Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน

สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน

Published by best.06032003, 2020-11-06 04:23:49

Description: นายจิรวัฒน์ อวดห้าว เลขที่ 1
นายธนาดล วังท่า เลขที่ 7
ชั้น ม.5/2

Search

Read the Text Version

คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จัดทำข้ึนเพ่ือใช้ประกอบกำร เรียนวิชำ ว32101 เทคโนโลยี 2 ซ่ึงเน้ือหำประกอบด้วย ควำมรเู้ กี่ยวกบั ต้นไม้ และดอกไมใ้ นโรงเรียน ผู้จัดทำหวังว่ำเน้ือหำในหนังสือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ ใหก้ บั ผศู้ ึกษำไดเ้ ป็นอยำ่ งดี จริ วฒั น์ อวดหำ้ ว ธนำดล วังท่ำ ผจู้ ัดทำ

ชำฮกเกย้ี น ช่อื วิทยำศำสตร์ Carmonretusa (Vahl) Masam. ชือ่ วงศ์ Boraginceae ชอ่ื สำมัญ - ชื่อพ้ืนเมืองอ่นื ๆ ชำดดั ใบมนั ข่อยจีน ชำญวน ถน่ิ กำเนิด มถี ่ินดง้ั เดิมอย่ใู น ประเทศจีนและ กำรกระจำยพนั ธ์ุ แอฟริกำเหนอื สำหรับในประเทศไทย นั้นสำมำรถพบไดใ้ น ทว่ั ทกุ ภมู ภิ ำค

ชำฮกเก้ียน หรือ ตน้ ชำดัด เปน็ ไม้ทรงพ่มุ ทมี่ ลี ำต้นตรงแตกกิ่งก้ำนสำขำ จำนวนมำก กง่ิ เมอ่ื แตกจำกลำตน้ แลว้ จะมี ลกั ษณะเป็นพมุ่ ทีม่ ใี บอยูอ่ ยำ่ งหนำแนน่ ใบมี ขนำดเลก็ มนั เงำและหนำ เรียงสลับ ออกเปน็ กระจกุ สนั้ ๆ ตำมกิ่ง ขอบใบหยกั ผิวใบ ด้ำนบนสีเขยี วเข้มมีหนำมเล็กๆ นยิ มปลกู เป็นไม้ประดับตกแตง่ สวน หรอื นำมำปลกู ให้เป็นทรงพุ่ม รวมท้งั เปน็ ไม้แนว ร้วั บ้ำนเปน็ กำแพง นอกจำกน้ี ยังมกี ำร นำมำดัดแปลงโดยใหย้ อดของชำฮกเกย้ี น ค่อยๆ เลอ้ื ยเกำะกับโครงเหล็กท่ีดดั เปน็ รูปทรงต่ำงๆ เพอื่ ให้มรี ูปทรงทแี่ ปลกตำ จึง เป็นทสี่ นใจของผู้ทต่ี อ้ งกำรซ้ือไปประดับ ตกแต่ง

ลลี ำวดี ชอ่ื อื่น ๆ ลัน่ ทม ชอ่ื สำมัญ Singapore plumeria, Frangipani, Plumeria, Pagoda tree, Temple tree ชอ่ื วทิ ยำศำสตร์ Plumeria obtusa L. วงศ์ APOCYNACEAE ถน่ิ กำเนดิ เมก็ ซิโก อเมริกำกลำง และอเมริกำใต้ ลกั ษณะท่วั ไป ไมพ้ ุ่มขนำดกลำง พมุ่ กลมเมอื่ อยู่ กลำงแจง้ ฤดกู ำรออกดอก ออกดอกตลอดปี เวลำท่ีดอกหอม หอมตลอดทง้ั กลำงวนั และ กลำงคนื ต้นลลี ำวดี หรอื ต้นลั่นทม ถอื วำ่ เป็นไมด้ อกกล่นิ หอมที่นยิ มปลูกกันมำกใน สวนท้ังในสวนสำธำรณะ หรือแมก้ ระทง่ั สวนใน บำ้ น ถึงแมว้ ่ำตำมตำรำควำมเชื่อจะบอกวำ่ \"ไม่ควรปลูก\" ไมด้ อกชนดิ นไ้ี ว้ในบ้ำนกต็ ำม เนอ่ื งจำกชอ่ื เดมิ คอื \"ล่นั ทม\" ไปพอ้ งกับคำว่ำ \"ระทม\" ซง่ึ แปลวำ่ เศร้ำโศก ทกุ ข์ใจ เป็นต้น แตท่ ง้ั นี้ ในปัจจุบนั ได้มีกำรเปลยี่ นชือ่ ใหม่ เปน็ \"ลลี ำวด\"ี ไมด้ อกชนดิ นี้ จึงเป็นตวั เลอื กหน่งึ ที่ เจ้ำของบำ้ น รวมไปถึงผู้ทีช่ ่ืนชอบไมด้ อกนิยม ปลูกกนั

ต้นลนั่ ทมเปน็ ไม้ยืนต้นขนำดกลำง เนือ้ ไมอ้ ่อน แตกกิง่ เป็นแฉกเป็นงำ่ มกระจำยออก ทำให้เกิดทรงพมุ่ ใหญ่ กิ่งเปรำะง่ำย ทงิ้ ใบในฤดแู ลง้ แลว้ ผลิดอก และใบรุน่ ใหม่ ในช่วงรำวเดือนเมษำยนเปน็ ต้นไป เรำจะได้ชมดอกล่นั ทมบำนเตม็ ตน้ ปรำศจำกใบ บัง สวยงำมมำก ใบลัน่ ทมโตเป็นรปู ใบหอก แข็งแรงมีสีเขยี วเข้ม ออกดอกเป็นชอ่ ถำ้ ตน้ สมบรู ณ์ดี ช่อหนึง่ จะมดี อกหลำยสิบดอกเปน็ กลมุ่ สวยงำมมำก มีกลบี ดอก 5 กลีบ มหี ลำยลกั ษณะ บำงชนิดกลบี เวยี นซอ้ นกัน บำงชนิดกลบี ดอกเรยี งกัน บำง ชนดิ ปลำยกลบี ดอกแหลม บำงชนดิ ปลำยกลบี ดอกมน มำกมำยหลำยสี บำงต้นอำจ มีดอกมสี ีเดียว

วำสนำ ชื่อวิทยำศำสตร์ Dracaena fragrans (L.) Ker-GawI. ชอ่ื สำมัญ Cape of Good Hope, Dracaena ชือ่ อ่นื ประเดหวี มังกรหยก (กรุงเทพฯ) วงศ์ AGAVACEAE ถนิ่ กำเนดิ เอธโิ อเปีย ไนจีเรีย กินี ฤดูกำรออกดอก ชว่ งฤดูหนำว ประมำณ เดือน พ.ย. - ม.ค. เวลำท่ีดอกหอม ชว่ งเย็นถึงมืด หรอื ชว่ งทมี่ ี อำกำศเย็น วำสนำจดั เปน็ ไม้พุ่มขนำดกลำงถงึ ขนำดใหญ่ ลำต้นสนี ำ้ ตำลอมเทำมีขนำดสูงรำว 5-10 เมตร แตกกิ่งเเขนง วำสนำเป็นตน้ ไม้ใบเด่ยี ว เรียงเวียนสลับถีท่ ป่ี ลำยยอด ปลำยใบมี ลกั ษณะแหลม โคนใบสอบเรยี ว ขอบใบเรยี บ แผน่ ใบค่อนข้ำงหนำมสี ีเขยี วหรอื ลำยสีเหลอื ง หรือสขี ำวอมเขยี วสลับตำมยำว หลำยพนั ธมุ์ ี ลำยขำวอมเขยี วลำยเหลอื งนวล ปลำยใบมักจะ ออ่ นโค้งลง ผิวเปน็ มนั ก้ำนใบเป็นกำบหมุ้ ลำต้น

ตอ้ ยต่งิ ตอ้ ยต่งิ (ชอื่ วทิ ยำศำสตร์: Ruellia tuberosa) เป็นพชื ล้มลุกขนำดเล็กเปน็ พืช ในวงศเ์ หงือกปลำหมอ เติบโตได้ดที ั้ง กลำงแจง้ และในรม่ ต้นเจริญเต็มท่ีสงู 6½ น้ิว ใบกลมรี ตำแตกยอดได้ส่ขี ำ้ ง ออกดอกสีมว่ งน้ำเงนิ เฉพำะตอนฤดูฝน เมือ่ ผสมเกสรแล้วจะใหเ้ มลด็ ประมำณ 25-32 เมลด็ อยู่ในฝกั เมอื่ ฝักแก่จะ กลำยเปน็ สีน้ำตำลหรอื สีดำ พอฝกั โดนนำ้ กจ็ ะแตกออกทำให้เมลด็ กระเดน็ ไปตกท่ี อื่น ซง่ึ เปน็ เทคนคิ ของกำรขยำยพันธุ์

รำกของต้อยตง่ิ สำมำรถใช้เปน็ ยำรักษำ โรคไต โรคไอกรน หรอื แม้แต่เป็นยำขับ เลอื ด ถำ้ ใช้ในปรมิ ำณทีเ่ จือจำงกส็ ำมำรถ กำจัดสำรพษิ ในเลอื ด บรรเทำอำกำร สำรพษิ ตกค้ำงในปสั สำวะ สว่ นใบของ ตอ้ ยต่งิ สำมำรถใชเ้ ปน็ ยำถำ่ ยพยำธิ หรือ ใชพ้ อกแกป้ วดเมือ่ ยกล้ำมเนอ้ื ได้ แต่ ตอ้ ยต่งิ มักจะถูกถอนทงิ้ เพรำะคนคิดว่ำ เปน็ วชั พืช

เขม็ เขม็ เปน็ ไม้พุ่มจัดอย่ใู นวงศ์ Rubiaceae ลกั ษณะของดอกจะเกิด จำกกำรอยรู่ วมกนั เปน็ ชอ่ ๆ มี หลำกหลำยสี มคี ณุ คำ่ ทำงสมุนไพร ดอกเขม็ ทยี่ งั ตูมสำมำรถนำมำชุบ แป้งหรือไข่ทอดทำนเปน็ อำหำรได้ คนไทยโบรำณเชอ่ื วำ่ บ้ำนใด ปลูกเขม็ ไวป้ ระจำบำ้ น จะทำให้มี ควำมฉลำดเฉียบแหลม เพรำะ เขม็ คือส่ิงทึมี่ คี วำมแหลมคม ดังน้ันคนไทยโบรำณจงึ ใชด้ อก เข็มในพธิ ีไหวค้ รเู พือ่ จะไดเ้ ปน็ นักปรำชญท์ มี่ ีสตปิ ัญญำฉลำด เฉียบแหลมนอกจำกนีย้ ังใชด้ อก เข็มเปน็ เครื่องบชู ำสิ่งศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ และพิธีทำงศำสนำได้เปน็ สิริ มงคลย่งิ นัก

เขม็ เปน็ พชื ทตี่ ้องกำรแสงแดดจดั ตอ้ งกำรปรมิ ำณนำ้ ปำนกลำง สำมำรถทนต่อควำมแห้ง แลง้ กำรใหน้ ้ำ 3-5 วนั /คร้ัง ชอบดินรว่ นซุย ดนิ รว่ นปนทรำย มีควำมชมุ่ ชืน้ ใสป่ ุ๋ยคอก หรือปุย๋ หมกั อตั รำ 0.5-1 กิโลกรมั /ตน้ ควรใส่ 5-6 คร้งั /ปี ขยำยพนั ธุ์โดยกำรปกั ชำ กำรเพำะเมลด็ กำรตอน วธิ ที ไี่ ดผ้ ลดีและนยิ มกัน คอื กำรปักชำและกำรตอน

รำชพฤกษ์ รำชพฤกษ์ หรอื คูน เปน็ พชื พน้ื เมอื งของ เอเชยี ใตต้ งั้ แต่ทำงตอนใตข้ องปำกีสถำน ไปจนถงึ อนิ เดีย พมำ่ และศรีลงั กำ ดอก รำชพฤกษเ์ ปน็ ดอกไม้ประจำชำตไิ ทย นยิ ม ปลกู เป็นไม้ประดบั ในพน้ื ทีเ่ ขตรอ้ นและกึ่ง เขตรอ้ น เจรญิ เติบโตไดด้ ีทส่ี ุดในท่โี ลง่ แจง้ สำมำรถปลูกไดท้ ้ังดินรว่ นซยุ ดนิ ร่วนปน ทรำย ดนิ ร่วนเหนียว ทนต่อควำมแหง้ แลง้ และดินเคม็ ได้ดี แต่ไม่ทนในอำกำศหนำว จดั ซง่ึ อำจตดิ เชื้อรำหรอื โรคใบจุดได้ ชอ่ื พฤกษศำสตร์ Cassia fistula Linn ช่อื วงศ์ FABACEAE วงศ์ยอ่ ย CAESALPINIODEAE ชอื่ ท้องถ่ิน ชยั พฤกษ์ รำชพริก คูน(ภำคกลำง), คนู (อสี ำน), ชยั พฤกษ์ ลกั เคย ลัก เกลอื (ใต้), ชัยพฤกษ์ คนู ลมแล้ง (ภำคเหนือ) ชื่อสำมัญ Golden Shower, Indian Laburnum, Pudding-pipe Tree ถ่ินกำเนดิ เอเชยี เขตรอ้ น แหลง่ ท่พี บ พบท่ัวไปในปำ่ เตง็ รัง ปำ่ ผสมผลดั ใบ

คนไทยในสมยั โบรำณเช่อื วำ่ ควรปลกู ตน้ รำชพฤกษท์ ำงทศิ ตะวนั ตกเฉยี ง ใต้ของทอ่ี ยู่อำศยั เพอื่ ใหผ้ ู้ท่อี ย่อู ำศัยในบำ้ นเรอื นมีควำมเจรญิ รงุ่ เรอื ง เป็นทวคี ณู ซงึ่ ควำมเป็นจริงคอื ทิศดงั กล่ำวจะไดร้ บั แดดจดั ตลอดช่วงบำ่ ย จงึ ควรปลกู ต้นไมใ้ หญเ่ พ่อื ให้ลดควำมรอ้ นและทำใหป้ ระหยดั พลังงำน มำกข้นึ

ผู้จดั ทำ นำยจิรวัฒน์ อวดห้ำว ชัน้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 5/2 เลขที่ 1 อีเมล: [email protected] นำยธนำดล วังทำ่ ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี 5/2 เลขท่ี 7 อเี มล: [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook