Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบสุริยะจักวาล (บันทึกอัตโนมัติ)

ระบบสุริยะจักวาล (บันทึกอัตโนมัติ)

Published by pookkei16374, 2017-07-09 08:24:53

Description: ระบบสุริยะจักวาล (บันทึกอัตโนมัติ)

Search

Read the Text Version

11/7/2560วทิ ยาลยั อาชีวศึกษา ระบบสุริยะจกั รวาล นครราชสีมา. | นางสาว ภัทรภร ช่องฉิมพลี

ระบบสุริยะจกั วาลคาว่า ระบบสุริยะจกั รวาล จะใชเ้ ฉพาะกบั ระบบดาวเคราะห์ท่ีมโี ลกเป็นสมาชิก และไม่ควรเรียกวา่ ระบบสุริยะจกั รวาลอยา่ งที่เรียกกนั ตดิ ปาก เน่ืองจากไม่เก่ียวขอ้ งกบั คาวา่ จกั รวาล ตามนยั ท่ีใชใ้ นปัจจุบนั ระบบสุริยะ ประกอบดว้ ยดวงอาทิตยแ์ ละวตั ถุอนื่ ๆ ท่ีโคจรรอบดวงอาทิตย์ เช่น ดาวเคราะห์ ดาวเคราะหน์ อ้ ย ดาวหาง และดาวบริวาร โลกเป็นดาวเคราะห์ที่อยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นลาดบั ที่ 3 โดยทวั่ ไป ถา้ ใหถ้ กู ตอ้ งที่สุดควรเรียกว่า ระบบดาวเคราะห์ เม่อื กลา่ วถงึ ระบบที่มวี ตั ถุตา่ งๆ โคจรรอบดาวฤกษ์ระบบสุริยะ คือระบบดาวที่มดี าวฤกษเ์ ป็นศนู ยก์ ลาง และมดี าวเคราะห์ (Planet) เป็นบริวารโคจรอยโู่ ดยรอบเมื่อสภาพแวดลอ้ มเอ้อื อานวย ต่อการดารงชีวติ สิ่งมีชีวติ กจ็ ะเกิดข้ึนบนดาวเคราะหเ์ หลา่ น้นั หรือ บริวารของดาวเคราะห์เองที่เรียกว่าดวงจนั ทร์ (Satellite) นกั ดาราศาสตร์เชื่อวา่ ในบรรดาดาวฤกษท์ ้งั หมดกว่าแสนลา้ นดวงในกาแลกซ่ีทางชา้ งเผอื ก ตอ้ งมรี ะบบสุริยะที่เอ้อื อานวยชีวติ อยา่ ง ระบบสุริยะท่ีโลกของเราเป็นบริวารอยอู่ ยา่ งแน่นอน เพียงแต่ว่าระยะทางไกลมากเกินกวา่ ความสามารถในการติดต่อจะทาไดถ้ งึ ที่โลกของเราอยเู่ ป็นระบบที่ประกอบดว้ ย ดวงอาทิตย์ (The sun) เป็นศนู ยก์ ลาง มดี าวเคราะห์ (Planets) 9 ดวง ท่ีเราเรียกกนั วา่ ดาวนพเคราะห์ ( นพ แปลว่า เกา้ ) เรียงตามลาดบั จากในสุดคือ ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวองั คารดาวพฤหสั ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั ดาวเนปจนู ดาวพลโู ต ( ตอนน้ีไมม่ พี ลโู ตแร้ว เหลือแค่ 8 ดวง ) และยงั มีดวงจนั ทร์บริวารของ ดวงเคราะห์แต่ละดวง (Moon of sattelites) ยกเวน้ เพียง สองดวงคือ ดาวพุธ และ ดาวศกุ ร์ท่ีไมม่ ีบริวาร ดาวเคราะหน์ อ้ ย (Minor planets) ดาวหาง (Comets) อุกกาบาต (Meteorites) ตลอดจนกลุ่มฝ่ นุและก๊าซ ซ่ึงเคล่ือนที่อยใู่ นวงโคจร ภายใตอ้ ิทธิพลแรงดึงดูด จากดวงอาทิตย์ ขนาดของระบบสุริยะ กวา้ งใหญ่ไพศาลมาก เม่อื เทียบระยะทาง ระหวา่ งโลกกบั ดวงอาทิตย์ ซ่ึงมรี ะยะทางประมาณ 150 ลา้ นกิโลเมตรหรือ 1au.(astronomy unit) หน่วยดาราศาสตร์ กล่าวคือ ระบบสุริยะมรี ะยะทางไกลไปจนถึงวงโคจร ของดาวพลโู ต ดาว เคราะห์ท่ีมขี นาดเลก็ ที่สุด ในระบบสุริยะ ซ่งึ อยไู่ กล เป็นระยะทาง 40 เท่าของ 1 หน่วยดาราศาสตร์ และยงั ไกลห่างออก ไปอกี จนถึงดงดาวหางออ๊ ต (Oort\"s Cloud) ซ่ึงอาจอยไู่ กลถงึ 500,000 เท่า ของระยะทางจากโลกถงึ ดวงอาทิตยด์ ว้ ย ดวงอาทิตยม์ มี วล มากกว่าร้อยละ 99 ของ มวลท้งั หมดในระบบสุริยะ ท่ีเหลอื นอกน้นั จะเป็นมวลของ เทหวตั ถุต่างๆ ซ่ึง ประกอบดว้ ยดาวเคราะห์ ดาวเคราะหน์ อ้ ย ดาวหาง และอกุ กาบาต รวมไปถึงฝ่ นุ และก๊าซ ที่ลอ่ งลอยระหวา่ ง ดาวเคราะห์ แต่ละดวง โดยมีแรงดึงดดู (Gravity) เป็น

แรงควบคุมระบบสุริยะ ใหเ้ ทหวตั ถุบนฟ้ าท้งั หมด เคลอ่ื นท่ีเป็นไปตามกฏแรง แรงโนม้ ถ่วงของนิวตนั ดวง อาทิตยแ์ พร่พลงั งาน ออกมา ดว้ ยอตั ราประมาณ 90,000,000,000,000,000,000,000,000 แคลอรีต่อวินาที เป็น พลงั งานที่เกิดจากปฏิกริยาเทอร์โมนิวเคลยี ร์ โดยการเปล่ยี นไฮโดรเจนเป็นฮีเลยี ม ซ่ึงเป็นแหลง่ ความร้อน ใหก้ บั ดาว ดาวเคราะหต์ ่างๆ ถงึ แมว้ า่ ดวงอาทิตย์ จะเสียไฮโดรเจนไปถึง 4,000,000 ตนั ต่อวินาทีก็ตาม แต่ นกั วทิ ยาศาสตร์กย็ งั มคี วามเชื่อวา่ ดวงอาทิตย์ จะยงั คงแพร่พลงั งานออกมา ในอตั รา ที่เท่ากนั น้ีไดอ้ ีกนาน หลายพนั ลา้ นปี ดาวเคราะห์ท้งั 9 ดวง ชื่อของดาวเคราะห์ท้งั 9 ดวงยกเวน้ โลก ถกู ต้งั ชื่อตามเทพของชาวกรีก เพราะเชื่อว่าเทพเหลา่ น้นั อยบู่ นสรวง สวรค์ และเคารพบูชาแต่โบราณกาล ในสมยั โบราณจะรู้จกั ดาวเคราะหเ์ พยี ง 5 ดวงเท่าน้นั (ไม่นบั โลกของ เรา) เพราะสามารถเห็นได้ ดว้ ยตาเปล่าคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวองั คาร ดาวพฤหสั ดาวเสาร์ ประกอบกบั ดวง อาทิตย์ และดวงจนั ทร์ รวมเป็น 7 ทาใหเ้ กิดวนั ท้งั 7 ในสปั ดาหน์ น่ั เอง และดาวท้งั 7 น้ีจึงมีอิทธิกบั ดวงชะตา ชีวิตของคนเราตามความเชื่อถือทางโหราศาสตร์ ส่วนดาวเคราะห์อีก 3 ดวงคือ ดาวยเู รนสั ดาวเนปจูน ดาว พลโู ต ถกู คนพบภายหลงั แต่นกั ดาราศาสตร์ก็ต้งั ชื่อตามเทพของกรีก เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกนั นน่ั เอง วตั ถุในระบบสุริยะ ดวงอาทิตย์ดวงอาทิตย์ เป็นดาวฤกษท์ ี่มีชนิดสเปกตรัม G2 มมี วลประมาณ 99.86% ของท้งั ระบบ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะมี 8 ดวง ไดแ้ ก่ ดาวพุธ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาว ยเู รนสั และ ดาวเนปจูน ดาวบริวาร คือ วตั ถทุ ี่โคจรรอบดาวเคราะห์ ฝ่ นุ และอนุภาคขนาดเลก็ อน่ื ๆ ที่ประกอบกนั เป็นวงแหวนโคจร รอบดาวเคราะห์ ขยะอวกาศท่ีโคจรรอบโลก เป็นชิ้นส่วนของจรวด ยานอวกาศ หรือดาวเทียมที่มนุษยส์ ร้าง ข้ึน ซากจากการก่อตวั ของดาวเคราะห์ เป็นเศษฝ่ นุ ท่จี บั ตวั กนั ในยคุ แรกที่ระบบสุริยะก่อกาเนิด อาจหมาย รวมถึงดาวเคราะหน์ อ้ ยและดาวหาง ดาวเคราะหน์ อ้ ย คือ วตั ถทุ ่ีมขี นาดเลก็ กวา่ ดาวเคราะห์ ส่วนใหญ่มีวงโคจรไมเ่ กินวงโคจรของดาว พฤหสั บดี อาจแบ่งไดเ้ ป็นกลุม่ และวงศ์ ตามลกั ษณะวงโคจร ดาวบริวารดาวเคราะหน์ อ้ ย คือ ดาวเคราะหน์ อ้ ยขนาดเลก็ ท่ีโคจรรอบดาวเคราะห์นอ้ ยที่มขี นาดใหญ่กวา่ หรืออาจมขี นาดพอๆ กนั ดาวเคราะหน์ อ้ ยทรอย คือ ดาวเคราะหน์ อ้ ยที่มวี งโคจรอยใู่ นแนววงโคจรของดาวพฤหสั บดีที่จุด L4 หรือ L5 อาจใชช้ ่ือน้ีสาหรับดาวเคราะห์นอ้ ยที่อยทู่ ี่จดุ ลากรางจข์ องดาวเคราะหด์ วงอนื่ ๆ ดว้ ย สะเกด็ ดาว คือ ดาวเคราะหน์ อ้ ยท่ีมขี นาดเท่ากอ้ นหินขนาดใหญ่ลงไปถงึ ผงฝ่ นุ

 ดาวหาง คือ วตั ถุที่มอี งคป์ ระกอบส่วนใหญ่เป็นน้าแขง็ มวี งโคจรท่ีมคี วามรีสูง โดยปกติจะมจี ุดใกลด้ วง อาทิตยท์ ี่สุดอยภู่ ายในวงโคจรของดาวเคราะห์วงใน และมจี ุดไกลดวงอาทิตยท์ ่ีสุดห่างไกลเลยวงโคจรของ ดาวพลโู ต ดาวหางคาบส้นั มวี งโคจรใกลด้ วงอาทิตยม์ ากกวา่ น้ี อยา่ งไรก็ตาม ดาวหางที่มีอายเุ ก่าแก่มกั สูญเสียน้าแข็งไปหมดจนกลายเป็นดาวเคราะหน์ อ้ ย ดาวหางท่ีมวี งโคจรเป็นรูปไฮเพอร์โบลา อาจมกี าเนิด จากภายนอกระบบสุริยะ เซนทอร์ คือ วตั ถุคลา้ ยดาวหางที่มวี งโคจรรีนอ้ ยกว่าดาวหาง มกั อยใู่ นบริเวณระหวา่ งวงโคจรของดาว พฤหสั บดีและดาวเนปจูน วตั ถุทีเอน็ โอ คือ วตั ถทุ ี่มกี ่ึงแกนเอกของวงโคจรเลยดาวเนปจูนออกไป วตั ถุแถบไคเปอร์ มีวงโคจรอยรู่ ะหว่าง 30 ถงึ 50 หน่วยดาราศาสตร์ คาดวา่ เป็นที่กาเนิดของดาวหางคาบ ส้นั บางคร้ังจดั ดาวพลโู ตเป็นวตั ถุประเภทน้ีดว้ ย นอกเหนือจากการเป็นดาวเคราะห์ จึงเรียกช่ือวตั ถทุ ี่มวี ง โคจรคลา้ ยดาวพลโู ตว่าพลตู ิโน วตั ถุเมฆออร์ต คือ วตั ถุที่คาดว่ามีวงโคจรอยรู่ ะหวา่ ง 50,000 ถึง 100,000 หน่วยดาราศาสตร์ ซ่ึงเช่ือวา่ เป็น ถิน่ กาเนิดของดาวหางคาบยาว เซดนา วตั ถุที่เพิ่งคน้ พบเมอ่ื เร็วๆ น้ี ซ่ึงมีวงโคจรเป็นวงรีสงู มาก ห่างดวงอาทิตยร์ ะหว่าง 76-850 หน่วย ดาราศาสตร์ ไมส่ ามารถจดั อยใู่ นประเภทใดได้ แมว้ ่าผคู้ น้ พบใหเ้ หตุผลสนบั สนุนวา่ มนั อาจเป็นส่วนหน่ึง ของเมฆออร์ต ฝ่ นุ ซ่ึงกระจดั กระจายอยทู่ วั่ ไปในระบบสุริยะ อาจเป็นสาเหตุของปรากฏการณ์แสงจกั รราศี ฝ่ นุ บางส่วนอาจเป็นฝ่ นุ ระหว่างดาวท่ีมาจากนอกระบบสุริยะ ทฤษฎีการกาเนิดของระบบสุริยะ หลกั ฐานท่ีสาคญั ของการกาเนิดของระบบสุริยะกค็ ือ การเรียงตวั และการเคลอ่ื นที่อยา่ งเป็นระบบระเบียบ ของดาว เคราะห์ ดวงจนั ทร์บริวาร ของดาวเคราะห์ และดาวเคราะห์นอ้ ย ท่ีแสดงใหเ้ ห็นวา่ เทหวตั ถุ ท้งั มวล บนฟ้ า น้นั เป็นของ ระบบสุริยะ ซ่ึงจะเป็นเรื่องท่ีเป็นไปไมไ่ ดเ้ ลย ที่เทหวตั ถุทอ้ งฟ้ า หลายพนั ดวง จะมรี ะบบ โดยบงั เอญิ โดยมิไดม้ ีจุดกาเนิด ร่วมกนั Piere Simon Laplace ไดเ้ สนอทฤษฎีจุดกาเนิดของระบบสุริยะ ไว้ เมื่อปี ค.ศ.1796 กลา่ วว่า ในระบบสุริยะจะ มมี วลของก๊าซรูปร่างเป็นจานแบนๆ ขนาดมหึมาหมุนรอบ ตวั เองอยู่ ในขณะที่หมนุ รอบตวั เองน้นั จะเกิดการหดตวั ลง เพราะแรงดึงดูดของมวลกา๊ ซ ซ่ึงจะทาให้ อตั รา การหมนุ รอบตวั เองน้นั จะเกิดการหดตวั ลงเพราะแรงดึงดดู ของก๊าซ ซ่ึงจะทาใหอ้ ตั ราการ หมนุ รอบตงั เอง มี ความเร็วสูงข้นึ เพ่อื รักษาโมเมนตมั เชิงมุม (Angular Momentum) ในท่ีสุด เมอื่ ความเร็ว มอี ตั ราสูงข้ึน จนกระทงั่ แรงหนีศนู ยก์ ลางท่ีขอบของกล่มุ ก๊าซมีมากกว่าแรงดึงดดู ก็จะทาใหเ้ กดิ มีวงแหวน ของกลุ่มก๊าซ แยก ตวั ออกไปจากศนุ ยก์ ลางของกลุม่ กา๊ ซเดิม และเม่อื เกิดการหดตวั อกี ก็จะมวี งแหวนของกลุม่ กา๊ ซเพ่ิมข้นึ ข้ึนต่อไปเร่ือยๆ วงแหวนท่ีแยกตวั ไปจากศนู ยก์ ลางของวงแหวนแต่ละวงจะมคี วามกวา้ งไมเ่ ท่ากนั ตรง บริเวณ ท่ีมคี วาม หนาแน่นมากที่สุดของวง จะคอยดึงวตั ถุท้งั หมดในวงแหวน มารวมกนั แลว้ กลน่ั ตวั เป็น ดาวเคราะห์ ดวงจนั ทร์ของดาว ดาวเคราะห์จะเกิดข้ึนจากการหดตวั ของดาวเคราะห์

สาหรับดาวหาง และสะเกด็ ดาวน้นั เกิดข้นึ จากเศษหลงเหลือระหวา่ ง การเกิดของดาวเคราะหด์ วงต่างๆดงั น้นั ดวงอาทิตยใ์ นปัจจุบนั กค็ ือ มวลกา๊ ซ ด้งั เดิมท่ีทาใหเ้ กิดระบบสุริยะข้ึนมานนั่ เอง นอกจากน้ียงั มีอกีหลายทฤษฎีที่มคี วามเชื่อในการเกิดระบบสุริยะ แต่ในที่สุดกม็ ีความเห็นคลา้ ยๆ กบั แนวทฤษฎีของ Laplaceตวั อยา่ งเช่น ทฤษฎีของ Coral Von Weizsacker นกั ดาราศาสตร์ฟิ สิกส์ชาวเยอรมนั ซ่ึงกลา่ ววา่ มีวง กลมของกลุ่มก๊าซและฝ่ นุ ละอองหรือเนบิวลา ตน้ กาเนิดดวงอาทิตย์ (Solar Nebular) หอ้ มลอ้ มอยรู่ อบดวงอาทิตย์ขณะที่ดวงอาทิตยเ์ กิดใหมๆ่ และ ละอองสสารในกล่มุ ก๊าซ เกิดการกระแทกซ่ึงกนั และกนั แลว้ กลายเป็นกล่มุ กอ้ นสสาร ขนาดใหญ่ จนกลายเป็น เทหวตั ถแุ ขง็ เกดิ ข้นั ในวงโคจรของดวงอาทิตย์ ซ่ึงเราเรียกว่า ดาวเคราะห์ และดวงจนั ทร์ของ ดาวเคราะหน์ นั่ เองระบบสุริยะของเรามขี นาดใหญ่โตมากเม่อื เทียบกบั โลกท่ีเราอาศยั อยู่ แต่มขี นาดเลก็ เมือ่ เทียบกบั กาแลก็ ซีของเราหรือ กาแลก็ ซีทางชา้ งเผอื ก ระบบสุริยะต้งั อยใู่ นบริเวณ วงแขนของกาแลก็ ซีทางชา้ งเผอื ก (MilkyWay) ซ่ึงเปรียบเสมอื นวง ลอ้ ยกั ษท์ ี่หมนุ อยใู่ นอวกาศ โดยระบบสุริยะ จะอยหู่ ่างจาก จุดศนู ยก์ ลางของกาแลก็ ซีทางชา้ งเผอื กประมาณ 30,000 ปี แสง ดวงอาทิตย์ จะใชเ้ วลาประมาณ 225 ลา้ นปี ในการเคลอ่ื นครบรอบจุดศนู ยก์ ลาง ของกาแลก็ ซี ทางชา้ งเผอื กครบ 1 รอบ นกั ดาราศาสตร์จึงมี ความเห็นร่วมกนั วา่ เทหวตั ถุท้งั มวลในระบบสุริยะไมว่ ่าจะเป็นดาวเคราะห์ทุกดวง ดวงจนั ทร์ของ ดาวเคราะห์ ดาวเคราะหน์ อ้ ย ดาวหาง และอกุ กาบาต เกิดข้ึนมาพร้อมๆกนั มีอายเุ ท่ากนั ตามทฤษฎีจุดกาเนิดของระบบ สุริยะ และจาการนาเอาหิน จากดวงจนั ทร์มา วิเคราะหก์ ารสลายตวั ของสารกมั มนั ตภาพรังสี ทาใหท้ ราบวา่ ดวงจนั ทร์มี อายุประมาณ 4,600 ลา้ นปี ในขณะเดียวกนั นกั ธรณีวิทยาก็ไดค้ านวณ หาอายขุ องหินบนผวิ โลก จากการสลายตวั ของอตอม อะตอมยเู รเนียม และสารไอโซโทป ของธาตุตะกวั่ ทาใหน้ กั วิทยาศาสตร์เชื่อว่า โลกดวงจนั ทร์ อกุ กาบาต มอี ายปุ ระมาณ 4,600 ลา้ นปี และอายุของ ระบบสุริยะ นบั ต้งั แต่เร่ิมเกิดจากฝ่นุ ละอองกา๊ ซ ในอวกาศ จึงมีอายไุ ม่เกิน 5000 ลา้ นปี ในบรรดาสมาชิกของระบบสุริยะซ่ึงประกอบดว้ ย ดวงอาทิตย์ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์นอ้ ย ดวงจนั ทร์ ของดาวเคราะหด์ าวหาง อุกกาบาต สะเก็ดดาว รวมท้งั ฝ่นุ ละองกา๊ ซอีกมากมาย น้นั ดวงอาทิตยแ์ ละดาวเคราะห์ 9 ดวง จะไดร้ ับความสนใจมากท่ีสุดจากนกั ดาราศาสตร์ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยจกั รวาลดวงอาทิตย์ (Sun)ดวงอาทิตยเ์ ป็นศนู ยก์ ลางของระบบสุริยะจกั รวาล อยหู่ ่างจากโลกเป็นระยะทางประมาณ 93 ลา้ นไมล์ และมีขนาดใหญ่กวา่ โลกมากกว่า 1 ลา้ นเท่า มีขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางยาวกวา่ โลก 100 เท่า ดวงอาทิตยเ์ ป็นดาวฤกษ์ท่ีมแี สงสว่างในตวั เอง ซ่ึงเป็นแหลง่ พลงั งานท่ีสาคญั ของโลก อณุ หภมู ขิ องดวงอาทิตยอ์ ยรู่ ะหว่าง 5,500 -6,100 องศาเซลเซียส พลงั งานของดวงอาทิตยท์ ้งั หมดเกิดจากกา๊ ซไฮโดรเจน โดยพลงั งานดงั กลา่ วเกิดจากปฏิกริยานิวเคลยี ร์ภายใตส้ ภาพความกดดนั สูงของดวงอาทติ ย์ ทาใหอ้ ะตอมของไฮโดรเจนซ่ึงมีอยมู่ ากบนดวงอาทิตยท์ าปฏกิ ริยาเปลย่ี นเป็นฮีเลียม ซ่ึงจะส่งผา่ นพลงั งานดงั กลา่ วมาถึงโลกไดเ้ พียง 1 ใน 200 ลา้ นของ

พลงั งานท้งั หมด นอกจากน้นั บนพ้ืนผวิ ของดวงอาทิตยย์ งั เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น การเปลย่ี นแปลงของพลงั งานความร้อนบนดวงอาทิตยอ์ นั เนื่องมาจากจุดดบั บนดวงอาทิตย์ (Sunspot) ซ่ึงจะส่งผลใหเ้ กิดการแปรผนั ของพายแุ มเ่ หลก็ และพลงั งานความร้อน ทาใหอ้ นุภาคโปรตรอนและอเิ ลก็ ตรอนหลุดจากพ้ืนผวิ ดวงอาทิตยส์ ู่หว้ งอวกาศ เรียกวา่ ลมสุริยะ (Solar Wind) และแสงเหนือและใต้ (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ท่ีข้วัโลกเหนือและข้วั โลกใต้การเกดิ จุดดบั บนดวงอาทิตย์ (Sunspot) บางคร้ังเราสามารถมองเห็นไดด้ ว้ ยตาเปล่า และจะเห็นไดช้ ดั เจนเวลาดวงอาทิตยใ์ กลต้ กดิน จุดดบั ของดวงอาทิตยจ์ ะอยปู่ ระมาณ 30 องศาเหนือ และ ใต้ จากเสน้ ศนู ยส์ ูตร ท่ีเห็นเป็นจุดสีดาบริเวณดวงอาทิตยเ์ น่ืองจากเป็นจุดท่ีมีแสงสว่างน้อย มีอณุ หภมู ิประมาณ 4,500 องศาเซลเซียส ต่ากวา่ บริเวณโดยรอบประมาณ 2,800 องศาเซลเซียส นกั วิทยาศาสตร์สนั นิษฐานวา่ ก่อนเกิดจดุ ดบับนดวงอาทิตยน์ ้นั ไดร้ ับอิทธิพลจากอานาจแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ าบริเวณพ้นื ผวิ ดวงอาทิตยม์ กี ารเปลี่ยนแปลง ทาให้อณุ หภมู บิ ริเวณดงั กล่าวต่ากว่าบริเวณอ่ืนๆ และเกิดเป็นจุดดบั บนดวงอาทิตย์แสงเหนือและแสงใต(้ Aurora) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดบริเวณข้วั โลกเหนือ และข้วั โลกใต้ มลี กั ษณะเป็นลาแสงที่มวี งโคง้ เป็นม่าน หรือ เป็นแผน่ เกดิ เหนือพ้ืนโลกประมาณ 100 - 300 กิโลเมตร ณ ระดบั ความสูงดงั กลา่ วก๊าซต่างๆ จะเกิดการแตกตวั เป็นอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้ า และเม่ือถกู แสงอาทิตยจ์ ะเกิดปฏิกริยาที่ซบั ซอ้ นทาใหม้ องเห็นแสงตกกระทบเป็นแสงสีแดง สีเขียว หรือ สีขาว บริเวณข้วั โลกท้งั สองมแี นวท่ีเกดิแสงเหนือและแสงใตบ้ ่อย เราเรียกวา่ \"เขตออโรรา\" (Aurora Zone)ดาวพธุ (Mercury)ดาวพธุ เป็นดาวเคราะห์ท่ีอยใู่ กลก้ บั ดวงอาทิตยม์ ากท่ีสุด สงั เกตเห็นดว้ ยตาเปล่าไดต้ อนใกลค้ า่ และ ช่วงรุ่งเชา้ดาวพุธไม่มดี วงจนั ทร์เป็นดาวบริวาร ดาวพธุ หมุนรอบตวั เองจากทิศตะวนั ตกไปยงั ทิศตะวนั ออกกินเวลาประมาณ 58 - 59 วนั และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลา 88 วนัดาวศุกร์ (Venus)ดาวศุกร์สงั เกตเห็นไดด้ ว้ ยตาเปล่า โดยสามารถมองเห็นไดท้ างขอบฟ้ าดา้ นทิศตะวนั ตกในเวลาใกลค้ ่า เราเรียกว่า\"ดาวประจาเมือง\" (Evening Star) ส่วนช่วงเชา้ มืดปรากฏใหเ้ ห็นทางขอบฟ้ าดา้ นทิศตะวนั ออกเรียกวา่\"ดาวรุ่ง\" (Morning Star) เรามกั สงั เกตเห็นดาวศกุ ร์มแี สงส่องสว่างมากเน่ืองจาก ดาวศกุ ร์มชี ้นั บรรยากาศที่ประกอบไปดว้ ยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีผลทาใหอ้ ณุ หภมู ิพ้ืนผวิ สูงข้นึ ดาวศกุ ร์หมุนรอบตวั เองจากทิศตะวนั ออกไปยงั ทิศตะวนั ตก ไมม่ ีดวงจนั ทร์เป็นดาวบริวารโลก (Earth)โลกเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีส่ิงมชี ีวติ อาศยั อยู่ เนื่องจากมชี ้นั บรรยากาศและมีระยะห่าง จากดวงอาทิตย์ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิต นกั ดาราศาสตร์อธิบายเก่ียวกบั การเกิดโลกว่าโลกเกิดจากการรวมตวั ของกลุ่มก๊าซ และมีการเคลอ่ื นทีสลบั ซบั ซอ้ นมาก

ดาวองั คาร (Mars)ดาวองั คารอยหู่ ่างจากโลกของเราเพยี ง 35 ลา้ นไมล์ และ 234 ลา้ นไมล์ เน่ืองจากมวี งโคจรรอบดวง อาทิตย์เป็นวงรี พ้นื ผวิ ดาวองั คารมีปรากฏการณ์เมฆและพายฝุ ่ นุ เสมอ เป็นท่ีน่าสนใจในการศกึ ษาของนกั วิทยาศาสตร์เป็นอยา่ งมาก เนื่องจากมีลกั ษณะและองคป์ ระกอบที่ใกลเ้ คียงกบั โลก เช่น มีระยะเวลาในการหมุนรอบตวั เอง 1 วนั เท่ากบั 24.6 ชวั่ โมง และระยะเวลาใน 1 ปี เมือ่ เทียบกบั โลกเท่ากบั 1.9 มกี ารเอยี งของแกน 25 องศา ดาวองั คารมดี วงจนั ทร์เป็นบริวาร 2 ดวงดาวพฤหัสบดี (Jupiter)ดาวพฤหสั บดีเป็นดาวเคราะหท์ ี่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจกั รวาล หมุนรอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 9.8 ชว่ั โมงซ่ึงเร็วท่ีสุดในบรรดาดาวเคราะห์ท้งั หลาย และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลา12 ปี นกั ดาราศาสตร์อธิบายวา่ ดาวพฤหสั เป็นกลมุ่ กอ้ นก๊าซหรือของเหลวขนาดใหญ่ ที่ไมม่ สี ่วนท่ีเป็นของแขง็ เหมือนโลก และเป็นดาวเคราะหท์ ่ีมดี วงจนั ทร์เป็นดาวบริวารมากถงึ 16 ดวงดาวเสาร์ (Saturn)ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะหท์ ี่เราสามารถมองเห็นไดด้ ว้ ยตาเปลา่ เป็นดาวที่ประกอบไปดว้ ยกา๊ ซและของ เหลวสีค่อนขา้ งเหลือง หมุนรอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 10.2 ชวั่ โมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใชเ้ วลา 29 ปีลกั ษณะเด่นของดาวเสาร์ คือ มวี งแหวนลอ้ มรอบ ซ่ึงวงแหวนดงั กล่าวเป็นอนุภาคเลก็ ๆ หลายชนิดที่หมุนรอบดาวเสาร์มวี งแหวนจานวน 3 ช้นั ดาวเสาร์มดี วงจนั ทร์เป็นดาวบริวาร 1 ดวง และมีดวงจนั ทร์ดวงหน่ึงช่ือ Titan ซ่ึงถือวา่ เป็นดวงจนั ทร์ท่ีใหญ่ท่ีสุดในระบบสุริยะจกั รวาลดาวยูเรนสั (Uranus)ดาวยเู รนสั หมุนรอบตวั เอง 1 รอบ ใชเ้ วลา 16.8 ชวั่ โมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลา 84 ปี ดาวยเู รนสั ประกอบดว้ ยก๊าซและของเหลว เช่นเดียวกบั ดาวพฤหสั และดาวเสาร์ 4.8 ดาวเนปจูน (Neptune) เป็นดาวเคราะหท์ ี่มรี ะยะเวลาในการหมนุ รอบตวั เอง 1 รอบ เท่ากบั 17.8 ชวั่ โมง และระยะ เวลาในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ เท่ากบั 165 ปี มดี วงจนั ทร์เป็นดาวบริวาร 2 ดวงดาวพลโู ต (Pluto)ดาวพลโู ตเป็นดาวเคราะหด์ วงสุดทา้ ยของระบบสุริยะจกั รวาล มีระยะเวลาในการหมนุ รอบตวั เอง 1 รอบรอบ เท่ากบั 453 ชว่ั โมง ระยะเวลาในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ เท่ากบั 248 ปี เป็นดวงดาวที่มขี นาดใกลเ้ คียงกบั ดาวพธุ และมรี ะยะห่างจากดวงอาทิตยม์ ากที่สุดยา่ นต่างๆ ในระบบสุริยะโดยปกติแลว้ ระบบสุริยะจะถกู แบ่งออกเป็นยา่ นต่างๆ โดยนบั จากดวงอาทิตยอ์ อกมาสู่ดา้ นนอก แบ่งไดเ้ ป็น2 ยา่ น คือ ดาวเคราะหช์ ้นั ใน จานวน 4 ดวง และดาวเคราะหช์ ้นั นอก จานวน 4 ดวง

 ดาวเคราะห์ช้ันใน หรือดาวเคราะหใ์ กลโ้ ลก ในระบบสุริยะ มจี านวน 4 ดวง ประกอบไปดว้ ย ดาวพธุ ดาว ศกุ ร์ โลก และดาวองั คาร โดยมากดาวเคราะหช์ ้นั ในจะมสี ่วนประกอบเป็นหินที่มีความหนาแน่นสูง มดี วง จนั ทร์เป็นบริวารที่มีจานวนนอ้ ย หรืออาจไม่มเี ลย ไมม่ รี ะบบวงแหวนรอบตวั เอง อีกท้งั สสารท่ีเป็น องคป์ ระกอบมกั จะเป็นแร่ธาตุท่ีมจี ุดหลอมเหลวสูง อาทิ ซิลิเกตท่ีช้นั เปลอื กและผวิ หรือมีโลหะ เหลก็ และนิเกิลที่เป็นแกนกลางของดาวจานวนสามในสี่ของดาวเคราะหใ์ นระบบสุริยะกลุ่มน้ี ไดแ้ ก่ ดาวศกุ ร์ โลก และดาวองั คาร ที่มชี ้นั บรรยากาศท่ีเห็นไดช้ ดั บริเวณพ้ืนผวิ มรี ่องรอยของหลุมบ่อที่เกิดจากการปะทะ ดว้ ยชิ้นส่วนจากอวกาศ รวมถงึ ยงั มคี วามเปลีย่ นแปลงทางธรณีวิทยาท่ีพ้ืนผวิ ดว้ ย อาทิ การแยกตวั ของร่อง หุบเขาและภูเขาไฟ ดาวเคราะห์ช้ันนอก หรือดาวแก๊สยกั ษ์ ในระบบสุริยะ มีจานวน 4 ดวง ซ่ึงในบางคร้ังอาจเรียกวา่ ดาว เคราะห์โจเวียน ประกอบไปดว้ ย ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั และดาวเนปจูน พบว่าดาวเคราะห์ เหล่าน้ีมีมวลรวมกนั กว่า 99% ของมวลสารท้งั หมดที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ส่วนดาวพฤหสั บดีและดาว เสาร์มีองคป์ ระกอบที่เตม็ ไปดว้ ยไฮโดรเจนและฮีเลยี ม ดาวยเู รนสั และดาวเนปจูนมีองคป์ ระกอบส่วนใหญ่ เป็นน้าแขง็ ซ่ึงนกั ดาราศาสตร์ส่วนหน่ึงเห็นว่าดาวท้งั สองดวงหลงั น้ีควรจดั เป็นประเภทเฉพาะของตวั มนั เอง คือ ดาวน้าแข็งยกั ษ์ และดาวแกส๊ ยกั ษท์ ี่ีมวี งแหวนอยรู่ อบตวั หากเรามองดาวเคราะหเ์ หล่าน้ีจากโลกก็ จะเห็นวงแหวนของดาวเสาร์ไดช้ ดั เจนเพยี งดาวเดียวเท่าน้นั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook