Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore lampang

lampang

Published by pisit.kum, 2019-01-24 23:26:10

Description: lampang

Search

Read the Text Version

จงั หวัดลาํ ปาง

เหมืองแม่เมาะ เหมืองแมเ่ มาะเปนเหมือนถา่ นหินลิกไนตท์ ใี หญท่ ีสุดในประเทศ ไทย และเปนหน่วยงานหนงึ ของการไฟฟาผลติ แห่งประเทศ ไทย (กฟผ.) มหี นา้ ทผี ลติ ถ่านหนิ ลิกไนตเ์ พือเปนเชอื เพลิงให้ กับโรงไฟฟาแมเ่ มาะ นาํ ไปผลติ เปนกระแสไฟฟาต่อไป

วัดปงสนกุ วัดปงสนกุ หรอวัดปงสนกุ เหนอื เปนอกี หนึงวดั สาํ คัญของจงั หวัดลําปาง สร้างขึนเมือป พ.ศ. 1223 หรอประมาณ 1,300 ปก่อน ภายใน ประดิษฐานเจดียศ์ รจอมไคล วหารพระเจ้าพันองค์ หรอวหาร 12 ราศี ลักษณะทางสถาปตยกรรมเกา่ แก่

ถนนคนเดินกาดกองตา้ เดินช้อปปงในบรรยากาศเกา่ ๆ ทีถนนคนเดนิ กาดกองตา้ ซงึ จัดขนึ เปนประจาํ ทุกวนั เสาร์-อาทติ ย์ บรเวณถนนตลาดเกา่ นอกจากของกนิ อร่อยๆ สินคา้ พนื เมอื ง และของฝากของที ระลกึ ทีวางขายกนั มากมายแล้ว การเดินเทยี วถนนคนเดนิ แห่ง นี จะไดส้ ัมผสั กับบรรยากาศความคลาสสกิ ผา่ นทางลกั ษณะ สถาปตกรรมของอาคารบา้ นเรอนอีกดว้ ย

พิพิธภณั ฑเ์ ซรามิกธนบดี พูดถงึ ลาํ ปาง นอกจากรถมา้ แลว้ ก็ต้องมี ชามตราไก่ หากอยากรู้เรองราวของชามตราไก่ชอื ดัง ตอ้ งไปที พพิ ิธภณั ฑเ์ ซรามิกธนบดี ชมเรองราวความเปนมา ของเซรามกิ ลาํ ปางและตน้ กําเนิดของเซรามิก ชม สาธิตการผลิตเซรามกิ ชามตราไกแ่ บบดงั เดิม และชม ชามตราไก่ทีเลก็ ทีสดุ ในโลก ปดทา้ ยดว้ ยการซอื ผลิตภณั ฑ์เซรามกิ คุณภาพดีราคาไม่แพงติดไมต้ ิดมือ เปนของฝาก

บา้ นเสานัก บา้ นเสานกั เปนบา้ นไม้เก่าทีสร้างขึนเมือประมาณป พ.ศ. 2438 โดยคหบดีพอ่ คา้ ชอื “หม่องจนั โอง” มี ลักษณะเปนบ้านไมส้ ักโบราณศิลปะพม่าผสมลา้ นนา มเี อกลักษณ์คอื มีเสาเรอนถงึ 116 ตน้

วดั เฉลมิ พระเกียรติพระจอมเกลา้ ราชานุสรณ์ วดั เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระจอมเกล้าราชานุสรณ์ คอื Unseen Thailand ทีตอ้ งไปเยียมชมสกั ครังใน ชวี ต วัดแหง่ นีตงั อยู่บนภเู ขาสูงในอาํ เภอแจ้หม่ ใน พนื ทขี องเขตหา้ มลา่ สัตว์ปาดอยพระบาท เดมิ วดั แห่งนีชอื วัดพระพุทธบาทปูผาแดง เนอื งจากบน วัดมรี อยพระพทุ ธบาทประดษิ ฐานอยู่

วดั พระธาตุลาํ ปางหลวง ตั้งอยทู ตี่ าํ บลลําปางหลวง อําเภอ เกาะคา เปน วดั คูบา นคูเ มอื งลําปางมาแตโบราณ ตามตาํ นาน กลาววา มีมาตั้งแตสมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธ ศตวรรษที่ 20 เปนวดั ไมท สี่ มบรู ณท ่ีสุดแหง หน่ึงของไทย งดงามดว ยสถาปตยกรรมเกาแกม ากมาย ไดแก พระธาตุลาํ ปางหลวง เปนพระธาตุประจําปเ กดิ ของคน ปฉ ลู ดวยเรมิ่ สรา งในปฉ ลแู ละเสร็จในปฉลูเชนกัน ฐานเปน บัวลูกแกว สวนองคเ ปนทรงกลมแบบลานนาภายนอกบดุ ว ย ทองจงั โก ยอดฉัตรทาํ ดว ยทองคํา มลี ายสลกั ดนุ เปน ลวดลาย ประจาํ ยามแบบตา ง ๆ ลกั ษณะเจดยี แ บบนี้ไดส งอิทธพิ ลตอ พระธาตหุ รภิ ญุ ไชย และพระบรมธาตจุ อมทอง ภายในองค พระเจดียบ รรจุพระเกศาและพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎขาง ขวา พระศอดานหนา และดา นหลงั ที่ร้ัวทองเหลืองรอบองค พระธาตุมรี กู ระสนุ ปนทหี่ นานทิพยช า งยงิ ทา วมหายศปรากฏ อยู

ภายในบรเวณวัดแบ่งออกเปน 3 ชัน ชนั แรกคอื อุโบสถและเจดยี ์ ชนั ทสี องคอื ที ประดษิ ฐานรอยพระพทุ ธบาท และชนั สุดทา้ ยคอื ดอยพระบาท เปนที ประดิษฐานองคพ์ ระธาตสุ ที อง และเจดยี ์ สีขาวบนยอดเขาสงู และยังเปนจุดชม ทวิ ทศั นท์ ีงดงาม

ชมบ่อนาพรุ ้อน แอ่งนาร้อน ซงึ เกิดขึนตามธรรมชาติ หา้ ม พลาดการตม้ ไขน่ าแร่ทังไขไ่ ก่และไข่นกกระทา ชมิ เมนูยาํ ไขแ่ ช่ นาแร่ หรอจะลงอาบนาแร่บาํ รุงผวิ พรรณให้สดใส นอกจากนี บนอุทยานยงั มนี าตกนา่ เทียวหลายแหง่ ทังนาตกแจซ้ อ้ น นาตกแมม่ อญ และนาตกแมข่ ุน

ภายในมีกจิ กรรมชมการแสดงช้าง นังช้างชมธรรมชาติ ชม ช้างอาบนา หรอจะเทียวแบบพักค้างคนื นอนโฮมสเตย์ เรยนรู้ วถีชีวตการเปนควาญช้าง การฝกขชี า้ ง

ภายในมพี พิ ธิ ภัณฑ์ศูนยถ์ า่ นหนิ ลิกไนตศ์ ึกษา เปนพพิ ธิ ภัณฑค์ วามรู้ทางธรณีวทยาและ เทคโนโลยีการผลิตไฟฟา มีสวนพฤษชาติซงึ เปนสวนสาธารณะประดับดว้ ยพรรณไม้สวย งาม ห้ามพลาดการเลน่ สไลเดอร์บนลานพนื หญ้า ชมววสวยๆ ทสี วนเฉลมิ พระเกียรติ 84 พรรษา และชมทงุ่ ดอกบัวตองบานสะพรังใน เดือนพฤศจกิ ายน-ธนั วาคม ของทุกป ===============

สะพานรัษฎาภเิ ศก สะพานรัษฎาภเิ ศก หรือ สะพานขาว ตั้งอยูท่ถี นนรษั ฎา อําเภอเมอื ง เจา ผูค รอง นครเปนผทู ่ีตั้งช่ือจากพิธีเฉลิมฉลองรัษฎาภิเษกสมัยรชั กาลท่ี 5 สะพานรัษฎาเปน สะพานรว มสมยั กบั ยคุ อารยธรรมรถไฟมีอายุผา นสงครามโลกครง้ั ท่ี 1 และ 2 มา แลว และรอดพนจากการโจมตที ิ้งระเบิดของฝายสัมพนั ธมติ รมาไดดว ยการทาสี พรางตา และดวยการอา งวา สะพานแหงนไ้ี มมปี ระโยชนท างยุทธศาสตรของ นางลูซี สคารล ิง อดตี ผูอํานวยการโรงเรียนวิชานารี ซ่งึ เปนท่ปี รกึ ษาของกองทัพ สมั พนั ธมติ รในขณะนัน้ แตเดิมสะพานรัษฎาภเิ ศกเปน สะพานไมเ สรมิ เหล็กชํารดุ ผพุ งั จงึ มีการ กอ สรา งใหมเ มื่อเดือนมนี าคม พ.ศ. 2460 เปนสะพานคอนกรีตเสรมิ เหล็กทีม่ ีความ คงทนมากกวาสะพานรุนเดียวกนั ท่ีไมเ หลอื อยแู ลว ในปจ จบุ ัน ทบ่ี ริเวณสะพานมี เครือ่ งหมายไกขาวและครฑุ หลวงประดับไวตรงหัวสะพาน

อทุ ยานเเหงชาติเเจซอน อทุ ยานแหง ชาตแิ จซอน อยใู นอาํ เภอเมอื งปาน เปน แหลง ทองเทีย่ วเพ่อื สุขภาพทีไ่ ดร บั ความนิยมสงู และเปน แหลงท่ี ดําเนินงานตามแนวพระราชดํารัส ในการใชพลังงานนาํ้ ธรรมชาติมาประยกุ ตการดําเนนิ งานอยา งสอดคลอ งเปน ประโยชน อทุ ยานแหงชาติแจซอน มพี ้ืนที่ครอบคลุมอําเภอ เมอื งปาน อาํ เภอแจหม และอาํ เภอเมอื งลําปาง มีสภาพปา อนั อุดมสมบูรณและเปน แหลง ตนนํ้าลาํ ธาร เนือ้ ทท่ี ้ังหมด ประมาณ 592 ตารางกิโลเมตร ไดรบั การประกาศเปน อทุ ยานแหง ชาติเมือ่ วนั ท่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 เปน แนวแบง เขตระหวางลําปางและเชียงใหม มีเอกลกั ษณท าง ธรรมชาตทิ ่สี วยงาม โดยเฉพาะอยา งยิ่งมนี า้ํ ตกและ บอ นํ้ารอนอยใู นบริเวณเดียวกัน ซ่งึ ถือเปนความมหศั จรรย อยา งหนงึ่ ฤดูทเ่ี หมาะสาํ หรบั การทอ งเท่ียวและมีอากาศ เย็นสบาย คือ เดือนพฤศจกิ ายน-กุมภาพนั ธ

กาดกองตา ถนนคนเดินกาดกองตา ตงั้ อยูที่ถนนตลาดเกา ริมแมน ้ําวัง อาํ เภอเมอื งลําปาง เดิมเปนยา นชมุ ชนทางเศรษฐกจิ ทม่ี อี ายุ กวา 100 ป เรม่ิ จากชยั ภมู ทิ เี่ ปน ทร่ี ิมแมน ้ําวงั และตอมาได พัฒนาไปเปน ศนู ยกลางการคาขายและสง ผา นสินคา สําคัญ ของเมอื งลาํ ปาง รปู แบบของสถาปตยกรรมมคี วาม หลากหลายทั้งศลิ ปะตะวันตก พมา -ไทใหญ และจีน หลัง พ. ศ. 2459 ศนู ยก ลางการคา แหง น้ถี กู ลดบทบาทลงเน่อื งจาก การตัดผานเสนทางรถไฟสายเหนือทีม่ าถงึ ลําปาง ผคู นใน จังหวดั จงึ ขยายถ่นิ ฐานไปต้ังอยูรอบ ๆ สถานรี ถไฟ จนเกิด กลายเปน ชมุ ชนใหมทเ่ี รยี กวา \"ชุมชนเกาจาว\" แตใ น ปจ จบุ ันชมุ ชนแหง นไ้ี ดกลับมาเปนยานการคา ท่ีสําคัญอีกครั้ง หนึ่ง และคงไวซงึ่ รูปแบบที่งดงามของสถาปต ยกรรมดง้ั เดมิ กาดกองตาจาํ หนายสินคาพน้ื เมอื ง สินคาทาํ มือ อาหาร พื้นบาน สนิ คา ที่ระลกึ ลานกิจกรรม เปด ทุกวนั เสาร-อาทิตย เวลา 17.00-22.00 น.

วดั เฉลิมพระเกียรตพิ ระจอมเกลา ราชานสุ รณ วัดเฉลมิ พระเกยี รติพระจอมเกลาราชานสุ รณ เดิมเรียกวา \"วดั พระ พทุ ธบาทปผู าแดง\" ต้งั อยูท ่ี อาํ เภอแจห ม จงั หวัดลาํ ปาง ความโดด เดนของสถานท่ีแหง น้ีอยูท ่ี ภาพอนั งดงามของเจดียเ ล็ก ๆ สีขาว สรางข้ึนบนภูเขาสงู เฉียดฟา และลอ มรอบไปดวยภเู ขาสงู เปน ภาพ ดึงดูดทใี ครหลายคนอยากทจ่ี ะมาเห็นดว ยตาตวั เองสกั คร้ัง ภายใน บริเวณวัดดา นลาง เปนท่ตี งั้ ของตัว \"วดั เฉลิมพระเกยี รติพระจอม เกลาราชานสุ รณ\" เมือ่ มาถึงยอดเขาดา นบน จะแบงเปน 2 สวน คอื ฝง ทางขวาจะไดข ึ้นไปนมสั การองคพระธาตุ ซงึ่ ตอ งเดนิ ขนึ้ บันได เล็กๆ ชนั ๆ ขน้ึ ไป แตว วิ ดานบนนัน้ งดงามเปน อยางยิ่ง มองเห็น ทวิ ทัศนข องอําเภอแจห ม และมองเห็นบริเวณวัดวดั เฉลิมพระเกยี รติ ฯ ที่อยูดานลา งดสู วยงามยง่ิ นัก

หลม ภูเขียว \"หลมภเู ขยี ว\" คือสถานทท่ี อ งเทย่ี วที่ตัง้ อยูในเขต อุทยานแหงชาติถํา้ ผาไท มีลักษณะเปนแองน้าํ ขนาดใหญ คลายปลอ งภูเขาไฟตั้งอยบู นภเู ขา สภาพโดยรอบของหลม ภู เขียว มีลักษณะเปนปา ดบิ แลง รายลอมไปดวยหนา ผาท่เี กิด จากภูเขาหนิ ปูน มคี วามเงียบสงบ และมีสตั วหลายชนิดอาศัย อยูเปน จํานวนมาก สว นภายในหลมุ หรอื แอง จะมแี หลง นา้ํ ที่ มคี วามใส นิง่ และลกึ มากจนไมสามารถระบุได และสามารถ มองเห็นพ้นื น้าํ เปน สีฟา ไปจนถึงสเี ขยี วมรกตไดอีกดว ย แถม ยงั เปน ทีอ่ ยูอ าศัยของปลาหลายชนิด ถือเปนแหลง ทองเท่ียว สุดอันซีนทนี่ าแวะไปช่นื ชมความสวยงามของธรรมชาติ ที่ แอบซอ นอยูไ ดเ ปนอยางดี

วดั พระธาตเิ สดจ็ ตัง้ อยูทบ่ี า นเสดจ็ ตําบลเสด็จ อกี หน่ึงโบราณสถานขึ้นชอื่ อีก แหงหนงึ่ ของจงั หวดั ลาํ ปาง ช่ือวาวดั พระธาตนุ นั้ มที ีม่ าวา เปน วัดท่มี พี ระบรมสารรี กิ ธาตุบรรจอุ ยู ในจังหวัดลําปางมีเพียง 2 วัด คือวัดพระธาตุลาํ ปางหลวง และวัดพระธาตุเสด็จ มี ตํานานกลาววาวัดนีส้ รางขึน้ ในสมัยพระนางจามเทวี อโุ บสถ และวิหารตางๆ เชน วิหารสวุ รรณโคมคํา (วิหารพระพทุ ธ) วิหารจามเทวี ซงึ่ เปนโบราณสถานที่เกาแก ไดร บั การบรู ณะ ใหมท งั้ หมดแตยงั คงสภาพศิลปะโบราณใหเ ห็นไดอยูจน ปจจบุ นั กรมศิลปากรไดข ้ึนทะเบยี นไวเปน โบราณสถานของ ชาตแิ ลว ปูชนยี สถานทส่ี าํ คญั คอื องคพระธาตุเสดจ็ บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ เปน เจดียแบบลานนา ลกั ษณะคลา ยพระ ธาตลุ ําปางหลวงแตอ งคเ ลก็ กวา ใครทท่ี ไ่ี ปเท่ียวลาํ ปาง ตาง จะตอ งเดนิ ทางมาที่น่เี พ่ือสักการะองคพระธาตุเพอ่ื ความเปน สริ มิ งคลแกชวี ติ

ต้ังอยทู ่ีบา นเสดจ็ ตําบลเสดจ็ อกี หนึง่ โบราณสถานขน้ึ ชอ่ื อีก แหง หน่ึงของจงั หวัดลาํ ปาง ชือ่ วา วัดพระธาตุนั้นมีทม่ี าวาเปน วดั ท่มี ีพระบรมสารีรกิ ธาตุบรรจอุ ยู ในจังหวัดลาํ ปางมเี พียง 2 วัด คอื วัดพระธาตุลาํ ปางหลวง และวดั พระธาตุเสด็จ มี ตํานานกลา ววา วัดน้สี รา งขึน้ ในสมยั พระนางจามเทวี อุโบสถ และวิหารตา งๆ เชน วิหารสวุ รรณโคมคาํ (วิหารพระพทุ ธ) วหิ ารจามเทวี ซ่ึงเปนโบราณสถานที่เกา แก ไดร บั การบูรณะ ใหมท ัง้ หมดแตย งั คงสภาพศลิ ปะโบราณใหเห็นไดอ ยจู น ปจจุบนั กรมศิลปากรไดข้นึ ทะเบียนไวเ ปน โบราณสถานของ ชาติแลว ปชู นียสถานท่ีสําคญั คือ องคพ ระธาตุเสด็จ บรรจุ พระบรมสารรี กิ ธาตุ เปน เจดียแ บบลานนา ลกั ษณะคลา ยพระ ธาตลุ าํ ปางหลวงแตอ งคเล็กกวา ใครท่ีทไ่ี ปเท่ยี วลําปาง ตา ง จะตอ งเดินทางมาท่ีนีเ่ พ่อื สกั การะองคพระธาตุเพือ่ ความเปน สริ ิมงคลแกชวี ติ

ศูนยอ นุรกั ษชางไทย ตัง้ อยทู ่บี านเสด็จ ตาํ บลเสด็จ อีกหนึ่งโบราณสถานขนึ้ ชื่ออกี แหงหน่งึ ของจงั หวดั ลําปาง ช่ือวา วดั พระธาตนุ ัน้ มีทม่ี าวา เปน วัดที่มีพระบรมสารรี ิกธาตุบรรจุอยู ในจังหวดั ลาํ ปางมีเพยี ง 2 วดั คอื วัดพระธาตลุ าํ ปางหลวง และวดั พระธาตุเสดจ็ มี ตํานานกลาววาวดั นส้ี รา งขนึ้ ในสมัยพระนางจามเทวี อุโบสถ และวิหารตางๆ เชน วิหารสวุ รรณโคมคาํ (วหิ ารพระพทุ ธ) วิหารจามเทวี ซ่ึงเปนโบราณสถานท่เี กา แก ไดร บั การบูรณะ ใหมทงั้ หมดแตย ังคงสภาพศิลปะโบราณใหเ ห็นไดอ ยจู น ปจจบุ นั กรมศลิ ปากรไดข น้ึ ทะเบยี นไวเปนโบราณสถานของ ชาตแิ ลว ปูชนียสถานท่สี ําคญั คือ องคพระธาตเุ สด็จ บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ เปนเจดียแบบลา นนา ลักษณะคลา ยพระ ธาตลุ าํ ปางหลวงแตองคเลก็ กวา ใครที่ที่ไปเทีย่ วลําปาง ตา ง จะตอ งเดินทางมาท่นี ีเ่ พื่อสักการะองคพระธาตเุ พอ่ื ความเปน สิริมงคลแกชวี ิต

วดั พระเเกว ดอนเตา สุชาดา วัดพระแกวดอนเตาสชุ าดาราม ต้งั อยูบนถนนสชุ าดา ตาํ บล เวยี งเหนือ อําเภอเมือง เปนวัดเกาแกและสวยงาม มอี ายุนบั พันป เคยเปนที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรตั นปฏมิ ากร (พระแกว มรกต) ตงั้ แต พ.ศ. 1979 เปน เวลานานถึง 32 ป เหตทุ ีว่ ดั น้ีไดชอ่ื วา วดั พระแกว ดอนเตา มีตํานานกลาววา พระมหาเถระแหง วดั นีไ้ ดพบแกว มรกตในแตงโม (ภาษา เหนอื เรยี กวา หมากเตา ) และนาํ มาแกะสลกั เปน พระพทุ ธรปู ตอมาจึงไดอ ัญเชญิ ไปประดิษฐานท่วี ดั พระธาตลุ ําปางหลวง จนถึงปจ จบุ นั ปูชนยี สถานทสี่ ําคัญในวัดพระแกวดอนเตา ไดแ ก องคพ ระบรมธาตุดอนเตา พระเจดยี อ งคใหญซง่ึ บรรจุ พระเกศาธาตขุ องพระพุทธเจา , วหิ ารประดิษฐานพระพทุ ธ ไสยาสน ท่มี ีอายเุ กาแกพอ ๆ

ลาบลําปาง ลาบลาํ ปาง เปนอาหารพนื้ เมอื งของภาคเหนือทน่ี ยิ มกินกนั มากทีส่ ดุ หรอื ถือวา เปน อาหารถนิ่ ของคนลาํ ปางเลย ซึง่ ลาํ ปางก็นยิ มรับประทานกัน คือ มนี ําเน้ือหมู วัว ที่ดิบมาลาบแลว ใสเครอื่ งปรงุ รสทีม่ รี สเผด็ จัด โดย ลาบในภาคเหนือนัน้ สว นใหญจะเปนลาบดิบ และมผี กั ตา งๆ ไดแ ก แตง กวา กระถิ่น ฯลฯ รับประทานควบคูไปดว ย อาหารชนดิ นสี้ ว นใหญ คนในภาคเหนือจะทาํ รบั ประทานกันในเมื่อมงี านใหญๆ เชน งาน แตง งาน ขึน้ บา นใหม ฯลฯ เพราะจะนาํ มาเล้ียงแขกท่มี าในงาน สวน ความแตกตา งระหวา งลาบลําปางกับลาบเชยี งใหมค ือ ลาบลําปางจะใส มะแขวน แตล าบเชียงใหมจ ะไมใสม ะแขว

ลําปาง ขา วซอย ขาวซอย เปนอาหารของไทลอื้ ที่นํามาเผยแพรใ นลานนา หรือภาคเหนือ ตามตาํ รบั เดิมจะใชพ รกิ ปนผัด โรยหนาดวยนาํ้ มัน เมื่อมาสูครวั ไทยภาคเหนอื ก็ ประยกุ ตใ ชพริกแกงคั่วใสกะทลิ งไปกลายเปน เค่ยี วใหขน ราดบนเสนบะหมี่ ใสเ นอ้ื หรือไก กินกับ ผักกาดดอง หอมแดงเปนเครอ่ื งเคยี ง

เเกงโฮะ คําวา โฮะ แปลวา รวม แกงโฮะกค็ อื แกงที่นําเอา อาหารหลายอยางมารวมกัน สมยั กอนแกงโฮะมักจะทาํ จากอาหารหลายอยา งที่ เหลอื จากงานบญุ มาผดั รวมกนั แตป จ จบุ นั ใชเ คร่ืองปรงุ ใหมท าํ ก็ไดห รอื จะเปน ของท่คี างคืนและนาํ มาปรงุ ใหมอกี คร้ังหนึ่ง แกงโฮะเปน อาหารทีน่ ิยมแพรหลายมีขายกนั แทบ ทกุ รา นอาหารพื้นเมืองในภาคเหนือ

แกงฮงั เล เปนอาหารพน้ื บา นของชาวไทใหญอ ีกชนิดหนง่ึ ซึง่ อาจไดรับอทิ ธพิ ลมาจากอาหารพมา ในอดีต เปน แกงทท่ี ําไดง าย ใสพ ริกแหง ผงแกง ฮงั เล มะเขือเทศ และเนื้อ แลว นาํ มาผัดรวมกัน

นา้ํ พริกออ ง เปนน้าํ พริกขึน้ ชอ่ื ของภาคเหนอื ลกั ษณะเดน ของ นํ้าพรกิ อองคอื มสี ีสมของมะเขือเทศและพรกิ แหง การกินน้าํ พริกออ งตองมีผกั จิ้ม เชน มะเขอื เปราะ ถว่ั ฝกยาว ผักกาดขาว แตงกวา

ขนมจนี นํ้าเง้ียว หรือขนมเสน หมากเขอื สม เปน อาหารพน้ื เมอื งของ ชาวไทใหญ เดิมใชเสน กว ยเตี๋ยว เปนหลกั ตอมาคนพนื้ เมอื งดัดแปลงมาใชเสน ขนมจีนแทน กนิ กบั ถ่วั งอก ผกั กาดดอง เพิ่มรสชาติ ความอรอยยง่ิ ขึน้

เดอะรเิ วอรไ ซด บูทีค เกสทเ ฮา ส เดอะริเวอรไ ซด บูทคี เกสทเ ฮา ส ใหบ รกิ ารทีพ่ กั ในรูปแบบ ของเกสตเฮาส ดดั แปลงจากบานไมเ กาอายกุ วา 80 ป มาเปน ที่พกั ลาํ ปางสดุ ชิครมิ แมนํ้าวัง ตกแตงอยางสวยงามในสไต ลบูติกลานนา ท้งั โครงสรางและของตกแตง ลวนแตเ ปนวัสดุ ธรรมชาตแิ ละของทองถ่ิน สรา งบรรยากาศที่อบอุน ราวกบั ไดม าพักผอนบา นเพอ่ื นทเ่ี มืองลําปาง นอกจากน้ที ี่นยี่ ังมีสิ่ง อาํ นวยความสะดวกครบครนั หองพักมใี หเ ลือกหลายแบบ อยากนอนชิลแบบไหนกเ็ ลือกไดเลย

Karpenter Karpenter ทีพ่ กั สดุ เกไ กในสไตลมินมิ อล ลอฟท ตัง้ อยูใน อาํ เภอเมอื ง ตวั ที่พกั มีการใชไม เหล็ก และปนู เปนโครงสราง หลกั และตกแตง เปนทพี่ ักเลก็ ๆ มหี องพักทัง้ หมด 5 หอง ซึง่ ตกแตง อยางสวยงาม เรยี บงา ย มเี อกลกั ษณเ ฉพาะตวั ให ความรูสกึ ทีอ่ บอุน นา นอนพักผอน ภายในหองพักก็มีสง่ิ อาํ นวยความสะดวกครบครัน เหมาะสําหรับการมาใชว ันลา พกั รอ นท่ีน่ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook