สวนถาดคือ การจดั ปลูกตน้ ไมล้ งในภาชนะขนาดเลก็ ใหเ้ กิดความสวยงาม โดยใชห้ ลกั ศิลปะช่วย ตกแต่ง สวนถาดต่างจาก บอนไซ คือ บอนไซ เป็ นการจดั ไมช้ นิดเดียวในกระถาง แต่สวนถาดใชต้ น้ ไมก้ ่ีตน้ กไ็ ด้ ไมจ่ ากดั และก่ีชนิดก็ได้ ประโยชน์ของสวนถาด 1. ใชเ้ ป็นของขวญั ของฝาก ของที่ระลึกในโอกาสสาคญั มีราคาถูก และมีอายยุ นื กวา่ การใหด้ อกไมส้ ด 2. มีคุณคา่ ทางดา้ นจิตใจสูง เกิดความสุขจากการไดใ้ กลช้ ิดธรรมชาติ 3. ทาเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายไดใ้ หแ้ ก่ครอบครัว (ไม่รวยแต่สามารถพออยพู่ อกินได)้ 4. จดั เพ่ือการศึกษาดา้ นการเกษตร รูปแบบของการจัดสวนถาด มี 2 ประเภทคือ 1. การจดั ปลูกไมด้ อก หรือไมใ้ บ รวมกนั เพ่ือใหเ้ กิดความสวยงามแบบ การจดั แจกนั ดอกไมส้ ด ดอกไม้ แหง้ (Combination) 2. การจาลองทิวทศั น์ธรรมชาติ หรือ จาลองเร่ืองราวต่างๆลงในภาชนะขนาดเลก็ (Landscape) เช่น สวนหยอ่ ม ลกั ษณะป่ าเขา ลาธาร ความรู้พืน้ ฐานในการจัดสวนถาด ไดแ้ ก่ ความรู้ดา้ นองคป์ ระกอบศิลป และเร่ืองพืชกรรม 1.ความรู้พืน้ ฐานด้านศิลปะ อาทิเช่น 1.1 เส้นสาย ท่ีปรากฏในสวนถาด ไดแ้ ก่ เส้นของภาชนะรองรับ , ตน้ ไมด้ อกไม้ ทิวทศั น์ ที่เป็นทางเดิน หากเป็นเส้นตรง หรือเส้นโคง้ จะช่วยสร้างอารมณ์และความรู้สึกท่ีผอ่ นคลาย รวมท้งั ช่วยใหด้ ูพ้นื ท่ีกวา้ งข้ึน 1.2 รูปทรง ไดแ้ ก่ รูปทรงของตน้ ไม้ ภาชนะ และวสั ดุตกแตง่ ใหก้ ลมกลืน 1.3 สี สีเฉดร้อน-เยน็ ,สีออ่ น-แก่ จะช่วยใหก้ ลมกลืนและ เกิดความแตกตา่ งเพ่ือหนีจากความจาเจ หรือ อึดอดั 1.4 ผวิ สัมผสั คือการดูภาพรวมของตน้ ไม้ จากตาจะเห็นความละเอียดความหยาบ ของใบไม้ ดอกไม้ ท่ีมาจดั รวมกนั เพอื่ ใหเ้ กิดความแตกตา่ ง และกลมกลืน 1.5 จังหวะหรือระยะ การวางตน้ ไม้ และวสั ดุ แต่ละชิ้น ใหเ้ กิดความสมดุลยไ์ ม่ใหเ้ อียงไปทางใดทาง หน่ึง 1.6 สัดส่วน คือการเปรียบเทียบขนาดของส่ิงของ หรือตน้ ไมท้ ่ีอยใู่ นบริเวณเดียวกนั ให้มีสดั ส่วนท่ี สมดุลยก์ นั 1.7 ความแตกต่าง เป็นการนาเอาองคป์ ระกอบท่ีมีลกั ษณะต่างกนั มารวมกนั เช่นนาความแตกตา่ งของสี , รูปทรง , ผงิ สมั ผสั มาจดั รวมกนั จะเกิดความงามและกลมกลืน 1.8 จุดสนใจ / จุดเด่น ของสวนถาด สร้างจินตนาการวา่ จะโชวอ์ ะไร โดยดูจากตน้ ไมท้ ี่มีอยกู่ ่อน จากน้นั สร้างจุดรอง จุดเสริมท่ีกลมกลืน
1.9 ความกลมกลืน เป็นการจดั องคป์ ระกอบ ท้งั หมดท่ีพูดถึงใหเ้ กิดความพอเหมาะพอดี ความกลมกลืน มิไดห้ มายถึง เฉพาะการจดั ตงั องคป์ ระกอบที่คลา้ ยกนั หรือเหมือนกนั เพียงอยา่ งเดียว แตค่ วามกลมกลืน อาจ เกิดจากสิ่งท่ีแตกตา่ ง หลากหลาย มารวมกนั อยา่ งเหมาะสมสวยงามกไ็ ด้ 2.ความรู้ด้านพืชกรรม ในการจดั สวนถาดควรรู้ในเรื่อง 2.1 ชนิดของพนั ธ์ุไม้ การเลือกพนั ธุ์ไมท้ ี่ใชใ้ นการจดั สวนถาดแบง่ เป็น 3 ประเภท คือ - ประเภทไมใ้ นร่ม คือพนั ธุ์ไมท้ ่ีตอ้ งการแสงราไร ไม่ตอ้ งการแสงแดดจดั และอยใู่ นท่ีค่อนขา้ งช้ืน ไดแ้ ก่ เฟิ นบางชนิด , คลา้ - ประเภทไมก้ ลางแจง้ คือพนั ธุ์ไมท้ ่ีตอ้ งการแสงมาก ตอ้ งอยกู่ ลางแจง้ จึงเจริญเติบโต หรือมีดอก เช่น ไมด้ อกเกือบทุกชนิด - ประเภทกลุ่มแคคตสั และไมอ้ วบน้า ซ่ึงอยไู่ ดท้ ้งั แดดทนตอ่ สภาพ แหง้ แลง้ และทนทานต่อการอยู่ ในร่มไดด้ ี 2.2 ปัจจัยทเี่ กดิ ข้องกบั การเจริญเตบิ โตของพืช ไดแ้ ก่ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ของพชื เช่นไมย้ นื ตน้ ไมล้ ม้ ลุก ไมเ้ ล้ือย ไมโ้ ตเร็ว โตชา้ ไมใ้ หญ่ ไมแ้ คระ เป็นตน้ นอกจากน้นั ยงั ตอ้ ง คานึงถึงปัจจยั ภายนอก ของ ตน้ ไม้ ไดแ้ ก่ ดิน แร่ธาตุ น้า แสงสวา่ ง และภูมิอากาศ 2.3 การขยายพนั ธ์ุพืช เพือ่ ใหไ้ ดส้ ิ่งที่ตอ้ งการ และลดตน้ ทุน 2.4 การตกแต่งบารุงรักษา เพ่ือยดื อายุ และรักษาความงามของตน้ ไมน้ ้นั ๆใหค้ งอยไู่ ดน้ าน อยา่ งไรก็ ตามตอ้ งเขา้ ใจในสัจจะธรรมของสวนถาด ท่ีตอ้ งมีวนั สิ้นสุด เม่ือถึงเวลาท่ีบางตน้ ตาย บางตน้ โตเกินท่ีจะ บรรจุในภาชนะเลก็ ๆ บางตน้ รูปทรงไม่สวย จะตอ้ งมีการยา้ ยออกปลูกในกระถางอื่นแทน หรือ จดั ปลูก ซ่อมเสริมต่อไป 3. วสั ดุอ่ืนๆทใ่ี ช้ประกอบการจัด เช่น หิน กรวด ทราย ตอไม้ ตุก๊ ตาจาลอง การที่เรามีความรู้ในหลกั ศิลปะ การจดั และความรู้ดา้ นพืชกรรม จะเป็ นแนวทางในการปฏิบตั ิงาน ช่วยใหเ้ รามนั่ ใจในการจดั สวนถาดมากข้ึน สามารถวนิ ิจฉยั และวจิ ารณ์คุณค่าของผลงานไดแ้ ละช่วยใหเ้ รามีแนวทางในการพฒั นาฝีมือของตนเองอีก ดว้ ย ข้นั ตอนการจัดสวนถาด 1. เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ และตน้ ไมใ้ หพ้ ร้อม วางไวร้ อบขา้ งตวั เพ่ือความสะดวกในการหยบิ จบั 2. เตรียมภาชนะ หรือถาด ตอ้ งไมส่ กปรก ลา้ งใหส้ ะอาด 3. หาตาแหน่งวางองคป์ ระกอบหลกั หรือ จุดเด่น -จุดรอง ทดลองวางตน้ ไมต้ ามจุดต่างๆท่ีเห็นวา่ เหมาะสม และสมดุลย์ เปลี่ยนแปลงจนกวา่ จะพอใจ 4. ใส่วสั ดุปลูก - ถาดรองกน้ ตามดว้ ยดินหรือขยุ มะพร้าว 5. เร่ิมลงมือใส่ตน้ ไม้ โดยหนั ดา้ นที่สวยงามออกทางมุมมองที่สาคญั ตดั แตง่ รูปทรงใหด้ ูสวยงาม 6. ตบแตง่ และเติมผวิ ดิน ใหเ้ รียบและสวยงาม พร้อมใส่ป๋ ุยละลายชา้ 7. กลบผวิ ดินดว้ ย หิน กรวด ตกแต่งใหเ้ หมาะสมดว้ ยวสั ดุตกแต่ง
8. รดน้าดว้ ยฝักบวั อ่อนๆ ใหช้ ุ่ม - รดยากนั เช้ือรา – รากเน่า
การจดั สวนถาดจดั ไดห้ ลายรูปแบบ ไดแ้ ก่ การจดั แบบ 1 กลุ่ม แบบ 2 กลุ่ม แบบ 3 กลุ่ม และแบบ อิสระ การฝึกจดั สวนถาดควรฝึกตามข้นั ตอนจากข้นั พ้นื ฐานไปสู่ข้นั ท่ีสูงข้ึน เหมือนข้ึนบนั ไดกา้ วทีละข้นั จึง จะไปถึงข้นั สุดทา้ ยได้ การฝึกจดั สวนกเ็ ช่นกนั ก็กนั ตอ้ งฝึ กไปทีละข้นั จากข้นั พ้ืนฐานไปสู่ข้นั สูง จากข้นั สูง ไปถึงข้นั สุดยอด การจกั สวนถาดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งสวยงามในภาชนะรูปทรงตา่ ง ๆ เป็ นข้นั สุดยอดในการจดั สวนถาด การจดั สวนถาด แบบ 1 กลุ่มเป็นพ้นื ฐานข้นั แรก การจดั 2 และ 3 กลุ่มเป็นข้นั สูงข้ึนตามลาดบั การจดั สวนถาดแหง้ แบบยอ่ ทิวทศั นธ์ รรมชาติ เป็ น การยอ่ ทิวทศั นข์ องทะเลทราย ตวั อยา่ งการจดั ในที่น้ี จะใชห้ ินและตน้ ไมพ้ วกแคคตสั กบั พวกซคั คิวเลนท์ เป็นองคป์ ระกอบข้นั ตอนการปฏิบตั ิตามลาดบั ดงั น้ี 1. กาหนดรูปแบบ ข้นั ตอนแรกไดแ้ ก่การกาหนด รูปแบบของสวนท่ีจะจดั ทา รูปแบบที่จดั เป็ นการยอ่ ทิวทศั นธ์ รรมชาติของทะเลทราย 2. เตรียมเคร่ืองมือและวสั ดุอุปกรณ์ เตรียมเคร่ืองมือที่ จะใชจ้ ดั สวนถาดแหง้ ไวใ้ หค้ รบถว้ น โดยอยใู่ นสภาพใชง้ านไดด้ ี และรวบรวมวสั ดุอุปกรณ์ท่ีจะใชไ้ วใ้ ห้ พร้อม ตอ้ งมีจานวนมากพอท่ีจะเลือกใชไ้ ดต้ ามความเหมาะสม วสั ดุอุปกรณ์ท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ หินยนื หินนง่ั หินนอนอยา่ งละกอ้ นและตน้ ไมพ้ วกแคคตสั กบั ซคั คิวเลนท์ ซ่ึงจะใชเ้ ป็นโครงของสวน กบั พวกซคั คิวเลนท์ จานวนหน่ึง ซ่ึงเป็นไมแ้ ฟนซี รวมท้งั ทรายที่จะใชแ้ ตง่ สวนถาดใหเ้ หมือนผวิ ทรายทะเล กรวดเมด็ เลก็ สี น้าตาล เหลือง ส้ม ซ่ึงเป็นสีธรรมชาติเพอ่ื ใชท้ าเป็นเส้นขอบสวน 3. เตรียมดินเตรียมดินผสมท่ีจะใชจ้ ดั สวนถาดแหง้ ไวใ้ หพ้ ร้อม โดยผสมดินตามสูตรท่ีไดก้ ล่าวมาแลว้ หรือ ผสมใหใ้ กลเ้ คียงกบั สูตร 4. ดาเนินการจดั ทา เมื่อกาหนดรูปแบบสวน เตรียมเครื่องมือวสั ดุอุปกรณ์และดินผสมไวเ้ รียบร้อยแลว้ ข้นั ต่อไปจดั ทาตามลาดบั ดงั น้ี 4.1 พิจารณาขนาดของวสั ดุอุปกรณ์หลกั กบั ขนาดของถาดในท่ีน้ีพิจารณาขนาดของหินยนื นง่ั นอน ขนาดของตน้ แคคตสั ตน้ ซคั คิวเลนท์ กบั ขนาดของถาด พิจารณาขนาดของวสั ดุอุปกรณ์หลกั ไดส้ ดั ส่วนกบั ขนาดของถาดหรือไม่ ตอ้ งเลือกใชท้ ี่ไดส้ ดั ส่วนกนั 4.2 พิจารณาขนาดของหินยนื นง่ั นอน ตน้ แคคตสั และตน้ ซคั คิวเลนท์ เลือกใชท้ ี่ขนาดไดส้ ดั ส่วนกนั ซ่ึงขนาดเลก็ ใหญ่สูงต่าไล่เลี่ยกนั เพอ่ื ใหเ้ ป็ นโครงสร้างหลกั ของสวนถาดเลือกใชเ้ ฉพาะที่ไดส้ ดั ส่วนกนั 4 3 พจิ ารณารูปทรงหรือรูปร่างหนา้ ตาของหินยนื นง่ั นอน ตน้ แคคตสั และตน้ ซคั คิวเลนท์ เลือกใช้
รูปทรงท่ีกลมกลืนกนั ประมาณร้อยละ 70- 80 และรูปทรงที่แตกตา่ งกนั ร้อยละ 30 – 20 4.4 ทาการวางโครงร่างของสวนถาด ข้นั ตอนการจดั ทาตามลาดบั ดงั น้ี 4.4.1 รองกน้ กระถางและใส่ดิน โดยใส่อิฐหรือถ่านทุบรองกน้ และปิ ดรูกระถางและใส่ดินผสม ในถาด กดใหแ้ น่นพอสมควร เกลี่ยใหผ้ วิ ดินเรียบเสมอขอบถาด 4.4.2 กาหนดมุมมองท่ีสาคญั ท่ีสุด ซ่ึงจะอยตู่ รงกลางถาด 4.4.3 กาหนดตาแหน่งของจุดเด่น วางหินยนื ตรงจุดเด่นซ่ึงจะอยตู่ รงจุดก่ึงกลางของถาด หนั สวนที่สวยงามท่ีสุดของหินยนื สู่สายตาผชู้ มหรือหนั มาทางดา้ นหนา้ ของถาด ลองวางดูหลาย ๆทา่ เลือกท่าท่ี สง่างามที่สุด วางใหส้ มดุลพอดี เพราะน้าหนกั โดยส่วนรวมหรือจุดถ่วงต้งั ฉากกบั พ้นื แสดงวา่ น้าหนกั สมดุล ในกรณีท่ีฐานของหินยนื มีขนาดเล็ก จึงทาใหล้ ม้ ไดง้ ่ายใหแ้ กป้ ัญหาโดยใชห้ ินนอนวางดา้ นท่ีจะลม้ โดยวาง ใหผ้ วิ แตะกนั ตรงฐาน จากน้นั จึงใชก้ าวแท่งเชื่อมใหต้ ิดกนั ช่วยใหห้ ินยนื ไมล่ ม้ 4.4.4 วางตาแหน่งแคคตสั ที่ 1 ซ่ึงต่ากวา่ หินยนื เล็กนอ้ ยเพื่อประกอบหินยืนใหเ้ ด่น วางดา้ นขวา ของหินยนื แต่เย้ืองไปทางดา้ นหนา้ ของหินยนื เลก็ นอ้ ย วางตาแหน่งตน้ แคคตสั ตน้ ท่ี 2 ซ่ึงสูงกวา่ ตน้ ท่ี 1 เลก็ นอ้ ย วางดา้ นซา้ ยของหินยนื ใหเ้ ย้อื งมาดา้ นหลงั ของหินยนื เลก็ นอ้ ยไม่ใหบ้ งั ส่วนหนา้ ของหินยนื การวาง น้ีจะวางเป็นรูปสามเหลี่ยม จะเห็นวา่ ตาแหน่งของการวางหินยนื หินนงั่ และหินนอนเป็นรูปสามเหล่ียมดา้ น ไมเ่ ท่า จากน้นั วางตาแหน่งตน้ ซคั คิวเลนท์ ซ่ึงต่ากวา่ ตน้ ท่ี 2และรูปทรงตา่ งกนั โดยระหวา่ งดา้ นหนา้ ของหิน ยนื กบั หินนอน จะเห็นวา่ ท้งั 3 ตน้ วางเป็ นรูปสามเหลี่ยมดา้ นไมเ่ ทา่ เหมือนการวางหินยนื หินนง่ั หินนอน วางไม่ชิดหรือห่างกนั มากเกินไปไม่บงั กนั ใหค้ านึงถึงท่ีวา่ งและช่วงจงั หวะ 4.5 ทาโครงสวน การทาโครงสวนไดแ้ ก่ทาใหอ้ งคป์ ระกอบหลกั ตา่ ง ๆ ที่ประกอบกนั เป็นโครงร่างยดึ อยกู่ บั ที่โดยไมเ่ ปล่ียนแปลงตาแหน่งอีกหินท้งั 3 กอ้ นและตน้ ไมท้ ้งั 3 จะอยตู่ รงตาแหน่งเดิมโดยไม่ เปลี่ยนแปลงอีก ข้นั ต่อไปใชด้ ินทบั โคนตน้ แคคตสั และทบั บริเวณฐานหินท้งั 3 กอ้ น การจดั วางหินจะไมว่ าง ลอยไวบ้ นผวิ ดิน เพราะผดิ ธรรมชาติ จดั ทาเนินดินใหส้ ูง ๆ ต่า ๆ การทาเนินสนให้นาเร่ืองรูปทรงและเส้นมา ใช้ บริเวณส่วนหน่ึงของเนินดินจะเวน้ ท่ีเผือ่ ไวป้ ลูกตน้ ไมเ้ พม่ิ เติมเสริมแตง่ หรือไวเ้ พิ่มเติมหิน กดดินใหแ้ น่น พอประมาณและแต่งผวิ เรียบ จะไดโ้ ครงสวนท่ี สมบูรณ์ 4.6 ปลูกไมป้ ระดบั สวนใหส้ มบูรณ์ หมายถึง การใชต้ น้ ซสั คิวเลนท์ ซ่ึงมีขนาดเลก็ กวา่ ตน้ ไมท้ ่ีปลูก ไวเ้ ป็นหลกั เรียกวา่ ไมแ้ ฟนซี นามาปลูกเพ่มิ เติมเสริม แตง่ ปลูกตรงไหนใหข้ ีดเส้นแสดงรูปร่างไวต้ รงจุด น้นั จากน้นั ตกั ดินออกจากบริเวณท่ีจะปลูกโดยตกั ออกเพยี งเลก็ นอ้ ยเพ่อื ใหเ้ ห็นแนวที่จะปลูกและทาการ ปลูก 4.7 ตกแต่งผวิ และโรยเส้นขอบสวนผวิ สวนทาใหเ้ กิดความสวยงามและช่วยป้องกนั การระเหยของน้า
ช่วยเก็บความชุ่มช้ืนในดิน ปัดกวาดใหเ้ รียบร้อย จากน้นั ฉีดพน่ น้าเพ่ือลา้ งทวั่ บริเวณตน้ ไมก้ อ้ นหินและถาด แต่งดินใหไ้ ดร้ ูปทรงอีกคร้ังกวาดผวิ ใหเ้ รียบและกดดินใหแ้ น่นพอสมควร ใชท้ รายแกว้ หรือทรายเมด็ เล็กสี ขาวธรรมชาติแตง่ เป็นผวิ ของทะเลทรายกรวดที่ใชโ้ รยเป็ นขอบสวนจะอยูต่ ่ากวา่ ขอบถาดเล็กนอ้ ย เส้นของ ขอบสวนจะช่วยใหถ้ าดเด่นสง่าข้ึนมาก แลว้ ฉีดน้าพน่ เป็นฝอยทวั่ บริเวณสวนถาด ระวงั อยา่ ใหถ้ ูกทรายจะทา ใหท้ รายเลื่อนไหลลงการจดั สวนถาดช้ืนแบบยอ่ ทิวทศั น์ธรรมชาติ เป็นการยอ่ ป่ าเขาลาเนาไพร น้าตก น้าพุ เกาะแก่ง ชายหาด ฯลฯ เป็นบรรยากาศท่ีสดช้ืนร่มเยน็ ดว้ ยน้าและพชื พรรณนานาชนิด ซ่ึงเป็นบรรยากาศท่ี แตกต่างกบั บรรยากาศทะเลทราย ตวั อยา่ งการจดั สวนในท่ีน้ีจะใชร้ ากไมแ้ ก่นไมแ้ ละตน้ ไมท้ ว่ั ไปที่เจริญงอก งามตามป่ าเขาลาเนาไพร ใชเ้ ป็นองคป์ ระกอบของสวน
สวนถาดแหง้ /ถาดทะเลทราย การจดั สวนถาดแบบแหง้ หมายถึง การจดั สวนในภาชนะจากดั โดยใชพ้ นั ธุ์ไมท้ ่ีหอ้ งการน้า นอ้ ย ทนต่อความแหง้ แลง้ ไดด้ ี ซ่ึง ผคู้ นทว่ั ไปมกั เรียกวา่ การจดั สวนทะเลทราย วสั ดุอปุ กรณ์ 1.ดินผสม ไดแ้ ก่ ทรายหยาบ 2 ส่วน ดินร่วน 1 ส่วน ป๋ ุยคอก 1 ส่วน ขยุ มะพร้าว 1 ส่วน 2.พนั ธุ์ไม้ เป็นพนั ธุ์ไมท้ ่ีทนต่อความแหง้ แลง้ และตอ้ งการน้านอ้ ยไดแ้ ก่ แคคตสั พนั ธุ์ต่าง ๆ เช่น มา้ ลาย คอนโดนางฟ้า สับปะรด ตะบองพอ่ เฒ่า เล็บเหยยี่ ว แมมแมเ่ ฒ่า ถงั ทอง นิ้วนางรา หมวก ตุรกี 3.หิน 4. ทรายสี 5.ภาชนะสาหรับปลูก ไดแ้ ก่ ถาด จานรองตน้ ไม้ กระถาง กระเชา้ ข้นั ตอนในการปฏิบตั ิ 1. เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ใหพ้ ร้อม 2. เขียนแบบแปลนในการจดั 3. หาเศษอิฐ หรือเศษกระถางแตก มารองกน้ กระถาง 4. นาดินผสมมาใส่กระถาง ตามแบบท่ีเขียนไว้ 5. นากอ้ นหิน มาวางตามแบบ 6. ปลูกตน้ ไมต้ ามแบบ 7. ปรับดินให้เรียบตามแบบ 8. รดน้า 9. โรยดว้ ยทรายและหิน ตามแบบ
เมื่อเราเตรียมอุปกรณใ์ นการจดั สวนแบบแห้งเรียบร้อยแลว้ ก็จะมาเร่ิมข้นั ตอนของการจดั แต่ก่อนอื่นจะอธิบายก่อนวา่ สวนแบบแหง้ น้นั จดั ไม่เหมือนกบั สวนแบบช้ืน และ ในขนาดการจดั ของถาดเล็กสาหรับสวนถาดแหง้ น้นั ก็แตกตา่ งกบั ขนาดการจดั ของถาดใหญ่สาหรับสวนแหง้ ออกไปอีก ท่ีตา่ งกนั นน่ั คือ ข้นั ตอนการลงตน้ ไมก้ บั ข้นั ตอนการลงดิน สมการการลงต้นไม้สาหรับสวนแบบแห้ง ถ้าใช้ถาดขนาด 5-8นวิ้ ในการจดั ให้ลงต้นไม้ก่อนลงดนิ เพราะ ภาชนะขนาดเล็ก เวลาดนั ตน้ ไมอ้ อกจากระถาง กใ็ ห้วางลงท้งั ดินทต่ี ิดกระถางไปเลย หากลงดินก่อน แลว้ ลงตน้ ไมท้ ่มี ีดินตดิ อยกู่ บั รากตาม จะทาใหด้ ินในภาชนะน้นั ลน้ เกินออกมา และไม่สามารถลงกรวดหรือทราย ในข้นั ตอนต่อไปได้ ถ้าใช้ถาดขนาด 10นวิ้ ขนึ้ ไปในการจัด ให้ลงดนิ ก่อนเกือบครึ่งถาด และลงต้นไม้ตาม เพราะ ภาชนะที่มีขนาดใหญแ่ ละมีขนาดสูงกว่าภาชนะทเ่ี ลก็ กวา่ นนั่ เอง จะมีพ้นื ท่พี อเหลือให้ไดล้ งดินก่อน แลว้ จึงงตน้ ไมพ้ ร้อมกบั ดินท่ีตดิ มากบั กระถางได้ และดินที่เอาลง ไปในภาชนะก่อนน้นั จะหนุนตน้ ไมใ้ หไ้ ดร้ ะดบั ขนาดกบั ขอบถาดพอดี
การจดั สวนถาด คือการทาตน้ ไมใ้ นร่มพนั ธ์แคระมาจfั สวนขนาดจ๋ิวลงในถาดขนาดพอเหมาะ เพ่ือ ต้งั ประดบั ตกแต่งในอาคาร หรือโตะ๊ ทางาน โดยมากตน้ ไมท้ ่ีนิยมนามาจดั มกั จะเป็นตน้ ไมม้ งคลชนิด ต่างๆ ส่วนข้นั ตอนน้นั ก็สุดแสนจะง่าย อาศยั เพียงความคิดสร้างสรรคข์ องแตล่ ะบุคคล ในส่วนของวสั ดุท่ี ใชใ้ นการทาน้นั กส็ ามารถหาไดใ้ นทอ้ งตลาดแถมพอทาแลว้ กาไรดีซะดว้ ย ถา้ สนใจลองทาแลว้ จะรู้วา่ สามารถทาไดง้ ่ายจริงๆ วสั ดุอปุ กรณ์การทาประกอบด้วย 1. ถาดเซรามิกหรือดินเผา 2. ตน้ ไมใ้ นร่ม เช่น เฟิ ร์นผกั ชี, แพญ่ีป่ ุน, ราชินีเงิน, กนกนารีบูล, กุหลาบหินใบฝอย เป็ นตน้ 3. ทราย 4. หิน, หินกรวด, ขอนไม้ 5. กระบอกฉีดน้า 6. คีมปากกาแหลม ข้นั ตอนการจัดสวนถาด 1. นาทรายใส่ลงในถาดแลว้ ใชก้ ระบอกฉีดน้า ฉีดใหช้ ุ่มพอดี 2. จากน้นั นาตน้ ไมข้ นาดใหญ่ลงปลูก โดยการขดุ ทรายใหเ้ ป็ นหลุมลึกพอกลบรากตน้ ไมไ้ ด้ 3. พอปลูกตน้ ไมใ้ หญ่เสร็จ ตามดว้ ยตน้ ไมข้ นาดกลาง 4. เสร็จแลว้ วางหินขนาดตา่ งๆ ตามแบบที่วางไว้ 5. แลว้ ตามดว้ ยตน้ ไมข้ นาดเล็ก จดั ตามความชอบ ความตอ้ งการของลูกคา้ 6. จากน้นั นาตน้ ไมป้ ระเภทคลุมพ้ืน มาคลุมพ้ืนทรายบริเวณท่ีไมไ่ ดป้ ลูกตน้ ไมใ้ หเ้ ตม็ 7. เสร็จแลว้ โรยหินกรวดตกแต่งใหส้ วยงาม “การจดั สวนถาดจะตอ้ งวางตน้ ไมใ้ นถาดใหม้ ีท้งั ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ ซ่ึงจะช่วยใหส้ วน ถาดเกิดความสมดุลแลดูสวยงามมาข้ึน
การจดั สวนถาด ตอ้ งคิดและทาเป็นขน้ ตอนตามลาดบั ก่อนหลงั จะทาใหก้ ารจดั สวนถาดแต่ละ ข้นั ตอนสอดรับกนั ผลสุดทา้ ยกจ็ ะไดส้ วนถาดตามท่ีตอ้ งการข้นั ตอนการจดั ทาไดแ้ ก่ กาหนดรูปแบบเตรียม เครื่องมือ วสั ดุอุปกรณ์ เตรียมดินและดาเนินการจดั ทา กาหนดรูปแบบ ข้นั ตอนแรก ไดแ้ ก่ การกาหนดรูปแบบของสวนท่ีจะจดั โดยคิดรูปแบบท่ีจะจดั วา่ จะจดั สวนถาด แบบใด จะจดั แบบแจกนั แบบยอ่ ทิวทศั นธ์ รรมชาติ หรือแบบยอ่ เร่ืองราว จากน้นั จึงตดั สินใจเลือกรูปแบบ ข้นั ตอนต่อไปคิดรูปทรงหรือรูปรางหนา้ ตาของสวนท่ีจะจดั วา่ ควรมีรูปทรงอยา่ งไรเหมาะสมหรือไม่ เตรียมเครื่องมือและวสั ดุอปุ กรณ์ เม่ือไดก้ าหนดรูปแบบและรูปทรงของสวนท่ีจะจดั จะทาใหผ้ จู้ ดั มองเห็นโครงสร้างหรือโครงสวน ถาด ทาใหร้ ู้วา่ วสั ดุอุปกรณ์หลกั ท่ีจะใชป้ ระกอบเป็นโครงสวนถาด ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง วสั ดุอุปกรณ์ท่ีจะใช้ ประกอบเป็นโครงสวนน้าตก ไดแ้ ก่หินรูปทรงตา่ ง ๆ ที่จะใชป้ ระกอบเป็นน้าตก รากไมแ้ ก่นไมท้ ี่คดโคง้ เพ่อื ให้ มอสและเฟิ ร์นเกาะเก่ียว เจริญงอกงามจะตอ้ งบนั ทึกรายการอุปกรณ์และจดั เตรียมใหเ้ รียบร้อย โดยเฉพาะถาดตอ้ งลา้ งใหส้ ะอาด เพราะตอ้ งนามาใชใ้ นการวางโครงสวน ส่วนเคร่ืองมือเครื่องใชใ้ นการจดั สวนถาดตอ้ งเตรียมใหพ้ ร้อมท่ีจะใชง้ าน เตรียมดิน เมื่อกาหนดรูปแบบของสวนถาดไวแ้ ลว้ และรู้วา่ จะใชต้ น้ ไมอ้ ะไรบา้ ง จึงตอ้ งเตรียมดินท่ีจะใชจ้ ดั สวนถาดเอาไวใ้ หพ้ ร้อม และเหมาะสมกบั ตน้ ไมท้ ี่นามาใชจ้ ดั สวนถาด ส่วนผสมของดินเตรียมตามท่ีได้ กล่าวมาแลว้ ดาเนินการจัดทา เมื่อไดก้ าหนดรูปแบบของสวน ไดจ้ ดั เตรียมอุปกรณ์และไดเ้ ตรียมดินไวพ้ ร้อมแลว้ ข้นั ตอนต่อไป ไดแ้ ก่ การจดั ทาสวนถาด ดงั น้ี 1. พิจารณาขนาดวสั ดุอุปกรณ์หลกั และขนาดของถาดเพื่อจะไดร้ ู้วา่ ขนาดของอุปกรณ์หลกั ได้ สัดส่วนกบั ขนาดของถาดหรือไม่ ถา้ ไม่ไดส้ ัดส่วนกนั ใหเ้ ปลี่ยนถาดใหม่ เพราะการจดั หาถาดทาไดง้ ่ายกวา่ การจดั หาวสั ดุอุปกรณ์หลกั วสั ดุอุปกรณ์หลกั เช่น หิน รากไม้ แก่นไมแ้ ละตน้ ไมท้ ่ีจะใชเ้ ป็นโครงสวน 2.พิจารณาขนาดของวสั ดุอุปกรณ์ท่ีจะนามาใชจ้ ดั ในถาดเดียวกนั โดยพิจารณาวา่ ขนาดของวสั ดุ อุปกรณ์หลกั แต่ละชิ้นไดส้ ัดส่วนกนั หรือไม่ ควรใชว้ สั ดุอุปกรณ์ที่ไดส้ ัดส่วนกนั ในดา้ นของขนาด ถา้ ขนาด ไมไ่ ดส้ ัดส่วนกนั เช่นเลก็ ใหญต่ ่างกนั มาก ในกรณีเช่นน้ีตอ้ งจดั หาวสั ดุอุปกรณ์ใหม่ 3.พิจารณาดา้ นรูปทรงของวสั ดุอุปกรณ์หลกั วสั ดุอุปกรณ์หลกั ที่นามาประกอบเป็ นโครงสวนตอ้ ง กลมกลืนกนั ในดา้ นรูปทรง รูปทรงจะกลมกลืนกนั ประมาณร้อยละ70-80และแตกตา่ งกนั ประมาณร้อยละ 30-20
4.วางโครงร่างของสวนถาด หมายถึงโครงสร้างใหญ่ของสวนเท่าน้นั ไมไ่ ดห้ มายถึงรายละเอียด ท้งั หมดของสวนถาดการวางโครงสวนถาดทาไดห้ ลายวธิ ี 4.1 รองกน้ กระถางและใส่ดินในกระถาง โดยนาอิฐท่ีทุบเป็นกอ้ นขนาดปลายนิ้วกอ้ ยใชร้ องกน้ กระถางและปิ ดรูกระถาง 4.2 กาหนดมุมมองที่สาคญั ที่สุด การจดั สวนถาดจึงตอ้ งให้สวยงามมีความละเอียด ประณีต และ สะอาดทุกดา้ น 4.3 กาหนดตาแหนงจุดเด่น ใหจ้ ุดเด่นอยตู่ รงจุดสนใจและสมั พนั ธ์กบั มุมมองที่สาคญั ที่สุดใชส้ ิ่งใด เป็นจุดเด่นใหว้ างสิ่งน้นั ตรงจุดน้นั
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: