Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore KM namnao 1

KM namnao 1

Published by miewthaipo, 2020-04-27 22:59:46

Description: KM namnao 1

Search

Read the Text Version

แบบบันทกึ องค์ความรรู้ ายบุคคล 1.ชื่อองค์ความรู้ บรหิ ารกองทุนโดยหลักธรรมาภบิ าล ของบา้ นหว้ ยแปก หมทู่ ี่ 6 ตา้ บลน้าหนาว อ้าเภอน้าหนาว จงั หวดั เพชรบรู ณ์ 2.เจา้ ขององค์ความรู้ นางสาวไพลิน ช่วยพยุง ตา้ แหนง่ นกั วิชาการพัฒนาชุมชนช้านาญการ สงั กดั สา้ นักงานพัฒนาชมุ ชนอ้าเภอนา้ หนาว จงั หวดั เพชรบูรณ์ โทรศพั ท์ 082 - 8790619 3. องคค์ วามรู้ทบี่ ง่ ช้ี (เลือกได้ จานวน 1 หมวด) หมวดที่ 7 เทคนคิ การสง่ เสรมิ กองทุนชมุ ชนให้เกิดการบริหารงานตามหลกั ธรรมาภบิ าล 4.ท่มี าและความสาคญั ในการจดั องคค์ วามรู้ วสิ ัยทศั น์กรมการพัฒนาชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ “เศรษฐกจิ ฐานรากมั่นคงและชุมชนพงึ่ ตนเองได้ ภายในปี ๒๕๖5” กรมการพฒั นาชุมชนได้มุ่งขบั เคลือ่ น ไปสู่การปฏบิ ัติใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อประชาชนอยา่ งแท้จริง ซง่ึ ไดผ้ ่านกระบวนการวิเคราะห์ ทา้ ใหม้ คี วามง่าย ทา้ ทาย และเป็นไปได้ในการปฏิบัติให้สอดคล้องกบั ทศิ ทาง แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาตฉิ บับที่ ๑๒ (พ.ศ. 2560 – 2564) ยุทธศาสตร์ของประเทศไทย นโยบายของรัฐบาล สถานการณ์สภาพแวดล้อมในปจั จุบัน เพอื่ ให้บคุ ลากรทุกคน ใช้เปน็ กรอบทิศทางการ ปฏบิ ตั งิ าน โดยสามารถก้าหนดรปู แบบ น้าไปประยุกต์สู่การปฏบิ ตั ิงานไดต้ ามความเหมาะสม และกรมการ พัฒนาชมุ ชนได้ก้าหนดให้ปี ๒๕๖๐ ขับเคลอื่ นวาระกรมการพฒั นาชมุ ชน (Agenda) เพ่ือมุ่งมัน่ ว่ากรมการ พฒั นาชมุ ชน พร้อมขบั เคล่อื น สัมมา ชีพชุมชนเข้มแขง็ ภายใต้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อก้าวไปสู่ “เศรษฐกจิ ครัวเรอื นมีความมั่นคง ประชาชนใชช้ ีวติ อย่ใู นชมุ ชน อยา่ งมีความสุข” เพ่ือสนับสนุนให้ วิสัยทศั น์ของกรมการพฒั นาชุมชนบรรลุผล สา้ นกั งานพฒั นาชุมชนอ้าเภอนา้ หนาว โดยนางสาวไพลนิ ชว่ ยพยงุ นกั วชิ าการพัฒนาชมุ ชนชา้ นาญการ ส่งเสริมกระบวนการท้างานของหม่บู ้าน บา้ นห้วยแปก หมทู่ ่ี 6 ตา้ บลน้าหนาว อ้าเภอน้าหนาว จงั หวัดเพชรบูรณ์ โดยยึดหลักหลักธรรมาภบิ าล และการมีสว่ นร่วมของกลุ่ม 5.ปญั หาทีพ่ บและแนวทางในการแกไ้ ขปญั หา พื้นทด่ี ้าเนนิ การบ้านห้วยแปก หมทู่ ี่ 6 ตา้ บลน้าหนาว อา้ เภอน้าหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ มกี ารดา้ เนินงานกองทุนจา้ นวน 8 กองทุน ดงั นี้ 1. กองทุนหมูบ่ ้าน 2. กองทนุ โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) 3. สหกรณ์เพือ่ การเกษตร 4. ออมทรัพยเ์ พ่ือการผลิต 7. กองทนุ ข้าว 6. กองทนุ ขา้ วหลาม 7. โรงสีข้าวชุมชน 8. กองทุนแม่ของแผน่ ดิน ซง่ึ แตล่ ะกองทนุ มีการดา้ เนนิ งานเป็นกลุม่ ประกอบด้วย สมาชกิ กรรมการ กฎกตกิ า กจิ กรรม และเงินทุน ผลกา้ ไร

ปัญหา 1.สมาชิกบางคนมีความสบั สนในการดา้ เนินงาน ไม่เขา้ ใจ 2.คณะกรรมการบางคน ท้าหลายหน้าท่ีหลายต้าแหน่ง เกิดความสับสน ไมม่ ีเวลา 3.ระเบียบกลมุ่ ทแ่ี ตกต่างกัน เชน่ การคดิ ดอกเบย้ี ทีต่ ่างกัน ท้าใหส้ มาชิกรู้สึกไดเ้ ปรียบเสียเปรียบกนั 4.กิจกรรม แบ่งแยกกัน ตา่ งคนต่างท้า เช่น การนดั ประชุม ที่มหี ลายคร้งั เพราะมหี ลายกลุ่ม 5.เงินกองทุน และผลก้าไร ของแตล่ ะกล่มุ การจัดสรรผลก้าไร เช่น ดา้ นสวัสดกิ าร ด้านสาธารณะ ประโยชน์ เน่ืองจากมีเงนิ น้อยและตา่ งคนตา่ งบริหาร จึงด้าเนินการไม่เป็นรปู ธรรมทชี่ ัดเจน แนวทางแก้ไข สนับสนุนใหห้ มู่บ้านใช้หลักธรรมาภิบาล 1.หลกั ประสิทธผิ ล 2.หลกั ประสทิ ธิภาพ 3.หลกั การตอบสนอง 4.หลกั ภาระรบั ผดิ ชอบ 5.หลักความโปร่งใส 6.หลักการมีส่วนรว่ ม 7.หลักกระจายอ้านาจ 8.หลักนิตธิ รรม 9.หลักเสมอภาค 10.หลกั ม่งุ เนน้ ฉนั ทามติ ทกุ กระบวนการให้ชาวบา้ น สมาชิก คณะกรรมการมีส่วนรว่ ม 1.รว่ มคิด ประชุมชาวบา้ นและคณะกรรมการกลมุ่ ต่าง ๆ ร่วมระดมความคิด 2.รว่ มท้า เม่ือทป่ี ระชมุ ตกลงในเรือ่ งตา่ งๆ ทไ่ี ด้ร่วมคดิ ไว้แล้ว ทกุ ฝ่ายตา่ งไปด้าเนนิ การในสว่ นท่ตี ัวเอง ไดร้ ับมอบหมายจากท่ีประชุมมาใหบ้ รรลุความสา้ เรจ็ ตามท่ีวางไว้ 3.ร่วมแก้ไข เม่ือไปทา้ งานแลว้ ประสบปัญหาใดก็รีบแจง้ เรื่องต่อกันและกนั เพื่อเร่งรีบแกไ้ ขมิให้ สง่ ผลกระทบต่องานท้ังหมด 4.รว่ มรบั ผล (ทงั้ ผลดแี ละผลไมด่ ี) รับผลส้าเร็จของงานรว่ มกนั 5.ร่วมพฒั นา น้าผลการปฏิบัติงานเข้าช้ีแจงประชาสัมพนั ธ์ใหช้ าวบ้านทราบ ในทปี่ ระชุมของหมู่บา้ น อยา่ งสม่า้ เสมอ หากมปี ัญหาในการท้างาน ที่ประชมุ จะช่วยกนั หาแนวทางแกไ้ ข หากเกิดผลการดา้ เนินงานทด่ี ี เกิดประโยชน์ จะน้ามาพัฒนางานใหด้ ีย่งิ ขนึ้ ต่อไปอย่างต่อเน่ือง 6.ประโยชนข์ ององคค์ วามรู้ 1. การพัฒนาหม่บู า้ นทจี่ ะก่อใหเ้ กิดความเข้มแขง็ ยั่งยืน ต้องเกดิ จากการมีส่วนร่วมของ ประชาชนในหมูบ่ ้าน การมีส่วนร่วมจากทกุ ฝ่ายอย่างเต็มใจ คนในชุมชนเกิดการเปล่ียนแปลงความคดิ ทศั นคติทด่ี ี จากเดิมท่ีคิดว่าไม่ใชห่ นา้ ที่ของตัวเอง ใหเ้ ปล่ียนมาเปน็ ทุกคนต้องมีส่วนรว่ มในการพัฒนาหมู่บา้ น ของตวั เอง 2. เป็นการสนับสนุนการด้าเนนิ งานขององค์กร 3. การท้างานท่ี ชัดเจน เปน็ รปู ธรรม เกดิ ประสิทธภิ าพและประสิทธิผลในการทา้ งาน 4. เปน็ แนวทางในการขบั เคลือ่ นกจิ กรรมต่างๆ ของหมู่บ้าน 5. เป็นการประชาสมั พันธผ์ ลการดา้ เนนิ งาน และสามารถน้าไปใช้ขยายผลปฏิบัติในหมู่บ้านอืน่ ได้

7.เทคนิคในการปฏิบัติงาน เทคนคิ และวิธีการทา้ งานที่ใช้ เป็นเทคนคิ ทส่ี ่งเสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของคนในชุมชน เพือ่ เกิดการเรยี นรู้ ใหท้ กุ คนไดม้ สี ่วนร่วมต้ังแต่เริ่มตน้ การท้างาน จนถึงขั้นตอนรบั ผลประโยชนร์ ว่ มกนั ดงั น้ี 1.การจัดเวทปี ระชาคมเป็นประจ้าทุกเดือน เพื่อนา้ ใหไ้ ด้การมสี ่วนร่วมทางสงั คม ๒.การใช้ทรพั ยากรท่ีมใี นท้องถ่ินเปน็ ทนุ ในการพฒั นา ๓.หลักการมีสว่ นร่วมของคนในชมุ ชน วธิ ีการทา้ งาน ๑. การเตรียมหม่บู า้ นในการพัฒนา ๒. การขบั เคล่อื นการพฒั นาหมบู่ ้านทีส่ ามารถสรา้ งพลงั ชุมชนในการใช้ทนุ ชมุ ชน ๓. การยกย่องเชดิ ชูเกียรติ ปัจจยั แหง่ ความสา้ เร็จ 1. ผนู้ า้ ชุมชนและแกนนา้ มีความรคู้ วามเข้าใจและมคี วามสามารถในการส่งเสรมิ ให้คนในหมู่บา้ น เข้ามาร่วมพฒั นา 2. คนในชุมชนมีวิถีชีวติ ทเี่ รยี บงา่ ย มคี วามสามัคคี ปรองดองรบั ฟังความคิดเหน็ ซึง่ กันและกนั เคารพ กฎระเบียบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook