คำรำชำศพั ท์ อาจารยว์ รรณนิสา ปานพรม อาจารย์ประจาสาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั หมู่บ้านจอมบงึ
กำรใชร้ ำชำศพั ท์ ม.ล.ปยี ์ มาลากลุ (๒๕๒๖, หนา้ ๖) ได้อธบิ ายลาดบั ชน้ั ของบุคคลทีใ่ ช้คาราชาศพั ทท์ งั้ ๕ กลุ่ม พระภิกษสุ งฆใ์ น พระมหำกษตั รยิ ์ ศำสนำพุทธ นักบวช เจ้ำนำย ในศำสนำอน่ื และเทพเจำ้ ตำ่ ง ๆ พระบรมวงศำนวุ งศ์ สุภำพชน ขนุ นำงหรอื ข้ำรำชกำรทว่ั ไป
คำที่ตอ้ งแตง่ ให้เปน็ คำรำชำศพั ท์ ๑. คาอา้ งถงึ ๒. คาขน้ึ ตน้ และคาลงทา้ ย ๓. คาสรรพนาม ๔. คานาม ๕. คากรยิ า
คำที่ต้องแต่งใหเ้ ป็นคำรำชำศัพท์ พระปรมาภิไธย และพระนามาภไิ ธย แบบเตม็ คาอ้างถงึ แบบยอ่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดศี รีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั มหิศรภมู พิ ลราชวรางกรู กติ ิสิริสมบรู ณอดลุ ยเดช สยามินทราธิเบ ศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั สมเด็จพระนางเจ้าสุทดิ าพชั รสุธาพมิ ลลกั ษณ พระบรมราชินี สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช พระบาทสมเด็จ พระมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร บรมนาถบพิตร ๑. คาอ้างถงึ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนพี ัน สมเด็จพระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง ปีหลวง สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา เจ้าฟ้า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรม มหาจกั รีสริ ินธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ กิ ิจการณิ พี รี ยพัฒน ราชกมุ ารี รัฐสมี าคณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกมุ ารี สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟา้ พัชรกติ ยิ าภา นเรนทิราเทพยวดี กรม สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ ฯ กรมหลวงราชสารณิ ีสิรพิ ชั ร มหาวชั รราชธิดา หลวงราชสาริณสี ิรพิ ชั ร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟ้าสิรวิ ณั ณวรี นารีรตั นราชกัญญา สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ วิ ณั ณวรฯี
คำท่ีตอ้ งแตง่ ให้เป็นคำรำชำศพั ท์ พระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย แบบเตม็ คาอ้างถึง แบบยอ่ สมเด็จพระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟ้าทีปังกรรศั มีโชติ มหาวชิ สมเด็จพระเจา้ ลูกยาเธอ เจา้ ฟา้ ทปี ังกรรัศมีโชติ ฯ โรตตมางกูร สิริวิบลู ยราชกุมาร สมเดจ็ พระเจา้ น้องนางเธอ เจา้ ฟ้าจฬุ าภรณวลัยลักษณ์ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรสี วางควฒั นวรขตั ตยิ ราชนารี ๑. คาอา้ งถึง อคั รราชกมุ ารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตตยิ ราชนารี พระเจา้ วรวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ โสมสวลี กรมหมืน่ สุทธ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอฯ กรมหม่นื สทุ ธนารีนาถ นารีนาถ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้า สริ ิภาจฑุ าภรณ์ พระองค์เจ้าสิรภิ าจุฑาภรณ์ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ อทติ ยาทรกติ คิ ุณ พระองค์เจ้าอทติ ยาทรกติ คิ ณุ
คำทตี่ อ้ งแตง่ ให้เปน็ คำรำชำศพั ท์ ๒. คาข้นึ ตน้ และคาลงทา้ ย คาขึ้นต้น หมายถงึ คากลา่ วเร่ิมเมือ่ ตอ้ งการกราบบังคมทูลหรอื กราบทลู พระราชาวงศ์ดว้ ยวาจา หรือเมอื่ ต้องการเขยี นหนงั สอื ถงึ คาลงทา้ ย หมายถึง คากลา่ วต่อจากข้อความทไ่ี ด้กราบบังคมทูล หรือกราบทูลแล้ว ถา้ เป็นการกราบบังคมทลู หรือกราบทูลดว้ ย หนงั สอื คาลงทา้ ยจะเขียนขน้ึ บรรทัดใหมอ่ ยูต่ ่อจากขอ้ ความ และผ้กู ราบบงั คมทูลลงชอ่ื ตอ่ ท้ายอกี ทหี นง่ึ (ดตู ัวอยา่ ง หน้า ๑๕๙)
คำทตี่ อ้ งแตง่ ใหเ้ ป็นคำรำชำศพั ท์ เมือ่ เรากลา่ วถึง สรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๑ สรรพนามบุรุษที่ ๒ สรรพนามบรุ ุษท่ี ๓ -พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ข้าพระพทุ ธเจ้า ใตฝ้ า่ ละอองธลุ พี ระบาท พระองค์ -สมเด็จพระบรมราชนิ ี -พระบาทสมเด็จพระบรมชน ข้าพระพทุ ธเจ้า ใตฝ้ า่ ละอองธลุ พี ระบาท พระองค์ กาธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลย ๓. คาสรรพนาม เดชมหาราช บรมนาถบพติ ร -สมเด็จพระบรมราชชนนพี นั ปี หลวง (ดตู ัวอย่างเพ่มิ เตมิ หนา้ ๑๖๔)
คำที่ตอ้ งแตง่ ใหเ้ ป็นคำรำชำศัพท์ ๔. คานาม คานามราชาศัพท์ คือ คาราชาศพั ทท์ ใ่ี ชเ้ รยี กชอ่ื สิ่งของ ตา่ ง ๆ คานามราชาศพั ทท์ ใ่ี ชก้ นั อยูน่ ี้ ส่วนใหญเ่ ปน็ คา ทมี่ าจากภาษาเขมร ภาษาบาลแี ละสนั สกฤต และคานาม ราชาศพั ทบ์ างคาก็ใชค้ านามสามญั เปลี่ยนแปลงใหแ้ ปลก กว่าธรรมดาเพอื่ ใชส้ าหรบั พระมหากษตั รยิ แ์ ละเจา้ นาย
ข้อสังเกตเก่ยี วกบั คำนำมรำชำศพั ท์ ลกู หลวง พระทน่ี งั่ หลำน ถา้ คานามสามัญน้นั เปน็ คาไทยแท้ทใี่ ชเ้ กี่ยวข้องกับพระมหากษัตรยิ ์หรอื อนนั ต หลวง พระราชินีในฐานะท่เี ป็นเครือญาติ ยวดยาน สัตว์ พาหนะ หรอื สถานที่ สมำคม ให้ใช้คาว่า “หลวง” “พระท่ีนง่ั ” หรือ “ตน้ ” ตอ่ ทา้ ยคานามน้นั หลวง/ พระท่นี ั่ง/ ถา้ คานามสามญั น้ันเปน็ คาไทยทใี่ ชเ้ กีย่ วขอ้ งกบั เชื้อพระวงศห์ รือเจ้านาย ต้น ให้ใช้คาว่า “ทรง” “ทีน่ ่ัง” ประกอบท้ายคานามนน้ั เฉพาะคาว่า “รถ” หรอื “เรือ” พระทน่ี ง่ั เรอื ตน้ วมิ ำน เมฆ พระเนตร ช้ำงตน้ พระบรม ถ้าคานามสามญั นั้นเป็นคาท่มี าจากภาษาบาลสี นั สกฤต แตน่ ามาใช้ เดชำนภุ ำพ พระขนง เกี่ยวกับพระมหากษตั ริยห์ รือเช้อื พระวงศ์ เป็นชื่อของกริยาอาการและ พระ/พระ ความเป็นไปได้ เครือญาติ บริวาร เคร่อื งใช้ ให้ใชค้ าว่า “พระ” รำช/พระ ถ้าคานามสามญั นน้ั เป็นคาที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤตซงึ่ นามาใช้เก่ียวกบั บรมรำช พระมหากษตั ริย์โดยเฉพาะให้ใชค้ าวา่ “พระราช” พระบรม พระรำช ถา้ คานามสามญั นัน้ เป็นคาทีม่ าจากภาษาบาลีสนั สกฤตแต่นามาใช้เกย่ี วกับ รำชำภเิ ษก ชนนี พระมหากษัตรยิ ์และพระพุทธเจ้า เพ่ือแสดงพระเกียรติอนั ยงิ่ ใหญ่เหนอื พระรำชวงั คนอืน่ ให้ใช้คาว่า “พระบรม”
“คำ ถ ำ ม ช ว น คิ ด” พระบรมเดชำนภุ ำพ สงิ่ สำคัญ ของKing พระปรมำภไิ ธย/พระบรม พระบรมมหำรำชวัง นำมำภิไธย
คำทต่ี อ้ งแต่งใหเ้ ปน็ คำรำชำศัพท์ ๕. คากรยิ า คาศัพท์ คาแปล ตรสั พดู โปรด ชอบ ประทาน ให้ กริ้ว โกรธ เสดจ็ คาศัพท์ ไป , มา ทอดพระเนตร คาแปล แยม้ พระสรวล ประชวรพระยอด ดู ประทับ ย้ิม เสวย เปน็ ฝี นั่ง กนิ
ขอ้ สงั เกตเกย่ี วกบั คำกรยิ ำรำชำศัพท์ กำรใชค้ ำวำ่ ทรง คากริยา กลุ่มคากรยิ า (กรยิ าวลี) เมอ่ื จะทาให้เปน็ คาราชาศัพท์ จะใช้ ทรง นาหนา้ รถ ศีล มำ้ เม่อื ใช้ ทรง นาหน้าคากริยา หรือ กลุ่มคากรยิ าแล้ว ทรง จะมี ความหมายตามคากรยิ าทอ่ี ยู่ขา้ งหลงั เชน่ ทรงฟัง หมายถงึ ฟัง ทรง กรยิ าใดท่ีเป็นคาราชาศัพทอ์ ย่แู ล้ว จะใช้คา ทรง นาหน้าอกี ไม่ได้ สกี บำตร เชน่ บรรทม แปลวา่ นอน จะใช้ ทรงบรรทม ไมไ่ ด้ รำชย์ คาราชาศพั ทท์ เี่ ปน็ นามเมอ่ื ต้องการใหเ้ ป็นคากริยาราชาศพั ท์ให้ ทรง นาหนา้ คาราชาศพั ท์ทเ่ี ป็นคานามนัน้ เชน่ พระกรุณา เป็น ทรงพระกรณุ า หมายถงึ มคี วามกรุณาหรอื กรุณา
ขอ้ สงั เกตเกยี่ วกบั คำรำชำศพั ท์ กำรใชค้ ำวำ่ เสดจ็ เสดจ็ พระราชดาเนนิ น้ี ต้องเตมิ คาอะไรไว้ข้างหลงั พระรำช ไป ต่ำงประเทศ คา เสด็จพระดาเนิน ไม่มีใช้ในราชาศพั ท์ (มีแต่ ทรงพระดาเนิน หมายถงึ เดนิ ) เสดจ็ ดำเนนิ ในสมัยกอ่ น คา เสดจ็ ใช้หมายถงึ พระเจ้าแผน่ ดิน เจ้านาย หรือพระราชวงศไ์ ด้ดว้ ย เช่น คาทีว่ ่า รบั เสด็จ สง่ เสดจ็ ตาม ความหมายเดมิ ในภาษาเขมร ปจั จบุ นั ถา้ สง่ หรอื รบั พระเจา้ แผน่ ดนิ เจา้ นายและพระบรมวงศ์ ชน้ั สงู อยา่ งเป็นทางราชการ ใช้วา่ สง่ เสด็จพระราชดาเนิน รบั เสด็จพระราชดาเนนิ พระราชวงศ์ชนั้ รองลงมาจงึ ใช้ สง่ เสด็จ รับเสด็จ
สรุปคำกรยิ ำรำชำศพั ท์ ใช้ทรงนาหน้าคานามสามัญให้เปน็ คากรยิ าราชาศพั ทไ์ ด้ เชน่ ทรงม้า ทรงรถ ทรงเครอ่ื งบิน ฯลฯ ใช้ทรงนาหนา้ ราชาศัพท์ ใหเ้ ป็นคากรยิ าราชาศัพท์ได้ เช่น ทรงพระ ราชนิพนธ์ ทรงพระอักษร ใช้ทรงนาหนา้ คากรยิ าสามญั ใหเ้ ปน็ คากริยาราชาศัพท์ ได้ เชน่ ทรง ระลกึ ถงึ ทรงดาเนิน ทรงยืน ทรงวิง่ ฯลฯ ห้ามใชท้ รงนาหน้าคากรยิ าทเ่ี ป็นราชาศพั ท์ เช่น ตรสั โปรด ประทาน กรว้ิ เสดจ็ ประชวร ประทบั ประสตู ิ เสวย
“คำ ถ ำ ม ช ว น คิ ด”
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: