หนว่ ยที่ 8 ส่งิ แวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภยั ในการทางานสง่ิ แวดลอ้ ม หมายถึง สงิ่ ทอ่ี ยู่รอบตวั ของมนษุ ย์ ทงั้ ใกล้และไกล เป็นรปู ธรรมและนาทธรรมมชี วี ิตหรอื ไม่มชี ีวติ ก็ได้ ทุกอยา่ งสัมพนั ธก์ นั และมีอิทธิพลต่อมนุษย์ คุณสมบตั ิของส่ิงแวดล้อม สิ่งแวดล้อมที่อยูร่ อบตวั มนุษยม์ ีคุณสมบตั ิเฉพาะตวั 7 ประการ คือ 1. สง่ิ แวดลอ้ มไมอ่ ยู่โดดเดี่ยวในธรรมชาติ แต่จะมีสง่ิ แวดล้อมอน่ื ๆ อยรู่ ่วมด้วยเสมอ เชน่ ปลาอยใู่ นนา้ ดนิอยกู่ บั ตน้ ขา้ ว คนกบั ทีพ่ ัก ฯลฯ 2. สง่ิ แวดลอ้ มต้องพึ่งพาอาศยั กนั และกนั เน่ืองจากส่ิงแวดลอ้ มทุกชนิดต้องการสิง่ แวดลอ้ มอืน่ ๆ เพอ่ื การอยู่รอด หรือจรรโลงชวี ิตของตนเอง เชน่ ตน้ ยาง ต้องการดินและนา้ โคตอ้ งการนา้ ฯลฯ 3. สงิ่ แวดล้อมแตล่ ะประเภทจะมีความแข็งแรงทนทานแตกตา่ งกนั เช่น ดนิ จะถกู ชะล้างได้ง่าย 4. สง่ิ แวดลอ้ มมีการเปลย่ี นแปลงตามเวลาท่เี ปลีย่ นไป เชน่ ทีเ่ ชอื้ ราใหม่ ๆ มสี ีสันสวยงาม แตเ่ ม่ือใชง่ านนานจะเกดิ การชา้ รุด เปน็ ต้น 5. ส่ิงแวดลอ้ มจะอยรู่ วมกันเป็นกลุ่มเรยี กว่า ระบบนเิ วศ ซึ่งเป็นรูปแบบท่ตี ้องอาศัยกันและกันท้งั ทางตรงหรือทางอ้อม 6 .สงิ่ แวดลอ้ มจะสัมพันธเ์ ป็นลกู โซ่ หมายความว่า เม่อื สงิ่ แวดล้อมชนดิ หนงึ่ ถูกท้าลายก็จะกระทบต่อสง่ิ แวดล้อมอน่ื ๆ เป็นลูกโซเ่ สมอ เช่น ปุาถกู ทา้ ลาย จะส่งผลให้พื้นดินพังทลาย หรือเผาปุาท้าให้โลกร้องขน้ึเปน็ ต้น 7. สิ่งแวดลอ้ มทุกชนิดมีเอกลักษณเ์ ฉพาะตวั เป็นเอกลกั ษณ์ของสงิ่ แวดล้อมชนิดนน้ั ๆ เช่น ตน้ ไม้ น้า คนบ้าน แต่ละชนิดมีลักษณ์แตกตา่ งกนั ประเภทของสง่ิ แวดลอ้ ม ส่งิ แวดลอ้ มแบ่งออกเปน็ ประเภทได้ 2 ประเภท ได้แก่ สิ่งแวดลอ้ มธรรมชาติ (Natural Environment) และสิ่งแวดล้อมที่มนุษยส์ ร้างข้ึน สงิ่ แวดลอ้ มธรรมชาติ หมายถึง สง่ิ แวดล้อมท่เี กดิ ข้นึ เองหรอื มอี ยู่ตามธรรมชาติและให้มปี ระโยชน์ต่อมนุษย์มอี ยู่ 2 ประเภท คือ 1. ส่ิงแวดล้อมชีวภาพ (Biological Environment) เปน็ ส่ิงแวดลอ้ มท่ีมชี ีวิต เช่น คน สัตว์ พชื เปน็ ตน้ 2. ส่ิงแวดล้อมกายภาพ (Physical Environment) เป็นส่งิ แวดล้อมที่ไม่มชี ีวติ เชน่ ลม ฟูา นา้ ควัน เสยี งเปน็ ตน้ ส่ิงแวดล้อมท่ีมนษุ ยส์ รา้ งข้ึน คอื สง่ิ ที่เกิดขึ้นจากการกระท้าของมนษุ ย์ทง้ั ที่ตั้งใจและไม่ได้ตง้ั ใจ ทั้งทม่ี ีตวั ตนมี 2 ประเภท คือ 1. สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ (Physical Environment) หรือเรยี กวา่ สงิ่ แวดล้อมรปู ธรรมเปน็ ส่ิงท่มี นษุ ย์สรา้ งขึ้น สามารถมองเห็นได้ เช่น ถนน เมอื ง สะพาน รถ เคิร่ืองบิน เป็นต้น 2. สิง่ แวดลอ้ มทางสังคม (Social Environment) หรอื อาจเรยี กว่า สง่ิ แวดล้อมนามธรรม เป็นส่ิงทสี่ ร้างขน้ึ
เพื่อความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยของการอยรู่ ว่ มกนั เช่นศาสนา กฎหมาย ข้อบังคับตา่ ง ๆ พฤติกรรมของคน เป็นตน้ กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดลอ้ ม กฎหมาย เปน็ ข้อตกลงทางสังคมเพอ่ื ให้มีการนา้ ไปใชใ้ นการดา้ รงชีวติ ได้อยา่ งมีความสขุ ไม่มีการละเมดิ สิทธิสว่ นบคุ คล เชน่ เด่ียวกบั กฎหมายสิง่ แวดล้อมทม่ี ขี ึ้นเพ่ือมกี ารรักษาส่งิ แวดล้อมของชมุ ชน ของประเทศ และของโลกเรา และปอู งกันสภาพแวดล้อมไม่ให้เส่ือมโทรม กฎหมายทเี่ กยี่ วข้องกับส่งิ แวดลอ้ มมีหลายฉบับทส่ี า้ คัญดงั น้ี 1. พระราชบัญญตั ิโรงงาน พ.ศ. 2535 เป็นกฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ้ งโดยตรงกับการประกอบอุตสาหกรรม คือการประกอบกิจการโรงงาน การก้ากบั และดูแลโรงงาน และบทกา้ หนดโทษ โดยใหร้ ฐั มนตรวี า่ กระทรวงอตุ สาหกรรมมอี า้ นาจในการออกกฎกะทรวง ก้าหนดหลกั เกณฑเ์ ก่ียวกับทตี่ ้งั ของโรงงาน สภาพแวดล้อมโรงงานการควบคมุ มลพิษหรอื ส่งิ ตา่ ง ๆ ท่เี กิดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม 2. พระราชบญั ญัตสิ ่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มี 7 หมวด ได้แก่ หมวด 1 คณะกรรมการสิง่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ หมวด 2 กองทุนส่ิงแวดลอ้ ม หมวด 3 การคุมครองสิง่ แวดลอ้ ม หมวด 4 การควบคุมมลพิษ ประกอบดว้ ย คณะกรรมการควบคุมพิษ มาตรฐานควบคมุ มลพิษจากแหลง่ กา้ เนิด เขตควบคุมมลพิษ มลพิษทางอากาศและเสยี ง การตรวจสอบและควบคุมค่าบริการและค่าปรับ หมวด 5 มาตรการสง่ เสริม หมวด 6 ความรับผดิ ทางการแพ่ง หมวด 7 บทกา้ โทษ 3. ประกาศกระทรวงอตุ สาหกรรม เรอื่ งการก้าหนดชนิดและขนาดของโรงงาน ก้าหนดวธิ กี ารควบคมุ การปลอ่ ยของเสียมลพิษหรือสิง่ ใดๆ ทมี่ ีผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม กา้ หนดหลักเกณฑ์การขนึ้ ทะเบียนผคู้ วบคุมดูแลส้าหรับระบบปูองกนั ส่ิงแวดล้อมเป็นพิษ พ.ศ. 2545 ซึ่งเปน็ กฎหมายทก่ี า้ หนดโรงงานมีการแต่งต้ังบคุ ลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจ้าโรงงาน ได้แก่ ผูจ้ ัดการส่ิงแวดล้อม ผคู้ วบคุมระบบบา้ บัดมลพษิ น้า ผู้ควบคุมระบบบ้าบดัมลพิษอากาศ เปน็ ต้น 4. ประกาศกระทรวงอตุ สาหกรรม เรอื่ งกา้ หนดปรมิ าณสารเจือปนในอากาศ ทีร่ ะบายออกจากปล่องเตาเผาส่ิงปฏิกลู หรือวสั ดทุ ่ไี ม่ใชแ้ ลว้ เปน็ ทอี่ นั ตรายจากอุตสาหกรรม พ.ศ. 2545 กา้ หนดคา่ พารามิเตอร์ไว้ ดงั น้ี - ฝุนละออง 34 มลิ ลกิ รมั ตอ่ ลูกบาศกเ์ มตร - HCI 50 มิลลิกรมั ต่อลูกบาศก์เมตร - CO 115 มลิ ลกิ รัมต่อลูกบาศกเ์ มตร - ปรอท 0.1 มลิ ลิกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร - แคดเมยี มและตะกั่ว 0.2 มิลลิกรมั ตอ่ ลูกบาศก์เมตร 5. พระราชบัญญตั วิ ตั ถุอนั ตราย พ.ศ. 2535 ประกอบด้วย 4 หมวด ไดแ้ ก่
หมวดท่ี 1 คณะกรรมการวตั ถอุ นั ตราย หมวดท่ี 2 การควบคุมวตั ถอุ นั ตราย หมวดท่ี 3 หนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบทางแพ่ง หมวดที่ 4 บทกา้ หนด 6. ประกาศคณะกรรมการการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 15 (พ.ศ. 2540) เรอ่ื ง ก้าหนดมาตรฐานระดบัเสยี ง โดยท่ัวไปกา้ หนดไวร้ ะดับเสียงเฉลย่ี 24 ช่วั โมง ไมเ่ กิน 70 db(A) 7. พระราชบญั ญตั ริ ักษาความสะอาดและความเป็นเรียบร้อยของบา้ นเมือง มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ ทจี่ ะจดั การเร่ืองความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรียบร้อยของบา้ นเมอื ง โดยกา้ หนดใหอ้ าคาร ห้างร้าน ส้านักงานโรงงาน โรงมหรสพ โรงแรมตา่ งๆ จ้างเจา้ หน้าท่ดี ูแลรกั ษาความสะอาดหน้าอาคารน้ันให้สะอาด เชน่- หา้ มอาบน้า ซกั ผา้ บนถนนเวน้ แต่ได้รบั อนุญาต- ห้ามส่ัง ถ่มน้าลาย นา้ มกู น้าหมาก ลงบนถนน หากฝุาฝืนปรับไม่เกิน 100 บาท- หา้ มถา่ ยอุจจาระ ปสั สาวะลงบนถนนสาธารณะ ฝาุ ฝืนปรับไมเ่ กนิ 500 บาท- หา้ มเดด็ ใบ ดอก หรือผลของต้นไม้ของสาธารณะฝุาฝนื ปรับไมเ่ กนิ 200 บาท ประโยชน์ของการจัดการส่งิ แวดลอ้ ม ประโยชน์ที่องค์การจะได้รบั จากระบบการจดั การสง่ิ แวดจ้าแนกออกเปน็ ประโยชน์ทางตรงและทางอ้อมดงั นี้ 1. ประโยชน์ทางตรง (1) องคก์ ารบรหิ ารด้านสิ่งแวดล้อมได้ ลดการใช้ทรัพยากรดา้ นวสั ดุอยา่ งมรี ะบบ (2) ลดคา่ ใชจ้ ่ายในการจัดการผลติ เนือ่ งจากการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มคา่ (3) มกี ารจดั การสง่ิ แวดลอ้ มท่เี หมาะสม เชน่ การจัดการการทรพั ยากร การจดั การของเสีย (WasteManagement) ทา้ ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนอ้ ยท่สี ดุ เปน็ ผลใหต้ น้ ทนุ ตา้่ (4) เกดิ สภาพแวดล้อมการทา้ งานทด่ี ี พนักงานมีความปลอดภยั ในการทา้ งาน ลดความเส่ียงทเี่ กิดจากความผิดพลาดในการก้าจัดขยะทีม่ ีพษิ รวมถึงลดความเสียงทเ่ี กิดต่อชมุ ชนรอบๆ สถานประกอบการ 2. ประโยชน์ทางอ้อม (1) สร้างภาพพจน์ท่ีดีใหก้ บั องค์การ เปน็ ท่ยี อมรับของสังคม เปน็ ผู้ผลติ ทีม่ ีจรยิ ธรรม ไมเ่ ป็นผ้ทู ้าลายส่งิ แวดล้อม ท้าให้เกดิ สมั พนั ธภาพท่ดี ตี ่อชุมชน (2) เพิม่ โอกาสทางธรุ กิจซง่ึ เป็นผลจากการคดิ รเิ ร่ิมผลิตสินคา้ ท่ไี มท่ า้ ลายสิ่งแวดลอ้ ม ทา้ ให้การเจรจาทางดา้ นการค้าสะดวกยง่ิ ขึน้ เป็นผลใหส้ ามารถรกั ษาสว่ นแบ่งทางการตลาดและเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในอนาคตอกี ดว้ ยนบั ว่าเป็นประโยชนอ์ ย่างยงิ่ (3) ชว่ ยในการอนุรักษ์ ทรัพยากรของโลกซ่ึงเหลืออยู่ไมม่ ากนกั มาตรฐานระบบคณุ ภาพการจดั การสิ่งแวดลอ้ ม ISO14000 1. ความหมายและแนวคดิ ของมาตรฐานระบบคณุ ภาพ ISO 14000 มาตรฐาน ISO 14000 คอื มาตรฐานสากลวา่ ด้วยการจดั การด้านส่ิงแวดล้อมระหว่างประเทศที่
ก้าหนดโดยองคก์ ารมาตรฐานระหวา่ งประเทศ (The International Organization for Standardization) ซง่ึตง้ั อยู่ ณ กรุงเจนวี า ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนด์ เพ่ือเปน็ มาตรฐานสากลในการกา้ หนดคุณภาพสิง่ แวดล้อมในกระบวนการผลติ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เพือ่ สรา้ งระบบในการรักษา ควบคุม และปรับปรงุ คณุ ภาพของสิ่งแวดล้อม รวมทง้ั ปูองกนั สุขอนามัยของมนุษย์ โดยมกี ารวางแผนก้าหนดแนวทางเพื่อปูองกันและลดตน้ เหตุของมลพษิ ครอบคลมุ ถงึ การฝึกอบรมพนกั งาน การจัดการด้านความรับผดิ ชอบ และระบบต่าง ๆ ท่ีตอ้ งดา้ เนินการดา้ นสงิ่ แวดล้อมในองค์การ มาตรฐาน ISO 14000 เป็นอนุกรมมาตรฐานการจัดการส่ิงแวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ ระบบการจักการสงิ่ แวดล้อม การตรวจประเมินการจัดการสิ่งแวดล้อม การประเมนิ ความสามารถในการจัดการส่ิงแวดล้อมการแสดงฉลากรับรองผลติ ภัณฑ์ และการประเมนิ ผลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ มในวงจรของผลติ ภณั ฑท์ ุกองคก์ ารท้ังผผู้ ลิตและบรโิ ภค มาตรฐาน ISO 14000 ประกอบด้วยมาตรฐานหลายฉบับ เริ่มต้นแต่หมายเลย 14001 จนถึง14100สา้ หรบั มาตรฐานทีส่ ามารถย่ืนขอรบั การรับรองไดค้ ือ ISO 14001 Environmental Management Systems-Specification with Guidance for Use หรอื ท่เี รียกกันวา่ เป็นมาตรฐานระบบการจดั การสิง่ แวดล้อม 2. โครงสรา้ งอนุกรมมาตรฐาน ISO 14000 มาตรฐานการจดั การส่ิงแวดลอ้ ม ISO 14000 ทีห่ นว่ ยงานตา่ ง ๆ สามารถดา้ เนนิ การท่ีจัดข้นึ มี 3 กลมุ่มาตรฐานของระบบการจดั การส่งิ แวดล้อม เก่ยี วผลิตภัณฑ์ และมาตรฐานเก่ยี วกบั การตรวจสอบ ซง่ึ แต่ละกลุ่มมีรายเอยี ดดงั น้ี 1. มาตรฐานของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System : EMS) มีหน้าท่ีควบคมุ ระบบการจัดการสง่ิ แวดล้อมของหน่วยงานทางด้านนโยบายการวางแผน การปฏิบัติการตรวจสอบมี 2 รูปแบบ คือ ISO 14001 หมายถึง ข้อก้าหนดสา้ หรับการใชเ้ ป็นข้อก้าหนดของระบบการจดั การสิง่ แวดลอ้ ม และแนวทางในการน้าข้อกา้ หนดไปใช้ในองค์การ ISO 14004 หมายถึง หลกั เกณฑ์และขอ้ เสนอแนะเปน็ แนวทางเกยี่ วกับหลักการของระบบการจัดการสง่ิ แวดลอ้ มและการประยุกต์ใชใ้ นองค์การ 2. มาตรฐานเกี่ยวกบั ผลติ ภัณฑ์ (Product Evaluation Standards) ประกอบ มาตรฐานเก่ียวกับการประเมนิ ผลของผลิตภัณฑ์ 3 แบบ คอื (1) ฉลากสิง่ แวดลอ้ ม (Environmental Labels, EL) หมายถึง ส่งิ ต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้องกับฉลากสง่ิ แวดลอ้ มดว้ ยการกา้ หนดมาตรฐาน คือ ISO 14020 หลักการพนื้ ฐานเกย่ี วกบั การพฒั นาและการใช้ฉลากสง่ิ แวดล้อม ISO 14021 ค้านยิ ามและคา้ ศัพท์เก่ยี วกับการใชฉ้ ลากผลิตภัณฑ์ประเภทท่ี 2 ISO 14022 วธิ ีการ/แนวทางในการใชส้ ญั ลกั ษณ์ของฉลากผลิตภัณฑ์ประเภทท่ี 2 ISO 14023 วธิ กี ารตรวจสอบและรับรองผลิตภณั ฑท์ ี่จะใชฉ้ ลากผลติ ภัณฑป์ ระเภทท่ี 2 ISO 14024 แนวทางหลกั การและขอ้ กา้ หนดของวิธกี ารรับรองผลิตภณั ฑท์ ีจ่ ะใช้ฉลากผลิตภณั ฑ์ประเภทท่ี 1 (2) การประเมินวงจรผลิตภัณฑ์ (Life-Cycle Assessment, LCA)
การประเมินวงจรผลติ ภัณฑ์หรอื วงจงชวี ิต หมายถงึ ลกั ษณะปัญหาสงิ่ แวดลอ้ มและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เปน็ ไปได้ของผลติ ภณั ฑ์ เป็นการศกึ ษาลักษณะปญั หาสิ่งแวดล้อมและผลกระทบท่ีเป็นไปไดต้ ลอดชวี ติ ของผลติ ภัณฑต์ งั้ แต่การได้มาซง่ึ วัตถุดิบไปจนถงึ การผลิต การใช้ ดว้ ยการก้าหนดมาตรฐาน ไดแ้ ก่ ISO 14040 หลกั การกรอบงาน และข้อก้าหนดส้าหรบั การดา้ เนนิ การและการรายงานผลการศกึ ษาการประเมินวงจงผลิตภัณฑ์ ISO 14041 วิธกี ารจัดทา้ รายงาน ปัจจยั ทใ่ี ช้ในกระบวนการการผลิต/บริการ และผลท่ีไดจ้ ากกระบวนการ ISO 14042 การประเมนิ ผลกระทบทางสง่ิ แวดล้อมของวงจงผลติ ภณั ฑ์ ISO 14043 การประเมนิ การปรับปรุงผลติ ภัณฑ์ 3. ลกั ษณะปญั หาสิง่ แวดล้อมของมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ (Environmental Aspects in productsStandards, EAPS) เปน็ ข้อแนะนา้ ว่าดว้ ยประเดน็ ปญั หาด้านส่ิงแวดลอ้ มของมาตรฐานผลิตภณั ฑ์เปน็ ลักษณะของการกา้ หนดเกณฑ์ (Criteria) เดมิ จัดทา้ เป็นมาตรฐาน ISO 14060 ปจั จบุ ันเปน็ ISO Guide 64 3.มาตรฐานเกย่ี วกับการตรวจสอบ เป็นมาตรฐานท่ีก้าหนดวธิ ีการตรวจประเมนิ ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ได้แก่ (1) มาตรฐานการตรวจสอบดา้ นสง่ิ แวดล้อม (Environmental Auditing) จดั เป็นเครอ่ื งมอื ในการตรวจสอบประเมินการดา้ นสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน คอื ISO 14010 หมายถึง หลักเกณฑ์ทว่ั ไปที่เปน็ แนวทางและหลักการในการตรวจสอบส่ิงแวดลอ้ ม ISO 14011 หมายถงึ แนวทางสา้ หรบั การตรวจติดตามส่ิงแวดล้อม (เปน็ วิธีตรวจประเมินระบบการจัดการส่งิ แวดลอ้ ม ISO 14012 หมายถงึ คณุ สมบัตผิ ู้ตรวจสอบ เปน็ ข้อกา้ หนดคณุ สมบตั ิของผ้ตู รวจสอบส่งิ แวดลอ้ ม (2) มาตรฐานการประเมินผลด้านส่งิ แวดล้อม (Environmental performance Evaluation, EPE) เป็นเครื่องมอื ทผี่ ู้บริหารใชป้ ระเมินองค์การวา่ ได้ท้างานบรรลวุ ตั ถุประสงคท์ างสิ่งแวดลอ้ มท่ีไดต้ ั้งไวห้ รือไม่ โดยตรวจสอบจากสภาพการปฏบิ ตั ิงาน เทคโนโลยี ปัญหาและอุปสรรคท่เี กิดขึ้น คือ ISO 14031 หมายถงึ แนวทางการประเมนิ ผลการดา้ เนนิ การด้านส่งิ แวดลอ้ ม 3. หลกั การของระบบการจัดการส่ิงแวดล้อม ISO 14000 การดา้ เนินงานตามระบบการจัดการสิง่ แวดล้อม ISO 14000 มีหลกั การท่จี ะต้องค้านงึ ถงึ ดงั ต่อไปน้ี 1. ก้าหนดนโยบายส่ิงแวดลอ้ ม เริม่ แรกผ้บู ริหารระดบั สงู ขององค์การต้องก้าหนดนโยบายสงิ่ แวดล้อมให้เหมาะสมกบั สภาพ ขนาด และผลกระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม ทเี่ กิดจากการด้าเนินกจิ กรรมต่าง ๆ ขององค์การ 2. วางแผน (1) ระบุลกั ษณะปัญหาสง่ิ แวดลอ้ ม (2) พจิ ารณาข้อกา้ หนดในกฎหมายและระเบยี บอื่น ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง (3) กา้ หนดวัตถปุ ระสงค์และเปาู หมายด้านสิ่งแวดลอ้ มใหส้ อดคล้องกับนโยบาย (4) จัดทา้ โครงการจัดการสิ่งแวดลอ้ ม เพื่อให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์และเปาู หมาย 3. นา้ นโยบายไปปฏบิ ัติและดา้ เนินการ (1) จดั โครงสร้างขององค์การและกา้ หนดหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ เพื่อให้การจดั การสิง่ แวดลอ้ มสามารถดา้ เนนิ การได้อย่างมีประสทิ ธพิ ล
(2) จดั ฝกึ อบรมสร้างจติ สา้ นึกและใหค้ วามรูด้ า้ นสิ่งแวดลอ้ มแก่บุคลากรท่ีปฏิบตั ิงานในลักษณะท่อี าจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบสา้ คัญต่อส่งิ แวดล้อม (3) ก้าหนดลกั ษณะและขน้ั ตอนการตดิ ตอ่ ส่ือสารท้ังภายในและภายนอกองค์การ (4) จัดท้าและควบคมุ ระบบเอกสารด้านการจัดการส่ิงแวดลอ้ ม (5) ควบคุมการด้าเนนิ งานในกจิ กรรม ซึ่งเก่ียวขอ้ งกับลกั ษณะปัญหาส่งิ แวดล้อมเพ่ือใหบ้ รรลุนโยบายวัตถปุ ระสงค์ และเปาู หมายท่ีก้าหนด (6) เตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์หากเกิดเหตฉุ ุกเฉิน รวมถงึ การปูองกันและบรรเทาผลกระทบด้านสงิ่ แวดล้อมทเี่ กย่ี วกบั สถานการณด์ งั กล่าว 4. ตรวจสอบและแกไ้ ข (1) เฝาู ตดิ ตามและวัดผลในกจิ กรรมซง่ึ ก่อให้เกดิ ผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม (2) ด้าเนนิ การแก้ไขและปูองกนั ในสิ่งท่ีไม่เปน็ ไปตามข้องกา้ หนด (3) ตรวจติดตามประสิทธพิ ลของการแก้ไขและการปอู งกัน 5. ทบทวนระบบการจดั การส่งิ แวดล้อม โดยผู้บริหารระดับสงู ขององค์การเป็นระยะ ๆ เพ่อื ใหแ้ นใ่ จวา่ ระบบที่ได้จดั ท้าขึน้ มีความเหมาะสมเพียงพล และไดน้ ้าไปใช้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4. ข้ันตอนการจัดทาระบบการจดั การสง่ิ แวดล้อม ISO 14000 มขี ัน้ ตอนดังน้ี (1) ขน้ั ศึกษาอนุกรมมาตรฐาน ISO 14000 เพือ่ คน้ หาข้อเทจ็ จรงิ ในการด้าเนินการเขา้ สูร่ ะบบซงึ่ ปจั จบุ ันมหี นว่ ยงานมากมายให้ความรู้ เชน่ สา้ นกั งานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรม (สมอ.) ส้านักงานรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) สถาบนั เพ่ิมผลผลิตแห่งชาติ และองค์การต่าง ๆ ที่ผ่านการรับรองคุณภาพ (2) แต่ตง้ั คณะกรรมการ เพอื่ จัดทา้ ระบบควบคมุ ดูแลใหเ้ ป็นไปตามทีไ่ ด้กา้ หนดไว้ (3) คณะกรรมการกา้ หนดนโยบายด้านส่งิ แวดล้อม วางแผนการจัดระบบ จัดท้าวธิ กี ารปฏบิ ัติและค้าแนะน้าท่ีจา้ เปน็ ทัง้ นี้ต้องไมล่ ะเลยในการสร้างจติ สา้ นกึ เรอื่ งสิ่งแวดล้อมแก่บุคลากร (4) ปฏิบัติตามระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมทกี่ ้าหนดไว้ (5) ตรวจติดตามระบบการจัดการสิง่ แวดล้อม เพ่อื ตรวจสอบว่าระบบเปน็ ไปตามแผนและข้อกา้ หนดของมาตรฐานหรือไม่ เพยี งใด ตลอดจนได้มีการนา้ ไปใช่ปฏิบตั ิและคงไวอ้ ย่างเหมาะสมหรือไม่ (6) ปรบั ปรงุ และแก้ไขข้อบกพร่องท่ีพบจากการตรวจตดิ ตามภายใน และปรับปรงุ ระบบใหม้ ีประสทิ ธภิ าพย่งิ ขึ้น (7) ยน่ื คา้ ขอรับรองจากหนว่ ยงานจดทะเบียน5. ฉลากเพอ่ื สิ่งแวดล้อม ฉลากเพ่ือสง่ิ แวดลอ้ มจดั เป็นเครื่องมอื หนึ่งในการจัดการส่ิงแวดลอ้ มตามวตั ถปุ ระสงคข์ องระบบ ISO14000 ทรี่ ู้จกั กนั ดีของฉลากเพ่ือสงิ่ แวดล้อม คือ ฉลากเขียว (Green Label) ฉลากเพ่ือสง่ิ แวดลอ้ มในปจั จุบนัตามระบบ ISO 14000 แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทท่ี 1 (Type 1) เป็นฉลากท่ผี ่านการรบั รองโดยบคุ คลที่ 3 ซง่ึ ได้แก่ องค์การอสิ ระท่ีใชม้ าตรฐานISO 14000 เป็นแนวทางในการประเมินมอบใหผ้ ลติ ภณั ฑท์ ี่มคี ุณสมบัติตรงกับข้อก้าหนดทางสิง่ แวดล้อมที่
องค์การก้าหนด โดยมเี กณฑ์หรือเงือนไขในการพจิ ารณามากกว่า 1 อย่าง ประเภทท่ี 2 เปน็ ฉลากผลิตภณั ฑ์เพื่อส่ิงแวดล้อม ท่ีเกดิ ขนึ้ จากการประกาศตนเองบคุ คลที่ 1 ซ่ึงใช้มาตรฐาน ISO 14021, ISO 14022 และ ISO 14023 เปน็ แนวทางในการปฏิบัติ โดยปกติแลว้ ผ้ผู ลติ จะเปน็ผู้ตดิ ตามฉลากเอง ประเภทที่ 3 เป็นฉลากทผี่ า่ นการรับรองโดยบุคคลท่ี 3 ทไี่ ม่มกี ารวางเงื่อนไข มีลักษณะคลา้ ยกับฉลากโภชนาการของอาหาร ผู้ผลติ เพยี งแตร่ ายงานด้านเทคนิคให้ทราบ ลกั ษณะของฉลากจะบอกรายละเอียดให้ขอ้ มูลต่าง ๆ เก่ียวกบั ผลิตภณั ฑใ์ นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ พลงั งาน ปรมิ าณมลพิษท่ีเกินข้ึน เปน็ ต้น ในการออกฉลากเพอ่ื สิ่งแวดล้อมประเภทท่ี 1 โดยองค์การอิสระจะใช้ ISO 14024 เป็นหลักการและวิธีปฏบิ ัติ ซ่ึงก็คือมาตรฐานทีเ่ กย่ี วกับฉลากเชียว (Green Label หรือ Eco-Label) ซง่ึ ดา้ เนนิ การโดยภาครฐั หรอืเอกชนก็ได้ รูปท่ี 8.1 ฉลากเขยี วทีอ่ อกใหโ้ ดยองค์การอิสระซ่ึงเปน็ บคุ คลที่ 3 ของประเทศไทย ฉลากเขียว เปน็ เครื่องมอื และกลยทุ ธ์อยา่ งหนง่ึ ท่ีใช้ในการตลาด เปน็ เคร่ืองมือในการช่วยรกั ษาและปูองกนั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มผา่ นทางการผลิตและการบริโภค ฉลากเขยี วไมไ่ ด้เป็นรางวัลดา้ นสิ่งแวดลอ้ มแต่เป็นสง่ิ ที่ออกใหก้ ับผลิตภัณฑ์ซึ่งไดผ้ า่ นการประเมินและตรวจสอบว่าได้มาตรฐานทางด้านสงิ่ แวดลอ้ มตามขอ้ ก้าหนดท่ีคณะกรรมการโครงการฉลากเขียวประกาศใช้ ซ่ึงโครงการฉลากเขยี วด้าเนินงานโดยความสมัครใจของผูผ้ ลติ ผ้จู ดั จ้าหนา่ ย หรือผใู้ ชบ้ ริการท่ตี ้องการแสดงความรับผดิ ชอบส่งิ แวดลอ้ ม ในประเทศไทยมีคณะกรรมการนกั ธรุ กจิ เพื่อสง่ิ แวดล้อมไทยริเริ่มโครงการฉลากเขียวข้ึนตง้ั แต่ 10ตลุ าคม 2536 โดยมีเกณฑใ์ นการคัดเลือกผลติ ภัณฑ์เพื่อมอบฉลากเขยี ว ดงั นี้1. เปน็ ผลิตภัณฑ์ท่ีใช้ในการอุปโภคบรโิ ภคท่ัวไปในชวี ิตประจา้ วนั2. ผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่มตี ่อส่งิ แวดล้อม และคุณประโยชน์ท่ีสง่ิ แวดลอ้ มจะได้รับจ้าหน่ายผลิตภัณฑอ์ อกสู่ตลาด3. มีวธิ ีการตรวจสอบประเมินคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ที่ไม่ยุ่งยากและไมเ่ สยี ค่าใช้จา่ ยสูง4. ตอ้ งเปน็ ผลติ ภณั ฑท์ ่ีผู้ผลิตมีทางเลือกอนื่ ในการผลติ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อมน้อย5. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ท้งั ที่สามารถน้ากลบั มาใช้ใหมไ่ ด้ และไม่สามารถน้ากลบั มาใช้ใหม่6. การลกมลพิษสง่ิ แวดล้อม ต้ังแตก่ ารผลิต การขนส่ง การบรโิ ภค และการก้าจดั หลงั การใช้แล้ว7. การน้ากลับมาใชใ้ หม่ หรอื หมุนเวียนกลบั มาใชใ้ หม่8. การปฏบิ ตั ิตามข้อกา้ หนดของกฎหมาย
6. เหตุการณ์เกยี่ วกับส่ิงแวดล้อม 1. ลักลอบตดั ไมป้ าุ ต้นนา้ ทงุ่ ระยะ 2. เทศบาลขุขันธ์ จ. ศรสี ะเกษ ม่งุ ประหยัดพลงั งาน 3. ส่งิ แวดลอ้ ม จ. ภเู ก็ต ขับเคลือ่ นเมืองสวยใสไรม้ ลพิษ 4. ลดมลพิษจากหมอกควันภาคเหนือ 5. กระทรวงวิทย์ฯ นา้ เทคโนโลยชี ว่ ยปรบั ปรุงคณุ ภาพน้า ภาคอสี าน 6. กระทรวงพลงั งานรว่ มปลูกปุาในจงั หวัดนา่ นสรปุ สาระสาคญั ส่งิ แวดลอ้ ม หมายถึง สิ่งที่อยู่รอบตวั มนุษย์ ท้ังท่อี ยู่ใกล้และไกล เป็นรปู ธรรมและนามธรรม มีชวี ิตหรือไม่มีชีวิต และมคี ณุ สมบัติเฉพาะตัว 7 ประการ มี 2 ประเภท ได้แก่ ส่ิงแวดลอ้ มธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มท่ีมนุษย์สรา้ งขึ้น โดยปจั จุบันมีกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องในการก้ากับดแู ลควบคุมสิ่งแวดล้อมอยา่ งดโี ดยเฉพาะพระราชบญั ญตั โิ รงงาน พ.ศ. 2535 ทา้ ให้เกิดประโยชนท์ งั้ ประโยชน์ทางตรงและประโยชน์ทางอ้อมมากมายอยา่ งไรกต็ ามเพื่อให้การจัดการส่งิ แวดล้อมมมี าตรฐานสากล จงึ ไดม้ กี ารนา้ ระบบมาจรฐาน ISO 14000 มาใช้วัตถุประสงค์ของอาชวี อนามัย งานอาชีวอนามยั เป็นการปรับสภาพงานให้เหมาะสมกบั มนุษยแ์ ละจดั บุคคลใหเ้ หมาะสมกับงานที่ตนถนัดและรับผดิ ชอบ ซึ่งงานอาชวี อนามัยมวี ตั ถปุ ระสงคท์ ่ีสา้ คญั ดังน้ี 1. เพอ่ื สง่ เสริมและรกั ษาสุขภาพทางกาย ทางใจ และการมชี วี ิตเป็นปกตใิ นสังคมของคนงานทุกอาชีพ 2. เพ่ือปูองกันความเส่ยี งตอ่ ปัจจยั ท่ีอาจจะทา้ ให้เกิดปัญหาสขุ ภาพของคนงาน 3. เพ่ือปูองกนั การเกดิ ปัญหาสขุ ภาพทั่วไปจากสภาพการท้างานของคนงาน 4. เพือ่ ปรบั ปรุงส่ิงแวดลอ้ มในการท้างานทีเ่ หมาะสมเอ้ือต่อการท้างานท้งั รา่ งกายและจติ ใจของคนงาน รูปที่ 9.1 การออกกา้ ลังกายเพอ่ื สุขภาพ องคป์ ระกอบของอาชีวอนามัย
งานอาชวี อนามยั มอี งคก์ ารประกอบทีส่ า้ คญั ดังนี้ 1. คน ในด้านคนทป่ี ฏบิ ัติงานท้งั หลายยอ่ มมคี วามแตกต่างกนั อยา่ งหลากหลาย เช่น กรรมพนั ธส์ุ ภาพร่างกายอารมณ์ เปน็ ตน้ 2. กระบวนการผลิต มสี ่วนเก่ยี วข้อง 2 สว่ น คือ 1. วัตถุดบิ ทใ่ี ช้ในการผลติ อาจจะเป็นพิษต่อสขุ ภาพได้ 2. วธิ ีการผลิต อาจมีอันตรายในการทา้ งานเกิดขนึ้ ได้ 3. เครอื่ งมือ มีทง้ั เครื่องจักร เครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ ท่ีใช้ในการประกอบอาชพี เช่น รถบรรทกุ เครื่องตัด เคร่ืองยก ฯลฯ 4. ส่งิ แวดลอ้ มในการท้างาน มอี งคป์ ระกอบที่สา้ คญั ดังน้ี 1. สิ่งแวดล้อมทางเคมี เชน่ ยาฆา่ แมลง ควนั สารเคมตี ่างๆ ที่ใชใ้ นการประกอบอาชพี เปน็ ต้น 2. สง่ิ แวดล้อมทางชีวภาพ เช่น ไวรัส แบคทเี รยี หนู แมลงตา่ งๆ เป็นต้น 3. สิง่ แวดล้อมดา้ นจิตใจ เช่น ความสกปรก ทัศนียภาพ เปน็ ตน้ 4. สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพ เช่น เสียง ความร้อน รงั สี ฯลฯขอบเขตของอาชีวอนามัย ขอบเขตของอาชวี อนามัย มีดังนี้ 1. ปอู งกนั และรักษาอุบัติภัยจากการท้างานในอาชีพ 2. ปูองกันและรกั ษาโรคท่ีเกดิ จากการประกอบอาชีพ 3. การจัดบริการสขุ ภาพแก่คนงาน 4. สง่ เสริมสขุ ภาพจติ ในการทา้ งาน 5. จดั ส่งิ แวดล้อมท่ีเหมาะสมในการท้างานเพื่อปูองกนั อันตราย 6. ฟน้ื ฟสู ุขภาพผูร้ บั บาดเจ็บจากการทา้ งาน 7. ปูองกนั การเจ็บปุวยและส่งเสริมสขุ ภาพของคนงานโดยรวมความหมายของความปลอดภัย มีนกั วิชาการได้ใหค้ วามหมายของความปลอดภยั ไว้ ดังน้ี พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 กล่าวว่า ความปลอดภยั คอื พน้ ภัย เฉิดศักดิ์ สืบทรัพย์ (2555 : 23) กา้ หนดวา่ ความปลอดภัย หมายถึง การปราศจากภัย รวมถงึ ปราศจากอันตรายที่มีโอกาสจะเกดิ ขน้ึ สรปุ ความปลอดภยั หมายถงึ การพ้นหรอื ปราศจากสงิ่ ท่เี ปน็ อนั ตรายต่าง ๆ ทง้ั จากโรคและจากอบุ ตั ภิ ัยความสาคัญของความปลอดภยั ในการทางาน การทา้ งานทม่ี ีความระมัดระวงั จะท้าใหม้ ีความปลอดภัย ซ่งึ เกิดประโยชน์หลายประการ ดังน้ี 1. ต้นทุนการผลติ ลดลง เมือ่ การเกิดอุบตั ิเหตุลดลง ความสูญเสียหรอื ค่าใชจ้ ่ายส้าหรบั อบุ ัตเิ หตกุ ็น้อยลง โรงงานสามารถประหยดั
เงนิ ค่ารกั ษาพยาบาล ค่าเงนิ เขา้ กองทุนทดแทน เป็นต้น 2. ผลผลิตเพ่งิ ขึ้น การท้างานอย่างปลอดภยั ทา้ ให้คนงานมีขวัญและก้าลังใจท้างานได้เตม็ ที่ รวดเร็วยงิ่ ข้นึ สง่ ผลใหม้ ีผลผลติโดยรวมเพ่มิ ข้ึน 3. ก้าไรมากขน้ึ เน่อื งจากตน้ ทนุ ลดลงและผลผลติ เพ่ิม เปน็ เหตุให้โรงงานได้ก้าไรมาขนึ้ เนื่องจาก กา้ ไร = รายได้ -รายจา่ ย 4. รกั ษาทรัพยากรมนุษย์ การท้าให้สภาพการท้างานมคี วามปลอดภยั เป็นการลดการเกิดอบุ ัติเหตุ ส่งผลให้คนงานได้รับบาดเจบ็หรอื ตายน้อยลง จงึ เป็นการสงวนรกั ษาทรัพยากรมนุษยท์ ี่ส้าคญั ของชาตไิ ว้ได้ 5. จูงใจใหค้ นอยากท้างานมากข้ึน เนอื่ งจากมีความปลอดภัยในการทา้ งานและด้ารงชีวิตซึง่ สอดคล้องตามทฤษฎีการจูงใจของมาสโลว์(Maslow Motivation Theory)
รปู ท่ี 9.2 ปูายความปลอดภยั ตา่ งๆ กฎหมายความปลอดภยั ในการทางานของประเทศไทย พ.ศ. 2470 ได้มกี ารจดั ตั้งคณะพจิ ารณากฎหมายอุตสาหกรรม เพื่อคุมครองความปลอดภยั ของคนงาน พ.ศ. 2471 ประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคมุ กจิ การคา้ ขายอนั กระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน พ.ศ. 2477 ประกาศใช้พระราชบญั ญตั สิ าธารณสุข พ.ศ. 2482 ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิโรงงาน พ.ศ. 2482 ไดก้ า้ หนดเง่ือนไขการขอตงั้ และประกอบกจิ การโรงงานเกยี่ วกับการรักษาความสะอาด ความปลอดภยั ในการท้างาน ความปลอดภัยในการตดิ ตง้ั เรอื่ งจักรอุปกรณ์ ตลอดจนไฟฟูา การปูองกันอันตรายจากวตั ถรุ ะเบิด พ.ศ. 2484 ประกาศใชพ้ ระราชบัญญัตสิ าธารณสขุ โดยเพ่มิ เติมในบทบัญญัตเิ ก่ยี วกับแสงสวา่ งการระบายอากาศ น้าดื่ม หอ้ งนา้ และสุขภณั ฑ์
พ.ศ. 2499 ประกาศใชพ้ ระราชบัญญตั คิ วบคุมการกอ่ สร้างอาคาร พ.ศ. 2503 ประกาศใช้พระราชบญั ญัตโิ รงงาน (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2503 พ.ศ 2510 ประกาศใช้พระราชบญั ญตั วิ ตั ถุมีพิษ พ.ศ 2510 และมกี ารแก่ไขเพ่ิมเติม โดยพระราชบัญญัติวตั ถุมีพิษ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ 2516 พ.ศ 2512 ตอ่ มาไดแ้ ก่ไขเพิ่มเติม ฉบบั ที่ 2 พ.ศ 2518 และฉบับที่ 3 พ.ศ 2552 พ.ศ 2515 ประกาศใช้ ประกาศคณะปฎิวัติ ฉบบั ท่ี 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2515 เพอ่ื เปน็ กฎหมายคมุ้ ครองสุขภาพอนามยั ของลูกจา้ ง พ.ศ 2525 รัฐบาลไดจ้ ดั ตั้งคณะกรรมการปูองกันอุบัตภิ ัยแหง่ ชาติ (กปอ.) สังกดั สา้ นักนายกรัฐมนตรี พ.ศ 2526 จัดตง้ั สถานบันความปลอดภัย โดยกรมแรงงานกระทรวงมหาดไทย พ.ศ 2528 กรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย ได้ออกประกาศเรื่องความปลอดภยั ในการท้างาน ซึ่งระบวุ า่นายจ้างมีลกู จา้ งในสถานประกอบการ 100 คนขนึ้ ไป จะต้องมีเจา้ หนา้ ทีค่ วามปลอดภยั (Safety Officer) พ.ศ 2535 ประกาศใช้พระราชบัญญัตโิ รงงาน พ.ศ 2535 แทนพระราชบญั ญัตโิ รงงาน พ.ศ 2512 ซ่ึงมีสาระสา้ คัญเกีย่ วกับการอนุญาตโรงงาน ความปลอดภัยและอาชีวอนามยั มลพิษและสง่ิ แวดลอ้ ม รวมถงึบทลงโทษ - ประกาศกระทรวงแรงงานและสวสั ดกิ ารสังคมวา่ ดว้ ยความปลอดภยั ในการท้างานของลูกจ้าง เช่น1. เรอ่ื งความปลอดภัยในการทา้ งานเกย่ี วกับเครื่องจักร2. เรอ่ื งความปลอดภัยในการท้างานทีเ่ ก่ยี วกับไฟฟาู3. เร่ืองความปลอดภัยในการทา้ งานก่อสร้างวา่ ดว้ ยน่งั ร้าน4. เร่อื งความปลอดภัยในการทา้ งานเก่ียวกับป้นั จั่น5. เรอ่ื งความปลอดภัยในการท้างานเก่ียวกับกับสารเคมอี ันตราย - พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ก้าหนดรายละเอียดที่ส้าคญั ในการคุ้มครองแรงงานใหม้ ีความปลอดภยั ในการท้างาน ดังน้ี1. เวลาท้างานปกตไิ ม่เกนิ 8 ชั่วโมง/วัน2. เวลาพกั ไม่น้อยกว่า 1 ช่วั โมง/วนั หลงั จากทา้ งานไม่เกิน 5 ชวั่ โมง3. วันหยดุ ไมน่ ้อยกว่า 1 วนั /สัปดาห์4. วันลา ลาปุวย ไดเ้ ทา่ ทปี่ วุ ยจรงิ การลาปุวยตงั้ แต่ 3 วันขน้ึ ไป นายจา้ งอาจใหล้ ูกจ้างแสดงใบรบั รองแพทย์5. ห้ามมิให้นายจ้างจา้ งเด็กต้่ากวา่ 15 ปี เป็นลูกจ้าง6. สถานท่ีห้ามลูกจา้ งเด็กอายุต่้ากว่า 15 ปี ทา้ งาน - กฎหมายกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กา้ หนดใหง้ านท่ีเปน็ อนั ตรายต่อสขุ ภาพและความปลอดภัยของลูกจา้ ง ต้องจดั ให้มีการปูองกันทตี่ ัวบุคคล ได้แก่1. งานทต่ี ้องท้าใต้ดนิ ในถ้า ในอโุ มงค์ หรอื ในท่ีอับอากาศ2. งานเกย่ี วกับกัมมันตภาพรังสี3. งานเชือ่ มโลหะ4. งานขนสง่ วตั ถุอนั ตราย5. งานผลิตสารเคมีอนั ตราย
6. งานท่ตี ้องทา้ ดว้ ยเครื่องมือหรอื เครอ่ื งจักร7. งานทีต่ อ้ งท้าเกยี่ วกับความร้อนจดั หรอื เยน็ จดั อันอาจเป็นอนั ตราย วธิ กี ารทางานอยา่ งปลอดภยั ในการประกอบอาชีพ1. กฎเบ้อื งต้นแห่งความปลอดภยั 10 ประการ 1. ชว่ ยกันรกั ษาความสะอาดและมีความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย 2. ปรับปรงุ แกไ้ ขสภาพการณท์ ไ่ี ม่ปลอดภัย 3. ปฏิบัตติ ามคา้ แนะน้าอย่างเครง่ ครดั 4. รายงานการบาดเจ็บและการปฐมพยาบาล 5. ใช้เคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ใหถ้ กู ตอ้ งปลอดภยั 6. การใช้ การปรบั ซอ่ มแซมอปุ กรณ์ต่างๆ ตอ้ งเป็นหน้าท่ขี องผเู้ กย่ี วข้องเท่าน้ัน 7. การยกสงิ่ ของหนักควรช่วยกันยกหลายๆ คน 8. ห้ามหยอกล้อหรอื เล่นกันในขณะท้างาน 9. ใชอ้ ปุ กรณป์ ูองกนั อันตรายในการปฏิบัตงิ านให้เหมาะสม 10. ปฏิบตั ิตามกฎหรอื สญั ลกั ษณข์ องความปลอดภัย2. ความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายวสั ดุ มวี ิธกี ารดงั น้ี1. การเคลื่อนยา้ ยด้วยมือ ต้องพิจารณาจากสง่ิ ของทจี่ ะทา้ การเคลื่อนย้ายโดยใช้มือยก2. การเคลอ่ื นย้ายดว้ ยเครือ่ งจักร สามารถพจิ ารณาได้จาก (1) เรอ่ื งจักรหรือรถตอ้ งมหี ลงั คาและอปุ กรณใ์ นการควบคมุ (2) ใช้รถใหเ้ หมาะสมกับลกั ษณะงาน (3) ด้านผู้ขับข่ีต้องมีสุขภาพร่างกายแขง็ แรง3. ความปลอดภัยในการเชื่อมโลหะ มวี ธิ กี ารดังน้ี 1. ใชห้ น้ากากปูองกนั แสงที่เกดิ จากการเชอ่ื มโลหะ 2. ควรสวมรองเทา้ นิรภยั ในขณะท้างานเช่ือม 3. ควรสวมเส้ือผ้าอย่างมิดชิดในขณะทา้ การเชอื่ ม 4. ควรสวมถุงมอื ในขณะที่ทา้ การเชือ่ ม 5. ควรสวมหนา้ กากเพ่อื ปูองกันแสง รงั สี และสะเก็ดไฟ4. ความปลอดภยั ในการใช้ไฟฟา้ มวี ธิ ีการดงั น้ี 1. ต้องมสี วติ ซต์ ัดตอนไฟฟูาโดยอัตโนมัติ 2. อปุ กรณ์ไฟฟาู ควรมกี ารต่อสายดิน 3. ต้องมีฟิวสป์ ูองกันการใช้กระแสไฟฟูาเกิน 4. การใช้งานเต้าเสยี บไมค่ วรต่อออกไปใชง้ านมากเกินไป 5. สายไฟฟูาทตี่ ่อจากเต้าเสยี บไม่มีการชา้ รุด 6. ตอ้ งมีการตรวจสอบระบบไฟฟาู จากผเู้ ชี่ยวชาญ
กิจกรรมสง่ เสริมความปลอดภัยในการทางาน กจิ กรรมส่งเสรมิ ความปลอดภยั ในการทา้ งาน เปน็ กจิ กรรมทีจ่ ัดขนึ้ เพ่ือรณรงคส์ ง่ เสริมความปลอดภยั แก่ลกู จ้างอย่างเปน็ รปู ธรรม เพ่อื เปน็ ไปตามนโยบายและแผนดา้ เนนิ งานของสถานประกอบการนัน้ กจิ กรรมต่างๆ มีดงั น้ี1. การจดั นทิ รรศการ การจัดนทิ รรศการเป็นการนา้ ภาพเร่ืองราวต่างๆ เช่น น้าภาพอบุ ัตเิ หตุ สถิติการเกดิ อนั ตราย รวมถงึ ภาพเหตกุ ารณ์จริงมาจดั แสดงในวันสา้ คัญ เพ่ือให้ลูกจา้ งเกิดความตระหนักและมจี ิตสา้ นกึ ในการท้างานอยา่ งปลอดภยั2. การบรรยายพิเศษ การบรรยายพเิ ศษเป็นการเชิญวทิ ยากรมาให้ความรแู้ กบ่ ุคลากรในหน่วยงานอันเป็นการปลกู จิตสา้ นึกให้ปฏบิ ัติตามกฎแห่งความปลอดภยั3. การประกวดเกย่ี วกบั ความปลอดภัย ตัวอย่างการประกวดเก่ยี วกบั ความปลอดภัย เช่น ประกวดคา้ ขวัญความปลอดภยั ประกวดภาพโปสเตอร์เป็นต้น4. การรณรงคค์ วามปลอดภยั การจัดกิจกรรมรณรงคค์ วามปลอดภยั เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกนั ปฏิบตั ติ ามนโยบายของหน่วยงาน5. การกระจายเสียงบทความ การกระจายเสียงบทความเป็นการนา้ บทความเกย่ี วกับความปลอดภยั ออกเสยี งตามสายหรือทางสถานีวิทยุต่างๆ6. การทัศนะศึกษาในสถานประกอบการอน่ื การทัศนะศกึ ษาในสถานประกอบการอนื่ เพื่อใหล้ ูกจ้างได้มีโอกาสไปพบการท้างานในสถานประกอบการที่ดเี ดน่7. การจัดฉายวดิ ีโอความปลอดภยั การจัดฉายวิดีโอความปลอดภัย เปน็ กิจกรรมที่จัดไปพร้อมกบั นิทรรศการในวนั หรอื สัปดาห์ความปลอดภัยโดยขอยมื วิดโี อความปลอดภัยจากสถาบนั ความปลอดภัยในการท้างานหรือศนู ย์ความปลอดภัย นา้ ไปฉายให้เจา้ หน้าท่ไี ดด้ ู8. การท้าปูายแสดงสถิติอบุ ตั ิเหตุ หน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องกบั ความปลอดภัยสามารถจัดทา้ แผน่ ปาู ยขนาดใหญ่แสดงสถิตอิ ุบตั ิเหตุหรอื ปาู ยประกาศกิจกรรมเกีย่ วกบั ความปลอดภยั ไวใ้ นท่ีมองเห็นได้ง่าย9. ตอบปญั หาชิงรางวัล หนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบอาจจัดใหม้ กี ารตอบปัญหาชงิ รางวลั ในชว่ งสัปดาหค์ วามปลอดภัยของหนว่ ยงานวิธกี ารตอบปญั หาจากเรอ่ื งราวนิทรรศการ หรอื แผ่นพบั ความรทู้ ี่แจกในงาน10. การเผยแพรบ่ ทความในวารสาร หากหน่วยงานมีการจัดทา้ วารสารเพือ่ เป็นการประชาสมั พนั ธ์ แจกจ่ายแกบ่ คุ ลากรและผู้ท่สี นใจทวั่ ไปสามารถน้าบทความเกี่ยวกับความปลอดภัยไปตีพิมพ์ในวารสารเพ่อื เผยแพรค่ วามรู้ ความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
กจิ กรรมสง่ เสรมิ ความปลอดภยั ทง้ั 10 ข้อ มีความส้าคัญกบั ความปลอดภัยในการท้างาน เน่อื งจากเปน็กจิ กรรมทเี่ ปดิ โอกาสใหผ้ ู้บรหิ ารและพนักงานมีส่วนรว่ ม และกระตนุ้ จติ ส้านึกของพนักงานดา้ นความปลอดภยัในการท้างานของพนักงานได้เปน็ อยา่ งดียงิ่ ข้นึ แผนภาพที่ 9.1 กจิ กรรมสง่ เสริมความปลอดภัยในการทา้ งาน มาตรฐานระบบคุณภาพการจดั การอาชวี อนามัยและความปลอดภยั ISO 180001. ความหมายและแนวคิดของมาตรฐานระบบคณุ ภาพ ISO 18000 มาตรฐานระบบคณุ ภาพ ISO 18000 หรือในประเทศไทย คือ มอก. 18000 เป็นมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามยั และความปลอดภยั ก้าหนดข้นึ เพ่ือเปน็ แนวทางให้องคก์ ารหน่วยงานตา่ งๆ นา้ ไปปฏิบัติโดยมีจดุ ม่งุ หมายเพ่อื แก้ไขปัญหาอาชีวอนามยั และความปลอดภัยในการท้างานของพนักงาน ซง่ึ มาตรฐานนจ้ี ะครอบคลุมถงึ แนวทางในการปูองกันมิให้เกิดปญั หาดา้ นสุขภาพและอุบัตเิ หตุต่างๆ ต่อผปู้ ฏบิ ัตงิ านและสังคมโดยรอบ อนุกรมมาตรฐาน มอก. 18000 แบง่ ออกเปน็ 2 ฉบบั ดงั นี้ 1. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจดั การอาชีวอนามัยและความปลอดภัย : ข้อกา้ หนดตามมาตรฐานเลขท่ี มอก. 18001-2542 2. มาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรมระบบการจดั การอาชวี อนามัยและความปลอดภัย : ขอ้ แนะนา้ ท่ัวไปเกี่ยวกับหลกั การ ระบบ และเทคนิคในทางปฏบิ ัติตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 180042. วตั ถปุ ระสงค์ของมาตรฐานระบบคณุ ภาพ ISO 18000 วัตถปุ ระสงค์ของมาตรฐานน้ี ก้าหนดขนึ้ เพอ่ื ใช้เป็นเกณฑใ์ นการจดั ท้าระบบการจดั การอาชวี อนามัยและความปลอดภยั ขององค์การและพัฒนาปรบั ปรุงระบบใหด้ ียิ่งขึน้ อย่างตอ่ เนื่องในด้านตา่ งๆ คอื 1. ลดความเสีย่ งต่ออนั ตรายและอุบัตเิ หตุต่างๆ ของพนักงานและผเู้ ก่ียวข้อง 2. ปรับปรงุ การด้าเนินงานขององค์การให้เกดิ ความปลอดภยั 3. ช่วยสรา้ งภาพพจนค์ วามรับผิดชอบขององค์การตอ่ พนกั งานภายในองคก์ าร3. ขนั้ ตอนหลักการในการจดั ทามาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 18000
ขน้ั ตอนหลักในการจดั ท้าระบบการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (มอก. 18000) 1. การทบทวนสถานะเริ่มตน้ องค์การจะตอ้ งพจิ ารณาทบทวนระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยท่ีมีอยู่ในปัจจบุ ันขององค์การ มีวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อกา้ หนดขอบเขตของการน้าระบบการจดั การไปใช้ 2. นโยบายอาชีวอนามยั และความปลอดภยั ผบู้ ริหารระดบั สูงสดุ ขององค์การจะต้องกา้ หนดนโยบายดา้ นอาชีวอนามยั และความปลอดภัย และจดั ทา้ เป็นเอกสาร มอบหมายให้มีการดา้ เนนิ การตามนโยบายพร้อมท้ังจดั สรรทรพั ยากรท่จี า้ เปน็ ในการด้าเนนิ การ 3. การวางแผน มีการชี้บ่งอนั ตรายและประเมนิ ความเสี่ยง รวมทง้ั ช้ีบ่งข้อกฎหมายท่ีเกยี่ วข้อง ทง้ั น้เี พ่ือใช้ในการจดั การท้าแผนงานควบคุมความเสีย่ ง การวดั ผล และการทบทวนระบบการจัดการอาชวี อนามัยและความปลอดภยั ได้อยา่ งเหมาะสม พรอ้ มทั้งก้าหนดวัตถปุ ระสงค์และเปูาหมายท่ีชดั เจน เพือ่ ให้สามารถจัดสรรทรพั ยากรได้ถูกต้องท้งั ด้านงบประมาณและบุคลากร 4. การนา้ ไปใช้และการปฏิบตั ิ องค์การต้องนา้ แผนงานที่กา้ หนดไวม้ าปฏบิ ัติโดยผ้บู รหิ ารระดับสงู เปน็ผ้รู บั ผิดชอบโครงการ จดั ใหม้ ีการฝึกอบรมบคุ ลากรเพ่ือให้มีความรู้และความสามารถ ที่เหมาะสมและจ้าเป็นต้องจดั ทา้ และควบคมุ เอกสารใหม้ ีความทันสมัย มีการประชาสัมพนั ธเ์ พื่อปลูกจติ ส้านกึ ใหท้ ุกคนในองค์การตระหนักถึงความรบั ผิดชอบร่วมกนั ให้ความส้าคัญร่วมมือกันน้าไปใช้ปฏบิ ัติ พร้อมทงั้ ควบคุมปฏิบตั ิให้มง่ั ใจกจิ กรรมดา้ เนนิ ไปดว้ ยความปลอดภัยและสอดคล้องกับแผนงานที่วางไว้รวมถึงมีการเตรียมความพรอ้ มส้าหรับกรณที ีเ่ กดิ ภาวะฉุกเฉินขน้ึ 5. การตรวจสอบและแก้ไข ผู้บริหารขององค์การต้องก้าหนดให้มีการตรวจติดตามผลการปฏบิ ตั ิงานเป็นระยะ ๆ โดยการตรวจประเมิน เพ่ือวัดผลการปฏิบัติและหาข้อบกพร่องของระบบ แล้วนา้ ไปวิเคราะหห์ าสาเหตุและทา้ การแก้ไข แลว้ บันทึกไว้เป็นลายลกั ษณะอักษร 6. การทบทวนการจดั การ ผบู้ ริหารระดบั สูงขององค์การจะตอ้ งก้าหนดให้มกี ารทบทวนระบบการจัดการอาชีวอนามยั และความปลอดภัย จากผลการด้าเนินงานผลการตรวจประเมนิ รวมทัง้ ปจั จัยต่าง ๆ ทีเ่ ปล่ียนแปลงไปนา้ มาปรับปรงุ การด้าเนนิ งานเพื่อลดความเสย่ี งอย่างต่อเนอื่ งและก้าหนดแผนงานในเชงิ ปูองกัน ประโยชนข์ องมาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 18000 1. ลดต้นทนุ ในระยะยาว เนอื่ งจากสามารถควบคุมและลดจ้านวนการเกดิ อุบตั เิ หตุท่จี ะเกิดขนึ้ ต่อความเสียหายทางดา้ นรา่ งกายและทรัพยส์ นิ อาจรวมถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดลอ้ ม 2. เกดิ สภาพแวดลอ้ มในการท้างานทีด่ ี พนักงานมีความปลอดภัยในการท้างาน 3. สรา้ งภาพลักษณะท่ีดีใหก้ ับองคก์ าร 4. พฒั นาบุคลากรให้มกี ารวางแผน การทา้ งานเป็นทีม การพฒั นาความรูเ้ ก่ยี วกับระบบการจัดการ ซึ่งมีการวางแผนการปฏบิ ัติ การตรวจสอบ รวมถงึ การแก้ไขข้อบกพรอ่ งและการพฒั นาอย่างต่อเนื่องก่อใหเ้ กิดประสิทธิภาพและประสทิ ธิพลในการท้างานมากขึน้ 5. เกดิ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการดา้ เนนิ งานด้านอาชีวอนามยั และความปลอดภัย
ข้อสอบย่อย หน่วยที่ 8คาส่ัง ให้นักเรยี นทา้ เครอื่ งหมาย ทับข้อท่ถี กู ต้องทสี่ ดุ เพียงข้อเดยี ว1. สิ่งแวดล้อมหมายถงึ ขอ้ ใดก. สง่ิ ต่าง ๆ ทางธรรมชาตริ อบตัวมนุษย์ข. ส่ิงท่มี นุษยส์ ร้างขึ้นอยรู่ อบตวั มนุษย์ค. ทุกสิง่ ทุกอย่างทเ่ี ป็นรปู ธรรมทีอ่ ยรู่ อบตัวมนุษย์ง. ส่ิงท่ีอยู่รอบตัวมนษุ ย์ ทงั้ ใกล้ ไกล เปน็ รูปธรรม นามธรรม มชี ีวติ ไมม่ ชี วี ติ ดี ไม่ดี สัมพันธ์กันและมีอิทธิพลต่อมนุษย์2. “ตน้ ยางต้องการดนิ และน้า” ลกั ษณะดงั กลา่ วเป็นคุณสมบตั ิของสิ่งแวดล้อมใดก. สิ่งแวดลอ้ มต้องพ่ึงพากนั ข. ส่ิงแวดล้อมแข็งแกร่งต่างกนัค. สิ่งแวดลอ้ มสมั พันธ์กันเป็นลูกโซ่ ง. สิง่ แวดล้อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว3. “เผาปาุ ทา้ ให้โลกรอ้ น” ลกั ษณะดงั กล่าวเปน็ คุณสมบตั ขิ องส่งิ แวดลอ้ มในขอ้ ใดก. สง่ิ แวดลอ้ มต้องพ่ึงพากัน ข. สง่ิ แวดล้อมแข็งแกร่งตา่ งกันค. สิ่งแวดล้อมสัมพนั ธ์กนั เป็นลกู โซ่ ง. สิ่งแวดลอ้ มมเี อกลักษณ์เฉพาะตัว4. ขอ้ ใดหมายถึงสงิ่ แวดล้อมที่มนษุ ย์สรา้ งข้นึ ทางกายภาพก. คน ข. สะพาน ค. ลม ง. กฎหมาย5. Physical Environment หมายถึงอะไรก. สิ่งแวดลอ้ มนามธรรม ข. สิ่งแวดล้อมธรรมชาติที่ไม่มีชวี ิตค. สงิ่ แวดล้อมรปู ธรรมท่มี นุษยส์ ร้างขนึ้ ง. สิง่ แวดล้อมธรรมชาติทม่ี ีชวี ติ6. ข้อใดหมายถงึ ประโยชน์ทางตรงของการจดั การส่ิงแวดล้อมก. ลดค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ข. สรา้ งภาพพจน์ท่ีดีค. เพม่ิ โอกาสทางธุรกิจ ง. ชว่ ยอนรุ ักษท์ รัพยากรโลก7. การจดั การของเสยี (Waste Management) ทา้ ให้เกดิ คณุ ค่าของการจัดการสงิ่ แวดล้อมในขอ้ ใดก. สรา้ งภาพพจนท์ ่ีดี ข. อนรุ ักษ์ทรพั ยากร
ค. ลดค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ง. จดั การส่ิงแวดล้อมท่ีเหมาะสม8.หากผู้บริหารหนว่ ยงาน จะน้าหลกั การ ISO 14000 มาใช้ ท่านจะเลอื กใชห้ ลักการข้อใดเปน็ อันดบั แรกก. แกไ้ ขและตรวจสอบ ข. ปฏบิ ัติ ค. วางแผน ง. ก้าหนดนโยบาย9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วตั ถปุ ระสงค์ของอาชวี อนามยัก. เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและใจ ข. เพ่ือปูองกนั ความเส่ียงอนั ตรายค. เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ ง. เพือ่ ปรับปรุงสง่ิ แวดล้อม10.ยาฆ่าแมลง ควนั และสารเคมี เปน็ องค์ประกอบของอาชีวอนามัยข้อใดก. ส่ิงแวดลอ้ ม ข. คน ค. เครื่องมอื ง. กระบวนการผลติ11.ข้อความใดอธบิ ายถงึ องค์ประกอบของอาชีวอนามยั เก่ยี วกับกระบวนการผลิตไดถ้ กู ต้องก. กรรมพนั ธ์ุ สภาพร่างกายย่อมมีความแตกตา่ งกนั ข. วตั ถดุ บิ และวธิ กี ารผลติ อาจเป็นพิษหรืออนั ตรายค. เครอ่ื งจกั ร เครื่องยนต์ อุปกรณต์ ่างๆ ในการประกอบอาชีพ ง. ความสกปรก เสยี ง ไวรัสตา่ ง ๆ12. “งานอาชวี อนามยั ของผไู้ ด้รบั บาดเจบ็ จากการท้างาน” มขี อบเขตงานตรงกับข้อใดก. ฟืน้ ฟูสุขภาพ ข. ส่งเสริมสขุ ภาพจติค. ปอู งกนั และรกั ษาอุบัติภยั ง. จัดสิ่งแวดลอ้ มทเี่ หมาะสม13. ความปลอดภัยหมายถึงข้อใดก. ปราศจากอันตรายจากโรคตา่ งๆ ข. การปราศจากภยั หรอื อันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นทัง้ หมดค. การท้าความสะอาดส้านกั งานใหเ้ รยี บร้อย ง. การลดการใช้ยาฆ่าแมลงและการใชส้ ารเคมีอ่นื ๆ ของการเกษตร14.กฎเบอื้ งต้นแหง่ ความปลอดภัยคือข้อใดก. ปฏิบัตติ ามสญั ลักษณ์ความปลอดภัยในบางครั้ง ข. การยกสง่ิ ของหนักไมค่ วรยกหลายคนค. ชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาดและไม่จ้าเปน็ ต้องเปน็ ระเบยี บ ง. หา้ มหยอกลอ้ หรือเล่นกันในขณะทา้ งาน15. ในการทา้ งานเชือ่ มโลหะใหป้ ลอดภยั ท่านจะเลือกใชว้ ธิ ีปฏิบัตงิ านอย่างไรจึงจะเหมาะสมก. ต้องมีสวติ ชต์ ัดตอนไฟฟาู โดยอัตโนมัติ ข. ควรสวมหน้ากากเพ่อื ปูองกันแสง รังสี และสะเก็ดไฟค. สายไฟฟาู ท่ตี ่อจากเตา้ เสียบไมม่ กี ารช้ารดุ ง. สวมถุงมอื หรือไมส่ วมก็ได้ขณะทีท่ ้าการเชื่อม16. เลขที่ มอก. 18001–2542 หมายถึงอะไรก. ขอ้ ก้าหนดตามมาตรฐาน ISO 18000 ข. ข้อแนะนา้ ท่วั ไปเก่ียวกบั หลักการ/เทคนิคการปฏิบัติค. จุดมงุ่ หมายของ ISO 18000 ง. แผนงานของ ISO 1800017. ขอ้ ใดหมายถึงขนั้ ตอนแรกในการจัดท้า ISO 18000ก. การวางแผน ข. การทบทวนสถานะเริ่มตน้ ค. การปฏิบัติ ง. การกา้ หนดนโยบาย18. หากท่านน้าระบบ ISO 18000 มาใชใ้ นการทา้ งานจะเกดิ คุณค่าในดา้ นใดก. ลดตน้ ทุนในระยะยาว ข. สภาพแวดลอ้ มในการท้างานทดี่ ีค. สรา้ งภาพลักษณท์ ด่ี ีกับองคก์ าร ง. ถกู ทุกข้อ19. ข้อใดจัดเปน็ สงิ่ แวดล้อมในการทา้ งาน “ทางด้านชวี ภาพ”ก. ยาฆา่ แมลง ควัน ข. ความสกปรก รกรงุ รัง ค. เชอื้ ไวรสั แบคทีเรีย ง. แสง เสยี ง ความรอ้ น
ข้อสอบย่อย หนว่ ยที่ 8คาส่ัง ให้นักเรียนทา้ เครือ่ งหมาย ทบั ข้อทีถ่ ูกตอ้ งท่สี ดุ เพียงข้อเดียว1. สิง่ แวดลอ้ มหมายถงึ ข้อใดก. สง่ิ ตา่ ง ๆ ทางธรรมชาติรอบตัวมนุษย์ข. ส่งิ ท่มี นษุ ยส์ ร้างขน้ึ อยรู่ อบตวั มนุษย์ค. ทุกส่ิงทุกอยา่ งทเ่ี ปน็ รปู ธรรมท่อี ยรู่ อบตัวมนษุ ย์ง. ส่ิงทอี่ ย่รู อบตวั มนษุ ย์ ทงั้ ใกล้ ไกล เปน็ รปู ธรรม นามธรรม มีชวี ิต ไม่มีชีวติ ดี ไมด่ ี สัมพันธก์ นั และมอี ิทธิพลตอ่ มนุษย์2. ส่งิ แวดล้อมรอบตวั คนมคี ุณสมบตั กิ ปี่ ระการก. 1 ประการ ข. 3 ประการ ค. 5 ประการ ง. 7 ประการ3. “ตน้ ยางต้องการดนิ และน้า” ลกั ษณะดังกลา่ วเป็นคณุ สมบัตขิ องสิ่งแวดลอ้ มใดก. สิ่งแวดล้อมต้องพึ่งพากัน ข. สิ่งแวดล้อมแข็งแกร่งตา่ งกนัค. ส่ิงแวดลอ้ มสัมพนั ธ์กนั เป็นลูกโซ่ ง. สิ่งแวดลอ้ มมเี อกลักษณ์เฉพาะตัว4. “เผาปาุ ทา้ ให้โลกร้อน” ลักษณะดังกลา่ วเป็นคุณสมบตั ขิ องสิ่งแวดล้อมในขอ้ ใดก. สงิ่ แวดล้อมต้องพึ่งพากัน ข. สิ่งแวดล้อมแข็งแกร่งตา่ งกันค. สิง่ แวดลอ้ มสัมพนั ธก์ ันเปน็ ลกู โซ่ ง. สิ่งแวดลอ้ มมีเอกลักษณเ์ ฉพาะตวั5. ข้อใดหมายถงึ สิ่งแวดล้อมท่ีมนษุ ย์สรา้ งข้ึนทางกายภาพก. คน ข. สะพาน ค. ลม ง. กฎหมาย6. Physical Environment หมายถงึ อะไรก. สง่ิ แวดล้อมนามธรรม ข. ส่ิงแวดลอ้ มธรรมชาตทิ ่ีไมม่ ีชวี ิตค. สง่ิ แวดล้อมรูปธรรมทม่ี นุษยส์ ร้างขน้ึ ง. ส่ิงแวดล้อมธรรมชาติทมี่ ีชวี ิต7. พ.ร.บ. ส่งเสรมิ และรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 หมวดท่ี 4 กลา่ วถึงเรอ่ื งใดก. การควบคุมมลพิษ ข. กองทนุ ส่งิ แวดลอ้ มค. มาตรการสง่ เสริม ง. บทก้าหนดโทษ8. กระทรวงอุตสาหกรรมได้กา้ หนดปริมาณสารเจือปนในอากาศทเี่ ป็นอนั ตรายจากอุตสาหกรรมประเภท ฝุ นละออง โดยกา้ หนดค่าพารามิเตอร์ไวเ้ ท่ากับเทา่ ไรก. 0.1 มลิ ลกิ รมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร ข. 35 มลิ ลกิ รัมต่อลูกบาศก์เมตรค. 50 มิลลิกรมั ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร ง. 80 มลิ ลกิ รัมต่อลกู บาศกเ์ มตร
9. พ.ร.บ. ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก้าหนดห้ามสั่ง ถ่มน้าลาย น้ามูกบนถนน หากฝุาฝืนปรับกี่บาทก. ไม่ต้า่ กว่า 100 บาท ข. ไม่เกิน 100 บาท ค. ไม่ต่้ากว่า 500 บาท ง. ไม่เกนิ 500 บาท10. หากทา่ นต้องการทจี่ ะกา้ หนดมาตรฐานระดับเสยี งโดยทั่วไปในชมุ ชน ทา่ นจะเลือกบังคับกฎหมายใดก. พ.ร.บ. รกั ษาความสะอาดและความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย ข. พ.ร.บ. วตั ถุอันตรายค. ประกาศคณะกรรมการสิง่ แวดล้อมแหง่ ชาติ ง. พ.ร.บ. โรงงาน11. ขอ้ ใดหมายถงึ ประโยชนท์ างตรงของการจดั การส่ิงแวดล้อมก. ลดคา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ข. สร้างภาพพจน์ท่ีดีค. เพม่ิ โอกาสทางธุรกิจ ง. ช่วยอนรุ กั ษท์ รัพยากรโลก12. การจัดการของเสีย (Waste Management) ทา้ ให้เกิดคณุ คา่ ของการจดั การส่ิงแวดลอ้ มในข้อใดก. สร้างภาพพจนท์ ี่ดี ข. อนรุ ักษ์ทรัพยากรค. ลดค่าใชจ้ า่ ยการผลิต ง. จัดการสงิ่ แวดล้อมทีเ่ หมาะสม13. โครงสร้างอนุกรมมาตรฐาน ISO 14000 สว่ นที่ 3 เกี่ยวข้องกบั เรอื่ งอะไรก. มาตรฐานขององคก์ าร ข. ค้าศัพท์ ค. มาตรฐานผลิตภณั ฑ์ ง. ก้าหนดนโยบาย14.หากท่านเปน็ ผูบ้ รหิ ารหนว่ ยงาน และจะน้าหลักการ ISO 14000 มาใช้ ท่านจะเลือกใช้หลกั การข้อใดเปน็อันดับแรกก. แกไ้ ขและตรวจสอบ ข. ปฏบิ ตั ิ ค. วางแผน ง. กา้ หนดนโยบาย15. ขั้นตอนการจัดระบบการจัดการส่งิ แวดล้อม ISO 14000 ขั้นตอนสุดทา้ ยท่านจะใชก้ ิจกรรมปฏบิ ตั ิในข้อใดก. ย่ืนค้าขอรับรอง ข. ปรับปรงุ แก้ไข ค. ปฏบิ ัติตามระบบ ง. แต่งต้งัคณะกรรมการ16.ข้อใดไมใ่ ชว่ ตั ถุประสงค์ของอาชีวอนามยัก. เพื่อสง่ เสรมิ สุขภาพกายและใจ ข. เพือ่ ปูองกนั ความเสี่ยงอนั ตรายค. เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ ง. เพอ่ื ปรับปรุงส่ิงแวดล้อม17.ยาฆา่ แมลง ควนั และสารเคมี เปน็ องคป์ ระกอบของอาชีวอนามยั ข้อใดก. สงิ่ แวดล้อม ข. คน ค. เครอื่ งมือ ง. กระบวนการผลิต18.ข้อความใดอธบิ ายถงึ องค์ประกอบของอาชวี อนามัยเกีย่ วกบั กระบวนการผลิตได้ถูกตอ้ งก. กรรมพันธ์ุ สภาพรา่ งกายยอ่ มมีความแตกตา่ งกัน ข. วตั ถุดิบและวิธกี ารผลติ อาจเปน็ พิษหรืออนั ตรายค. เครอ่ื งจักร เครื่องยนต์ อุปกรณต์ า่ งๆ ในการประกอบอาชีพ ง. ความสกปรก เสยี ง ไวรัสตา่ ง ๆ19.ขอบเขตของอาชีวอนามัยมกี ี่ประเภทก. 1 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 5 ประเภท ง. 7 ประเภท20.ขอบเขตงานอาชวี อนามัยของผไู้ ด้รบั บาดเจบ็ จากการท้างาน ตรงกับข้อใดก. ฟืน้ ฟูสขุ ภาพ ข. ส่งเสริมสุขภาพจิต ค. ปูองกนั และรักษาอบุ ัตภิ ัย ง. จดั สิง่ แวดล้อมท่ีเหมาะสม21. ความปลอดภัยหมายถึงข้อใด
ก. ปราศจากอันตรายจากโรคตา่ งๆ ข. การปราศจากภยั หรอื ปราศจากอนั ตรายตา่ งๆ ท่จี ะเกดิ ข้นึท้งั หมดค. การท้าความสะอาดสา้ นกั งานใหเ้ รียบร้อย ง. การลดการใช้ยาฆา่ แมลงและการใชส้ ารเคมีอ่นื ๆ ของการเกษตร22.การกระตนุ้ และทา้ ใหผ้ ลผลิตเพมิ่ ขอ้ ความดังกล่าวหมายถงึ ความสา้ คัญของความปลอดภยั ในการท้างานใดก. ค่าใช้จ่ายลดลง ข. สินค้ามากข้นึ ค. กา้ ไรมากข้ึน ง. สงวนรักษาทรัพยากรมนุษย์23.ข้อใดหมายถึงสาระสา้ คัญของพระราชบญั ญัติสาธารณสขุ ปี 2484ก. การอนญุ าตตง้ั โรงงาน ก้ากับดแู ลโรงงาน ข. ค้มุ ครองสุขภาพอนามัยของลูกจ้างค. ความปลอดภัยในการตดิ ต้ังเครอื่ งจักร ง. แสงสวา่ ง การระบายอากาศ น้าดมื่ ห้องน้า24. กฎเบื้องต้นแห่งความปลอดภัยคือข้อใดก. ปฏิบัตติ ามสัญลักษณ์ความปลอดภัยในบางครั้ง ข. การยกส่ิงของหนักไม่ควรยกหลายคนค. ช่วยกันรักษาความสะอาดและไม่จ้าเปน็ ต้องเป็นระเบยี บ ง. ห้ามหยอกลอ้ หรือเล่นกนั ในขณะทา้ งาน25. ในการทา้ งานเชื่อมโลหะให้ปลอดภัย ท่านจะเลอื กใช้วิธีปฏบิ ัติงานอยา่ งไรจงึ จะเหมาะสมก. ตอ้ งมสี วติ ชต์ ัดตอนไฟฟูาโดยอตั โนมตั ิ ข. ควรสวมหน้ากากเพือ่ ปูองกันแสง รังสี และสะเก็ดไฟค. สายไฟฟูาทตี่ ่อจากเตา้ เสยี บไมม่ กี ารชา้ รดุ ง. สวมถงุ มอื หรือไม่สวมก็ได้ขณะท่ีท้าการเช่ือม26. กิจกรรมสง่ เสรมิ ความปลอดภัยใดทีเ่ ปิดโอกาสใหพ้ บสภาพการท้างานที่ดีเด่นก. การจดั นทิ รรศการ ข. การรณรงคค์ วามปลอดภยั ค. การทัศนศึกษา ง. การประกวด27. เลขท่ี มอก. 18001–2542 หมายถึงอะไรก. ขอ้ ก้าหนดตามมาตรฐาน ISO 18000 ข. ขอ้ แนะนา้ ท่ัวไปเก่ียวกับหลักการ/เทคนิคการปฏิบตั ิค. จดุ มุ่งหมายของ ISO 18000 ง. แผนงานของ ISO 1800028. ขอ้ ใดหมายถึงขนั้ ตอนแรกในการจดั ท้า ISO 18000ก. การวางแผน ข. การทบทวนสถานะเรม่ิ ตน้ ค. การปฏบิ ตั ิ ง. การก้าหนดนโยบาย29. หากท่านน้าระบบ ISO 18000 มาใชใ้ นการท้างานจะเกิดคณุ ค่าในดา้ นใดก. ลดต้นทุนในระยะยาว ข. สภาพแวดลอ้ มในการท้างานทีด่ ีค. สรา้ งภาพลักษณ์ทด่ี ีกบั องคก์ าร ง. ถูกทุกข้อ30. ขอ้ ใดจัดเปน็ ส่งิ แวดล้อมในการทา้ งาน “ทางด้านชีวภาพ”ก. ยาฆ่าแมลง ควนั ข. ความสกปรก รกรงุ รงั ค. เชื้อไวรัส แบคทีเรีย ง. แสง เสยี ง ความร้อน
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: