Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore IDplan 2566

IDplan 2566

Published by ญาณิกา สุชาติสุนทร, 2023-06-20 07:37:47

Description: แผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) เพื่อเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพต่อไป

Search

Read the Text Version

ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ที่สดุ กลาง ที่สดุ 5.เขา้ รบั การอบรมเพื่อพฒั นาตนเองจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ อยา่ ง ตอ่ เนอ่ื ง   6.ให้คำปรกึ ษา แนะนำ นิเทศ และถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณ์  ทางวิชาชีพแกผ่ อู้ ื่น  7.มีการสรา้ งเครอื ข่ายการเรยี นร้เู พอ่ื การพัฒนาตนเองทง้ั ในและ  นอกสถานศึกษา  4.สมรรถนะการทำงานเป็นทีม   1.สร้างสมั พันธภาพทด่ี ใี นการทำงานรว่ มกบั ผู้อื่น  2.ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนตามบทบาทหน้าทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมาย  3.ชว่ ยเหลอื เพ่อื นรว่ มงานเพื่อสเู่ ปา้ หมายความสำเรจ็ รว่ มกนั   4.ให้เกยี รติ ยกย่องชมเชย ใหก้ ำลงั ใจแกเ่ พ่ือนร่วมงานในโอกาสที่ เหมาะสม  5.มที กั ษะในการทำงานรว่ มกบั บคุ คล/กลุม่ บุคคลไดอ้ ย่างมี  ประสทิ ธภิ าพท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา และในทุก  สถานการณ์  6.แสดงบทบาทผ้นู ำหรือผตู้ ามในการทำงานร่วมกับผู้อน่ื ไดเ้ หมาะสม  ในทุกโอกาส  7.แลกเปลย่ี น/รบั ฟังความคิดเห็นและประสบการณภ์ ายในทมี งาน   8.รว่ มกบั เพือ่ นรว่ มงานในการสรา้ งวัฒนธรรมการทำงานเปน็ ทมี ให้  เกิดขน้ึ ในสถานศกึ ษา  5.สมรรถนะจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู 1.ยดึ ม่ันในอุดมการณ์ของวชิ าชพี ปกป้องเกียรตแิ ละศกั ดศ์ิ รีของ วิชาชีพ 2.เสยี สละ อทุ ิศตนเพือ่ ประโยชนต์ ่อวิชาชพี และเป็นสมาชกิ ที่ดขี อง องคก์ รวชิ าชีพ 3.ยกยอ่ ง ชืน่ ชมบุคคลทป่ี ระสบความสำเรจ็ ในวิชาชพี 4.ซ่อื สตั ยต์ อ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใชจ้ ่ายและใช้ ทรัพยากรอย่างประหยดั 5.ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบยี บ ข้อบงั คบั และขนบธรรมเนียมประเพณี 6.ปฏิบัติตนและดำเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ได้เหมาะสมกบั สถานะของตน 7.รักษาสทิ ธปิ ระโยชนข์ องตนเอง และไม่ละเมดิ สทิ ธิของผอู้ ่นื 8.เอ้อื เฟ้ือเผอื่ แผ่ ชว่ ยเหลือ และไม่เบยี ดเบยี นผอู้ ่นื 9.มคี วามเปน็ กลั ยาณมติ รต่อผเู้ รยี น เพอื่ รว่ มงานและผูร้ บั บรกิ าร 10.ปฏบิ ตั ติ นตามหลักการครองตน ครองคน ครองงานเพอ่ื ใหก้ าร ปฏบิ ัตงิ านบรรลผุ ลสำเรจ็ ~ 36 ~

2. สมรรถนะประจำสายงาน ( Functional Competency ) ระดบั การปฏบิ ัติ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ที่สุด กลาง ทส่ี ุด 1.สมรรถนะการบริหารจดั การหลักสูตรและการจดั การเรยี นรู้   1.ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้อยา่ งหลากหลายสอดคล้องกบั วยั  ความต้องการของผ้เู รียน ชุมชน   2.เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกำหนดกิจกรรมและการ   ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3.ใชร้ ปู แบบ/เทคนคิ วิธีการสอนอย่างหลากหลายเพื่อใหผ้ ู้เรยี นพัฒนา   เต็มตามศกั ยภาพ   4.จัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ปี ลูกฝัง/ส่งเสริมคณุ ลักษณะพงึ ประสงค์และ สมรรถนะของผูเ้ รียน  5.ใชห้ ลกั จิตวทิ ยาในการจดั การเรยี นรใู้ ห้ผู้เรยี นเรยี นรู้อยา่ งมคี วามสขุ และพฒั นาเต็มศักยภาพ  6.ใชแ้ หล่งเรยี นร้แู ละภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ในชุมชนในการจัดการเรยี นรู้   7.ใช้สอื่ นวตั กรรม และเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกบั  เน้อื หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้  8.ใช้เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรใ์ นการผลติ ส่ือ/นวัตกรรมทีใ่ ช้ในการ  เรียนรู้ 9.ออกแบบวิธกี ารวดั และประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกับเนื้อหา และกิจกรรมการเรยี นรู้ 10.สร้างและนำเครอื่ งมอื วัดและประเมินผลไปใช้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม 11.วัดและประเมนิ ผลผู้เรียนตามสภาพจริง 12.นำผลการประเมินการเรียนร้มู าใช้ในการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ 2.สมรรถนะการพฒั นาผเู้ รียน 1.สอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรมแก่ผู้เรยี นในการจดั การเรียนร้ใู นช้นั เรยี น 2.จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหแ้ กผ่ เู้ รยี นโดยใหผ้ เู้ รยี นมี สว่ นรว่ มในการวางแผนกิจกรรม 3.จัดทำโครงการ/กจิ กรรมทสี่ ง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมให้แกผ่ เู้ รยี น 4.จัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนาผเู้ รียนดา้ นการดแู ลตนเอง มีทกั ษะในการ เรียนรู้ การทำงาน การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม และรู้เท่าทนั การ เปล่ยี นแปลง 5.สอดแทรกความเป็นประชาธปิ ไตย ความภมู ใิ จในความเปน็ ไทย ให้แกผ่ ู้เรียนในการจัดการเรยี นรู้ 6.จัดทำโครงการ/กจิ กรรมทสี่ ่งเสรมิ ความเปน็ ประชาธปิ ไตยความ ภาคภูมิใจในความเป็นไทย ~ 37 ~

ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทีส่ ุด กลาง ที่สุด 7.ให้ผปู้ กครองมสี ่วนรว่ มในการดแู ลช่วยเหลือนักเรียนรายบคุ คล    8.นำข้อมูลนักเรยี นไปใชช้ ว่ ยเหลือ/พัฒนาผู้เรียนท้ังดา้ นการเรยี นรู้   และปรบั พฤตกิ รรมเปน็ รายบคุ คล 9. จดั กิจกรรมเพอื่ ป้องกนั แก้ไขปญั หาและส่งเสรมิ พัฒนาผเู้ รยี นใหแ้ ก่   นกั เรียนอยา่ งทั่วถึง  10. ส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นปฏิบตั ิตนใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกับค่านยิ มทดี่ ีงาม     11. ดแู ลนักเรียนทกุ คนอยา่ งท่วั ถงึ ทันเหตกุ ารณ์   3.สมรรถนะการบริหารจัดการชน้ั เรยี น    1. จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนทีเ่ อือ้ ต่อการเรียนรู้  2. สง่ เสรมิ การมีปฏิสมั พนั ธท์ ด่ี รี ะหว่างครูกับผเู้ รยี นและผู้เรยี นกับ  ผู้เรยี น 3. ตรวจสอบส่งิ อำนวยความสะดวกในห้องเรียนให้พร้อมใช้และ  ปลอดภยั 4. จัดทำขอ้ มลู สารสนเทศของนกั เรียนเป็นรายบคุ คลและเอกสาร ประจำช้นั เรยี นครบถ้วน เปน็ ปจั จบุ นั 5.นำขอ้ มลู สารสนเทศไปใชใ้ นการพฒั นาผเู้ รียนได้อยา่ งเต็มศักยภาพ 6.ให้ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มในการกำหนดกฎ กตกิ า ข้อตกลงในช้ันเรยี น 7.แกป้ ัญหา/พฒั นานักเรียนดา้ นระเบียบวินัยโดยการสร้างวินยั เชิง บวกในช้ันเรยี น 8.ประเมนิ การกำกบั ดแู ลช้นั เรียน และนำผลการประเมนิ ไปใช้ในการ ปรับปรุงและพฒั นา 4.สมรรถนะการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวจิ ัยเพอ่ื พฒั นา ผู้เรยี น 1.สำรวจปญั หาเกี่ยวกับนกั เรยี นทเ่ี กิดขนึ้ ในชั้นเรยี นเพ่ือวางแผนการ วิจยั เพื่อพัฒนาผ้เู รยี น 2.วเิ คราะหส์ าเหตุของปญั หาเกยี่ วกับนกั เรยี นท่เี กดิ ขนึ้ ในช้ันเรยี นเพอื่ กำหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปัญหาระบสุ ภาพปจั จบุ นั 3.รวบรวม จำแนกและจดั กลุ่มของสภาพปญั หา แนวคดิ ทฤษฏแี ละ วิธกี ารแกป้ ัญหาเพื่อสะดวกต่อการนำไปใช้ 4.มกี ารประมวลผลหรอื สรปุ ข้อมลู สารสนเทศทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อการ แก้ไขปญั หาในช้ันเรยี นโดยใชข้ อ้ มูลรอบด้าน 5.มกี ารวเิ คราะห์จดุ เด่น จดุ ด้อย อุปสรรคและโอกาสความสำเร็จของ การวจิ ัยเพอื่ แกป้ ัญหาท่ีเกิดขึ้นในช้ันเรยี น 6.จดั ทำแผนการวจิ ัยและดำเนินกระบวนการวิจยั อยา่ งเปน็ ระบบตาม แผนดำเนินการวิจยั ที่กำหนดไว้ 7.ตรวจสอบความถกู ต้องและความน่าเชื่อถอื ของผลการวิจยั อยา่ งเปน็ ระบบ ~ 38 ~

ระดบั การปฏบิ ัติ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทสี่ ดุ กลาง ทส่ี ุด 8.มกี ารนำผลการวจิ ัยไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกรณีศกึ ษาอืน่ ๆ ท่ีมีบริบทของ ปัญหาท่ีคล้ายคลงึ กัน   5.สมรรถนะภาวะผนู้ ำครู   1.เห็นคุณค่า ให้ความสำคญั ในความคดิ เห็นหรอื ผลงานและให้เกียรติ ผอู้ นื่   2.กระตุ้นจูงใจ ปรับเปลี่ยนความคดิ และการกระทำของผอู้ ื่นให้มคี วาม  ผกู พนั และม่งุ มั่นตอ่ เป้าหมายในการทำงานรว่ มกนั   3.มปี ฏิสมั พนั ธ์ในการสนทนาอยา่ งสร้างสรรคก์ ับผู้อ่นื โดยมุ่งเนน้ ไป   การเรยี นรู้ และการพัฒนาวิชาชีพ  4.มที กั ษะการฟัง การพูด และการตั้งคำถามเปิดใจกวา้ ง ยืดหยนุ่  ยอมรับทศั นะที่หลากหลายของผอู้ ่ืนเพ่ือเป็นแนวทางใหม่ ๆ ในการ   ปฏบิ ัตงิ าน  5.ให้ความสนใจตอ่ สถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีเปน็ ปจั จบุ ันโดยมกี ารวางแผน   อยา่ งมวี ิสัยทศั น์ซึง่ เชื่อมโยงกบั วิสยั ทศั น์ เป้าหมาย และพนั ธกจิ ของ โรงเรยี น 6.รเิ รมิ่ การปฏิบตั ิทีน่ ำไปสู่การเปลย่ี นแปลงและพฒั นานวตั กรรม 7.กระตนุ้ ผอู้ ืน่ ให้มีการเรยี นรู้และความร่วมมอื กันในวงกว้างเพ่ือ พฒั นาผเู้ รียน สถานศึกษา และวิชาชพี 8.ปฏิบตั งิ านรว่ มกบั ผู้อน่ื ภายใตร้ ะบบ/ข้นั ตอนท่เี ปล่ยี นแปลงไปจาก เดมิ ได้ 9.สนับสนนุ ความคดิ รเิ รมิ่ ซง่ึ เกิดจากการพิจารณาไตรต่ รองของเพือ่ น ร่วมงาน และมีสว่ นร่วมในการพฒั นานวตั กรรมตา่ ง ๆ 10.ใช้เทคนิควธิ กี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมินการ ปฏบิ ัติงานของตนเองและผลการดำเนนิ งานสถานศึกษา 11.กำหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรยี นรู้ที่ทา้ ทายความสามารถ ของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏบิ ัติใหบ้ รรลุผลสำเรจ็ ได้ 12.ยอมรบั ขอ้ มูลป้อนกลับเก่ยี วกบั ความคาดหวงั ดา้ นการเรยี นรขู้ อง ผู้เรยี นจากผูป้ กครอง 6.สมรรถนะการสร้างความสมั พนั ธแ์ ละความรว่ มมอื กับชมุ ชนเพือ่ การจดั การเรียนรู้ 1.มปี ฏิสมั พนั ธ์ท่ดี กี ับผ้ปู กครองและชมุ ชนในการตดิ ตอ่ ส่อื สารเพ่อื การ จดั การเรียนรู้ 2.ประสานงานกับผู้ปกครองและชมุ ชนใหเ้ ขา้ มามสี ่วนรว่ มในการ จัดการเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่องตลอดปกี ารศกึ ษา 3.เปิดโอกาสใหผ้ มู้ สี ว่ นเก่ยี วข้องเข้าร่วมวางแผนการจัดกิจกรรมการ เรยี นรใู้ นระดับชั้นเรยี น 4.เปิดโอกาสใหผ้ ้ปู กครองและชุมชนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรยี นร้เู กี่ยวกบั การจดั การเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา ~ 39 ~

ระดบั การปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ทส่ี ุด กลาง ทส่ี ุด 5.สรา้ งเครอื ข่ายความรว่ มมือระหวา่ งครู ผ้ปู กครอง ชมุ ชนและองคก์ ร อ่นื ๆ ทง้ั ภาครฐั และเอกชนในการแลกเปลย่ี นข้อมลู สารสนเทศเพอ่ื   การจัดการเรยี นรู้  6.จดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ใี ห้ปราชญ์ชาวบา้ นหรือภมู ิปญั ญาในท้องถิน่  เขา้ มามสี ว่ นร่วม 7.มีการเปิดโอกาสใหผ้ ้มู สี ่วนได้ส่วนเสยี ของสถานศกึ ษาเข้ามามสี ่วน รว่ มในการประเมนิ ผลการจดั การศึกษา 8.มีการเสนอผลการจดั การเรยี นรตู้ อ่ ฝ่ายต่าง ๆ ของชุมชนเพ่ือ แลกเปลย่ี นเรยี นร้แู ละแกไ้ ขปัญหาร่วมกนั ในทกุ ภาคเรียน ลงชอื่ .................................................. ผ้ปู ระเมิน (นางสาวญาณิกา สชุ าตสิ ุนทร) ครู ค.ศ.1 ~ 40 ~

แบบประเมนิ สมรรถนะครผู สู้ อนระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน สงั กดั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึน้ พื้นฐาน ช่อื นางสาวญาณิกา สุชาตสิ ุนทร โรงเรยี นบา้ นโชค สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสุรินทรเ์ ขต 3 ผ้ปู ระเมนิ  ตนเอง  เพ่ือนครผู สู้ อน  ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา คำช้แี จง 1.แบบประเมนิ สมรรถนะในการปฏิบตั งิ านฉบับนสี้ ำหรบั ใหค้ รูผสู้ อนทำการประเมนิ สภาพการปฏิบตั งิ าน ของตนเอง เพ่ือนครูผสู้ อน และผู้บริหารสถานศึกษา รว่ มประเมนิ ตามสภาพความเป็นจริง เพ่อื เปน็ ขอ้ มูลพ้ืนฐานในการ พัฒนาคุณภาพการปฏิบัตงิ านของครูผ้สู อนในแต่ละคน โดยจะมผี ้บู รหิ ารสถานศึกษาเปน็ ผู้รบั รองผลการประเมินอีกครั้ง หนึง่ 2. แบบประเมินสมรรถนะฉบบั นี้ แบ่งออกเปน็ 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อมูลเก่ียวกบั ครูผู้สอน ตอนท่ี 2 การประเมนิ สมรรถนะของครูผ้สู อน ประกอบดว้ ยสมรรถนะ 5 สมรรถนะ และสมรรถนะประจำสายงาน 6 สมรรถนะ 3. ใหผ้ ปู้ ระเมนิ อ่านรายการคำถามในแตล่ ะสมรรถนะให้ดีก่อนท่ีจะทำการประเมินสมรรถนะการปฏบิ ตั งิ าน 4. วิธีการประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ให้ท่านทำเครื่องหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานในแต่ ละรายการคำถามของแตล่ ะสมรรถนะตามสภาพความเป็นจริง ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู เก่ียวกับผูร้ ับการประเมิน 1. เพศ  ชาย  หญิง 2. ตำแหน่งปัจจุบันของผูร้ ับการประเมิน  ครูผชู้ ว่ ย  ครู ค.ศ. 1  ครู ค.ศ. 2  ครู ค.ศ. 3  ครู ค.ศ. 4  ครู ค.ศ. 5 3. ระดับการศึกษาสูงสุด  ต่ำกว่าปรญิ ญาตรี  ปริญญาตรี  ปรญิ ญาโท  ปรญิ ญาเอก 4. อายรุ าชการ 3 ปี 8 เดือน (นับถึง 15 พฤษภาคม 2566) 5. กล่มุ สาระการเรยี นรูท้ ถี่ นดั หรือเชีย่ วชาญ คอื คณติ ศาสตร์ ~ 41 ~

ตอนที่ 2 การประเมินสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ านของครูผสู้ อน (ผรู้ ับการประเมิน) ให้ท่านพิจารณาสภาพการดำเนินงานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผู้รับการประเมินแล้วทำ เครื่องหมาย  ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในประเด็นย่อยของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเป็น จรงิ 1. สมรรถนะหลัก ( Core Competency ) ระดับการปฏบิ ตั ิ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ท่สี ุด กลาง ทีส่ ดุ 1.สมรรถนะการมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัตงิ าน 1.วเิ คราะหภ์ ารกจิ งานเพอ่ื วางแผนการแกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ  2.กำหนดเปา้ หมายในการปฏบิ ัตงิ านทกุ ภาคเรยี น  3.กำหนดแผนการปฏิบตั ิงานอย่างเป็นขนั้ ตอน  4.ใฝ่เรียนรเู้ ก่ยี วกบั การจดั การเรยี นรู้  5.รเิ ริม่ สรา้ งสรรคใ์ นการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้  6.แสวงหาความรทู้ ่เี กย่ี วกบั วชิ าชพี ใหม่ ๆ เพอ่ื การพัฒนาตนเอง  7.ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของตนเอง  8.ใชผ้ ลการประเมนิ ในการปฏิบตั งิ านมาใชป้ รับปรงุ /พัฒนาการ  ทำงานใหด้ ีย่ิงขึ้น  9.พัฒนาการปฏิบตั ิงานเพือ่ ตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ รยี น ผูป้ กครอง และชมุ ชน 2.สมรรถนะการบริการท่ีดี 1.ให้บริการด้วยความยม้ิ แย้มใจใส่ เหน็ อกเหน็ ใจผู้มารบั บรกิ าร  2.ใหบ้ รกิ ารอย่างรวดเร็ว ทนั ใจ ไม่ล่าช้า  3.ให้บรกิ ารอย่างมีความเคารพยกยอ่ ง อ่อนน้อมใหเ้ กียรติ  ผ้รู ับบรกิ าร 4.ใหบ้ รกิ ารดว้ ยความมุ่งมนั่ ต้ังใจและเต็มอกเตม็ ใจ  5.แก้ปญั หาให้กบั นกั เรยี น และผปู้ กครองหรอื ผมู้ าขอรบั บริการ  6.ให้บริการโดยยดึ ความตอ้ งการของผูร้ ับบริการเป็นหลกั  7.ให้บริการเกินความคาดหวงั แมต้ อ้ งใช้เวลา หรอื ความพยามยาม  อยา่ งมาก  3.สมรรถนะการพัฒนาตนเอง 1.ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ มุ่งมัน่ และแสวงหาโอกาสพฒั นาตนเอง ด้วยวิธีท่ีหลากหลาย 2.วิเคราะหจ์ ดุ แข็งและจุดออ่ นเก่ียวกับการจัดการเรยี นร้ขู องตนเอง  อย่างตอ่ เนื่อง  3.ศกึ ษา ค้นคว้าหาองค์ความรใู้ หม่ ๆ ทางวิชาการเพื่อพัฒนาตนเอง  และวิชาชพี 4.แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั ผู้อนื่ เพือ่ การพฒั นาตนเองทกุ คร้งั ทีม่ ีโอกาส ~ 42 ~

ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ที่สดุ กลาง ที่สดุ 5.เขา้ รบั การอบรมเพื่อพฒั นาตนเองจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ อยา่ ง ตอ่ เนอ่ื ง   6.ให้คำปรกึ ษา แนะนำ นิเทศ และถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณ์  ทางวิชาชีพแกผ่ อู้ ื่น  7.มีการสรา้ งเครอื ข่ายการเรยี นร้เู พอ่ื การพัฒนาตนเองทง้ั ในและ  นอกสถานศึกษา  4.สมรรถนะการทำงานเป็นทีม   1.สร้างสมั พันธภาพทด่ี ใี นการทำงานรว่ มกบั ผู้อื่น  2.ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนตามบทบาทหน้าทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมาย  3.ชว่ ยเหลอื เพ่อื นรว่ มงานเพื่อสเู่ ปา้ หมายความสำเรจ็ รว่ มกนั   4.ให้เกยี รติ ยกย่องชมเชย ใหก้ ำลงั ใจแกเ่ พ่ือนร่วมงานในโอกาสที่ เหมาะสม  5.มที กั ษะในการทำงานรว่ มกบั บคุ คล/กลุม่ บุคคลไดอ้ ย่างมี  ประสทิ ธภิ าพท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา และในทุก  สถานการณ์  6.แสดงบทบาทผ้นู ำหรือผตู้ ามในการทำงานร่วมกับผู้อน่ื ไดเ้ หมาะสม  ในทุกโอกาส  7.แลกเปลย่ี น/รบั ฟังความคิดเห็นและประสบการณภ์ ายในทมี งาน   8.รว่ มกบั เพือ่ นรว่ มงานในการสรา้ งวัฒนธรรมการทำงานเปน็ ทมี ให้  เกิดขน้ึ ในสถานศกึ ษา  5.สมรรถนะจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู 1.ยดึ ม่ันในอุดมการณ์ของวชิ าชพี ปกป้องเกียรตแิ ละศกั ดศ์ิ รีของ วิชาชีพ 2.เสยี สละ อทุ ิศตนเพือ่ ประโยชนต์ ่อวิชาชพี และเป็นสมาชกิ ที่ดขี อง องคก์ รวชิ าชีพ 3.ยกยอ่ ง ชืน่ ชมบุคคลทป่ี ระสบความสำเรจ็ ในวิชาชพี 4.ซ่อื สตั ยต์ อ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใชจ้ ่ายและใช้ ทรัพยากรอย่างประหยดั 5.ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบยี บ ข้อบงั คบั และขนบธรรมเนียมประเพณี 6.ปฏิบัติตนและดำเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ได้เหมาะสมกบั สถานะของตน 7.รักษาสทิ ธปิ ระโยชนข์ องตนเอง และไม่ละเมดิ สทิ ธิของผอู้ ่นื 8.เอ้อื เฟ้ือเผอื่ แผ่ ชว่ ยเหลือ และไม่เบยี ดเบยี นผอู้ ่นื 9.มคี วามเปน็ กลั ยาณมติ รต่อผเู้ รยี น เพอื่ รว่ มงานและผูร้ บั บรกิ าร 10.ปฏบิ ตั ติ นตามหลักการครองตน ครองคน ครองงานเพอ่ื ใหก้ าร ปฏบิ ัตงิ านบรรลผุ ลสำเรจ็ ~ 43 ~

2. สมรรถนะประจำสายงาน ( Functional Competency ) ระดบั การปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทส่ี ุด 1.สมรรถนะการบริหารจดั การหลักสูตรและการจดั การเรียนรู้   1.ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรอู้ ยา่ งหลากหลายสอดคลอ้ งกับวัย   ความตอ้ งการของผู้เรียน ชมุ ชน  2.เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นร่วมในการกำหนดกจิ กรรมและการ  ประเมินผลการเรยี นรู้   3.ใช้รปู แบบ/เทคนคิ วธิ กี ารสอนอย่างหลากหลายเพอื่ ใหผ้ ้เู รยี นพัฒนา  เตม็ ตามศักยภาพ  4.จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ปลกู ฝัง/ส่งเสรมิ คณุ ลักษณะพึงประสงคแ์ ละ  สมรรถนะของผ้เู รยี น   5.ใช้หลกั จิตวทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ให้ผ้เู รยี นเรยี นรอู้ ยา่ งมคี วามสขุ  และพัฒนาเตม็ ศักยภาพ  6.ใชแ้ หลง่ เรียนรแู้ ละภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ในชมุ ชนในการจัดการเรยี นรู้   7.ใชส้ ่ือ นวตั กรรม และเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกับ  เนือ้ หาและกจิ กรรมการเรียนรู้  8.ใชเ้ ทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ในการผลติ ส่อื /นวตั กรรมทใ่ี ช้ในการ เรียนรู้ 9.ออกแบบวธิ ีการวัดและประเมินผลหลากหลายเหมาะสมกับเน้อื หา และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 10.สร้างและนำเครื่องมือวดั และประเมินผลไปใชอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม 11.วัดและประเมินผลผเู้ รยี นตามสภาพจริง 12.นำผลการประเมนิ การเรียนรู้มาใช้ในการพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ 2.สมรรถนะการพฒั นาผูเ้ รยี น 1.สอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรมแก่ผู้เรยี นในการจัดการเรียนรูใ้ นชั้น เรียน 2.จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมให้แกผ่ เู้ รียนโดยให้ผเู้ รียนมี ส่วนร่วมในการวางแผนกิจกรรม 3.จัดทำโครงการ/กิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรมให้แกผ่ ูเ้ รยี น 4.จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผเู้ รยี นดา้ นการดแู ลตนเอง มที กั ษะในการ เรียนรู้ การทำงาน การอยูร่ ่วมกนั ในสังคม และรูเ้ ทา่ ทนั การ เปลี่ยนแปลง 5.สอดแทรกความเป็นประชาธปิ ไตย ความภมู ใิ จในความเปน็ ไทย ใหแ้ ก่ผู้เรียนในการจดั การเรียนรู้ 6.จัดทำโครงการ/กิจกรรมทสี่ ่งเสรมิ ความเป็นประชาธิปไตยความ ภาคภูมิใจในความเป็นไทย 7.ใหผ้ ้ปู กครองมสี ่วนรว่ มในการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียนรายบุคคล ~ 44 ~

ระดบั การปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ที่สุด กลาง ทีส่ ุด 8.นำข้อมลู นกั เรยี นไปใช้ชว่ ยเหลือ/พฒั นาผเู้ รียนทง้ั ด้านการเรยี นรู้  และปรบั พฤตกิ รรมเปน็ รายบคุ คล   9. จัดกิจกรรมเพ่อื ป้องกันแก้ไขปญั หาและส่งเสรมิ พฒั นาผู้เรยี นใหแ้ ก่  นักเรยี นอย่างทวั่ ถงึ  10. ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนปฏิบตั ิตนใหถ้ ูกต้องเหมาะสมกับค่านยิ มทด่ี งี าม    11. ดแู ลนกั เรยี นทกุ คนอยา่ งทั่วถงึ ทันเหตกุ ารณ์    3.สมรรถนะการบรหิ ารจัดการช้นั เรยี น    1. จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรียนทีเ่ ออื้ ตอ่ การเรียนรู้   2. ส่งเสรมิ การมปี ฏิสมั พนั ธ์ท่ีดีระหว่างครูกับผ้เู รียนและผเู้ รยี นกับ  ผู้เรยี น  3. ตรวจสอบสิง่ อำนวยความสะดวกในห้องเรยี นให้พร้อมใชแ้ ละ ปลอดภยั  4. จัดทำขอ้ มูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคลและเอกสาร ประจำชัน้ เรียนครบถว้ น เป็นปจั จบุ นั 5.นำขอ้ มูลสารสนเทศไปใชใ้ นการพัฒนาผู้เรยี นไดอ้ ยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ 6.ให้ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในการกำหนดกฎ กตกิ า ขอ้ ตกลงในชัน้ เรยี น 7.แกป้ ัญหา/พฒั นานกั เรยี นดา้ นระเบยี บวนิ ยั โดยการสร้างวนิ ยั เชงิ บวกในชน้ั เรยี น 8.ประเมนิ การกำกับดูแลชน้ั เรยี น และนำผลการประเมินไปใชใ้ นการ ปรบั ปรงุ และพฒั นา 4.สมรรถนะการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และการวจิ ยั เพ่อื พัฒนา ผูเ้ รยี น 1.สำรวจปญั หาเกย่ี วกบั นักเรยี นทเ่ี กิดขึน้ ในช้ันเรยี นเพ่ือวางแผนการ วิจัยเพื่อพัฒนาผเู้ รียน 2.วิเคราะหส์ าเหตขุ องปัญหาเกยี่ วกับนักเรยี นที่เกิดขึ้นในช้ันเรียนเพอ่ื กำหนดทางเลอื กในการแกไ้ ขปัญหาระบสุ ภาพปจั จบุ ัน 3.รวบรวม จำแนกและจดั กลุ่มของสภาพปัญหา แนวคดิ ทฤษฏแี ละ วิธีการแก้ปญั หาเพอ่ื สะดวกต่อการนำไปใช้ 4.มีการประมวลผลหรือสรุปข้อมลู สารสนเทศทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อการ แก้ไขปัญหาในช้นั เรยี นโดยใชข้ ้อมูลรอบดา้ น 5.มีการวเิ คราะห์จดุ เด่น จดุ ดอ้ ย อุปสรรคและโอกาสความสำเรจ็ ของ การวิจยั เพ่ือแกป้ ญั หาทีเ่ กิดขน้ึ ในช้นั เรียน 6.จดั ทำแผนการวจิ ยั และดำเนนิ กระบวนการวจิ ยั อย่างเปน็ ระบบตาม แผนดำเนนิ การวิจัยทก่ี ำหนดไว้ 7.ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความนา่ เชอ่ื ถอื ของผลการวิจัยอยา่ งเปน็ ระบบ ~ 45 ~

ระดบั การปฏบิ ัติ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทสี่ ดุ กลาง ทส่ี ุด 8.มกี ารนำผลการวจิ ัยไปประยกุ ตใ์ ช้ในกรณีศกึ ษาอืน่ ๆ ท่ีมีบริบทของ ปัญหาท่ีคล้ายคลึงกัน   5.สมรรถนะภาวะผนู้ ำครู   1.เห็นคุณค่า ให้ความสำคญั ในความคดิ เห็นหรอื ผลงานและให้เกียรติ ผอู้ นื่   2.กระตุ้นจูงใจ ปรับเปลี่ยนความคดิ และการกระทำของผอู้ ื่นให้มคี วาม  ผกู พนั และม่งุ มั่นตอ่ เป้าหมายในการทำงานรว่ มกนั   3.มปี ฏิสมั พนั ธ์ในการสนทนาอยา่ งสร้างสรรคก์ ับผู้อ่นื โดยมุ่งเนน้ ไป   การเรยี นรู้ และการพัฒนาวิชาชีพ  4.มที กั ษะการฟัง การพูด และการต้งั คำถามเปิดใจกวา้ ง ยืดหยนุ่  ยอมรับทศั นะที่หลากหลายของผอู้ ่ืนเพอ่ื เป็นแนวทางใหม่ ๆ ในการ   ปฏบิ ัตงิ าน  5.ให้ความสนใจตอ่ สถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเปน็ ปจั จบุ ันโดยมกี ารวางแผน   อยา่ งมวี ิสัยทศั น์ซึง่ เชื่อมโยงกบั วิสยั ทศั น์ เป้าหมาย และพนั ธกจิ ของ โรงเรยี น 6.รเิ รมิ่ การปฏิบตั ิทีน่ ำไปสู่การเปลย่ี นแปลงและพฒั นานวตั กรรม 7.กระตนุ้ ผอู้ ืน่ ให้มีการเรยี นรู้และความร่วมมอื กนั ในวงกว้างเพ่ือ พฒั นาผเู้ รียน สถานศึกษา และวิชาชพี 8.ปฏิบตั งิ านรว่ มกบั ผู้อน่ื ภายใตร้ ะบบ/ข้นั ตอนท่เี ปล่ยี นแปลงไปจาก เดมิ ได้ 9.สนับสนนุ ความคดิ รเิ รมิ่ ซง่ึ เกิดจากการพิจารณาไตรต่ รองของเพือ่ น ร่วมงาน และมีสว่ นร่วมในการพฒั นานวตั กรรมตา่ ง ๆ 10.ใช้เทคนิควธิ กี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมินการ ปฏบิ ัติงานของตนเองและผลการดำเนนิ งานสถานศกึ ษา 11.กำหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรยี นรู้ที่ทา้ ทายความสามารถ ของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏบิ ัติให้บรรลุผลสำเรจ็ ได้ 12.ยอมรบั ขอ้ มูลป้อนกลับเกย่ี วกบั ความคาดหวงั ดา้ นการเรยี นรขู้ อง ผู้เรยี นจากผูป้ กครอง 6.สมรรถนะการสร้างความสมั พนั ธแ์ ละความรว่ มมอื กับชมุ ชนเพือ่ การจดั การเรียนรู้ 1.มปี ฏิสมั พนั ธ์ท่ดี กี ับผ้ปู กครองและชุมชนในการตดิ ตอ่ ส่อื สารเพ่อื การ จดั การเรียนรู้ 2.ประสานงานกับผู้ปกครองและชมุ ชนใหเ้ ขา้ มามสี ่วนรว่ มในการ จัดการเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่องตลอดปกี ารศกึ ษา 3.เปิดโอกาสใหผ้ มู้ สี ว่ นเก่ยี วข้องเข้าร่วมวางแผนการจัดกิจกรรมการ เรยี นรใู้ นระดับชั้นเรยี น 4.เปิดโอกาสใหผ้ ้ปู กครองและชุมชนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรยี นร้เู กี่ยวกบั การจดั การเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา ~ 46 ~

ระดบั การปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทสี่ ดุ 5.สรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมือระหว่างครู ผูป้ กครอง ชมุ ชนและองคก์ ร อ่ืน ๆ ท้งั ภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลยี่ นข้อมลู สารสนเทศเพื่อ   การจัดการเรยี นรู้  6.จดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ีใหป้ ราชญช์ าวบ้านหรอื ภมู ปิ ญั ญาในท้องถน่ิ  เขา้ มามสี ่วนรว่ ม 7.มีการเปดิ โอกาสใหผ้ ูม้ สี ่วนได้ส่วนเสยี ของสถานศกึ ษาเขา้ มามสี ่วน ร่วมในการประเมินผลการจดั การศกึ ษา 8.มีการเสนอผลการจดั การเรียนรตู้ ่อฝา่ ยต่าง ๆ ของชุมชนเพือ่ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้และแกไ้ ขปัญหาร่วมกนั ในทุกภาคเรียน ลงช่อื ............................................... ผู้ประเมนิ (นางสาวกมลชนก นามเขตต์) ครู ค.ศ.1 ~ 47 ~

แบบประเมินสมรรถนะครผู ้สู อนระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกดั สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นึ พื้นฐาน ชือ่ นางสาวญาณกิ า สชุ าติสนุ ทร โรงเรียนบา้ นโชค สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 3 ผปู้ ระเมิน  ตนเอง  เพื่อนครูผสู้ อน  ผูบ้ ริหารสถานศึกษา คำชแี้ จง 1.แบบประเมินสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ านฉบับนสี้ ำหรับใหค้ รูผ้สู อนทำการประเมินสภาพการปฏบิ ตั งิ าน ของตนเอง เพื่อนครูผสู้ อน และผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเปน็ จริง เพ่อื เป็นขอ้ มลู พื้นฐานในการ พฒั นาคณุ ภาพการปฏิบัติงานของครผู ู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผูบ้ ริหารสถานศึกษาเป็นผู้รบั รองผลการประเมินอีกคร้ัง หนึ่ง 2. แบบประเมินสมรรถนะฉบบั นี้ แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ขอ้ มลู เกย่ี วกับครผู ้สู อน ตอนที่ 2 การประเมินสมรรถนะของครูผ้สู อน ประกอบดว้ ยสมรรถนะ 5 สมรรถนะ และสมรรถนะประจำสายงาน 6 สมรรถนะ 3.ใหผ้ ู้ประเมนิ อ่านรายการคำถามในแต่ละสมรรถนะใหด้ กี ่อนท่จี ะทำการประเมินสมรรถนะการปฏบิ ตั ิงาน 4.วิธีการประเมินสมรรถนะในการปฏิบัตงิ าน ให้ท่านทำเครื่องหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานในแตล่ ะ รายการคำถามของแตล่ ะสมรรถนะตามสภาพความเป็นจริง ตอนที่ 1 ขอ้ มลู เก่ียวกับผู้รับการประเมนิ 1. เพศ  ชาย  หญงิ 2. ตำแหนง่ ปัจจุบันของผรู้ ับการประเมนิ  ครูผชู้ ่วย  ครู ค.ศ. 1  ครู ค.ศ. 2  ครู ค.ศ. 3  ครู ค.ศ. 4  ครู ค.ศ. 5 3. ระดบั การศึกษาสูงสดุ  ตำ่ กวา่ ปรญิ ญาตรี  ปรญิ ญาตรี  ปรญิ ญาโท  ปรญิ ญาเอก 4. อายุราชการ 3 ปี 8 เดือน (นับถงึ 15 พฤษภาคม 2566) 5. กลมุ่ สาระการเรียนรทู้ ่ีถนดั หรือเชี่ยวชาญ คือ คณิตศาสตร์ ~ 48 ~

ตอนที่ 2 การประเมินสมรรถนะในการปฏิบตั ิงานของครูผสู้ อน (ผรู้ บั การประเมนิ ) ให้ท่านพิจารณาสภาพการดำเนินงานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผู้รับการประเมินแล้วทำ เครื่องหมาย  ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในประเด็นย่อยของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเป็น จริง 1. สมรรถนะหลกั ( Core Competency ) ระดับการปฏบิ ตั ิ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทส่ี ุด กลาง ท่สี ุด 1.สมรรถนะการมงุ่ ผลสัมฤทธิใ์ นการปฏิบัตงิ าน 1.วิเคราะหภ์ ารกิจงานเพื่อวางแผนการแก้ปญั หาอยา่ งเป็นระบบ     2.กำหนดเป้าหมายในการปฏบิ ัติงานทุกภาคเรยี น   3.กำหนดแผนการปฏิบตั งิ านอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน    4.ใฝ่เรียนรูเ้ กยี่ วกบั การจัดการเรยี นรู้     5.รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ในการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้   6.แสวงหาความรทู้ ีเ่ กย่ี วกบั วิชาชพี ใหม่ ๆ เพอื่ การพฒั นาตนเอง    7.ประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานของตนเอง  8.ใช้ผลการประเมนิ ในการปฏิบตั งิ านมาใชป้ รบั ปรุง/พฒั นาการ ทำงานใหด้ ยี งิ่ ขึ้น 9.พฒั นาการปฏบิ ัตงิ านเพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ รยี น ผูป้ กครอง และชุมชน 2.สมรรถนะการบรกิ ารทีด่ ี 1.ใหบ้ ริการดว้ ยความยิ้มแย้มใจใส่ เหน็ อกเหน็ ใจผมู้ ารับบริการ 2.ให้บรกิ ารอยา่ งรวดเรว็ ทันใจ ไม่ล่าชา้ 3.ให้บริการอย่างมคี วามเคารพยกยอ่ ง อ่อนน้อมให้เกยี รติ ผรู้ ับบริการ 4.ให้บรกิ ารดว้ ยความมุ่งมัน่ ต้ังใจและเตม็ อกเตม็ ใจ 5.แกป้ ญั หาให้กบั นักเรยี น และผูป้ กครองหรอื ผู้มาขอรับบริการ 6.ใหบ้ รกิ ารโดยยึดความตอ้ งการของผู้รบั บริการเป็นหลกั 7.ให้บริการเกนิ ความคาดหวัง แมต้ ้องใช้เวลา หรอื ความพยามยาม อย่างมาก 3.สมรรถนะการพัฒนาตนเอง 1.ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้ มงุ่ ม่นั และแสวงหาโอกาสพัฒนาตนเอง ดว้ ยวิธีทห่ี ลากหลาย 2.วเิ คราะหจ์ ดุ แข็งและจดุ ออ่ นเกี่ยวกบั การจดั การเรยี นรขู้ องตนเอง อยา่ งตอ่ เนื่อง 3.ศกึ ษา ค้นควา้ หาองค์ความรใู้ หม่ ๆ ทางวิชาการเพื่อพัฒนาตนเอง และวชิ าชีพ ~ 49 ~

ระดับการปฏบิ ตั ิ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่สี ุด กลาง ทีส่ ุด 4.แลกเปลยี่ นเรยี นร้กู บั ผอู้ นื่ เพ่ือการพฒั นาตนเองทุกคร้งั ท่ีมโี อกาส  5.เข้ารับการอบรมเพอ่ื พฒั นาตนเองจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ อยา่ ง   ตอ่ เนอื่ ง  6.ใหค้ ำปรกึ ษา แนะนำ นเิ ทศ และถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณ์  ทางวิชาชีพแก่ผู้อ่นื   7.มกี ารสร้างเครอื ขา่ ยการเรียนรู้เพ่อื การพฒั นาตนเองทงั้ ในและ  นอกสถานศกึ ษา  4.สมรรถนะการทำงานเป็นทมี  1.สร้างสมั พนั ธภาพทด่ี ีในการทำงานรว่ มกับผอู้ ืน่  2.ทำงานร่วมกับผู้อน่ื ตามบทบาทหนา้ ทท่ี ไี่ ด้รับมอบหมาย  3.ช่วยเหลอื เพ่อื นร่วมงานเพ่อื สู่เปา้ หมายความสำเรจ็ รว่ มกนั   4.ให้เกยี รติ ยกย่องชมเชย ให้กำลงั ใจแก่เพื่อนรว่ มงานในโอกาสท่ี  เหมาะสม  5.มีทักษะในการทำงานรว่ มกับบุคคล/กลุ่มบุคคลได้อย่างมี  ประสิทธภิ าพท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา และในทกุ สถานการณ์  6.แสดงบทบาทผู้นำหรือผตู้ ามในการทำงานรว่ มกับผูอ้ น่ื ไดเ้ หมาะสม ในทกุ โอกาส  7.แลกเปลย่ี น/รบั ฟงั ความคดิ เหน็ และประสบการณภ์ ายในทมี งาน   8.รว่ มกบั เพ่อื นรว่ มงานในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานเปน็ ทมี ให้ เกิดขน้ึ ในสถานศกึ ษา 5.สมรรถนะจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 1.ยดึ ม่ันในอุดมการณข์ องวิชาชีพ ปกปอ้ งเกยี รตแิ ละศกั ดศ์ิ รีของ วิชาชพี 2.เสยี สละ อุทิศตนเพือ่ ประโยชนต์ อ่ วชิ าชพี และเปน็ สมาชกิ ท่ดี ีของ องค์กรวิชาชพี 3.ยกยอ่ ง ช่นื ชมบุคคลที่ประสบความสำเร็จในวชิ าชพี 4.ซือ่ สตั ยต์ ่อตนเอง ตรงต่อเวลา วางแผนการใชจ้ า่ ยและใช้ ทรพั ยากรอยา่ งประหยดั 5.ปฏบิ ตั ติ นตามกฎ ระเบยี บ ข้อบังคบั และขนบธรรมเนียมประเพณี 6.ปฏบิ ตั ิตนและดำเนินชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไดเ้ หมาะสมกับสถานะของตน 7.รกั ษาสิทธิประโยชน์ของตนเอง และไม่ละเมดิ สิทธขิ องผ้อู ืน่ 8.เออื้ เฟือ้ เผอ่ื แผ่ ช่วยเหลือ และไม่เบยี ดเบยี นผ้อู นื่ 9.มีความเปน็ กลั ยาณมติ รตอ่ ผูเ้ รยี น เพอ่ื ร่วมงานและผู้รับบริการ ~ 50 ~

ระดบั การปฏบิ ัติ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ทสี่ ุด กลาง ท่ีสุด 10.ปฏบิ ัตติ นตามหลกั การครองตน ครองคน ครองงานเพอื่ ใหก้ าร มาก ปฏบิ ัติงานบรรลผุ ลสำเรจ็  ท่ีสดุ 2.สมรรถนะประจำสายงาน ( Functional Competency )   ระดับการปฏบิ ัติ  รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก ที่สดุ กลาง 1.สมรรถนะการบรหิ ารจัดการหลักสตู รและการจัดการเรยี นรู้  1.ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรูอ้ ยา่ งหลากหลายสอดคลอ้ งกบั วัย  ความตอ้ งการของผู้เรียน ชมุ ชน  2.เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในการกำหนดกจิ กรรมและการ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้  3.ใช้รูปแบบ/เทคนิควธิ ีการสอนอยา่ งหลากหลายเพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นพฒั นา  เต็มตามศักยภาพ  4.จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทปี่ ลูกฝัง/ส่งเสริมคณุ ลกั ษณะพึงประสงคแ์ ละ  สมรรถนะของผูเ้ รียน  5.ใช้หลักจติ วิทยาในการจดั การเรยี นรใู้ ห้ผเู้ รยี นเรียนรอู้ ย่างมีความสขุ  และพัฒนาเต็มศกั ยภาพ  6.ใช้แหลง่ เรียนร้แู ละภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ในชุมชนในการจดั การเรยี นรู้  7.ใชส้ ่ือ นวัตกรรม และเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกบั  เนอ้ื หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.ใช้เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรใ์ นการผลติ สอ่ื /นวัตกรรมที่ใช้ในการ เรยี นรู้ 9.ออกแบบวิธกี ารวัดและประเมินผลหลากหลายเหมาะสมกับเนอื้ หา และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 10.สร้างและนำเครอ่ื งมือวัดและประเมินผลไปใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม 11.วัดและประเมนิ ผลผู้เรยี นตามสภาพจรงิ 12.นำผลการประเมินการเรียนรู้มาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ 2.สมรรถนะการพัฒนาผเู้ รียน 1.สอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรมแก่ผูเ้ รยี นในการจดั การเรียนรใู้ นชน้ั เรียน 2.จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมใหแ้ กผ่ ูเ้ รียนโดยใหผ้ เู้ รียนมี สว่ นร่วมในการวางแผนกจิ กรรม 3.จดั ทำโครงการ/กิจกรรมทสี่ ง่ เสรมิ คณุ ธรรมจริยธรรมใหแ้ กผ่ ู้เรยี น ~ 51 ~

ระดบั การปฏบิ ตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทส่ี ุด 4.จดั กจิ กรรมเพ่ือพัฒนาผเู้ รียนดา้ นการดแู ลตนเอง มที กั ษะในการ เรยี นรู้ การทำงาน การอยูร่ ่วมกนั ในสังคม และร้เู ทา่ ทันการ   เปล่ยี นแปลง  5.สอดแทรกความเปน็ ประชาธปิ ไตย ความภมู ิใจในความเป็นไทย  ใหแ้ ก่ผู้เรยี นในการจดั การเรียนรู้ 6.จัดทำโครงการ/กิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ความเปน็ ประชาธปิ ไตยความ  ภาคภมู ใิ จในความเปน็ ไทย  7.ใหผ้ ู้ปกครองมีส่วนรว่ มในการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียนรายบคุ คล  8.นำขอ้ มลู นักเรยี นไปใชช้ ว่ ยเหลอื /พัฒนาผู้เรยี นทั้งดา้ นการเรยี นรู้  และปรบั พฤตกิ รรมเป็นรายบุคคล  9. จดั กิจกรรมเพ่ือป้องกันแกไ้ ขปญั หาและส่งเสรมิ พฒั นาผูเ้ รยี นใหแ้ ก่  นักเรียนอยา่ งทว่ั ถงึ  10. สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ติ นใหถ้ ูกต้องเหมาะสมกบั ค่านยิ มทีด่ งี าม   11. ดแู ลนักเรียนทกุ คนอย่างทั่วถงึ ทนั เหตุการณ์  3.สมรรถนะการบรหิ ารจดั การชัน้ เรยี น  1. จดั สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอือ้ ตอ่ การเรียนรู้  2. สง่ เสรมิ การมีปฏสิ มั พันธท์ ่ีดีระหว่างครูกับผู้เรยี นและผู้เรยี นกับ  ผเู้ รยี น 3. ตรวจสอบสง่ิ อำนวยความสะดวกในหอ้ งเรียนให้พรอ้ มใช้และ  ปลอดภัย  4. จัดทำขอ้ มูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคลและเอกสาร  ประจำชั้นเรียนครบถว้ น เปน็ ปจั จบุ นั 5.นำข้อมูลสารสนเทศไปใชใ้ นการพฒั นาผู้เรยี นไดอ้ ยา่ งเต็มศกั ยภาพ 6.ให้ผู้เรยี นมีส่วนรว่ มในการกำหนดกฎ กตกิ า ข้อตกลงในชน้ั เรยี น 7.แกป้ ัญหา/พัฒนานักเรยี นดา้ นระเบียบวินยั โดยการสร้างวนิ ยั เชงิ บวกในช้นั เรยี น 8.ประเมนิ การกำกับดูแลชน้ั เรยี น และนำผลการประเมินไปใชใ้ นการ ปรับปรงุ และพัฒนา 4.สมรรถนะการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวจิ ยั เพ่อื พฒั นา ผเู้ รียน 1.สำรวจปญั หาเก่ยี วกบั นกั เรยี นทเี่ กิดข้นึ ในชั้นเรยี นเพอื่ วางแผนการ วจิ ยั เพอื่ พฒั นาผู้เรียน 2.วิเคราะหส์ าเหตุของปญั หาเกย่ี วกบั นักเรยี นทเี่ กิดขึ้นในช้นั เรียนเพอ่ื กำหนดทางเลอื กในการแกไ้ ขปัญหาระบสุ ภาพปจั จุบนั 3.รวบรวม จำแนกและจดั กลุ่มของสภาพปัญหา แนวคดิ ทฤษฏแี ละ วธิ กี ารแก้ปญั หาเพ่อื สะดวกต่อการนำไปใช้ ~ 52 ~

ระดับการปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทีส่ ดุ 4.มกี ารประมวลผลหรอื สรุปขอ้ มลู สารสนเทศท่ีเป็นประโยชน์ต่อการ แก้ไขปญั หาในช้นั เรยี นโดยใชข้ อ้ มูลรอบดา้ น  5.มกี ารวิเคราะหจ์ ดุ เดน่ จดุ ดอ้ ย อปุ สรรคและโอกาสความสำเร็จของ การวจิ ัยเพ่ือแกป้ ญั หาทเี่ กิดข้นึ ในชน้ั เรียน  6.จัดทำแผนการวจิ ยั และดำเนนิ กระบวนการวจิ ยั อย่างเปน็ ระบบตาม แผนดำเนนิ การวจิ ยั ที่กำหนดไว้  7.ตรวจสอบความถูกตอ้ งและความนา่ เชอ่ื ถอื ของผลการวิจยั อยา่ งเปน็ ระบบ  8.มีการนำผลการวจิ ยั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกรณีศกึ ษาอนื่ ๆ ทมี่ บี ริบทของ ปัญหาที่คล้ายคลึงกนั  5.สมรรถนะภาวะผนู้ ำครู  1.เห็นคุณค่า ใหค้ วามสำคญั ในความคดิ เห็นหรอื ผลงานและใหเ้ กยี รติ  ผอู้ ื่น  2.กระตุน้ จูงใจ ปรบั เปลย่ี นความคดิ และการกระทำของผูอ้ นื่ ใหม้ ีความ ผูกพันและมุง่ ม่ันตอ่ เปา้ หมายในการทำงานร่วมกัน  3.มีปฏิสมั พนั ธใ์ นการสนทนาอย่างสร้างสรรค์กบั ผูอ้ ่นื โดยม่งุ เน้นไป การเรยี นรู้ และการพฒั นาวชิ าชีพ  4.มที กั ษะการฟงั การพดู และการตง้ั คำถามเปิดใจกวา้ ง ยืดหยุน่  ยอมรบั ทัศนะท่หี ลากหลายของผอู้ ่นื เพื่อเป็นแนวทางใหม่ ๆ ในการ  ปฏบิ ัติงาน  5.ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ ป็นปัจจบุ นั โดยมีการวางแผน  อย่างมีวิสยั ทศั น์ซงึ่ เชือ่ มโยงกบั วสิ ยั ทัศน์ เป้าหมาย และพนั ธกจิ ของ  โรงเรยี น  6.ริเริ่มการปฏิบตั ิท่ีนำไปสู่การเปลย่ี นแปลงและพัฒนานวตั กรรม  7.กระต้นุ ผู้อนื่ ใหม้ ีการเรยี นรู้และความรว่ มมือกันในวงกว้างเพ่ือ พฒั นาผูเ้ รยี น สถานศึกษา และวชิ าชีพ 8.ปฏิบตั ิงานรว่ มกับผอู้ นื่ ภายใต้ระบบ/ขั้นตอนท่เี ปลยี่ นแปลงไปจาก เดิมได้ 9.สนับสนุนความคิดรเิ รมิ่ ซงึ่ เกิดจากการพจิ ารณาไตรต่ รองของเพอ่ื น รว่ มงาน และมสี ว่ นร่วมในการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ 10.ใช้เทคนคิ วิธกี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมินการ ปฏบิ ัตงิ านของตนเองและผลการดำเนินงานสถานศึกษา 11.กำหนดเป้าหมายและมาตรฐานการเรยี นรูท้ ีท่ ้าทายความสามารถ ของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏบิ ัติใหบ้ รรลุผลสำเรจ็ ได้ 12.ยอมรบั ข้อมูลปอ้ นกลบั เกย่ี วกบั ความคาดหวังดา้ นการเรียนรู้ของ ผู้เรยี นจากผ้ปู กครอง 6.สมรรถนะการสรา้ งความสมั พนั ธแ์ ละความร่วมมอื กบั ชมุ ชนเพ่ือ การจดั การเรียนรู้ ~ 53 ~

ระดบั การปฏบิ ตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่สี ุด กลาง ท่ีสุด 1.มปี ฏิสมั พันธ์ทีด่ ีกบั ผู้ปกครองและชมุ ชนในการติดต่อสือ่ สารเพอ่ื การ จัดการเรียนรู้  2.ประสานงานกบั ผปู้ กครองและชมุ ชนใหเ้ ขา้ มามสี ่วนร่วมในการ จดั การเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเน่ืองตลอดปกี ารศกึ ษา  3.เปิดโอกาสใหผ้ ู้มสี ว่ นเกีย่ วขอ้ งเข้ารว่ มวางแผนการจัดกจิ กรรมการ  เรียนรใู้ นระดับชน้ั เรียน  4.เปดิ โอกาสใหผ้ ปู้ กครองและชมุ ชนเข้ามาแลกเปลย่ี นเรยี นรเู้ กยี่ วกบั การจัดการเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา  5.สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือระหวา่ งครู ผ้ปู กครอง ชุมชนและองคก์ ร อื่น ๆ ท้ังภาครฐั และเอกชนในการแลกเปลยี่ นข้อมลู สารสนเทศเพือ่  การจัดการเรยี นรู้  6.จัดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่ใหป้ ราชญ์ชาวบา้ นหรอื ภมู ิปัญญาในท้องถน่ิ เข้ามามสี ่วนรว่ ม  7.มีการเปดิ โอกาสใหผ้ ้มู สี ว่ นได้ส่วนเสยี ของสถานศกึ ษาเขา้ มามสี ่วน รว่ มในการประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา 8.มีการเสนอผลการจดั การเรยี นรตู้ อ่ ฝ่ายตา่ ง ๆ ของชมุ ชนเพ่ือ แลกเปลย่ี นเรยี นรูแ้ ละแกไ้ ขปัญหาร่วมกันในทุกภาคเรียน ลงชื่อ .................................................. ผ้ปู ระเมนิ (นายการัณยภาส เพง็ พันธ)์ ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นโชค ~ 54 ~

ผลการประเมินสมรรถนะครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ชื่อ นางสาวญาณกิ า สชุ าตสิ ุนทร ตำแหน่ง ครู ค.ศ.1 โรงเรียนบา้ นโชค สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสรุ นิ ทรเ์ ขต 3 สมรรถนะ คะแนนเฉลีย่ ระดับคุณภาพ สมรรถนะหลกั ( Core Competency ) 001. การมงุ่ ผลสมั ฤทธใ์ิ นการปฏบิ ัติงาน 4.62 ดี 002. การบริการท่ดี ี 4.86 ดี 003. การพฒั นาตนเอง 4.57 ดี 004. การทำงานเป็นทีม 4.96 ดี 005. จริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี 4.70 ดี สมรรถนะประจำสายงาน( Functional Competency ) 001. การบริหารจดั การหลกั สตู รและการจดั การเรยี นรู้ 4.39 ดี 002. การพัฒนาผู้เรียน 4.70 ดี 003. การบรหิ ารจัดการช้ันเรียน 4.50 ดี 004. กาวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวจิ ยั เพ่ือพัฒนาผเู้ รียน 4.29 ดี 005. ภาวะผู้นำครู 4.36 ดี 006. การสร้างความสัมพนั ธ์และความร่วมมือกับชุมชน 4.46 ดี สรปุ ผล สมรรถนะระดับคุณภาพดี จำนวน 2 สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คุณภาพพอใช้ จำนวน - สมรรถนะ สมรรถนะระดับคุณภาพปรับปรุง จำนวน - สมรรถ แนวทางการประเมนิ การใหค้ ะแนนและการแปลผลการประเมินสมรรถนะครู 1. การประเมินตามแนวทางนี้ใช้แบบประเมินสมรรถนะสำหรับครูผู้สอนทำการประเมินสมรรถนะในการ ปฏิบัติงานตามสภาพจริง เพื่อจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของครูผู้สอน และนำผลการประเมินไปใช้ในการ กำหนดกรอบการพัฒนาสมรรถนะครใู ห้มปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดประสิทธผิ ลสงู สดุ ต่อการพฒั นาผูเ้ รียน สถานศกึ ษาและวชิ าชพี ผใู้ ช้แบบประเมนิ สมรรถนะครู ดังนี้ 1. ครูผสู้ อน : ประเมินตนเอง 2. เพ่อื นครูผสู้ อนในสถานศกึ ษาเดียวกนั : ประเมนิ ครูผู้สอน 3. ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา : ประเมินครผู ู้สอน 2. การให้คะแนนการประเมนิ สมรรถนะครู 2.1 การให้คะแนนในแตล่ ะข้อรายการจะมีระดับคุณภาพของสภาพการปฏิบตั ิงาน 5 ระดับ ได้แก่ ปฏบิ ตั ินอ้ ยทีส่ ดุ ปฏบิ ัติน้อย ปฏิบตั ิปานกลาง ปฏิบัติมาก และปฏิบัตมิ ากท่สี ดุ โดยกำหนดค่าคะแนน เปน็ 1, 2, 3, 4 และ 5 ตามลำดบั ~ 55 ~

2.2 การตัดสินผลในแต่ละสมรรถนะ ใหท้ ำการคำนวณหาคะแนนเฉลย่ี รายสมรรถนะ และทง้ั ฉบับของ ครูเป็นรายบุคคล โดยนับจำนวนความถี่ของระดับการปฏิบัติ แล้วนำจำนวนความถี่ที่ได้นับได้ทั้งหมดมาคำนวณหา คะแนนรวม โดยการนำจำนวนความถ่ีในแต่ละระดับการปฏบิ ัติมาคูณคะแนนในแตล่ ะระดบั คุณภาพการปฏิบัติงานดังน้ี คอื ปฏบิ ตั นิ อ้ ยทสี่ ุด คณุ ด้วย 1 ปฏบิ ัตินอ้ ย คณู ด้วย 2 ปานกลาง คูณดว้ ย 3 ปฏิบัตมิ าก คณู ด้วย 4 และปฏบิ ัติมากที่สุด คูณดว้ ย 5 แล้วนำคะแนนมารวมกนั จากน้ันนำคะแนนรวมทไ่ี ด้คำนวณหาคะแนนเฉลยี่ 3. การแปลผลการประเมนิ สมรรถนะครู เป็นการนำคะแนนเฉลย่ี มาเปรยี บเทยี บกับเกณฑ์การแปลผล ที่กำหนดไว้ โดยกำหนดเกณฑจ์ ากผลการวเิ คราะหค์ า่ เฉลี่ย (x) สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ของข้อมลู ทีเ่ ก็บรวบรวม ไดท้ ั้งหมดดังนี้ คา่ คะแนนเฉลยี่ ระดบั คณุ ภาพ มากกว่า ค่าเฉลยี่ รวม + S.D. รวม ดี ระหว่าง คา่ เฉล่ยี รวม ± S.D. รวม พอใช้ นอ้ ยกว่า ค่าเฉล่ยี รวม - S.D. รวม ปรับปรงุ การให้คะแนนและแปลผลการประเมินสมรรถนะ ค่าคะแนนเฉลย่ี ระดับคณุ ภาพ 4.01 – 5.00 สูง 3.01 – 4.00 ปานกลาง ต้ังแต่ 3.00 ลงมา ควรปรับปรุง 4. การนำเสนอผลการประเมินสมรรถนะครู การนำเสนอผลการประเมินให้นำคะแนนเฉลย่ี และระดบั คุณภาพในแต่ละสมรรถนะมากรอกลงในแบบสรุปผล การประเมินสมรรถนะของครูผู้สอนในตอนท้ายของแบบประเมิน แล้วจึงรายงานผลการประเมินให้ผู้บริหารหรือ หนว่ ยงานที่เก่ียวข้องนำไปเปน็ แนวทางในการพัฒนาสมรรถนะครูต่อไป ~ 56 ~

~ 57 ~


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook