ilovepdf_merged

แบบบันทึกองค์ความรู้รายบุคคล อาเภอนาหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงำนพฒั นำชุมชนอำเภอนำ้ หนำว จังหวดั เพชรบูรณ์ โทร.056 – 705817 E-mail :[email protected] Facebook : สำนักงำนพฒั นำชุมชนอำเภอนำ้ หนำว จงั หวดั เพชรบูรณ์ http://district.cdd.go.th/namnao/

แบบบนั ทกึ องคค์ วามรู้ ชอ่ื องค์ความรู้ ผนู้ าสัมมาชีพ “สรา้ งงาน สรา้ งอาชพี ให้ย่ังยนื ” หมวดองค์ความรู้ เทคนิคการสร้างและพฒั นาผนู้ าในการขับเคล่อื นสัมมาชพี เจา้ ขององค์ความรู้ นายธงชัย ธนสถติ ย์ ตาแหน่ง พฒั นาการอาเภอน้าหนาว หน่วยงาน สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอนา้ หนาว จังหวดั เพชรบรู ณ์ ๑.ทมี่ าและความสาคัญการจดั การความรู้ กรมการพฒั นาชุมชน ได้กาหนดวิสัยทัศน์ว่า “เศรษฐกิจฐานรากม่ันคงและชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายใน ปี ๒๕๖๕” โดยมุง่ เนน้ การยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้คนในชุมชนมีการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้าง รายได้ โดยการส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพในชุมชน ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนรู้จักการ “พึ่งตนเอง” ลดการพ่ึงพาภายนอก เพ่ือสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจฐานรากมีความ เจริญเตบิ โต แก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาความเหลื่อมล้าด้านรายได้อย่างมีคุณภาพ ประชาชนใช้ชีวิต อยูใ่ นหมู่บา้ น/ชมุ ชนอย่างมีความสุข โดยการสร้างและพัฒนาผู้นาสัมมาชีพไปขับเคลื่อนหมู่บ้านเป้าหมายตาม โครงการสร้างสมั มาชีพตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ภายใตแ้ นวคิด “ชาวบา้ นสอนชาวบา้ น” สัมมาชีพ หมายถึง อาชีพที่ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนส่ิงแวดล้อม และมี รายไดม้ ากกว่ารายจ่าย เปน็ การพยายามปรบั แนวทางการประกอบอาชีพจากการทามาหากนิ เปน็ ทามาค้าขาย ปราชญ์ชุมชน หมายถึง ผู้ท่ีประกอบอาชีพจนมีความรู้ความสามารถ ความชานาญ หรือมีความ เช่ียวชาญในอาชีพนั้นๆ ท่ีประสบผลสาเร็จหรือมีความม่ันคงในอาชีพ พร้อมมีจิตอาสาสามารถถ่ายทอดและ ขยายผลไปส่บู ุคคลอนื่ ๆ ได้ ครัวเรือนสัมมาชีพ หมายถึง ครัวเรือนเป้าหมายท่ีผ่านการฝึกปฏิบัติอาชีพโครงการสร้างสัมมาชีพ ชุมชนในระดบั หมูบ่ ้าน กลุ่มอาชีพ หมายถึง กลุ่มที่จัดต้ังข้ึนใหม่ โดยเกิดจากการรวมตัวของครัวเรือนสัมมาชีพ ท่ีผ่านการฝึก ปฏิบัติและมีการประกอบอาชีพเดียวกัน หรือประเภทเดียวกัน ตั้งแต่ ๕ ครัวเรือนข้ึนไป วัตถุประสงค์เพื่อ ชว่ ยเหลือซ่ึงกันและกันในการประกอบอาชีพ ๒. ปญั หาทพี่ บและแนวทางแกไ้ ขปญั หา ๒.๑ ปัญหาที่พบ ๑. เจ้าหน้าทพี่ ฒั นาชุมชนบางคน ยังไม่เขา้ ใจการคัดเลอื กปราชญ์สมั มาชีพ บางหมบู่ ้านไมไ่ ด้ ดาเนินการตามแนวทางท่ีกาหนด เช่น ปราชญ์ท่ีไปเข้ารับการฝึกอบรมวิทยากรสัมมาชีพเป็นคนละคนกันกับ ปราชญท์ ่ีปฏิบัตงิ านไดจ้ รงิ ๒. ปราชญบ์ างคนมคี วามรคู้ วามสามารถจรงิ แตไ่ ม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นแนวทางปฏิบตั ิได้ ชัดเจน คอื เก่งทางปฏิบตั มิ ากกวา่ ทางทฤษฎี ๓. ปราชญส์ ัมมาชีพ ต้องเป็นปราชญท์ ่ีมคี วามรทู้ ีเ่ หมาะสมกบั บรบิ ทของคนในชมุ ชน คนในชุมชน สนใจ สามารถต่อยอดใหเ้ กิดการพัฒนาเป็นอาชพี ได้ ๔. ครัวเรือนท่เี ข้าร่วมฝึกอาชพี ตอ้ งเป็นครัวเรอื นทส่ี มคั รใจหรอื สนใจ และตอ้ งต้ังใจฝกึ จริง ๆ เพอื่ ให้ เกิดการสร้างงาน สรา้ งอาชพี อย่างแท้จรงิ ๕. วัสดสุ นบั สนุนการฝึกอาชพี ต้องเป็นวสั ดุท่จี าเปน็ ต่อการสาธิตฝกึ ปฏบิ ตั ิจรงิ ๆ ไม่ใช้ ซือ้ แจกให้ ครัวเรอื น โดยไม่มีการสอนความร้กู ารประกอบอาชีพ ๒.๒ แนวทางแก้ไข...

๒ ๒.๒ แนวทางแกไ้ ข ๑. เจ้าหน้าที่พฒั นาชุมชน ต้องศึกษาทาความเขา้ ใจเพ่ือดาเนินการคดั เลือกปราชญส์ มั มาชีพ ตอ้ ง ศกึ ษาแนวทาง/วธิ กี ารคัดเลือกอยา่ งชัดเจน เพ่ือให้ไดป้ ราชญ์สัมมาชีพท่ปี ระสบผลสาเรจ็ ด้านการประกอบ อาชีพ มีความร้คู วามสามารถ และเสียสละในการถา่ ยทอดองค์ความรู้ดา้ นอาชพี ๒. การฝกึ อบรมปราชญ์ใหส้ ามารถบรรยายถา่ ยทอดได้ ต้องใช้เวลาในการฝกึ ฝน ดงั นี้ จาเปน็ ต้องให้ ปราชญไ์ ด้ฝกึ ฝนตนเองบ่อย ๆ โดยมีเจ้าหน้าทีพ่ ฒั นาชมุ ชนเป็นพเ่ี ลย้ี ง ๓. ครัวเรอื นเป้าหมาย ควรคัดเลือกครวั เรือนทมี่ ีความพรอ้ มและต้องการฝกึ อาชีพจรงิ ๆ และเป็น ตวั อยา่ งแก่ครัวเรอื นอื่น ๆ ได้ ๔. ต้องทาความเขา้ ใจกับครัวเรือนเปา้ หมายใหช้ ดั เจน ในการเข้ารว่ มตามโครงการ ๓.วธิ กี าร/ขั้นตอน การสรา้ งและพัฒนาผู้นาสัมมาชีพ ให้มีความรู้ความสามารถเป็นวิทยากรสัมมาชีพท่ีดี มีกระบวนการ/ ขน้ั ตอน ดังนี้ ๓.๑. คดั เลือกปราชญ์ชุมชนที่มีความรูค้ วามเชี่ยวชาญด้านการประกอบอาชีพจนประสบผลสาเรจ็ เปน็ ทย่ี อมรบั ของคนในหมู่บ้าน/ชมุ ชน ๓.๒. คัดเลอื กครัวเรอื นเป้าหมาย ที่ตอ้ งการฝึกอาชีพ โดยดูจากขอ้ มูลความจาเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ากว่าเกณฑ์ เรื่อง รายได้เฉลี่ยของคนในครัวเรือน ต่ากว่า ๓๘,๐๐๐ บาท/คน/ปี หรือ ครวั เรือน ทมี่ คี วามสนใจและมีความต้องการทีจ่ ะเข้ารบั การฝกึ อาชพี ๓.๓. ส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพให้กับครัวเรือนเป้าหมาย โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจในการน้อม นาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาปรับใชใ้ นการดารงชีวิตเพอ่ื ใหเ้ ปน็ วถิ ีชีวติ ๓.๔. ถ่ายทอดทักษะ วทิ ยายุทธใ์ นการเป็นวิทยากรกระบวนการแก่ ผูน้ าสมั มาชพี และทมี วทิ ยากร สัมมาชพี เพอ่ื นาไปสอนอาชีพใหแ้ ก่ครวั เรอื น โดยวิธีการ “ชาวบ้านสอนชาวบา้ น”ตามความต้องการในอาชีพที่ สนใจ ๓.๕. ทมี วทิ ยากรสัมมาชพี ติดตาม สนับสนุนการประกอบอาชีพของครวั เรอื นอยา่ งต่อเน่อื ง เพ่ือให้ ครัวเรือนมีความมน่ั ใจในอาชีพ และสามารถแก้ไขปัญหา-อุปสรรค ท่ีเกิดขึ้นได้ทันท่วงที พร้อมจัดทาบันทึกผล ความก้าวหนา้ ของครัวเรอื น ๓.๖. ส่งเสริม สนับสนุนให้ครัวเรือนสัมมาชีพ ที่ทาอาชีพเดียวกัน หรือประเภทเดียวกัน ได้รวมตัว จดั ตั้งเปน็ กลมุ่ อาชพี เพื่อผลิตสนิ คา้ เปน็ สินค้าชมุ ชน หรอื ขน้ึ ทะเบยี นเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ OTOP ต่อไป

๓ การสร้างผู้นาสัมมาชพี ชุมชน ๑. คดั เลอื กปราชญช์ ุมชนทม่ี คี วามรู้ความเชยี่ วชาญ การถา่ ยทอดทกั ษะ การขบั เคล่ือน ๒. ส่งเสรมิ การสร้างสัมมาชพี ชุมชน ครัวเรือนเป้ าหมาย ๓. ทมี วทิ ยากรสัมมาชพี การตดิ ตาม สง่ เสริม สนบั สนนุ ให้ครัวเรือนประกอบอาชพี ๔.ประโยชน์ทไี่ ด้รับ ๔.๑. ทีมวิทยากรปราชญ์สมั มาชีพ มีความรูค้ วามเข้าใจในการถา่ ยทอดองค์ความรู้อยา่ งเป็นระบบ สามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ รงิ ๔.๒. สง่ เสริมกระบวนการเรียนรู้ โดยให้ “ชาวบ้านสอนชาวบา้ น” ๔.๓. เป็นการพัฒนาศักยภาพปราชญ์สัมมาชพี และผนู้ าชุมชนมาขับเคล่ือนในการพัฒนาชมุ ชน ๔.๔. กอ่ ใหเ้ กดิ การกลุ่มสมั มาชีพ เปน็ การสรา้ งงาน สร้างรายไดแ้ ก่คนในชมุ ชน ๔.๕. คนในชุมชนมอี าชีพ มีงานทา มีคุณภาพชีวิตที่ดมี ีความสขุ ๕.เทคนคิ การปฏบิ ตั งิ าน ๕.๑. ใช้กระบวนการมีสว่ นรว่ มของคนในชุมชน ๕.๒. การจัดเวทแี ลกเปลย่ี นเรียนรู้ ๕.๓. หลกั การทรงงานของรัชกาลท่ี ๙ ๕.๔. มหกรรมนาเสนอผลงานเดน่ ๖.ปจั จัยความสาเร็จ ๖.๑. ความพรอ้ มของเจ้าหนา้ ทพ่ี ฒั นาชมุ ชนและผู้เกยี่ วขอ้ ง ๖.๒. การคัดเลอื กปราชญ์ ต้องเป็นปราชญ์ทีม่ ีองค์ความรแู้ ละเหมาะสมกบั บรบิ ทของพ้นื ท่ี ๖.๓. ครวั เรือนเปา้ หมาย ตอ้ งสมัครใจและมีความตั้งใจฝึกอาชีพ ๖.๔. ประสานความรว่ มมือกับภาคีการพัฒนา บูรณาการแผนชมุ ชนเพ่ือสนับสนนุ ๖.๕. ตดิ ตาม สนบั สนุนเยีย่ มเยียนใหก้ าลงั ใจอยา่ งต่อเนื่องสม่าเสมอ ...........................................................