Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2 พลู ใบพลู ประโยชน์ และสรรพคุณพลู

2 พลู ใบพลู ประโยชน์ และสรรพคุณพลู

Description: 2 พลู ใบพลู ประโยชน์ และสรรพคุณพลู

Search

Read the Text Version

กศน.อาเภอชะอวด มาอ่านซิว่า พชื ผัก สมุนไพร ท่ี ครู กศน.อาเภอชะอวด ปลูก มี สรรพคณุ และประโยชนอ์ ะไรบ้าง

พลู พลู (Betel Piper) เปน็ พืชสมุนไพรทอ่ี ย่คู ูก่ ับคนไทยมาต้ังแตส่ มัย โบราณที่รจู้ ักกันในคาพูด พลกู ับหมาก ทน่ี ิยมใชส้ ่วนใบทีม่ รี สเผด็ ร้อนมาเคีย้ วกับปูนขาวหรอื ปูนแดง ร่วมกบั หมาก และใบยาสบู สาหรับรักษาฟัน และบารงุ เหงอื ก จงึ มักพบวา่ คนเคย้ี วหมากมกั มี ฟันแข็งแรง แมอ้ ายถุ งึ วัยชรา ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Piper betle Linn. ชอ่ื วงศ์ : Piperaceae ชื่อสามญั : Betel Piper ชอื่ ท้องถ่นิ : – พลู – พลจู ีน – เปลา้ อว้ น ซีเกา๊ ะ (ใต้) – ซีเก๊ะ – ซีเก – เปล้ายวน – ปู – ดือ่ เจ่ีย

พลู มีถิ่นกาเนดิ ในประเทศอินเดยี มีหลายชนดิ คอื พลจู ีน พลเู หลือง พลูเขียว และพลทู องหลาง สาหรับประเทศไทยมแี หลง่ ปลูกพลทู ่ีปลูกมากในแถบจังหวดั ภาคกลาง ภาคตะวนั ออก และ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ มกั ปลกู เพ่อื การบรโิ ภคในท้องถิน่ และ ปลูกเพอ่ื การคา้ และสง่ ออกตา่ งประเทศในบางสว่ น (สง่ ไปยงั อินเดีย บงั คลาเทศ ปากสี ถาน และกลุ่มประเทศตะวนั ออกกลาง)

ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ รากพลู รากใต้ดินของพลู เปน็ ระบบรากฝอย (ต้นจากการปักชา) โดย พลูประกอบดว้ ยราก 2 ชนิด คอื รากหาอาหาร และรากยึดเกาะ โดยรากยดึ เกาะบางครง้ั เรียกวา่ รากต๊กุ แก แตกออกตามข้อของลา ต้นเพื่อยึดเกาะวัสดุสาหรับชว่ ยพยงุ ลาตน้ เล้ือยขน้ึ ทส่ี งู ได้ และทาให้ ลาตน้ ไมห่ ลดุ รว่ งลงสพู่ นื้ ได้งา่ ย สว่ นรากใต้ดินประกอบด้วยราก ขนาดใหญ่ และรากแขนงท่ีแตกออกเปน็ วงกวา้ งตามขนาดทรงพุม่ ลาต้น พลูเป็นไมเ้ ลื้อย ลาตน้ เปน็ ปลอ้ ง และมีข้อ ขนาดลาตน้ 2.5-5 ซม. ลาต้นมีลกั ษณะอวบนา้ และมรี อ่ งเลก็ ๆสีนา้ ตาลอมแดง ตามแนวยาวของลาตน้ สันรอ่ งมสี ีเขยี ว โดยลาตน้ สว่ นปลายจะมสี ี เขยี ว สว่ นลาต้นสว่ นตน้ จะมสี ีเขียวอมเทา

ใบพลู ใบพลู เปน็ ใบเดย่ี ว ออกเรียงสลับ ใบมีรปู ไขห่ รอื รปู วงกลม แกมรปู ไข่ ใบกวา้ ง 4-10 ซม. ยาว 5-18 ซม. ผิวใบเรยี บ ผิวใบ ดา้ นบนมสี เี ขียวเขม้ มากกวา่ ดา้ นลา่ ง ใบเปน็ ร่องบมุ๋ ด้านใบ มเี ส้นใบ ประมาณ 5-7 เสน้ โคนใบมลี กั ษณะกลมเบี้ยวหรือมลี กั ษณะเป็นรปู หัวใจ ปลายใบแหลมหรอื เรยี วแหลม มีเสน้ ใบนูนเด่น ใบอ่อนมีสี เหลืองออ่ น และค่อยๆเปลีย่ นเป็นสีเขียวอ่อน และสีเขยี วเข้ม เมื่อ แก่เต็มทจ่ี ะมสี เี หลอื ง เนื้อใบคอ่ นขา้ งหนา เปน็ มัน และมกี ลน่ิ ฉุน ใบ ดา้ นลา่ งมกั มขี นาดใหญก่ วา่ ใบด้านบน ดอก ดอกพลู มสี ีขาว ออกรวมกนั เป็นชอ่ มชี อ่ ดอกแบง่ เพศกันอยู่ คนละต้น ประกอบดว้ ยชอ่ ดอกตวั เมีย และดอกตัวผู้ มีใบประดับ ดอกขนาดเลก็ รูปวงกลม ชอ่ ดอกตัวผู้ยาว 2-12 ซม. กา้ นช่อดอก ยาว 1.5-3 ซม. ประกอบด้วยเกสรตัวผู้ 2 อนั มีขนาดสนั้ มาก สว่ น ชอ่ ดอกตัวเมยี มคี วามยาวเท่ากับช่อดอกตัวผู้ แต่มีกา้ นชอ่ ดอกยาว กวา่ ดอกมักบานไมพ่ ร้อมกนั จงึ ทาให้ไมค่ ่อยพบเหน็ ผลของพลู เพราะมีโอกาสผสมเกสรนอ้ ย

ผล และเมล็ด ผลของพลูมีลกั ษณะอัดแน่นทเ่ี กดิ จากดอกในช่อดอก ผลของ พลูมีลกั ษณะคอ่ นขา้ งน่มุ ด้านในประกอบด้วย 1 เมล็ด เมลด็ มี ลกั ษณะกลม ขนาดยาวประมาณ 2.25-2.6 มม. กว้างประมาณ2 มม. ประโยชนข์ องพลู และใบพลู – ใช้รับประทานกบั หมาก และปูนแดง สาหรบั เค้ยี วให้ ฟันแข็งแรง – น้ามนั หอมระเหยจากใบพลู ใช้สาหรบั ปรบั อากาศ ชว่ ยดบั กลนิ่ เหม็นคาว กลนิ่ เหมน็ อบั – ใช้เป็นสารสกดั สมุนไพรสาหรบั กาจัด และป้องกนั แมลง ศัตรพู ชื