ปที่ ๑๘ ฉบับที่ ๒๑๔ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ขอเชิญรว มพิธีทอดกฐนิ สามัคคบี ำรงุ วดั วันอาทติ ยท ี่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ณ วัดพระธรรมกาย จังหวดั ปทุมธานี www.kalyanamitra.org
สารบัญ ๐๒ ๐๖ ฉบบั ท่ี ๒๑๔ ประจ�ำ เดือนตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๐ ๑๖ • สรา้ งพลังชวี ติ ณ เมอื งยาบฮิ ู (Nyabihu) ๒๒ • ท�ำไมใคร ๆ จึงนยิ มท�ำบญุ ทอดกฐิน ? ๓๒ • พลกิ ชวี ิตด้วยบญุ กฐิน ๓๖ • ท�ำไม..ตอ้ งท�ำบุญสร้างสะพานและสร้างถนนไว้ในพระพทุ ธศาสนา ? ๔๒ • ทบทวนบุญวนั ธรรมชยั และวนั ครูผู้คน้ พบวิชชาธรรมกาย ๔๘ • พิธถี วายคลิ านเภสชั และอปุ กรณ์ทางการแพทย์ ๕๒ • หลวงพอ่ ตอบปญั หา ๕๖ • หลกั ฐานธรรมกายในคัมภีรพ์ ุทธโบราณ (ตอนท่ี ๖๑) ๖๔ • ธารน�้ำใจชาววัดพระธรรมกายหล่งั ไหลสูผ่ ู้ประสบภยั • ขา่ วสารเครือขา่ ยคณะศิษย์ • ยอ้ นอดีต...ท่องประวตั ิศาสตร์พระพุทธศาสนา (ตอนที่ ๓๓) • อยา่ ปล่อยใหช้ ีวติ หมดสิทธใ์ิ ชท้ รพั ย์ทัง้ ชาตินแี้ ละชาตหิ นา้ ดาวน์โหลด PDF อ่าน e-book www.kalyanamitra.org
“พญามารแพเ้ ดด็ ขาดเมื่อเวลาไร เวลานน้ั หมดทกุ ข์ในโลก เท่าปลายผมปลายขนกไ็ ม่มี มคี วามสุขเหมือนยังกับทา้ วสวรรค์ หรอื เหมอื นกับทา้ วพรหม หรอื เหมอื นกับพระนิพพาน สุขขนาดนั้น เปน็ สุขส�ำราญขนาดน้ัน” พระมงคลเทพมนุ ี (สด จนฺทสโร) ผ้คู ้นพบวิชชาธรรมกาย www.kalyanamitra.org
การเดินทางเพอ่ื สันติภาพโลก เร่อื ง : กองบรรณาธิการ www.kalyanamitra.org
สรณ้า(Nงเมyพaอื bลงiยhงั าuชบ)ิฮวี ู ิต ในหลายเดือนก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-๑๙ ระบาด พระอาจารย์ ดร.ปรมัย ธนิสฺสโร และพระอาจารย์ทิโมตี ธีรนนฺโท ได้ไปที่เมืองยาบิฮู (Nyabihu) ทางตอนเหนือของ ประเทศรวันดา (Rwanda) เพ่อื น�ำนงั่ สมาธิ และแสดงธรรม ในหัวข้อการสร้างพลังวัยสดใส (Youth Empowerment) แกช่ มรม Rwanda Youth Club ซงึ่ มผี สู้ นใจเขา้ ฟงั จำ� นวนมาก www.kalyanamitra.org
พระอาจารยท์ โิ มตี ธรี นนโฺ ท แสดงธรรมโดยชใี้ หเ้ หน็ วา่ การเพมิ่ ศกั ยภาพนน้ั ตอ้ งเรม่ิ จาก ภายใน ซงึ่ จะทำ� ใหร้ จู้ กั ตวั เองอยา่ งลกึ ซง้ึ ตงั้ แตด่ า้ นความสามารถทตี่ วั เองมี Passion ในชวี ติ และสงิ่ ส�ำคญั ทขี่ าดไม่ได้เลยกค็ ือ การเลอื กส่งิ ที่ถูกต้องเข้ามาในชีวติ แต่การท่ีใครจะเลือกสิ่งท่ีถูกต้องให้ชีวิตได้น้ัน เขาต้องมีการหย่ังรู้ (Intuition) ที่ชัด มคี วามรบั ผดิ ชอบท้ังทางด้านสุขภาพ ความสัมพนั ธ์ เศรษฐกจิ และจิตใจของตัวเอง เพราะ ถ้าคนเราไม่มีความรับผิดชอบ ก็อาจจะเกิดปัญหาตามมาอย่างมากมาย ส่วนวิธีท่ีท�ำให้เรา มีการหย่ังรู้ที่ชัดเจน เพื่อท�ำให้เกิดการตัดสินใจท่ีดีขึ้นในการเลือกทางเดินชีวิตได้เหมาะสม กค็ ือ การท�ำสมาธิ จากน้นั พระอาจารย์ทโิ มตี ธีรนนโฺ ท จงึ น�ำทุกคนนง่ั สมาธิ และบอกถงึ ประโยชนข์ อง การทำ� สมาธิ ซงึ่ หลาย ๆ คนรสู้ กึ ผอ่ นคลายและมคี วามสขุ จนมผี หู้ ญงิ คนหนง่ึ บอกวา่ เธอรสู้ กึ เหมือนลอยอยู่ในอากาศ ส่วนอีกคนก็บอกว่า เธอรู้สึกว่าปราศจากความคิดท้ังปวง และ ๐4 อยู่ในบุญ ตุลาคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ท่ีน่าปล้ืมใจคือ มีชายคนหน่ึงบอกว่าสามารถ เห็นพระอาทิตย์สว่างได้ตลอดเวลา ซ่ึงตอนที่ พระอาทิตย์สว่างนั้น เขารู้สึกเหมือนตัวเขา หายไป เหลือเพียงความรักและความเมตตา ทม่ี ตี ่อเพื่อนมนุษย์ดว้ ยกัน พลังวัยสดใสได้ปรากฏข้ึนจากภายใน ของชาวเมืองยาบิฮูแล้ว เป็นพลังมวลแห่ง ความสุขสงบ ความรัก ความเมตตา และเห็น คณุ คา่ ในตวั เองทจี่ ะไปบนั ดาลใหส้ ง่ิ ดี ๆ เกดิ ขน้ึ ที่นต่ี ่อไป... ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ ๐5 www.kalyanamitra.org
เรอ่ื งจากปก เรือ่ ง : ร.ล่วิ เฉลมิ วงศ์ www.kalyanamitra.org
เพราะการทอดกฐนิ เปน็ บญุ ทที่ ำ� แลว้ ไดบ้ ญุ มาก อกี ทงั้ แตล่ ะวดั สามารถจดั ทอดกฐนิ ไดแ้ ค่ ปลี ะครง้ั เทา่ นนั้ และทสี่ ำ� คญั หลงั เสรจ็ พธิ ที อดกฐนิ แลว้ ยงั ไดร้ บั อานสิ งสก์ ฐนิ กนั ทงั้ พระ ทง้ั โยม ดว้ ยเหตนุ คี้ นโบราณจงึ ถงึ กบั ปลกู ฝงั ลกู หลานไวว้ า่ ครงั้ หนงึ่ ในชวี ติ เราตอ้ งเปน็ ประธานกองกฐนิ ใหไ้ ด้ เพราะมคี วามเชอื่ วา่ การไดเ้ ปน็ ประธานจะทำ� ใหไ้ ปเกดิ เปน็ ผนู้ ำ� คน มบี รวิ ารมาก มง่ั มศี รสี ขุ เจรญิ กา้ วหนา้ ในชวี ติ และบรรลธุ รรมหมดกเิ ลสเขา้ นพิ พานไดโ้ ดยงา่ ย... ขออานงกสิ างรสทอ์ ำ�ันบโดุญดทเอดดน่ กฐิน ๕ ประการ คุณรู้ไหม..การทอดกฐินมีอานิสงส์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษอย่างไร ? แล้วท�ำไมบรรพบุรุษ ปยู่ ่าตายายของเราถงึ ชอบทำ� บุญเปน็ ประธานกฐินกันมาก ? อานิสงส์ประการที่ ๑. การถวายกฐินทานถือเป็น “สังฆทาน” คือเป็นทาน ที่ถวายไม่เฉพาะเจาะจงกับพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ซ่ึงถือว่าได้บุญมากกว่าการถวายทานแด่ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เพียงพระองคเ์ ดยี ว และถา้ ผ้ใู หท้ านให้ตามหลักสัปปุริสทาน* ด้วยแล้ว ก็จะย่ิงส่งผลให้เป็นผู้มั่งคั่ง ร�่ำรวย มีโภคทรัพย์มาก มีรูปงาม มีบริวารอยู่ในโอวาท และ ทรัพย์สมบตั ิไม่สูญสนิ้ จากภัยใด ๆ *สัปปุริสทาน คือ การให้ทานแบบสัตบุรุษ คือ ให้ด้วยศรัทธา ให้ด้วยความเคารพ ให้ตามกาลอันควร ใหโ้ ดยมีจติ อนุเคราะห์ ใหโ้ ดยไมก่ ระทบตนและผอู้ ืน่ ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ ๐7 www.kalyanamitra.org
อานิสงส์ประการที่ ๒. ในชาติที่เรามีบุญบารมีเต็มเปี่ยมได้เกิดไปเจอพระ- สัมมาสัมพุทธเจ้า และถ้าเราได้เกิดเป็นชาย พระองค์ก็จะประทานการบวชให้ ที่เรียกว่า “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” การบวชแบบน้ีไม่ได้บวชกันง่าย ๆ ไม่ใช่ใครคิดอยากบวชก็บวชได้ เพราะคนทพี่ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ จะทรงบวชใหน้ น้ั ตอ้ งมบี ญุ บารมที ส่ี งั่ สมมามากพอ โดยเฉพาะ บญุ กฐนิ ทาน บุญถวายผา้ ไตรจีวร และเคยตัง้ จติ อธษิ ฐานมาดว้ ย ส่วนในกรณีทเ่ี กิดเปน็ หญิง ก็จะได้ครอบครองเครื่องประดับที่สูงค่าที่สุดในยุคนั้น เช่น เคร่ืองประดับมหาลดาปสาธน์ เหมอื นมหาอุบาสิกาวสิ าขาท่สี ง่ั สมบุญจากการถวายผา้ ไตรจวี รมานบั ภพชาติไมถ่ ้วน ๐8 อยู่ในบุญ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
อานสิ งส์ประการท่ี ๓. ไม่วา่ จะเกดิ เปน็ หญิงหรือชาย ก็จะไดค้ รอบครองเส้ือผา้ อาภรณเ์ ครอื่ งนงุ่ หม่ อนั ประณตี งดงามสงา่ เพราะไดส้ รา้ งเหตแุ หง่ การถวายผา้ ไวใ้ นพระพทุ ธ- ศาสนา อานสิ งส์ประการท่ี ๔. จะมผี วิ พรรณวรรณะงดงาม ละเอยี ด ผอ่ งใส สขุ ภาพผวิ ดี ดูสว่างมีออร่า ไมเ่ ป็นโรคผวิ หนัง ไร้สวิ ฝา้ จดุ ด่างดำ� เปน็ ทตี่ ง้ั แหง่ ศรทั ธาของมหาชนทัง้ หลาย อานิสงส์ประการที่ ๕. จะเป็นผู้ได้รับสมบัติตามกาล เพราะได้สร้างเหตุ คือ ท�ำบุญกฐินซึ่งเป็นบุญตามกาลเอาไว้ เช่น ถ้าปลูกผลไม้ก็จะได้ผลผลิตจ�ำนวนมากตรงตาม ฤดกู าลนัน้ ๆ หรือถา้ ไดท้ รัพยส์ มบตั ิก็จะไดต้ รงตามกาลที่จะใช้ เชน่ ปรารถนาทีจ่ ะไดเ้ งิน มาลงทุนในวัยสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะได้ตรงตามกาล ไม่ใช่ไปได้ตอนแก่ชราหรือตอนป่วยไข้ ที่หมดเร่ยี วหมดแรงจนไมส่ ามารถใชท้ รพั ย์นน้ั ได้เตม็ ท่ีแลว้ สรปุ และเรยี บเรยี งจาก: • พระไตรปฎิ ก เลม่ ที่ ๒๒ พระสตุ ตนั ตปฎิ ก เลม่ ที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉกั กนบิ าต ๘ สัปปรุ สิ ทานสูตร • อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปุปผวรรคท่ี ๔ เรื่องนางวิสาขา • อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปณั ฑติ วรรคที่ ๖ เรอื่ งพระมหากปั ปินเถระ • พระไตรปฎิ ก เลม่ ที่ ๓๒ พระสตุ ตันตปฎิ ก เลม่ ที่ ๒๔ ขทุ ทกนิกาย อปทาน ภาค ๑ ปิลินทวรรคท่ี ๔๐ ปิลินทวัจฉเถราปทานที่ ๑ (๓๙๑) ว่าด้วย ผลแหง่ การถวายไทยธรรมอันสมควร ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ ๐9 www.kalyanamitra.org
สัมภาษณ์พเิ ศษ พลกิ ชวี ติ ดว้ ยบญุ กฐนิ เร่ือง : กองบรรณาธกิ าร คุณนงนุช แต้พานิช (เภสชั กร) พลกิ ชวี ิตจากเดก็ ธรรมดา สคู่ วามสำ� เรจ็ ดว้ ยบุญกฐนิ ต้ังแต่ยังเป็นเด็กน้อย ด้วยความที่เรามีพ่อ เป็นต�ำรวจ ชีวิตวัยเด็กต้องติดสอยห้อยตามพ่อ ไปตามวงเหลา้ แม่ก็อยวู่ งไพ่ เราเห็นชวี ติ แบบนมี้ า ตง้ั แต่เดก็ มีเพ่อื นเกเรเรียนไมจ่ บ มีครอบครัวก่อน วยั อนั ควร แตต่ อนเดก็ เรามคี วามตง้ั ใจเรยี น คอ่ นขา้ ง ใฝด่ ี แตจ่ รงิ ๆ มจี ดุ เปลยี่ นคะ่ คอื เรามโี อกาสเขา้ วดั ตั้งแต่มัธยมปลาย ตอนนั้นที่โรงเรียนจัดค่าย อบรมคุณธรรมให้เด็ก ท�ำให้เรารู้สึกว่าการศึกษา ธรรมะหรือการท�ำความดีคือสิ่งท่ีมีคุณค่าต่อชีวิต หลงั จากค่ายนัน้ พวกพี่ ๆ ชวนไปวดั ทุกวันอาทิตย์ ต้นเดือน พอไปถงึ วัดกเ็ ดินไปเจอจดุ ทเ่ี ขาเขยี นปา้ ย ไว้ว่ารับสมัครอาสาสมัคร สมัยนั้นยังเป็นสภาฯ หลังคาจาก เราไปวัดไม่รู้ว่าจะท�ำอะไร จึงไปเปน็ อาสาสมัคร ตอนนนั้ เราเปน็ เดก็ เราเหน็ ผใู้ หญ่ เขาท�ำบุญกัน แต่ด้วยความท่ีเราไม่ได้ มีก�ำลังทรัพย์ จึงใช้ก�ำลังกายก�ำลังใจ ของเราในการทจ่ี ะมาสัง่ สมบุญ หาบุญ ใหต้ วั เราเองดว้ ยการเปน็ อาสาสมคั ร ซงึ่ เป็นโอกาสดีท่ีท�ำให้เราได้อยู่ใกล้ชิด ค�ำสอนของหลวงพ่อ ได้ใกล้ชิดธรรมะ มากขนึ้ มพี ี่ ๆ คอยดูแล มพี ระอาจารย์ คอยสอนเรา ทุก ๆ อาทิตย์ต้นเดือน เราจะ ได้น่ังสมาธิและฟังธรรมจากหลวงพ่อ www.kalyanamitra.org
ซึ่งเหมอื นกบั เราไดต้ อกยำ�้ เปา้ หมายชวี ติ ในการเกดิ มาสรา้ งบารมขี องเรา พอถงึ จดุ หนง่ึ เรากม็ ี เปา้ หมายในการทจี่ ะสง่ั สมบญุ บารมขี น้ึ มา เรามคี วามตง้ั ใจตงั้ แตเ่ ดก็ วา่ อยากเปน็ ประธานกฐนิ ใหไ้ ดส้ กั ครงั้ ในชวี ติ ตอนนน้ั การทำ� บญุ ลา้ นเปน็ สง่ิ ทยี่ ากมาก เราตอ้ งตอ่ สกู้ บั จติ ใจตวั เอง เงนิ ลา้ นบาทคอื ความปลอดภยั ในชวี ติ เราเหมอื นเปน็ หวั หนา้ ครอบครวั พอ่ เราเสยี ไปแลว้ และเรามี ๕ ชวี ติ ที่ต้องดูแลด้วยรายได้ของเราคนเดียว แต่เรามีโอกาสฟังหลายเรื่องท่ีหลวงพ่อสอน ในโรงเรียนฝันในฝันวิทยา ว่าในเม่ือเราต้ังใจแล้ว มันเป็นโอกาสที่เราจะได้ตัดความตระหน่ี ในใจของเรา ตอนไปเบิกเงนิ มายงั คิดวา่ จะดหี รือ จะไหวหรือ สุดท้ายตอ้ งน่ังสมาธิแลว้ บอก ตวั เองวา่ ถา้ วนั นเี้ กดิ อบุ ตั เิ หตุ เสียชีวิต เราก็ไม่มีโอกาส ส่ังสมบุญ พอคิดได้อย่างนี้ เราจึงตัดสินใจว่าปีน้ีจะเป็น ประธานกฐินให้ได้ ขณะท่ี ถือเงินไปที่ห้องรับบริจาค ก็ยังอดหว่ันไหวไม่ได้ แต่ พอเรายื่นเงินท�ำบุญไปแล้ว ก็เกิดความปลื้มปีติ โล่งใจ เหมอื นเราชนะแลว้ ชนะสง่ิ ที่ เราต่อสู้กับมันมาตั้งนาน เป็นความรสู้ กึ ทีเ่ รียกวา่ ชติ งั เม จรงิ ๆ คอื เราชนะจริง ๆ เวลาทำ� บญุ เรายึดตามส่ิงท่ีหลวงพ่อสอน คือทำ� บญุ สุดก�ำลังใจท่ีเรามี เต็มท่ีเต็มก�ำลงั แต่เราจะไมท่ ำ� ใหต้ ัวเองเดือดร้อน เราประเมนิ แลว้ วา่ เงนิ เกบ็ กอ้ นนีเ้ ราเกบ็ ไว้สำ� รองส�ำหรบั ความสะดวกสบายในชีวิต เราแค่ตัดใจมาท�ำบุญ ขณะท่ีเราก็ยังมีรายได้เข้ามาอยู่เรื่อย ๆ เราเช่อื ว่าบุญเปน็ เครอ่ื งสนับสนนุ ใหเ้ ราพบเจอแตส่ งิ่ ดี ๆ ไดพ้ บเจอคนดี ๆ ไดพ้ บเจอโอกาส ดี ๆ บุญกฐินจึงเป็นบุญแรกท่ีเรานึกถึงง่ายที่สุด เพราะว่าเป็นบุญท่ีเราไม่ได้ท�ำมาด้วย ความงา่ ย ปนี ้ันจ�ำได้ว่าเปน็ ปีทน่ี ำ�้ ทว่ ม เราเป็นประธานกฐินท่ีน่งั รถ ๖ ล้อมาวดั น้�ำกท็ ว่ ม บา้ น ๒ เมตร เราร้สู ึกว่ามีความลำ� บากหลายอยา่ งที่ทำ� ให้เรานึกถึงแล้วปลื้มใจ ทีเ่ ราสามารถ ท�ำอะไรทยี่ าก ๆ ได้ ในตอนนั้นเราทำ� งานตงั้ เกือบ ๑๐ ปี กว่าจะเกบ็ เงนิ ได้ ๑ ล้านบาทแรก แตก่ ารท่เี ราไดส้ ่ังสมบญุ มาเร่อื ย ๆ เรากค็ ิดวา่ บญุ จะส่งผลใหเ้ รามีโอกาสเปลี่ยนงาน ไดไ้ ป ท�ำงานทดี่ ี มรี ายไดด้ ขี ้นึ ณ วนั น้ีเรามเี งนิ มากกว่าในอดตี หลายเท่า มเี วลาปฏบิ ัติธรรมมากข้นึ ครอบครัวเรา เม่อื ก่อนลำ� บาก ตอนน้ใี ชช้ วี ติ สบาย มีเวลาส่งั สมบุญ มเี วลาไปทำ� บญุ ถวายภตั ตาหาร ชวี ิต ดขี ้ึนจรงิ ๆ ค่ะ ดีกว่าในอดีตเยอะมาก ตุลาคม ๒๕๖๓ อยู่ในบุญ 11 www.kalyanamitra.org
คุณเทวา นนุ่ วงศ์ษา (เจ้าของธรุ กจิ คดั แยกเศษผา้ ) พลกิ ชีวิตจากขอทานมาเปน็ ประธานกองกฐนิ ผมกินเหลา้ มาต้ังแต่อายุ ๑๓ ปี ไปอยูโ่ รงสี อายุ ๑๖ ปี เร่มิ ดดู ยาบ้า ท้งั ยาบ้ากับกาวทเ่ี ขาใช้ ปะยางรถ ตดิ คกู่ นั มาเลย ลองเกอื บทกุ อยา่ ง หลอน ไปเลย ทงั้ ยาบา้ เหลา้ กาว เสยี คนหนกั ถงึ หนกั มาก ถึงขนาดว่าใครให้ท�ำอะไรก็ท�ำหมด เพื่อให้ได้เงิน มาซอื้ เหล้า ซือ้ ยาบา้ ญาติพ่ีน้องไม่มีใครเอาเลย พอ ผมไปหาเขาปิดประตูบ้านหมดเลย เกเรมากถงึ ขนาดแมก่ ับนอ้ งยกมือไหว้ ขอให้พอเสียที เข้าคุกจนคุกพัง เขา สร้างใหม่ก็ยังเข้าอยู่ แม่ขอร้องจน แม่ตาย ก็เลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ มีเงินอยู่ ๑๗๐ บาท เป้าหมายคือ พระประแดง เพราะว่ามีลูกพ่ีเก่าอยู่ที่ ซอยสขุ สวสั ดิ์ ๗๖ สมัยน้ันมีรถไฟฟรี ไปได้ท่ัว ผมนอนตามข้างทางมาเร่ือย กางเกง ตัวเดียว เสือ้ ขาด ๆ ขา้ วไมค่ อ่ ยไดก้ นิ เก็บผลหมากรากไม้ข้างทางมากิน ไปกนิ ตามศาลพระภมู บิ า้ ง ในใจคดิ วา่ ถ้าไม่ได้ดีไม่กลับบ้าน พอไปถึงซอย สุขสวัสด์ิ ๗๖ ลูกพ่ีเลิกกิจการแล้ว ผมไมร่ จู้ ะไปไหนเลยเดนิ ไปเรอ่ื ย ๆ ไป ถึงโรงพักอ�ำเภอพระสมุทรเจดีย์ตอน ตีสามตีส่ี ไปนอนที่โรงพัก ต่ืนข้ึนมา กเ็ ดนิ ไปหาตำ� รวจ ไปขอเงนิ กนิ ขา้ ว เขา www.kalyanamitra.org
ให้มา ๑๐๐ บาท กินข้าวไปนดิ เดยี ว ท่ีเหลือไปซื้อเหล้ากนิ แล้วเดนิ ไปเร่อื ย ๆ จนไปเจอปา้ ย ชวนบวช ในปา้ ยบอกบวชฟรี ไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ย บวชทดแทนบญุ คณุ พอ่ แม่ ผมเหน็ แลว้ สะดดุ ตา ตอนนน้ั มปี า้ คนหนงึ่ บอกวา่ ลองเขา้ ไปสิ ไปบวชกอ่ น อยา่ มาเรร่ อ่ นเลย ผมเลยเดนิ เขา้ ไป ไปเจอพ่ี ๆ ผูน้ ำ� บญุ เขาชวนให้บวช ผมคิดวา่ ไปไหนกไ็ ปไม่ได้ เงินกไ็ ม่มี ทางมันตันแลว้ ลองสักหนอ่ ย บวชวันแรกไม่นึกถงึ เร่ืองเหลา้ เลย เพราะว่าพระอาจารย์ พระพีเ่ ลี้ยง จัดระบบระเบียบ จนผมลมื เหลา้ ไปเลยครบั ลมื อตั โนมตั จิ รงิ ๆ ผมสงั เกตดหู ลวงพี่ พระอาจารย์ ทำ� ไมทา่ น นง่ิ จงั ทำ� ไมทา่ นงามจงั เวลา เดินก็มีมาตรฐานเหมือน ทหาร ตำ� รวจ ผมอยากเป็น อย่างน้ีบ้าง ผมจึงต้ังใจฝึก ตอนฉันข้าวมีเสียงเทศน์ สอนธรรมะของหลวงพ่อ ให้คิดสร้างแต่ความดี ให้ โอกาสคน มคี ำ� สอนหลาย ๆ อย่างท่ีผมมาลองท�ำดูแล้ว ท�ำได้จริง ๆ เรยี กวา่ เปล่ียน จากขอบจักรวาลมาถึง กน้ สมทุ รเลย ไมใ่ ชจ่ ากฟา้ ถึงเหว พลกิ เลยนะครบั ขนาดผมเคยนอนอยูข่ ้างถนน หวิ กต็ อ้ ง ขอเขากนิ ทุกวนั นผ้ี มมีธรุ กจิ คัดแยกเศษผ้า ไปไหนมาไหนมคี นเรียกเถา้ แก่บ้าง เรียกเฮยี บ้าง มบี ริวาร มีลกู นอ้ งอยใู่ นความรบั ผิดชอบ อยู่ในโอวาท ใหเ้ กียรติผม ผมมาถึงจดุ นี้ได้อยา่ งไร เป็นเพราะผมอยู่ในบุญตลอด ตั้งแต่สึกออกมาก็อยู่กับหลวงพ่อ ไม่ว่าขับรถไปไหนมาไหน จะเปดิ เสยี งเทศนข์ องหลวงพอ่ ฟงั ตลอด ทา่ นคอยยำ�้ เตอื นใหท้ ำ� ความดนี ะลกู ทำ� ทาน ศลี ภาวนา ผมเลกิ ยาเสพติดทุกอยา่ ง ไม่แตะ เอามาใหก้ ไ็ มเ่ อา จากขอทานมาเปน็ เถ้าแก่เพราะใครครบั ? เพราะหลวงพ่อ ถา้ ผมไมเ่ จอโครงการบวช ไม่เจอค�ำสอนของหลวงพ่อ ผมจะมาถึงวันน้ีได้ไหม ? ผมไม่คิดว่าผมจะท�ำได้ขนาดน้ี เกนิ จินตนาการมากเลยครับ เดีย๋ วน้ีผมรจู้ กั เหน็ ใจคน สงสารคน ตื่นเช้ามาก็สวดมนต์ทำ� วตั ร เปิดธรรมจักร ฟังธรรมะ ฟังค�ำสอนของหลวงพ่อ พาลูกน้องท�ำบุญท�ำทาน เวลาพักเท่ียง ลูกน้องพกั กนิ ข้าว ผมจะเปดิ เสียงหลวงพ่อใหเ้ ขาฟัง แนะน�ำเขาว่าให้ทำ� ตามทีห่ ลวงพอ่ สอน หลวงพ่อพาผมสร้างความดี ส่วนความช่ัวผมเคยท�ำมาหมดทุกอย่างแล้ว มันไม่เจริญครับ พอผมมาเจอวัดพระธรรมกาย มาเจอคำ� สอนของหลวงพอ่ มาเจอโครงการดี ๆ ของหลวงพอ่ ตุลาคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 13 www.kalyanamitra.org
ผมกอ็ ยากใหท้ กุ ทา่ นมาเจอบา้ งครบั เชญิ มากนั เยอะ ๆ ครบั เมอื่ คณุ กลา้ เปลยี่ น ชวี ติ คณุ เปลยี่ น แนน่ อนครบั ส่วนเรื่องท่ีผมเอาปัจจัยมาถวายหลวงพ่อ ผมคิดว่าผมใช้เงินได้ถูกต้องที่สุดครับ ผม ทำ� บญุ เรมิ่ แรกหลกั รอ้ ย เยอะทสี่ ดุ คอื หกรอ้ ย ผมคดิ วา่ สกั วนั หนงึ่ อยากเดนิ ถอื ผา้ ไตรบา้ ง อยาก ท�ำบุญกฐนิ ผมพยายามออมเงนิ ทแี รกเกบ็ วนั ละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท เกบ็ ออมบญุ ทกุ วนั ตอ่ มาเรม่ิ หลกั พนั เขา้ ไปแลว้ ครบั กระเตอื้ งขนึ้ มาเรอื่ ย ๆ ทงั้ รายได้ ทงั้ สง่ิ แวดลอ้ ม ความเปน็ อยขู่ องผม ก็ดีขึ้นมาก การค้าการขายก็ดี ทีน้ีเริ่มหยอดกระปุกวันละพัน ท�ำบุญแล้วชื่นใจครับ รู้สึกว่ามี แนวทางที่รายได้จะเข้ามา มัน เป็นสเต็ปมาเลยครับ ท�ำบุญ หลักหม่ืนไป ๒-๓ ปี เพง่ิ เรม่ิ หลกั แสนเมอื่ ปสี องปีนีแ้ หละครบั กะไว้แล้วว่าทุกปีต้องถือผ้าไตร ให้ได้ ๑ ไตร ผมอยากได้บุญ ครบั ถ้าเราท�ำได้มันจะเป็นผังสำ� เรจ็ ปนี ้ี ๒-๓ เดือนเกบ็ เงนิ ไดถ้ งึ ห้าแสนกว่า อ้ึงเหมอื นกนั ครับ เยอะขนาดนเ้ี ลยหรือ เรอื่ งทำ� บญุ ผมไมก่ งั วล ไมเ่ คยคดิ วา่ เงนิ จะหมด ไมเ่ คยเสยี ดาย มแี ตจ่ ะหามาทำ� เพมิ่ อกี เพราะว่าผมสามารถทำ� เงนิ ไดท้ ุกวนั อย่แู ลว้ ตอนเช้าผมทำ� งาน ตอนเยน็ ผมก็มเี งินแลว้ มันมี ทางมา เราไมไ่ ดห้ วงั มาก แตบ่ างทมี นั มาเกนิ เปา้ บางทวี นั นค้ี ดิ วา่ จะไดส้ กั หา้ พนั ตอนเยน็ มาแลว้ หมื่นหา้ สองหม่นื ชว่ งนี้เป็นชว่ งโควิด ไมค่ อ่ ยมีใครเอาเงินมาใช้กนั หรอก แย่กันหมด แต่กจิ การของเรา ไปไดเ้ รือ่ ย ๆ ย่งิ ทำ� ยง่ิ ดขี นึ้ เรารบั ผา้ มาน้อยแตเ่ นือ้ ผ้าทีเ่ อามาใชไ้ ดม้ เี ยอะมากครับ กฐนิ ปนี ้ี ผมรู้สึกว่าท�ำบุญได้เยอะ สวนกระแส ยิ่งโควิดอย่างนี้ผมย่ิงต้องท�ำ ท�ำบุญแล้วไม่มีทางตัน หรอกครบั ผลของบญุ มจี ริง ผมการนั ตไี ด้ ถ้าอยากจะรจู้ รงิ ตอ้ งไปวัดเอง สำ� หรบั ผมอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะบญุ จากทผ่ี มไมม่ อี ะไร ทกุ วนั นผี้ มมจี ดุ หมายปลายทาง มเี ปา้ หมายทชี่ ดั เจน โดยเฉพาะ บญุ กฐินนเ้ี ปน็ บญุ ทแ่ี รงมาก เราทำ� ให้เตม็ ท่ี ไปเอาบุญใหญ่ เอาบุญพลิกชวี ิต ไปเอาสงิ่ ทีด่ ี ๆ กลบั มาสคู่ รอบครวั ชวนกนั ไปทำ� บญุ กฐนิ ทำ� บาทสองบาทกไ็ ดค้ รบั ไมต่ อ้ งเยอะแยะมากมาย ก็ได้ แต่สำ� หรับตวั ผม ผมทุม่ ครับ ผมจะท�ำไปจนวันที่ผมตาย จะท�ำยง่ิ กว่านอี้ กี 14 อยู่ในบุญ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
“คนเราจะหนีสง่ิ ที่ตนเองท�ำไวไ้ มไ่ ด้ จะว่งิ หนีบญุ กห็ นไี มพ่ น้ จะวิง่ หนีบาป ก็หนีไมพ่ น้ เพราะทงั้ บุญและบาปตดิ ทศี่ ูนย์กลางกายของเรา จะหนีอย่างไรกห็ นไี มพ่ น้ แน่นอน ใครสั่งสมอยา่ งไร ก็ได้ผลอย่างนั้น สร้างความดี สรา้ งกศุ ล ก็ไดบ้ ุญ ได้ความสุข” คณุ ยายอาจารย์มหารตั นอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยงู ผใู้ หก้ �ำเนดิ วัดพระธรรมกาย สนับสนนุ การจดั พมิ พ์วารสารอยใู่ นบุญ เพอื่ มอบเปน็ ธรรมทานโดย เนเจอรก์ ฟิ คำ� ตอบสุดทา้ ยส�ำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพท่ดี ี โทร. ๐ ๒๐๒๔ ๙๓๘๘, www.naturegift.co.th, Naturegift Thailand www.kalyanamitra.org
บุญพิเศษ เรือ่ ง : รดั เกลา้ บรรพบุรุษปู่ยา่ ตายายของเรามักจะบอกลูกหลานเสมอวา่ นอกจากใหท้ ำ� บญุ สร้างพระ สรา้ งโบสถแ์ ลว้ ยงั บอกลกู หลานอกี วา่ ใหท้ ำ� บญุ สรา้ งถนนหนทาง สรา้ งสะพานอกี ดว้ ย เพราะ เช่ือกันว่า จะท�ำให้หนทางชีวิตไม่ล�ำบาก จะเจอแต่ความสะดวกสบายตลอดเส้นทางชีวิต แม้เจออุปสรรคขวากหนามมากมายขนาดไหน ก็จะข้ามพ้นไปได้ และด้วยบุญนี้ก็จะท�ำให้ เจอหนทางทต่ี รง ลัด จะไดห้ มดกิเลสเขา้ นพิ พานได้โดยง่าย ฉะนน้ั จงึ ไมน่ า่ แปลกใจเลยทบี่ างตระกลู ผมู้ งั่ คง่ั รำ�่ รวยถงึ นยิ มสรา้ งถนนหนทางสาธารณะ หรอื สรา้ งใหว้ ดั โดยใสช่ อ่ื นามสกลุ หรอื ราชทนิ นาม เปน็ ชอ่ื สะพาน ถนน หรอื ซอยเลยทเี ดยี ว ที่ส�ำคัญ การสร้างสะพานและถนนเป็นบุญท่ีท�ำแล้วให้อานิสงส์มาก ดังเร่ืองราว ต่อไปน้ี 16 อยู่ในบุญ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
อานิสงสก์ ารสร้างสะพานถวาย พผู้เรคะยเสถตวทุายายสกะพเถารนะด้วยจิตเลอื่ มใส จากข้อมลู ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสตุ ตันตปฎิ กเล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก เสตุทายกเถราปทานท่ี ๔ ว่าด้วยผลแห่งการสร้างสะพาน พบว่า..ในอดีตชาติ พระเสตุทายกเถระ เคยใช้ให้คนสร้างสะพานเพื่อถวายแด่พระวิปัสสี- สมั มาสมั พทุ ธเจา้ และดว้ ยบญุ นี้ หลงั จากละโลกแลว้ ทำ� ใหท้ า่ นไดเ้ สวยผลบญุ อยแู่ ตใ่ นเทวโลก และมนุษยโลกตลอดกาลยาวนาน และด้วยบุญน้ี ท�ำให้ทา่ นหมดกิเลสบรรลธุ รรมในสมัยของ พระสมณโคดมสมั มาสมั พทุ ธเจ้า ผพ้เูรคะยอถุตวตารยปสาะลพเถานระดว้ ยจิตเลือ่ มใส นอกจากน้ี ยงั มอี านสิ งสข์ องการถวายสะพานปรากฏใน อรรถกถา ขทุ ทกนกิ าย เถรคาถา ตกิ นบิ าต ๑๒. อตุ ตรปาลเถรคาถา เรอื่ งมอี ยวู่ า่ ..มพี ระอรหนั ตอ์ งคห์ นง่ึ ชอ่ื พระอตุ ตรปาลเถระ ซ่ึงอดีตชาติเคยให้คนสร้างสะพานเพ่ือถวายเป็นทางเสด็จแด่พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ดว้ ยจติ เล่อื มใส และด้วยบุญน้ี หลังจากละโลกแลว้ ทำ� ให้ท่านได้เสวยผลบญุ อยแู่ ตใ่ นเทวโลก และมนุษยโลกตลอดกาลยาวนาน จนในชาติสุดท้ายได้มาเกิดในตระกูลพราหมณ์ ในกรุง พาราณสี และเม่ือเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมแสดงยมกปาฏิหาริย์จึงเกิดศรัทธา ออกบวช แลว้ หมดกเิ ลสบรรลุธรรมในท่สี ดุ ตุลาคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 17 www.kalyanamitra.org
อานิสงสก์ ารสรา้ งถนน เเปพรรตาะมทมี ำ� า้ หทนพิ ทยาไ์ งดใ้ห้คนเดนิ สะดวก ยอ้ นไปในสมยั พทุ ธกาล มกี ษตั รยิ ล์ จิ ฉวพี ระองคห์ นงึ่ พระนามวา่ “พระเจา้ อมั พสกั ขระ” พระองค์ทรงเห็นเปรตที่มีลักษณะเปลือยกาย แต่แปลกตรงท่ีเปรตตนน้ีมีม้าอาชาไนยทิพย์ สขี าวเป็นพาหนะคู่ใจ และแมจ้ ะไดร้ บั ทกุ ขจ์ ากการเปน็ เปรต แตก่ ็สามารถไปไหนมาไหนได้ สะดวกวอ่ งไว พระเจา้ อมั พสกั ขระทรงถามถงึ บพุ กรรมของเปรต เปรตจงึ ตอบวา่ ..ดว้ ยกรรม จากการเอาเส้ือผ้าเพื่อนไปซ่อนหลังจากอาบน้�ำเสร็จ ท�ำให้เพื่อนหาเสื้อผ้าไม่เจอจนต้อง เปลือยกายและเกิดความอับอาย ด้วยกรรมนี้ท�ำให้กลายเป็นเปรตเปลือยกายไม่มีเสื้อผ้าใส่ แต่ในชาติเดียวกันได้เห็นชาวบ้านสัญจรไปมาผ่านทางท่ีเป็นเปือกตม เป็นแอ่งโคลน เวลา เดินต้องกระโดดข้ามไปข้ามมาเปื้อนโคลนเลอะเทอะไปหมด จึงมีจิตเป็นกุศลเอากระดูก ศีรษะโคท่ีขัดสะอาดจนเป็นสีสังข์ปราศจากกลิ่นเหม็นมาวางทอดเรียงไว้ เพื่อเป็นทางให้ คนเหยยี บเดนิ ไปมาไดส้ ะดวกโดยไมเ่ ลอะเทอะ ดว้ ยบญุ น.ี้ .แมไ้ ปเกดิ เปน็ เปรต กม็ พี าหนะเปน็ มา้ ทพิ ย์ไปไหนมาไหนสะดวก...(อา่ นเพมิ่ เตมิ ไดจ้ ากพระไตรปฎิ ก เลม่ ท่ี ๒๖ พระสตุ ตนั ตปฎิ ก เลม่ ที่ ๑๘ ขทุ ทกนกิ าย วมิ าน-เปตวตั ถุ เถร-เถรคี าถา มหาวรรคที่ ๔ อมั พสกั ขรเปตวตั ถุ วา่ ดว้ ย พระเจา้ อมั พสกั ขระทรงสนทนากบั เปรตเปลอื ย และอรรถกถา ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ มหาวรรค ที่ ๔ อัมพสกั ขรเปตวตั ถุ มหาวรรคที่ ๔ อรรถกถาอัมพสกั ขรเปตวัตถทุ ่ี ๑) www.kalyanamitra.org
บุญทีท่ ำ� ใหไ้ ปเกดิ เปน็ พระอินทร์ หากได้ศึกษาประวัติของพระอินทร์จะพบว่า การที่ได้ไปเกิดเป็นเทพผู้ปกครองสวรรค์ ชน้ั ดาวดงึ สไ์ ด้ กเ็ พราะในสมยั ทา่ นเกดิ เปน็ มนษุ ยช์ อื่ “มฆมาณพ” ทา่ นไดส้ มาทานวตั ตบท ๗ ตลอดชวี ติ อกี ทงั้ ยงั ไดท้ ำ� บญุ สำ� คญั มากอกี บญุ หนงึ่ กค็ อื “คดิ ทำ� ถนนหนทางเดนิ ใหร้ าบเรยี บ” เพ่อื ใหผ้ ู้คนท่ีสญั จรผ่านไปผ่านมาเดินทางอย่างสะดวกสบาย มีความสุข เม่ือคิดอย่างนี้แล้ว พอรงุ่ เชา้ กไ็ ม่รอชา้ รบี ออกจากบ้านไปตดั กงิ่ ไมถ้ ากถางหนทาง กระวกี ระวาดเอาจอบมาขดุ เกลี่ยดินหินท�ำถนนให้เรียบโดยล�ำพัง แม้จะเหน่ือยมากแค่ไหนก็ท�ำด้วยความปีติเบกิ บาน จนคนทเ่ี ดนิ ผา่ นไปผา่ นมาเหน็ ความทมุ่ เทขนาดนนั้ จงึ รอ้ งถามขนึ้ วา่ ..กำ� ลงั ทำ� อะไร ? ทา่ นก็ตอบดว้ ยความปล้ืมว่า.. “ฉันกก็ ำ� ลังทำ� หนทางไปสวรรค์ของฉันส”ิ เม่ือคนถามได้รับค�ำตอบอย่างนั้นแล้ว ก็อยู่ไม่ติด เกิดแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า อยากจะไดบ้ ญุ บา้ ง จงึ มาชว่ ยกนั สรา้ งถนนอยา่ งไมเ่ หน็ แกเ่ หนด็ แกเ่ หนอ่ื ย และดว้ ยความตงั้ ใจ ทชี่ ว่ ยกนั ทำ� ถนนอยา่ งมคี วามสขุ นเี้ อง ทำ� ใหผ้ คู้ นทผี่ า่ นมาทยอยกนั มาชว่ ยสรา้ งถนนรวมทงั้ หมด เปน็ จำ� นวน ๓๓ คน จนได้หนทางท่รี าบเรียบยาว ๑-๒ โยชน์ แมม้ ฆมาณพและสหายทง้ั ๓๓ คน จะสรา้ งถนนดว้ ยความบรสิ ทุ ธใิ์ จจนกระทงั่ เสรจ็ สมบรู ณ์ แต่อนิจจา..ยงั มคี นไมเ่ ข้าใจท่าน แถมใส่ร้ายทา่ นต่างๆ นานา และเอาเรอื่ งไปฟอ้ งพระราชา www.kalyanamitra.org
แต่สุดท้ายทา่ นและสหายทัง้ ๓๓ คน กผ็ า่ นวิกฤตนน้ั มาได้เปน็ อศั จรรย์ แถมยังไม่ย่อท้อต่อ การทำ� ความดแี มแ้ ตน่ อ้ ย และเนอื่ งจากทา่ นรสู้ กึ มคี วามสขุ มากทเี่ หน็ คนมาใชถ้ นนหนทางทที่ า่ น สรา้ ง จงึ เกดิ แรงบนั ดาลใจชวนกนั สรา้ งศาลาเพอื่ เปน็ ทพ่ี กั ของมหาชนในหนทางใหญ่ ๔ แยกอกี ดว้ ยบญุ ทต่ี ง้ั ใจทำ� อยา่ งจรงิ จงั และปลมื้ ในบญุ นเี้ อง หลงั จากละโลกไปแลว้ ทา่ นไดไ้ ปเกดิ เปน็ พระอนิ ทรห์ รือท้าวสกั กเทวราช สว่ นสหายของทา่ นทั้ง ๓๓ คน กไ็ ดไ้ ปเกดิ เป็นเทพบตุ ร บนสวรรคช์ ้นั ดาวดึงส์ เสวยทพิ ยสมบัติอันประณีตวิจติ รอลังการอยา่ งมคี วามสุข... จะเหน็ วา่ ..ขนาดบญุ จากการสรา้ งถนนหนทางใหผ้ คู้ นธรรมดาสญั จรไปมายงั มอี านสิ งส์ แรงขนาดทำ� ใหไ้ ปเกดิ เปน็ ถงึ พระอนิ ทรเ์ ลย ถา้ หากสกั ครงั้ หนง่ึ ในชวี ติ เรามโี อกาสสรา้ งถนน หรือท�ำหนทางเดินในวัดให้พระภิกษุ สามเณร หรือสาธุชนคนแล้วคนเล่า ได้ใช้เส้นทางนี้ เดินเข้ามาปฏิบตั ิธรรม กราบพระในโบสถ์ เราจะได้บญุ ขนาดไหน... กองบุญทรัพย์อนนั ต์ เพอ่ื สะพาน ถนน มุง่ สู่โบสถพ์ ระไตรปฎิ ก และสรา้ งห้องประดิษฐานมยรุ นาวากาศ ภาพขณะกำ� ลังดำ� เนินการสรา้ ง 20 อยู่ในบญุ ตุลาคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ของท่ีระลกึ ส�ำหรบั ผรู้ ่วมบุญ ๑ กองบุญ ภาพจำ� ลองถนน สะพาน และหอ้ งประดิษฐานมยุรนาวากาศ ตุลาคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 21 www.kalyanamitra.org
ทบทวนบญุ เรอ่ื ง : พระมหาศภุ ณฐั จนทฺ ชโย ป.ธ.๙ ทบแทวลวิชะนวชบันาธุญครรวรูผนั มูค้ ธกน้ รารพยมบชัย ทุกคืนรัตติกาลมืดสนิท ทางทิศตะวันออก ณ ที่ตรงน้ัน ดวงตะวันไม่เคยหยุดท�ำหน้าท่ีขับไล่ปัดเป่าความเหน็บหนาวและ กลุ่มหมอกเมฆมืดเลยแม้แต่เพียงวันเดียว เฉกเช่นเดียวกับพระพ่อ ผเู้ สียสละ ผ้มู ีฉายานามทางธรรมวา่ “ธมฺมชโย” แปลว่า “ผมู้ ีชยั ชนะ โดยธรรม” ผซู้ ึ่งตลอดระยะเวลา ๕๑ พรรษา ในใจมแี ตค่ �ำว่า “งาน ของพระพุทธศาสนา” ดังน้ันในวาระวันคล้ายวันเกิดโดยทางธรรม ของทา่ น หรือทเ่ี รียกวา่ “วันธรรมชยั ” ซงึ่ ตรงกับวันท่ี ๒๗ สงิ หาคม ของทกุ ปี วดั พระธรรมกาย จ.ปทมุ ธานี จงึ จดั งานบญุ ใหศ้ รทั ธาสาธชุ น ได้มาส่งั สมบญุ กนั และในวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่ผา่ นมา ก็มพี ิธที อดผ้าปา่ บ�ำรงุ วดั คร้ังที่ ๒/๒๕๖๓ อกี ทัง้ ยังมีเป้าหมายเป้าชยั ร่วมมือประสานใจด้วยการสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตนสูตรให้ครบ ๒,๖๒๗,๐๘๒,๕๑๒ จบ ณ มหารัตนวหิ ารคด เป็นต้น 22 อยู่ในบญุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 23 www.kalyanamitra.org
24 อยู่ในบญุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 25 www.kalyanamitra.org
26 อยู่ในบญุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
นอกจากนี้ ใน “วนั ครูผู้ค้นพบวชิ ชาธรรมกาย” ซงึ่ ปนี ตี้ รงกับ วันพุธท่ี ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ (วันข้ึน ๑๕ ค่�ำ เดือน ๑๐) ครบ ๑๐๓ ปี วัดพระธรรมกายจัดให้มีงานบุญ เพอ่ื แสดงความกตญั ญู กตเวทตี ่อพระเดชพระคณุ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺ สโร) ผู้คน้ พบ วชิ ชาธรรมกาย เพราะถ้าไมม่ ที ่านช้ที างสว่าง เราทง้ั หลายคงจะเป็น ดั่งบุคคลผู้มีนัยน์ตามืดบอด ซึ่งก�ำลังเดินทางในคืนเดือนมืด คงจะ ไปไมถ่ ึงฝ่ังฝนั หรอื ที่หมายท่ีตง้ั ใจไวเ้ ป็นแน่ กิจกรรมในวันน้ี นอกจากมีพิธีบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย แลว้ ยงั มพี ิธีทอดผา้ ป่าบำ� รงุ วัด คร้ังที่ ๓/๒๕๖๓ พิธีปลกู เบญจทรพั ย์ และสวดธรรมจกั รครบ ๒,๖๔๔,๐๐๐,๑๐๓ จบ อกี ด้วย การตระหนักในพระคุณท่ีผู้อื่นมีต่อเรานั้นนับเป็นจุดเริ่มต้น ของคุณธรรมทั้งหลาย และเป็นส่ิงที่เหล่าสัตบุรุษประพฤติปฏิบัติ เป็นแบบแผนมาช้านาน สมดังเหตุการณ์ตอนหน่ึงในสมัยพุทธกาล ซ่ึงมีพราหมณ์อายุมากคนหน่ึงชื่อ “ราธะ” ประสงค์ท่ีจะออกบวช ในเวลานัน้ มีเพียงพระสารีบุตรท่ีระลึกได้ว่า พราหมณ์ท่านน้ันเคยมี อุปการะแกต่ น www.kalyanamitra.org
28 อยู่ในบญุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 29 www.kalyanamitra.org
30 อยู่ในบญุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
เมอ่ื พระพทุ ธองคท์ รงทราบเหตกุ ารณ์ จงึ ทรงชมเชยพระสารบี ตุ รเถระ ดงั ความตอนหนง่ึ ว่า “สาธุ สาธุ สารีปุตตฺ กตญฺญุโน หิ สารีปุตฺต สปฺปรุ สิ า กตเวทิโน” (วิ.มหา. (บาลี) ๔/ ๘๕/ ๑๐๒) “ดลี ะๆ สารีบตุ ร ความจริงสัตบุรุษทั้งหลาย เปน็ ผกู้ ตัญญูกตเวที” (ว.ิ มหา.อ. (ไทย) ๖/ ๘๕/ ๑๖๗) ด้วยเหตุตามที่กล่าวมานี้ พวกเราท่านทั้งหลายจึงได้ชื่อว่าด�ำเนินรอยตามสัตบุรุษ ทั้งหลายในกาลก่อน เพราะการมาประชุมรวมกันท�ำความดีในวันส�ำคัญ คือ วันธรรมชัย และวันครผู ้คู ้นพบวชิ ชาธรรมกาย นบั เปน็ การแสดงออกซ่ึงความกตญั ญปู ระการหน่ึง อีกท้ัง ยงั ไดช้ อ่ื วา่ “รกั ตนเอง” เสาะแสวงหาสง่ิ ดี ๆ ใหแ้ กช่ วี ติ ตน ดว้ ยการสง่ั สมกศุ ลเพมิ่ พนู บญุ ญา บารมี ท้ายท่ีสุดนี้ ผู้เขียนและทีมงานขออนุโมทนาบุญกับผู้มีกตัญญูกตเวทิตาจิตทุกท่าน ทมี่ ารวมพลงั กนั สรา้ งภาพฝนั ภาพดใี หบ้ งั เกดิ ขนึ้ ในใจตนและใหป้ ระจกั ษส์ สู่ ายตาของชาวโลก ซงึ่ ภาพดี ๆ เหลา่ น้ี จะเปน็ แบบอยา่ งทฏิ ฐานคุ ตอิ นั งดงามใหป้ ระชมุ ชนในภายหลงั ไดป้ ระพฤติ ปฏบิ ัตติ ามตลอดไป ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบุญ 31 www.kalyanamitra.org
บุญวาระวันธรรมชัย พิธีถวายคิลานเภสัช เรือ่ ง : หนูนา และอปุ กรณ์ทางการแพทย์ เมอ่ื วันเสารท์ ี่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ วดั พระธรรมกายจัดใหม้ ีพธิ ีถวายคลิ านเภสชั และอุปกรณ์ทางการแพทย์แด่พระภิกษุและสามเณร ณ สภาธรรมกายสากล โดยได้รับ ความเมตตาจากพระครูวิบูลนิตธิ รรม (ไพบลู ย์ ธมฺมวิปโุ ล) ผู้ชว่ ยเจ้าอาวาสวดั พระธรรมกาย เป็นประธานสงฆ์ 32 อยู่ในบญุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ในเวลา ๐๙.๓๐ น. พธิ เี รมิ่ ขึ้นโดยคณะสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนตแ์ ละน�ำสาธุชนสวดมนต์ บทธมั มจกั กปั ปวตั นสตู ร จากนน้ั พระอาจารยน์ ำ� นงั่ สมาธกิ ลน่ั ใจใหใ้ ส กอ่ นทจี่ ะประกอบพิธี ถวายคลิ านเภสชั และอปุ กรณ์ทางการแพทย์ งานบุญวันนี้จัดข้ึนเนื่องในวาระวันธรรมชัย (วันอุปสมบทของหลวงพ่อ ซึ่งตรงกับ วนั ท่ี ๒๗ สงิ หาคม) ครบ ๕๑ ปี โดยมลี กู หลวงพอ่ มาสง่ั สมบญุ เปน็ จำ� นวนมาก ดว้ ยความสำ� นกึ ในพระคุณของทา่ น เนอื่ งจากการท่ีหลวงพอ่ ตัดสินใจออกบวชในวันนนั้ ทำ� ให้พวกเราทุกคน มวี นั น้ี คอื รจู้ กั เปา้ หมายของการเกดิ มาเปน็ มนษุ ย์ ไดส้ ง่ั สมบญุ สรา้ งบารมี และดำ� เนนิ ชวี ติ ถกู ตอ้ งตามท�ำนองคลองธรรม ตุลาคม ๒๕๖๓ อยู่ในบุญ 33 www.kalyanamitra.org
นอกจากน้ี การได้มาร่วมกันถวายยารักษาโรค และอุปกรณ์ทางการแพทย์แด่พระภิกษุและสามเณร ยังมีอานิสงส์ใหญ่ท่ีจะช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากทกุ ข์ โศก โรค ภยั มีอายขุ ัยยนื ยาว และจะได้ สร้างบารมีไปนาน ๆ อกี ดว้ ย ทมี งานวารสารอยใู่ นบญุ ขออนโุ มทนาบุญกับทุกทา่ นมา ณ โอกาสน้ี 34 อยู่ในบญุ ตุลาคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
“การจะเขา้ ไปสภู่ ายใน ตอ้ งหยดุ อย่างเดียว หยุด คอื การเคล่ือนไป ยิ่งหยดุ ยง่ิ เคลือ่ นท่ี ย่งิ หยุด ย่งิ นิ่ง ยิง่ ดง่ิ ไม่หยดุ ” ทบทวนโอวาทหลวงพอ่ ธัมมชโย วัดพระธรรมกาย www.kalyanamitra.org
หลวงพอ่ ตอบปญั หา เร่อื ง : หลวงพอ่ ทตั ตชโี ว หลวงพ่อตอบปัญหา ถาม : เดก็ เป็นอนาคตของชาติ เราจะปฏิบตั ิตวั อยา่ งไรจงึ จะท�ำใหอ้ นาคตของชาติ เจรญิ รุ่งเรือง ? ตอบ : เกษตรกรมีสิ่งจ�ำเป็นล�ำดับแรก ๆ ที่จะต้องท�ำก่อนการเพาะปลูกในฤดูถัดไป คือ การบำ� รงุ ดนิ เพราะดนิ ถอื เปน็ ตวั แปรสำ� คญั ในการกำ� หนดคณุ ภาพและจำ� นวนผลผลติ ทจ่ี ะได้ เมอ่ื ถงึ ฤดเู กบ็ เกยี่ ว 36 อยู่ในบุญ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
แลว้ ตวั กำ� หนดคณุ ภาพของเดก็ ซง่ึ เปน็ อนาคตของชาตนิ น้ั คอื อะไร หลวงพอ่ ขอชวนพวกเรา ใหม้ าดคู ำ� สอนเกย่ี วกบั ทศิ ๖ โดยเรม่ิ กนั ทห่ี นา้ ทขี่ องมารดาบดิ าทม่ี ตี อ่ บตุ ร ซงึ่ มอี ยู่ ๕ ขอ้ คอื ๑. หา้ มลกู ไมใ่ หท้ ำ� ชว่ั ๒. ใหล้ กู ตงั้ อยใู่ นความดี ๓. ใหล้ กู ศกึ ษาศลิ ปวทิ ยา ๔. หาภรรยา หรอื สามที สี่ มควรให้ ๕. มอบทรพั ยส์ มบตั ใิ หใ้ นเวลาอนั สมควร เพอ่ื ใหเ้ ดก็ เตบิ โตเปน็ คนดมี คี ณุ ภาพ จะตอ้ งปอ้ งกนั และกำ� จดั จดุ ออ่ นหรอื ตวั อปุ สรรค คอื ความช่ัว เป็นประการแรก ถ้ามองว่าภัยอะไรใกล้ตัวที่สุด ภัยนั้นคือความช่ัว พระสัมมา- สมั พทุ ธเจา้ ทรงเตอื นไวว้ า่ ผมู้ ปี ญั ญาพงึ ระแวงภยั ทนี่ า่ ระแวง แลว้ ปอ้ งกนั ภยั นน้ั กอ่ นทจ่ี ะมาถงึ การปอ้ งกนั ภยั กอ่ นทจี่ ะมาถงึ ทท่ี รงชแี้ นะไว้ คอื บดิ ามารดามหี นา้ ทหี่ า้ มลกู ไมใ่ หท้ ำ� ชวั่ และให้ ลกู ตง้ั อยใู่ นความดี ถา้ ไมไ่ ดร้ บั การชแ้ี นะมาตง้ั แตเ่ รมิ่ ตน้ จากทบี่ า้ น เดก็ ยงั ไมร่ ดู้ รี ชู้ วั่ แลว้ สง่ ไป โรงเรยี น ใหศ้ กึ ษาทโ่ี รงเรยี น กเ็ ปน็ เรอ่ื งยากสำ� หรบั ครทู จ่ี ะสงั่ สอนไดค้ รบถว้ นทกุ แงม่ มุ เพราะ การสอนใหร้ วู้ า่ อะไรดอี ะไรชวั่ นนั้ เปน็ เรอ่ื งละเอยี ดออ่ น ตอ้ งใหเ้ วลาเขาคอ่ ย ๆ เรยี นรู้ แตท่ ี่ โรงเรยี นมเี ดก็ จำ� นวนมาก และขณะอยทู่ โี่ รงเรยี นควรเปน็ เวลาทเ่ี ดก็ จะไดเ้ รยี นรดู้ -ี ชว่ั ในระดบั ของการอยรู่ ว่ มกนั ไปแลว้ เมื่อสอนยาก ครกู ป็ ลอ่ ยปละละเลย เม่อื ปลอ่ ยปละละเลยในเรือ่ งง่าย ๆ เรอ่ื งที่ลกึ ซึง้ ขน้ึ ไปอกี เดก็ กไ็ มร่ บั แลว้ ทง้ั ครแู ละเดก็ จะสนใจแคค่ วามรดู้ า้ นวชิ าการ ซง่ึ ครตู อ้ งใหเ้ ขา เพราะ เปน็ หลกั สตู รทที่ างกระทรวงกำ� หนดเอาไว้ เมอื่ ไดค้ วามรแู้ ลว้ เดก็ จะเปน็ อยา่ งไร ? ในเมอื่ นสิ ยั ไมค่ อ่ ยจะดี เขากพ็ รอ้ มจะเอาความรนู้ นั้ ไปใชใ้ นทางทผ่ี ดิ ทำ� ตามอำ� นาจกเิ ลสทบี่ งั คบั ใจ แลว้ เมอ่ื เดก็ เหลา่ นโี้ ตขนึ้ กจ็ ะกลายเปน็ ผใู้ หญท่ ไ่ี มร่ ดู้ -ี ชว่ั ยง่ิ กลายมาเปน็ พอ่ คนแมค่ นตอ่ ไปอกี แลว้ สงั คมประเทศชาตบิ า้ นเมอื งจะมผี ลลพั ธอ์ ยา่ งไร เหตกุ ารณเ์ ปน็ งกู นิ หางกนั มาอยา่ งน้ี ปญั หาทง้ั โลกจงึ เรม่ิ จากแยกด-ี ชวั่ ไมอ่ อก เรมิ่ ตงั้ แตค่ ณุ พอ่ คณุ แมต่ ดั สนิ ด-ี ชว่ั ไมค่ อ่ ยได้ แมต้ ดั สนิ ได้ แตก่ ไ็ มส่ ามารถสอนลกู ใหร้ ดู้ รี ชู้ วั่ ได้ ครน้ั พอสอนใหแ้ ยกดแี ยกชว่ั ออกได้ กย็ งั มี ความยากอกี ขนั้ คอื ทำ� อยา่ งไรจะฝกึ ใหล้ กู รกั ดี รงั เกยี จชว่ั ทว่ั โลกจงึ พบคนทดี่ -ี ชวั่ รหู้ มด แต่ ยงั อดทำ� ชวั่ ไมไ่ ด้ ผลของการทำ� ชว่ั จงึ กลายเปน็ ปญั หาบานปลายไมร่ จู้ กั หมดสน้ิ ฉะนน้ั ถา้ อยากเหน็ บา้ นเมอื งนดี้ ี เราซง่ึ เปน็ ผใู้ หญท่ ร่ี ดู้ -ี ชว่ั มาในระดบั หนงึ่ กเ็ ลยมหี นา้ ที่ โดยปรยิ ายทจ่ี ะตอ้ งเปน็ ตวั อยา่ ง เปน็ ตน้ แบบของคนดี แมโ้ ดยไมต่ อ้ งพดู แคเ่ ดนิ บนถนน ก็ เปน็ โมเดลคนดใี หค้ นอนื่ ได้ ใครจะรจู้ กั เรา ไมร่ จู้ กั เรา กเ็ รอ่ื งของเขา แตเ่ รอื่ งของเราตอ้ งทำ� ตน เปน็ คนดี เพอื่ ตวั เองเปน็ หลกั เพอื่ ลกู หลานของเราเปน็ รอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงช้ีว่า น้ีคือหน้าท่ีของเพื่อนบ้านผู้เป็นมิตรแท้ ป้องกันมิตร ผปู้ ระมาทซง่ึ ไมด่ แู ลลกู ใหด้ ี ตวั เราในฐานะเพอื่ นรว่ มตำ� บล รว่ มอำ� เภอ รว่ มจงั หวดั รว่ มประเทศ รว่ มโลก นอกจากชว่ ยป้องกนั ทรพั ย์ของมติ รผปู้ ระมาทแล้ว ทรพั ย์มคี ่าอย่างหน่ึงของมนษุ ย์ กค็ อื ลกู เรากจ็ ะไปชว่ ยปอ้ งกนั ทรพั ยน์ นั้ คอื ลกู ๆ ใหแ้ กม่ ติ รผปู้ ระมาท ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบุญ 37 www.kalyanamitra.org
ในฐานะมติ รแท้ เมอ่ื มภี ยั กเ็ ปน็ ทพ่ี งึ่ พาได้ ไมท่ งิ้ กนั เพราะฉะนน้ั สงิ่ ทเี่ ราทำ� นไ้ี มไ่ ดท้ ำ� ผดิ หนา้ ที่ ธรรมดาเมอื่ ไฟไหมก้ ระตอ๊ บมงุ ดว้ ยหญา้ คาหรอื ไหมส้ ลมั ถา้ ไมร่ ะงบั ไมช่ า้ กจ็ ะลามไป ถงึ คฤหาสนไ์ ด้ เพราะฉะนนั้ ผทู้ ม่ี ปี ญั ญากต็ อ้ งหาทางปอ้ งกนั แกไ้ ขกอ่ น คนมปี ญั ญาจะอยทู่ ไี่ หน กช็ ว่ ยประเทศชาตบิ า้ นเมอื ง ชว่ ยพระพทุ ธศาสนา ชว่ ยสงั คมได้ แตม่ ขี อ้ แมว้ า่ คณุ ชว่ ยตวั เองไดแ้ ลว้ หรอื ยงั ถา้ คณุ ชว่ ยตวั เองยงั ไมไ่ ด้ ไมว่ า่ คณุ จะไปชว่ ยทไ่ี หน ในโลก แทนทจ่ี ะทำ� ใหเ้ ขาเจรญิ คณุ นนั่ แหละคอื ตวั ถว่ ง คอื คนหนง่ึ ทกี่ อ่ ปญั หาแกบ่ า้ นน้ี เมอื งนี้ โลกน้ี มนั กลายเปน็ อยา่ งนน้ั ไป เม่ือแยกแยะดี-ชั่วไม่ออก หรือรู้หมดแต่อดท�ำช่ัวไม่ได้ นั้นคือสัญญาณว่า ส�ำนึกแห่ง ความดคี วามชว่ั ไดจ้ างไปจากจติ ใจมนษุ ยแ์ ลว้ โลกตอ้ งเรมิ่ ฟน้ื ฟู และตอ้ งเรมิ่ ฟน้ื ฟจู ากตวั เรา เปน็ คนแรก เรมิ่ จากดตู วั เองใหช้ ดั ทง้ั ฝกึ ทงั้ หดั ตวั เองใหด้ ี แลว้ ตวั เราจะเปน็ โมเดลความดใี หแ้ ก่ สงั คม ศลี ธรรมจะฟน้ื ฟู เมอ่ื เราเรม่ิ คดิ ดตู วั เอง ดตู วั เองเรมิ่ ตรงไหน ดตู วั เอง คอื ดธู รรมชาตแิ ท้ ๆ ของโลกและชวี ติ ใหช้ ดั ๆ คนทเ่ี หน็ ความจรงิ ของชวี ติ เทา่ นน้ั จงึ จะทำ� งานไมร่ เู้ หนด็ รเู้ หนอ่ื ย ๒๔ ชว่ั โมงกท็ ำ� ได้ สายตวั แทบขาด กท็ ำ� ได้ เพราะรวู้ า่ ทที่ ำ� นเ้ี พอ่ื ตวั เอง ธรรมชาตขิ องโลกและชวี ติ เปน็ ดงั นี้ - โลกความจรงิ คอื คกุ ถาวร - คน สตั วท์ งั้ โลก คอื นกั โทษรอประหาร เมอ่ื เปน็ นกั โทษรอประหาร กเ็ ลยทำ� ใหพ้ อ เพลนิ ๆ ใจไดบ้ า้ ง แตว่ า่ ไวใ้ จไมไ่ ด้ - โลกนมี้ กี ฎ มรี ะเบยี บ มกี ตกิ าประจำ� โลกคอยควบคมุ เรยี กวา่ กฎแหง่ กรรม กฎนี้ มสี น้ั ๆ วา่ ทำ� ดไี ดด้ ี ทำ� ชวั่ ไดช้ ว่ั - ยงั มอี กี กฎหนงึ่ คอื กฎไตรลกั ษณ์ บางทกี เ็ รยี กวา่ สามญั ลกั ษณะ เปน็ สง่ิ ทม่ี ชี วี ติ และ ไมม่ ชี วี ติ ในโลกนตี้ า่ งกม็ เี หมอื นกนั ไดแ้ ก่ อนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา ไมว่ า่ คนหรอื สตั วต์ า่ งกป็ ระสบ กบั การเกดิ แก่ เจบ็ ตาย ทงั้ นน้ั สงิ่ ไมม่ ชี วี ติ เชน่ กอ้ นหนิ โลก ดวงจนั ทร์ ดวงอาทติ ย์ ฯลฯ กอ็ ยใู่ นกฎไตรลกั ษณเ์ ชน่ เดยี วกนั คอื เกดิ ขน้ึ ตงั้ อยชู่ ว่ั ขณะ แลว้ กต็ อ้ งดบั สลายไป คกุ นใี้ ช้ กฎไตรลกั ษณเ์ ปน็ เครอื่ งทรมาน ทำ� ใหน้ กั โทษวนุ่ วายกบั ทกุ ขท์ เี่ กดิ จากการเกดิ แก่ เจบ็ ตาย และการพลดั พรากจากสงิ่ อนั เปน็ ทรี่ กั มนษุ ยม์ กั มาตดิ ใจอยแู่ ถว ๆ น้ี กเ็ ลยมาสาละวนวนุ่ วายอยกู่ บั การเกดิ แก่ เจบ็ ตาย พลดั พราก พยายามแตจ่ ะเลกิ แก่ เลกิ เจบ็ เลกิ ตาย หมกมนุ่ คดิ แตต่ รงนี้ แตไ่ มค่ ดิ วา่ ทำ� อยา่ งไร จงึ จะออกจากคกุ นไี้ ด้ ยงั ไมค่ อ่ ยมใี ครคดิ ไปสดุ เสน้ ทาง กเ็ ลยตดิ คกุ อยอู่ ยา่ งนนั้ เพราะสาละวน อยกู่ บั เกดิ แก่ เจบ็ ตาย ซง่ึ อยภู่ ายใตก้ ฎไตรลกั ษณน์ ้ี จงึ ลมื สนใจกฎแหง่ กรรม แทนทจี่ ะคดิ ศึกษาในเร่ืองกฎแห่งกรรมให้ชัดเจน แล้วจะได้ระมัดระวังตัวถูก ความที่สาละวนวุ่นวายกับ การเกดิ แก่ เจบ็ ตาย อยนู่ ้ี ผลสดุ ทา้ ยเลยเผลอทำ� ผดิ กฎแหง่ กรรมจนได้ เมอ่ื ไปพลาดทำ� ผดิ กฎ กเ็ ลยยง่ิ ถกู เพมิ่ โทษ เพราะฉะนนั้ นกั โทษในโลกน้ี คกุ พเิ ศษน้ี ถา้ อยไู่ มเ่ ปน็ ยง่ิ อยยู่ งิ่ ถกู เพมิ่ โทษ มากขนึ้ เรอื่ ย ๆ สงิ่ เหลา่ นเี้ ปน็ เพราะมนษุ ยม์ องขา้ มกฎแหง่ กรรมจงึ ไดท้ ำ� ความผดิ และทำ� ให้ สง่ิ แวดลอ้ มตา่ ง ๆ พนิ าศโดยไมจ่ ำ� เปน็ ไปไมร่ เู้ ทา่ ไรแลว้ 38 อยู่ในบญุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
มนุษย์วนเวียนเป็นทุกข์ในเร่ืองเหล่าน้ีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ท่านเรียกว่า สังสารวัฏ สังสารวฏั นี้ไม่มีเบ้ืองต้น ไม่มีทา่ มกลาง ไม่มเี บ้ืองปลาย ถ้าหากเราไมร่ ะวังกฎแห่งกรรมให้ดี จะไม่มีที่จบกัน มีแต่เพิ่มโทษ แต่ถ้าเราระวังให้ดี เราก็จะมีทางรอด ทางรอดอยู่ตรง ถอดไมโครชปิ คอื กำ� จัดกเิ ลสท่คี อยบังคับใหเ้ ราทำ� ช่ัวออกจากใจให้หมดส้ินดว้ ยการปฏิบตั ิ มรรคมีองค์ ๘ แลว้ จะตอ้ งปฏบิ ตั นิ านเทา่ ใด นัน่ ขึ้นอยู่กบั วา่ เราปฏิบตั ิเครง่ ครัดและปฏบิ ัติ ถกู ตอ้ งและครบถ้วนแคไ่ หน ปฏบิ ัติต่อเน่อื งกันขนาดไหน ถ้าปฏบิ ัติถกู ตอ้ งและครบถ้วนแล้ว เราก็ออกจากคกุ ได้ ถา้ ผดิ จากนี้กไ็ มม่ ีทางอกี แล้ว นีค้ อื ธรรมชาติจริง ๆ ของชีวิตและโลก ซง่ึ พระสัมมาสมั พทุ ธเจา้ ทรงเรียกความรู้ทง้ั หมดน้ีวา่ อรยิ สัจ ๔ คอื ความจรงิ ของโลกและชีวติ ๔ ประการ ๑. ชวี ติ นเี้ ปน็ ทกุ ข์ ทกุ วนั เรากแ็ ก่ กเ็ จบ็ กต็ าย ทกุ วนั เรากห็ วิ เรากก็ ระหาย แลว้ ถา้ ทำ� ผดิ ทำ� พลาดอะไร เรากโ็ ดนปรบั โทษหนกั ตอ่ ไปอกี เพราะเราเปน็ นกั โทษรอประหาร ๒. ทกุ ขท์ ง้ั หลายทเ่ี กดิ กบั เรามที มี่ า มี สมทุ ยั หรอื ตน้ เหตุ คอื กเิ ลสฝงั ลกึ อยใู่ นใจ เหมอื น ไมโครชปิ ทคี่ อยควบคมุ การคิด พดู ทำ� ของเราเอาไว้ ทำ� ใหเ้ ราอยากชนิดไมร่ จู้ บ ท่เี รยี กวา่ ทะยานอยากหรอื ตณั หา ๓. ทกุ ขท์ งั้ หลายดบั ไดด้ ว้ ยการกำ� จดั กเิ ลสใหส้ น้ิ นน่ั คอื นโิ รธ ๔. มรรค มอี งค์ ๘ เปน็ วธิ กี ารเดยี วทส่ี ามารถกำ� จดั กเิ ลสได้ พอปฏบิ ตั เิ มอ่ื ไร กก็ ลายเปน็ ละชว่ั แลว้ เรมิ่ ทำ� ความดี แลว้ ทำ� ใหใ้ จใสไปตามลำ� ดบั ๆ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ จงึ ตรสั วา่ อรยิ สจั ทงั้ ๔ นี้ เปน็ ความจรงิ อนั ประเสรฐิ อรยิ ะ แปลวา่ ประเสรฐิ สจั จะ แปลวา่ ความจรงิ ทง้ั ๔ ประการนเี้ ปน็ ความจรงิ อนั ประเสรฐิ ประเสรฐิ ตรงทว่ี า่ ถา้ ใครปฏบิ ตั ติ ามแลว้ หมดกเิ ลสได้ หมดทกุ ขไ์ ด้ และทำ� ใหค้ น ๆ นนั้ ทต่ี งั้ ใจปฏบิ ตั กิ ลายจาก คนธรรมดาเปน็ พระอรยิ เจา้ เปน็ ผปู้ ระเสรฐิ ได้ ถา้ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องโลกและชวี ติ ชดั อยา่ งนแี้ ลว้ เราจะตระหนกั วา่ ถงึ เวลาแลว้ ทเี่ ราจะ ตอ้ งศกึ ษาใหช้ ดั ลงไปวา่ ด-ี ชว่ั นตี้ ดั สนิ อยา่ งไร ตอ้ งศกึ ษาใหช้ ดั ๆ พลาดไมไ่ ด้ ถา้ พลาดกถ็ กู เพมิ่ โทษ ทำ� มาหากนิ ผดิ พลาด ผดิ กฎแหง่ กรรม กโ็ ดนเพมิ่ โทษ ถกู ยวั่ ถกู ยอุ ะไรดว้ ยอำ� นาจ กเิ ลสแลว้ ไปทำ� เขา้ เดยี๋ วกถ็ กู เพมิ่ โทษ กฎแหง่ กรรมไมม่ อี ภยั หรอื ลดหยอ่ นอะไรใหท้ ง้ั นนั้ เม่ือจะก้าวสู่ภาคปฏิบัติของการละชั่วท�ำดีแล้ว ต้องท�ำความเข้าใจกฎแห่งกรรมให้ชัด ทกุ คนทำ� กรรมทง้ั ด-ี ชวั่ ไดท้ นั ทที เ่ี กดิ และทำ� กรรมได้ ๓ ทาง คอื ทางกาย วาจา และใจ เพราะ เหตนุ นั้ กฎแหง่ กรรมจงึ เรม่ิ บงั คบั ใชท้ นั ทที เ่ี ราเกดิ ดงั นนั้ งานเรง่ ดว่ นคอื ตอ้ งสอนใหล้ กู รจู้ กั ความดี ฝกึ ใหล้ กู คนุ้ กบั ความดี จะไดห้ นคี วามชว่ั ทันทีท่ีเกิด ถ้าฝึกได้ช้า ก็จะเผลอท�ำชั่วไปมาก แล้วได้บาปมาก ทุกข์ก็เกิดแก่ตนมากและ นสิ ยั กเ็ สยี มาก การฝกึ ใหค้ นุ้ กบั ความสะอาด ความเปน็ ระเบยี บ ความนมุ่ นวล ความสภุ าพ ความตรง เวลา เปน็ กำ� เนดิ ของความดี ปอ้ งกนั ไมใ่ หโ้ กรธ ทำ� ใหม้ อี ารมณด์ ตี ลอดเวลา แลว้ ยงั ประหยดั ตุลาคม ๒๕๖๓ อยู่ในบุญ 39 www.kalyanamitra.org
ทงั้ ทรพั ย์ ประหยดั ทงั้ เวลา ทำ� ใหอ้ ารมณด์ ี สขุ ภาพจติ ดี สขุ ภาพกายดี และไดน้ สิ ยั ดี ๆ ตามมา นสิ ยั มองหาความดขี องผอู้ น่ื จะเกดิ ขน้ึ พรอ้ มกบั รกั จะทำ� กรรมดใี หย้ งิ่ ๆ ขนึ้ ไป สงิ่ เหลา่ นจี้ ะฝกึ ใหค้ ดิ ดี ๆ เปน็ เมอ่ื คดิ ดกี จ็ ะเปน็ เหตใุ หพ้ ดู ดแี ละทำ� ดตี อ่ ไป เมอ่ื คนุ้ เคย มากขึ้น อะไรท่ีตรงข้ามจากน้ี ก็ไม่อยากท�ำ จะรู้สึกขยะแขยง รังเกียจ จึงสามารถตัดสิน ด-ี ชวั่ ไดด้ ว้ ยใจตวั เอง แตถ่ า้ ปลอ่ ยใหค้ นุ้ เคยกบั การกระทบกระทงั่ หยาบคาย กระโชกโฮกฮาก กระแทกกระทนั้ ประชดประชนั ไมต่ รงตอ่ เวลา ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ หมกั หมม สกปรก เมอื่ คนุ้ มา อยา่ งนนั้ พอมาเจออะไรทส่ี ภุ าพนมุ่ นวล กลบั ไมเ่ อา เมอ่ื ไมค่ นุ้ อะไรทด่ี ี ๆ กจ็ ะเลอื กทำ� ในทาง ตรงขา้ ม การจะสอนใหร้ ดู้ รี ชู้ วั่ นน้ั ไมใ่ ชส่ อนดว้ ยคำ� พดู แตต่ อ้ งสอนดว้ ยการปฏบิ ตั ใิ หด้ ู ใหเ้ หน็ ให้ สัมผัส ให้เกิดความคุ้นเคย การแก้ไขตัวเองคือกลยุทธ์ที่แสนวิเศษในการอบรมสั่งสอนผู้อ่ืน ใหร้ กั ความดสี ากล แมไ้ มไ่ ดพ้ ดู กช็ ว่ ยทำ� ใหเ้ ขารดู้ รี ชู้ วั่ ได้ การจะทำ� อะไรใหไ้ ดด้ ตี อ้ งมโี มเดล ถา้ ไมม่ โี มเดลของความดนี น้ั ๆ แลว้ คนทจี่ ะทำ� ตาม จะทำ� ไดย้ าก และคนทจี่ ะเปน็ โมเดลนนั้ แมต้ วั เองทำ� ไดแ้ ลว้ แตถ่ า้ ยงั อธบิ ายเหตผุ ลไมไ่ ด้ กย็ งั ยากทจี่ ะใหเ้ ขาทำ� ตาม แมเ้ ปน็ โมเดลและอธบิ ายไดด้ ว้ ย แตก่ วา่ จะอธบิ ายใหเ้ ขา้ ใจไดต้ รงกนั ยงั ยาก ยงิ่ กวา่ นนั้ บางคนแมจ้ ะรดู้ รี ชู้ ว่ั แตย่ งั อดทำ� ชวั่ ไมไ่ ดก้ ม็ ี แตพ่ อเหน็ โมเดล กม็ กี ำ� ลงั ใจ ไม่ช้าก็อดท�ำช่ัวได้ มีข้อพึงระวังไว้ว่า แม้รู้ว่าตัวเองมีข้อบกพร่องอย่างน้ันอย่างน้ี รู้วิธีแก้ กำ� ลงั ใจทจ่ี ะแกก้ ม็ ี กำ� ลงั กายกม็ ี ลงมอื แกแ้ ลว้ ดว้ ย แตว่ า่ นน่ั แหละ สง่ิ ใดทคี่ นุ้ แลว้ เผลอไมไ่ ด้ เดย๋ี วยอ้ นกลบั มาอกี เพราะฉะนนั้ ตง้ั ใจฝกึ ตวั เองใหด้ ี ถา้ ลงมอื ทำ� จะมแี ตก่ ำ� ไรกบั กำ� ไร กำ� ไร เกดิ ขน้ึ ทต่ี วั เอง กำ� ไรเกดิ ขน้ึ ทลี่ กู หลาน ทบี่ า้ นเราเอง เกดิ ขน้ึ รอบบา้ น รอบเมอื ง ยง่ิ กำ� ไรทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ตวั เองนตี้ ดิ ขา้ มชาตไิ ดเ้ ลย ความสำ� เรจ็ ในการปลกู ฝงั ศลี ธรรมขนึ้ อยกู่ บั กฎแหง่ กรรม เพราะคกุ นใ้ี ชก้ ฎแหง่ กรรมเปน็ เครอ่ื งมอื ควบคมุ ความประพฤติ เพราะฉะนนั้ จงึ ตอ้ งแยกดชี ว่ั ออกใหช้ ดั การจะฝกึ ใหร้ จู้ กั ดชี วั่ แยกดชี ว่ั ใหอ้ อก รกั ทจ่ี ะทำ� ความดี รงั เกยี จการทำ� ชว่ั ความสำ� เรจ็ จงึ ขน้ึ กบั คณุ ภาพของบดิ า มารดา ของพเ่ี ลย้ี ง และสง่ิ แวดลอ้ ม ดงั นน้ั ผใู้ หญท่ รี่ ดู้ -ี ชว่ั บา้ งแลว้ ตง้ั ใจเขา้ วดั ศกึ ษาธรรม ทำ� ทาน รกั ษาศลี เจรญิ ภาวนาอยเู่ ปน็ นจิ จะสามารถเปน็ โมเดล เปน็ ตวั อยา่ ง ชว่ ยเปน็ กำ� ลงั เสรมิ ใหค้ รอบครวั อน่ื เลย้ี งดอู นาคตของชาตใิ หเ้ ตบิ โตเปน็ คนดี รจู้ กั แยกแยะด-ี ชว่ั รกั การทำ� ความดี รังเกียจการท�ำชั่ว ท�ำแต่เรื่องสร้างสรรค์ให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ส่งผลดีต่อสังคม ประเทศชาตบิ า้ นเมอื งไดใ้ นทสี่ ดุ 40 อยู่ในบุญ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
“บุญเปน็ พลังแหง่ ความบริสุทธ์ิ ท่จี ะบันดาลใหเ้ กดิ ความสุข ความส�ำเรจ็ ในชีวติ ทกุ ๆ ระดับ” ทบทวนโอวาทหลวงพ่อธัมมชโย วดั พระธรรมกาย www.kalyanamitra.org
บทความพิเศษ เรื่อง : นวธรรมและคณะนักวจิ ัย DIRI การสบื คน้ รอ่ งรอยธรรมกายยงั ตอ้ ง หลักฐานธรรมกาย เปน็ ภารกจิ ทด่ี ำ� เนนิ ตอ่ ไป ในคมั ภรี พ์ ุทธโบราณ แมว้ า่ สถานการณโ์ ควดิ -๑๙ ที่ ป ร ะ เ ท ศ ส ห รั ฐ อ เ ม ริ ก า ยั ง ไ ม ่ มี ทที า่ วา่ จะกลบั สภู่ าวะปกตใิ นเรว็ วนั (ตอนที่ ๖๑) ช่วงเดอื นสิงหาคมทผ่ี ่านมา ผู้เขยี น ไดร้ บั ข่าวนา่ ยนิ ดีว่า กลั ฯ กิตติพงษ์ วงศ์อักษร นักวิจัยจูเนียร์ของ สถาบันวิจัยดีรี ส�ำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล ประเทศ สหรฐั อเมรกิ า พรอ้ มกบั หวั ขอ้ วจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั คมั ภรี ก์ าศยปปรวิ รรต และเตรยี มตวั เพอื่ ศกึ ษา ในระดับปรญิ ญาเอกต่อไป มหาวทิ ยาลยั คอรเ์ นลเปน็ หนง่ึ ในกลมุ่ มหาวทิ ยาลยั lvy League ซงึ่ ประกอบดว้ ย มหาวทิ ยาลยั แนวหนา้ ในระดบั โลก เชน่ ฮารว์ ารด์ เยล และพรนิ ซต์ นั เปน็ ตน้ หลงั จากจบปริญญาตรีจากคณะอกั ษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร ดว้ ยเกียรตนิ ยิ ม อันดับหน่ึง กัลฯ กิตติพงษ์ก็อาสามารับหน้าท่ีเป็นทนายแก้ต่างให้พระพุทธศาสนา วิชชา ธรรมกาย โดยสมัครมาเป็นนักศึกษาวิจัยของสถาบันวิจัยดีรี เพราะมีความสนใจในด้าน อกั ษรศาสตร์และภาษาโบราณ จึงได้มาศึกษาคัมภรี พ์ ุทธโบราณทีค่ น้ พบในแถบคนั ธาระและ เอเชียกลาง ที่จารึกโดยใช้อักษรขโรษฐี ภาษาคานธารี ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่ท่ีสุดจากท่ีเคย ค้นพบในอารยธรรมอินเดีย และเริ่มมีการศึกษาไม่กี่ทศวรรษมาน้ี โดยอาจารย์ที่เช่ียวชาญ ในการอา่ นคมั ภรี แ์ ละมลี กู ศษิ ยม์ ากมายทวั่ โลกคอื ศ.รชิ ารด์ ซาโลมอน แหง่ มหาวทิ ยาลยั วอชงิ ตนั ประเทศสหรัฐอเมริกา ซ่ึงสถาบันวิจัยดีรีของเราได้ท�ำสัญญาความร่วมมือทางวิชาการโดยส่ง นกั วิจัยมาศึกษาท่นี ่ี หน่ึงในนัน้ คอื กัลฯ กติ ตพิ งษ์น่นั เอง กลั ฯ กติ ตพิ งษเ์ ลา่ ประสบการณใ์ หฟ้ งั วา่ ในสมยั ทศี่ กึ ษาปรญิ ญาตรใี บทสี่ องสาขาภาษา สันสกฤตอยู่ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันนั้น ได้เข้าร่วม Kharoṣṭhī Klub ซ่ึงจะมีการอ่านและ การแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ กนั ในเรอื่ งตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั คมั ภรี โ์ บราณทางพระพทุ ธศาสนา ทคี่ น้ พบในดนิ แดนคนั ธาระและเอเชยี กลาง คมั ภรี เ์ หลา่ นมี้ คี วามหลากหลายทางเนอื้ หา ไมว่ า่ 42 อยู่ในบุญ ตลุ าคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
จะเปน็ คมั ภรี ท์ มี่ ใี นพระไตรปฎิ กเถรวาทหรอื พระสตู รทางฝา่ ยมหายาน ซงึ่ ทง้ั หมดมอี ายไุ มต่ ำ่� กวา่ ๑,๕๐๐ ปี คือตั้งแต่ในสมัยคริสตศ์ ตวรรษท่ี ๑ ถงึ ๕ หรือเก่าแกก่ วา่ น้ัน การศกึ ษาคัมภรี ์ เหล่านี้จึงมีความส�ำคัญต่อความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์พุทธศาสนาเชิงวิชาการ เป็นอย่างมาก ท่ีส�ำคัญทีมงานวิจัยยังพบร่องรอยของธรรมกายและวิธีการปฏิบัติสมาธิแบบ เห็นองค์พระท่ีเคยเป็นท่ีนิยมในดินแดนแถบน้ีเม่ือสมัยก่อน แต่ได้สูญหายไปตามกาลเวลา จนเม่อื มีการคน้ พบคัมภีรโ์ บราณเหลา่ น้ี ทำ� ให้ความรูเ้ หลา่ นกี้ ลับคืนสู่มวลมนษุ ยชาติอีกครั้ง ทั้งน้ีรายละเอียดงานวิจัยเรื่องร่องรอยหลักฐานธรรมกายในดินแดนคันธาระและเอเชียกลาง สามารถหาอา่ นเพม่ิ เตมิ ไดท้ งี่ านวจิ ยั ของ ดร.ชนดิ า จนั ทราศรไี ศล ซง่ึ นอกจากจะมขี อ้ มลู ของ ธรรมกายในดนิ แดนเอเชยี กลางแลว้ ทมี นกั วจิ ยั ดรี ยี งั ไดน้ ำ� เสนอขอ้ มลู ของธรรมกายทปี่ รากฏ ในดนิ แดนอ่นื ๆ ดว้ ย ทง้ั เอเชียอาคเนยแ์ ละจีน เปน็ ตน้ กัลฯ กติ ติพงษ์ วงศอ์ กั ษร นกั เรียนและนกั วจิ ยั จูเนียรข์ องสถาบันวิจยั ดีรี ส�ำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล ประเทศสหรัฐอเมริกา ถา่ ยภาพรว่ มกับ ศ.ริชาร์ด ซาโลมอน และ ศ.คอลเล็ต ค็อกซ์ เหรยี ญกษาปณโ์ บราณทจ่ี ารกึ ชอื่ พระเจา้ เมนนั เดอร์ (Menander) ดา้ นหนา้ จารกึ เปน็ ภาษากรกี ดา้ นหลงั จารกึ ดว้ ยอกั ษรขโรษฐี ส�ำหรับดินแดนคันธาระและเอเชียกลางน้ี นอกจากมีการค้นพบคัมภีร์พระไตรปิฎก และพระสตู รมหายานตา่ ง ๆ แลว้ คมั ภรี ส์ ำ� คญั อยา่ งมลิ นิ ทปญั หากเ็ ปน็ อกี ชน้ิ หนง่ึ ทนี่ กั วชิ าการ เชื่อว่าน่าจะรจนาข้ึนในดินแดนแถบน้ี เพราะมีการค้นพบชิ้นส่วนของคัมภีร์ภาษาคานธารี ทีม่ ขี อ้ ความระบุถงึ พระนาคเสนซ่ึงเป็นตัวเอกของเร่อื ง ใน Kharoṣṭhī Klub ไดม้ กี ารหยิบยก ชน้ิ สว่ นนข้ี น้ึ มาศกึ ษา ซงึ่ เปน็ สญั ญาณอนั ดที อ่ี าจจะชว่ ยยนื ยนั ขอ้ สนั นษิ ฐานของนกั วชิ าการวา่ คัมภีร์มิลินทปัญหาน่าจะแต่งหรือรวบรวมข้ึนเป็นคร้ังแรกในดินแดนคันธาระโบราณ ซึ่ง เปน็ แควน้ หนึ่งในอินเดยี ตะวนั ตกเฉียงเหนือ แม้หลกั ฐานชิ้นนจี้ ะเป็นเพยี งชิน้ เล็ก ๆ แต่กเ็ ปน็ หลักฐานส�ำคัญที่จะท�ำให้ความเข้าใจประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในดินแดนคันธาระและ เอเชยี กลางกระจา่ งชดั ยงิ่ ขนึ้ เชน่ เดยี วกบั ชน้ิ สว่ นคมั ภรี ท์ สี่ ถาบนั ดรี ไี ดร้ บั บรจิ าคมานนั้ แมจ้ ะ เป็นช้ินส่วนเล็ก ๆ เพียงแค่ ๑๐ ช้ิน (DIRI Collection) แต่ก็เป็นสว่ นสำ� คญั ในการสรา้ ง ความกระจา่ งของเรอื่ งราวในพระพทุ ธศาสนาสมยั โบราณไดเ้ ปน็ อยา่ งดี เมอื่ กลา่ วถงึ มลิ นิ ทปญั หา นบั วา่ เปน็ คมั ภรี ท์ ม่ี คี วามสำ� คญั เพราะมสี ว่ นทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ธรรมกายอยู่เชน่ กนั มิลนิ ทปัญหาเปน็ วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาซง่ึ เปน็ ท่นี ิยมอย่างมาก ทัง้ ในอดตี และปจั จบุ นั โดยมกี ารแปลเป็นภาษาจีนถงึ ๑๑ คร้งั ตง้ั แต่สมัยครสิ ต์ศตวรรษที่ ๖ ถงึ ๑๓ แตม่ ีตน้ ฉบบั เหลอื อย่ใู นปจั จบุ นั เพยี ง ๒ ฉบับเทา่ นั้น ฉบับที่นำ� มาศกึ ษาคอื ฉบบั แปล ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 43 www.kalyanamitra.org
ของพระภิกษุคุณภัทระ ซ่ึงน่าจะแปลมาจากภาษาสันสกฤต ส่วนในฉบับภาษาบาลีนั้น ไม่ปรากฏผแู้ ต่งและยุคสมยั ของการแตง่ ในประเทศพมา่ ถือว่ามิลนิ ทปัญหาเป็นสว่ นหน่ึงของ พระไตรปิฎก คือเป็นส่วนหนึ่งของขุททกนิกายในพระสุตตันตปิฎก แต่ในประเทศไทยและ ศรลี งั กาถอื เปน็ เพยี งคมั ภรี ช์ น้ั ปกรณเ์ ทา่ นนั้ ฉบบั ภาษาบาลนี ม้ี เี นอื้ หาทยี่ ดื ยาวออกไปจากฉบบั ภาษาจนี อยมู่ าก โดยมเี พยี ง ๓ บทแรกจาก ๗ บท ทมี่ เี นอื้ หาคลา้ ยคลงึ กนั ตามขอ้ สนั นษิ ฐาน ของพระภกิ ษตุ ชิ มิน เชา ผูไ้ ด้ศึกษาเปรียบเทยี บฉบับภาษาจนี และภาษาบาลอี ย่างละเอียด พบว่าฉบับภาษาจีนน่าจะเป็นฉบับท่ีเก่าแก่และมีเน้ือหาใกล้เคียงกับต้นฉบับภาษาสันสกฤต หรือปรากฤตมากกว่าภาษาบาลี ส่วนฉบับภาษาบาลีน่าจะมีส่วนที่แต่งเพ่ิมเติมข้ึนมาจาก ตน้ ฉบับบ้าง แต่สว่ นทีค่ ลา้ ยคลงึ ของทั้ง ๒ ฉบับนั้น ช้ีใหเ้ หน็ วา่ ทั้ง ๒ ฉบบั น่าจะมตี น้ ฉบับ เดยี วกัน นอกจากนนี้ กั วิชาการยงั สันนษิ ฐานอีกวา่ คัมภีรม์ ลิ ินทปัญหาน่าจะมีทีม่ าจากนิกาย สรรวาสตวิ าท ซึ่งเปน็ ท่ีนิยมนับถอื กันในเอเชยี กลางในยุคสมยั ดังกล่าว ผเู้ ชยี่ วชาญชาวตะวนั ตกดา้ นพทุ ธศาสนาสนั นษิ ฐานวา่ มลิ นิ ทปญั หาแตง่ ขนึ้ ในดนิ แดน อินเดียตะวันตกเฉียงเหนือหรือดินแดนเอเชียกลาง ซ่ึงอดีตเคยเป็นเมืองพุทธท่ีรุ่งเรือง ดังมี พระพทุ ธรปู เกา่ แกแ่ ละซากปรกั หกั พงั ของพทุ ธสถานกระจดั กระจายอยมู่ ากมาย สว่ นชว่ งเวลา ที่แต่งหรือรวบรวมคัมภีร์น้ียังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนชัดเจน นักวิชาการบางท่านคาดเดาว่า น่าจะแต่งชว่ งเร่ิมตน้ ของคริสตศ์ ักราชหรอื ราว ๆ พุทธศตวรรษท่ี ๕ แต่บางทา่ นใหค้ วามเห็น ว่าน่าจะเก่าแก่กว่านั้น อาจจะแต่งขึ้นในสมัยพระเจ้าเมนันเดอร์ กษัตริย์ชาวกรีกท่ีปกครอง ดนิ แดนแถบนี้ ประมาณ ๒ ศตวรรษกอ่ นครสิ ตกาลหรอื พทุ ธศตวรรษท่ี ๓ ตวั ละครเอกของเรอ่ื ง หรอื พระยามิลนิ ท์นเ้ี ปน็ บคุ คลท่ปี รากฏอยู่จริงในประวตั ิศาสตร์ พระองค์เป็นกษตั ริย์ชาวกรกี ทปี่ กครองดนิ แดนอนิ เดยี ตอนเหนอื มกี ารคน้ พบเหรยี ญโบราณทร่ี ะบพุ ระนามพระองคใ์ นภาษากรกี วา่ เมนนั เดอร์ ส่วนในภาษาบาลี พระนามนี้ถูกแปลงเป็นมลิ ินทะ เพ่อื ให้เข้ากับลกั ษณะของ ภาษา ตามข้อมลู ท่ที า่ นตชิ มนิ เชา ไดร้ ะบุในการศกึ ษา ทา่ นพบวา่ เนอื้ หาของมิลินทปญั หา ในฉบบั ภาษาบาลมี คี วามยาวกวา่ ฉบบั ภาษาจนี มาก สามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ ๗ สว่ น โดยมเี นอื้ หา ตรงกันใน ๓ ส่วนแรก หรอื ราว ๆ หน้าแรกถงึ หนา้ ที่ ๘๙ ของฉบับสมาคมบาลีปกรณ์ สว่ น อกี ๔ สว่ นไมป่ รากฏในฉบับภาษาจีน ซึง่ น่าจะเปน็ ส่วนทเี่ พมิ่ เตมิ ภายหลงั โดยโบราณาจารย์ ในสายเถรวาทชาวศรลี งั กา รายละเอยี ดปลกี ยอ่ ยของเนอ้ื เรอื่ งกม็ คี วามแตกตา่ งกนั พอสมควร แตว่ ่าโครงเร่ืองและตัวละครมคี วามคลา้ ยคลึงกัน ท่านตชิ มิน เชา ไดส้ รปุ ความเหมอื นและ ความแตกตา่ งของเนือ้ เรอ่ื งในอดตี ชาตขิ องพระนาคเสนและพระยามลิ ินทไ์ ว้ดังน้ี ๑. ในฉบับบาลี ในชว่ งเรมิ่ ตน้ ของเร่ือง สามเณรและพระภิกษุไดต้ ้ังความปรารถนา และตอ่ มาทั้งสองได้มาเกิดเป็นพระยามลิ ินทแ์ ละพระนาคเสนตามความปรารถนาท่ีตั้งไว้ ใน ฉบบั ภาษาจนี เนอ้ื เรอื่ งเลา่ วา่ พราหมณผ์ เู้ คยเปน็ ชา้ งในอดตี ชาตแิ ละพราหมณผ์ เู้ คยเปน็ ฤๅษี 44 อยู่ในบญุ ตุลาคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ซึ่งเป็นเพ่ือนกัน ต่างก็ได้ต้ังความปรารถนา แล้วทั้งสองก็ได้มาเกิดเป็นพระนาคเสนและ พระยามลิ ินทต์ ามความปรารถนาของตน ๒. ฉบบั บาลกี ลา่ ววา่ พระโรหณะไดร้ บั มอบหมายภารกจิ จากพระอสั สคตุ ตะ เนอื่ งจาก ทา่ นไมไ่ ดไ้ ปอาราธนามหาเสนเทพบตุ รลงมาจตุ พิ รอ้ มกบั หมสู่ งฆ์ พระอสั สคตุ ตะกำ� หนดหนา้ ท่ี ใหพ้ ระโรหณะเดินทางไปยงั บา้ นบิดามารดาของนาคเสน เพือ่ บณิ ฑบาตเปน็ ประจ�ำ ณ ทนี่ ้นั เป็นเวลา ๗ ปคี รึ่ง เพอื่ นำ� นาคเสนออกจากชวี ิตฆราวาสและใหก้ ารอุปสมบทแก่เขา ในฉบบั ภาษาจีน นาคเสนมีลุงคนหน่ึงชื่อว่าโลหันซึ่งเป็นพระอรหันต์ และบรรพชานาเซียนให้เป็น สามเณร พระโลหนั ในทน่ี ี้อาจถือได้ว่าเทา่ กบั พระโรหณะ ๓. ฉบบั บาลีกลา่ วว่า พระนาคเสนได้อยู่จำ� พรรษา ๓ เดอื น ในความปกครองของ พระอัสสคุตตะผู้เป็นพระอรหันต์ ซึ่งอาศัยอยู่ท่ีวัดวัตตนิยะ ในฉบับภาษาจีน พระนาคเสน อาศัยอยู่ในวัดชื่อว่าโฮชัน ซึ่งมีพระอรหันต์อาศัยอยู่ ๕๐๐ รูป โดยมีพระอาโปเยียวเป็น เจ้าอาวาส วัดวัตตนิยะก็เทียบได้กับวัดโฮชัน และพระอรหันต์อัสสคุตตเถระก็เทียบได้กับ พระอรหันตอ์ าโปเยยี ว ๔. ในฉบบั บาลี พระนาคเสนสอนพระอภธิ รรมแกศ่ ษิ ยอ์ บุ าสกิ า และแลว้ ทง้ั ผสู้ อนและ ผฟู้ งั กบ็ รรลโุ สดาบนั เปน็ ทพี่ อใจของพระอสั สคตุ ตะซง่ึ ไดก้ ลา่ ววา่ พระนาคเสนยงิ ศรดอกเดยี ว ได้นก ๒ ตวั ในฉบับภาษาจีน พระนาคเสนสอนธรรมแก่ศษิ ยอ์ บุ าสก และแลว้ ท้งั สองก็ได้ บรรลโุ สดาบนั พระนาคเสนไดร้ บั การสรรเสรญิ จากพระอาโปเยยี ววา่ ยงิ ศรดอกเดยี วไดน้ ก ๒ ตวั จากขอ้ เปรยี บเทยี บขา้ งตน้ ทำ� ใหผ้ ลงานวจิ ยั ของทา่ นตชิ มนิ เชา สรปุ วา่ ตน้ ฉบบั ของทั้งบาลีและจีน น่าจะมาจากต้นฉบับเดียวกัน แต่ของบาลีถูกแต่งเสริมขึ้นในสมัยต่อมา โดยโบราณาจารยเ์ พ่ืออธิบายข้อมลู เพิ่มเติม ความเก่ยี วเนือ่ งกับธรรมกาย สำ� หรับในฉบบั ภาษาบาลีท่ตี ีพมิ พโ์ ดยสมาคมบาลปี กรณน์ ั้น พบวา่ ในหนา้ ท่ี ๗๓ ซึ่ง เป็นเรอ่ื งเกย่ี วกบั การถามทอี่ ย่ขู องพระพุทธเจา้ ในนิพพาน (พทุ ธทัสสนปัญหา) มกี ารกล่าวถึง คำ� ว่าธรรมกาย (ธมฺมกาย) ไว้ดงั น้ี ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พทุ ฺโธ อตถฺ ีต?ิ . ‘‘อาม, มหาราช, ภควา อตฺถตี ิ ฯ ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต นาคเสน, พทุ โฺ ธ นิทสฺเสตุํ อธิ วา อธิ วาติ?. ‘‘ปรนิ ิพพฺ ุโต, มหาราช, ภควา อนปุ าทิเสสาย นพิ พฺ านธาตุยา, น สกกฺ า ภควา นิทสเฺ สตํุ ‘อธิ วา อธิ วาตฯิ ‘‘โอปมฺมํ กโรหตี ิ ฯ ‘‘ตํ กึ มญฺ สิ, มหาราช, มหโต อคฺคกิ ฺขนธฺ สฺส ชลมานสฺส ยา อจฺจิ อตฺถงฺคตา, สกฺกา สา อจฺจิ ทสเฺ สตํุ ‘อธิ วา อิธ วาต?ิ ‘‘น หิ, ภนฺเต, นิรทุ ธฺ า สา อจฺจิ อปปฺ ญฺตฺตึ คตาติ ฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพพฺ โุ ต อตฺถงฺคโต, ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบญุ 45 www.kalyanamitra.org
น สกกฺ า ภควา นิทสฺเสตํุ ‘อธิ วา อธิ วาต,ิ ธมฺมกาเยน ปน โข, มหาราช, สกกฺ า ภควา นทิ สเฺ สตํุ ฯ ธมฺโม ห,ิ มหาราช, ภควตา เทสิโตติ ฯ พระราชาตรัสถามวา่ “พระสมั มาสัมพทุ ธเจ้ามหี รือ พระผู้เป็นเจา้ ?” พระเถรเจา้ ทลู ตอบวา่ “ขอถวายพระพร มีอยู่.” “พระผูเ้ ปน็ เจ้าสามารถจะช้ีไดห้ รือวา่ พระสมั มาสัมพุทธเจา้ อยูท่ ่ีนห้ี รอื ทนี่ ี้.” “พระผู้มีพระภาคปรนิ ิพพานแล้ว ดว้ ยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ อาตมภาพไมส่ ามารถ ทีจ่ ะชีไ้ ด้วา่ อยูท่ ี่นี้หรือทนี่ .้ี ” “ขอพระผู้เป็นเจ้าจงอุปมาให้ข้าพเจ้าฟงั .” “พระองคจ์ ะทรงพระดำ� ริเหน็ ข้อความนนั้ เปน็ ไฉน เปลวแหง่ กองไฟอนั ใหญ่ท่ลี กุ โพลง อยู่ดับไปแลว้ พระองค์จะทรงสามารถชไี้ ดห้ รอื วา่ อยทู่ ่นี หี้ รือที่น้ี.” “ไมส่ ามารถเลย เพราะวา่ เปลวไฟน้ันดับแล้ว ถงึ ความไม่มีบัญญตั เิ สียแลว้ .” “ข้อน้ันฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสส- นิพพานธาตุ ใคร ๆ ไม่สามารถจะช้ีได้ว่าอยู่ที่น้ีหรือท่ีน้ี ดังนี้ ก็แต่ว่าสามารถจะชี้ได้ด้วย ธรรมกาย เพราะว่าพระธรรม พระผมู้ ีพระภาคเจ้าทรงแสดงไวแ้ ลว้ .” จากบทสนทนาข้างต้นที่พระยามิลินท์ถามพระนาคเสนว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมี อยู่หรอื ไม่ มขี อ้ สังเกตบางประการคอื ๑. สงั เกตวา่ บาลใี ชค้ ำ� กรยิ าวา่ อตถฺ ิ ซงึ่ เปน็ present tense หมายถงึ มอี ยู่ (ในปจั จบุ นั ) แทนที่จะใช้ past tense ที่ระบุถึงอดีต แปลว่าเคยมีอยู่ พระนาคเสนก็ตอบว่าพระสัมมา- สมั พทุ ธเจา้ มอี ยู่ แตไ่ มส่ ามารถชไ้ี ดว้ า่ อยทู่ ไ่ี หน เพราะพระองคไ์ ดป้ รนิ พิ พานดว้ ยอนปุ าทเิ สส- นิพพานไปแล้ว เหมือนไฟท่ีดับแล้วก็ไม่สามารถช้ีได้ว่าไฟท่ีเคยลุกโชติช่วงอยู่หายไปอยู่ท่ีใด แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสามารถจะชี้ได้ด้วยธรรมกาย เพราะว่าพระธรรมเป็นสิ่งท่ีพระองค ์ ได้แสดงไว้แล้ว การถามค�ำถามน้ีมีเป้าประสงค์ท่ีชัดเจนว่าเป็นการอธิบายการมีอยู่ของ พระพุทธเจา้ แม้ในเวลาหลังจากทพ่ี ระองค์ปรินิพพานไปแล้ว ๒. ปัญหาข้อน้ีมีปรากฏอยู่ในฉบับภาษาจีนด้วย แม้ว่าข้อความส่วนใหญ่จะตรงกัน แตท่ วา่ เนอ้ื หาทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ธรรมกายกลบั ไมป่ รากฏในฉบบั แปลภาษาจนี ขอ้ สนั นษิ ฐานทเ่ี ปน็ ไปได้มี ๒ ขอ้ คอื ประการแรก ข้อความทเ่ี ก่ยี วข้องกับธรรมกายอาจมปี รากฏต้ังแต่ต้นฉบบั สมัยโบราณ แต่พระภิกษุผู้แปลเป็นภาษาจีนตัดข้อความบางส่วนออกเพ่ือให้กระชับข้ึน แต่ ภาษาบาลียังคงข้อความตามเดิมไว้ หรือประการที่ ๒ สันนิษฐานว่าต้นฉบับเดิมอาจจะไม่ ปรากฏคำ� วา่ ธรรมกายอยู่ อาจจะเนอ่ื งดว้ ยวา่ เปน็ สงิ่ ทท่ี กุ คนพงึ ทราบอยแู่ ลว้ ผแู้ ตง่ จงึ ไมไ่ ดใ้ ส่ ขอ้ ขยายลงไป แตเ่ มื่อเวลาผา่ นไป เม่อื ตน้ ฉบับถกู แปลเปน็ ภาษาบาลแี ละมีการแตง่ เติมเพอ่ื ขยายความใหช้ ัดเจน โบราณาจารย์สายบาลีจงึ ใส่ขอ้ ความระบลุ งไปวา่ พระสัมมาสมั พทุ ธเจา้ สามารถระบุได้ด้วยพระธรรมกายแม้ว่าพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว ทั้งน้ีความเข้าใจเรื่อง 46 อยู่ในบญุ ตุลาคม ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
ธรรมกายอาจจะน้อยลง จึงจำ� เป็นทจ่ี ะตอ้ งขยายความให้คนรุ่นหลงั เขา้ ใจ สรปุ ไดว้ ่า การมเี นอื้ ความไมต่ รงกันในเรอื่ งธรรมกายของทง้ั ฉบบั บาลแี ละจนี นน้ั อาจ จะเกิดจากการปริวรรตเน้ือหาในยุคหลัง ซึ่งแม้แต่ฉบับแปลภาษาไทย ๒ ฉบับ คือ ฉบับ มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั และฉบบั หอสมุดแหง่ ชาติกม็ เี นอื้ ความไมต่ รงกัน โดยทฉี่ บบั มหามกุฏ- ราชวิทยาลัยปรากฏข้อความท่ีกล่าวถึงธรรมกายเช่นเดียวกับสมาคมบาลีปกรณ์ แต่ฉบับ หอสมุดแห่งชาติกลับตัดข้อความนั้นทิ้งเสีย สิ่งน้ีจึงเป็นเร่ืองท่ีน่าคิดว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นน้ัน เราอาจจะไดข้ อ้ สรปุ วา่ คำ� ถามเรอ่ื งการมอี ยขู่ องพระพทุ ธเจา้ นน้ี า่ จะเปน็ สว่ นทเี่ กา่ แกม่ มี าแต่ ตน้ ฉบบั เดมิ แตใ่ นฉบบั ภาษาบาลที มี่ กี ารระบถุ งึ คำ� วา่ ธรรมกายอยา่ งชดั เจนนนั้ อาจจะถกู แตง่ เสรมิ เขา้ มาในภายหลัง เพอ่ื อธิบายขยายความเนือ้ หาเดิมทอ่ี าจจะไม่ชัดเจนเมอ่ื เวลาผ่านไป ส่ิงนี้ชใ้ี หเ้ หน็ ว่าโบราณาจารยส์ ายเถรวาทก็ยอมรับและให้ความสำ� คญั กบั คำ� ว่า ธรรมกาย อยู่ มิใช่น้อย และมีความเข้าใจตรงกันว่า แม้รูปกายของพระพุทธเจ้าหายไปแล้ว แต่พระองค ์ ยังมีธรรมกายอยู่ แต่ว่าเหตุไฉนธรรมกายจึงเลือนหายไปตามกาลเวลาหรือลดความนิยม ลงไปในพระพุทธศาสนาเถรวาทยุคหลัง ก็เป็นสิ่งที่น่าคิดส�ำหรับทีมงานนักวิจัยสถาบันดีรี ทจี่ ะต้องหาค�ำตอบตอ่ ไป ๑๒ ๓ ๑. งานวิจัยเปรียบเทยี บมิลนิ ทปัญหาและนาคเสนภิกษุสตู ร โดยภิกษุติช มิน เชา ชาวเวียดนาม ๒. พระตชิ มนิ เชา พระภกิ ษุชาวเวยี ดนามผเู้ ชย่ี วชาญภาษาบาลแี ละจนี ผูท้ �ำวจิ ัยเปรียบเทียบ คัมภรี ม์ ิลินทปัญหาฉบับบาลีและจีนทีน่ ำ� มาอา้ งอิงในบทความน้ี ๓. มิลนิ ทปญั หาฉบบั อักษรโรมนั ตีพิมพ์โดยสมาคมบาลีปกรณ์ ปรากฏค�ำวา่ ธรรมกายในหน้า ๗๓ ฺ คมั ภรี ท์ างพระพทุ ธศาสนาในคอลเลก็ ชนั ของหอ้ งสมดุ มหาวิทยาลัยคอร์เนล สว่ นใหญ่เปน็ คัมภรี ท์ างเอเชยี อาคเนย์ มีการรวบรวมคมั ภีร์ภาษาไทยไว้ดว้ ย ตลุ าคม ๒๕๖๓ อยู่ในบุญ 47 www.kalyanamitra.org
สาธารณประโยชน์ เรอ่ื ง : กองบรรณาธิการ ธารนำ้� ใจชาววดั พระธรรมกาย หลั่งไหลสู่ผูป้ ระสบภยั www.kalyanamitra.org
Search