Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-bookเอกสารเผยแพร่กระดานอเนกประสงค์

E-bookเอกสารเผยแพร่กระดานอเนกประสงค์

Published by piking_689, 2019-12-10 03:39:28

Description: E-bookเอกสารเผยแพร่กระดานอเนกประสงค์

Search

Read the Text Version

มหัศจรรยส์ ำมเหล่ียมแปลงรำ่ ง สกู่ ระดำนอเนกประสงค์ เผยแพรโ่ ดย โรงเรยี นบำ้ นโพธโิ์ นนจำนอลี อก สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำประถมศกึ ษำศรสี ะเกษ เขต 1

1 ทีม่ ำและควำมสำคญั จำกกำรท่ีคณะผู้จัดทำไดเ้ รียนรู้เรอ่ื งควำมสัมพันธท์ ำงรูปทรงเรขำคณติ ควำมเทำ่ กนั ทุกประกำรของรปู สำมเหลี่ยม สำมเหล่ียมคล้ำย และแกนสมมำตร ในรำยวชิ ำคณติ ศำสตร์ คณะผจู้ ดั ทำจึงเกดิ ควำมสนใจและมีแนวคิดที่อยำก จะนำควำมรู้ในวิชำคณิตศำสตรม์ ำประดิษฐ์ส่ิงของเครือ่ งใชท้ ่มี แี ปลกใหมแ่ ละมี ควำมสำมำรถในกำรใชง้ ำนไดห้ ลำกหลำย จงึ ได้สำรวจสงิ่ ของเครื่องใชร้ อบตัว พบว่ำมสี ่งิ ของเคร่ืองใชท้ ่มี รี ูปทรงเรขำคณิตและสำมำรถแบง่ แกนสมมำตรได้ อยู่หลำยชนิด เช่น โตะ๊ ประตู เสือ่ สมุด เป็นตน้ คณะผูศ้ กึ ษำไดน้ ำรูปส่ีเหลย่ี มจัตุรสั มำศึกษำรูปทรงทเ่ี ปน็ สว่ นประกอบ โดยไดล้ ำก เสน้ ทแยงมุมจำนวน 2 เสน้ ตัดกัน พบว่ำ เกิดเปน็ รูปสำมเหลี่ยม มุมฉำกท่ีมคี วำมเทำ่ กันทุกประกำรจำนวน 4 รูป คณะผู้ศกึ ษำมีควำมเห็นว่ำ สงิ่ ของเครอ่ื งใชใ้ นปัจจบุ นั นคี้ วรจะมคี วำมสำมำรถในกำรใชง้ ำนได้หลำกหลำยและ สำมำรถลดขนำดได้เมอ่ื ไมใ่ ชง้ ำนเพื่อประหยัดในกำรจดั เก็บหรอื เคลื่อนย้ำยจงึ มี ควำมสนใจที่จะนำผลกำรศกึ ษำมำเปน็ แนวคิดทจ่ี ะประดษิ ฐ์กระดำนเอนกประสงค์ ทสี่ ำมำรถพบั เกบ็ ใหเ้ ปน็ รูปสำมเหล่ียมมมุ ฉำกได้โดยมปี ระโยชนใ์ นกำรนำมำใช้งำน ไดอ้ ยำ่ งหลำกหลำยและคุ้มค่ำ ดังน้ัน คณะผจู้ ัดทำจงึ ไดจ้ ัดทำโครงงำนรปู สำมเหลี่ยมบูรณำกำรสู่กระดำนเอนกประสงค์พับเกบ็ ได้ ซึง่ ในกระบวนกำรศึกษำ นัน้ ไดอ้ ำศยั หลักกำรแกป้ ัญหำในรำยวิชำวทิ ยำกำรคำนวณเข้ำมำใชแ้ ละเป็นกำร บรู ณำกำรควำมรใู้ นรูปแบบสะเตม็ ศึกษำในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนท่ีสำมำรถนำมำ ใช้ไดจ้ ริงในชวี ติ ประจำวนั โรงเรยี นบ้ำนโพธิโ์ นนจำนอลี อก สพป.ศก.1

2 วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื สกดั ไคโตซำนจำกครำบจกั จน่ั 2. เพ่อื ศึกษำควำมเข้มขน้ ของสำรละลำยไคโตซำนจำกครำบจักจนั่ ท่มี ผี ลตอ่ กำรชะลอ กำรสุกของกล้วยนำ้ วำ้ ควำมรู้ทำงคณติ ศำสตร์ที่เกย่ี วขอ้ ง ควำมเท่ำกนั ทกุ ประกำรของรูปสำมเหล่ยี ม สำมเหลี่ยมคล้ำย แกนสมมำตร รูปทรงเรขำคณิต ประโยชนท์ ่ีคำดวำ่ จะได้รบั 1. ไดฝ้ กึ ฝนทักษะด้ำนกำรคำนวณ 2. นำกระดำนเอนกประสงค์พับเกบ็ ได้ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้จรงิ โรงเรียนบำ้ นโพธิโ์ นนจำนอลี อก สพป.ศก.1

4 อุปกรณ์และวิธีกำรดำเนินกำร วัสด-ุ อปุ กรณ์ 1. กระดำนไม้สน 2. กระดำนไมป้ ำตเิ ก้ลิ 3. บำนพบั 4. เล่ือยวงเดือน 5. เคร่อื งเซำะร่อง 6. ตลบั เมตร 7. ทีย่ ดึ ไม้ 8. กระดำษทรำย โรงเรยี นบ้ำนโพธิ์โนนจำนอีลอก สพป.ศก.1

5 กำรศึกษำหลักกำรคิดคำนวณหำขนำดของรูปสำมเหล่ยี ม ขนั้ ตอน ผลจำกกำรศกึ ษำ ควำมสมั พนั ธท์ ำง ที่ กจิ กรรมทศี่ กึ ษำ คณติ ศำสตร์ 1 กำรลำกเสน้ ทแยงมมุ เกดิ รปู สำมเหลย่ี มมมุ ฉำกท่ีมี -รูปทรงเรขำคณิต รูปสเ่ี หลี่ยมจัตุรัส ควำมเทำ่ กันทกุ ประกำรจำนวน - ควำมเท่ำกนั ทกุ 4 รูป ประกำรของรปู สำมเหลย่ี ม 2 ศกึ ษำกำรพบั เกบ็ ให้ ทดลองกบั พลำสติกลกู ฟกู โดย เป็นรูปสำมเหลย่ี ม ใช้คตั เตอร์ กรีดเส้นทแยงมุมบนรูป (แบบจำลองที่ 1) สีเ่ หลีย่ มจตั ุรัสแลว้ ทดลองพบั เกบ็ พบวำ่ ไม่สำมำรถพบั เกบ็ เป็นรูป สำมเหลย่ี มซ้อนกนั ทงั้ 4 รปู ได้ 3 ศึกษำกำรพับเกบ็ ให้ ทดลองใชค้ ัตเตอร์กรดี ใหเ้ กดิ - รูปทรงเรขำคณิต เปน็ รูปสำมเหล่ยี ม เส้นสมมำตรบนพลำสตกิ ลกู ฟูก - สำมเหลี่ยมคล้ำย (แบบจำลองที่ 2) จำกข้ันตอนท่ี 2 จำนวน 1 เสน้ - แกนสมมำตร ดำ้ นหลงั ทำใหเ้ กดิ รปู สำมเหลี่ยม คลำ้ ยจำนวน 6 รูป ไดแ้ ก่ รูปสำมเหล่ียมมุมฉำกช้นิ ใหญ่ จำนวน 2 รูป และรูปสำมเหล่ยี ม มุมฉำกชนิ้ เลก็ จำนวน 4 รปู แล้วทดลองพบั เกบ็ พบวำ่ สำมำรถพบั ซ้อนเกบ็ รปู สำมเหลี่ยม ซอ้ นกันไดพ้ อดี โรงเรยี นบำ้ นโพธโ์ิ นนจำนอลี อก สพป.ศก.1

5 กำรศกึ ษำหลกั กำรคิดคำนวณหำขนำดของรปู สำมเหล่ียม ขน้ั ตอน ผลจำกกำรศกึ ษำ ควำมสมั พนั ธท์ ำง ที่ กจิ กรรมทศี่ กึ ษำ คณติ ศำสตร์ 4 กำหนดใหร้ ูปส่เี หลยี่ มจตั รุ ัสมีควำมยำวแตล่ ะดำ้ น = X 5 กำรหำควำมยำว เนอื่ งจำกรปู สำมเหลยี่ มชน้ิ ใหญม่ ี ฐำนของรูป ควำมยำวฐำนเทำ่ กับควำมยำวดำ้ น สำมเหล่ยี มช้ินใหญ่ ของส่เี หลี่ยมจัตุรสั ดงั น้นั ควำม ยำวฐำนของรูปสำมเหล่ียมชิน้ ใหญ่ == X 6 กำรหำควำมสูงของ เน่อื งจำกรปู สำมเหลยี่ มมุมฉำก รูปสำมเหลีย่ มชิ้น ชน้ิ ใหญม่ คี วำมสูงเปน็ ครง่ึ หนึง่ ของ ใหญ่ ดำ้ นของส่ีเหลีย่ มจตั ุรสั ดงั นน้ั ควำมสูงของรูปสำมเหล่ียมมมุ ฉำก ช้ินใหญ่ = 1 X 2 7 กำรหำควำมยำว เนอ่ื งจำกรปู สำมเหลีย่ มมุมฉำกมี ดำ้ นประกอบมุมฉำก ดำ้ นประกอบมมุ ฉำกเปน็ ครึ่งหน่ึง ของรูปสำมเหลย่ี ม ของด้ำนของสเ่ี หลย่ี มจัตุรัส ดงั น้นั ช้ินเลก็ ควำมยำวด้ำนประกอบมุมฉำกของ รปู สำมเหลี่ยม ชน้ิ เล็ก == =12 X โรงเรยี นบำ้ นโพธ์โิ นนจำนอลี อก สพป.ศก.1

6 ขั้นตอนกำรประดษิ ฐก์ ระดำนเอนกประสงคพ์ ับเก็บได้ เน่อื งจำกกำรประดิษฐ์กระดำนเอนกประสงคพ์ ับเกบ็ ได้ในขนำดทีใ่ ช้จรงิ น้ันตอ้ งใช้ ควำมสำมำรถดำ้ นงำนชำ่ งซง่ึ เป็นทักษะเฉพำะทำง คณะผูศ้ ึกษำจงึ ได้ขอควำม อนุเครำะห์จำกนักศึกษำระดับชนั้ ปวส. ปีท่ี 2 แผนกโยธำ วทิ ยำลัยเทคนคิ ศรสี ะเกษ ในกำรประดิษฐก์ ระดำนเอนกประสงค์พับเก็บได้ภำยใต้กำรดูแลและให้คำปรกึ ษำจำก อำจำรยส์ ถิร มงิ่ ขวัญ หัวหนำ้ แผนกโยธำ โดยประดิษฐต์ ำมแบบจำลองทคี่ ณะผูศ้ กึ ษำ ได้ออกแบบไว้ ดังน้ี กำหนดเสน้ สำมเหลย่ี มแลว้ ใช้เล่อื ยวงเดอื นตดั กระดำนไมส้ นออกเป็นรปู สำมเหลี่ยม ชน้ิ ใหญจ่ ำนวน 2 แผ่น และรูปสำมเหลี่ยมชน้ิ เล็กจำนวน 4 แผน่ โรงเรียนบำ้ นโพธโ์ิ นนจำนอีลอก สพป.ศก.1

6 ขน้ั ตอนกำรประดษิ ฐ์กระดำนเอนกประสงค์พับเกบ็ ได้ กำหนดเส้นสำมเหลยี่ มแลว้ ใช้เลอื่ ยวงเดอื นตดั กระดำนไม้สนออกเปน็ รูปสำมเหล่ยี ม ชิน้ ใหญจ่ ำนวน 2 แผน่ และรปู สำมเหลย่ี มชิน้ เล็กจำนวน 4 แผน่ ใช้เครอื่ งเซำะรอ่ งไม้ตำมรอยบำนพบั เพื่อไม่ใหบ้ ำนพับนูนออกมำเหนือแผ่นไม้ โรงเรียนบำ้ นโพธ์โิ นนจำนอีลอก สพป.ศก.1

6 ขั้นตอนกำรประดิษฐก์ ระดำนเอนกประสงค์พบั เก็บได้ นำแผ่นไม้สำมเหล่ยี มมมุ ฉำกมำประกอบกันโดยใช้บำนพบั ติดตำมรอยตัดท่ีเป็น เสน้ ทแยงมุมทงั้ 2 เส้นด้ำนหน้ำ 5 ตดิ บำนพบั ตำมรอยตัดท่เี ป็นแกนสมมำตรดำ้ นหลงั โรงเรียนบำ้ นโพธ์โิ นนจำนอีลอก สพป.ศก.1

10 ผลกำรดำเนินกำร สำมำรถประดิษฐ์เป็นกระดำนพบั เกบ็ ได้อเนกประสงค์ไดโ้ ดยสำมำรถนำมำใช้งำนเปน็ โตะ๊ ซ่ึงโตะ๊ สำมำรถปรับรูปทรงไดท้ ัง้ 3 รปู แบบ ดงั น้ี 1) โต๊ะส่ีเหลยี่ มจัตรุ สั พบั เก็บได้ 2) โตะ๊ ส่เี หลี่ยมผนื ผ้ำพบั เก็บได้ 3) โต๊ะสำมหลีย่ มมุมฉำกพับเกบ็ ได้ โรงเรียนบ้ำนโพธิโ์ นนจำนอลี อก สพป.ศก.1

11 ผลกำรดำเนนิ กำร สำมำรถประดษิ ฐเ์ ปน็ กระดำนพับเกบ็ ได้อเนกประสงคไ์ ด้โดยสำมำรถนำมำใชง้ ำนเปน็ ผนังหรอื มุมตำ่ งๆ ภำยในบำ้ นที่สำมำรถพบั เก็บได้ ดงั นี้ 1) มมุ แต่งตวั หรือมุมตำ่ งๆ 2) ฉำกกั้นห้อง หรือ ฉำกบงั ตำ โรงเรยี นบ้ำนโพธโิ์ นนจำนอีลอก สพป.ศก.1

12 อภิปรำยผลกำรดำเนนิ กำร จำกผลกำรจัดทำโครงงำนคณิตศำสตร์ เร่ือง รปู สำมเหล่ยี มบรู ณำกำรสู่ กระดำนเอนกประสงคพ์ ับเก็บได้ คณะผจู้ ัดทำสำมำรถอภปิ รำยผลกำรดำเนนิ กำร ดังน้ี 1. จำกกำรศกึ ษำรูปสำมเหลย่ี ม ทำให้คณะผจู้ ัดทำมีควำมรู้และได้ฝกึ ฝนทกั ษะใน ดำ้ น ต่ำง ๆ ให้เกิดควำมชำนำญและสำมำรถนำควำมรู้ทำงคณิตศำสตร์มำประยกุ ตใ์ ช้ ในกำรประดิษฐแ์ บบจำลองกระดำนเอนกประสงคไ์ ด้ 2. จำกกำรนำควำมรทู้ ีไ่ ดจ้ ำกกำรศกึ ษำรปู สำมเหล่ยี มมำใช้ในกำรประดิษฐ์กระดำน เอนกประสงค์ ซง่ึ ในกำรนำมำประดิษฐใ์ หเ้ ป็นขนำดทใ่ี หญข่ น้ึ น้นั จะต้องอำศัยทกั ษะ เฉพำะทำงจำกผ้ทู ่มี ีควำมเชี่ยวชำญด้ำนวศิ วกรรมและงำนชำ่ ง โดยคณะผูจ้ ดั ทำได้รบั ควำมอนุเครำะห์จำกบุคลำกรแผนกโยธำ วทิ ยำลัยเทคนคิ ศรสี ะเกษ ในกำรประดษิ ฐ์ กระดำนเอนกประสงค์ตำมแบบจำลองท่คี ณะผู้จดั ทำได้ทำกำรออกแบบไว้ ทำให้คณะ ผ้จู ัดทำสำมำรถประดษิ ฐ์ดระดำนเอนกประสงค์ไดส้ ำเรจ็ ซึ่งเปน็ กำรบูรณำกำรหลกั กำร STEM ได้แก่ S (science) เป็นกำรนำทกั ษะทำงวิทยำศำสตรท์ กั ษะท่ี 14 คอื ทกั ษะเทคนิคกำร สรำ้ งแบบจำลอง เพื่อเป็นแนวทำงในกำรสรำ้ งของจริง T (technology) เป็นกำรนำโปรแกรมกำรออกแบบ (SketchUp) เพอ่ื สรำ้ งแบบจำลอง E (engineering) เปน็ กำรนำหลกั กำรทำงวศิ วกรรมมำใชใ้ นกระบวนกำรประดิษฐ์ M (mathematics) เปน็ กำรนำหลักกำรคิดคำนวนจำกสูตรทำงคณิตศำสตร์ นอกจำกนั้นยังเปน็ กำรนำหลกั กำรเรียนรู้เชิงวิทยำกำรคำนวณเข้ำมำใช้ในกระบวนกำร แกป้ ัญหำจนมำสำมำรถประดษิ ฐก์ ระดำนเอนกประสงค์ท่ีสำมำรถใชง้ ำนได้จริง โรงเรียนบำ้ นโพธโิ์ นนจำนอลี อก สพป.ศก.1

13 คณะผู้จดั ทำ เดก็ หญงิ ฐิติมำ โตมร เดก็ ชำยคทำวุธ แฝกหอม เดก็ ชำยธนพล เดือนหงำย คณุ ครทู ี่ปรกึ ษำ วำ่ ท่รี อ้ ยตรีหญิงกมลชนก บุญเสรมิ นำงวจิ ติ รำ วันเลิศ โรงเรยี นบ้ำนโพธโิ์ นนจำนอีลอก สพป.ศก.1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook