Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PP สอบจบ

PP สอบจบ

Published by kufkift, 2016-12-20 04:35:24

Description: เอกสารสอบจบ

Search

Read the Text Version

ปัจจยั ทานายพฤตกิ รรมสุขภาพของผู้ป่ วยท่ีได้รับการใส่เคร่ืองกระตุ้นหวั ใจแบบถาวร PREDICTING FACTORS OF HEALTH BEHAVIOR IN PATIENTS WITH CARDIAC PERMANENT PACEMAKER เสนอโดย นางสาวทพิ นันท์ ปันคา สาขาวชิ าการพยาบาลศาสตร์ แขนงวชิ าการพยาบาลผู้ใหญ่ อาจารย์ท่ปี รึกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นรลักขณ์ เออื้ กิจ

ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหาภาวะหัวใจเต้นช้าผิดจงั หวะชนิดช้ามาก (bradyarrhythmia)เป็ นปัญหาสุขภาพท่ีสาคัญท่ีอาจเป็ นอันตรายถงึ แก่ชีวติ ได้การใส่เคร่ืองกระตุ้นหัวใจแบบถาวร (permanentpacemaker) เป็ นแนวทางการรักษาในรายท่ีมีอาการของโรครุนแรงได้ทนั เวลาและรวดเร็วท่ีสุด ทาให้ผู้ป่ วยสามารถดารงชีวติ ได้อย่างปกตสิ ุข และมีคุณภาพชีวติ ท่ดี ขี นึ้ จากอุบตั กิ ารณ์ทัง้ ในและต่างประเทศ พบว่าจานวนผู้ป่ วยมีแนวโน้มเพ่มิ มากขนึ้

 ท่ีมา : Mond HG และคณะ (2012)

จากการทบทวนวรรณกรรมพบว่าผู้ป่ วยมีปัญหาพฤตกิ รรมสุขภาพ ท่ีไม่เหมาะสมภายหลังการใส่เคร่ืองกระต้นุ หวั ใจแบบถาวรเกดิ ข้อจากดั ในการเข้าสังคม ข้อห้ามในการปฏบิ ัตกิ จิ วัตรประจาวัน สภาพจติ ใจและอารมณ์มีการเปล่ียนแปลง ส่งผลให้ผู้ป่ วยเกดิ ภาวะแทรกซ้อนและผลกระทบตามมา จาเป็ นต้องมกี ารปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมสุขภาพใหม่ให้เหมาะสม

วตั ถุประสงค์ การวิจัย เพ่ือศกึ ษาพฤตกิ รรมสุขภาพของผู้ป่ วยท่ไี ด้รับการใส่ เคร่ืองกระตุ้นหัวใจแบบถาวร เพ่ือศึกษาความสัมพนั ธ์และอานาจทานายระหว่าง ปัจจยั นา ได้แก่ ความรู้ อัตมโนทัศน์ และความรู้สกึ มีคุณค่าในตนเอง ปัจจัยเสริม ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม และ ปัจจัยเอือ้ ได้แก่ การเข้าถงึ บริการของสถานบริการสุขภาพ กับพฤตกิ รรมสุขภาพ ของผู้ป่ วยท่ีได้รับการใส่เคร่ืองกระตุ้นหวั ใจแบบถาวร

จากการทบทวนวรรณกรรมงานวจิ ัยทัง้ ในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็ นงานวจิ ัยเชงิ คุณภาพท่ีศึกษาคุณภาพชีวติ และประสบการณ์การดารงชีวติ แบบจาลอง PRECEDE ของ Green & Kreuter (2005) ประยุกต์ขัน้ ตอนท่ี 4 การวเิ คราะห์ผลการศึกษาและองค์กรซ่งึ เป็ นการวเิ คราะห์ปัจจัย และส่งิ แวดล้อมท่ีมีผลกระทบต่อพฤตกิ รรมสุขภาพปัจจัยท่ีสัมพันธ์กับพฤตกิ รรมสุขภาพ ได้มาจากการทบทวนวรรณกรรมร่วมกับ การศกึ ษาตามกรอบแนวคดิ แบบจาลอง

แบบจาลอง PRECEDE (GREEN & KREUTER,2005)

ความรู้ ปัจจยั นาอัตมโนทัศน์ แพรวระพี เรืองเดช (2534) (r = .38) Thanavaro และคณะ(2006) (β = .26) Smits & Kee (1992) (r = .60) แพรวระพี เรืองเดช (2534) (r = .66 )ความรู้สึกมีคุณค่า Kristjánsson และคณะ (2010) ในตนเอง กตั ตกิ า ธนะขว้าง, จิราพร เกศพิชญวฒั นาและ ชนกพร จติ ปัญญา (2553) (r = .55)

ปัจจัยเสริมการสนับสนุนทางสังคม แพรวระพี เรืองเดช (2534) (r = .59) Graven & Grant (2014) ปั จจัยเออื ้การเข้าถงึ บริการของสถานบริการสุขภาพรัศมี ลือฉาย (2553 (r = .51) ปฐญาภรณ์ ลาลนุ และคณะ(2554) (r = .309)

กรอบแนวคดิ การวจิ ยัปัจจัยนา- ความรู้- อตั มโนทศั น์- ความรู้สกึ มีคณุ คา่ ในตนเอง(Green & Kreuter, 2005)ปัจจัยเสริม พฤตกิ รรมสุขภาพ- การสนบั สนนุ ทางสงั คม(Green & Kreuter, 2005) (Green & Kreuter, 2005)ปัจจยั เอือ้- การเข้าถงึ บริการของสถานบริการสขุ ภาพ(Green & Kreuter, 2005))

สมมุตฐิ านการวจิ ยั• ความรู้ อัตมโนทัศน์ ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง การสนับสนุนทางสังคม และการเข้าถงึ บริการของสถานบริการสุขภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกกับ พฤตกิ รรมสุขภาพของผู้ป่ วยท่ไี ด้รับการใส่เคร่ืองกระตุ้นหวั ใจแบบถาวร• ความรู้ อัตมโนทศั น์ ความรู้สกึ มีคุณค่าในตนเอง การสนับสนุนทางสังคม และการเข้าถงึ บริการของสถานบริการสุขภาพ สามารถร่วมกันทานาย พฤตกิ รรมสุขภาพของผู้ป่ วยท่ีได้รับการใส่เคร่ืองกระตุ้นหวั ใจแบบถาวร

ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ เพ่อื ส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัตพิ ฤตกิ รรมสุขภาพ ท่ถี ูกต้องและเหมาะสมกบั ผู้ป่ วย เป็ นแนวทางในการนาข้อมูลไปพฒั นาโปรแกรม การส่งเสริมพฤตกิ รรมสุขภาพ

วธิ ีดาเนินการวิจัยการวจิ ัยเชิงทานาย(Predictive research)กลุ่มตัวอย่าง คือ เกณฑ์การคัดเข้าศกึ ษา คือผ้ปู ่ วยเพศชายและหญิงอายุ 1) ได้รับการใสเ่ คร่ืองกระต้นุ หวั ใจแบบถาวร18 – 59 ปี ท่ีได้รับการรักษา 2) ไมม่ ีประวตั ิการเจบ็ ป่ วยด้วยโรคทางจิตเวชโดยการใสเ่ คร่ืองกระต้นุ 3) เข้าใจและสามารถสอ่ื สารด้วยภาษาไทยหวั ใจแบบถาวร เข้ารับ 4) เป็นผ้ปู ่ วยท่ีดแู ลตนเองได้ ไมม่ ีภาวะอนั ตรายของโรคบริการแผนกผ้ปู ่ วยนอก 5) ยินดีเข้าร่วมการวิจยัคลนิ ิกเครื่องกระต้นุ หวั ใจ 6) ไมไ่ ด้รับการใส่ AICD หรือ CRT

กาหนดขนาดของ ใช้โปรแกรม G*Power กลุ่มตวั อย่าง (นงลักษณ์ วิรัชชัย, 2555)เพ่มิ ขนาดกลุ่มตัวอย่าง - กาหนดระดบั นัยสาคัญทางสถติ ทิ ่ี .05 อีกร้อยละ 10 - กาหนดอานาจทดสอบท่ีร้อยละ 90 - กาหนดขนาดอทิ ธิพลเท่ากับ .15 (De Leeuw, Hox & Dillman, 2008)ได้กลุ่มตวั อย่างทงั้ สิน้ 128 คน

การสุ่มกลุ่มตวั อย่างแบบหลายขัน้ ตอน (Multi-stage sampling)ขัน้ ตอนท่ี 1 แบ่งโรงพยาบาลสังกัดรัฐบาล 1. กระทรวงกลาโหม ได้ทัง้ หมด 6 สังกัด 2. กระทรวงสาธารณสขุ 3. สภากาชาดไทย ขัน้ ตอนท่ี 2 สุ่มสังกดั ด้วยวธิ ีจับฉลากไม่ แทนท่ี ได้ทัง้ หมด 3 สังกดั 1. โรงพยาบาลราชวิถี 2. โรงพยาบาลภมู พิ ลขัน้ ตอนท่ี 3 สุ่มโรงพยาบาล สังกดั ละ 1 รพ. 3. โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ ได้ทัง้ หมด 3 รพ.ขัน้ ตอนท่ี 4 เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบ สารวจรายช่ือและเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) ตรวจสอบคณุ สมบตั ิตาม เกณฑ์จากเวชระเบยี น

เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการวิจยั ช่ือเคร่ืองมือ เจ้าของเคร่ืองมือ CVI Reliability (n = 30) (n = 30)1. แบบวัดความรู้ ผ้วู ิจยั สร้างขนึ ้ ตามแนวคิดแบบจาลอง PRECEDE 0.80 0.662. แบบวดั อตั มโนทศั น์ กาญจนา ภยู าธร (2541) ดดั แปลงจากแบบวดั 0.98 0.86 ของ Fitts (1965) แปลโดยอาไพ ศิริพิพฒั น์(2515) 1.00 0.78 1.00 0.953. แบบวัดความรู้สึกมีคุณค่า ฐปนีย์ ตงั้ จิตภกั ดีสกลุ (2545) แปลจากแบบวดั 0.87 0.81 ของ Rosenberg (1965) 0.90 0.71ในตนเอง4. แบบวัดการสนับสนุนทาง พวงผกา กรีทอง (2550) แปลจากแบบวดั ของสังคม ENRICHD (2000)5. แบบวัดการเข้าถึงบริการ ปฐญาภรณ์ ลาลนุ (2554) ที่สร้างขนึ ้ ตามแนวคดิของสถานบริการสุขภาพ แบบจาลอง PRECEDE6. แบบวัดพฤตกิ รรมสุขภาพ ผ้วู ิจยั สร้างขนึ ้ ตามแนวคดิ แบบจาลอง PRECEDE

ขัน้ ตอนการเกบ็ ภายหลงั ได้รับอนมุ ตั ิให้เก็บรวบรวมรวบรวมข้อมูล ข้อมลู จากคณะกรรมการจริยธรรมการ วจิ ยั ในมนษุ ย์ของรพ. ทงั้ 3 แหง่ผ้วู ิจยั เร่ิมเกบ็ ข้อมลู ด้วยตนเอง โดย เข้าพบกลมุ่ ตวั อยา่ ง เพอื่ แนะนาตนเองประสานงานกบั เจ้าหน้าท่เี พ่ือศกึ ษา บอกวตั ถปุ ระสงค์ ขนั้ ตอนการวิจยั และ ข้อมลู ผ้ปู ่ วยจากแฟ้ มประวตั ิ ขอความร่วมมือในการเข้าร่วมวิจยัเม่ือกลมุ่ ตวั อยา่ งยนิ ดเี ข้าร่วมการวิจยั จงึ ให้อา่ นรายละเอียดเอกสารข้อมลู สาหรับกลมุ่ ประชากรหรือผ้มู ีสว่ นร่วมในการวิจยั และลงนามใน หนงั สือแสดงความยินยอมเข้าร่วมการวิจยั

อธิบายและชีแ้ จงเก่ียวกบั การตอบ ให้กลมุ่ ตวั อยา่ งเริ่มตอบแบบสอบถามแบบสอบถามทงั้ หมด 7 ชดุ และเปิด ด้วยตนเอง โดยใช้ระยะเวลาในการตอบ โอกาสให้ซกั ถามข้อสงสยั แบบสอบถามประมาณ 30 นาทีการพทิ กั ษ์สิทธ์ิ ได้รับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการของกลุ่มตวั อย่าง พิจารณาจริยธรรมการวจิ ยั ในมนษุ ย์ และดาเนินการวจิ ยั โดยยดึ หลกั จริยธรรมการวิจยั ทงั้ 3 ข้อ1. หลกั ความเคารพในบคุ คล (Respect of person)2. หลกั การให้คณุ ประโยชน์ ไมก่ อ่ ให้เกิดอนั ตราย (Beneficence/Non-maleficence)3. หลกั ความยตุ ิธรรม (Justice)

การพจิ ารณาและรับรองจริยธรรมการทาวจิ ยัคณะกรรมการจริยธรรมการ วันท่ผี ่านการพจิ ารณา ระยะเวลาการเกบ็ วจิ ัย และรับรองโครงการวจิ ัย รวบรวมข้อมูลโรงพยาบาลราชวถิ ี 16 กรกฎาคม 2558 กรกฎาคม 2558 - พฤศจกิ ายน 2558โรงพยาบาลภมู พิ ลอดลุ ยเดช 5 ตลุ าคม 2558กรมแพทย์ทหารอากาศ 15 ตุลาคม 2558 ตลุ าคม 2558 – พฤศจกิ ายน 2558โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตุลาคม 2558 – พฤศจกิ ายน 2558

ใช้สถติ พิ รรณนา (Descriptive ค่าเฉล่ีย ร้อยละและส่วนเบ่ยี งเบนstatistics) ของข้อมูลส่วนบุคคล มาตรฐานของตวั แปรต้นและ ตวั แปรตามวเิ คราะห์ข้อมูลวเิ คราะห์ค่าสัมประสทิ ธ์ิสหสัมพันธ์ วเิ คราะห์ค่าสัมประสทิ ธ์ิสหสัมพันธ์ ของเพยี ร์สัน (Pearson’ Product- พหุคูณโดยใช้สถติ วิ เิ คราะห์ถดถอย Moment Correlation Coefficient) แบบเข้าทลี ะตวั (Enter regression) เพ่ือหาความสัมพนั ธ์ เพ่ือหาความสามารถในการทานาย

ข้อมูลส่วนบุคคล : เพศ Male 43%Female 57%

ข้อมูลส่วนบุคคล : อายุ (ปี ) 39-50 ปี 14% 18-38 ปี 86%

ข้อมูลส่วนบุคคล : สถานภาพสมรส 5% โสด 20% หม้าย แยก 9% คู่62% 4% หย่า

ข้อมูลส่วนบุคคล : การวนิ ิจฉัยโรค51.6 41.4 5.5 1.6CHB SSS 2AVB 1AVB

ข้อมูลส่วนบุคคล : ชนิดของเคร่ืองกระตุ้นหวั ใจแบบถาวรท่ใี ส่ ห้องเดยี ว 34% สองห้องต่อเน่ืองกัน 66%

ข้อมูลส่วนบุคคล : ระยะเวลาในการใส่เคร่ืองกระต้นุ หวั ใจแบบถาวร 4319.5 19.5 180 – 1 ปี 1 -2 ปี 2 – 3 ปี มากกว่า 3 ปี ขึน้ ไป

ข้อมูลส่วนบุคคล : ภาวะแทรกซ้อน93 1.6 2.3 2.3 0.8ไม่มี ตดิ เชอื้ เคร่ืองเคล่ือน สายส่ือเล่ือน Hematoma

ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน คะแนนต่าสุด คะแนนสูงสุดและการแปลผลระดบั คะแนนของกลุ่มตวั อย่างจาแนกตามตวั แปร (N=128) ดงั ตาราง การแปลผล ตัวแปร ค่าเฉล่ยี SD Min Max (ระดบั )ความรู้ 7.9 1.7 3 10 สูงอตั มโนทศั น์ 197.5ความรู้สกึ มคี ุณค่าในตนเอง 23.6 17.9 115 227 สูงการสนับสนุนทางสังคมการเข้าถึงบริการของสถาน 24 3.8 11 30 ปานกลางบริการสุขภาพ 38.2พฤตกิ รรมสุขภาพ 3.8 12 30 มาก 33.3 4.5 25 45 สูง 3.9 21 40 ดี

แสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างตัวแปรต้นกับตวั แปรตาม ของกลุ่มตวั อย่าง วิเคราะห์โดยหาค่าสัมประสทิ ธ์ิเพียร์สัน (N = 128) ตวั แปรต้น ค่าสัมประสทิ ธ์ิสหสัมพันธ์ (r) p - valueความรู้ .508 .000* .000*อตั มโนทศั น์ .369 .086 .000*ความรู้สกึ มีคุณค่าในตนเอง .152 .562การสนับสนุนทางสังคม .523การเข้ าถึงบริ การของสถาน .052บริการสุขภาพ*p < .05

• ค่าปกตอิ ย่รู ะหว่าง 0-1Tolerance • ค่าย่งิ ใกล้ 0 แสดงว่าตวั แปรอสิ ระ (ตวั แปรทานาย) มี ความสัมพันธ์กับตัวแปรอสิ ระอ่ืนๆ • ย่งิ มคี ่ามากกว่า 10 แสดงว่าตวั แปรอิสระมีความสัมพนั ธ์กันสูง VIF • ความสัมพันธ์พหุร่วมเชงิ เส้นระหว่างตวั แปรอสิ ระ Multi • ผลการวเิ คราะห์พบว่าตวั แปรอิสระเป็ นไปตามข้อตกลงเบือ้ งต้นcollinearity ในการใช้สถติ ถิ ดถอยพหุคูณ

แสดงอานาจในการทานายของปัจจยั ทานายกบั พฤตกิ รรมสุขภาพของกลุ่มตวั อย่าง วเิ คราะห์โดยสถติ ถิ ดถอยพหคุ ูณแบบเข้าทลี ะตวั (N=128)ตวั แปรพยากรณ์ B β t p-value Tolerance VIF(Constant) 12.810 3.713 .000ความรู้ .900 .388 5.382 .000 .881 1.134อัตมโนทศั น์ .039 .177 2.229 .028 .724 1.380ความรู้สกึ มคี ุณค่าในตนเอง -.085 -.083 -1.088 .279 .795 1.258การสนับสนุนทางสังคม .379 .368 4.879 .000 .805 1.243การเข้าถงึ บริการของ -.033 -.038 -.546 .586 .933 1.072สถานบริการสุขภาพOverall F = 19.207 (p = .000), R = .664., R2 = .440

ตัวแปรทานายทงั้ หมด สามารถร่วมทานายพฤตกิ รรมสุขภาพของกลุ่มตัวอย่าง ได้ร้อยละ 44 (R² = .44)โดยความรู้ อัตมโนทศั น์ และการสนับสนุนทางสังคม สามารถร่วมกันทานายได้อย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ทิ ่ีระดับ .05Ẑ พฤติกรรมสขุ ภาพ = 0.388 Z*ความรู้ + 0.177 Z*อตั มโนทศั น์ - 0.083 Zความรู้สกึ มี คณุ คา่ ในตนเอง + 0.368 Z*การสนบั สนนุ ทางสงั คม - 0.038 Zการเข้าถงึ บริการของสถานบริการสขุ ภาพ

การอภปิ รายผลพฤตกิ รรมสุขภาพ : กลมุ่ ตวั อยา่ งตระหนกั ถงึ ความสาคญั รับรู้ถงึ อนั ตรายและความรุนแรงของโรค ได้รับคาแนะนาพร้อมทงั้ คมู่ ือการปฏิบตั ิตวั ภายหลงั ใสเ่ คร่ืองกระต้นุ หวั ใจ ความรู้ : มีความสมั พนั ธ์ทางบวกและสามารถทานายพฤติกรรมสขุ ภาพมากที่สดุ ร้อยละ 25.8 (R² = .258) บคุ คลที่มีความรู้เกี่ยวกบั โรคและการปฏิบตั ติ วั ที่ถกู ต้อง จะมีการปฏิบตั ิพฤตกิ รรมสขุ ภาพที่ดี การสนับสนุนทางสังคม : มีความสมั พนั ธ์ทางบวกและสามารถทานายพฤติกรรม สขุ ภาพเพ่ิมขนึ ้ อกี ร้อยละ 41.6 (R² = .416) บคุ คลเมื่อได้รับการช่วยเหลือและ ประคบั ประคอง ทาให้สามารถปฏิบตั ิหรือยบั ยงั้ การแสดงพฤติกรรมสขุ ภาพ

อัตมโนทัศน์ :มีความสมั พนั ธ์ทางบวกและสามารถทานายพฤตกิ รรมสขุ ภาพได้เพ่ิมขนึ ้ อีกร้อยละ 43.3 (R² = .433) กลมุ่ ตวั อยา่ งมีวฒุ ิภาวะ ประสบการณ์ การคิด การรับรู้และการตดั สนิ ใจท่ีดีทาให้เมื่อเจ็บป่ วยจะเลือกปฏิบตั พิ ฤติกรรมสขุ ภาพได้อยา่ งเหมาะสม ความรู้สกึ มีคุณค่าในตนเอง: ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ทางสถิตแิ ตส่ ามารถร่วมทานายพฤตกิ รรมสขุ ภาพได้เพ่ิมขนึ ้ อีกร้อยละ 43.9 (R² = .439) กลมุ่ ตวั อยา่ งมีความภาคภมู ใิ จ ตอ่ ตนเองในระดบั ปานกลาง ซงึ่ เป็นแรงจงู ใจของบคุ คลในการปฏิบตั ิพฤตกิ รรมสขุ ภาพ การเข้าถงึ บริการของสถานบริการสุขภาพ: ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ทางสถิติแตส่ ามารถ ร่วมทานายพฤติกรรมสขุ ภาพได้เพ่มิ ขนึ ้ อีกร้อยละ 44 (R² = .44) กลมุ่ ตวั อยา่ งมีความเชื่อถือและพงึ พอในบริการของรพ. ทาให้การแสดงพฤตกิ รรมสขุ ภาพเป็นไปได้โดยง่ายขนึ ้

ข้อเสนอแนะในการนาผลการวจิ ยั ไปใช้ 1. นาไปพฒั นา 2. เป็ นแนวทางในการ โปรแกรมส่งเสริม วางแผนปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลพฤตกิ รรมสุขภาพแก่ผู้ป่ วยท่ไี ด้รับการใส่ แก่ผู้ป่ วยท่ไี ด้รับการใส่เคร่ืองกระต้นุ หวั ใจ เคร่ืองกระต้นุ หวั ใจ แบบถาวร แบบถาวร

ร้อยละของจานวนกลุ่มตัวอย่างท่ตี อบผดิ /ไม่ทราบ จาแนกตามรายข้อของแบบวัดความรู้คาถาม จานวนท่ตี อบผิด/ ร้อย ไม่ทราบ ละการใสเ่ คร่ืองกระต้นุ หวั ใจแบบถาวรเป็นวิธีการรักษาภาวะหวั ใจเต้นช้าผดิ ปกติ 12 9.4เครื่องกระต้นุ หวั ใจแบบถาวรแบง่ ออกเป็น 2 ชนิด คือกระต้นุ ห้องเดยี วและสองห้อง 65 50.8แบตเตอรี่เครื่องกระต้นุ หวั ใจมีอายกุ ารใช้งานเฉล่ยี 7-10 ปี 33 25.8หลกั การทางานคือตวั เคร่ืองจะทาหน้าท่ีปลอ่ ยกระแสไฟฟ้ าไปที่สายสื่อ 22 17.2เม่ือหวั ใจเต้นช้ากวา่ ความต้องการของร่างกาย เครื่องจะสง่ สญั ญาณไฟฟ้ าไปกระต้นุ ตาม 18 14.1อตั ราที่ตงั ้ ไว้ 26 20.3เมอ่ื แบตเตอร่ีเคร่ืองกระต้นุ หวั ใจหมดอายุ ท่านต้องผา่ ตดั เปลี่ยนเครื่องกระต้นุ หวั ใจใหม่เม่ือเกิดภาวะหวั ใจเต้นช้าผดิ ปกตอิ าจจะมอี าการเวียนศีรษะ หน้ามดื เป็นลมหมดสตไิ ด้ 10 7.8ภาวะแทรกซ้อนท่ีอาจเกิดขนึ ้ จากการใสเ่ ครื่องกระต้นุ หวั ใจ เช่น ผิวหนงั บวมแดง มหี นอง 17 13.3ในขณะใสเ่ คร่ืองกระต้นุ หวั ใจแบบถาวรทา่ นสามารถตรวจรักษาด้วยคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ า 72 56.3ทา่ นควรตรวจติดตามการทางานของเคร่ืองทกุ ๆ 6เดือน หรือบอ่ ยกวา่ นนั ้ เมือ่ มีปัญหา 7 5.5

ข้อเสนอแนะในการทาวจิ ยั ครัง้ ต่อไป 1. ควรมีการศึกษา 2. ควรมีการศึกษาถงึ ปัจจยั เปรียบเทยี บพฤตกิ รรม ทานายด้านอ่นื ๆ ท่อี าจมีสุขภาพในผ้ปู ่ วยท่ไี ด้รับการ ความสัมพนั ธ์และมีอทิ ธิพลต่อใส่เคร่ืองกระต้นุ หวั ใจแบบ พฤตกิ รรมสุขภาพของผู้ป่ วยท่ีถาวรในระยะเวลาท่ตี ่างกัน ได้รับการใส่เคร่ืองกระต้นุ หวั ใจ แบบถาวร เช่นความวิตกกงั วล การรับรู้ภาวะสุขภาพ เป็ นต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook