Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 22 ขมิ้น ประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้น

22 ขมิ้น ประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้น

Description: 22 ขมิ้น ประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้น

Search

Read the Text Version

กศน.อาเภอชะอวด มาอ่านซวิ ่า พชื ผัก สมุนไพร ที่ ครู กศน.อาเภอชะอวด ปลูก มี สรรพคุณ และประโยชนอ์ ะไรบ้าง

ขม้นิ ขมิ้น หรือ ขม้นิ ชนั ชอ่ื สามัญ Turmeric ขมิ้น ช่อื วิทยาศาสตร์ Curcuma longa L. จดั อยู่ในวงศ์ขงิ (ZINGIBERACEAE) ขมน้ิ เปน็ พชื ลม้ ลกุ ทจี่ ัดอยใู่ นตระกลู ขงิ มีเหงา้ อยใู่ ตด้ นิ เน้อื ในของเหงา้ จะเป็นสีเหลือง มกี ลิ่นหอมเฉพาะตวั มตี ง้ั แต่สเี หลืองเขม้ จนถงึ สแี สดจดั โดยถน่ิ กาเนิดอยูใ่ นแถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ และมีชือ่ อ่ืน ๆ อกี เชน่ ขมิ้นชนั ขม้ินแกง ขม้นิ หยอก ขมิน้ หัว ข้มี ิ้น หม้นิ ท้งั น้ขี น้ึ อย่กู ับ แตล่ ะภาคและจงั หวัดนัน้ ๆ นิยมนาไปใชใ้ นการประกอบอาหาร แตง่ สี แตง่ กลิ่นอาหาร เชน่ แกงไตปลา แกงกะหร่ี เป็นตน้

ขมิน้ ชนั อุดมไปดว้ ยวิตามินและแร่ธาตหุ ลายชนดิ เชน่ วติ ามินเอ วติ ามินบี 1 วติ ามินบี 2 วิตามนิ บี 3 วติ ามินซี วิตามนิ อี ธาตุแคลเซยี ม ธาตฟุ อสฟอรัส ธาตุเหลก็ และเกลอื แรต่ ่าง ๆ รวมไปถงึ เสน้ ใย คาร์โบไฮเดรต และโปรตนี เปน็ ต้น และขมน้ิ ชนั มีสรรพคณุ ทางยาท่ี รักษาอาการและโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด มีประวตั ใิ นการนามาใชใ้ น การรกั ษามากกวา่ 5,000 ปี สาหรบั ขม้นิ ชันทจ่ี ะนามาใชป้ ระโยชน์น้ัน การเกบ็ เก่ียวไมค่ วรเก็บในระยะทข่ี มนิ้ เร่มิ แตกหน่อ เพราะจะทาให้สาร ที่มีประโยชน์อยา่ งเคอร์คูมินในขม้นิ มนี ้อย ส่วนเหง้าทเ่ี ก็บมาตอ้ งมอี ายุ อย่างนอ้ ย 9-12 เดอื น และต้องไมเ่ ก็บไว้นานเกินไป และไมใ่ ห้ถูก แสงแดด เพราะนา้ มนั หอมระเหยในขมิน้ จะหมดไปเสยี ก่อน เมอื่ ไดเ้ หงา้ มาแลว้ หากจะนาไปรับประทานเพือ่ ใชใ้ นการรกั ษาโรคตา่ ง ๆ ควรลา้ งให้สะอาดก่อน และไม่ตอ้ งปอกเปลอื ก แตห่ นั่ เปน็ แวน่ ชนิ้ บาง ๆ แล้วนาไปตากแดดสกั 2 วันแล้วนามาบดใหล้ ะเอยี ด ผสมกบั น้าผ้ึงแล้วป้ันเปน็ เม็ดเลก็ ๆ เทา่ ปลายนว้ิ ก้อย แลว้ นามารบั ประทานวนั ละ 3 คร้งั คร้ังละ 2-3 เมด็ หลงั อาหารและช่วงกอ่ นนอน หรอื จะนา เหงา้ แกม่ าขดู เอาเปลือกออกแล้วนาไปลา้ งนา้ ใหส้ ะอาด นามาบดให้ ละเอยี ด เตมิ นา้ แลว้ คน้ั เอาแตน่ า้ มารับประทานครงั้ ละ 2 ชอ้ นโต๊ะ วัน ละ 3 คร้ัง หากนาขมิ้นมาใชเ้ ปน็ ยาทาภายนอก เพ่ือรกั ษาอาการแพ้ ผืน่ คนั ผิวหนังอกั เสบ แมลงสัตวก์ ัดตอ่ ย ให้นาเหง้าขมน้ิ มาฝนผสมกับ น้าต้มสกุ แลว้ ทาบริเวณทีเ่ ปน็ วนั ละ 3 ครัง้ หรอื จะนาเอาผงขม้นิ มาโรย กใ็ ช้ได้เชน่ กนั วธิ กี ินขมิ้นชนั

มีการศกึ ษาพบวา่ การรบั ประทานขมน้ิ ตามเวลาทีอ่ วัยวะต่าง ๆ กาลงั ทางาน จะช่วยเพ่ิมประสทิ ธิภาพของขม้ินให้มากขน้ึ โดยวิธกี ินขมนิ้ ชนั ควรรบั ประทานขมิ้นชนั ตามเวลาตอ่ ไปนีต้ ามการรกั ษา • เวลา 03.00-05.00 น. ชว่ งเวลาของปอด หากรบั ประทาน ช่วงเวลานจ้ี ะชว่ ยในการบารงุ ปอดชว่ ยให้ปอดแขง็ แรง ชว่ ยปอ้ งกันการ เปน็ มะเร็งปากมดลูก ชว่ ยเสรมิ สร้างภมู คิ ุม้ กนั ให้ผิวหนงั และช่วยเรือ่ ง ภูมแิ พ้ หายใจไม่สะดวก • เวลา 05.00-07.00 น. ชว่ งเวลาของลาไส้ใหญ่ ช่วยแกป้ ญั หาลาไส้ ใหญ่ สาหรบั ผู้ทีข่ บั ถา่ ยไม่เปน็ เวลาหรอื รับประทานยาถา่ ยมานาน หาก รับประทานขมิน้ ในชว่ งน้ีจะช่วยฟืน้ ฟูปลายประสาทของลาไสใ้ หญ่ให้ บีบรัดตวั เพ่อื ชว่ ยให้ขบั ถา่ ยได้อยา่ งเปน็ ปกติ ช่วยแกป้ ญั หาลาไสใ้ หญ่ ขบั ถ่ายนอ้ ยหรือมากจนเกินไป และชว่ ยป้องกนั การเกดิ โรครดิ สีดวง ทวารและมะเรง็ ลาไส้ได้อกี ดว้ ย หากรับประทานพรอ้ มกับโยเกิรต์ นา้ ผงึ้ นมสด มะนาว หรือน้าอนุ่ จะชว่ ยชะล้างผนงั ลาไสใ้ ห้สะอาดได้ • เวลา 07.00-09.00 น. ช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร จะช่วยลด อาการท้องอดื ท้องเฟ้อ จกุ เสยี ด แนน่ ท้อง และยงั ช่วยแก้อาการปวด เขา่ ขาตงึ บารงุ สมอง ปอ้ งกันโรคความจาเสื่อมไดอ้ ีกด้วย จะช่วย แก้ปญั หาเร่ืองกระเพาะอาหารที่เกดิ จากการรบั ประทานอาหารไมเ่ ป็น เวลา และยงั ลดอาการทอ้ งอดื จกุ แนน่ ปวดเขา่ ขาตงึ ชว่ ยบารุงสมอง และปอ้ งกันความจาเสอื่ มได้

• เวลา 09.00-11.00 น. ช่วงเวลาของม้าม ช่วยแกป้ ญั หาเรอ่ื ง น้าเหลอื งเสีย มีแผลบริเวณปาก บรรเทาอาการของโรคเบาหวาน โรค เกาต์ การอว้ นเกนิ ไปหรอื ผอมเกินไป • เวลา 11.00-13.00 น. ชว่ งเวลาของหวั ใจ ชว่ ยบารงุ หวั ใจใหม้ ี สุขภาพแขง็ แรง • เวลา 15.00-17.00 น. ชว่ งเวลาของกระเพาะปสั สาวะ ชว่ ยบารุง หรู ดู กระเพาะปัสสาวะใหแ้ ข็งแรง แกอ้ าการตกขาว และการทาให้เหงือ่ ออกในช่วงเวลานจ้ี ะช่วยทาใหร้ า่ งกายขับสารพษิ ออกไปจากรา่ งกายได้ มาก • เวลา 17.00 น. จนถึงเวลาเขา้ นอน การรบั ประทานขมิน้ ในช่วงน้ี จะชว่ ยทาให้ความจาดขี ึน้ เม่อื ตืน่ นอนจะไม่ออ่ นเพลยี การขับถา่ ยก็จะ ดีขึ้นดว้ ย การหาซ้อื ขมนิ้ มารบั ประทานเองไมว่ ่าจะเป็นแบบผงหรือแบบแคปซูล ควรจะซ้อื จากแหลง่ ผลติ ท่ีได้มาตรฐาน มีความสะอาด ปลอดสารเคมี ไมม่ สี ารสเตียรอยด์ปลอมปน และในกระบวนการผลติ นน้ั ต้องไมผ่ า่ น ความร้อนเกนิ 65 องศา เพอื่ คงคุณภาพของขมน้ิ ใส่ใจกนั สกั นดิ เพราะ บางคนซอื้ มารับประทานเองทกุ วัน ท้งั นเ้ี พ่อื ความปลอดภัย สรรพคณุ ของขมน้ิ 1. ขม้นิ มสี ารต่อตา้ นอนมุ ลู อสิ ระซ่งึ ช่วยในการชะลอวัยและชะลอ การเกดิ ริ้วรอย 2. ชว่ ยเสรมิ สร้างภมู ติ า้ นทานใหก้ บั ร่างกาย 3. ช่วยเสริมสร้างภมู คิ มุ้ กันให้ผวิ หนงั มสี ุขภาพดแี ข็งแรง

4. ขมน้ิ ชันอาจมบี ทบาทช่วยป้องกันการเกดิ โรคมะเรง็ เชน่ โรคมะเรง็ ลาไส้ มะเร็งปากมดลกู 5. ขม้นิ สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ 6. ชว่ ยกาจดั สารพิษออกจากรา่ งกาย 7. ช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน 8. มสี ว่ นช่วยรกั ษาโรคความดนั โลหติ สงู 9. ช่วยลดอาการของโรคเกาต์ 10. ช่วยขบั น้านมของมารดาหลังคลอดบตุ ร 11. ชว่ ยรักษาระบบทางเดินหายใจที่มีอาการผิดปกติ 12. ชว่ ยบารงุ สมอง ปอ้ งกนั โรคความจาเส่ือม 13. อาจมสี ่วนชว่ ยในการรกั ษาโรครมู าตอยด์ (ยงั ไมไ่ ดร้ บั การยนื ยัน) 14. ช่วยลดการอักเสบ 15. ช่วยแกอ้ าการวงิ เวียนศรี ษะ 16. ช่วยรกั ษาอาการแพแ้ ละไข้หวัด 17. ชว่ ยบรรเทาอาการไอ 18. ช่วยรกั ษาอาการภมู แิ พ้ หายใจไมส่ ะดวกใหม้ ีอาการดขี น้ึ 19. ช่วยป้องกนั การแขง็ ตัวของหลอดเลอื ด 20. ช่วยตอ่ ตา้ นอนมุ ลู อิสระในเมด็ เลอื ดแดงของผู้ปว่ ยธาลสั ซเี มยี ฮโี ม โกบิลอี 21. ชว่ ยรกั ษาแผลที่ปาก 22. ชว่ ยบารุงปอดใหม้ ีสขุ ภาพดแี ละแขง็ แรง 23. นา้ มนั หอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดทอ้ ง

24. ชว่ ยรกั ษาอาการทอ้ งเสยี อุจจาระรว่ ง โดยนาผงขม้ินชนั ผสมนา้ ผึ้ง ป้ันเป็นลูกกลอนแล้วนามารบั ประทานคร้ังละ 3 เมด็ 3 เวลา 25. ช่วยแกอ้ าการจุดเสยี ด แนน่ ท้อง ทอ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ 26. ชว่ ยรักษาโรคลาไส้อกั เสบ 27. ชว่ ยลดการบบี ตวั ของลาไส้ 28. ชว่ ยรักษาอาการลาไสใ้ หญบ่ วม 29. ชว่ ยรักษาโรคกระเพาะอาหาร 30. ช่วยในการขบั ลม 31. ช่วยบรรเทาอาการน่ิวในถงุ น้าดี 32. มฤี ทธิใ์ นการชว่ ยขบั น้าดี 33. ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร และทาความสะอาดลาไส้ 34. ช่วยบารุงตบั ป้องกนั ตบั อักเสบ ตบั อ่อนอักเสบ และปอ้ งกันตบั จากการถกู ทาลายของยาพาราเซตามอล 35. ช่วยบารุงหรู ูดกระเพาะปัสสาวะใหแ้ ข็งแรง 36. ช่วยปอ้ งกนั การเกดิ โรคริดสดี วงทวาร 37. ชว่ ยแกอ้ าการตกเลือด ดว้ ยการนาขมน้ิ สดมาตาให้ละเอยี ด แล้ว ค้นั เอานา้ มาผสมกบั นา้ ปูนใสแลว้ รบั ประทาน 38. ชว่ ยแกอ้ าการตกขาว 39. ช่วยรักษาอาการปวดหรอื อกั เสบเนือ่ งจากไขขอ้ อกั เสบ 40. ชว่ ยแกอ้ าการนา้ เหลืองเสยี 41. ชว่ ยแกผ้ น่ื คันตามรา่ งกาย 42. ชว่ ยรกั ษาโรคผวิ หนัง ผดผน่ื คัน

43. ช่วยรักษากลาก เกลื้อน ดว้ ยการใชผ้ งขมน้ิ ผสมกบั นา้ นามาทา บรเิ วณทเี่ ป็นกลากเกลื้อนทกุ วนั วนั ละ 2 ครัง้ 44. ชว่ ยรกั ษาโรคผวิ หนงั พพุ อง ตมุ่ หนองให้หายเรว็ ยงิ่ ขึน้ 45. ชว่ ยรักษาแผลจากแมลงสตั วก์ ดั ต่อยได้ ดว้ ยการนาขม้ินมาล้างน้า ให้สะอาด แล้วตาจนละเอยี ด ค้ันเอาแต่นา้ มาทาบรเิ วณดงั กล่าว 46. มฤี ทธิ์ในการต่อตา้ นและฆ่าเช้อื ราท่เี ปน็ สาเหตขุ องโรคผิวหนงั และตอ่ ตา้ นยีสต์ซงึ่ เปน็ ตัวทีท่ าใหภ้ มู คิ มุ้ กันตา่ 47. ช่วยตอ่ ต้านปรสติ หรอื เชื้ออะมบี าทเี่ ป็นต้นเหตุของโรคบดิ ได้ 48. ช่วยต่อตา้ นเชอื้ แบคทเี รยี และไวรัส เชน่ แบคทเี รียทที่ าให้เกิดแผล ในกระเพาะอาหาร แบคทีเรยี ทีท่ าใหเ้ กดิ โรคท้องเสีย แบคทีเรยี ที่ทาให้ เกดิ หนอง เป็นต้น 49. มีฤทธ์ิในการตอ่ ตา้ นการกลายพนั ธ์ุ ตา้ นสารก่อมะเร็งทม่ี คี วาม เก่ยี วข้องกบั โรคทเ่ี กิดจากการเสือ่ มของรา่ งกาย และโรคเบาหวาน 50. ชว่ ยสมานแผลตามร่างกายใหห้ ายเรว็ ยง่ิ ขึน้ ด้วยการนาผงขม้ินมา ผสมกบั น้าแลว้ ทาลงบนบาดแผล และยังชว่ ยใหบ้ าดแผลไมใ่ หต้ ิดเชอ้ื ของกระตา่ ยและหนูขาวได้ และสามารถเร่งใหแ้ ผลทตี่ ิดเชื้อหายได้ 51. ขมน้ิ ยังมีสรรพคณุ ช่วยในการป้องกันการงอกของขนอีกด้วย โดย ผูห้ ญงิ ชาวอนิ เดยี มกั นาขมิน้ มาทาผวิ เพอื่ ปอ้ งกันไมใ่ หข้ นงอก 52. ขมิ้นชันขดั ผวิ ใชท้ าทรตี เมนต์พอกผิวขัดผวิ ด้วยขม้นิ ชว่ ยให้ ผวิ พรรณนมุ่ นวล ขาวผอ่ งใส เตง่ ตึง ดว้ ยการนาขม้ินสดมาล้างนา้ ให้ สะอาด หน่ั เป็นชนิ้ เล็ก ๆ แล้วนาไปปั่นรวมกับดินสอพอง 2-3 เม็ด แลว้ ผสมกับมะนาว 1 ลกู ปัน่ จนเขา้ กัน นามาพอกหนา้ หรอื ผิวทง้ิ ไว้ ประมาณ 20 นาที แลว้ ลา้ งออกด้วยน้าสะอาด

53. ขมิ้นเป็นสว่ นประกอบของทรตี เมน้ ต์รกั ษาสวิ เสยี้ น สวิ ผด สิวอดุ ตนั 54. ขมนิ้ เปน็ สว่ นประกอบอยา่ งหน่ึงในเครอื่ งสาอางบารงุ ผิวตา่ ง ๆ 55. นอกจากน้ยี งั ช่วยปอ้ งกันแมลงศตั รพู ืชได้อกี ดว้ ย ผลข้างเคยี งของขมิน้ ชัน การรบั ประทานขม้นิ เพอ่ื การรกั ษาโรคใด ๆ กต็ าม ถ้าหากเรารวู้ ่าเรา เปน็ โรคอะไร แลว้ รบั ประทานไปเรือ่ ย ๆ จนโรคนัน้ หายไปแล้ว กค็ วร หยุดรับประทาน ถงึ แม้ขม้นิ จะมปี ระโยชน์ก็จริง แตห่ ากรา่ งกายไดร้ ับ มากเกินความตอ้ งการอาจจะกลายเป็นโทษเสียเอง ขมน้ิ ชันมี ผลขา้ งเคยี งคืออาการแพ้ เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหวั นอนไมห่ ลับ ดังน้นั หากคุณรบั ประทานขมนิ้ แลว้ มอี าการดังกล่าว ควรหยดุ รับประทานและหายาชนดิ อื่นรบั ประทานแทน และยังมีความเชอ่ื เรื่อง โทษและข้อเสยี ของขม้ินในแถบภาคใต้ว่า การรบั ประทานขม้นิ ทมี่ าก เกินไปและถเ่ี กนิ ไปนัน้ แทนท่ีจะชว่ ยปอ้ งกนั โรคมะเรง็ อาจจะเป็น มะเร็งเสยี เอง

อยา่ งไรกต็ าม คุณควรสงั เกตอาการของตัวคุณเองดว้ ย เน่ืองจากอาการ ทอ้ งเสียน้นั เปน็ อาการขา้ งเคียงท่วั ไป อาจมสี าเหตมุ าจากยาชนดิ อ่นื หรือจากภาวะของโรคทเี่ ป็นอยแู่ ล้วรว่ มด้วยก็เปน็ ได้ ดงั น้นั คุณควร สังเกตอาการของตวั คุณเองดว้ ยวา่ เดมิ กนิ ยาอนื่ แล้วไม่มีปัญหาใช่ หรือไม่ แต่เพง่ิ มามปี ญั หาเมือ่ ตอนรบั ประทานขม้ินรว่ มดว้ ย ก็ควรสงสยั ไว้ก่อนวา่ อาจเปน็ ผลขา้ งเคียงของขมิน้ กไ็ ด้ แต่ท้ังน้ถี า้ คดิ วา่ เปน็ ผลขา้ งเคียงของขมนิ้ คณุ ก็อาจจะรบั ประทานขมนิ้ ตอ่ ไปได้ ดว้ ยการ รบั ประทานซ้า และคอ่ ย ๆ ปรับขนาดยา จาก 1 เม็ด เปน็ 2 เมด็ ต่อ ครง้ั แลว้ ด่มื นา้ ตามมาก ๆ กอ็ าจจะทาใหร้ ับประทานขมิน้ ต่อไปได้ การรบั ประทานอย่างพอประมาณและเหมาะสม รบั ประทานอาหาร ครบ 5 หมู่ งดพฤตกิ รรมทส่ี ่มุ เส่ียงต่อการเกิดโรคคอื สงิ่ ทีถ่ ูกต้อง บางสงิ่ บางอยา่ งถึงแม้มนั จะมปี ระโยชนม์ ากก็จรงิ แตถ่ ้ามนั มากเกินไปก็จะ เปน็ โทษตอ่ ตัวเราได้ จงึ ไมค่ วรหลงละโมภ และรบั ประทานทานอยา่ งไร้ สติ ผวิ สวยด้วยขมิ้น 1.สูตรขมิ้นสด (ชว่ ยใหผ้ วิ เรียบเนยี น รักษาสวิ อุดตัน สวิ อกั เสบ) • ผวิ สวยดว้ ยขมน้ิ สตู รแรก ใหน้ าขมนิ้ มาลา้ งนา้ ให้สะอาดแล้วนาไป ปอกเปลอื ก หน่ั เปน็ ชน้ิ เล็ก ๆ

• เสรจ็ แลว้ นามาปนั่ ด้วยเคร่ืองปน่ั แลว้ นามาใสก่ ระปกุ แชใ่ นตูเ้ ย็น ใหค้ รบ 1 สัปดาห์ • ใช้คอตตอนบัดป่นั หจู ้มิ นา้ ขม้ินแล้วนามาทาหนา้ กอ่ นลา้ งหนา้ 15 นาที • ควรใช้ตอนเยน็ หรอื ก่อนนอน เพราะอาจทาให้หนา้ เหลอื ง ตอ้ ง ลา้ งประมาณ 2 ครง้ั ถึงจะออกหมด 2.สตู รขมิน้ สด / ดนิ สอพอง / มะนาว (ช่วยใหผ้ วิ หนา้ ผอ่ งใสเนยี นเรยี บ ออ่ นเยาว์ สิวยบุ เร็ว) • เตรียมวัตถดุ บิ ดงั นี้ ขม้ินสดเลก็ นอ้ ย / ดินสอพอง 3 เมด็ / นา้ มะนาว 1 ผล • นาขมน้ิ มาลา้ งน้าให้สะอาด แลว้ หัน่ เป็นชิ้นเลก็ ๆ • นาขมนิ้ ทห่ี ่ันแลว้ มาปัน่ รวมกบั ดนิ สอพองและนา้ มะนาวจน ละเอยี ดเปน็ เน้อื เดียวกนั • จะไดเ้ นือ้ ครมี เขม้ ข้น ลา้ งหนา้ ให้สะอาดแล้วนาครีมที่ได้มาพอกท้งิ ไวป้ ระมาณ 20 นาทแี ลว้ ลา้ งออก • ควรทาเป็นประจาและสมา่ เสมอ สัปดาหล์ ะ 2-3 ครงั้ จะช่วยให้ เห็นผลชัดเจนย่ิงขนึ้ 3.สตู รผงขมนิ้ / นา้ มะนาว (ชว่ ยให้หน้าเนียนใส ชว่ ยลดอาการบวม แดงจากสวิ ช่วยลดสวิ และช่วยใหส้ ิวยบุ เร็ว) • นาผงขมิ้นมาผสมกับน้ามะนาวพอขน้ • นามาแตม้ บรเิ วณทเี่ ป็นสวิ กอ่ นนอนหรือจะพอกทัว่ ใบหนา้ ก็ได้ • ท้ิงไว้ประมาณ 20-30 นาทแี ลว้ ลา้ งออก (หรอื จนกว่าจะรู้สกึ ว่า แสบกใ็ หล้ า้ งออกได้เลย)

4.สูตรผงขมนิ้ / นา้ นม (บารงุ ผิวหนา้ ใหผ้ ่องใส อ่อนเยาว์ รกั ษาสิวเสย้ี น กระชับรขู มุ ขน รกั ษาแผลสิว) • นาผงขมิน้ ผสมกบั น้านมใหเ้ ขา้ กนั • ลา้ งหนา้ ให้สะอาด แลว้ นาขม้ินทีไ่ ดม้ าขดั บนผวิ หนา้ อยา่ งเบามือ จนทั่วใบหนา้ • พอกทิ้งไวป้ ระมาณ 5 นาที แล้วลา้ งออกดว้ ยน้าอุน่ ๆ 5.สตู รผงขมนิ้ / นา้ ผง้ึ (บารงุ ผวิ หน้าใหผ้ อ่ งใส ออ่ นเยาว์ รักษาสวิ เสี้ยน กระชบั รขู มุ ขน รกั ษาแผลสิว) • นาผงขมิ้นผสมกบั นา้ ผ้งึ ผสมใหเ้ ข้ากนั • ลา้ งหนา้ ให้สะอาด แลว้ นาขมน้ิ ท่ีไดม้ าขดั บนผวิ หนา้ อยา่ งเบามือ จนทัว่ ใบหนา้ • แลว้ พอกท้ิงไว้ประมาณ 5 นาที แลว้ ล้างออกด้วยน้าอนุ่ ๆ 6.สูตรผงขม้ิน / ดนิ สอพอง (ชว่ ยฆา่ เช้ือโรค บรรเทาอาการสวิ ) • นาดนิ สอพองมาผสมกับผงขม้นิ แล้วคนใหเ้ ขา้ กัน • เสรจ็ แล้วนามาแตม้ ที่หัวสวิ • หากจะนามาพอกหนา้ ควรลดปรมิ าณผงขม้นิ ลงจากเดมิ 7.สตู รนา้ ขมิน้ / นมสด / ดนิ สอพอง (ชว่ ยให้ผวิ ชมุ่ ชน่ื เปลง่ ปลง่ั เรยี บ เนยี น ยับย้ังเช้ือแบคทีเรีย แก้อาการผดผืน่ คัน) • การทานา้ ขมิ้นใหน้ าขมิ้นสดมาลา้ งให้สะอาด ห่นั เป็นแว่นแลว้ ตา จนแหลก ผสมกบั นา้ เลก็ น้อย แลว้ กรองเอานา้ ดว้ ยผา้ ขาวบาง • เตรยี มวตั ถุดบิ ดังนี้ นา้ ขมิ้น 1 ช้อนชา / นมสด 2 ช้อนชา / และ ดนิ สอพองสะตุ 5 เม็ดใหญ่

• นาดนิ สอพองมาบดจนละเอียด แลว้ ใส่นมสด นา้ ขมิ้นผสมลงไป คนให้เขา้ กัน • นามาพอกหนา้ ทงิ้ ไวป้ ระมาณ 20 นาที แลว้ ลา้ งออกด้วยนา้ สะอาด 8.สตู รขม้นิ แห้ง / ว่านนางคา / ไพล / ดินสอพอง (สตู รบารงุ ผิว ลดสวิ ) • เตรียมวตั ถดุ ิบดงั น้ี ขมิน้ แหง้ 25 กรมั / ว่านนางคา 200 กรัม / ไพล 50 กรัม / ดนิ สอพอง 1,000 กรัม • นาทุกอย่างมาผสมรวมกันแลว้ บดใหล้ ะเอยี ด • เสรจ็ แล้วนามาพอกหน้าหรอื ผวิ ตวั ประมาณ 10 นาที แลว้ ลา้ ง ออกดว้ ยนา้ อุ่นและตามด้วยนา้ เย็นสลบั กนั • หากคณุ ผวิ มนั ควรนามาผสมกับนา้ มนั มะกรดู เผาไฟ แต่ถา้ คุณเปน็ คนผวิ แหง้ ควรนาไปผสมกับนา้ ผึ้งหรือนมสด