เทคโนโลยอี วกาศ Space Technology ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื่ การศกึ ษาพษิ ณโุ ลก
เทคโนโลยอี วกาศ (Space Technology) คือ การนาเคร่ืองมือทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการศึกษา ดาราศาสตร์และห้วงอวกาศท่ีอยู่นอกเหนืออาณาเขตของโลกอย่างเหมาะสม ทั้งเพ่ือการเรียนรู้และการทาความเข้าใจต่อจักรวาล ปรากฏการณ์ และ ดวงดาวต่าง ๆ รวมไปถึงการศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนานวัตกรรมและ เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่มนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นการสารวจ ทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างเครือข่ายติดต่อส่ือสาร หรือ การเตือนภัย พิบตั ติ า่ ง ๆ Jens Martensson 2
อวกาศ (Space) • บริเวณของท้องฟ้าที่อยู่สูงเหนือพ้ืนโลกในระดับน้าทะเลตั้งแต่ 100 กิโลเมตรข้ึนไป โดยมีขอบเขตของช้ันบรรยากาศกับอวกาศที่เรียกว่า “เสน้ คาร์มนั ” (Karman Line) ซ่ึงเป็นขอบเขตสมมติ (Imaginary Boundary) ที่ถูกกาหนดข้ึนจากการที่ชั้นบรรยากาศในบริเวณนี้ มี อากาศเบาบางมากจนไม่สามารถทาให้เกิดแรงที่เพียงพอสาหรับ การบินของเคร่ืองบินได้อีก อวกาศจึงเป็นเขตพ้ืนท่ีสุญญากาศที่ ประกอบไปด้วยฝุ่นผง ก๊าซ และโมเลกุลของสสารต่าง ๆ รวมไปถึง รั ง สี อี ก ม า ก ม า ย ท่ี ด า ร ง อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง วั ต ถุ ท้ อ ง ฟ้ า ต่ า ง ๆ (Astronomical Object) ในจกั รวาล Jens Martensson 3
เทคโนโลยีอวกาศทีส่ าคญั ประกอบดว้ ย ดาวเทียม (Satellite) : อุปกรณ์ท่ีถูกส่งขึ้นไปโคจรรอบโลกผ่านการติดต้ัง บนจรวดเพ่ือปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในด้านต่าง ๆ ท้ังการถ่ายภาพจาก ดาวเทียม ตรวจวัดสภาพอากาศ และการส่ือสารโทรคมนาคม โดยมี ดาวเทียมของสหภาพโซเวียต “สปุตนิก 1” (Sputnik 1) เป็นดาวเทียมดวง แรกของโลกท่ีถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในปี ค.ศ. 1957 จนกลายเป็นยุคบุกเบิกที่ นาไปส่กู ารแขง่ ขันทางความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทางอวกาศท่ีดาเนิน มาถงึ ปจั จุบนั Jens Martensson 4
เทคโนโลยอี วกาศที่สาคัญ • จรวด (Rocket) คือยานพาหนะท่ีเป็นส่วนประกอบสาคัญในการส่ง ดาวเทียมออกสู่อวกาศ ทาให้จรวดจาเป็นต้องมีเครื่องยนต์พลังสูงท่ีเพิ่ม ความเร็วและมีแรงขับเคลื่อนต่อการเอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกหรือที่ เรียกว่า “ความเร็วหลุดพ้น” (Escape Velocity) ซึ่งมีความเร็วอยู่ที่ 11.2 กิโลเมตรตอ่ วนิ าที Jens Martensson 5
เทคโนโลยอี วกาศที่สาคญั ยานขนสง่ อวกาศหรอื กระสวยอวกาศ (Space Shuttle) : ระบบยานพาหนะท่ี ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ส่งดาวเทียมหรือยานอวกาศแทนการใช้จรวด เนื่องจาก จรวดมีค่าใช้จ่ายสูง จึงทาให้ไม่สามารถนากลับมาใช้ใหม่ได้เหมือนยานขนส่ง อวกาศ Jens Martensson 6
เทคโนโลยีอวกาศทสี่ าคญั • สถานีอวกาศ (Space Station) : ส่ิงก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เคลื่อนท่ี โคจรรอบโลก ด้วยความเร็วกว่า 27,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เช่น สถานีอวกาศเมียร์ (Mir Space Station) ของรัสเซีย และสถานี อวกาศนานาชาติ (International Space Station) ที่ใช้เป็น ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในด้านต่าง ๆ ขณะลอยตัวอยู่เหนือ พน้ื โลกกวา่ 400 กิโลเมตร Jens Martensson 7
เทคโนโลยอี วกาศท่ีสาคัญ ยานสารวจอวกาศ (Spacecraft) คือยานพาหนะที่นามนุษย์และอุปกรณ์ อัตโนมัติออกสารวจอวกาศ โดยยานสารวจอวกาศสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. ยานอวกาศท่ีมีมนุษย์ควบคุม (Manned Spacecraft) เป็นยานขนาด ใหญ่ที่สามารถรองรับการใช้งานของมนุษย์ ขณะดารงชีวิตอยู่ในอวกาศ อย่างเช่น ยานอะพอลโล 11 (Apollo 11) ท่ีนามนุษย์ไปยังดวงจันทร์เป็น ครงั้ แรกในปี ค.ศ. 1969 Jens Martensson 8
เทคโนโลยีอวกาศทส่ี าคญั 2. ยานอวกาศทไ่ี มม่ มี นษุ ยค์ วบคมุ (Unmanned Spacecraft) เป็นยานขนาด เล็กท่ีมีระบบสมองกลทาหน้าที่ควบคุมการทางาน โดยยานอวกาศประเภทนี้ มักทาหน้าที่สารวจดาวเคราะห์และห้วงอวกาศอันห่างไกล เป็นการปฏิบัติ ภารกิจแทนมนุษย์ เนือ่ งจากเวลาที่ต้องใช้ในการเดนิ ทางอันยาวนานและปัจจัย ในการดารงชีวติ ในอวกาศทย่ี ากลาบาก เช่น ยานแคสสินี (Cassini) ที่เดินทาง ไปสารวจดาวเสาร์ ยานกาลิเลโอ (Galileo) ท่ีเดินทางไปสารวจดาวพฤหัสบดี และยานแมกเจลแลน (Magellan) ทีไ่ ปสารวจดาวศกุ ร์ Jens Martensson 9
ประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ • มนุษย์เฝ้ามองท้องฟ้า สังเกตดวงดาว และพยายามทาความเข้าใจต่อ ปรากฏการณ์และความลี้ลับเก่ียวกับห้วงอวกาศมาเน่ินนาน ทาให้เกิด การศึกษาดาราศาสตรแ์ ละการพฒั นาทั้งเครือ่ งไมเ้ ครอื่ งมือและเทคโนโลยี ต่าง ๆ เร่ือยมา จนกระทั่งในปัจจุบัน เทคโนโลยีอวกาศถูกนามาใช้ ประโยชน์เพื่อมนุษยชาติในหลากหลายด้าน เช่น การส่ือสารและ โทรคมนาคม การตรวจวัดและพยากรณ์อากาศ การสังเกตการณ์ ดาราศาสตร์ และ การสารวจทรพั ยากรธรรมชาติ Jens Martensson 10
ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ • การสื่อสารและโทรคมนาคม : ดาวเทียมสื่อสารทาหน้าท่ีเป็นสถานี รับส่งคลื่นวิทยุและเชื่อมโยงเครือข่ายการส่ือสารของโลก ไม่ว่าจะเป็น การสื่อสารภายในหรือภายนอกประเทศ ท้ังโทรศัพท์ โทรเลข โทรสาร รวมถึงการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ สัญญาณวิทยุ และการส่งข้อมูล ดจิ ิตอลต่าง ๆ • การตรวจวัดและพยากรณ์อากาศ : ดาวเทียมอตุ ุนิยมวิทยาทาหน้าท่ีส่ง สัญญาณภาพถ่ายทางอากาศพร้อมท้ังเก็บข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา เช่น การสารวจจานวนและชนิดของเมฆ และติดตามลักษณะอากาศท่ี แปรปรวน เพ่ือการพยากรณ์และเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ โดยเฉพาะการ เกดิ พายุที่รนุ แรง Jens Martensson 11
ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศ • การสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ : ดาวเทียมสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ และยานสารวจอวกาศส่วนใหญ่มีการติดต้ังกล้องโทรทรรศน์และอุปกรณ์ สาหรับการศึกษาวัตถุท้องฟ้า มีทั้งดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกและโคจร ผ่านไปใกล้ดาวเคราะห์ดวงอ่ืน รวมไปถึงการลงสารวจดาวเคราะห์ท่ี ตอ้ งการโดยตรง • การสารวจทรัพยากรธรรมชาติ : ดาวเทียมสารวจทรัพยากรธรรมชาติ เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการถ่ายภาพและโทรคมนาคม ซึ่ง จะใช้เป็นสถานีเคล่ือนท่ีในการสารวจแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่ สาคัญ รวมถึงการเฝ้าสังเกตการเปล่ียนแปลงบนพ้ืนผิวโลกและช่วยใน การเก็บข้อมูลทางธรณีวิทยาและนิเวศวิทยาที่เป็นประโยชน์ เช่น การ สารวจพื้นท่ีป่าไม้ การสารวจพ้ืนที่การเกษตรและการใช้ที่ดิน รวมไปถึง เพ่อื การอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติ Jens Martensson 12
Thank You แหล่งทีม่ า: https://ngthai.com/science/33270/space-technology/
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: