ตา่ งได้ เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมกายนานาชาติโทชิหงิ (Dhammakaya International Meditation Center Tochigi) เพ่ือใช้เวลาท่ีมีค่าและจ�ำกัดนี้ในการศึกษาพระธรรมวินัย ท้งั ภาคปรยิ ัติและปฏบิ ัติอยา่ งเต็มที่ พระธรรมทายาททุกรูปได้ตั้งใจศึกษาวิถีชีวิตของสมณะผ่านกิจวัตรกิจกรรม โดยมี คณะพระอาจารย์และพระพเี่ ลย้ี งคอยดูแลอย่างใกล้ชดิ เริ่มจากพระวนิ ัยเบอื้ งตน้ อาทิ นิสสัย ๔ (เครอื่ งอาศยั ๔ อยา่ ง) อนั ตรายกิ ธรรม ๔ (ขอ้ ปฏบิ ตั อิ นั เปน็ อนั ตราย ๔ ประการ) สกิ ขาบท ๒๒๗ รวมถึงพระสูตรส�ำคัญ อาทิ ธมั มจกั กปั ปวัตนสตู ร นอกจากนี้ พระธรรมทายาทยังไดม้ ี โอกาสศกึ ษาพทุ ธประวตั แิ ละประวตั ศิ าสตรพ์ ระพทุ ธศาสนา และทข่ี าดเสยี ไมไ่ ด้ คอื การเจรญิ สมาธภิ าวนา เพื่อให้เขา้ ถงึ พระธรรมกายภายใน อนั เปน็ หวั ใจหลักของการอบรมในครง้ั น้ี ดว้ ยสปั ปายะทง้ั ปวงอนั ประกอบดว้ ย อาหาร (บณิ ฑบาต) สถานที่ (กฏุ ิ หอ้ งปฏบิ ตั ธิ รรม) บคุ คล (คณะพระอาจารย์ พระพเี่ ลย้ี ง เพอ่ื นสหธรรมกิ ) และ ธรรมะ ทเ่ี หมาะสมลงตวั ไดม้ สี ว่ น ส�ำคัญต่อการศึกษาธรรมะทั้งภาคปริยัติและภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในเรื่องของผล การปฏบิ ตั ธิ รรม เจรญิ สมาธภิ าวนา ตา่ งไดช้ นื่ ชมผลจากการปฏบิ ตั ิ ตง้ั แตค่ วามโลง่ โปรง่ เบาสบาย ไปจนถงึ แสงสวา่ งภายใน สรา้ งความปลมื้ ปตี ใิ จใหแ้ กพ่ ระธรรมทายาทเอง คณะพระอาจารย์ พระพเ่ี ลยี้ ง เจา้ หนา้ ท่ี รวมถงึ สาธชุ นผเู้ ดนิ ทางมารว่ มสนบั สนนุ ปจั จยั สต่ี ลอดโครงการอบรม โครงการบรรพชาอุปสมบทธรรมทายาทชาวญ่ีปุ่นและชาวต่างชาติในคร้ังนี้ ได้แสดง ใหเ้ หน็ อยา่ งประจกั ษแ์ ลว้ วา่ การศกึ ษาและปฏบิ ตั ธิ รรมของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ นนั้ เชอื้ ชาติ ศาสนา หรือแนวคิดท่ีแตกต่าง ย่อมไม่เป็นอุปสรรค ต่างได้รับผลแห่งการปฏิบัติตาม ความวิริยอุตสาหะที่มี สมกับสุภาษิตของชาวญ่ีปุ่นท่ีว่า 仏も昔は凡夫なり(hotoke mo mukashi wa bonpu nari) แปลวา่ “แมพ้ ระพุทธเจ้าเอง ในอดีตก็เปน็ ปุถุชนเช่นกับเรา” อันเป็นการเสริมสร้างก�ำลังใจ ให้ประพฤติปฏิบัติตามพระพุทธองค์ แล้ววันหนึ่งก็จะเป็น เช่นพระองค์ ดว้ ยกำ� ลงั สามารถแห่งความเพียร พฤศจิกายน ๒๕๖๒ อยู่ในบญุ 51 www.kalyanamitra.org
หลวงพอ่ ตอบปัญหา เร่อื ง : หลวงพ่อทัตตชโี ว www.kalyanamitra.org
หลวงพอ่ ตอบปัญหา ถาม : ผู้ใฝ่ร้แู ละใคร่ในการศึกษา ฝกึ ฝนอบรมตนเองให้เปน็ คนเก่งและดี ควรมี คณุ สมบัติและคณุ ลกั ษณะอย่างไร ? ตอบ : ในสมัยพุทธกาลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยกย่องพระราหุลว่าเป็นเอตทัคคะคือเป็น ผเู้ ลิศในดา้ นผใู้ ครใ่ นการศึกษา พระราหุลเป็นโอรสของเจ้าชายสิทธตั ถะและพระนางยโสธรา เป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าสุทโธทนะกษัตริย์ผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อพระกุมารราหุล มีอายุ ๗ ปี พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ เสด็จโปรดพระญาติ ณ กรงุ กบิลพสั ด์ุ และมพี ระดำ� รสั ให้ พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรจัดการบรรพชาให้แก่ราหุลกุมาร และสามเณรราหุลได้ช่ือว่าเป็น สามเณรองคแ์ รกในพระพทุ ธศาสนา เม่ือสามเณรราหุลบวชแล้วก็ต้ังใจศึกษาเล่าเรียน ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย พระภกิ ษจุ ะวา่ กลา่ วตกั เตอื นอยา่ งใด สามเณรราหลุ กไ็ มเ่ ถยี ง ไมโ่ ตแ้ ยง้ เพราะทา่ นถอื วา่ ถา้ ใคร มาว่ากล่าวตักเตือนเหมือนมาช้ีขุมทรัพย์ให้ เพราะตามธรรมดาคนเรามองข้อบกพร่องของ ตวั เองไมอ่ อก มองยากและกวา่ จะเหน็ กน็ าน ฉะนนั้ ใครวา่ กลา่ วอะไรมาทา่ นกค็ อยรบั ฟงั อะไร ทเี่ ป็นประโยชนก์ เ็ อาไปปฏบิ ตั ติ าม ทา่ นมนี สิ ัยอย่างน้ี จนวันหนึ่งมีพระวินัยบัญญัติข้ึนมาไม่ให้พระภิกษุจ�ำวัดร่วมกับผู้ท่ีไม่ใช่พระภิกษุด้วยกัน พระภิกษุทั้งหลายจึงไม่อาจให้สามเณรราหุลนอนในท่ีอยู่ของตน สามเณรรับทราบว่า วินัย กเ็ ปน็ วนิ ัย ไมค่ ิดโตแ้ ยง้ ไมค่ ิดจะไปรบกวนใหใ้ ครเดอื ดร้อน เมอื่ ไม่มที จี่ ะนอน กไ็ ม่ตนื่ ตกใจ หาทางพ่ึงตนเอง ทลี่ �ำพังไม่มใี ครอยคู่ วรจะเป็นทใ่ี ดหนอ ในทสี่ ดุ ท่านจงึ เขา้ ไปนอนในเวจกุฎี ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยพิจารณาแล้วว่าเวจกุฎีเป็นท่ีสะอาด ประพรมด้วยธูปหอม มพี วงของหอมและพวงดอกไมห้ อ้ ย สวา่ งดว้ ยแสงประทปี ตลอดคนื ยนั รงุ่ เปน็ ทท่ี ไ่ี มเ่ บยี ดเสยี ด กบั ผูอ้ ืน่ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ อยู่ในบุญ 53 www.kalyanamitra.org
ใกลร้ ่งุ พระสัมมาสมั พุทธเจ้าเสด็จมา หมายจะเข้าไปเวจกุฎี สามเณรราหุลไดย้ ินเสียง กระแอมของพระองคจ์ งึ ออกมาถวายบงั คม เมอ่ื พระพทุ ธองคต์ รสั ถามจงึ กราบทลู ใหท้ รงทราบ พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้าทรงเกดิ ธรรมสังเวชว่า นีข่ ณะท่ีพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ สามเณรราหุล ยังไม่มใี ครดแู ล ดีทรี่ จู้ ักช่วยตวั เองได้ ตอ่ ไปภายหน้าเมอื่ พระองคป์ รนิ พิ พานแล้ว มสี ามเณร เข้ามาบวชกันมาก ๆ จะมีใครดูแล พระองค์ทรงเกิดธรรมสังเวช จึงทรงเรียกประชุมสงฆ์ และทรงบัญญัติพระวินัยเพ่ิมเติมจากที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว โดยมีพุทธานุญาตว่า ให้ภิกษุ นอนร่วมชายคาหรือท่ีมุงบังเดียวกับอนุปสัมบันหรือผู้ยังไม่ได้เป็นพระภิกษุติดต่อกันได้ ไม่เกิน ๓ คนื เพื่อใหม้ ีเวลาในการหาหรือจดั เตรียมทอี่ ยู่ใหอ้ นปุ สัมบัน แลว้ จงึ แยกกันนอน พระภิกษุท่ีมาประชุมกันต่างสรรเสริญสามเณรราหุลว่า แม้เป็นเด็กแต่ท�ำได้ดีชนิดที่ถ้าเป็น พระภกิ ษเุ องประสบเหตเุ ดยี วกนั นี้ กไ็ มแ่ นว่ า่ จะทำ� ไดด้ อี ยา่ งสามเณรราหลุ หรอื ไม่ เปน็ เหตใุ ห้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสชาดกเล่าเรื่องท่านราหุลในอดีตชาติว่า อย่าว่าแค่เป็นสามเณร แล้วใจเพชรเลย แม้ภพชาติในอดีตเคยเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็มีนิสัยใจเพชร ใฝ่การศึกษา ไมว่ ่ายากสอนยาก ไมด่ ้ือมาต้ังแต่เป็นสัตว์เดรจั ฉาน แล้วทรงเล่า “ติปัลลัตถมิคชาดก” ใหฟ้ ัง ในอดีตกาล ท่ีป่าใหญ่แห่งหน่ึงอยู่ใกล้กับนครราชคฤห์ มีกวางฝูงใหญ่อาศัยอยู่ในป่า มพี ญากวางเปน็ จา่ ฝงู ควบคมุ ใหล้ กู ฝงู อยหู่ ากนิ ในทนี่ น้ั ดว้ ยความสงบ นางกวางผเู้ ปน็ นอ้ งสาว ไดพ้ าลกู ชายมาฝากให้พญากวางผเู้ ปน็ พ่ชี ายชว่ ยสอนวิชามายาของกวาง เพอ่ื ให้ลูกเรียนรวู้ ิธี รกั ษาตวั รอด พญากวางกร็ บั เอาไวแ้ ละตง้ั ใจสอน กวางหลานชายกต็ งั้ ใจเรยี นตงั้ ใจฝกึ ลำ� บาก ยากเข็ญอยา่ งไรก็ไม่เคยบ่นไม่เคยทอ้ ไมน่ านก็เรยี นจบ ความจรงิ พญากวางตงั้ ใจสอนกวาง ทุกตวั แตก่ วางตวั อนื่ ๆ ไมค่ ่อยทนต่อการเรยี นการฝึก มักจะมขี ้ออ้างไปตา่ ง ๆ นานา ท�ำให้ ไมค่ อ่ ยมาเรยี น จงึ หากวางทเ่ี รยี นไดน้ อ้ ยมาก อยมู่ าวนั หนงึ่ กวางนอ้ ยไปตดิ บว่ งของนายพราน ที่มาวางดักไว้ จึงได้ใช้สรรพมายาของกวางท่ีร�่ำเรียนฝึกฝนมา ท�ำแกล้งตายจนมีแมลงวัน มาตอมและอีกาบนิ มาใกล้ นายพรานหลงเช่อื สนทิ ใจว่าตายแล้ว จึงแก้เชือกออกเพ่ือเตรยี ม แลเ่ นื้อ กวางไดจ้ งั หวะกร็ บี หนีหายเข้าป่าลึก กลบั ไปหาแมก่ วางโดยปลอดภยั เมอ่ื พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั จบจงึ ทรงประชมุ ชาดกวา่ หลานกวางนน้ั ไดม้ าเปน็ พระราหลุ สว่ นแมก่ วางได้มาเปน็ พระอบุ ลวรรณาเถรี ส่วนพญากวางนน้ั เปน็ พระสัมมาสัมพุทธเจา้ น้เี อง เราจะเหน็ วา่ ทา่ นราหลุ นนั้ ตงั้ แตเ่ ปน็ กวางกต็ ง้ั ใจเลา่ เรยี น ฉลาดเฉลยี วมาแตน่ น้ั เมอ่ื มาเกดิ เปน็ คน นิสยั ดี ๆ กต็ ดิ ตามมาด้วย ดงั นน้ั เมอ่ื มาพดู ถงึ ประเดน็ ทวี่ า่ ผใู้ ฝร่ ใู้ ฝก่ ารศกึ ษาจะหาตน้ แบบวา่ ควรมลี กั ษณะอยา่ งไร กค็ วรทจ่ี ะนำ� เอาบคุ คลในอดตี ท่ที ่านฝกึ ตวั เองมาได้แลว้ ต้งั แต่ ๗ ขวบ และฝกึ ตัวเองมาแล้ว ตง้ั แตส่ มัยเป็นสตั วเ์ ดรจั ฉาน มาเปน็ แบบอย่างแนวทางทจี่ ะฝกึ ตวั เองตามท่าน 54 อยู่ในบุญ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ www.kalyanamitra.org
วันนี้ หลวงพ่อจะขอสรุปคุณสมบัติหรือคุณลักษณะของผู้ใฝ่รู้ใฝ่การศึกษา โดยยึด พระราหุลเปน็ ตน้ แบบให้ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. ฝึกตวั เองใหเ้ ป็นคนกระหายความรู้ มฉี ันทะท่ีจะศึกษา ๒. ฝกึ ความออ่ นนอ้ มถอ่ มตนใหด้ ี ถา้ ขาดคณุ ธรรมความออ่ นนอ้ มถอ่ มตน กไ็ มม่ ใี ครเขา อยากสอนอยากใหค้ วามรู้ ถา้ เปน็ คนออ่ นนอ้ มถอ่ มตน ครบู าอาจารยท์ า่ นมวี ชิ าเทา่ ไร กอ็ ยาก จะสอนให้หมด ๓. ฝึกตรงตอ่ เวลา ถึงเวลาเรยี นเป็นเรียน ไม่มีข้ออา้ งขอ้ แมท้ จ่ี ะไม่เรียน ๔. ฝึกเปน็ คนวา่ งา่ ยสอนง่าย ไม่ใชค่ นชอบเถยี ง ๕. ฝึกเป็นคนรกั วนิ ัย ถงึ เวลาจะตอ้ งทำ� อะไร ก็ท�ำตามนั้น ๖. ฝึกเป็นคนตระหนักในความเคารพ ไปถึงไหนก็พยายามจับว่าใครมีอะไรดีอยู่ในตัว แล้วถ่ายทอดเอาความดีน้นั มาใสใ่ นตัวเรา เราจะไดเ้ ตม็ เป่ียมไปดว้ ยความรู้และคุณธรรม ๗. ฝกึ เปน็ คนไมด่ ดู าย มคี วามขวนขวายอยตู่ ลอดเวลา ไปถงึ ไหนกพ็ รอ้ มทจ่ี ะยน่ื มอื เขา้ ไป ช่วยในกจิ การท่ีควรท�ำ พร้อมที่จะท�ำงานอะไรกต็ ามทไี่ ม่มโี ทษ เชน่ พระราหลุ ท่านไปถงึ ไหน เมอื่ พระภิกษทุ ำ� อะไร ทา่ นกเ็ ข้าไปช่วยหยบิ ช่วยจบั ช่วยเป็นมือเปน็ เท้าให้ พอพระภกิ ษวุ ่าง ท่านมีความรู้อะไรก็สอนให้ เมื่อพระภิกษุท่านเต็มใจสอนให้ ความรู้ก็เต็มตัวพระราหุล นน่ั แหละ ๘. ฝกึ เปน็ คนพง่ึ ตวั เอง ชว่ ยตวั เองได้ เชน่ พระราหลุ ๗ ขวบ ไมพ่ งึ่ ใครหาทนี่ อนให้ แลว้ เหน็ ว่าเวจกฎุ เี ปน็ ทส่ี ะอาดพอทจี่ ะนอนได้ ก็อาศยั เวจกุฎนี ัน้ ไปก่อน หาทางแกไ้ ขให้ผ่านไปได้ นค้ี อื ผูม้ นี สิ ัยชว่ ยตวั เองได้ ๙. ฝกึ อดทน เกดิ เปน็ คนตอ้ งทง้ั อดและทนจงึ จะเอาดไี ด้ พระราหลุ อยใู่ นวงั มาตลอดชวี ติ ถึงเวลาจำ� เป็นก็ยังอดทนได้ ๑๐. หมั่นฝึกตัวเองให้มีสติ มีอะไรเกิดขึ้นไม่ต่ืนตระหนก ตั้งสติ ใช้ดวงปัญญาหาทาง แกไ้ ข เหมอื นพระราหลุ เหมอื นกวางนอ้ ยตดิ บว่ งกไ็ มต่ น่ื ตระหนก กวางทต่ี นื่ ตระหนกเมอ่ื โดน บว่ งรดั ยง่ิ ดนิ้ มนั ยง่ิ รดั คอตาย แตก่ วางนอ้ ยมสี ตริ ตู้ วั ทนั ดงึ วชิ าทเี่ รยี นรแู้ ละฝกึ ไวแ้ ลว้ มาแกไ้ ข เอาตัวรอดได้ ๑๑. สิ่งส�ำคัญท่ีสุด จะเล่าเรียนเขียนอ่านอะไรก็ตาม ความรู้น้ันต้องเรียนจนสามารถ นำ� ไปใชช้ ว่ ยชวี ติ เราไดจ้ ริง ๆ สดุ ทา้ ยขอฝากเปน็ ขอ้ คดิ วา่ แมผ้ เู้ รยี นจะมคี วามตง้ั ใจใฝร่ จู้ รงิ เพยี งใดกต็ าม แตจ่ ะประสบ ความสำ� เร็จได้ กต็ ้องไดค้ รอู าจารยท์ ด่ี ี มคี วามรู้จริงในเรอื่ งน้นั ๆ และท่านเต็มใจถา่ ยทอด วิชาความรู้ใหอ้ ย่างถูกตอ้ งและครบถ้วน ชนิดไม่หวงวิชาดว้ ย พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ อยู่ในบญุ 55 www.kalyanamitra.org
อา่ นอดตี ขดี อนาคต เร่ือง : พระมหาพงศ์ศกั ดิ์ านโิ ย, ดร. ยอ้ นอดีต...ท่องประวตั ิศาสตรพ์ ระพทุ ธศาสนา ตอนท่ี ๒๓ : ความสัมพันธแ์ ละความสำ� คญั ของศีล สมาธิ ปัญญา ใน “มหาปรินิพพานสูตร” พระพุทธองค์ประทาน “ธรรมาทาส” (dhammādāsa) หรือ “แว่นธรรม” กลา่ วคือ มีศรัทธาตั้งมั่นในพระรตั นตรัยและมศี ลี อนั บริสุทธิ์ที่เป็นไปเพอ่ื สมาธิ เพ่อื ให้ พระพทุ ธสาวกพยากรณค์ ตภิ พเบอ้ื งหน้าของตนเอง ผู้ใดประกอบด้วยธรรมเหล่าน้ี ย่อมเป็นเหตุให้ ไม่ตกไปในทุคตภิ ูมิ เป็นพระโสดาบันผทู้ ี่จะสำ� เรจ็ เป็นพระอรหนั ต์ต่อไปในอนาคต หากมองโดยผวิ เผนิ อาจทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจไปวา่ “ขอใหม้ เี พยี งศรทั ธาและศลี เทา่ นนั้ เรากจ็ ะสามารถ บรรลมุ รรคผลนพิ พานได”้ แตห่ ากเราพจิ ารณาถงึ พระพทุ ธดำ� รสั ชว่ งทา้ ยทว่ี า่ “ศลี ทพ่ี ระอรยิ ะชอบใจ... เป็นไปเพ่อื สมาธ”ิ นน่ั หมายความว่า “นอกจากมีศีลอันบริสทุ ธ์แิ ล้ว จะต้องเจรญิ สมาธภิ าวนาด้วย” ซงึ่ เม่อื ศกึ ษาใน “มหาปรินิพพานสูตร” ต่อไป เราจะพบถงึ ความเชื่อมโยงดงั ตอ่ ไปนี้ “ศลี มลี กั ษณะอยา่ งน้ี สมาธมิ ลี กั ษณะอยา่ งน้ี ปญั ญามลี กั ษณะอยา่ งนี้ สมาธอิ นั บคุ คลอบรมโดย มศี ลี เปน็ ฐาน ยอ่ มมผี ลมาก มอี านสิ งสม์ าก ปญั ญาอนั บคุ คลอบรมโดยมสี มาธเิ ปน็ ฐาน ยอ่ มมผี ลมาก มีอานิสงส์มาก จิตอันบุคคลอบรมโดยมีปัญญาเป็นฐาน ย่อมหลุดพ้นโดยชอบจากอาสวะทั้งหลาย คือ กามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ” (ที.ม. ๑๐/๑๔๓/๘๙, ๑๐/๑๕๕/๑๐๐, ๑๐/๑๕๙/๑๐๔, ๑๐/๑๖๒/๑๐๘, ๑๐/๑๘๖/๑๓๔, ๑๐/๑๘๘/๑๓๗ แปล. มจร) พระพทุ ธด�ำรสั น้ี พระพุทธองคต์ รัสถึง ๖ คร้งั ใน ๖ แห่ง คือ อัมพลฏั ฐกิ าวนั โกฏิคาม นาทิกคาม อมั พปาลวี นั ภณั ฑคุ าม และอานนั ทเจดยี ใ์ นโภคนคร โดยตรสั ถงึ ความเชอ่ื มโยงของศลี สมาธิ ปญั ญา กลา่ วคือ สมาธิทม่ี ีผลมาก ตอ้ งมีศีลเปน็ ฐาน และปัญญาที่มผี ลมาก ต้องมีสมาธิเปน็ ฐาน นอกจากน้ี พระพุทธองค์ยังได้ตรัสถึงความสัมพันธ์ระหว่างสมาธิและปัญญาไว้เป็นพิเศษใน “ธรรมบท” ท่ีว่า “ฌานยอ่ มไมม่ แี กผ่ ู้ไม่มปี ัญญา ปญั ญาก็ย่อมไม่มแี กผ่ ู้ไม่มีฌาน ผมู้ ีทั้งฌานและปัญญานน่ั แลจึงนบั วา่ อยู่ใกล้นิพพาน” (ขุ.ธ. ๒๕/๓๗๒/๑๔๙) ซ่ึงเป็นการกล่าวถึงความสัมพันธ์และเป็นการยืนยันถึง ความส�ำคญั ของสมาธแิ ละปญั ญา ว่าเปน็ สงิ่ ทเ่ี ก้ือกลู กันและไมส่ ามารถทง้ิ ขาดจากกันไดน้ ัน่ เอง ดังนนั้ เมือ่ เราศกึ ษาพระไตรปิฎก ซึง่ เปน็ แหล่งบันทึกพระธรรมวนิ ัยของพระพุทธองค์ รวมถงึ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา เราจึงต้องค้นคว้าและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพ่ือ ปอ้ งกันการเขา้ ใจทผี่ ดิ พลาดคลาดเคลอ่ื นไป 56 อยู่ในบุญ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ www.kalyanamitra.org
ย้อนอดีต...ทอ่ งประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ตอนท่ี ๒๓ ภาพ : พ.ณฏั ฐวฒั น์ ณฏฐฺ ิโต หลวงพี่เปรม ความสัมพนั ธ์และความส�ำคญั ของ ศลี -สมาธิ-ปญั ญา “แว่นธรรม” (จากตอนท่ีแล้ว) และความสมั พนั ธ์ระหว่าง ศลี สมาธิ ปัญญา ๑. ใคนวพารมะเลสื่อัมมมใาสสอมั ันพไุทมธห่ เวจ่ันา้ ไหว อนั๒ไ.มค่หววาน่ั มไเหลวื่อใมนใพสระธรรม “สมอานั ธเม”ิปศี น็ ลี ฐาน ๔. “ศีล” ทพ่ี ระอรยิ ะชอบใจ ไมถ่ ูกตัณหาและทฐิ คิ รอบงำ� อันเปน็ ไปเพอ่ื “สมาธ”ิ “ปัญญา” อ๓ัน.ไคมวห่ าวมนั่ เลไหื่อวมใในสพระสงฆ์ อนั มีสมาธิเปน็ ฐาน เผากเิ ลส จติผอ่ งใสหลดุ พ้นจากอาสวะทง้ั หลาย ฐานของแว่นขยาย คอื ความเล่อื มใสอันไม่หวนั่ ไหวในพระรตั นตรยั กรอบของเลนส์ คือ ศีล ท่ีตอ้ งรักษาเลนสไ์ วใ้ หม้ ัน่ คง เลนส์ คอื สมาธิ ท่ีผ่องใสไร้นิวรณ์ มองเหน็ ได้ตามความเป็นจริง แสง คือ ปัญญา (ภาวนามยปญั ญา) ทร่ี วมไว้ทจ่ี ดุ เดียวจนแจม่ แจ้ง กระทั่งเผากเิ ลสให้หมดส้นิ ไปจากจติ ใจได้ในทส่ี ดุ ทมี่ า: พระสุตตนั ตปิฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค มหาปรนิ พิ พานสูตร เลม่ ๑๐ แปล. มจร www.kalyanamitra.org
๔ ช่องทาง..ท่คี ุณจะได้รับสอ่ื ดี ๆ โดยตรงจากส�ำ นกั ส่ือธรรมะก่อนใคร • อ่าน e-book วารสารอยูใ่ นบุญและหนังสือทุกเล่มทส่ี �ำนกั ส่ือธรรมะผลติ • รบั ชม รับฟงั และโหลดธรรมะดี ๆ ผา่ น YouTube เช่น ไฟล์เสียงน�ำนั่งสมาธิ โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย สกปู พเิ ศษ Case Study รวมแล้วนับหม่นื ๆ ชนิ้ • อ่านบทความดี ๆ ทเ่ี ราคัดมาแล้วเพ่อื คุณ จาก ๔ ช่องทาง เพียงคณุ สแกน QR Code ผา่ นมอื ถอื หรือแทบ็ เล็ตของคณุ ไลน@์ สำ� นกั สอื่ ธรรมะ เพจสำ� นกั ส่ือธรรมะ Line ID : @hkp4852i ส�ำนกั สอื่ ธรรมะ บลอ็ กเกอร์สำ� นักสื่อธรรมะ dhamma-media.blogspot.com สนใจสมคั รมารบั บญุ เป็นหนงึ่ ในทมี งานเผยแผ่สอื่ ธรรมะกบั เรา ได้ท่ี Line ID : rung0622265415 www.kalyanamitra.org
ทป่ี รึกษา คุณสมบัติสำ� คัญของคนเกง่ พระวิเทศภาวนาจารย์ วิ. (สมบญุ สมมฺ าปญุ โฺ ) พระสุธรรมญาณวเิ ทศ วิ. (สุธรรม สุธมโฺ ม) คนเราไม่ไดเ้ กง่ มาตงั้ แต่เกดิ การที่เราจะเกง่ อะไรไดน้ น้ั พระครูปลัดสุวัฒนโพธคิ ุณ (สมชาย านวุฑฺโฒ) ต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนจากครูบาอาจารย์ที่เก่งด้วย พระครสู มหุ ์วิษณุ ปญฺ าทโี ป แต่บางคนแม้ได้เรียนกับครูที่เก่งที่สุดแล้ว ก็ยังไม่เก่งสักที พระครธู รรมธรอารักษ์ าณารกโฺ ข เพราะเป็นคนว่ายาก สอนยาก พระครใู บฎีกาอำ� นวยศักดิ์ มุนสิ กฺโก ฉะนั้น คุณสมบัติส�ำคัญข้อหน่ึงส�ำหรับผู้ที่อยากเป็น บรรณาธิการบรหิ าร คนเก่งคอื ต้องเป็นคนว่าง่าย ก็เหมอื นกบั เรา ถ้าเราคิดสอน พระสมบตั ิ รกฺขิตจิตโฺ ต อะไรใครแลว้ มคี นเถยี ง ไม่ฟังดว้ ยความเคารพ ไม่ยอมทำ� เรากไ็ มอ่ ยากจะสอนคนนน้ั กองบรรณาธิการ ดังนัน้ ...จงึ มี ๓ เทคนิคดี ๆ ทที่ �ำให้ครูเก่ง ๆ อยาก พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒวิ โํ ส, พระมหามญิ ช์ พุทฺธวิ ฑฺโฒ, ดร., ถา่ ยทอดสดุ ยอดความรใู้ หแ้ ก่เราง่าย ๆ ดังน้ี พระมหาธีระ นาถธมโฺ ม, พระวฑิ ูรย์ อุชุจาโร, ๑. รับฟังค�ำสอนด้วยดี คือ หากเราผิด ก็อย่ากลบเกล่ือน พระสุรศักด์ิ ปภสสฺ โร, พระณฏั ฐวัฒน์ ณฏฺ โิ ต, อย่าเถียง อยา่ ขัดคอ และไมจ่ อ้ งจับผิด พระมหาอรรถพล กุลสทิ โฺ ธ, พระปลัดบริบรู ณ์ ธมฺมวิชฺโช, ๒. ท�ำตามค�ำสอนด้วยดี คือ ให้รีบท�ำตาม อย่าอิดออด พระมหาภรู ชั ทนตฺ วํโส, พระมหาณฐั วุฒิ ณฏฺชโย, ชกั ชา้ จนคนสอนหมดอารมณท์ อ่ี ยากจะถา่ ยทอดสง่ิ ดี ๆ ให้ วันชัย ภทั รโกมล, นำ�้ ผงึ้ พมุ่ มาล,ี และทสี่ �ำคญั กอ็ ยา่ ด้ือ ดนั ทรุ งั ท�ำในสง่ิ ตรงขา้ มกบั ทค่ี รสู อน ระพพี รรณ ใจภักด,ี รดั เกลา้ ลวิ่ เฉลมิ วงศ,์ ๓. รู้คณุ ของครผู ูส้ อน คอื ไม่ลบหลู่คุณท่าน ไม่โกรธ และ อมรรัตน์ สมาธิทรพั ย์ดี, สุธดิ า จินดากจิ นุกลู , ตอ้ งอดทน เพราะบางคนทนอะไรไดส้ ารพดั เช่น ทำ� งาน กนกพร เทศนา, พรรณนภิ า ทองเตม็ , หนักแค่ไหนก็ทนได้ ป่วยไข้ขนาดไหนก็ไม่บ่น แต่ อมรพรรณ ทองสมบูรณ์, พงษว์ นาถ ดวงปาน, พอเจอค�ำสอน คำ� ตกั เตอื น กลบั เกดิ ความคบั แคน้ จตรุ พร สมแกว้ , กติ ตศิ กั ดิ์ พรหมสขุ , เมธนิ ี จอกทอง, หรือพูดสวนข้นึ ทันที บญุ ฐิสา สร้อยสำ� โรง, เมษนิ ยี ์ คลา้ ยอดุ ม, อรยิ า ผาลาโห, จะเหน็ วา่ ถ้าเราเป็นคนว่างา่ ยแล้ว ใคร ๆ กอ็ ยาก วา่ ที่ ร.ต. วทิ วัส ยงถาวร, สุณิษา วงษว์ ทิ ยา จะถา่ ยทอดแนะนำ� สง่ิ ดี ๆ ใหแ้ กเ่ รา จนเรากลายเปน็ ฝา่ ยภาพ คนเก่งในท่ีสุด ตรงกันข้ามหากเราเป็นคนว่ายาก ศนู ย์ภาพนง่ิ และบรรณาธกิ ารภาพ แคม่ คี นเหน็ เขากไ็ มอ่ ยากเขา้ ใกล้ ไมอ่ ยากยงุ่ อยาก ฝา่ ยศลิ ปกรรม เตือน ซึ่งถ้าเป็นอย่างน้ีเราจะพัฒนาเป็นคนเก่ง สถาบนั พุทธศิลปแ์ หง่ โลก, พระศริ ิพงษ์ สิริวโํ ส, ไดย้ ากมาก... ลอื พงศ์ ลลี พนงั , ชัยชนะ กติ ตโิ สภาพันธ,ุ์ อดิเศรษฐ์ นัฐกรานตน์ วุ ฒั น์, ธาดา วงศ์คณุ านนท์, สนั ทัด ศกั ดิ์สาคร, สพุ ตั รา ปัญญาแสง, ดารณี โกยทอง ฝ่ายโฆษณา ปราณี ชยั ผดงุ ๐๙ ๑๕๔๙ ๒๔๙๒ ฝา่ ยสมาชกิ ปิยธิดา เกตสุ ถล ๐๙ ๒๖๓๒ ๕๔๖๒ โรงพิมพ์ บรษิ ทั รุ่งศิลป์การพมิ พ์ (๑๙๗๗) จ�ำกดั จัดทำ� โดย ส�ำนักส่ือธรรมะ วัดพระธรรมกาย วารสาร “อยูใ่ นบุญ” เปน็ วารสารเพื่อการเผยแผธ่ รรมะ ในพระพุทธศาสนาเปน็ รายเดือน มวี ตั ถุประสงคด์ ังตอ่ ไปนี้ ๑. เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในธรรมะขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเกิดก�ำลังใจในการปฏิบัติธรรม เพ่ือเขา้ ถงึ ธรรมะภายใน ๒. เพอ่ื ปลกู ฝงั คณุ ธรรมแกป่ ระชาชนทกุ เพศ ทกุ วยั ทกุ อาชพี และทกุ ระดับการศกึ ษา ๓. เพ่ือถ่ายทอดความรู้ในพระพุทธศาสนาให้ง่ายแก่ การนำ� ไปใชใ้ หเ้ ปน็ ประโยชน์ในชีวติ ประจำ� วนั ๔. เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนให้คนในสังคมเป็นคนดี ท่โี ลกต้องการ ๕. เพ่ือเป็นส่ือกลางในการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ให้เป็นทพ่ี ึง่ แกช่ าวโลกสบื ไป www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
วธิ ีง่ายๆ ทที่ ำ�ใหเ้ ราไดบ้ ุญทุกวัน จดั พมิ พป์ ฏทิ นิ ปใี หม่ เพอ่ื มอบเปน็ ธรรมบรรณาการในวาระพเิ ศษสดุ ปที องของคณุ ยาย วันคลา้ ยวนั เกดิ ครบ 111 ปี คณุ ยายอาจารยม์ หารตั นอุบาสกิ าจันทร์ ขนนกยงู บารมีคุณยายจะปกป้องคุ้มครองลูกหลานทุกคนให้อยู่เย็นเป็นสุขทุก ๆ วัน ตลอดปี ตลอดไป... ในปฏิทินมีบทสวดธรรมจักร มี QR Code ท่ีสามารถสแกนแอปพลิเคชัน เพื่อใช ้ ในการสวดและส่งยอดสวดธรรมจักร มีช่องบันทึกจ�ำนวนจบในการสวดธรรมจักรในแต่ละวัน เพอ่ื ไวท้ บทวนความปลม้ื อกี ทง้ั ในปฏิทินยังบอกวนั งานบุญใหญข่ องวดั พระธรรมกายด้วย เพ่ือ ให้ผมู้ ีบญุ ไมพ่ ลาดข่าวงานบุญใหญแ่ มแ้ ตเ่ พียงบญุ เดยี วตลอดปี สนใจจารกึ ชอ่ื สอบถหารมือราโยทลระ.เ0อยี9ด1ได5้ท4่ผี 9ู้ปร2ะ4สา9น2งานภาคทท่ี ่านสงั กัด หมดเขตส่งรายชือ่ จารึกวนั ที่ 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2562 www.kalyanamitra.org
Search