Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่อง พืชออนไลน์

เรื่อง พืชออนไลน์

Published by nawamin.ng, 2021-06-26 05:11:35

Description: เรื่อง พืชออนไลน์

Search

Read the Text Version

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 จดั ทาโดย ครูนวมนิ ทร์ แกว้ วเิ ศษโฮง ครปู ระจาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีทื่ 1 โรงเรยี นบา้ นบางกะปิ สานกั งานเขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร

พืชมีสว่ นตา่ ง ๆ ทสี่ าคญั ได้แก่ ราก, ลาตน้ , ใบ, ดอก และผล เราจะได้เรียนรู้วา่ แต่ละสว่ นทาหน้าทอ่ี ะไรบ้าง

โครงสร้างภายนอกของพืชประกอบดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ คอื ราก ลาตน้ ใบ ดอก และผล ส่วนต่าง ๆ ของพืชทาหน้าที่แตกต่างกัน

ราก มรี ปู รา่ งเรียว ยาว และปลายแหลม รากทาหน้าทย่ี ดึ พชื ไว้ กับดนิ ทาให้ลาตน้ พชื ตง้ั อยู่บนดิน และชว่ ยดูดน้าและธาตอุ าหารซึ่ง เปน็ อาหารของพชื รากพืชมหี ลายลกั ษณะ

รากแก้ว เปน็ รากที่แข็งแรง ขนาดใหญ่ มคี วามยาวมากกว่าราก อื่น ๆ และมรี ากแขนงแตกออกมา รากแกว้ จะชว่ ยยดึ ลาต้นของพชื ใหต้ ดิ แนน่ กับดนิ ไมใ่ ห้โค่นล้มงา่ ย

รากฝอย เป็นรากเส้นเลก็ ๆ อยู่กันเป็นกระจกุ รากฝอยจะเจริญ ลงไปในดนิ ไม่ลึก ทาให้โค่นลม้ ได้งา่ ย มกั พบในรากของพชื ขนาด เลก็ เช่น ข้าว กลว้ ย ไผ่ หญ้า เป็นต้น

รากสะสมอาหาร พชื บางชนิดใช้รากสะสมอาหาร เชน่ กระชาย มนั แกว แคร์รอต หัวไชเท้า มันสาปะหลงั มนั เทศ เป็นตน้

รากของพืชบางชนิดที่อย่เู หนือพน้ื ดิน เช่น รากอากาศ ของกล้วยไม้ รากค้าจุนของต้นโกงกาง

ตง้ั ตรง เล้ือย กลวง ลาตน้ ทาหนา้ ทนี่ าน้าและอาหารไปเลีย้ งสว่ นต่าง ๆ ของพชื และชูกิง่ ก้าน ใบ และดอก พชื บางชนิดมีลาตน้ สงู ใหญ่และแขง็ แรง เชน่ มะมว่ ง มะพร้าว และ มะขาม เป็นตน้ แตพ่ ืชบางชนิดมีลาตน้ ไม่แข็งแรงและอาจเลือ้ ยไปตามดินหรอื พนั กบั ตน้ ไมใ้ หญ่ เช่น ตาลึง กระเฉด และบัวบก

พืชบางชนดิ มีลาตน้ อยู่ใต้ดิน เป็นแหล่งสะสมอาหาร เชน่ หอมแดง ขิง ข่า ขมิ้น เผือก มันฝรงั่

ใบ ใบพืชส่วนมากมีสเี ขียวและมสี ว่ นตา่ ง ๆ ที่สาคญั คือ กา้ นใบ ขอบใบ แผน่ ใบ และเส้นใบ ใบมหี นา้ ทเี่ หมอื นพ่อครวั ทใี่ ช้แสงแดด อากาศ น้า ผลติ อาหาร นอกจากนีย้ งั ทาหน้าที่ หายใจและคายน้าออกมาจากใบ

ใบมะกรูด ใบกลว้ ย ใบกะเพรา ใบพชื มีรูปร่างและลักษณะแตกตา่ งกันไปตามชนิดของพชื เช่น บางใบแหลมหรือบางใบกลม บางใบขอบหยกั หรือบางใบขอบเรียบ

ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ดอกจาปี ดอกกลว้ ยไม้ ปลี ดอกชบา ดอก ดอกมหี น้าที่สืบพนั ธุแ์ ละทาใหเ้ กิดผล ดอกของพชื แตล่ ะ ชนดิ จะมีรูปรา่ ง กล่ิน และสีแตกต่างกนั ตามชนดิ ของพืช

ผลและเมลด็ ผลและเมลด็ ของพชื เปลย่ี นมาจากดอกและมหี นา้ ที่ ขยายพนั ธ์ุ ภายในผลมเี มล็ดของพืช เราสามารถนาเมล็ดไปปลูก เป็นต้นไม้ตน้ ใหม่ได้

ส่วนต่าง ๆ ของพชื สามารถนาไปใช้ประโยชน์ไดม้ ากมาย เช่น ลาตน้ ไปสร้างบ้าน นาไปทาอาหาร ห่อขนมหรอื อาหาร นาดอกไมไ้ ปจัดแจกันหรอื ร้อยพวงมาลยั นา ผลไปรบั ประทานหรอื ใช้ทายารกั ษาโรค เป็นต้น

เราสามารถจาแนกพชื เหล่าน้นั ออกเปน็ กลุ่มทม่ี ีลักษณะบางประการ เหมือนกันไว้ในกลมุ่ เดียวกัน เช่น แหลง่ ที่อยู่อาศัย, ลกั ษณะ ภายนอกของพชื เปน็ ต้น

บรรณานุกรม ขนิษฐา ชยั รตั นาวรรณ และจตุ มิ า จันทร์ตระกูล. (2558). หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ 1 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 (พิมพค์ ร้งั ท่ี 1). นนทบรุ :ี สานักพิมพ์เอมพันธ์ จากัด. บญั ชา แสนทวี นริศรา ศรเี คลือบ และชนกิ านต์ นมุ่ มชี ัย. (2551). หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ตามหลกั สตู ร แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. พระนคร: สานักพมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั . สถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ. (2559). คู่มือครู วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: ผู้แต่ง.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook