Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายประเภท LAN

อุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายประเภท LAN

Published by 6032040014, 2018-08-14 03:29:05

Description: อุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายประเภท LAN

Search

Read the Text Version

อุปกรณ์สำหรบั เชื่อมตอ่ เครอื ขำ่ ยประเภท LAN6.1 สำย LAN สายแลน (Lan Cable)เป็นสายนาสญั ญาณทีใ่ ช้ต่อกับคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์เชื่อมต่อเครอื ขา่ ยอย่าง Switch หรือ Hub และสายแลนก็ใชต้ ่อกบั โมเด็มเราเตอรเ์ พื่อเช่ือมต่อสัญญาณอินเตอร์เนต็ ไดอ้ ีกดว้ ยการส่งขอ้ มูลระหวา่ งคอมพวิ เตอร์กบั คอมพวิ เตอร์โดยตรงกส็ ามารถท่ีจะใช้สายแลนในการเชอ่ื มตอ่ ไดเ้ ชน่ กนั การเลอื กซือ้ สายแลนน้ันเราควรเลอื กซ้ือให้เข้ากบั อุปกรณ์เช่ือมต่อ อาทิ Switch HUB ModemRouter โดยสว่ นใหญ่แลว้ อุปกรณเ์ หล่านจ้ี ะมอี ตั ราความเรว็ ในการโอนถา่ ยข้อมูลอยู่ทป่ี ระมาณ 10/100/1000Mbps ซึ่งสายแลนท่ีนิยมใชง้ านมากที่สุดจะเป็นสายแบบ UTP (UNSHIELD TWISTED PAIR) คอื สายตีเกลยี วทไ่ี ม่มตี ัวป้องกัน โดยสายแลนตอ้ งมกี ารเขา้ หัวต่อเพอื่ เชื่อมเข้าอุปกรณ์ ซ่ึงหวั นเี้ รยี กว่า RJ45 สำยแลนมีกี่ประเภท สายแลนแบง่ ออกไดเ้ ปน็ หลายประเภทขึน้ อยู่กบั ลักษณะของสายแลน 1.แบง่ ตามการใช้ภายนอกและภายในอาคาร โดยที่สายภายนอกอาคารจะมปี ลอกหมุ้ ทแ่ี ข็งกว่าและ หนากวา่ สายภายในเพ่อื ให้ทนต่อสภาพอากาศภายนอกอาคาร 2.แบ่งตามลักษณะการหุม้ ฉนวน มตี งั้ แตฉ่ นวนอย่างเดียวไมม่ ฟี อยล์ มีฟอยล์นอก และมฟี อยลห์ ุ้มทัง้ หมด 3. แบง่ ตามคณุ ภาพความถี่ท่ีรองรับได้– ประเภทที่หนง่ึ คือ UTP UTP CAT5 คอื สายแลน ทีเ่ ปน็ สายทองแดงทีม่ ีความเร็วทตี่ า่ ความเรว็ สงู สุดอยู่ที่100 Mbps สายชนิดน้ไี ม่เป็นทน่ี ยิ มใช้งานกนั ซกั เทา่ ไรเนอื่ งด้วยอความเรว็ ในการถา่ ยโอนขอ้ มลู ท่ีตา่– ประเภททส่ี อง UTP CAT5e คือ สายแลนที่เป็นสายทองแดงท่มี คี วามเรว็ ท่ีต่า ความเร็วสงู สุดอยู่ท่ี 1 Gpbs– ประเภทท่ีสาม UTP CAT6 คอื สายแลนทีเ่ ปน็ สายทองแดงทม่ี คี วามเร็วทต่ี ่า ความเรว็ สงู สดุ อยู่ท่ี 10 GpbsBANWIDTH อยู่ที่ 250MHz

– ประเภทท่ีสี่ UTP CAT7 คอื สายแลนที่เปน็ สายทองแดงที่มีความเร็วที่ตา่ ความเรว็ สงู สดุ อย่ทู ่ี 10 GpbsBANWIDTH อยู่ที่ 600MHz 4. แบ่งตามการเขา้ หวั ของสายแลนตามลกั ษณะการใช้งานสายแลน เปน็ สายนาสัญญาณทเ่ี ราควรเลอื กให้เหมาะกบั อุปกรณท์ เี่ ชื่อมต่อและการเข้าหวั ของสายแลนก็มีส่วนสาคัญอกี ส่วนหนึง่ ท่จี ะทาให้การเชื่อมต่อมีความเสถยี รภาพและการส่งขอ้ มลู ทล่ี น่ื ไหลมากยิง่ ขึ้น ทั้งนที้ ง้ั นั้นการเลือกใชง้ านสายแลนเรากค็ วรเลือกตามลักษณะงานท่ีเราจะใช้งานดว้ ยเชน่ กนั6.2 กำรด์ ทใ่ี ชใ้ นกำรเช่ือมตอ่ เครือข่ำย การ์ดเช่อื มต่อเครือขา่ ย (Network Interface Card) การ์ดเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายหรือที่เรียกกนั ทั่วไปวา่การด์ แลน (LAN Card) หรือใชต้ วั ยอ่ ว่า NIC (Network Interface Card) มีลกั ษณะเป็นแผ่นการ์ดเสียบอยู่บนแผ่นวงจรหลักของเคร่ืองโดยทาหนา้ ทีแ่ ปลงสัญญาณขอ้ มูลจากคอมพวิ เตอรเ์ ป็นสัญญาณทใี่ ช้ตดิ ตอ่ กนั ในเครือข่าย การด์ เครือข่ายท่ีใช้กันส่วนใหญจ่ ะเป็นแบบ PCI ซง่ึ จะเสยี บกับช่องเสียบแบบ PCI บนแผน่ เมนบอร์ด การด์ เช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ย หรอื เรยี กวา่ การด์ LAN เปน็ การด์ สาหรบั ต่อเครือ่ งพซี ี เขา้ กบั สายเคเบิล ดงั นั้นจงึ ตอ้ งมพี อรต์ สาหรับเสียบสายแบบใดแบบหนึ่งทจ่ี ะใช้ หรอื อาจมีพอร์ตสาหรบั สายหลายแบบก็ได้ เช่น มีพอรต์ สาหรับสายโคแอกเชยี ล และสาหรับสายคู่ตีเกลียว แต่สาหรับการ์ดรนุ่ ใหม่ๆ มักจะเหลือแตพ่ อร์ตสาหรับสายคู่ตเี กลยี วเพราะปัจจบุ นั กาลงั เปน็ ทีน่ ิยม นอกจากนย้ี งั มีการ์ดท่ที ามาสาหรบั ใช้ต่อกบั สายใยแกว้ นาแสงซึงมกั จะมีราคาแพงและใช้เฉพาะบางงาน การด์ LAN จะมสี ลอ็ ตที่ใช้อยู่ 2 ชนิดคอื ISA 8 และ 16 บิต การด์ แบบนีจ้ ะสามารถรับส่งข้อมลู กบั เคร่ืองพีซไี ดท้ ลี ะ 8 หรอื 16 บิตที่ความถ่ีประมาณ 8MHz เท่านนั้ โดยผา่ นบสั และสล็อตแบบ ISA ตัวอย่างเชน่ การ์ด NE1000 และ NE2000 ท่ีผลิตตามแบบของบรษิ ทั Novellเปน็ ตน้ ซ่งึ ความเร็วในการทางานจะต่ากว่าแบบ PCI ซึ่งในปจั จบุ นั แทบจะไมพ่ บแลว้ PCI 32 บิต เป็นการด์ ทีใ่ ช้อยทู่ ั่วไปในปัจจบุ ัน ซ่งึ สามารถรบั ส่งขอ้ มลู ได้ทลี ะ 32 บติ ผา่ นบสัแบบ PCI ดว้ ยความเรว็ สงู ถึง 33 MHz ปจั จุบันการ์ดแบบสลอ็ ต PCI ราคาลดลงมาก ทรานซีฟเวอร์ (transceiver) เป็นส่วนหนงึ่ ของการ์ด LAN โดยจะทาหนา้ ทแ่ี ปลงสัญญาณของคอมพิวเตอรเ์ ป็นสญั ญาณท่ใี ช้ในเครือขา่ ย ทรานซฟี เวอรร์ ุ่นเกา่ ๆ จะเชอ่ื มตอ่ กับสายเคเบลิ และ

การ์ด LAN แต่ในปจั จบุ นั จะนาทรานซฟี เวอรน์ ้ีบรรจุเขา้ ไปในตัวการด์ LAN เลย บนการด์ LAN บางแบบจะมที เ่ี สียบชปิ หนว่ ยความจา ROM เป็นซ็อคเกต็ ว่าง ๆ ท้ิงไว้ สาหรับใช้ในกรณีทตี่ อ้ งการให้เคร่ืองทีใ่ ช้การด์ นน้ั สามารถบูตจากหน่วยความจาของเครอื่ งทเี่ ปน็ เซริ ฟ์ เวอร์ในระบบ LAN ได้ ซงึ่ก็จะต้องมี ROM ท่ีมโี ปรแกรมพเิ ศษมาใส่ในซอ็ คเกต็ ว่างน้ี เรยี กวา่ เปน็ bootROM โดยโปรแกรมใน ROM6.3 อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในกำรเชื่อมโยง 1. กำร์ดเครือขำ่ ย (Network Interface Card) หรอื กำร์ดแลน หรอื อเี ทอร์เน็ตการ์ด ทาหน้าที่ในการเช่อื มต่อคอมพวิ เตอร์ทีใ่ ช้งานอยูเ่ ข้ากับระบบเครอื ขา่ ยได้ เช่น ในระบบแลนเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองในเครือขา่ ยจะต้องมีการ์ดเครือข่ายทเี่ ช่อื มโยงดว้ ยสายเคเบิลจงึ สามารถทาใหเ้ ครอ่ื งติดตอ่ เครือข่ายได้ 2. ฮับ (Hub) คอื อุปกรณท์ ีร่ วมสญั ญาณที่มาจากอุปกรณ์รบั ส่งหลาย ๆ สถานีเข้าดว้ ยกนั ฮับเปรยี บเสมอื นเปน็ บัสที่รวมอยู่ทจี่ ดุ เดียวกัน ฮับท่ใี ช้งานอยู่ภายใตม้ าตรฐานการรับ-สง่ แบบอีเทอร์เน็ต หรือIEEE802.3 ขอ้ มูลท่รี ับ-สง่ ผ่านฮับจากเครอ่ื งหนึ่งกระจายไปยงั ทุกสถานที ต่ี ดิ ต่ออยู่บนฮับนน้ั ดงั นน้ั ทุกสถานจี ะรับสญั ญาณข้อมูลท่ีกระจายมาไดท้ ั้งหมดแตจ่ ะเลอื กคัดลอกเฉพาะข้อมูลที่ส่งมาถงึ ตนเท่านนั้ การตรวจสอบขอ้ มลู จงึ ต้องดูท่ีแอดเดรส (address) ท่กี ากบั มาในกล่มุ ของขอ้ มลู หรอื แพ็กเกจ

3. สวิตช์ (Switch) คอื อปุ กรณ์รวมสัญญาณท่ีมาจากอุปกรณ์รับ-ส่งหลายสถานีเช่นเดยี วกบั ฮับ แต่มขี ้อแตกต่างจากฮบั คอื การรบั -สง่ ข้อมูลจากสถานีหรอื อุปกรณ์ตวั หนงึ่ จะไม่กระจายไปยงั ทกุ สถานีเหมือนฮับท้ังนีเ้ พราะสวิตชจ์ ะรบั กลมุ่ ขอ้ มูลหรอื แพก็ เกจมาตรวจสอบก่อน แลว้ ดวู า่ แอดเดรสของสถานหี ลายทางไปท่ีใดสวติ ชจ์ ะลดปัญหาการชนกันของขอ้ มูลเพราะ ไมต่ ้องกระจายขอ้ มูลไปทกุ สถานี และยังมีข้อดีในเร่ืองการปอ้ งกนั การดกั จบั ข้อมูลทก่ี ระจายไปในเครอื ขา่ ย 4. บริดจ์ (Bridge) คอื อุปกรณ์ทเ่ี หมาะสมกับเครอื ข่ายหลาย ๆ กลุ่มทเี่ ชื่อมตอ่ กันเนอื่ งจากสามารถแบง่ เครอื ข่ายท่เี ชอื่ มตอ่ กนั หลาย ๆ เซ็กเมนต์แยกออกจากกนั ได้ ทาให้ขอ้ มูลในแตล่ ะเซ็กเมนต์ไม่ตอ้ งวง่ิ ไปทั่วทั้งเครือข่าย กลา่ วคอื บริดจส์ ามารถอา่ นเฟรมขอ้ มลู ทสี่ ่งมาไดว้ า่ มาจากเครอื่ งในเซก็ เมนตใ์ ด จากนั้นจะทาการสง่ ขอ้ มูลไปยงั เครือ่ งซ่ึงอาจอยใู่ นเซ็กเมนต์เดียวกันหรือตา่ งเซก็ เมนตก์ ไ็ ด้ ซ่ึงความสามารถดงั กลา่ วทาใหช้ ่วยลดปัญหาความคับค่ังของขอ้ มลู ในระบบได้

5. รีพีตเตอร์ (Repeater) คอื อปุ กรณ์ทวนสญั ญาณเพ่ือใหส้ ามารถส่งข้อมลู ถงึ กันไดร้ ะยะไกลขน้ึคอื รีพตี เตอรจ์ ะปรับรปู แบบเดมิ เพ่ือได้สัญญาณสามารถส่งต่อไปไดอ้ ีก เชน่ การเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยแลนหลายๆ เซก็ เมนต์ ซึง่ ความยาวของแต่ละเซ็กเมนตน์ ้นั จะมีระยะทางที่จากัด ดังนน้ั อปุ กรณ์อย่างรพี ตี เตอร์จะชว่ ยแกไ้ ขปัญหาเหลา่ น้ไี ด้ 6. โมเดม็ (Modem) คือ อปุ กรณ์ทที่ าหนา้ ท่ีแปลงสญั ญาณคอมพิวเตอรใ์ หส้ ามารถเชอ่ื มคอมพวิ เตอร์ท่อี ยู่ระยะไกลเข้าหากนั ได้ดว้ ยการผ่านสายโทรศพั ท์ โดยโมเดม็ จะทาหนา้ ทีแ่ ปลงสัญญาณ ซึง่ แบง่ ออกเปน็ ทงั้ภาคส่งและภาครบั โดยภาคส่งจะทาการแปลงสัญญาณคอมพวิ เตอร์ให้เป็นสัญญาณโทรศพั ท์ (Digital toAnalog) ในขณะท่ภี าครบั นนั้ จะทาการแปลงสัญญาณโทรศัพทก์ ลับมาเป็นสญั ญาณคอมพิวเตอร์ (Analog toDigital) ดงั นน้ั ในการเชอื่ มตอ่ เครือข่ายระยะไกลๆ เชน่ อนิ เทอร์เน็ต จึงจาเป็นตอ้ งใช้โมเดม็ โดยโมเด็มมที ้ังแบบภายใน (Internal Modem) ที่มีลักษณะเป็นการด์ โมเด็มภายนอก (External Modem) ทีม่ ลี กั ษณะเปน็กลอ่ งแยกออกตา่ งหาก และรวมถงึ โมเดม็ ที่เป็น PCMCIA ทม่ี กั ใช้กบั เครอื่ งคอมพวิ เตอร์โนต้ บ๊คุ โมเดม็ ภำยนอกและภำยใน

7. เรำเตอร์ (Router) ในการเช่ือมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะตอ้ งมีการเชือ่ มโยงหลายๆ เครอื ข่ายหรืออุปกรณ์หลายอย่างเขา้ ด้วยกัน ดงั น้นั จึงมีเส้นทางเข้า - ออกของขอ้ มลู ไดห้ ลายเสน้ ทาง และแตล่ ะเส้นทางอาจใชเ้ ทคโนโลยเี ครอื ข่ายท่ีต่างกัน อปุ กรณ์จดั เสน้ ทางจะทาหนา้ ท่หี าเส้นทางท่ีเหมาะสมเพอ่ื ให้การสง่ ข้อมลู เปนไปอยา่ งมีประพสทิ ธภิ าพ การท่ีอปุ กรณ์จัดหาเสน้ ทางตอ้ งรับร้ตู าแหน่งและสามารถนาข้อมลู ออกเสน้ ทางได้ถูกต้องตามตาแหน่งแอดเดรสท่ีกากับอยเู่ ส้นทางนน้ั 8. เกตเวย์ (Gateway) คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยในการสื่อสารข้อมูล หน้าท่ีหลักของเกตเวย์คือ ช่วยทาให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่าย หรือมากกว่าที่มีลักษณะไม่เหมือนกัน คือ ลักษณะของการเช่ือต่อ (Connectivity) ของเครือข่ายที่แตกต่างกัน และมีโพรโตคอลสาหรับการส่ง - รับข้อมูลต่างกัน เช่นLAN เครือหนึ่งเป็นแบบ Ethernet และ โพรโตคอลแบบอะซิงโครนัส ส่วน LAN อีกเครือข่ายหน่ึงเป็นแบบToken Ring และใช้โพรโตคอลแบบซิงโครนัสเพื่อให้สามารถติดต่อกันได้เสมือนเป็นเครือข่ายเดียวกัน เพื่อกาจัดวงให้แคบลงมา เกตเวย์โดยท่ัวไปจะใช้เป็นเครื่องมือส่ง - รับข้อมูลกันระหว่าง LAN 2 เครือข่ายหรือLAN กับเคร่ืองคอมพิวเตอร์เมนเฟรม หรือระหว่าง LAN กับ WAN โดยผ่านเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะ เช่นX.25 แพก็ เกจสวติ ซ์ เครือข่าย ISDN เทเลก็ ซ์ หรอื เครือข่ายทางไกลอื่น

9. สำยสัญญำณ เป็นสายสาหรับเช่อื มตอ่ เครื่องคอมพิวเตอรต์ ่างๆในระบบเขา้ ด้วยกนั หากเปน็ระบบท่ีมจี านวนเครื่องมากกว่า 2 เคร่ืองก็จะต้องต่อผ่านฮับอกี ทีหน่งึ โดยสายสญั ญาณสาหรบั เช่อื มตอ่ เครือ่ งในระบบเครือขา่ ย จะมอี ยู่ 2 ประเภท คือ - สาย Coax มีลกั ษณะเปน็ สายกลม คลา้ ยสายโทรทศั น์ สว่ นมากจะเป็นสดี าสายชนดิ นจ้ี ะใชก้ บัการ์ด LAN ท่ใี ชค้ อนเน็กเตอรแ์ บบ BNC สามารถสง่ สญั ญาณไดไ้ กลประมาณ 200 เมตร สายประเภทนี้จะตอ้ งใชต้ วั T Connector สาหรบั เชื่อมต่อสายสัญญาณกับการด์ LAN ตา่ งๆในระบบ และตอ้ งใช้ตัวTerminator ขนาด 50 โอหม์ สาหรบั ปิดหวั และท้ายของสาย - สาย UTP (Unshied Twisted Pair) เปน็ สายสาหรับการ์ด LAN ทใ่ี ช้คอนเนก็ เตอร์แบบ RJ-45สามารถส่งสญั ญาณไดไ้ กลประมาณ 100 เมตร หากคณุ ใขส้ ายแบบนจ้ี ะต้องเลอื กประเภทของสายอกีโดยทัว่ ไปนิยมใช้กัน 2 รนุ่ คอื CAT 3 กบั CAT5 ซง่ึ แบบ CAT3 จะมีความเรว็ ในการสง่ สญั ญาณ10 Mbpsและแบบ CAT 5 จะมีความเร็วในการสง่ ข้อมูลท่ี 100 Mbps แนะนาว่าควรเลือกแบบ CAT 5 เพ่ือการอัพเกรดในภายหลงั จะไดไ้ ม่ต้องเดินสายใหม่ ในการใช้งานสายนี้ สาย 1 เสน้ จะต้องใชต้ ัว RJ - 45Connector จานวน 2 ตวั เพ่อื เปน็ ตวั เช่ือมต่อระหวา่ งสายสัญญาณจากการด์ LAN ไปยงั ฮับหรือเครอ่ื งอ่ืนเช่นเดยี วกบั สายโทรศัพท์ ในกรณเี ป็นการเชอ่ื มต่อเครอื่ ง 2 เครอ่ื งสามารถใช้ต่อผ่านสายเพียงเส้นเดยี ไดแ้ ต่ถ้ามากกว่า 2 เคร่อื ง กจ็ าเป็นต้องต่อผา่ นฮบั

6.4 เครอื่ งคอมพิวเตอรท์ ่ีใชใ้ นระบบเครือข่ำย เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) หมายถงึ ระบบการสือ่ สารระหวา่ งคอมพวิ เตอร์จานวนตั้งแตส่ องเครื่องข้นึ ไป และอุปกรณ์คอมพวิ เตอรต์ ่างๆ เพอื่ แลกเปล่ียนข้อมูลและสารสนเทศ รวมถงึ ใช้อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์รว่ มกัน คอมพวิ เตอร์แมข่ า่ ย ท่ที าหน้าที่เป็นผู้ใหบ้ ริการทรพั ยากร (Resources) ต่าง ๆ ซง่ึ ไดแ้ ก่ หน่วยประมวลผล หนว่ ยความจา หนว่ ยความจาสารอง ฐานขอ้ มูล และ โปรแกรมตา่ ง ๆ เปน็ ต้น ในระบบเครอื ขา่ ยทอ้ งถ่นิ (LAN) มักเรียกวา่ คอมพวิ เตอร์แมข่ า่ ย ในระบบเครือขา่ ยระยะไกล ทีใ่ ชเ้ มนเฟรมคอมพวิ เตอร์ หรือมนิ ิคอมพวิ เตอร์เปน็ ศูนยก์ ลางของเครือข่าย เรานยิ มเรียกวา่ Host Computer และเรียกเครอ่ื งที่รอรับบริการวา่ ลกู ข่ายหรือสถานีงาน6.5 ซอฟต์แวร์เครอื ข่ำย ซอฟต์แวรเ์ ครอื ขา่ ย Cisco (IOS, XE, XR และ NX-OS) เปน็ ซอฟตแ์ วรเ์ ครือข่ายทถ่ี ูกใช้อย่างแพร่หลายท่สี ดุ ในโลก ผสานรวมเทคโนโลยใี หม่ล่าสดุ บรกิ ารธุรกิจท่ีสาคญั และสนับสนุนแพลตฟอร์มฮารด์ แวรใ์ นวงกว้างระบบซอฟต์แวรเ์ ครอื ข่าย IOS ผสานรวมเทคโนโลยี บริการธรุ กจิ และสนับสนุนดา้ นฮารด์ แวร์ ลดค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงาน ปรบั ผลตอบแทนในการลงทนุ อย่างเหมาะสม ปรบั ปรงุ ประสิทธิผลทางธุรกจิ IOS XE สนับสนุนแพลตฟอรม์ ยคุ ใหม่ ใช้งานเสมือนระบบเด่ียวภายในระบบปฏิบตั ิการ Linux ที่ทนั สมยั แยกระบบขอ้ มลู และระบบควบคุมออกจากกัน การผสานรวมบริการเข้าดว้ ยกันท่ีปรับปรงุ แลว้

IOS XR มุ่งเน้นท่คี วามตอ้ งการของผใู้ ห้บริการ ออกแบบมาเพ่ือรองรับความตอ้ งการใชง้ านเครือขา่ ยแบบไดนามกิ สาหรบั การบริการ การกาหนดค่าแบบไดนามิกทีค่ วบคมุ โดยระบบได้อยา่ งยดื หยุ่น NX-OS โครงสรา้ งพน้ื ฐานศนู ยข์ อ้ มลู แบบโมดลู ควบคุมโดยระบบ และเปน็ แบบเปดิ การปรบั ศูนย์ข้อมูลทงั้ แบบกายภาพและเสมือนให้เหมาะสม การทางานของระบบต่อเนอ่ื งที่เชื่อถอื ได้สูงชว่ ยเพิม่ เวลาการใชง้ านใหเ้ หมาะสม6.6 โปรโตคอล โปรโตคอล คอื ขอ้ กาหนดหรือข้อตกลงในการส่ือสารระหวา่ งคอมพิวเตอร์ หรือภาษาสอ่ื สารที่ใช้เปน็ภาษากลางในการสอ่ื สารระหวา่ งคอมพวิ เตอรด์ ้วยกัน การทีเ่ คร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ่ีถกู เชื่อมโยงกนั ไวใ้ นระบบจะสามารถตดิ ตอ่ ส่ือสารกันไดน้ ้ัน จาเป็นจะต้องมีการสอ่ื สารทเ่ี รยี กวา่ โปรโตคอล (Protocol) เช่นเดียวกับคนเราทตี่ อ้ งมีภาษาพดู เพือ่ ใหส้ อ่ื สารเขา้ ใจกันได้ โปรโตคอลช่วยให้ระบบคอมพวิ เตอร์สองระบบ ที่แตกต่างกันสามารถสอ่ื สารกันอยา่ งเขา้ ใจได้ คือข้อตกลงทกี่ าหนดเก่ยี ว กับการส่อื สารระหวา่ งเคร่ืองคอมพิวเตอร์ตา่ งๆ ทั้งวธิ ีการสง่ และรบั ขอ้ มลู วิธกี ารตรวจสอบข้อผิดพลาดของการสง่ และรบั ข้อมูล การแสดงผลขอ้ มลู เม่อื สง่ และรบั กันระหวา่ งเครอื่ งสองเคร่ืองดังนั้นจะเห็นไดว้ า่ โปรโตคอลมคี วามสาคญั มากในการส่ือสารบนเครอื ข่าย หากไมม่ โี ปรโตคอลแลว้ การสื่อสารบนเครือขา่ ยจะไมส่ ามารถเกดิ ขึ้นได้ ตวั อย่ำงของโปรโตคอล 1. โปรโตคอล HTTP หรือ Hypertext Transfer Protocol จะใชเ้ มอ่ื เรียกโปรแกรมบราวเซอร์(Browser) 2. โปรโตคอล TCP/IP หรือ Transfer Control Protocol/Internet Protocolคอื เครือข่ายโปรโตคอลท่ีสาคญั มากทสี่ ดุ เน่ืองจากเปน็ โปรโตคอลท่ใี ช้ในระบบเครือข่าย Internet รวมทง้ั Intranet ซึ่งประกอบดว้ ย 2 โปรโตคอลคอื TCP และ IP 3. โปรโตคอล SMTP หรือ Simple Mail Transfer Protocol คอื โปรโตคอล ที่ใชใ้ นการรับส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกสบ์ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต6.7 โมเด็ม โมเด็ม (Modem) มาจากคาวา่ MOdulator/DEModulator โดยแยกการทางานออกเปน็ Modulation เป็นอปุ กรณ์ทที่ าหนา้ ท่ีแปลงสญั ญาณ คอมพวิ เตอร์ให้สามารถเชื่อมต่อกับคอมพวิ เตอร์ทอ่ี ย่รู ะยะไกลเขา้ หากนั ไดโ้ ดย การผ่านสายโทรศพั ท์ โดยโมเดม็ ทาหนา้ ทแี่ ปลงสญั ญาณ ซงึ่ แบ่ง

ออกเป็นภาคส่ง และภาครับ ซึ่งภาคส่งจะทาการแปลงสญั ญาณคอมพิวเตอร์ (Digital)ใหเ้ ปน็ สญั ญาณโทรศัพท์(Analog) ในขณะท่ีภาครับนนั้ จะทาการแปลงสญั ญาณโทรศัพท์(Analog)กลบั มาเป็นสญั ญาณ คอมพวิ เตอร์(Digital) ดงั นั้นในการเช่อื มต่อเครือขา่ ยระยะไกลๆ เชน่ อินเทอร์เนต็ มีความจาเป็นตอ้ งใชโ้ มเดม็ โดยโมเด็มนน้ั มีทัง้ แบบภายใน (Internal Modem) ทม่ี ีลักษณะเป็นแบบการด์ , โมเดม็ ภายนอก (External Modem) ท่ีมลี ักษณะเป็นแบบกลอ่ งแยกออกต่างหาก และโมเดม็ ที่เปน็ แบบPCMCIA ทจ่ี ะใชก้ บั เครื่องคอมพวิ เตอร์โน้ตบุ๊ค นอกจากนี้ กย็ ังมีระบบปฏบิ ัติการเครอื ข่าย (Network Operating System) เปน็ ซอฟตแ์ วรท์ ส่ี าคญัตวั หน่ึงในการทาท้ังเครอ่ื งศูนยบ์ ริการและเครอื่ งลูก ข่ายสามารถตดิ ต่อสอ่ื สารถงึ กันได้ รวมทง้ั การจดั การทรัพยากรและดา้ นต่างๆ ให้สามารถใชร้ ่วมกนั ได้ มกี ารควบคุมระบบความปลอดภยั บนเครือข่ายอีกด้วย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook