Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สวนพฤษศาสตร์โรงเรียนวังเหนือวิทยา

สวนพฤษศาสตร์โรงเรียนวังเหนือวิทยา

Published by Kanyapat Suworapitchaya, 2020-11-04 05:40:20

Description: นางสาวกัญญาพัชร สัวรพิชญา เลขที่ 22 ชั้นม.5/1
นางสาวจิตตืมา เกาะปินะ เลขที่ 24 ชั้น ม.5/1

Search

Read the Text Version

ปี บ ชื่อสามัญ Cork tree, Indian cork ปี บ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Millingtonia hortensis L.f. จดั อยู่ ในวงศแ์ คหางคา่ ง (BIGNONIACEAE) ต้นปี บ มีชื่อทอ้ งถ่ินอื่น ๆ เช่น เตก็ ตองโพ่ (กะเหร่ียง- กาญจนบุรี), กาซะลอง กาสะลอง กาดสะลอง กาสะลองคา (ภาคเหนือ), ปี บ กอ้ งกลางดง (ภาคกลาง) กางของ (ภาคอีสาน) เป็น ตน้ ลักษณะของปี บ ต้นปี บ เป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลาตน้ ตรง มี ความสูงประมาณ 5-10 เมตร เปลือกตน้ เป็นสีเทาเขม้ แตก เป็นร่องลึก มีช่องอากาศ รากเกิดเป็นหน่อ เจริญเป็ นตน้ ใหม่ได้ ขยายพนั ธุ์ดว้ ยวธิ ีการนาเมลด็ มาเพาะ หรือใชต้ น้ อ่อนทเี่ กิดจากรากรอบ ๆ ของตน้ แม่ นามาตดั เป็นทอ่ นส้ัน ๆ แลว้ นามาปักชาในกระบะกรวยที่ผสมดว้ ยข้เี ถา้ แกลบก็ ได้ ปี บเป็นพนั ธุ์ไมพ้ ้นื เมืองของพม่าและไทยทข่ี ้นึ กระจดั กระจายอยทู่ ว่ั ไปตามป่ าเบญจพรรณและป่ าดิบแลง้ ทาง ภาคเหนือ ภาคตะวนั ตก และทางภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

ใบปี บ ลกั ษณะของใบเป็นใบประกอบแบบขนนก 3 ช้นั มี ความกวา้ งประมาณ 13-20 เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 16-26 เซนตเิ มตร กา้ นใบยาว 3.5-6 เซนติเมตร ทีต่ วั ใบจะประกอบ ไปดว้ ยแกนกลางยาวประมาณ 13-19 เซนติเมตร มีใบยอ่ ย 4-6 คู่ กวา้ งประมาณ 2.5-3 เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 4-5 เซนตเิ มตร ลกั ษณะใบมีรูปร่างคลา้ ยรูปหอกแกมรูปไข่ ปลาย ใบเรียวแหลม ฐานใบเป็นรูปลิ่ม ขอบใบหยกั เป็นซ่ีหยาบ ๆ เน้ือใบเกล้ียงบางคลา้ ยกบั กระดาษ ดอกปี บ ลกั ษณะดอกเป็นช่อกระจกุ แยกแขนง มีความยาวประมาณ 10-25 เซนตเิ มตร ดอกยอ่ ยจะประกอบไปดว้ ยกลีบเล้ียงสีเขียว ดอกมี กลิ่นหอม มีความกวา้ งประมาณ 0.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6- 10 เซนตเิ มตร เช่ือมกนั เป็นหลอดปากแตร แยกออกเป็น 5 แฉก 3 แฉกรูปขอบขนาน 2 แฉกล่างค่อนขา้ งแหลม มีเกสรตวั ผจู้ านวน 4 กา้ น สองคู่จะยาวไม่เทา่ กนั และมีเกสรตวั เมียจานวน 1 กา้ น อยเู่ หนือ วงกลีบ โดยดอกปี บจะออกดอกในช่วงเดือนพฤศจกิ ายนถึงเดือน พฤษภาคม ผลปี บ ลกั ษณะเป็นผลแห้งแตก ผลแบนยาว ขอบขนาน มีเน้ือและ เมลด็ จานวนมาก เป็นแผน่ บางมีปี ก

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Duranta erecta L. ช่ือวงศ์ : VERBENACEAE ช่ือสามญั : Golden Dewdrop ,Japan Camillia ,Pigeon berry ,Sky flower ชื่อพืน้ เมือง : เทียนทอง ,พวงม่วง ,เทียนพญาอินทร์ การกระจายพนั ธ์ุ : - ในประเทศไทย พบในทวั่ พ้นื ที่เขตร้อน -ในประเทศอ่ืน ๆ ประเทศในเขตร้อน นิเวศวิทยา : เตบิ โตไดด้ ีในเขตร้อนช้ืน เวลาออกดอก : ตลอดปี เวลาตดิ ผล : ตลอดปี การขยายพนั ธ์ุ : การปักชากิ่ง และตอนกิ่ง

ลักษณะของ ชาทอง ไมพ้ ุม่ สูง 1 เมตร ผวิ ลาตน้ หยาบ ขรุขระ สีเทาอ่อน ใบเด่ียวแบบ ตรงขา้ ม ใบรูปรี กวา้ งประมาณ 1.5-2.5 เซนตเิ มตร ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ใบ สีเขียวอ่อนอมเหลืองถึงสีเหลืองทอง ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรียว ขอบใบ เรียบ ดอกช่อแบบช่อวงแถวเดี่ยว กล่ินหอม ออทีป่ ลายยอด กลีบเล้ียง 6 กลีบ สี เขยี วกลีบดอก 5 กลีบ สีม่วงอ่อน เกสรเพศผู้ 5 เกสร เกสรเพศเมีย 1 อนั ผลเด่ียว ผลสด เมลด็ เดี่ยวแขง็ ผลอ่อน สีเขียว ผลแก่สีสม้ เมลด็ 1 เมล็ด/ผล ลักษณะวิสัย : ไมพ้ มุ่ เรือนยอด ทรงพ่มุ : รูปร่ม ความสูง 2 ม. ความกวา้ งทรงพมุ่ 0.45 ม. ถ่นิ อาศัย : พืชบก ลาตน้ : ลาตน้ เหนือดิน ต้งั ตรงเองได้ เปลือกลาต้น : สีน้าตาลอมเทา ลักษณะ : ขรุขระ ยาง : ไม่มี

ดอก : ดอกช่อ ตาแหน่งออกของดอก : ปลายยอด กลีบเล้ียง : แยกจากกนั มีจานวน 6 กลีบ สีเขียว กลีบดอก : โคนเช่ือมตดิ กนั ปลายแยกเป็น 5 แฉก สี ม่วง รูปกงลอ้ เกสรเพศผู้ : จานวน 5 อนั สีครีม เกสรเพศเมีย : จานวน 2 อนั สีเขียว รังไข่ : รังไขเ่ หนือวงกลีบ กล่ิน : กล่ินหอม ชนิดของผล : ผลเด่ียว ผลสด เมล็ดเดี่ยวแขง็ สีของผล : ผลอ่อน สีเขียว ผลแก่ สีส้ม รูปร่างผล : กลม เมลด็ : จานวน 1 เมลด็ สีของเมลด็ : สีส้ม รูปร่างเมล็ด : กลม ชนิดของใบ : ใบเดี่ยว สีเขียวออ่ นอมเหลือง ขนาดแผน่ ใบ กวา้ ง 2.5 ซม. ยาว 5.5 ซ.ม. ลกั ษณะพิเศษของใบ มีความนิ่ม การเรียงตวั ของใบบนกิ่ง : ตรงขา้ ม รูปร่างแผ่นใบ : รูปรี ปลายใบ : เรียวแหลม โคนใบ : สอบเรียว ขอบใบ : เรียบ

ช่ือวงศ์ : Apocynaceae ช่ือสามญั : Frangipani , Pagoda tree, Temple tree ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Plumeria spp. ลีลาวดี หรือ ลนั่ ทม (Frangipani, Plumeria, Templetree) เป็นไมด้ อกยนื ตน้ ในสกลุ Plumeriaมีหลายชนิดดว้ ยกนั เม่ือก่อนบาง คนมีความเช่ือว่าไมค่ วรปลูกตน้ ลน่ั ทมในบา้ น เน่ืองจากมีชอื่ เป็นอปั มงคล คือไปพอ้ งกบั คาว่า 'ระทม' ซ่ึงแปลวา่ เศร้าโศก แต่ปัจจุบนั นิยมเรียกชื่อ ใหม่ วา่ ลีลาวดีและนิยมปลูกกนั แพร่หลายอยา่ งมาก ช่ือพ้ืนเมืองอ่ืนๆ ไดแ้ ก่ จาปา, จาปาลาวและจาปาขอม เป็นตน้

ลกั ษณะท่วั ไป ตน้ เป็นไมย้ นื ตน้ มขี นาดตง้ั แต่พมุ่ เตยี้ แคระสงู ประมาณ 0.9-1.2 เมตร จนถงึ ตน้ ท่ี สงู มาก อาจสงู ถงึ 12 เมตร ลาตน้ แตกก่งิ กา้ นสขาและพมุ่ ใบสวยงาม มนี า้ ยางสี ขาวขน้ เป็นไมผ้ ลดั ท่สี ลดั ใบในฤดแู ลง้ กอ่ นท่จี ะผลดิ อกและผลใิ บรุ่นใหม่ ก่งิ ท่ยี งั ไมแ่ กม่ ีสเี ขียว ออ่ นนมุ่ ดเู กือบจะอวบนา้ ก่งิ แก่มสี เี ทามีรอยตะป่มุ ตะป่ า ก่งิ ไม่ สามารถทานนา้ หนกั ได้ ก่งิ เปราะ เปลอื กลาตน้ หนา ตน้ ท่โี ตเตม็ ท่ีแลว้ จะพฒั นา จนกระท่งั มีความแขง็ แรงมากขนึ้ ใบ เป็นใบเดี่ยว มีการเรียงตวั แบบสลบั และหนาแน่นใกลป้ ลายก่ิง มีลกั ษณะ แตกต่างกนั ไปท้งั รูปร่าง ขนาด สี และความหนาแน่น โดยทว่ั ไป ใบจะหนา เหนียวแขง็ และมีสีต้งั แตส่ ีเขียวอ่อนถึงสีเขยี วเขม้ มีเส้นกลางใบแตกสาขา ออกไปคลา้ ยขนนก ขนาดใบแตกตา่ งกนั ไม่มาก

ชอ่ ดอก ดอกจะผลอิ อกมาจากปลายยอดเหนือใบ เห็นเป็นช่อดอกใหญ่สวยงาม แต่กม็ บี างชนดิ ท่อี อกชอ่ ดอกระหวา่ งใบ หรอื ใตใ้ บ บางชนิดหอ้ ยลงบางชนดิ ตงั้ ขนึ้ ในหน่งึ ช่อจะมดี อกบานพรอ้ มกนั 10 – 30 ดอก บางตน้ ท่มี ีความ สมบรู ณเ์ ตม็ ท่อี าจมดี อกมากกวา่ 100 ดอก ต่อ 1 ชอ่ ออกดอกประมาณเดือน กมุ ภาพนั ธถ์ งึ เดือนเมษายน บางพนั ธสุ์ ามารถออกดอกไดต้ ลอดทงั้ ปี ดอก โดยทวั่ ไปจะมีขนาดใหญถ่ ึงกลาง ยกเวน้ บางพนั ธุท์ ่มี ีขนาดเล็ก กลีบ ดอกมี 5 กลีบ เกสรตวั ผู้ เกสรตวั เมีย อยลู่ ึกเขา้ ไปขา้ งใน ดอกมีลกั ษณะ คลา้ ยท่อ ทาใหม้ องไม่เห็นเกสรตวั ผแู้ ละเกสรตวั เมีย โดยจะมีเกสรตวั ผู้ 5 อนั อยทู่ โ่ี คนกา้ นดอก ส่วนเกสรตวั เมียอยลู่ ึกลงไปในกา้ นดอก เกสรตวั ผู้ และเกสรตวั เมียบานไม่พร้อมกนั ยากต่อการผสมตวั เอง ฝัก/ผลมีลกั ษณะ คลา้ ยกบั ฝักตน้ ชวนชม ฝักอ่อนสีจะมีสีเขยี วเมื่อแก่ฝักจะมีสีแดงถึงดา

เฟื่ องฟ้า ช่ือสามัญ Paper flower, Bougainvillea เฟื่ องฟ้า ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Bougainvillea glabra Choisy จดั อยใู่ นวงศบ์ านเยน็ (NYCTAGINACEAE) เฟ่ื องฟ้า มีช่ือทอ้ งถิ่นอื่น ๆ วา่ ดอกตา่ งใบ (กรุงเทพฯ), ดอกกระดาษ ดอกโคม (ภาคเหนือ), ตรุษจีน (ภาคกลาง), เยจ่ ่ือฮวา จื่อซานฮวา (จนี กลาง) ลกั ษณะของเฟื่ องฟ้า ต้นเฟื่ องฟ้า จดั เป็นไมย้ ืนตน้ ประเภทพ่มุ ก่ึงเล้ือย มีอายยุ นื หลายสิบปี สามารถเล้ือยไปไดไ้ กลถึง 10 เมตร ลกั ษณะของทรงพุ่มสามารถตดั แตง่ และบงั คบั ทิศทางการเจริญเติบโตได้ ลาตน้ มีลกั ษณะกลมใหญ่ เน้ือแขง็ ผวิ เป็นสีเทาหรือสีน้าตาล ลาตน้ เปราะและหกั ไดง้ ่าย มีหนามข้ึนตามลา ตน้ อยเู่ หนือใบ หนามมีความยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ขยายพนั ธุ์ ดว้ ยวิธีการตอนก่ิง การปักชาก่ิง เสียบยอด เจริญเติบโตไดด้ ีในดินปน ทรายระบายน้าดี ชอบความช้ืนต่าและแสงแดดแบบเตม็ วนั

ใบเฟ่ื องฟ้า ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลบั ลกั ษณะของใบเป็นรูปไข่ รูปรี หรือรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาด กวา้ งประมาณ 3-6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-10 เซนตเิ มตร แผน่ ใบ เป็นสีเขยี ว ผวิ ใบเรียบ ใบบาง มีหนามอยตู่ ามง่ามใบ มีกา้ นใบยาว ประมาณ 1 เซนติเมตร[ ดอกเฟื่ องฟ้า ออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบและปลายกง่ิ มี 3 ดอก ดอกมีหลายสี ทางจีนนิยมนามาใชเ้ ป็นยา คือ ดอก สีม่วง หรือสีแดง ดอกที่เป็นสี ๆ กค็ ือใบท่ีเปล่ียนสี เรียกวา่ ใบดอก มีลกั ษณะบางคลา้ ยกบั กระดาษ ลกั ษณะเป็นรูปไข่ ปลายแหลม ในหน่ึงดอกจะมีใบดอก 3 ใบเชื่อมตดิ กนั ใบ ดอกจะกวา้ งประมาณ 2-4 เซนติเมตรและยาวประมาณ 3-5 เซนตเิ มตร มีเกสรเป็นรูปทรงกระบอกสีเขียว

ผลเฟ่ื องฟ้า ผลมีขนาดเลก็ ลกั ษณะ เป็นสัน 5 เหล่ียม เปลือกแขง็ และมี เมล็ดติดกบั เปลือก สรรพคุณของเฟื่ องฟ้า 1.ดอกเฟื่ องฟ้ามีสรรพคุณช่วยบารุงหัวใจและระบบขบั ถ่าย (บางขอ้ มูล ระบุวา่ ดอกเฟื่ องฟ้ามีสรรพคุณช่วยบารุงโลหิตและใชแ้ ทนเคร่ืองหอม ไดด้ ว้ ย) (ดอก) 2.ดอกเฟ่ื องฟ้า (สายพนั ธุ์ Bougainvillea glabra Choisy.) มีรสขมฝาด เป็นยาสุขมุ ออกฤทธ์ิต่อตบั ใชเ้ ป็นยาแกป้ ระจาเดือนมาไม่ เป็นปกติ ทาใหเ้ ลือดไหลเวยี นไดด้ ี รักษาสตรีทป่ี ระจาเดอื นไม่มาหรือ มุตกิดตกขาวของสตรี ดว้ ยการใชด้ อกทีเ่ ป็นยาแห้งคร้ังละ 10-15 กรัม นามาตม้ กบั น้ารับประทาน หรือจะใชร้ ่วมกบั ตวั ยาอื่น ๆ ในตารับยา ตามที่ตอ้ งการ (ดอก)[1] 3.เฟื่ องฟ้าดอกขาว (Bougainvillea spectabilis Willd.) ในประเทศจนี จะไม่นิยมนามาใชท้ ายา แต่ในประเทศไทยจะมีการนา รากมาใชเ้ ป็นยาแกพ้ ษิ ตา่ ง ๆ (ราก)

น.ส.กญั ญาพชั ร สุวรพิชญา ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 22 : Kanyapat Hai : _kanya_hii : [email protected] น.ส.จติ ติมา เกาะปินะ ชน้ั ม.5/1 เลขท่ี 24 : Ning Ing : ning_chtm : [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook