Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 11ต้นอ้อดิบ ประโยชน์และสรรพคุณของอ้อดิบ

11ต้นอ้อดิบ ประโยชน์และสรรพคุณของอ้อดิบ

Description: 11ต้นอ้อดิบ ประโยชน์และสรรพคุณของอ้อดิบ

Search

Read the Text Version

กศน.อาเภอชะอวด มาอา่ นซิว่า พชื ผกั สมุนไพร ที่ ครู กศน.อาเภอชะอวด ปลกู มี สรรพคุณ และประโยชนอ์ ะไรบ้าง

ต้นอ้อดิบ (ต้นคูน) พืชตระกูลบอน ออ้ ดิบ คือ ต้นคนู ของภาคกลาง เวลาใชป้ รงุ อาหารให้ลอกเยื่อ บาง ๆ ออก แล้วหัน่ เป็นทอ่ นคลา้ ยสายบัว อ้อดิบ มชี อื่ อืน่ อกี เช่น คูน (ภาคกลาง) โหรา อ้อดิบ(นครศรธี รรมราช) ช่อื วทิ ยาศาสตร์ คอื Colocasia gigante Hook. f. ออ้ ดิบ(คนู ) เปน็ ไมล้ ม้ ลุกอยใู่ นวงศ์ Araceae และอยูใ่ นสกุล Colocasia เชน่ เดยี วกบั บอน เป็นผกั ชนดิ หนง่ึ ชึ่ง ลักษณะคล้ายบอน ชาวบา้ น จะปลูกไว้กนิ รมิ รั้ว หรือขา้ งบา้ น ชอบ ข้ึนบรเิ วณทีม่ ีนา้ แฉะ นา้ มา

ท้าอาหารได้ท้งั คาวและหวาน ออ้ ดบิ ที่นา้ มาทา้ เปน็ อาหารสว่ นมาก จะใชแ้ กงสม้ และย้า ชื่อสามัญ GIANT Elephant Ears ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Colocasia gigantea Hook.f ชอื่ อน่ื Green Taro ภาคกลางและภาคอิสานเรียกวา่ ทนู คูน หวั คูณ ภาคเหนอื เรียกวา่ ตนู ภาคใตเ้ รยี กวา่ เอาะดิบ ออกดิบ ออดิบ นครศรธี รรมราช- ยะลา เรยี ก ออดบิ ชุมพรเรียกว่า กะเอาะขาว ประจวบคีรขี นั ธ์ เรียกวา่ บอน กาญจนบรุ ีเรียกว่า กระดาดขาว ถ่ินก้าเนดิ แถบอเมรกิ ากลางและใต้ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ คนู เป็นพืชตระกูลบอน มหี วั อยู่ใต้ดนิ ใบเป็นใบเดยี่ วขนาดใหญ่ รปู ร่างเปน็ ลกู ศร มีนวลเคลอื บแผน่ ใบกา้ นใบยาวกลมมนี วลเคลือบ คูนมี 2 ชนดิ คอื ชนดิ สเี ขยี วออ่ น ใบมสี ีเขยี วออ่ น กา้ นใบสเี ขียวอม ขาว ชนิดสีมว่ ง ใบและกา้ นใบสมี ่วง ออกดอกเป็นช่อเชงิ ลด มีกาบ หมุ้ กา้ นช่อดอกกลมยาว มีกาบหุ้มจนมิด เม่ือดอกยงั ไมบ่ าน ชอ่ ดอกทรงกระบอก กลมุ่ ช่อดอกเพศผอู้ ยูด่ ้านบน ตรงกลางกลุ่มชอ่ ดอกไมม่ เี พศ ชอ่ ดอกเพศเมยี อยู่ด้านล่าง

ฤดูกาล กา้ นและใบออกตลอดปี การกนิ กนิ กา้ นทโี่ ตเต็มทเี่ ปน็ ผัก โดยลอกเอาเปลือกเขยี วท่หี มุ้ อยูอ่ อก กินเปน็ ผกั สดจม้ิ นา้ พรกิ แกล้มแกงรสจดั ส้มต้า ใบออ่ น และกา้ นชาวเหนือนา้ ไปแกงสม้ ใส่ปลา ปรงุ เป็นผกั ในแกงแคหรือ แกงกะทิ ชาวใต้นยิ มนา้ กา้ นไปแกงเหลืองใสป่ ลา สรรพคุณทางยา ลา้ ตน้ ใตด้ นิ สุมเปน็ ถา่ ยแก้พิษไข้ พษิ ร้อน พิษตาน ซาง ลา้ ตน้ ใต้ดนิ สด รักษาแผล กดั ฝา้ กัดหนอง แกโ้ รคเถาดานใน ทอ้ ง ภาคเหนอื ใชผ้ ลสดฝนผสมกับน้าผึ้งกนิ ละลายเสมหะ

ขอ้ ควรระวงั ในการเลือกบริโภคพืชตระกลู บอน พชื ตระกลู บอนเปน็ พืชทน่ี ิยมน้ามาประกอบอาหารประเภท ตา่ งๆ เชน่ แกง ยา้ ลวก หรือบางรายกก็ นิ ดบิ ๆ แต่เนอ่ื งจากพชื ตระกูลบอนมหี ลากหลายสายพันธ์มุ ีทง้ั ชนิดท่ีรับประทานได้และ รบั ประทานไมไ่ ด้ มีลกั ษณะใบและกา้ นที่ลา้ ยคลงึ กัน ดงั นนั้ เราจงึ ไดย้ นิ อยบู่ ่อยๆว่า ผู้ทบี่ ริโภคพืชดงั กลา่ วเขา้ ไปแลว้ ตอ้ งเขา้ รับการ รกั ษาท่ีโรงพยาบาล เนือ่ งจากได้รับสารพิษทม่ี ผี ลกึ แคลเซยี มออกซา เลท (Calcium oxalate) ที่มลี ักษณะเป็นรปู เข็ม ไมล่ ะลายน้า ซ่ึง อยใู่ นพืชตระกูลบอน ชนิดทรี่ บั ประทานไม่ไดเ้ ข้าไปนนั่ เอง

• พชื ตระกลู บอนชนิดท่ีรบั ประทานได้ มีชื่อทางวิทยาศาสตรว์ า่ Colocasia indicaHassk. Colocasia gigantea Hook.f. ภาษา ทอ้ งถิ่นเรยี ก ออดบิ ออกดบิ (ภาคใต)้ คูน (ภาคกลาง) กระดาดขาว ตูน (ภาคเหนอื ) • สา้ หรับชนิดทรี่ บั ประทานไม่ได้ มชี อ่ื ทางวทิ ยาศาสตรว์ ่า Alocasiamacrorhiza Schott ภาษาทอ้ งถิ่นเรยี ก โหรา เอาะลาย (สงขลา ยะลา) กระดาดดา้ (กาญจนบุรี)ความแตกต่างระหว่างพชื ตระกลู บอนชนิดทร่ี ับประทานได้ (ออดบิ ) และชนิดทร่ี บั ประทาน ไมไ่ ด้ (โหรา) ทสี่ งั เกตไดช้ ดั คอื โหรา มีลักษณะใบที่ใหญ่ สเี ขยี วเขม้

และหนากวา่ ใบของออดบิ ซง่ึ มใี บขนาดคอ่ นขา้ งเลก็ และบางกว่า มี สีเขยี วออ่ นกว่าก้านใบของออดิบมกั จะมีสนี วลขาว อาการพษิ หลงั จากรับประทานแล้ว จะมอี าการระคายเคืองในลา้ คอ ปาก และลน้ิ ท้าใหล้ ้ินแขง็ ไมส่ ามารถพดู ได้ ขอ้ แนะนาในการนาพืชตระกูลบอนมาบรโิ ภค 1.ต้องม่ันใจว่า พชื ดังกลา่ วเป็นชนิดที่กินได้ (ออดิบ/คนู ) หาก ไม่มนั่ ใจวา่ เป็ยชนิดที่กนิ ได้หรอื ไม่ ใหป้ รกึ ษาผู้ท่ีรจู้ ักลกั ษณะของพชื ดงั กลา่ ว 2.ไม่ควรนา้ ออดิบ/คูน ทีไ่ มไ่ ด้ปลกู เอง หรือที่ขน้ึ เองตาม ธรรมชาติมารับประทาน

3.หากรับประทานอาหารทป่ี รงุ ด้วยพืชตระกลู บอนแลว้ รูส้ กึ ผดิ ปกติ มีอาการระคายเคืองปาก ลน้ิ และลา้ คอ หรอื มอี าการปวด แสบปวดร้อน ใหค้ ายทง้ิ แลว้ รบี ลา้ งปากแล้วดมื่ นมเย็นหรือไอศกรมี เพือ่ ลดอาการระคายเคืองเฉพาะท่ี และรบั ประทานยาลดกรด คร้ังละ 2 ชอ้ นโตะ๊ ทุกๆ 2 ชัว่ โมง และหยดุ รบั ประทานอาหาร ดงั กลา่ ว แล้วไปพบแพทยท์ นั ที อย่างไรกต็ าม พชื ตระกลู บอนบางชนดิ มสี รรพคณุ ทาง สมนุ ไพร เชน่ บอนเขยี ว บอนจนี ดา้ บอนน้า สามารถใช้หัวเป็นยา ระบาย ขบั ปสั สาวะในน้านม และอกี หลายสายพันธุท์ มี่ ลี กั ษณะ สวยงาม นิยมนา้ มาตกแตง่ สวน จงึ พอสรปุ ไดว้ า่ พชื ตระกลู บอนนนั้ มปี ระโยชนต์ ่อคนแตก่ าร น้าไปรับประทานต้องระมดั ระวงั สายพนั ธุ์ท่ีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ด้วยย้าอ้อดบิ เปน็ อาหารทีท่ ้ากนิ กนั ในจงั หวดั สงขลา พทั ลุง และ นครศรีธรรมราช เปน็ อาหารท่ีมรี าคาถูก ทา้ ง่าย กินกบั ข้าวสวย ทง้ั 3 มือ้ หรอื เปน็ กับแกล้มปัจจบุ ันยังมที ่ีท้ากนิ อยบู่ ้าง

ฝักแก่ เนอื้ สนี า้ ตาลด้าและชืน้ ตลอดเวลา มรี สหวาน สามารถ ใชเ้ ปน็ ยาระบายได้ โดยน้าฝกั มาตม้ กับน้า และเติมเกลอื เล็กนอ้ ย ดืม่ กอ่ นนอนหรือกอ่ นรบั ประทานอาหาร นอกจากน้ัน ฝกั แกย่ งั มี สารท่อี อกฤทธติ์ อ่ ระบบประสาทของแมลง เมือ่ นา้ ฝกั มาบดผสม น้า แชท่ ้งิ ไวป้ ระมาณ 2-3 วนั สารละลายที่กรองไดส้ ามารถฉีดพ่นก้าจดั แมลงและหนอน ในแปลงผกั ได้ ฝกั แก่ใช้เป็นเชอื้ เพลงิ ในการหงุ ตม้ ดว้ ยเตาเศรษฐกจิ มขี นาดที่พอเหมาะไม่ต้องผา่ เลอื่ ยหรอื ตดั เนอ้ื ของฝักแกใ่ ชแ้ ทนกากนา้ ตาลในการทา้ หัวเชื้อจุลินทรยี ์และ จุลนิ ทรยี ข์ ยาย ฝกั ออ่ น สามารถใชข้ บั เสมหะได้ ใบสามารถนา้ มาใช้ ในการฆ่าเชอ้ื โรคได้ และดอก แกแ้ ผลเรอ้ื รัง แกงสม้ ปลากดต้นอ้อ

ดิบ/แกงเหลอื งปลากะพงกบั ตน้ คูน แกงสม้ เป็นแกงทนี่ ิยม รบั ประทาน มรี สเปรยี้ ว เคม็ หวานนิดหนอ่ ยใชผ้ กั ท่ีมตี ามทอ้ งถิน่ นน้ั ๆ ผกั ท่ีนยิ มใชแ้ กงสม้ เชน่ ผกั บงุ้ ผกั กระเฉดดอกแค กะหลา่้ ปลี หนอ่ ไม้ดอง ฯลฯ สว่ นเนือ้ สตั ว์ที่น้า มาใช้กบั แกงส้มมปี ลา กุ้งนา้ จดื และกุง้ นา้ เค็ม บางทีกใ็ ช้หอยแทนกงุ้ แกงสม้ เปน็ แกงทีป่ รุงรส สามรสนา้ แกงทใ่ี หร้ สชาตอิ รอ่ ยพอดที ั้งสามรสจะทา้ ไดย้ ากกวา่ แกง ชนิดอน่ื ไมเ่ ปร้ียวจนเกินไป หรอื เค็มข้นึ หน้า หรอื มรี สหวานนา้ ควร ปรุงใหก้ ลมกลอ่ มทงั้ สามรส แกงส้ม ใช้เคร่ืองปรงุ โขลกกับพรกิ สด (จะใช้พริกชฟ้ี ้าหรอื พริกขหี้ นกู ไ็ ด้) ละลายนา้ แกงแลวตงั้ หมอ้ จน เดอื ด ใส่ปลา ลงไป (ไม่นยิ มใชน้ า้ แกงขน้ คือ โขลกปลาลงไปดว้ ย) ฉกี ใบ มะกรดู ใส่ บีบมะนาว ใส่น้าตาลเลก็ นอ้ ย หลงั จากใสผ่ กั (มกั ใช้ผกั บงุ้ ต้มจนนมุ่ พร้อมกบั ใสป่ ลา) ยกมารบั ประทานขณะรอ้ น ๆ จงึ จะตอ้ งโฉลก ขา้ วสวยก็ตอ้ งร้อน ๆ(เนือ่ งจากปลามคี วามคาว จงึ ต้องใสผ่ ิวมะกรูดโขลกลงไปด้วย บางทีก็ใชน้ ้ามะกรูดผสมกบั นา้ มะนาวเพอื่ ใหเ้ ปรยี้ วน้าหน้า

เคร่อื งปรุง 1. เน้ือปลากะพง 1 ชาม 2.พรกิ แกงสม้ ปักษ์ใต้ 2 ชอ้ นโตะ๊ 3.อ้อดบิ (กา้ นคนู )หน่ั เปน็ ชิ้น 2 กา้ น 4.ใบมะกรูด 5 ใบ 5.น้าตาลทราย 1 ชอ้ นชา 6.น้าซุปตม้ กระดกู 1 หม้อ

วิธที า 1.ลา้ งอ้อดิบดว้ ยนา้ สม้ สายชใู หห้ มดเมอื กคนั แล้วสะเดด็ น้าให้ แห้ง 2.ต้มนา้ ซุปให้เดือดแล้วใสพ่ ริกแกงสม้ ละลายให้เขา้ กนั 3.ใสน่ า้ ตาลใหอ้ อกรสหวานนดิ ๆ จึงใส่ออ้ ดิบลงตม้ จนนา้ แกง เข้าเนื้อออ้ ดบิ 4.ใสป่ ลากะพงแลว้ ปดิ ฝาต้มจนนา้ เดือดจึงชอ้ นฟองทง้ิ (หา้ ม คนเนอ้ื ปลานา้ แกงจะคาว) 5.ฉกี ใบมะกรูดใสต่ กั ใส่ชามกนิ กับขา้ วสวยร้อนๆ หรอ่ ยจังหู้