Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์

หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์

Description: หน่วยที่1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์ รายวิชา มนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน 3000-1605 นางศุภลักษณ์ หลวงนา แผนกวิชาสามัญสัมพันธ์

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 ช่อื วิชา มนษุ ยสัมพันธใ์ นการทำงาน เวลาเรียนรวม 36 ชว่ั โมง ชือ่ หน่วย ความรูเ้ บื้องต้นเก่ียวกบั มนุษยสัมพันธ์ สอนครง้ั ท่ี 1-2 ชื่อเรอ่ื ง ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกับมนษุ ยสัมพันธ์ จำนวน 4 ชั่วโมง หวั ข้อเรือ่ ง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกบั มนุษยสมั พนั ธ์ 1. ความหมายปรัชญาพื้นฐานของมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2. ปรชั ญาพืน้ ฐานมนุษยสมั พันธ์ 3.วธิ ีการนำหลกั มนุษยสัมพนั ธไ์ ปประยุกต์ใชใ้ นการทำงานและชวี ติ ประจำวนั 4. ลำดบั ข้นั ตอนวิธีการพัฒนาชีวติ โดยใช้หลกั มนษุ ยสมั พันธ์ 5. ประโยชน์ของวชิ ามนษุ ยสัมพนั ธ์ 6. แนวคิดปรชั ญาพื้นฐานมนุษยสัมพนั ธ์ 7. ประโยชน์ของมนุษยสัมพันธไ์ ปประยกุ ต์ใช้ สาระสำคัญ ธรรมชาตขิ องมนุษย์ซึ่งเปน็ สัตวส์ ังคม เมื่อมาอยู่รว่ มกันและมคี วามสัมพันธท์ เ่ี กดิ ขน้ึ โดยธรรมชาตใิ น ลกั ษณะของเครือญาติ เพือ่ น ผรู้ ่วมงาน ผูร้ จู้ กั มักคนุ้ มติ รสหาย ซึง่ จะตอ้ งมีการพดู คุย พบปะ ติดตอ่ ส่ือสาร ช่วยเหลือ ถ่ายทอดความรู้ วฒั นธรรม ร่วมงานและร่วมธรุ กิจกนั เป็นความสัมพันธ์ในลักษณะของ “มนุษย สมั พนั ธ์” ซงึ่ ใชท้ ัง้ ศาสตรแ์ ละศิลป์ เพ่อื ให้ความสมั พนั ธเ์ ปน็ ไปอย่างราบร่นื เข้ากับผู้อืน่ ได้ และอยรู่ ่วมกันอยา่ ง มีความสขุ ดังน้นั มนุษย์ทุกคนนอกจากการใช้ธรรมชาตใิ นตวั บุคคลเพ่ือสร้างสมั พันธแ์ ล้ว ทุกคนตอ้ งเรยี นรู้ เทคนิควธิ ีการ หลักการในการสรา้ งความสัมพันธ์ หาประสบการณ์ ฝกึ ฝนตนเองใหเ้ กิดทักษะ ส่ิงสำคญั คอื การ รู้จักตนเอง รูจ้ ักผู้อ่ืน เข้าใจธรรมชาติและความตอ้ งการของมนุษย์ เพ่ือใหส้ ามารถเอาชนะจติ ใจ และครองใจ ของบุคคลอ่นื ได้อย่างนุ่มนวล ทำใหเ้ กิดความเข้าใจอันดีต่อกัน ท้ังมวลนนั้ เปน็ กระบวนการจูงใจคนอย่างมี ประสิทธภิ าพในสถานการณ์ต่างๆ หากเกิดข้ึนในองค์การจะส่งผลใหก้ ารบรหิ ารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความพึงพอใจ ให้แก่ทกุ ฝ่ายในการทำงานรว่ มกนั มีความรกั ความสามัคคี จะเกิดเจตคตทิ ดี่ ีต่อ องค์การในแตล่ ะบุคคล “ มนษุ ยสัมพนั ธ”์ ทำให้คนในสงั คม ที่ต่างเพศ ต่างวัย ตา่ งอาชพี ตา่ งสิ่งแวดลอ้ ม ต่างวัฒนธรรม และ ต่างจิตใจ สามารถอยรู่ ว่ มกันไดด้ ว้ ยดี มีความสงบสขุ สมรรถนะหลัก (สมรรถนะประจำหน่วย) แสดงความรู้เกย่ี วกับความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกบั มนุษยสัมพันธ์ สมรรถนะย่อย (สมรรถนะการเรยี นรู้) สมรรถนะท่วั ไป (ทฤษฏ)ี 1. แสดงความร้เู ก่ยี วกับความหมายปรัชญาพื้นฐานของมนษุ ยสัมพนั ธ์ 2. แสดงความรู้เกย่ี วกบั ปรชั ญาพ้นื ฐานมนุษยสมั พนั ธ์ 3. แสดงความรู้เก่ยี วกบั วธิ กี ารนำหลักมนษุ ยสมั พันธ์ไปประยุกตใ์ ช้ในการทำงานและ ชีวติ ประจำวัน 4. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ลำดับข้ันตอนวิธีการพัฒนาชีวติ โดยใช้หลกั มนษุ ยสัมพันธ์ 5. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ประโยชน์ของวชิ ามนษุ ยสมั พันธ์ 6. แสดงความร้เู กยี่ วกับแนวคิดปรัชญาพน้ื ฐานมนษุ ยสัมพนั ธ์ 7. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ประโยชนข์ องมนุษยสัมพันธ์ไปประยุกต์ใช้

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1 ชอื่ วิชา มนุษยสัมพนั ธใ์ นการทำงาน เวลาเรียนรวม 36 ชว่ั โมง ชอ่ื หน่วย ความรูเ้ บือ้ งตน้ เก่ียวกับมนุษยสัมพันธ์ สอนครงั้ ที่ 1-2 ชือ่ เรอ่ื ง ความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกับมนษุ ยสัมพนั ธ์ จำนวน 4 ชั่วโมง สมรรถนะท่พี ึงประสงค์ (ทฤษฏี) เม่ือผเู้ รยี นได้ศึกษาเนื้อหาในบทนี้แลว้ ผเู้ รียนสามารถ 1. อธบิ ายความหมายปรชั ญาพืน้ ฐานของมนุษยสมั พันธ์ไดถ้ ูกต้อง 2. อธิบายปรชั ญาพนื้ ฐานมนุษยสมั พนั ธ์ได้ถกู ต้อง 3. นำหลกั มนุษยสมั พนั ธไ์ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการทำงานและชีวิตประจำวนั ไดถ้ ูกต้อง 4. จำแนกลำดับขน้ั ตอนวิธกี ารพฒั นาชวี ติ โดยใชห้ ลกั มนุษยสัมพันธไ์ ดถ้ ูกต้อง 5. อธบิ ายประโยชนข์ องวิชามนษุ ยสมั พันธไ์ ด้ถูกตอ้ ง 6. อธิบายแนวคิดปรชั ญาพืน้ ฐานมนุษยสมั พนั ธ์ได้ถูกต้อง 7. วิเคราะหป์ ระโยชนข์ องการนำมนษุ ยสมั พนั ธ์ไปประยุกต์ใชไ้ ด้ถูกต้อง สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์ (ทฤษฏ)ี 1. ตระหนกั ถงึ ความมีวินยั 2. รว่ มกจิ กรรมด้วยความรับผิดชอบ 3. มีความซอ่ื สัตยใ์ นการปฏิบัตงิ าน 4. มกี ารศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง ซักถามปญั หาข้อสงสัย กิจกรรมการเรยี นการสอน ในการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ ามนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน ได้กำหนดกจิ กรรมการเรยี นการ สอนใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้โดยใช้วิธกี ารจัดการเรยี นร้ฐู านสมรรถนะเชงิ รกุ (Active Learning Competency Based) ด้านเทคนิคการจดั การเรียนการสอนแบบ MAIP โดยมีข้ันตอนในการดำเนนิ กิจกรรมการเรียนการสอน ดังนี้ กิจกรรมการเรยี นการสอน (สอนคร้ังท่ี 1 ) เวลา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1. ผสู้ อนชแี้ จงรายละเอยี ดเกีย่ วกบั จุดประสงค์ประจำหน่วย 2. ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นประจำสัปดาห์ และนำเข้าสู่บทเรยี น 3. ผสู้ อนถ่ายทอดความรใู้ นหนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง ความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกับมนุษยสมั พันธ์ 4. ผสู้ อนแสดงตัวอยา่ งเกยี่ วกบั ความรู้เบ้ืองตน้ เกีย่ วกบั มนุษยสมั พนั ธ์ 5. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นเขยี นสรปุ สาระสำคัญของเรอ่ื งท่ีเรียนประจำสปั ดาห์ เปิดโอกาสใหส้ อบถาม ขอ้ สงสัย รว่ มกนั อภิปรายและหาคำตอบ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 ช่อื วิชา มนษุ ยสัมพันธ์ในการทำงาน เวลาเรียนรวม 36 ชั่วโมง ชื่อหน่วย ความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกับมนุษยสัมพนั ธ์ สอนครง้ั ที่ 1 -2 ชื่อเร่อื ง ความร้เู บ้อื งตน้ เก่ียวกับมนษุ ยสัมพนั ธ์ จำนวน 2 ชั่วโมง กจิ กรรมการเรียนการสอน (สอนครง้ั ท่ี 2 ) เวลา 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 1. ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นประจำสัปดาห์ และนำเข้าสบู่ ทเรียน 2. ผสู้ อนถ่ายทอดความรู้ในหนว่ ยท่ี 1 เรือ่ ง ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ียวกับมนุษยสมั พันธ์(ต่อ) 3. ผสู้ อนแสดงตัวอย่างเกีย่ วกับความรเู้ บื้องตน้ เกย่ี วกับมนุษยสัมพนั ธ์ 4. ผสู้ อนให้ผ้เู รียนเขียนสรปุ สาระสำคญั ของเรอ่ื งที่เรยี นประจำสัปดาหเ์ ปิดโอกาสให้สอบถามข้อ สงสยั ร่วมกันอภปิ รายและหาคำตอบ 5. ผสู้ อนวัดประเมินผลการเรียนรู้ของผ้เู รียน สื่อการสอน 1.หนังสือเรียน วชิ า มนษุ ยสมั พันธ์ในการทำงาน 2.สอื่ นำเสนอ PowerPoint งานทม่ี อบหมาย/กจิ กรรม ให้นกั ศกึ ษาทำใบงาน และสรุปจดบันทกึ หนว่ ยท่ี 1 การวัดและประเมนิ ผล การวัดผลประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์ 1. สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์ - ทำใบงาน - ใบงาน - ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 50 2. คุณลักษณะอันพึง - แบบทดสอบประจำหน่วย - แบบทดสอบประจำ ประสงค์ หน่วย - ประเมินคุณลักษณะอนั พึง - แบบประเมนิ - ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 60 ประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

รหัสวชิ า 30000-1605 ใบงานหน่วยที่ 1 หน่วยท่ี 1 ช่ือวชิ า มนุษยสัมพันธใ์ นการทำงาน ชอ่ื หนว่ ย ความรู้เบ้อื งตน้ เก่ียวกับมนุษยสัมพนั ธ์ หนว่ ยท่ี 1 ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับมนษุ ยสมั พนั ธ์ จำนวน 4 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 1 ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ียวกับมนุษยสัมพนั ธ์ ชอื่ /สกลุ ระดบั ชนั้ /กลุ่ม แผนกวิชา 1. ให้นักศึกษาทำงานรายบุคคลในหัวข้อ “มนุษยสัมพันธ์ของฉัน” โดยเขียนบรรยาย 3 หัวข้อ คือ มนุษย– สัมพันธ์ของฉันในครอบครัว มนุษยสัมพันธ์ของฉันในกลุ่มเพื่อน และมนุษยสัมพันธ์ของฉันกับชุมชนหรือ สงั คม วา่ เป็นอยา่ งไร มอี ะไรที่ประทบั ใจ มอี ุปสรรคปัญหาอะไรบา้ ง ควรปรบั ปรุงพัฒนาอย่างไร 2. สมุ่ นกั ศกึ ษา 3–5 คน หรืออาสาสมคั รออกมาเลา่ ใหเ้ พ่ือนฟังหน้าชน้ั เรียน ให้เพื่อนชว่ ยกนั เสนอแนะ มนุษยสัมพันธข์ องฉนั กับครอบครัว มนษุ ยสัมพนั ธ์ของฉนั กับเพือ่ น มนุษยสมั พันธข์ องฉนั กบั ชมุ ชนและสงั คม

รหัสวิชา 30000-1605 แบบทดสอบหน่วยท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 ชื่อวิชา มนุษยสัมพนั ธ์ในการทำงาน ชอ่ื หนว่ ย ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ียวกับมนษุ ยสัมพันธ์ หนว่ ยท่ี 1 ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์ จำนวน 4 ชั่วโมง หน่วยที่ 1 ความร้เู บือ้ งตน้ เก่ียวกับมนษุ ยสมั พนั ธ์ คำส่งั จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งที่สุดเพยี งข้อเดียว 1. ข้อใดไมค่ วรปฏบิ ัตใิ นการสร้างมนุษยสัมพันธก์ บั บุคคลและชมุ ชน ก. วิจารณ์เรอ่ื งสว่ นตวั ของเพ่อื นร่วมงานด้วยความสะใจ ข. ทำนโยบายเรือ่ งบรหิ ารใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ ค. ฟงั มากกวา่ พดู ง. เขา้ ไปทักทายบคุ คลทีม่ าทำงานใหม่ก่อนเสมอ จ. เข้าไปขอมีสว่ นร่วมทำงาน 2. ขอ้ ใดถกู ต้องท่สี ดุ ก. มนุษยท์ กุ คนมีศกั ดศิ์ รีเท่าเทยี มกนั ข. มนษุ ยท์ ุกคนไม่มีความเหน็ แกต่ ัว ค. มนษุ ย์ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งพึง่ พาผอู้ ่นื ง. มนษุ ยท์ ุกคนมีคุณธรรมอย่ใู นตนเอง จ. มนษุ ยต์ ้องการแย่งชงิ ความเด่น 3. ข้อใดเป็นองคป์ ระกอบสำคัญท่สี ุดท่ีทำใหเ้ กิดการพัฒนามนุษยส์ มั พนั ธ์ ก. สภาพแวดลอ้ ม ข. เพอื่ น ค. ตนเอง ง. บุคคลอ่นื จ. สังคม 4. ขอ้ ใดถกู ต้องที่สุดเกยี่ วกับความหมายของมนุษยสมั พันธ์ ก. การใช้เทคโนโลยใี หม่ ๆ เพื่อเพมิ่ ผลผลิต ข. การสร้างสัมพนั ธภาพระหว่างผ้บู ริหารกบั เจา้ ของกิจการ ค. การสร้างสมั พันธภาพระหวา่ งบุคคล ทำให้เกดิ ผลดใี นการทำงานและการอยรู่ ว่ มกนั ง. การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของงานโดยเพ่ิมความสามารถของพนักงานในการทำงาน จ. ความร่วมมอื ร่วมใจของมนษุ ย์ 5. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ วามสำคญั ของมนุษยสมั พันธ์ ก. มนุษยสัมพันธ์ชว่ ยสรา้ งความรสู้ ึกม่นั คงปลอดภยั ข. มนษุ ยสัมพันธท์ ำให้มนุษย์มีจริยธรรมมากขนึ้ ค. มนษุ ยสัมพนั ธ์สรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ตี ่อกัน ง. มนุษยสมั พันธ์ทำใหเ้ กดิ การยอมรับ จ. มนุษยสมั พันธท์ ำให้งานสำเรจ็

รหสั วิชา 30000-1605 แบบทดสอบหน่วยที่ 1 หนว่ ยท่ี 1 ช่ือวชิ า มนุษยสัมพนั ธใ์ นการทำงาน ช่อื หนว่ ย ความรเู้ บ้ืองตน้ เก่ียวกับมนุษยสัมพนั ธ์ หน่วยท่ี 1 ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกับมนุษยสมั พนั ธ์ จำนวน 4 ชั่วโมง 6. ข้อความใดกลา่ วไมถ่ กู ตอ้ ง ก. มนษุ ยสมั พนั ธไ์ มเ่ กย่ี วข้องกบั การเมือง ข. มนุษยสมั พันธม์ ีความสำคญั ด้านเศรษฐกิจ ค. มนษุ ยสัมพันธ์ทำให้การบรหิ ารงานมปี ระสทิ ธภิ าพ ง. มนษุ ยสมั พนั ธท์ ำใหเ้ กดิ ความสัมพนั ธ์ในหมคู่ ณะ จ. มนษุ ยสมั พนั ธ์ชว่ ยใหเ้ กดิ การเตรียมความพรอ้ มสกู่ ารทำงานในการทำงาน 7. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง ก. ผู้ปฏิบตั ิงานระดับกลางใช้ทกั ษะทางมนษุ ยสมั พนั ธน์ ้อย ใช้ทกั ษะทางเทคนคิ มาก ข. ผู้ปฏิบตั ิงานระดบั กลางใช้ทักษะทางมนุษยสัมพันธ์นอ้ ย ใช้ทักษะความคดิ มาก ค. ผปู้ ฏิบัติงานระดบั สูงใช้ทักษะทางเทคนิคมาก ใช้ทกั ษะมนษุ ยสัมพันธ์น้อย ง. ผู้ปฏบิ ตั ิงานทกุ ระดับใชท้ ักษะทางมนุษยสมั พนั ธเ์ ท่ากัน จ. ผู้ปฏิบตั งิ านทกุ ระดบั ใชท้ กั ษะมนุษยสมั พันธ์ตามสถานการณ์ 8. ผปู้ ฏบิ ตั งิ านทุกระดบั ต้องใชท้ กั ษะใดมากทีส่ ดุ ก. ทักษะทางความคิด ข. ทกั ษะมนุษยสมั พนั ธแ์ ละทกั ษะทางความคดิ ค. ทกั ษะมนุษยสมั พันธ์ ง. ทักษะทางเทคนิค จ. ใชท้ ุกทกั ษะตามลักษณะการทำงาน 9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของมนุษยสัมพันธแ์ ละปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ก. เปน็ การเพ่มิ รายได้ให้กบั กลุ่ม ข. เพือ่ สรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี ีกับผู้อนื่ ค. เข้าใจธรรมชาติ ความต้องการ และความแตกตา่ งของมนษุ ย์ ง. ทำใหเ้ กิดความเชื่อถอื และไวว้ างใจ จ. ลดปัญหาความขัดแยง้ ในการทำงาน 10. การเสริมสร้างและพัฒนามนษุ ยสัมพันธ์ไม่ไดพ้ ฒั นามาจากส่ิงใด ก. ครอบครัว ข. องคก์ าร ค. เทคโนโลยี ง. สถานศึกษา โรงเรียน จ. ตนเอง

รหสั วชิ า 30000-1605 แบบทดสอบหน่วยท่ี 1 หน่วยท่ี 1 ชื่อวิชา มนุษยสัมพนั ธใ์ นการทำงาน ช่อื หน่วย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมนุษยสัมพนั ธ์ หนว่ ยที่ 1 ความรเู้ บือ้ งต้นเก่ียวกับมนษุ ยสัมพนั ธ์ จำนวน 4 ชั่วโมง 11. ส่ิงสำคญั อันดบั แรกของการสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ์คืออะไร ก. การยกย่องชมเชยผูอ้ ื่น ข. การพูดจาออ่ นหวาน ค. การย้ิมแย้มแจ่มใส ง. การมนี ้ำใจ จ. การตรงตอ่ เวลา 12. มนษุ ยสมั พนั ธช์ ว่ ยแก้ปัญหาขอ้ ใดไดด้ ีท่สี ดุ ข. ความแตกตา่ งของมนษุ ย์ ก. ความรับผดิ ชอบ ง. ความมีวินัย ค. ความขดั แย้ง จ. ความเข้าใจของมนษุ ย์ 13. ธรรมชาติของมนษุ ย์ขอ้ ใดทต่ี ้องคำนงึ ถึงและจะเป็นปญั หาท่ีสำคัญส่งผลถึงมนษุ ยสัมพันธ์ ก. ความรบั ผิดชอบ ข. ความแตกตา่ งของมนษุ ย์ ค. ความขดั แยง้ ง. ความมีวินัย จ. ความสามารถ 14. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์ของวิชามนษุ ยสัมพันธ์กบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ก. มนษุ ย์อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ ข. ปอ้ งกันปญั หาทางดา้ นสังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งได้ ค. เศรษฐกจิ พัฒนาอยา่ งรวดเรว็ ง. ประเทศมีความม่ันคงเป็นปึกแผน่ จ. องคก์ ารมผี ลกำไร 15. สง่ิ สำคัญท่สี ุดทท่ี ำใหอ้ งค์การประสบความสำเรจ็ คืออะไร ก. การตลาด ข. กระบวนการผลติ ค. งบประมาณ ง. ความสมั พนั ธ์ของบคุ ลากร จ. นวัตกรรม

รายวิชา มนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน 3000-1605 นางศุภลักษณ์ หลวงนา แผนกวิชาสามัญสัมพันธ์