นางสาวปานวาด วงษ์บัวงามปวส.2 คอมพิวเตอร์ธุรกจิ หอ้ ง 1 เลขท่ี 24
การสื่อสารขอ้ มูลและเครือข่ายคอมพวิ เตอร์เบอื้ งต้น1. ความรเู้ บือ้ งต้นเกย่ี วกบั เครือขา่ ยเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ (computer network) เป็นการเช่อื มตอ่ คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณต์ ่อพว่ งเข้าดว้ ยกนัเพอ่ื ใหส้ ามารถใช้ข้อมูลทรพั ยากรร่วมกนั ได้ เชน่ สามารถใช้เครอื่ งพิมพร์ ว่ มกนั สามารถใชฮ้ ารด์ ดิสก์ร่วมกันแบ่งปนั การใช้อุปกรณอ์ ื่นๆ ที่มรี าคาแพงหรือไม่สามารถจัดหาให้ทกุ คนได้ แมก้ ระทัง่ สามารถใชโ้ ปรแกรมร่วมกนั ไดเ้ ปน็ การลดต้นทนุ ขององคก์ รเครือข่ายคอมพิวเตอรส์ ามารถแบง่ ออกเป็นประเภทตามพืน้ ท่ที ี่ครอบคลุมการใชง้ านของเครือขา่ ยเครอื ขา่ ยสว่ นบุคคล หรอื แพน (Personal Area Network : PAN) เปน็ เครอื ข่ายท่ใี ช้ส่วนบคุ คล เชน่ การเช่อื มตอ่ คอมพวิ เตอร์กับโทรศัพทม์ ือถือ การเชื่อมต่อพีดีเอกับเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ซึง่ การเชอื่ มต่อแบบนจี้ ะอยู่ในระยะใกล้ และมีการเชอื่ มต่อแบบไรส้ ายเครอื ข่ายเฉพาะท่ี หรือแลน (Local Area Network: LAN) เปน็ เครือขา่ ยท่ีใช้ในการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ตา่ งๆ ที่อยู่ในพ้นื ท่ีเดยี วกันหรือใกลเ้ คยี งกนั เชน่ ภายในบา้ น ภายในสานกั งาน และภายในอาคารสาหรับการใชง้ านภายในบา้ นน้นั อาจเรยี กเครือข่ายประเภทนี้ว่า เครอื ข่ายทีพ่ ักอาศัย (home network) ซง่ึอาจใชก้ ารเชื่อมต่อแบบใช้สายหรอื ไร้สายเครือข่ายนครหลวง หรือแมน (Metropolitan Area Network : MAN) เปน็ เครือข่ายที่ใชเ้ ชอื่ มโยงแลนท่ีอยู่หา่ งไกลออกไป เชน่ การเช่ือมต่อเครือขา่ ยระหวา่ งสานักงานที่อาจอยู่คนละอาคารและมีระยะทางไกลกนั การเช่อื มต่อเครอื ข่ายชนดิ นอ้ี าจใช้สายไฟเบอร์ออพติก หรอื บางคร้ังอาจใชไ้ มโครเวฟเชอ่ื มต่อ เครอื ขา่ ยแบบน้ใี ชใ้ นสถานศึกษามีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเครอื ข่ายแคมปัส (Campus Area Network: CAN)เครอื ขา่ ยวงกวา้ ง หรือแวน (Wide Area Network: WAN) เปน็ เครือข่ายท่ีใชใ้ นการเช่ือมโยงกบั เครือข่ายอนื่ ท่ีอยไู่ กลกันมาก เช่น เครอื ขา่ ยระหวา่ งจงั หวัด หรือระหว่างภาครวมไปถึงเครือขายระหวา่ งประเทศ2. ความหมายของเครอื ข่ายและการสอ่ื สารการสอ่ื สารข้อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถา่ ยโอนหรือแลกเปล่ยี นข้อมลู กันระหว่างผู้สง่ และผู้รบั โดยผา่ นชอ่ งทางสื่อสาร เชน่ อุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์ หรอื คอมพิวเตอรเ์ ปน็ ตัวกลางในการส่งข้อมลู เพื่อให้ผสู้ ่งและผู้รบั เกดิ ความเข้าใจซ่งึ กนั และกนั
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คือระบบทม่ี คี อมพิวเตอร์อยา่ งน้อยสองเคร่ืองเชอ่ื มตอ่ กันโดยใชส้ ่ือกลาง และสามารถส่ือสารขอ้ มูลกนั ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ซง่ึ ทาให้ผใู้ ช้คอมพวิ เตอรแ์ ตล่ ะเคร่ืองสามารถแลกเปลย่ี นข้อมูลซ่ึงกันและ ได้และใชท้ รัพยากรทีอ่ ยใู่ นเครอื ขา่ ยร่วมกนั ได้ และทาใหป้ ระหยัดคา่ ใชจ้ า่ ยได้เปน็ จานวนมาก3. สว่ นประกอบของระบบส่อื สารขอ้ มูล3.1 ผู้ส่ง (Sender) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งข่าวสาร (Message) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมูลมีหน้าท่ีเตรยี มสร้างข้อมูล เชน่ ผูพ้ ดู โทรทัศน์ กล้องวิดโี อ เป็นตน้3.2 ผู้รับ (Receiver) เป็นปลายทางการส่ือสาร มีหน้าท่ีรับข้อมูลที่ส่งมาให้ เช่น ผู้ฟัง เคร่ืองรับโทรทัศน์เคร่อื งพิมพ์ เป็นตน้3.3 สอื่ กลาง (Medium) หรือตัวกลาง เป็นเส้นทางการสอื่ สารเพ่ือนาข้อมลู จากต้นทางไปยังปลายทาง ส่อื ส่งข้อมูลอาจเป็นสายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชียล สายใยแก้วนาแสง หรือคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น เลเซอร์คล่ืนไมโครเวฟ คลน่ื วิทยภุ าคพ้นื ดิน หรือคล่ืนวทิ ยผุ า่ นดาวเทยี ม3.4 ข้อมูลข่าวสาร (Message) คือสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ท่ีส่งผ่านไปในระบบสื่อสาร ซ่ึงอาจถูกเรียกว่าสารสนเทศ (Information) โดยแบง่ เป็น 5รปู แบบ ดงั น้ี 3.4.1 ข้อความ (Text) ใช้แทนตวั อักขระตา่ ง ๆ ซึ่งจะแทนด้วยรหัสตา่ ง ๆ เช่น รหัสแอสกี เปน็ ตน้ 3.4.2 ตัวเลข (Number) ใช้แทนตัวเลขต่าง ๆ ซึ่งตัวเลขไม่ได้ถูกแทนด้วยรหัสแอสกีแต่จะถูกแปลงเปน็ เลขฐานสองโดยตรง 3.4.3 รูปภาพ (Images) ข้อมูลของรูปภาพจะแทนดว้ ยจุดสเี รียงกันไปตามขนาดของรปู ภาพ 3.4.4 เสียง (Audio) ขอ้ มูลเสียงจะแตกต่างจากขอ้ ความ ตัวเลข และรปู ภาพเพราะข้อมลู เสยี งจะเป็นสญั ญาณต่อเนอ่ื งกันไป 3.4.5 วิดโี อ (Video) ใชแ้ สดงภาพเคลื่อนไหว ซ่ึงเกดิ จากการรวมกันของรปู ภาพหลาย ๆ รปู3.5 โปรโตคอล (Protocol) คือ วิธีการหรือกฎระเบียบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลเพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งสามารถเข้าใจกันหรือคุยกันรู้เร่ือง โดยทั้งสองฝั่งท้ังผู้รับและผู้ส่งได้ตกลงกันไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ในคอมพิวเตอร์โปรโตคอลอยู่ในส่วนของซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ทาให้การดาเนินงาน ในการสื่อสารข้อมูลเป็นไปตามโปรแกรมที่กาหนดไว้ ตัวอยา่ งเช่น X.25, SDLC, HDLC, และ TCP/IP เปน็ ตน้
4. การใช้เทคโนโลยกี ารส่ือสารขอ้ มลูในปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร ทาให้เราหันมาให้ความสาคัญต่อการติดต่อส่ือสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทาให้เราสามารถติดต่อเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้ท่ัวโลก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของอินเทอร์เน็ต หรือด้านการติดต่อส่ือสารโทรคมนาคมในระยะไกลต่าง ๆ ก่อให้เกิดการนาเทคโนโลยีการส่ือสารข้อมูลมาใช้ในวงการธุรกิจต่าง ๆ เป็นการนาความรู้จากข้อมูลข่าวสารที่ได้รบั มาสร้างทางเลือกในการตัดสินใจในการดาเนินธุรกิจต่าง ๆ ส่งผลให้เราสามารถลดต้นทุน ลดเวลาในการติดต่อสื่อสารส่งเสริมให้เกิดการใชง้ านทรพั ยากรรว่ มกัน ซึง่ เหมาะกับสภาพขององค์กรในปัจจบุ นั ท่ตี ้องการการแข่งขันที่ค่อนข้างสงูจากจุดเริ่มแรกทาให้มีการใช้บริการด้านการส่ือสารโทรคมนาคมเพิ่มมากข้ึน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์เพื่อการพาณิชย์ต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดแรงผลักดันในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพ่ิมขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้ง่าย ๆ จากการเปล่ียนแปลงจากการสื่อสารแบบอนาลอ็ กเป็นเทคโนโลยีเครือข่ายดิจิทัล ทาให้มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงข้ึน และส่งข้อมูลได้เป็นจานวนมาก ลดความผิดพลาดในการส่งข้อมูล ซึ่งสามารถส่งสารสนเทศทั้งที่เป็นข้อมูลประเภท เสียง และวิดีโอ ไปพร้อม ๆ กัน อีกท้ังการใช้ดาวเทียมส่ือสารทาให้สามารถส่งข้อมูลภาพและเสียงข้ามซีกโลกได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการใช้เซลลลู าห์หรือเครือข่ายไร้สายอื่น ๆ นับว่าเป็นการทาให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการใช้อุปกรณ์แบบพกพาแบบต่าง ๆทาใหเ้ ราสามารถตดิ ต่อสอื่ สารกันไดท้ ั่วโลก5. ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งเครือข่ายจะมีการทางานรวมกันเป็นกลุ่ม ท่ีเรียกว่า กลุ่มงาน (workgroup)แต่เมือ่ เชื่อมโยงหลายๆ กลมุ่ งานเข้าด้วยกัน กจ็ ะเปน็ เครือขา่ ยขององค์กร และถา้ เช่ือมโยงระหว่างองค์กรผ่านเครือข่ายแวน ก็จะได้เครือข่ายขนาดใหญ่ขึ้น การประยุกต์ใช้งานเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างกว้างขวางและสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย ท้ังน้ีเพราะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทาให้เกิดการเช่ือมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เขา้ ด้วยกนั และส่อื สารขอ้ มูลระหวา่ งกนั ได้
ประโยชนข์ องระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ มีดังน้ี1. การใช้อปุ กรณร์ ว่ มกันเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทาให้ผู้ใช้ สามารถใช้อุปกรณ์ รอบข้างที่ต่อพ่วงกับระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเครื่องพิมพ์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม สแกนเนอร์ เป็นต้น ทาให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้ออุปกรณท์ ่มี ีราคาแพง เชื่อมตอ่ พ่วงใหก้ ับคอมพิวเตอร์ทุกเคร่อื ง2. การใช้โปรแกรมและข้อมลู รว่ มกนั ได้การเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่าย ท้ังประเภทเครือข่าย LAN , MAN และ WAN ทาให้คอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารแลกเปล่ียนข้อมูลระยะไกลได้ โดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทางด้านการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างย่ิงในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีการให้บริการต่าง ๆ มากมาย เช่น การโอนย้ายไฟล์ข้อมูล การใช้จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Mail) การสืบคน้ ขอ้ มูล (Serach Engine) เปน็ ต้น3. ความประหยัดตัวอย่างเช่นในสานักงานแห่งหน่ึงมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ จานวน 30 เคร่ือง หรือมากกว่าน้ี ถ้าไม่มีการนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้ จะเห็นว่าต้องใช้เครื่องพิมพ์อย่างน้อย 5 - 10 เคร่ือง มาใช้งาน แต่ถ้ามีระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์แลว้ สามารถใชเ้ คร่ืองพิมพป์ ระมาณ 2-3 เคร่ืองกเ็ พียงพอตอ่ การใชง้ านแลว้ เพราะว่าทุกเครอื่ งสามารถใชง้ านเครอ่ื งพิมพเ์ ครื่องใดกไ็ ด้ท่ีอยู่ในระบบเครอื ขา่ ยเดยี วกัน4. สามารถประยกุ ต์ใชใ้ นงานด้านธรุ กิจได้องค์กรธุรกิจที่มีการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ กับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพ่ือประโยชน์ทางธุรกิจเช่น เครือข่ายของธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการบิน ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจการท่องเท่ียว ธุรกิจหลักทรัพย์ สามารถดาเนินธรุ กิจ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ตอบสนองความพงึ พอใจ ให้แก่ลูกคา้ ในปัจจุบัน เชน่ การส่งั ซ้ือสนิ ค้า การจา่ ยเงินผ่านระบบธนาคาร เปน็ ต้น5. ความเชื่อถือได้ของระบบงานนับเป็นส่ิงท่ีสาคัญสาหรับการดาเนินธุรกิจ ถ้าทางานได้เร็วแต่ขาดความน่าเชื่อถือก็ถือว่า ไม่มีประสิทธิภาพดังนั้นเม่ือนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้งาน จะทาให้ระบบงานมีประสิทธิภาพ มีความน่าเช่ือถือของข้อมูล เพราะในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เราสามารถทาการสารองข้อมูลไว้ เมือ่ เครื่องที่ใช้งานเกิดมีปัญหากส็ ามารถนาขอ้ มูลท่มี กี ารสารองมาใชไ้ ด้ อย่างทนั ที
6. การสือ่ สารโทรคมนาคมการสื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunication) หมายถึง การติดต่อสื่อสารด้วยการรับส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างตัวประมวลผล โดยผ่านส่ือกลางท่ีเช่ือมต้นทางและปลายทางท่ีห่างกัน โดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรปู แบบ ตามกฎเกณฑ์ หรือระเบยี บวิธีการทก่ี าหนดขน้ึ ในแตล่ ะอปุ กรณ์เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) หมายถึง การเชื่อมตอ่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ตงั้ แตส่ องเคร่ืองขึ้นไป เพ่ือขยายขีดความสามารถที่มีจากัด ทาให้เกิดการแลกเปล่ียนข้อมูล หรือแบ่งปันทรัพยากรให้มีการใช้งานร่วมกันโปรโตคอล (Protocol) หมายถึง ระเบียบวิธีการ มาตรฐาน หรือกฎเกณฑ์ในการติดต่อส่ือสาร ระหว่างกันของเคร่ืองมืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตา่ ง ๆ หรือ วธิ ที ีถ่ กู กาหนดขึ้นเพื่อการส่ือสารข้อมลู ซึ่งผู้ส่งข้อมูลจะต้องส่งขอ้ มูลในรปู แบบตามวธิ กี ารสือ่ สารที่ตกลงไว้กับผรู้ ับขอ้ มูล จงึ จะสามารถสอื่ สารข้อมูลกนั ได้อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง การเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน ตามโครงการของอาร์ป้าเน็ต (ARPAnet = Advanced Research Projects Agency Network) เป็นหนว่ ยงานสงั กัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ (U.S.Department of Defense - DoD) ถูกก่อต้ังเมื่อประมาณ ปีค.ศ.1960(พ.ศ.2503) และได้ถูกพฒั นาเร่ือยมา– ความหมายของการสอ่ื สาร การสอื่ สารข้อมลู และโทรคมนาคม– แนวโน้มของการสอื่ สารโทรคมนาคม (Telecommunication Trends)
7. ความนา่ เชือ่ และมาตรฐานเครอื ข่ายความถี่ของความลม้ เหลวเครือข่ายทุกระบบมีโอกาสล่มได้เสมอ อย่างไรก็ตามเครือข่ายที่ได้รับการออกแบบที่ดี หากเครือข่ายเกิดข้อขัดข้องหรือล้มเหลวด้วยประการใดก็ตาม ควรส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานให้น้อยที่สุดเท่าท่ีเป็นไปได้และหากเครอื ข่ายมคี วามถี่ในการล้มเหลวอยบู่ อ่ ยคร้ัง นน่ั หมายถงึ เครือขา่ ยนนั่ มคี วามนา่ เชอื่ ถือต่าระยะเวลาในการกคู้ นืระยะเวลาในการกู้คืนระบบ กรณีเครอื ข่ายลม่ หรือเกดิ ขอ้ ขดั ข้องใด ๆ หากการกู้คนื ระบบสามารถแก้ไขได้ด้วยระยะเวลาอันส้ัน ย่อมดีกว่าการกู้คืนระบบท่ีต้องใช้ระยะเวลายาวนาน โดยการกู้คืนหมายถึงการกู้ระบบให้กลับคนื สภาพเดิมทีส่ ามารถใชง้ านได้ รวมถงึ การกคู้ นื ขอ้ มลู กรณีทข่ี ้อมลู เกดิ ความสูญเสียความคงทนต่อขอ้ ผดิ พลาดเครือข่ายที่ดีจะต้องมีระบบป้องกันภยั ต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ใด ๆ ที่ไม่คาดคิดได้เสมอไม่วา่ จะเป็นระบบไฟฟ้า รวมถึงภัยธรรมชาตทิ ่ีไม่สามารถคาดการณ์ลว่ งหน้าได้ ดังน้ันระบบเครอื ข่ายท่ีดีจงึ ต้องไดร้ ับการออกแบบให้มีระบบสารองข้อมูลที่น่าเช่ือถือ รวมถึงอุปกรณ์สาคัญของระบบ หากทางานขัดข้อง อุปกรณ์ตวั แทนสารถทางานแทนได้ทันที เป็นต้น
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: