คำนำ ตลำดใต้โหนด เป็นตลำดภำยในชุมชนของ บ้ำนจันนำ ตำบลดอนทรำย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงจัดตั้งขึ้นเพ่ือเป็นตลำดนัดพ้ืนที่สีเขียว ท่ีสร้ำงรำยได้ให้กับ ชุมชน และสร้ำงควำมสุขและมิตรภำพให้กลับคืนสู่ท้องถิ่นอย่ำงยั่งยืนโดยมีท้ังผักสด ผลไม้สด อำหำรพืน้ เมืองและขนมพืน้ เมืองท่หี ำทำนได้ยำก รวมทั้งสินค้ำแฮนด์เมดอันเป็น เอกลักษณ์ โดยอยู่ภำยใต้คอนเซ็ปต์ กินดี มีสุข ซึ่งจะสอดคล้องไปกับวิถีชีวิตของชำวใต้ อย่ำงป่ำ นำ เล ได้อย่ำงสมบูรณ์ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตลำดใต้โหนด ประกอบไป ด้วย ควำมเป็นมำตลำดใต้โหนด ประวัติคุณกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ รำงวัลท่ีตลำดใต้ โหนดได้รับ รวมไปถึงอำหำรพื้นบ้ำน ผักปลอดสำรพิษของชำวบ้ำน มโนรำห์ และหนัง ตะลุง อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง ภำยในตลำดเต็มไปด้วยรอยย้ิมและเสียง หัวเรำะของนักท่องเที่ยว ทำให้ทุกคนประทับใจในกำรเดินทำงและเต็มที่ไปกับกำรเที่ยว แวะ ชมิ ชม สนิ คำ้ ภำยในตลำดใต้โหนด วำรสำรออนไลน์ (E-book) ) เพื่อกำรส่งเสริมกำรท่องเท่ียวเชิงเกษตร และอนุรักษ์วัฒนธรรม ตลำดใต้โหนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เล่มน้ีจัดทำขึ้นเพ่ือ ประชำสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว ตลำดใต้โหนด บ้ำนจันนำ ตำบลดอนทรำย อำเภอควน ขนุน จังหวัดพัทลุง ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกำสมำสัมผัส ตลำดใต้โหนด ของกิน ของใช้ งำนศลิ ปบ์ ้ำนบำ้ น ซึ่งเป็นแหลง่ ท่องเทีย่ วภำยในจังหวดั พัทลุง ตลำดใตโ้ หนด
สำรบัญ หน้ำ เรอื่ ง 1 2 ปก 3 คำนำ 4 สำรบญั 5 วถิ ีชวี ติ คนใต้ (พัทลงุ ) 6 ตลำดสเี ขยี วเทยี่ วเพลนิ 7 นโยบำยสำธำรณะ 10 ประวตั ิคุณ กนกพงศ์ สงสมพนั ธ์ุ 11 บ้ำนนกั เขียน 12 กำแฟบ้ำนนักเขยี น 14 หนังตะลุง 16 มโนรำห์ 17 งำนหตั ถกรรมทำมอื จำกวสั ดทุ อ้ งถิน่ 18 ดนตรเี ปิดหมวก 22 ข้ำวยำสมุนไพร 24 ข้ำวสังขห์ ยด 28 กลว้ ยปิง้ 30 ยำหนม 32 สำคไู สห้ มู 34 ขนมลกู โหนด 38 ตอกคง 39 ดนตรเี ปิดหมวก 40 แผนที่ ปกหลัง
วิถชี ีวติ คนใต้ (พัทลงุ ) 4
ตลำดสเี ขียว เทีย่ วเพลนิ ตลำดสเี ขียว เท่ียวเพลนิ @ ตลำดใต้โหนด พชื ผกั ปลอดสำรเคมี เกบ็ สดๆจำกชมุ ชน พบรอยยมิ้ มติ รไมตรจี ำกแมค่ ำ้ -พอ่ คำ้ ได้ทวั่ ไปท่ีหลำดใต้โหนด ภำชนะใสอ่ ำหำรแสนเก๋ วสั ดุจำกธรรมชำติ มมุ นงั่ กนิ อำหำรใตต้ น้ ไม้อนั รม่ รน่ื 5
1. คัดสรรฟื้นฟูภูมิปัญญำอำหำรพื้นบ้ำน เพื่อดูแลสุขภำพ กำย และใจ ของผู้ผลิต ผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่กำรปรับเปลี่ยน พฤติกรรมกำรกิน ลด หวำน มัน เค็ม และสำรปรงุ แตง่ ทเี่ กนิ จำเป็น 2. รักษำและฟ้ืนฟูภูมินิเวศ ป่ำ นำ เล แหล่งผลิตอำหำรของชุมชนให้ย่ังยืน ถึง ลูก หลำน เหลน… 3. ส่งเสริมและสืบสำนวิถีวัฒนธรรมภูมิ ปัญญำท้องถ่ิน แหล่งเศรษฐกิจพอเพียง และ สวัสดกิ ำรชุมชน 6
7
8
หลังกนกพงศ์จำกไป พน่ี ้องครอบครวั สงสมพันธุ์ นำโดย “เจน สงสมพนั ธุ์” (อดตี นำยกสมำคมนกั เขยี นแหง่ ประเทศไทย)และ“นยิ ุติ สงสมพนั ธ์ุ” ร่วมด้วยญำติ สนิทมิตรสหำย ได้ปรับเปลีย่ นบำ้ นทกี่ นกพงศเ์ คยอยอู่ ำศัยใหเ้ ป็น “บำ้ นนักเขยี น” เพอื่ เป็นแหล่งเรียนร้สู ำธำรณะและเปน็ สถำนท่อี บรมบม่ เพำะนสิ ยั รักกำรอำ่ นกำรเขียน ใหแ้ กเ่ ยำวชน รวมถงึ เปน็ สถำนทจ่ี ดั งำนรำลึกกำรจำกไปของกนกพงศใ์ นทกุ ๆปี 9
ำำนนนใกั ตเขยีโ้ หนนด @พัทลงุ 10
ร้ำนกำแฟ บ้ำนนักเขียน เปน็ ร้ำนกำแฟทอ่ี ย่พู นื้ บำ้ นนกั เขยี นช่อื ดงั กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ซง่ึ ได้รบั รำงวัลกวซี ไี รต์ ผลงำนเขยี นมำกมำยของเขำเปน็ ท่จี ดจำและระลกึ ถึง แมว้ ำ่ วันนเี้ ขำได้เสียชีวติ ไปแลว้ พี่ชำยของกนกพงศ์ ได้เปิดพื้นที่บ้ำน เป็นร้ำนกำแฟขนำดไม่ใหญ่มำกสร้ำงด้วยไม้ และวัสดุพื้นบ้ำนท้องถ่ิน เท่ำที่หำได้ และเปิดพ้ืนที่กำรเรียนรู้ ได้คนท่ีรักกนกพงศ์และงำนเขียน ของเขำได้เขำ้ มำอำ่ นหนังสอื เย่ียมเยยี นกัน ท่ีน่ีมี3อย่ำงที่ไม่มี คือ ไม่มีประตู ไม่มีกำแพง และไม่มีทีวี เป็นคำพูดเล่นๆของพี่นิยุติ พี่ชำยของกนกพงศ์นักกวีซีไรต์ เพรำะว่ำ อยำกเปดิ พ้นื ทีเ่ พื่อสำธำรณะด้วย 11
12
หนงั ตะลงุ คือ ศลิ ปะกำรแสดงประจำท้องถิ่น อย่ำงหนึ่งของภำคใต้ เปน็ กำรเลำ่ เร่ืองรำวท่ผี กู รอ้ ยเปน็ นิยำยดำเนนิ เรื่องดว้ ยบทร้อยกรองทขี่ บั ร้องเปน็ สำเนียงท้องถิ่น หรือทเ่ี รียกกันวำ่ กำร\"วำ่ บท\" มบี ทสนทนำ แทรก เป็นระยะ และใชก้ ำรแสดงเงำบน จอผำ้ เป็นสิ่งดงึ ดูดสำยตำของผู้ชม ซงึ่ กำรวำ่ บท กำรสนทนำและกำร แสดงเงำน้ี นำยหนังตะลงุ เปน็ คน แสดงเองท้งั หมด หนังตะลงุ เปน็ มหรสพท่ีนิยมแพรห่ ลำย อย่ำงยิ่งมำเป็นเวลำนำน โดยเฉพำะใน ยุคสมัยก่อนที่จะมีไฟฟ้ำใช้กันทั่วถึงทุก หมู่บ้ำนอย่ำงในปัจจุบัน หนังตะลุง แ ส ด ง ไ ด้ ทั้ ง ใ น ง ำ น บุ ญ แ ล ะ ง ำ น ศ พ ดังนั้นงำนวัด งำนศพ หรืองำนเฉลิม ฉลองที่สำคัญจึงมักมีหนังตะลุงมำแสดง ใหช้ มด้วยเสมอ 13
มโนรำห์ มโนรำห์ หรอื เรยี กโดยยอ่ วำ่ โนรำ เปน็ ชอ่ื ศลิ ปะกำรแสดงพืน้ เมอื งอย่ำงหนึง่ ของภำคใต้ มแี ม่บทท่ำรำอย่ำงเดียวกับละครชำตรี บทร้องเป็น กลอนสด ผู้ขบั ร้องต้องใช้ปฏภิ ำณไหวพริบ สรรหำคำ ให้สมั ผัสกนั ไดอ้ ยำ่ งฉับไว มคี วำมหมำยทงั้ บทร้อง ทำ่ รำและเครอ่ื งแตง่ กำยเครอื่ งดนตรปี ระกอบดว้ ย กลอง ทบั คู่ ฉง่ิ โหม่ง ปี่นอก หรอื ปีใ่ น และกรับ ปจั จบุ นั พฒั นำเอำเครอ่ื งดนตรีสำกลเข้ำรว่ ม ดว้ ย เดิมนยิ มใช้ผชู้ ำยลว้ นแสดง แตป่ จั จุบันมผี หู้ ญงิ เขำ้ ไปแสดงด้วย 14
โนรำห์โรงครูท่ำแค กำรจัดพธิ ีกรรมโนรำห์โรงครูวดั ทำ่ แค เร่มิ ตัง้ แตก่ ำรไหวพ้ ระภูมิโรงพิธี พระ แล้วเข้ำโรงในวันแรกซึ่งเปน็ วันพธุ ตอนเย็น จำกนั้นจึงทำพิธีเบกิ โรง ลงโรง กำศครู เชญิ ครู กรำบครู โนรำใหญร่ ำถวำยครู จับบทตงั้ เมอื ง กำรรำทั่วไป วันที่ สองซึง่ เป็นวันพฤหัสบดีถอื เป็นพธิ ใี หญ่ เร่มิ ตง้ั แต่ ลงโรง กำศโรง เชญิ ครู เอำผำ้ หุ้มตน้ โพธทิ์ ี่เช่ือกนั วำ่ เปน็ ทเ่ี ผำศพและฝังกระดูกของขนุ ศรีศรัทธำ เซ่นไหว้ครหู มอตำ ยำยโนรำทว่ั ไป รำถวำยครู กำรรำสอดเคร่อื งสอดกำไล ทำพธิ ีตดั จุก ทำพธิ คี รอบ เทรดิ หรือผูกผำ้ ใหญ่ พิธีแก้บนดว้ ยกำรรำถวำยครูและออกพรำน พิธีผกู ผ้ำปล่อย กำรรำท่ัวไปในเวลำกลำงคืน ส่วนวันที่สำม เร่ิมต้ังแตล่ งโรง กำศครู เชญิ ครู กำร รำท่ัวไป รำบทสิบสองเพลง สิบสองบท เหยยี บเสน ตดั ผมผีช่อ รำบทคลอ้ งหงส์ รำบทแทงเข้ รำสง่ ตำยำย เป็นอันเสรจ็ พิธี 15
งำนหัตถกรรมทำมอื จำกวสั ดุทอ้ งถ่นิ ศลิ ปะพืน้ บำ้ นก็มมี ำวำงขำยให้ เลือกกนั มำกมำย ในรำคำยอ่ มเยำ ทงั้ งำน สำนกระจูด แกะหนังตะลุง เคร่ืองดนตรี เสื้อผำ้ งำนไม้ เครอ่ื งประดบั 16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
ดนตรเี ปดิ หมวก ตลำดใต้โหนดมีพืน้ ท่ีเปดิ กว้ำงสำหรับศิลปินทุกวยั ที่มีดแี ล้วอยำกโชวข์ อง สำมำรถมำเลน่ ดนตรเี ปิดหมวกได้ 38
39
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: