Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อประกอบการสอน_เรื่อง__การอ่านเพื่อประเมินค่า

สื่อประกอบการสอน_เรื่อง__การอ่านเพื่อประเมินค่า

Published by oraweesiriphol, 2020-05-17 05:59:57

Description: สื่อประกอบการสอน_เรื่อง__การอ่านเพื่อประเมินค่า

Search

Read the Text Version

รายวิชา ภาษาไทย เรอ่ื ง การอ่านเพอ่ื ประเมินค่า รหัสวชิ า ท๒๒๑๐๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาท่ี ๒ ผสู้ อน ครูฟารีดะห์ เบญญากาจ

การอ่านเพื่อประเมินคา่

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายหลักการอา่ นเพือ่ ประเมินค่าได้ ๒. นักเรยี นสามารถอ่านวเิ คราะห์วรรณกรรม และประเมินคา่ จากการอ่านวรรณกรรมได้

การอ่านเพ่ือประเมนิ ค่า การอา่ นเพ่ืออธบิ ายลักษณะของงานเขียน วา่ มีขอ้ ดี มีคณุ ค่าหรือข้อบกพร่องอย่างไร

หลกั การประเมนิ คุณคา่

หลกั การประเมนิ คณุ คา่ ๑. ตอ้ งรจู้ ักประเภทหนังสอื หรอื งานเขยี นประเภทน้ันๆ

หลกั การประเมนิ คุณคา่ ๒. อ่านอยา่ งละเอยี ดถถ่ี ว้ น พิจารณา เน้อื หาและสว่ นประกอบของเนอ้ื หา

หลกั การประเมนิ คุณคา่ ๓. ตคี วาม ๔. ประเมนิ ค่า : เป็นการตัดสินว่าสิง่ ทีอ่ ่าน น่าเชอ่ื ถอื ความสมบูรณ์ ถูกต้อง โดยใชเ้ หตผุ ล ประกอบ

การประเมนิ ค่าการอา่ น ด้านวรรณศิลป์ ด้านเนอ้ื หา ด้านสังคม การนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิต

ใบงาน การอา่ นวิเคราะห์งานเขยี น และเอกสารความร้เู รือ่ ง “เพยี งสามคา”

เพยี งสามคา ความสขุ ของคนเรานั้น บางทกี เ็ กดิ จากสง่ิ ง่ายๆ คือเกิดจากความคดิ ความเข้าใจของตวั เอง สาคัญอยู่ที่วา่ คดิ อยา่ งไรเท่านนั้ “ปณธิ าน” ไดฟ้ งั นทิ าน มาเร่อื งหนงึ่ เปน็ เรอ่ื งทน่ี า่ คดิ จงึ จะขอนามาเลา่ สูก่ นั ฟงั ดงั ต่อไปน้ี การดังได้สดับมา มีชายนายหน่ึงเดินทางร่อนเร่กระเซอะกระเซิงเข้าไปใน เมอื งหลวงของประเทศหน่งึ ตะแกต่นื ตาต่นื ใจในความงามของเมอื งเป็นอันมาก เดนิ ชมเมืองอยา่ งเพลิดเพลินไม่นานกม็ าหยุดยืนอยหู่ น้าบ้านๆ หน่ึง

ซึง่ สวยงามในใจของตะแกก็คดิ ว่า“บา้ นใครหนอช่างสวยงามอะไรอยา่ งน้ี เรานต้ี ายแล้วเกิดใหม่กค็ งไม่มวี นั ไดม้ ีบา้ นสวยงามเชน่ นแ้ี น่” ขณะท่ียืน ราพงึ อยู่ก็มีคนเดนิ ผา่ นมากลุ่มหนึ่ง ตะแกกร็ อ้ งถามคนกลมุ่ นั้นว่า“พ่อเอ๋ย ช่วยบอกฉนั ทไ่ี ด้ไหมวา่ ใครเปน็ เจ้าของบา้ นงามหลังน้ี” แตห่ ามใี ครฟงั เขา้ ใจไม่ คนหนึ่งในกล่มุ น้ันกพ็ ดู อะไรออกมา ๒–๓ คา ซ่ึงตะแกก็ฟังไม่ เข้าใจกน็ ึกวา่ เขาบอกชือ่ เจ้าของบ้านก็ขอบใจเขาแลว้ ก็เดินตอ่ ไป สกั พกั ใหญ่ก็เดินมาถึงทา่ เรอื

เหน็ เรือลาใหญท่ อดสมออย่ทู ่ีท่าประมาณราคาแลว้ ก็เป็นมลู ค่าอเนกอนนั ต์ ตะแกก็ยืนราพึง“อแุ ม่เจ้า ใครหนอเปน็ เจา้ ของเรอื ลานี้ เราตายแลว้ เกิด ใหมก่ ็ไมม่ ีวันรวยไดอ้ ยา่ งนี้” พอดมี ีคนกลมุ่ หน่งึ เดินผ่านมาตะแกก็รอ้ ง ถามเขาไปอีกวา่ ใครเปน็ เจา้ ของเรือลาน้ัน คนกลมุ่ นัน้ ไมเ่ ข้าใจว่าแกถาม ว่าอะไร จึงตอบดว้ ยคา ๒–๓ คาเหมอื นคนกลุ่มแรกตอบตะแกได้ยนิ ๒–๓ คานั้นซ้าอกี ก็เขา้ ใจวา่ เป็นชื่อเจ้าของเรอื จึงนึกวา่

“บญุ อะไรของท่านหนอ จึงมบี ้านสวยและเรอื สนิ คา้ ใหญโ่ ตเชน่ นี้” แล้วก็เดนิ ต่อไปอกี คร่ใู หญ่กเ็ หน็ ขบวนแห่ศพมาตามถนน ดจู ะเป็นศพของคนม่งั มเี พราะ มขี บวนยดื ยาว ก็ตะโกนถามวา่ เปน็ ศพของใคร คนกลมุ่ นน้ั ฟงั คาถามของแก ไมร่ ้เู รื่องก็ตอบดว้ ยคา ๒–๓ คาเหมอื นคนกลุ่มก่อนๆ ตะแกกเ็ ข้าใจว่าเปน็ ชื่อ ของผตู้ าย จึงราพงึ ในใจว่า “อพิโธ่เอ๋ย ดทู รี มึ บี ้านสวย มีเรือสนิ ค้าใหญโ่ ตแต่ กลับไมไ่ ดม้ ชี วี ติ อย่ชู ่ืนชมทรพั ยส์ มบัติเลยนีแ่ หละหนอ อนจิ จงั ไม่เที่ยง เออ เรา น่กี โ็ ชคดีท่ยี งั มีชวี ติ อยดู่ โู ลกตอ่ ไป ถงึ เราจะยากจนไม่มบี า้ นสวย

ไม่ร่ารวยอะไรกบั เขา เรากเ็ ปน็ สขุ ตามประสายาจกของเราแล้ว” คิดไดเ้ ทา่ นั้น ตะแกกผ็ ิวปากอย่างรา่ เริงเดนิ ชมกรุงต่อไป โดยหารไู้ ม่วา่ คา ๒–๓ คา ทแ่ี ก เขา้ ใจวา่ เปน็ ชอื่ ของบคุ คลผเู้ ปน็ เจา้ ของบา้ นสวยและเป็นเจ้าของเรือสินค้าอนั มง่ั คง่ั นัน้ ทแ่ี ท้เปน็ คาพูดท่แี ปลไดค้ วามว่า “ฉันไมเ่ ข้าใจภาษาท่ที ่านพดู ”

ความสขุ ของกระทาชายนายน้ีเกดิ ขึ้นไดด้ ว้ ยการทีค่ ดิ เอาเองจนเกดิ ปลงตก จติ ใจก็มี สนั โดษ พอใจในสภาพความเปน็ อยู่ของตน เลกิ อจิ ฉาคนท่มี ัง่ มกี ว่า เพราะแกคดิ เสยี ว่าถงึ อย่างไร แกก็ยังมีชีวิตอยดู่ ีกว่าคนมงั่ มที อี่ ายสุ ้นั เคล็ดลบั ของการมีความสขุ น้นั ท่านวา่ อย่ทู ี่ ใจของเราเอง ถา้ ใจเราคดิ อะไร มองอะไร ในทางดี และเกดิ ความ “พอใจ” แล้ว เราก็หา ความสุขได้ไมย่ ากนกั กอ่ นจบ ขอฝากกลอนส้นั ๆ บทหนงึ่ ไวใ้ หค้ ิด ดังนี้ เที่ยวด้นคน้ คว้าหาสขุ พบทกุ ขแ์ ทนท่นี ่ีไฉน เลกิ แสวงสุขหนอพอใจ สุขซาบซ่านในใจเอง (จากนิทานประกอบเรยี งความของปณธิ าน)

กล่มุ ท่ี ๑ สรปุ ใจความสาคญั และแนวคดิ เรือ่ ง เพยี งสามคา

กลุ่มท่ี ๒ คน้ หาสานวนโวหารที่ ปรากฏในเร่อื ง

กล่มุ ท่ี ๓ ความเหมาะสมในการใช้สานวนภาษาและ ลกั ษณะคาประพันธพ์ รอ้ มแสดงความคดิ เห็น

กล่มุ ที่ ๔ ผเู้ ขียนมีจดุ มุง่ หมายและการนาเสนอใน เรือ่ งใดเปน็ สาคญั ให้แสดงความคดิ เห็น

ใบงาน การอ่านเพ่อื ประเมนิ คา่ เรอ่ื ง ทุง่ ขา้ ว

บทรอ้ ยกรองสาหรับการอ่านเพ่อื ประเมินคา่ “ทุ่งข้าว”

“ทงุ่ ข้าว” ทุ่งขา้ วเขียวขจี สสี ดช่นื ระรื่นลมไหว ปูปลามาเล็มไคล น้าใสใตส้ นั ตะวา แมลงนอ้ ยนิดไรเ้ ดียงสา สาหร่ายชดู อกกระจดิ รดิ แมงมมุ ตง้ั ท่าตะครบุ กนิ เกาะดอกหญ้าบนคนั นา

ควายเคย้ี วเอ้อื งนอนหนอง แววตาหม่นหมองไมส่ ้นิ เหลือบลนิ้ วนเวยี นบิน เกาะกินเลือดลน้ พงุ กลวง เสมือนน้าบนใบบัวหลวง กบเขียดร้องเสยี งใส เลือ้ ยไปลว้ งรปู นู า งูอะไรสเี งนิ ยวง จกิ ปลากนิ เกาะกงิ่ หวา้ แสงแดดกลา้ กึง่ กลางวัน ยูงขาวถลาบนิ เงาเมฆสหี ม่นลอยมา

ถอนกลา้ มาเหน่ือยเมือ่ ยลา้ เขา้ ร่มไมช้ ายคาประหนึง่ สวรรค์ แกห้ ่อข้าวออกวางพลัน ชวนกนั น่งั ลอ้ มวงกนิ น้าพริกเจือแมงดา แกล้มยอดหว้าหวน่ั ใจถวลิ ว่าสวรรค์ในแคว้นแดนดิน คอื ถ่นิ ทุ่งทองของไทยเอย โดย อังคาร กลั ยาณพงศ์

ดา้ นเนื้อหา ของบทประพนั ธ์ “ทุ่งขา้ ว”

ดา้ นวรรณศิลป์ ของบทประพนั ธ์ “ท่งุ ขา้ ว”

ดา้ นสงั คม ของบทประพนั ธ์ “ทุ่งขา้ ว”

การนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิต ของบทประพนั ธ์ “ทุ่งข้าว”

ความสาคัญของการอ่านเพ่อื ประเมนิ คา่

การอา่ นเพ่อื ประเมนิ คณุ คา่

เปน็ การอา่ นประเมนิ คุณคา่ ของงาน เขยี น ซงึ่ ผู้อา่ นจะต้องวเิ คราะห์เนอ้ื ความใน ดา้ นต่างๆ เพ่อื ประเมินคณุ ค่าว่างานเขียน นั้นให้ประโยชน์ในแงใ่ ดบ้างแกผ่ ้อู ่าน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook