Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วย6

หน่วย6

Published by panwad.panwad.11, 2018-09-06 08:52:40

Description: หน่วย6

Search

Read the Text Version

นางสาวปานวาด วงษ์บัวงามปวส.2 คอมพิวเตอร์ธุรกิจหอ้ ง 1 เลขท่ี 24

อุปกรณ์สาหรับเชื่อมต่อเครอื ข่ายประเภท LAN1. สาย LANสายแลน (Lan Cable) เป็นสายนาสัญญาณท่ีใช้ต่อกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายอย่างSwitch หรอื Hub และสายแลนก็ใชต้ อ่ กับ โมเด็มเราเตอร์เพื่อเช่ือมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย การส่งข้อมลู ระหวา่ งคอมพิวเตอร์กบั คอมพิวเตอร์โดยตรงกส็ ามารถทจี่ ะใชส้ ายแลนในการเชอ่ื มต่อได้เช่นกนั2. การ์ดทใี่ ชใ้ นการเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยการ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย หรือเรียกว่าการ์ด LAN เป็นการ์ดสาหรับต่อเคร่ืองพีซี เข้ากับสายเคเบิล ดังน้ันจึงต้องมพี อรต์ สาหรับเสยี บสายแบบใดแบบหน่ึงท่ีจะใช้ หรืออาจมีพอร์ตสาหรับสายหลายแบบก็ได้ เช่น มีพอร์ตสาหรับสายโคแอกเชยี ล และสาหรบั สายคู่ตเี กลียว แต่สาหรับการ์ดรุ่นใหม่ๆ มักจะเหลือแต่พอร์ตสาหรับสายคู่ตีเกลียวเพราะปัจจุบันกาลังเปน็ ทีน่ ิยม นอกจากน้ียังมีการ์ดท่ีทามาสาหรับใช้ต่อกับสายใยแก้วนาแสงซึงมักจะมีราคาแพงและใช้เฉพาะบางงาน3. อุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการเชอื่ มโยง1. เครอ่ื งทวนสัญญาณ (Repeater) เปน็ อุปกรณ์ท่ีทาหน้าทข่ี ยายหรือเพิม่ ระยะทางการส่ือสารของเครือข่ายในการส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายตามมาตรฐานต่าง ๆ เช่น ในมาตรฐานการส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายใช้10BaseT ซึ่งมีข้อกาหนดของมาตรฐานการเชื่อมต่อระบบได้ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร ถ้าความยาวของระบบมากกว่า 100เมตร ต้องมเี ครือ่ งทวนสัญญาณในการขยายสญั ญาณเพื่อใหเ้ ปน็ ระบบเครอื ข่ายเดียวกนั2. บริดจ์ (Bridge) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เช่ือมต่อระบบ LAN เข้าด้วยกันโดยออกแบบมาเพ่ือใช้ติดต่อระหว่างเครือข่ายท้องถ่ิน LAN จานวน 2 เครือข่ายท่ีมีโปรโตคอลเหมือนกันหรือต่างกัน เพื่อให้สามารถขยายขอบเขตของ LANออกไปได้ โดยประสิทธิภาพในทางรวมลดลงไม่มากเน่ืองจากการติดต่อของเครื่องอยู่ในเซกเมนด์เดยี วกันจะไมม่ ีการสง่ ผา่ นต่างเซกเมนด์ (Segment)

3. ฮับ (Hub) เป็นอุปกรณ์ท่ีทาหน้าที่กระจายช่องทางการส่ือสารข้อมูลได้หลายช่องทางในระบบเครือข่ายโดยการขยายสัญญาณท่ีส่งผ่านมา ทาให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ผ่านสายเคเบิลได้ใกล้ข้ึน และใช้กับระบบเครือข่ายแบบ Star ในปัจจุบันHub มีความเร็วในการส่ือสารแบบ 10 และ 100 Mbps ลักษณะการทางานของ Hubจะแบ่งความเร็วตามจานวนช่องสัญญาณ (Port) ท่ีใช้งานตามมาตรฐานความเร็วเช่น ระบบเครอื ขา่ ยใชม้ าตรฐานความเร็วเปน็ แบบ 10 Mbpsและมีเครอื่ งคอมพิวเตอร์ท่ตี ่อในระบบ 5 เคร่ืองแต่ละเครื่องสามารถส่อื สารกันภายในระบบโดยใชค้ วามเร็วเทา่ กบั 10/5 คอื 2Mbps4. สวิตช์ (Switch) สวิตซ์หรือ อีเธอร์เนตสวิตช์ (Ethernet Switch) เป็นอุปกรณ์ท่ีทาหน้าท่ีกระจายช่องทางการสื่อสารข้อมูลหลายช่องทางในระบบเครือข่าย คล้ายกับ Hubต่างกันตรงท่ีลักษณะการทางานและความสามารถในเรื่องของความเร็ว การทางานของSwitch ไม่ได้แบ่งความเร็วตามจานวนช่องสัญญาณ(port)ตามมาตรฐานความเร็วเหมือน Hub โดยแต่ละช่องสัญญาณ (port)จะใช้ความเร็วเป็นอิสระต่อกันตามมาตรฐานความเร็ว เช่นระบบเครือข่ายใช้มาตรฐานความเร็วเป็นแบบ 100 Mbpsและมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีต่อในระบบ 5 เครือ่ งแตล่ ะเคร่ืองก็จะส่อื สารกนั ภายในระบบโดยใช้ความเร็วเท่ากบั 100 Mbps.5. เราท์เตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีเชื่อมต่อระบบเครือข่ายต่างชนิดกันหรือใช้โปรโตคอลต่างกันเข้าด้วยกัน คล้าย ๆ กับ Bridgeแต่ลักษณะการทางานของ Router น้ันจะซับซ้อนกว่าเพราะนอกจากจะเชื่อมต่อแล้วยังเก็บสภาวะของเครือข่ายแต่ละส่วน (Segment)ด้วย และสามารถทาการกรอง (Filter)หรือเลือกเฉพาะชนิดของข้อมูลท่ีระบุไว้ว่าให้ผ่านไปได้ทาให้ช่วยลดปัญหาการจราจรท่ีคับคั่งของข้อมูลและเพ่ิมระดับความปลอดภัยของเครือข่ายซึ่งสภาวะของระบบเครือข่ายท่ีเช่ือมต่อกันนี้ Routerจะจัดเก็บในรูปของตารางท่ีเรียกว่า Routing Table ซึ่งตาราง Routing Tableน้ีจะมีประโยชน์ในด้านของความเร็วในการหาเส้นทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างระบบเครือข่ายโดยเฉพาะกับระบบเครือข่ายที่ซับซ้อนมาก ๆ เช่น ระบบMAN, WANหรือ Internet เปน็ ต้น6. เกตเวย์ (Gateway) เป็นอุปกรณ์ท่ีทาให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่ายหรือมากกว่าท่ีมีลักษณะไม่เหมือนกันสามารถติดต่อกันได้เหมือนเป็นเครือข่ายเดียวกันเปรียบเสมือนเป็นประตูทางผ่านในการส่ือสารข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ต่างชนิดกัน เช่น ระหว่างเคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ท่ัว ๆไปกับเคร่ืองมนิ ิคอมพิวเตอร์ หรือเมนเฟรมซ่ึงเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น อุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีเป็นGatewayนน้ั อาจจะใช้คอมพวิ เตอร์เครื่องใดเคร่ืองหนงึ่ ทาหนา้ ท่ีก็ได้7. โมเด็ม (Modem) เป็นอุปกรณ์ท่ีทาหน้าท่ีในการแปลงสัญญาณจากดิจิตอล (Digital)ให้เป็นสัญญาณอนาล็อก (Analog) และจากสัญญาณอนาล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิตอลโมเด็มเป็นอุปกรณ์ท่ีมีความสาคัญ ในการส่ือสารบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพราะโมเด็มทาหน้าท่ีในการแปลงสัญญาณ คอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณท่ีอุปกรณ์สื่อสารอ่ืน ๆ ในระบบเครือข่ายสามารถเข้าใจได้หลังจากน้ันเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีรับข้อมูลต้องมีโมเด็มเพ่ือแปลงสัญญาณจากอุปกรณ์ส่ือสารให้เป็นสัญญาณ ที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ซ่ึง

ความสามารถของโมเด็มสามารถวัดได้จากความเร็วในการรับส่งข้อมูลจานวน 1บิตต่อ 1 วินาที (บิตต่อวินาที)หรือ bps (bit per second) ปัจจุบัน Modemมีสองประเภท คือ โมเด็มท่ีติดต้ังไว้ในเครื่อง (InternalModem)และโมเด็มที่ไม่ได้ติดต้ังไว้ในเคร่ือง (External Modem)ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม4. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ท่ใี ชใ้ นระบบเครือข่ายเครอื ข่ายระยะใกล้ หรือเครอื ข่ายท้องถน่ิ (LAN) เปน็ รูปแบบการทางานของระบบเครือข่ายแบบหน่ึง ท่ีช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) เคร่ืองพิมพ์ (Printer) และอุปกรณ์ใช้งานทางคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ สามารถเชอ่ื มโยงเอกสาร สง่ ข้อมูลติดต่อใชง้ านรว่ มกนั ได้ การติดต่อส่อื สารของอุปกรณ์ จะอยู่ในบริเวณแคบ โดยทั่วไปมีระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร เช่น ภายในอาคารสานักงานภายในคลังสินค้า โรงงาน หรือระหว่างตึกใกล้ ๆเชื่อมโยงด้วย สายส่ือสารจึงทาให้มีความเร็วในการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูงมาก และมีความผิดพลาดของขอ้ มูลตา่5. ซอฟต์แวรเ์ ครือขา่ ยซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเครือข่าย หมายถึง ซอฟต์แวร์ท่ีทาหน้าท่ี จัดการระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์เพ่ือให้คอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย สามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปล่ียนข้อมูลกันได้อย่างถูกต้องและมีประสทิ ธิภาพ ทาหนา้ ที่จัดการด้านการรักษาความปลอดภัย ของระบบเครือข่าย และยังมีหน้าท่ีควบคุมการนาโปรแกรมประยุกต์ ด้านการติดต่อสื่อสาร มาทางานในระบบเครือข่ายอีกด้วย นับว่าซอฟต์แวร์ระบบปฏบิ ัติการเครือข่าย มีความสาคัญต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างย่ิง ตัวอย่าง ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ระบบปฏิบัติการWindows NT , Linux , Novell Netware , Windows XP ,Windows 2000 , Solaris ,Unix เป็นต้น6. โปรโตคอลโปรโตคอล คือ ข้อกาหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ หรือภาษาสื่อสารท่ีใช้เป็นภาษากลางในการสอื่ สารระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกัน การท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถตดิ ต่อสือ่ สารกันได้นั้น จาเป็นจะตอ้ งมกี ารสือ่ สารทีเ่ รียกวา่ โปรโตคอล (Protocol) เช่นเดยี วกับคนเราที่ต้องมีภาษาพูดเพื่อให้สื่อสารเข้าใจกันได้ โปรโตคอลช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์สองระบบ ที่แตกต่างกันสามารถสื่อสารกันอย่างเข้าใจได้ คือข้อตกลงที่กาหนดเก่ียว กับการส่ือสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆทัง้ วิธีการส่งและรับข้อมูล วิธีการตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของการส่งและรับข้อมูล การแสดงผลข้อมูลเมื่อส่งและรับกนั ระหวา่ งเคร่ืองสองเครือ่ ง ดังนนั้ จะเหน็ ได้วา่ โปรโตคอลมคี วามสาคัญมากในการส่ือสารบนเครือข่าย หากไม่มโี ปรโตคอลแล้ว การส่ือสารบนเครือข่ายจะไมส่ ามารถเกิดขึน้ ได้

7. โมเดม็โมเด็ม (modem ย่อมาจากคาว่า modulate and demodulate) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีกล้าสัญญาณหรือปรับเปลีย่ นลกั ษณะสมบัตอิ ย่างใดอย่างหน่ึงหรือหลายๆอย่างของรูปสัญญาณคลื่นพาห์(สัญญาณที่เป็นตัวขนส่งความถี่สูง)ด้วยสัญญาณข้อมูลท่ีจะถูกส่งผ่าน เช่น กระแสบิตดิจิตอล(digital bit stream)หรือสญั ญาณเสยี งอนาล็อก การกล้าสัญญาณรูปคล่ืนไซน์จะแปลงสัญญาณข้อความ baseband เป็นสัญญาณpassband และแปลงกลับในทิศทางตรงขา้ ม จุดประสงค์ของโมเด็มคือการสรา้ งสัญญาณที่ง่ายต่อการส่งข้อมูลและงา่ ยตอ่ การประมวลผล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook