เรียบเรียงโดย นายชูเกยี รติ อน้ อยู่สาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพวิ เตอรฮ์ ารด์ แวร์ วิทยาลยั เทคนคิ สโุ ขทัย
อินเทอร์เนต็ ( Internet )อินเทอร์เน็ตคืออะไร อนิ เทอรเ์ น็ตประวตั ิอนิ เทอร์เนต็ ประโยชน์และการใช้งานอินเทอร์เนต็ อินเทอร์เน็ต คอื ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ขนาดใหญท่ ี่สุดของโลก โดยจะเปน็ การเช่ือมตอ่เครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครอ่ื งจากทวั่ โลกมาเชอื่ มต่อเข้าด้วยกนั ซึง่ ชว่ ยให้สามารถติดตอ่ ส่อื สารและแลกเปล่ยี นข้อมูลระหว่างกันไดท้ ั่วโลก ในการตดิ ต่อกนั ระหว่างเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ จาเปน็ ตอ้ งมีการระบุวา่ ส่งมาจากไหน สง่ ไปให้ใครซ่ึงต้องมีการระบุ ช่อื เครอื่ ง (คล้ายกับเลขที่บ้าน) ในอินเทอร์เนต็ ใชข้ ้อตกลงในการตดิ ตอ่ ทีเ่ รียกวา่ TCP/IP (ข้อตกลงทีท่ าใหค้ อมพวิ เตอร์ติดต่อกันได)้ ซง่ึจะใช้สงิ่ ที่เรยี กค่า “ไอพี-แอดเดรส” (IP-Address) ในการระบชุ อ่ื เคร่ืองจะไมม่ เี บอร์ท่ซี า้ กนั ได้ อินเทอรเ์ นต็ ระบบการเช่ือมต่อของอนิ เทอร์เน็ตประวตั ขิ องอินเทอรเ์ น็ต อนิ เทอรเ์ น็ตกาเนิดขึน้ ครั้งแรกในประเทศสหรฐั อเมริกา เมอ่ื พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหารของสหรฐั อเมรกิ า ช่ือว่า ย.ู เอส.ดีเฟนซ์ ดีพารท์ เมนท์ ( U.S. Defence Department ) เป็นผู้คิดค้นระบบขนึ้ มา มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อใหม้ รี ะบบเครือขา่ ยทไี่ มม่ ีวันตายแมจ้ ะมสี งคราม ระบบการสอื่ สารถูกทาลาย หรือตัดขาด แต่ระบบเครือข่ายแบบนยี้ ังทางานได้ซึ่งระบบดังกล่าวจะใช้วิธีการสง่ขอ้ มลู ในรปู ของคลนื่ ไมโครเวฟ ฝา่ ยวจิ ัยขององค์กรจึงไดจ้ ัดตง้ั ระบบเนต็ เวริ์กข้ึนมา เรยี กวา่ARPAnet ยอ่ มาจากคาวา่ Advance Research Project Agency net ซ่งึ ประสบความสาเร็จ
การเชอ่ื มต่อในภาพแรกแบบเดิม ถา้ ระบบเครือข่ายถกู ตัดขาด ระบบกจ็ ะเสยี หายและทาให้การเชอ่ื มต่อขาดออกจากกนั แต่ในเครือขา่ ยแบบใหม่ แมว้ ่าระบบเครือข่ายหน่ึงถกู ตัดขาด เครือข่ายก็ยงั ดาเนนิ ไปได้ไม่เสียหาย เพราะโดยตัวระบบกห็ าชอ่ งทางอ่ืนเช่ือมโยงกันจนได้ในระยะแรก เม่ือARPAnet ประสบความสาเร็จ ก็มีองค์กรมหาวิทยาลยั ต่างๆ ให้ความสนใจเขา้ มารว่ มในโครงข่ายมากข้นึ โดยเนน้ การรบั สง่ จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ( Electronic Mail ) ระหวา่ งกันเปน็ หลัก ตอ่ มาก็ได้ขยายการบริการไปถึงการส่งแฟ้มข้อมลู ข่าวสารและส่งข่าวสารความรทู้ ่ัวไป แต่ไม่ได้ใชใ้ นเชิงพาณชิ ย์เนน้ การใหบ้ ริการดา้ นวชิ าการเป็นหลัก ปี พ.ศ. 2523 คนท่วั ไปเรม่ิ สนใจอนิ เทอรเ์ นต็ มากขึ้น มีการนาอนิ เทอร์เนต็ มาใชใ้ นเชิงพาณชิ ย์ มีการท าธุรกิจบนอนิ เทอรเ์ นต็ บรษิ ทั หา้ งรา้ นต่างๆ กเ็ ข้ารว่ มเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ตมากข้ึนอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ประเทศไทยไดเ้ รม่ิ ติดต่อกบั อนิ เทอรเ์ นต็ ในปี พ.ศ. 2530 ในลกั ษณะการใช้บริการ จดหมายเล็กทรอนิกส์แบบแลกเปล่ียนถุงเมลเ์ ป็นคร้ังแรก โดยเริม่ ท่ีมหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ( Prince of Songkla University ) และสถาบนั เทคโนโลยแี ห่งเอเชียหรือสถาบันเอไอที (AIT ) ภายใต้โครงการความรว่ มมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลยี ( โครงการ IDP ) ซึง่ เปน็ การตดิ ตอ่ เชือ่ มโยงโดยสายโทรศัพท์ จนกระทัง่ ปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ ไดย้ ืน่ ขอท่ีอยู่อนิ เทอรเ์ น็ตในประเทศไทย โดยได้รับทีอ่ ยู่อนิ เทอร์เนต็ Sritrang.psu.th ซง่ึนบั เป็นที่อยู่อนิ เทอรเ์ นต็ แหง่ แรกของประเทศไทย ต่อมาปี พ.ศ. 2534 บริษทั DEC ( Thailand )จากดั ได้ขอทอ่ี ยู่อนิ เทอรเ์ นต็ เพอื่ ใช้ประโยชนภ์ ายในของบริษทั โดยไดร้ บั ที่อยู่อินเทอร์เน็ตเป็นdect.co.th โดยทค่ี า “th” เปน็ สว่ นทเ่ี รยี กวา่ โดเมน ( Domain ) ซึง่ เปน็ สว่ นทแี่ สดงโซนของเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ ในประเทศไทย โดยยอ่ มาจากคาว่า Thailand การใช้งานอินเทอรเ์ น็ตชนิดเต็มรูปแบบตลอด 24 ชว่ั โมง ในประเทศไทยเกิดข้นึ เปน็ ครั้งแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535
กลา่ วได้ว่าการใช้งานอินเทอรเ์ นต็ ชนิดเต็มรปู แบบตลอด 24 ชว่ั โมง ในประเทศไทยเกดิ ข้นึ เป็นคร้ังแรกเมอื่ เดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535 โดยสถาบันวทิ ยบริการ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ได้เชา่วงจรสื่อสารความเรว็ 9600 บิตต่อวนิ าที จากการสอ่ื สารแหง่ ประเทศไทยเพื่อเช่ือมเขา้ สู่อินเทอรเ์ น็ตที่บริษทั ยูยูเน็ตเทคโนโลยี ( UUNET Technologies ) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีเดยี วกนั ได้มีหน่วยงานท่เี ชอื่ มต่อแบบออนไลน์กบั เครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ ผ่านจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายแหง่ ด้วยกัน ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ( AIT ) มหาวทิ ยาลยั มหิดลสถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้า วิทยาเขตเจา้ คุณทหารลาดกระบงั มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ และมหาวทิ ยาลยั อสั สัมชัญบรหิ ารธรุ กจิ โดยเรียกเครือข่ายนี้วา่ เครอื ข่าย “ไทยเนต็ ” ( THAInet ) ซง่ึนับเปน็ เครือขา่ ยทม่ี ี “ เกตเวย์ “ ( Gateway ) หรือประตูส่เู ครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ตเปน็ แห่งแรกของประเทศไทย ปัจจุบันได้มีผู้ร้จู กั และใช้อนิ เทอรเ์ น็ตมากขึ้น มีอตั ราการเตบิ โตมากกวา่ 100 % สมาชกิ ของอินเทอรเ์ น็ตขยายจากอาจารย์และนสิ ิตนกั ศึกษาในระดบั อุดมศกึ ษาไปสู่ประชาชนทว่ั ไป ในยุคแห่งสังคมขา่ วสารเช่นปจั จุบัน การสือ่ สารผ่านเครือข่ายคอมพวิ เตอรย์ ิง่ ทวีความสาคญัมาก ขึน้ เป็นลาดับเครอื ขา่ คอมพิวเตอร์ให้แลกเปล่ียนข่าวสารระหว่างกนั ไดโ้ ดยงา่ ย ในปัจจุบนั มีเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์เชือ่ มโยงไปทั่วโลก ผใู้ ช้ในซกี โลกหน่งึ สามารถตดิ ต่อกับผใู้ ช้ในซีกโลกหน่งึ ได้อย่างรวดเรว็ เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ท่ีรจู้ กั กันในชื่อของ \"อินเทอรเ์ น็ต\" (Internet) จดั ว่าเปน็ เครือข่ายท่ีมีบทบาทสาคัญทส่ี ุดในยุคของสังคมขา่ วสารปจั จบุ นั อนิ เทอรเ์ น็ตมีขอบขา่ ยครอบคลุมพนื้ ท่แี ทบทกุมมุ โลกสมาชกิ ในอนิ เทอร์เน็ตสามารถใช้คอมพวิ เตอรท์ ี่ตงั้ อยู่ทีจ่ ุดใด ๆ เพื่อสง่ ขา่ วสารและข้อมูลระหวา่ งกนั ได้บรกิ ารข้อมลู ในอนิ เทอร์เนต็ มหี ลากรูปแบบและมีผู้นิยมใชเ้ พ่ิมมากขึน้ ทุกวัน จากการคาดการณโ์ ดยประมาณแลว้ ปจั จบุ ันมเี ครือขา่ ยทว่ั โลกทีเ่ ชอ่ื มเข้าเปน็ อินเทอรเ์ น็ตราว 45,000 เครอื ข่าย จานวนคอมพวิ เตอร์ในทุกเครือขา่ ยรวมกนั คาดวา่ มปี ระมาณ 4 ล้านเครือ่ ง หรอื หากประมาณจานวนผใู้ ช้อนิ เทอร์เนต็ ทั่วโลกคาดวา่ มีประมาณ 25 ล้านคนและ มีแนวโนม้ เพิม่ มากขน้ึ เราจงึ กลา่ วได้ว่าอินเทอร์เนต็ เปน็ เครือข่ายมหึมาทคี่ รอบคลุมพืน้ ที่กว้างขวาง ที่สุด มีการขยายตวั สูงท่สี ดุ และมีสมาชิกมากทีส่ ุดเมอ่ื เทียบกับเครอื ขา่ ยอนื่ ทปี่ รากฏอยู่ในปจั จบุ นั พัฒนาการของอินเทอรเ์ น็ตอินเทอร์เน็ตมิได้เปน็ เครือข่ายทเ่ี กิดขนึ้ โดยเฉพาะเจาะจงหากแตม่ ี ประวตั ิความเป็นมาและมีการพฒั นามาอยา่ งต่อเน่ืองนับตัง้ แต่การเกิดของเครือขา่ ยอาร์พาเน็ต ในปี พ.ศ.2512 กอ่ นทจี่ ะก่อตวั เปน็ อนิ เทอรเ์ น็ตจนกระทั่งถึงทุกวันน้อี นิ เทอร์เนต็ มีพัฒนาการมา จากอาร์พาเน็ต ( ARPAnet ) ซง่ึ เปน็ เครือขา่ ยคอมพิวเตอรภ์ ายใต้ การรบั ผิดชอบของ อาร์พา ( Advanced Research Projects Agency ) ในสงั กัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมรกิ าอาร์พาเนต็ ในขั้นต้นเปน็ เพยี งเครอื ข่ายทดลองทตี่ งั้ ขึน้ เพ่อืเป็นการสนบั สนุนงานวิจัยดา้ นการทหารและโดยเนอื้ แท้แล้วอาร์พาเนต็ เปน็ ผลพวงมาจากการเมืองโลกในยคุ สงครามเยน็ ระหวา่ งคา่ ย คอมมวิ นสิ ตแ์ ละคา่ ยเสรีประชาธิปไตย ยุคสงครามเยน็ ในทศวรรษของปีพ.ศ.2510 นับเปน็ เวลาแหง่ ความตงึ เครียดเน่ืองจากภาวะ สงครามเยน็ ระหวา่ งประเทศในคา่ ยคอมมิวนิสตแ์ ละค่ายเสรีประชาธิปไตย สหรฐั อเมริกาซ่ึงเป็นประเทศผนู้ ากลมุ่ เสรีประชาธปิ ไตยได้
กอ่ ตั้งห้องปฏิบัติการทดลองเพอื่ ค้นคว้าและพฒั นาเทคโนโลยีอยา่ งเรง่ ดว่ น โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิเทคโนโลยีด้านระบบคอมพวิ เตอรช์ ว่ งท้ายของทศวรรษ 2510 ห้องปฏบิ ตั กิ ารวจิ ยั ในสหรัฐ ฯ และในมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆลว้ นแลว้ แตม่ คี อมพวิ เตอรท์ ี่ทนั สมัยในยคุ นัน้ ติดตงั้ อยู่ การเชอ่ื มตอ่ เข้าสู่อินเทอร์เนต็ ของประเทศไทยมจี ดุ กาเนดิ มาจากเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรร์ ะหว่างมหาวิทยาลัย หรือท่เี รยี กว่า \"แคมปสั เน็ตเวอร์ก\" ( Campus Network ) เครอื ข่ายดังกล่าวไดร้ บั การสนบั สนนุ จาก \"ศนู ยเ์ ทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชาติ\" ( NECTEC ) จนกระทั่งได้เชอ่ื มเข้าสู่อินเทอรเ์ น็ตโดยสมบรู ณใ์ นเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2535 พัฒนาการ ประเทศไทยไดเ้ ริม่ตดิ ต่อกับอินเทอรเ์ น็ตโดยใช้ E-mail ต้งั แตป่ ี พ.ศ. 2530 โดยเรมิ่ ท่ี \"มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์วทิ ยาเขตหาดใหญ่\" เปน็ แหง่ แรก และสถาบันเทคโนโลยแี หง่ เอเชีย ภายใตค้ วามร่วมมือระหว่างไทยและออสเตรเลยี ในชว่ งเวลาตอ่ มา ในขณะนน้ั ยังไมไ่ ด้มีการเชอื่ มต่อ แบบ On-line หากแตเ่ ป็นการแลกเปลย่ี นขา่ วสาร ดว้ ย E-mail โดยใชร้ ะบบ MSHnet ละ UUCP โดยทางออสเตรเลียจะโทรศัพท์เชอื่ มเข้ามาสูร่ ะบบวันละ 2 คร้งัการทางานของอนิ เทอร์เนต็ การส่ือสารข้อมลู ด้วยคอมพวิ เตอร์จะมโี ปรโตคอล (Protocol) ซ่ึงเป็นระเบียบวธิ ีการส่อื สารท่ีเป็นมาตรฐานของการเชื่อมต่อกาหนดไว้ โปรโตคอลท่ีเปน็ มาตรฐานสาหรับการเช่ือมต่ออินเทอร์เนต็คือ TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เครื่องคอมพวิ เตอรท์ ุกเครอ่ื งท่ีเชื่อมต่อเขา้ กบั เครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ จะต้องมีหมายเลขประจาเครื่อง ทีเ่ รยี กว่า IP Address เพอ่ืเอาไว้อา้ งองิ หรอื ติดต่อกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์อ่นื ๆ ในเครอื ข่าย ซงึ่ IP ในทน่ี ก้ี ็คอื Internet Protocolตวั เดยี วกับใน TCP/IP น่ันเอง IP address ถูกจัดเป็นตวั เลขชดุ หนง่ึ ขนาด 32 บิต ใน 1 ชุดน้ีจะมีตวั เลขถูกแบง่ ออกเปน็ 4 ส่วน ส่วนละ 8 บติ เท่าๆ กัน เวลาเขยี นกแ็ ปลงใหเ้ ป็นเลขฐานสิบก่อนเพ่อืความง่ายแล้วเขยี นโดยคัน่ แต่ละสว่ นด้วยจดุ (.) ดังนน้ั ในตวั เลขแต่ละส่วนนจี้ งึ มีค่าได้ไม่เกิน 256 คอืตง้ั แต่ 0 จนถงึ 255 เท่านัน้ เชน่ IP address ของเครอื่ งคอมพิวเตอร์ของสถาบนั ราชภฎั สวนดสุ ติ คอื203.183.233.6 ซง่ึ IP Address ชุดน้ีจะใชเ้ ป็นทอ่ี ยเู่ พ่ือติดตอ่ กบั เคร่ืองพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข่าย Domain name system :DNS
โดเมนเนม (Domain name system :DNS) เน่อื งจากการติดต่อส่ือสารกันกันในระบบอินเทอรเ์ น็ตใชโ้ ปรโตคอล TCP/IP เพ่ือส่ือสารกนัโดยจะตอ้ งมี IP address ในการอา้ งองิ เสมอ แต่ IP address นถี้ ึงแม้จะจัดแบง่ เปน็ ส่วนๆ แล้วก็ยังมีอปุ สรรคในการท่ตี ้องจดจา ถ้าเครอื่ งทอี่ ยู่ในเครือข่ายมีจานวนมากขน้ึ การจดจาหมายเลข IP ดูจะเปน็ เรอ่ื งยาก และอาจสับสนจาผดิ ได้ แนวทางแก้ปัญหาคือการตัง้ ชื่อหรือตัวอักษรข้ึนมาแทนท่ี IPaddress ซึ่งสะดวกในการจดจามากกวา่ เช่น IP address คอื 203.183.233.6 แทนที่ด้วยชื่อdusit.ac.th ผูใ้ ช้งานสามารถ จดจาช่อื dusit.ac.th ไดง้ ่ายกว่า การจาตัวเลข โดเมนทีไ่ ด้รบั ความนิยมกนั ทว่ั โลก ท่ีถือวา่ เปน็ โดเมนสากล มีดงั นี้ คือ .com ยอ่ มาจากcommercial สาหรบั ธุรกจิ .edu ย่อมาจาก education สาหรบั การศกึ ษา .int ย่อมาจากInternational Organization สาหรับองค์กรนานาชาติ .org ยอ่ มาจาก Organization สาหรบัหนว่ ยงานที่ไมแ่ สวงหากาไร .org ยอ่ มาจาก Organization สาหรับหนว่ ยงานท่ไี มแ่ สวงหากาไรบรกิ ารตา่ งๆ บนอินเทอรเ์ น็ต 1. เวลิ ด์ไวด์เว็บ (WWW) เวิลด์ไวดเ์ วบ็ หรอื เครอื ข่ายใยแมงมมุ เหตุทเี่ รียกช่ือน้เี พราะว่าเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงข้อมูล จากท่ีหนง่ึ ไปยังอีกท่ีหนงึ่ เร่ือยๆ เวิลดไ์ วดเ์ ว็บ เปน็ บริการทไ่ี ด้รับความนยิ มมากทีส่ ุด ในการเรียกดเู ว็บไซต์ต้องอาศัยโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ในการดูข้อมูล เวบ็ เบราว์เซอร์ท่ีได้รับความนิยมใชใ้ นปจั จุบัน เชน่ โปรแกรม Internet Explorer (IE) ,Netscape Navigator 2. จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) การติดต่อสอื่ สารโดยใชอ้ ีเมลสามารถท าได้โดยสะดวก และประหยัดเวลา หลกั การท างานของอเี มลก็คล้ายกบั การสง่ จดหมายธรรมดา น้นั คอืจะต้องมีท่ีอยูท่ รี่ ะบุชดั เจน ก็คือ อีเมลแอดเดรส (E-mail address)องค์ประกอบของ e-mail address ประกอบดว้ ย1. ชือ่ ผใู้ ช้ (User name)2. ชือ่ โดเมน Username@domain_nameการใช้งานอีเมล สามารถแบง่ ได้ดงั น้ี คือ 1. Corporate e-mail คอื อเี มล ท่ีหนว่ ยงานตา่ งๆสรา้ งขึ้นให้กบั พนักงานหรือบุคลากรในองค์กรนัน้ เชน่ [email protected] คอื e-mail ของนักศึกษาของสถาบันราชภฏั สวนดสุ ติ เปน็ตน้
2. Free e-mail คือ อีเมล ทส่ี ามารถสมัครไดฟ้ รีตาม web mail ตา่ งๆ เช่น Hotmail, YahooMail, Thai Mail และ Chaiyo Mail 3. บรกิ ารโอนยา้ ยไฟล์ (File Transfer Protocol) เป็นบรกิ ารที่เก่ยี วข้องกบั การโอนย้ายไฟล์ผ่านระบบอนิ เทอร์เน็ต การโอนยา้ ยไฟลส์ ามารถแบง่ ได้ดงั นี้ คอื 1. การดาวน์โหลดไฟล์ (Download File ) การดาวนโ์ หลดไฟล์ คือ การรบั ข้อมูลเขา้มายงั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ของผใู้ ช้ ในปัจจบุ นั มหี ลายเวบ็ ไซต์ท่จี ดั ใหม้ ีการดาวน์โหลดโปรแกรมไดฟ้ รีเชน่ www.download.com 2. การอพั โหลดไฟล์ (Upload File) การอัพโหลดไฟลค์ ือการน าไฟล์ขอ้ มลู จากเคร่ืองของผู้ใชไ้ ปเกบ็ ไวใ้ นเครื่องท่ีใหบ้ รกิ าร (Server) ผ่านระบบอินเทอรเ์ นต็ เช่น กรณที ี่ทาการสร้างเวบ็ ไซต์ จะมีการอัพโหลดไฟลไ์ ปเก็บไว้ในเครื่องบรกิ ารเวบ็ ไซต์ (Web server ) ที่เราขอใช้บรกิ ารพื้นท่ี (web server) โปรแกรมท่ีชว่ ยในการอัพโหลดไฟลเ์ ช่น FTP Commander 4. บรกิ ารสนทนาบนอินเทอร์เน็ต (Instant Message) สนทนาบนอินเทอรเ์ นต็ คอื การ สง่ขอ้ ความถงึ กนั โดยทันทีทันใด นอกจากนีย้ งั สามารถส่งสัญลกั ษณต์ ่างๆ อาทิ รูปภาพ ไฟล์ขอ้ มูลไดด้ ว้ ยการสนทนาบนอินเทอรเ์ นต็ เป็นโปรแกรมท่ีกาลังไดร้ ับความนิยมในปัจจุบนั โปรแกรมประเภทนี้ เช่นโปรแกรม ICQ (I seek you) MSN Messenger, Yahoo Messenger เปน็ ต้น 5. บริการคน้ หาขอ้ มลู บนอินเทอรเ์ นต็ 1. Web directory คอื การค้นหาโดยการเลอื ก Directory ทีจ่ ดั เตรียมและแยกหมวดหมูไ่ ว้ให้เรียบรอ้ ยแลว้ website ท่ีให้บรกิ าร web directory เช่น www.yahoo.com,www.sanook.com 2. Search Engine คอื การค้นหาข้อมูลโดยใชโ้ ปรแกรม Search โดยการเอาคาท่เี ราต้องการค้นหาไปเทียบกับเว็บไซตต์ า่ งๆ ว่ามเี ว็บไซตใ์ ดบา้ งท่มี คี าที่เราตอ้ งการคน้ หา website ท่ีให้บรกิ าร search engine เช่น www.yahoo.com, www.sanook.com, www.google.co.th,www.sansarn.com 3. Metasearch คอื การค้นหาข้อมลู แบบ Search engine แต่จะทาการสง่ คาทตี่ ้องการไปคน้ หาในเวบ็ ไซต์ที่ใหบ้ ริการสบื ค้นขอ้ มลู อน่ื ๆ อกี ถ้าข้อมูลทไี่ ด้มีซ้ากัน กจ็ ะแสดงเพียงรายการเดยี ว เว็บไซตท์ ีใ่ ห้บรกิ าร Metasearch เชน่ www.search.com, www.thaifind.com 6. บรกิ ารกระดานขา่ วหรือ เวบบอร์ด (Web board) เว็บบอรด์ เปน็ ศูนย์กลางในการแสดงความคดิ เห็น มีการต้งั กระทู้ ถาม-ตอบ ในหัวข้อที่สนใจ เว็บบอร์ดของไทยทเี่ ป็นท่ีนยิ มและมคี นเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย คือ เวบ็ บอร์ดของพนั ธ์ทิพย์ (www.pantip.com)
7. ห้องสนทนา (Chat Room) ห้องสนทนา คือ การสนทนาออนไลนอ์ ีกประเภทหน่ึง ท่ีมกี ารสง่ ข้อความสัน้ ๆ ถึงกนั การเข้าไปสนทนาจาเปน็ ต้องเขา้ ไปในเวบ็ ไซตท์ ี่ใหบ้ ริการห้องสนทนาเช่นwww.sanook.com www.pantip.com ส่อื อินเตอร์เนต็ มีความสาตญั ตอ่ ในชวี ติ ประจาวันมาก เพราะอินเตอร์เนต็ มีความสะดวก สบาย และรวดเรว็ ในการใช้ยคุ ของอนิ เทอร์เน็ต อินเตอรเ์ นต็ เป็นระบบเครอื ข่ายทมี่ ีการพฒั นามาต่อเนื่องไมน่ ้อยกวา่ สามสบิ ปแี ล้ว ในตลอดชว่ งพัฒนาการของอนิ เตอร์เน็ตนน้ั สามารถแบง่ ได้เป็นสามยคุ ด้วยกนั\"Internet 1.0\" ยคุ แรกเปน็ ยคุ ของการเชอ่ื มต่อเพ่ือการสื่อสารระหว่างบุคคล (Human-to-HumanCommunication) ในยคุ นพี้ ัฒนาการของอินเตอร์เน็ตจะเปน็ เพื่อการส่อื สารระหวา่ งบุคคลทใ่ี ช้อุปกรณ์คอมพวิ เตอรท์ เี่ ช่ือมต่อกบั อินเตอรเ์ น็ตเทคโนโลยที ่สี าคัญท่พี ฒั นาใช้งานกบั อินเตอรเ์ น็ตเพ่ือการส่อื สารในยุคนไี้ ดแ้ ก่ อเี มล (Email) และ ยสู เน็ต (UseNet)
อีเมลเป็นเทคโนโลยีท่ียังมีการใชง้ านในปัจจบุ นั นอกจากการส่อื สารระหว่างบุคคลแลว้ อเี มลได้มกี ารประยุกต์ใชเ้ พ่อื การส่ือสารระหวา่ งบุคคลกับกล่มุ บุคคล (Human-to-CommunityCommunication) ดว้ ย เทคโนโลยีเพื่อการนเ้ี รียกว่า เมลลิ่งลิสต์ (Mailing List) ซงึ่ ก็ยงั มีการใช้งานอยเู่ ชน่ กัน สว่ น UseNet ไดร้ บั ความนยิ มลดน้อยลง แต่ก็ยังมกี ารใช้งานอยู่อยา่ งสมา่ เสมอจากผใู้ ชท้ ใ่ี ช้งานมาตัง้ แตใ่ นอดตี ผ้ใู ห้บริการ UseNet รายสาคญั ในปัจจุบันคือ Google ภายใตช้ อ่ื Google Groupsน่นั เอง\"Internet 2.0\" ยคุ ต่อมาเปน็ ยคุ ของการเช่อื มต่อเพือ่ สื่อสารระหว่างบุคคลกับคอมพวิ เตอร์ (Human-to-Computer Communication) เทคโนโลยสี าคัญทีพ่ ัฒนาขึ้นเพ่อื ใชง้ านอินเตอร์เน็ตในยุคน้ีได้แก่ เวบ็(Web หรอื World Wide Web) เว็บเปดิ โอกาสให้บุคคลสามารถเข้าใชค้ อมพิวเตอรเ์ พ่ือทางานใดงานหนึง่ จากระยะไกลได้ผา่ นกระบวนการใชง้ านทเี่ ป็นมาตราฐานเดยี วกัน ก่อนหนา้ เทคโนโลยเี วบ็ การใชง้ านคอมพวิ เตอรจ์ ากระยะไกลจะเปน็ การใช้งาน “เคร่ืองคอมพวิ เตอร์” เพ่ือทางาน ดว้ ยเทคโนโลยีเวบ็ ทาให้การใชง้ านคอมพวิ เตอร์จากระยะไกลเป็นการใช้งาน “ระบบงาน” เพ่อื ทางาน อธิบายในรายละเอียดของความแตกต่างดงั กลา่ วจะได้ว่า ในอดีตผูใ้ ชต้ ้องใช้โปรแกรมจาลองหน้าจอเพื่อเขา้ ใช้เครือ่ งคอมพวิ เตอรเ์ ครื่องใดเคร่ืองหน่งึ แลว้ ใช้โปรแกรมในเคร่ืองคอมพิวเตอรน์ ั้นทางาน ผ้ใู ช้อินเตอรเ์ นต็ ยคุ แรกๆ ของ ม.สงขลานครินทรจ์ ะจาได้วา่ ต้อง “telnet” มาใช้เครือ่ ง“ratree.psu.ac.th” เพ่ือใช้ “pine” ในการรบั สง่ อีเมลเป็นตน้ แตด่ ้วยเทคโนโลยเี วบ็ ผูใ้ ช้ทต่ี ้องการรับส่งอีเมลจะใช้โปรแกรม Web Browser เปิดเวบ็ ที่ http://webmail.psu.ac.th/ นอกจากนีเ้ วบ็ ยังเปดิ โอกาสใหผ้ ู้ใช้ไดใ้ ชว้ ิธีการใชง้ านเดยี วกันน้ัน (ผา่ น Web Browser) เพ่อืใช้ “ระบบงาน” อาทิเชน่ “ระบบสารสนเทศบุคลากร ม.สงขลานครนิ ทร์” ท่ี http://dss.psu.ac.th/“ระบบธนาคารไทยพาณิชย์” ที่ http://www.scbeasy.com ระบบส่ังซ้ือสนิ ค้า ท่ีhttp://amazon.com/ เปน็ ตน้สงั เกตวา่ ผ้ใู ชไ้ มจ่ าเปน็ ต้องรู้ “ท่ีอยู่เครื่องคอมพิวเตอร์” เพยี งแตร่ ู้ “ท่ีอยขู่ องระบบงาน” เท่านัน้แม้ว่าทอี่ ยู่ของเคร่ืองจะแฝงอยูใ่ นทอ่ี ยู่ของระบบงานแตก่ ็ไม่ไดเ้ ป็นปัจจัยหลกั อาทเิ ช่นhttp://www.scb.co.th และhttp://www.scbeasy.com ต่างเปน็ ทอี่ ยู่ของระบบงานท่ีอาจอยู่ในเครื่องเดียวกนั อยคู่ นละเคร่อื งแตอ่ ยู่ในระบบเครือข่ายเดยี วกัน หรืออยู่ต่างเครือขา่ ย กไ็ ม่มคี วามจาเป็นท่ีผู้ใช้จะตอ้ งรู้ กล่าวโดยสรปุ คือในมุมมองเชิงแนวความคดิ (Conceptual Prospective) แล้ว เวบ็ ทาให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตเปล่ียนจากการอยูบ่ นพน้ื ฐานของ “เครือ่ ง” เป็น “ระบบ”
\"Internet 3.0\" ยุคทีส่ ามของอินเตอรเ์ นต็ เปน็ ยุคท่เี รากาลงั จะกา้ วไปสเู่ ป็น ยคุ ของการส่อื สารเพื่อการเชือ่ มต่อระหว่างคอมพิวเตอรก์ ับคอมพิวเตอร์ (Computer-to-Computer Communication) รายละเอยี ดในเชงิ แนวความคดิ ของยุคนีเ้ ปน็ เรอื่ งราวทีต่ ้องทาความเข้าใจกันมากทีเดยี ว เน่อื งจากยุคน้ี “ยังมาไม่ถงึ ” และจะเป็นยุคทส่ี าคัญมากของการใชง้ านอินเตอร์เน็ตเพอ่ื ประโยชนแ์ ก่มนุษยชาติทเี ดยี ว เมื่อกล่าวว่าเป็นการเช่ือมต่อระหวา่ งคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เป็นในยคุ ท่ีสาม ผู้อ่านอาจสงสยั ว่าคอมพวิ เตอรก์ ็ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์อย่แู ล้วเพ่ือให้เกดิ อนิ เตอรเ์ นต็ ไม่ใช่หรอื ทาไมพง่ึมาเชอื่ มเอาในยุคที่สาม? “การเชือ่ มต่อ” ในบทความนี้ทีก่ ล่าวมาเป็นการกล่าวถงึ การเชอ่ื มตอ่ ในระดบั ของสารสนเทศ(Information) ซงึ่ เปน็ การเชื่อมต่อในระดบั ทสี่ ูงกว่าใน “การรับร้คู วามหมาย” กวา่ การเชอ่ื มต่อเพื่อการส่งผา่ นขอ้ มูล (Data Communication) ในยุคทสี่ ามน้จี ะเป็นยุคท่ี “ระบบงาน” จะติดต่อสื่อสารกนั เพ่ือใหส้ ารสนเทศซึ่งกนั และกนั เพ่ือใหบ้ ริการแกผ่ ู้ใช้ กล่าวคือในมมุ มองเชงิ แนวความคิด (Conceptual Prospective) แลว้ ในยคุ นี้“ระบบงาน” จะให้ “บรกิ าร” สารสนเทศของตนแก่ระบบงานอืน่ ๆ และใช้บรกิ ารสารสนเทศจากระบบงานอนื่ ๆ เพื่อประกอบเปน็ บรกิ ารของตนให้แกผ่ ใู้ ช้ หน้าตาของเว็บไซตต์ ่างๆ\"Web 2.0\" จะเหน็ ได้วา่ ในยุคที่สามนจี้ ะมีการกลา่ วถงึ “บรกิ าร” ระหวา่ งกันและในการติดตอ่ สอ่ื สารของข้อมูลในระบบน้ีก็ยังผา่ นเทคโนโลยพี ื้นฐานบางอยา่ งของเวบ็ ดังนนั้ นักการตลาดของหลายบริษัทจงึ ใชค้ าว่า “Web Services” แทนความหมายของยุคที่สามน้ี ในขณะนศ้ี ัพท์ที่เป็นทีน่ ิยมอกี คาหนึง่ ท่ี
จะแทนความหมายของยุคนีค้ ือ “Web 2.0” (ควรอ่านว่า Web Two Point Oh อย่าอ่านวา่ เวบ็ สองจุดศนู ย์) ขอให้ผู้อ่านเขา้ ใจว่าศัพท์เหลา่ น้ีเปน็ ศัพท์กว้างๆ เพ่อื ความหมายเชิงการตลาดมากกว่าทีจ่ ะมีความหมายเชงิ เทคโนโลยี ในยคุ ที่สามของอนิ เตอรเ์ นต็ น้นั ถอื ได้ว่าเปน็ ยคุ ท่สี องของเวบ็ ความหมายของยคุ ท่ีสองของเวบ็ได้มผี ู้อธิบายไวห้ ลากหลาย แตย่ ุคที่สองของเว็บจะอธบิ ายไดช้ ัดเจนตอ้ งอธบิ ายดว้ ยการนาสถานะของผู้ใชแ้ ละการเข้าถงึ ข้อมลู เปน็ ตัวตัง้ ในคาอธบิ ายในสถานะของผู้ใช้นั้น ในยุคแรกของเว็บจะเปน็ ยุค “เว็บเพื่ออ่านอยา่ งเดยี ว”(Read-Only Web) ในยคุ น้ีผอู้ ่านและผู้เขียนจะแยกกันอย่างชดั เจน คนเขียนจะมีหนา้ ที่เขียนสว่ นคนอา่ นจะมีหนา้ ท่ีอ่าน ไม่ปะปนกนั สว่ นในยุคท่สี องจะเป็นยคุ “เวบ็ เพอื่ การอา่ นและเขียน” (Read-Write Web) ในยคุ น้ีผูอ้ ่านและผูเ้ ขยี นจะเปน็ บคุ คลเดยี วกนั สว่ นคาอธบิ ายวา่ ดว้ ยการเขา้ ถึงขอ้ มลู น้ัน ในยคุ แรกเว็บจะมี “Site” เป็นเวบ็ ไซต์ (Web Site)นน่ั คอื สารสนเทศจะมีที่อยู่ท่ีแนน่ อน แต่ในยุคท่สี องเวบ็ จะไม่มี “Site” อกี ต่อไป สารสนเทศจะเกิดการแลกเปลี่ยนกนั โดยระบบงานเพ่อื ไปหาผูใ้ ช้ กล่าวอีกมมุ หนงึ่ คือ ในยุคแรกผูใ้ ชต้ ้อง “ไปหา”สารสนเทศ แตย่ ุคที่สองสารสนเทศจะ “มาหา” ผู้ใชน้ นั่ เอง\"Outlook from Thailand\" ในขณะน้ีอนิ เตอรเ์ นต็ กาลงั ก้าวสูย่ คุ ทส่ี าม และเว็บซ่งึ เปน็ ส่วนหนึ่งของยุคของอินเตอร์เน็ตนัน้ กก็ าลังก้าวสู่ยคุ ที่สอง ความหวงั ของเราในฐานะนักพฒั นาซอฟท์แวร์ในประเทศไทยคอื เราจะได้เปน็ ผู้ส่งออกเทคโนโลยที ่เี ป็นสว่ นหนงึ่ ของยุคใหมท่ ี่กาลงั จะมาถึงนี้ นาพาประเทศไทยให้ปรากฎในแผนทโี่ ลกว่าเราก็เป็นหน่งึ ใน “ผู้ให้” เทคโนโลยีแก่ชาวโลกเชน่ เดียวกนั
แหลง่ ข้อมลู อ้างองิhttps://www.dmc.tv/pages/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: