กศน.อาเภอชะอวด มาอา่ นซิว่า พชื ผกั สมุนไพร ที่ ครู กศน.อาเภอชะอวด ปลกู มี สรรพคุณ และประโยชนอ์ ะไรบ้าง
มะมว่ งหมิ พานต์ มะมว่ งหิมพานต์ ชื่อสามัญ Cashew, Cashew nut (แคชชนู ทั ) มะมว่ งหมิ พานต์ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Anacardium occidentale L. จัดอยใู่ นวงศ์มะมว่ ง (ANACARDIACEAE) สมนุ ไพรมะม่วงหมิ พานต์ มชี ่อื ท้องถิน่ อื่น ๆ วา่ มะมว่ งสิโห (เชยี งใหม)่ มะโห (แมฮ่ อ่ งสอน) มะม่วงกาสอ (อตุ รดิตถ์) มะม่วงเลด็ ลอ่ มะมว่ งยางหบุ (ระนอง) กายี (ตรัง) สม้ มว่ งทูนหนว่ ย มะมว่ งทนู หนว่ ย (สุราษฎรธ์ าน)ี กะแตแก (นราธวิ าส) นายอ (ยะละ) ยาโงย ยารว่ ง (ปตั ตานี) มะมว่ งหมิ พานต์ มะมว่ งไมร่ ้หู าว (ภาคกลาง)
มะม่วงกลุ า มะมว่ งลังกา มะมว่ งหยอด มะม่วงสินหน (ภาคเหนอื ) กาหยู กาหยี ม่วงเมด็ ลอ่ ม่วงเลด็ ล่อ หวั ครก ท้ายลอ่ ตาหนาว สม้ มว่ งชหู น่วย (ภาคใต)้ เป็นตน้ ลกั ษณะของมะมว่ งหิมพานต์ •ต้นมะมว่ งหมิ พานต์ เป็นไมย้ นื ต้นขนาดกลาง เมื่อโตเตม็ ที่จะ มีความสงู โดยเฉลยี่ 6 เมตร (สามารถสงู ได้ถงึ 12 เมตร) ลาต้นเน้ือ ไมแ้ ข็ง มีกงิ่ แขนงแตกออกเป็นพุ่มแนน่ ทรงกลมถงึ กระจาย เปลือก หนาผวิ เรยี บมสี นี า้ ตาลเทา ในบา้ นเราสามารถพบมะมว่ งหมิ พานต์ ได้ทั่วไปในภาคใต้ •ใบมะมว่ งหมิ พานต์ ใบเป็นใบเดย่ี วเรยี งเวียน ใบหนาเกลย้ี ง เหมอื นแผ่นหนัง ใบคล้ายรปู ไข่กลับหวั ถึงรปู รีกวา้ ง ปลายใบกลม โคนใบแหลม เน้อื ใบมกี ลิน่ หอม ใบมีขนาดกว้างประมาณ 6-10 เซนตเิ มตร และยาวประมาณ 8-20 เซนตเิ มตร
• ดอกมะม่วงหมิ พานต์ ดอกออกเป็นช่อกระจาย ดอกมีสขี าว หรือสีเหลอื งนวล และจะเปลีย่ นไปเป็นสีชมพู ช่อดอกแตล่ ะชอ่ ประกอบดว้ ยดอกย่อยจานวนมาก และมกี ลบี เลย้ี งสเี ขยี วขนาดเลก็ โคนดอกเชอ่ื มตดิ กนั ดอกหน่ึงมปี ลายแยกเป็นกลบี 5 กลีบ ปลาย แหลมเรยี ว ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผปู้ ระมาณ 8-10 อนั หลงั จาก ดอกร่วงจะตดิ ผล •ผลมะม่วงหมิ พานต์ มีลกั ษณะคลา้ ยผลชมพูห่ รอื ลูกแพร์ ผล เป็นพวงห้อยลงมา ขนาดผลยาวประมาณ 5-8 เซนตเิ มตร เนื้อผลฉา่ น้ามกี ลิ่นหอม ผลออ่ นมสี ีเขยี วหรอื เหลืองอมชมพู แตเ่ ม่ือผลสกุ จะ เปลยี่ นเป็นสีเหลอื งหรือสีสม้ แดง ทป่ี ลายผลมีเมลด็ อยู่ 1 เมลด็ มี ลักษณะคลา้ ยรปู ไต เปลอื กนอกแข็งและยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีนา้ ตาลอมเทา
•เมด็ มะมว่ งหิมพานต์ เป็นผลมีเปลือกแข็ง มีเมลด็ เดียว ลกั ษณะคลา้ ยรูปไต หรอื คล้ายนวมของนักมวย มสี ีนา้ ตาลปนเทา ข้างในผลมเี มลด็ คลา้ ยรูปไต สรรพคณุ ของมะม่วงหิมพานต์ 1.แพทยใ์ นอินเดียใชเ้ มลด็ เลี้ยงเดก็ ทารกทีอ่ ายุเกิน 6 ขวบ เพือ่ ชว่ ยใหร้ า่ งกายเจริญเตบิ โตไดเ้ รว็ และแขง็ แรง 2.เม็ดมะมว่ งหิมพานตอ์ ดุ มไปดว้ ยธาตทุ องแดง จึงชว่ ยบารุง เสน้ ผมและผวิ หนงั ได้เปน็ อย่างดี
3.สรรพคุณเม็ดมะมว่ งหิมพานต์ ช่วยลดความเส่ยี งของการเกิด โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด 4.เมด็ มะมว่ งหมิ พานตม์ ีสรรพคณุ ช่วยป้องกันโรคมะเรง็ ชว่ ย ลดความเส่ียงของการเกดิ โรคมะเร็งลาไส้ใหญไ่ ด้ 5.เม็ดมะมว่ งหมิ พานต์มีธาตแุ มกนีเซยี มในปริมาณมาก จึงช่วย บารงุ สุขภาพเหงอื ก สขุ ภาพฟันและกระดูกใหแ้ ขง็ แรง ป้องกันการ เกิดโรคกระดูกพรนุ ในผู้สงู อายไุ ด้ 6.การรบั ประทานเม็ดมะมว่ งหมิ พานต์เปน็ ประจาจะช่วย ป้องกนั โรคจอประสาทตาเสื่อมได้ 7.การวิจัยในบราซิลและอินเดียพบว่าสารสกัดจากเปลือกต้น และสารสกดั จากส่วนเหนอื ดินของตน้ สามารถชว่ ยลดระดับนา้ ตาล ในเลอื ดได้ 8.เมลด็ มกี รดไลโนเลอิก (Linoleic acid) ซงึ่ ชว่ ยป้องกันโรค ไขมันอดุ ตันในเส้นเลอื ด ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกีย่ วกับทรวงอก ได้ 9.แมกนีเซยี มจากเม็ดมะม่วงหมิ พานต์สามารถชว่ ยลดความดนั โลหติ ได้ 10.เมลด็ มกี รดไขมนั อิ่มตวั ในปริมาณมาก จงึ ช่วยในการ ปอ้ งกันโรคไขมันตบั และไมใ่ หส้ ะสมในร่างกายมากจนเกินไป จงึ ไม่ ทาใหอ้ ว้ น 11.เมด็ มะมว่ งหมิ พานตม์ แี มกนเี ซียมสูง โดยแรธ่ าตุชนิดจะ ช่วยในการทางานของหวั ใจ มีบทบาทสาคญั ในการเปลยี่ นน้าตาลให้ เปน็ พลงั งาน ชว่ ยป้องอาการหมดเรยี่ วแรงได้เป็นอยา่ งดี
12.ชว่ ยรกั ษาโรคฟนั ผุ บรรเทาอาการเสียวฟันหรือปวดฟันได้ เนื่องจากเม็ดมะมว่ งหมิ พานต์มีกรดอนาร์ดกิ ท่ีมีคณุ สมบัตชิ ว่ ยกาจัด เชือ้ แบคทเี รยี ซ่ึงเป็นสาเหตขุ องโรคฟนั ผไุ ด้ แตอ่ ยา่ งไรก็ดกี ารแปรง ฟนั กย็ ังคงเปน็ วธิ ที ด่ี ีท่สี ดุ เน่ืองจากกรดชนดิ นจ้ี ะออกฤทธเิ์ พียงแค่ 15 นาทีเท่านน้ั (ชารล์ ส์ เวเบอร์ นกั วิทยาศาสตร์จากนอรท์ แคโรไล นา สหรฐั อเมรกิ า) 13.กรดอนารด์ ิกในเมด็ มะมว่ งหมิ พานต์สามารถนาไป ประยกุ ตใ์ ชก้ ับโรคอ่นื ๆ ได้ เช่น วณั โรค โรคเร้ือน กาจดั เช้อื โรคท่ี พบในสวิ เปน็ ต้น (ชาร์ลส์ เวเบอร์ นกั วิทยาศาสตรจ์ ากนอรท์ แค โรไลนา สหรฐั อเมรกิ า) 14.ชาวโบลีเวียเชอื่ วา่ นา้ จากผลสามารถช่วยกระตุ้นสมองแลว้ ทาใหม้ คี วามจาดขี น้ึ (ผล) 15.ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคประสาทพกิ ารและชว่ ย แกโ้ รคปวดตามขอ้ ได้ (ผล) 16.มะมว่ งหมิ พานต์มีสรรพคณุ ช่วยลดไข้ (ผล, ใบ) 17.ช่วยแก้อาการเลือดออกตามไรฟนั (ยางจากต้น) 18.ชว่ ยแกอ้ าการปวดฟนั ใชก้ ล้ัวคอล้างปาก (เปลือกตน้ ) 19.ใบสดนามาเผาไฟแลว้ สูดดมควันจะชว่ ยรักษาและบรรเทา อาการไอ อาการเจบ็ คอได้ (ใบสด) 20.ชว่ ยแกอ้ าเจยี น รักษาแผลในช่องปาก (นา้ จากผล) 21.ช่วยในการขบั เหง่อื (น้าจากผล) 22.เมลด็ นามาควั่ โรยเกลือรบั ประทานเป็นยาแก้อาการบวมน้า ได้ (เมลด็ ค่วั )
23.การรบั ประทานเม็ดมะมว่ งหิมพานตจ์ ะช่วยในการย่อย อาหารได้เปน็ อย่างดี (เมลด็ ) 24.รากมะมว่ งหิมพานต์มสี รรพคณุ ชว่ ยแก้ทอ้ งร่วงและเป็นยา ฝาดสมาน (ราก) 25.ชว่ ยบรรเทาอาการทอ้ งรว่ ง (ยอด, ใบ) 26.ในบราซลิ นิยมนาผลมาทาเปน็ ไวน์ เพราะเชอื่ วา่ มัน สามารถช่วยรกั ษาโรคบิดเรื้อรงั ได้ (ผล) 27.ใบยอดอ่อนมสี รรพคณุ ชว่ ยสมานแผลในลาไส้ ช่วยรกั ษา แผลในกระเพาะอาหาร และบรรเทาอาการของโรคท้องรว่ งได้ (ใบ) 28.นา้ คัน้ จากผลใชด้ ื่มเป็นยาขบั ปสั สาวะได้ (ดร.วทิ ย์ เทยี่ ง บูรณธรรม) (นา้ คนั้ จากผล, เมล็ดคว่ั ) 29.การรบั ประทานเมด็ มะมว่ งหิมพานต์จะช่วยป้องกนั และลด ความเสยี่ งของการเกิดโรคน่วิ ได้ (เมล็ด) 30.ชว่ ยบรรเทาอาการของโรคริดสดี วงได้ (ใบ) 31.ชว่ ยตา้ นกามโรค (น้าจากผล) 32.ใช้รกั ษาโรคผิวหนงั พพุ องและกามโรคเข้าข้อได้ (เปลือก ต้น) 33.ใช้เป็นยาแกป้ วดเน่อื งจากรามะนาด (เปลือกตน้ ) 34.ใชเ้ ปน็ ยารักษาหดู ดว้ ยการใช้ยางจากผลสดที่ยงั ไมส่ กุ 1 ผล ท่ีเด็ดออกมาใหม่ ๆ แลว้ ใช้ยางทาตรงบริเวณทีเ่ ปน็ หูด ทาเป็น ประจาจนกวา่ จะหาย (ยางจากผลสด, ยางจากต้น)
35.ช่วยทาลายตาปลา ชว่ ยกัดทาลายเนื้อดา้ นทเี่ ป็นปมุ่ โตหรือ โรคเทา้ แตกได้ ด้วยการใช้ยางจากตน้ สดทาบริเวณท่ีเปน็ ตาปลาหรอื เน้อื ด้านบ่อย ๆ จนกวา่ จะหาย (ยางจากต้น) 36.เมล็ดใชผ้ สมเปน็ ยารบั ประทาน ชว่ ยแกโ้ รคผวิ หนงั กลาก เกลือ้ น โรคเร้อื น ทาใหห้ นังชา (เมล็ด, น้ามนั จากเมลด็ ) 37.นา้ มนั สกดั จากเมล็ดมะมว่ งหิมพานต์ สรรพคุณใชเ้ ปน็ พิษ ตา้ นเชือ้ จลุ ินทรีย์ โดยเฉพาะเชือ้ หนองชนิด Staphylococus (การ สูดดมนา้ มนั ชนิดนอี้ าจทาให้เกิดการระคายเคือง มพี ษิ รนุ แรง และ ควรระวงั เมอ่ื ตอ้ งใช้กบั เดก็ ) 38.ช่วยรกั ษาแผลไฟไหม้ นา้ ร้อนลวก ด้วยการใชใ้ บแก่นามา บดใสบ่ ริเวณทีเ่ ปน็ แผล (ใบแก)่ ประโยชนข์ องมะม่วงหมิ พานต์ 1.ประโยชนข์ องเมด็ มะมว่ งหมิ พานต์ ช่วยตอ่ ตา้ นอนมุ ลู อิสระ ซึ่งเป็นสาเหตขุ องปัญหาสขุ ภาพตา่ ง ๆ ไดด้ ี 2.ประโยชนข์ องมะมว่ งหมิ พานต์ชว่ ยเพ่ิมพลังงานใหก้ บั ร่างกายได้เป็นอย่างดี 3.เมด็ มะมว่ งหมิ พานต์สามารถชว่ ยรกั ษารปู รา่ งใหส้ มสว่ นได้ เพราะมีเสน้ ใยอาหารสูง จึงชว่ ยลดการดดู ซมึ ไขมันได้ 4.การรบั ประทานถวั่ เปน็ ประจาจะชว่ ยทาให้อิ่มนานขนึ้ และ รับประทานอาหารไดน้ อ้ ยลงอีกดว้ ย (ควรรบั ประทานในปริมาณที่ เหมาะสม)
5.เมด็ มะมว่ งหิมพานตเ์ ปน็ ผลไม้ทผี่ ปู้ ่วยโรคเกาตส์ ามารถ รบั ประทานไดอ้ ย่างไมม่ ปี ญั หาอะไร เพราะเป็นผลไมท้ ่ีมีสารพวิ รีน นอ้ ยหรือไมม่ ีเลย 6.เมลด็ มะมว่ งหิมพานต์นิยมนามารบั ประทานเป็นอาหารว่าง และยงั เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ส่งออกของประเทศอนิ เดยี เวียดนาม และ บราซลิ อกี ดว้ ย (90% ของการส่งออกทัว่ โลกมาจากสามประเทศนี)้ 7.ผลของมะมว่ งหมิ พานต์มีเน้อื นิ่ม ฉ่าน้า รสเปร้ียว สามารถ รบั ประทานเป็นผลไมส้ ดไดท้ ง้ั ผลดบิ และผลสุก 8.ผลห่ามของมะมว่ งหมิ พานต์ ทางภาคใตข้ องไทยนยิ มนาใช้ ทาแกงสม้ หรือใช้ยา 9.มะม่วงหิมพานต์ ประโยชน์ผลดบิ ใช้รับประทานรว่ มกับเกลอื เปน็ ของกินเลน่ ได้ 10.ผลสุกสามารถนาไปหมักทาไวน์ ทาน้าสม้ สายชู หรือ เครอ่ื งดื่มชนิดอืน่ ๆได้ 11.เมล็ดสามารถนาไปประกอบอาหารได้ เมนเู มด็ มะมว่ งหมิ พานต์ เชน่ เมด็ มะม่วงหิมพานตท์ อด ไก่ผดั เมด็ มะม่วงหมิ พานต์ แหนมผดั เมด็ มะมว่ งหมิ พานต์ เตา้ หผู้ ดั เมด็ มะม่วงหมิ พานต์ ขนมจนี ผัดเม็ดมะม่วงหมิ พานต์ เป็นตน้ 12.ใบออ่ น ยอดออ่ น สามารถใช้รบั ประทานเป็นผกั สดร่วมกับ นา้ พริก หรือแกงเผด็ ลาบ ก้อย ขนมจีนน้ายาได้ 13.ใบแกส่ ามารถนามาขยแี้ ละใช้สีฟันได้ 14.ไมจ้ ากลาตน้ เปน็ ไม้เนอ้ื ออ่ นและมขี นาดเล็ก มันจงึ เหมาะที่ จะนาไปใช้ทาลังไม้ หรือหบี ใสข่ อง ทาเฟอรน์ ิเจอร์ ใชต้ ่อเรือ ใชท้ า
เรอื เอก แอกเทียม วัวเทยี มควายเทยี ม คมุ ลอ้ เกวียน และยังนาไป ทาเป็นฟนื และถ่านได้อกี ด้วย 15.ยางจากเปลือกของเมล็ดมะมว่ งหิมพานต์ ควาญชา้ งใน ประเทศอินเดียนามาใช้เพ่ือคมุ ชา้ งให้เช่อื งได้ 16.ยางจากลาต้น สามารถนามาใช้ทาบา้ นกันปลวกได้ 17.เปลอื กต้นหรอื เปลือกเมลด็ มปี ระโยชน์หลายอย่างในด้าน ของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เชน่ สามารถนาไปทาเปน็ ผา้ เบรค และ แผน่ คลัชได้ ซึ่งจะมคี ณุ สมบัติทนความร้อนทเ่ี กดิ จากแรงเสยี ดไดส้ งู หรอื นามาใช้ทาฉนวนปอ้ งกนั ไฟฟ้าแมกนิเตอรเ์ มเตอร์ ใชท้ านา้ ประสานในการบดั กรีโลหะ นา้ มนั ชกั เงาสาหรบั ใชใ้ นเครือ่ งบนิ ใช้ ผสมทานา้ หมึก ทาหมกึ ประทบั ตราผา้ ทาเป็นลกู กลงิ้ ยางพมิ พด์ ีด ทากาว ใชย้ อ้ มอวนทนทาน ผลติ ภัณฑป์ พู นื้ ใชผ้ สมปูนซเี มนต์ทาให้ เหนียวขน้ึ ใชก้ าจดั ตัวอ่อนของยุงดว้ ยการผสมกับพาราฟนิ เหลว ผลิตภัณฑ์ทาไมป้ อ้ งกันปลวก ยาฆา่ แมลงและปลวก เป็นตน้ 18.เย่ือหมุ้ เมลด็ ถ้ามปี รมิ าณมาก อาจใชเ้ ป็นวตั ถดุ บิ ในการ ผลิตแทนนนิ ทใ่ี ชใ้ นอุตสาหกรรมฟอกหนงั ได้ 19.ประโยชนข์ องเปลือกเมล็ดสกัดเป็นนา้ มนั ในดา้ น การแพทยส์ ามารถใชร้ ักษาผูป้ ว่ ยทเี่ ป็นโรคเหน็บชา วณั โรค โรค เทา้ ช้าง โรคเลือดคั่ง โรคเรอ้ื น โรคผวิ หนงั หดู ตาปลา และสน้ เทา้ แตกได้ 20.ประโยชน์ของเปลอื กเมลด็ กส็ ามารถใชป้ ระโยชน์ในดา้ น ความงามได้ เช่น ใช้ลอกหนา้ ท่ีเกดิ จากการตกกระ (แต่อาจส่งผล เสียได)้ เปน็ ต้น
21.ผลของมะม่วงหมิ พานตม์ กี ลิ่นตา่ ง ๆ ถงึ 20 กล่ิน จึง สามารถนามาสกดั ทาเป็นหัวนา้ หอมได้ 22.ผลนอกจากใชร้ บั ประทานเปน็ ผลไม้ ยังสามารถนามาเป็น อาหารสตั ว์ของ โค กระบือ ได้อีกดว้ ย 23.ผลสามารถนาไปแปรรปู เปน็ ผลติ ภัณฑไ์ ดอ้ ยา่ งหลากหลาย เช่น แยม ผลไมก้ วน เครื่องดม่ื น้ามะมว่ งหมิ พานต์ ไวน์ นา้ สม้ สายชู เปน็ ต้น 24.เมล็ดสามารถนาไปแปรรปู ทาเป็นผลิตภัณฑไ์ ด้ เชน่ เม็ด มะม่วงหมิ พานตอ์ บเกลือ เม็ดมะมว่ งหมิ พานต์ควั่ อบเนย อบน้าผ้ึง เป็นต้น
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: