ความหมายของวนั ฉัตรมงคล วันฉัตรมงคล (อ่านว่า ฉัด -ตระ-มง-คล) มีความหมายตาม พจนานุกรมว่า พระราชพิธี ฉลองพระเศวตฉัตร ทาในวันซึ่งตรงกับวันบรม ราชาภิเษก ความสาคญั ของวนั ฉัตรมงคล วันฉัตรมงคล เป็นวันท่ีราลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็น พระมหากษตั ริย์ รชั กาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิร เกล้าเ จ้าอยู่ หัว หลั งจาก เสด็จ ขึ้นเถลิ งถวัล ยราชส ม บัติ ต่อจา ก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ บพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 และดารงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว”
ดังนัน้ รัฐบาลไทยและพสกนกิ ร จงึ ไดน้ อ้ มเกลา้ นอ้ มกระหม่อม จัดงานพระราชพิธี ฉลองพระเศวตฉตั รหรือรัฐพธิ ีฉตั รมงคล หรอื อาจเรยี กว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซ่ึง กระทาในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันท่ี 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ท้ังนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราช พธิ ีบรมราชาภเิ ษกน้นั ว่า “เราจะสบื สาน รักษา และตอ่ ยอด และครองแผ่นดินโดย ธรรม เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ต้ังแต่นั้นเปน็ ตน้ มา พสกนิกรชาวไทยจึงได้ถือเอาวันท่ี 4 พฤษภาคม ของ ทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล เพอ่ื นอ้ มราลึกถึงวนั สาคัญน้ี ความเปน็ มาของพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก การจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกน้ัน มีหลักฐานปรากฏในหลักศิลา จารึก วัดศรีชุมของพญาลิไท ว่า เริ่มต้นมาต้ังแต่คร้ัง พ่อขุนผาเมืองได้อภิเษกพ่อ ขนุ บางกลางหาวหรือพ่อขนุ บางกลางท่าว ให้เปน็ ผู้ปกครองเมอื งสโุ ขทัย จากน้ันในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลกมหาราช ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดย พระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะไม่ใช้คาว่า “พระบาท” นาหน้า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และคาส่ังของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า “พระบรมราชโองการ” และอีกประการหน่ึงคือ จะยังไม่มีการใช้ นพปฎล เศวตฉัตร หรือฉตั ร 9 ชั้น
ความเปน็ มาของพระราชพธิ ฉี ตั รมงคล ก่อนหน้ารชั สมยั ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชพิธี ฉัตรมงคลถือเป็นพิธีของเจ้าพนักงานในพระราชฐาน ท่ีมีหน้าท่ีรักษาเครื่อง ราชปู โภคและพระทวาร ประตูวัง ได้จัดการสมโภชสังเวยเคร่ืองราชูปโภคท่ีตน รกั ษาทกุ ปี ในเดอื นหก และเปน็ งานส่วนตวั ไมถ่ ือเป็นงานหลวง จนกระทั่ง สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จข้ึน ครองราชย์ ไดท้ รงกระทาพิธีฉัตรมงคลข้ึนเป็นครั้งแรก ในวันบรมราชาภิเษก เมื่อ วันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2393 โดยมีพระราชดาริว่า วันบรมราชาภิเษกเป็น มหามงคลสมยั ทคี่ วรแก่ การเฉลิมฉลองในประเทศท่ีมีพระเจ้าแผ่นดิน จึงถือให้ วันนน้ั เปน็ วันนักขัตฤกษ์มงคลกาล และควรท่จี ะมกี ารสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้ เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ แต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมใหม่ ยากต่อการเข้าใจ อีกทั้งเผอิญท่ีวันบรมราชาภิเษกไปตรงกับวันสมโภชเครื่องราชูปโภคที่มีแต่เดิม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงอธิบายว่า วันฉัตรมงคลเป็นวัน สมโภชเครื่องราชปู โภค จึงไมม่ ใี ครติดใจสงสยั ดังน้ัน จึงได้มีพระราชดาริจัดงานพระราชกุศลพระราชทานช่ือว่า \"ฉัตรมงคล\" นี้ข้ึน โดยได้มีการเฉลิมฉลองด้วยการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญ พทุ ธมนต์ ในวนั ขึน้ 13 ค่า เดอื น 6 ร่งุ ขึ้นมีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่พระ ท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าการเฉลิม ฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล เริ่มมีในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจา้ อย่หู วั เปน็ คร้งั แรก
ตอ่ มาในสมยั รัชกาลท่ี 5 วนั บรมราชาภิเษก ตรงกบั เดือน 12 จึงโปรด เกล้าฯ ให้จัดงานฉตั รมงคลในเดอื น 12 แต่ไม่ได้รับการยินยอม พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวจึงทรงแก้ไขด้วยการออกพระราชบญั ญตั ิว่าด้วยตรา จลุ จอมเกลา้ สาหรบั ตระกลู ข้ึน ให้มีพระราชทานตราน้ตี รงกับวนั คล้ายบรม ราชาภเิ ษก ทา่ นผู้หลักผู้ใหญ่จงึ ยินยอมให้เลื่อนงานฉตั รมงคลมาตรงกับวนั บรม ราชาภเิ ษก แต่ยังให้รักษาประเพณสี มโภชเคร่อื งราชูปโภคอยูต่ ามเดมิ รูปแบบ งานวันฉัตรมงคลจึงเปน็ เช่นนี้จนถึงปัจจบุ นั พระราชพธิ ีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบนั ในรัชกาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ัดงาน 3 วัน นนั่ คอื วันฉัตรมงคล ตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบด้วย สรงพระมุรธาภิเษก ณ ชาลาพระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงรับน้าอภิเษก ณ พระท่ีนั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราช- วราภรณ์ และพระแสง ณ พระที่น่ังภัทรบิฐ เล้ียงพระ พระสงฆ์ดับเทียนชัย ณ พระที่นั่งอมรนิ ทรวินจิ ฉยั วันที่ 5 พฤษภาคม เปน็ พระราชพิธเี ฉลมิ พระปรมาภิไธย พระ นามาภไิ ธย สถาปนาพระฐานันดรศักด์ิพระบรมวงศ์ และเสดจ็ พระราชดาเนิน เลยี บพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตราสถลมารค จากพระทนี่ ่งั อาภรณ์ภิโมกข์ ปราสาท วดั บวรนเิ วศวหิ าร วดั ราชบพธิ สถิตมหาสมี าราม และวดั พระเชตพุ น วิมลมงั คลาราม วันที่ 6 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั เสดจ็ ออก ณ สหี บญั ชร พระทีน่ ่ังสทุ ไธสวรรยปราสาท ใหป้ ระชาชนเฝา้ ฯ ถวายพระพรชยั มงคล เสด็จออกให้ทตู านุทูตและกงสุลต่างประเทศเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นง่ั จักรมี หาปราสาท
กจิ กรรมทค่ี วรปฏบิ ัติในวนั ฉัตรมงคล ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ ร่วมทาบุญ ตักบาตร ประกอบพิธีทางศาสนา เพ่ือถวายเป็นพระราชกุศล น้อมเกล้าน้อม กระหม่อมถวายพระพรชัยพร้อมเพรียงกัน กล่าวคาถวายอาศิรวาทราชสดุดี ถวายชัยมงคลให้ทรงพระเกษมสาราญ ทรงเจริญพระชนมพรรษาย่ิงยืนนาน เปน็ มหามงิ่ ขวญั แก่พสกนิกรชาวไทยไปช่วั กาลยง่ิ ยนื นาน เม่ือวันฉัตรมงคลเวียนมาบรรจบครบรอบอีกหน่ึงครา ในวนั ที่ 4 พฤษภาคม พสกนิกรชาวไทยทงั้ หลายจึงควรระลกึ ถงึ พระมหากรุณาธิคณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันมีคุณอนันต์แก่ปวงชน ชาวไทยอย่างหาทสี่ ุดมไิ ด้ กศน.อาเภอชะอวด สานักงาน กศน.จังหวัดนครศรธี รรมราช
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: