หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ประถมศึกษาปี ที่ 5 จดั ทำโดย นำงน้ำทพิ ย์ ตนั สุข 61941900513 ประกำศนยี บตั รวชิ ำชพี ครู มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั ลำปำง
คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ข้อมูลและสารสนเทศ ได้จัดทาขึ้นเพ่ือใช้ ประกอบการเรียนการสอน สาหรับนักเรียนตลอดจนบุคคลท่ีสนใจ โดยผู้พัฒนาได้แบ่ง เน้อื หาของหนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ สน์ ีไ้ ว้ 5 หัวเรือ่ ง ไดแ้ ก่ 1.ขอ้ มลู 2.แหล่งของขอ้ มูล 3.ประโยชน์ของข้อมูล 4.สารสนเทศ 5.องค์ประกอบของสารสนเทศ ผู้พัฒนาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เน้ือหาสาระของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์และใหค้ วามรู้แกผ่ ูเ้ รียนและผสู้ นใจทัว่ ไป นางน้าทพิ ย์ ตันสขุ ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏลาปาง
ข้อมูลและประเภทของสารสนเทศ...................................................................1 ประเภทของข้อมลู ............................................................................................2 แหลง่ ข้อมลู .......................................................................................................3 ประโยชน์ของขอ้ มูล..........................................................................................4 สารสนเทศ........................................................................................................5 องคป์ ระกอบของสารสนเทศ............................................................................6 สรปุ .................................................................................................................10 แบบทดสอบ....................................................................................................11 แหลง่ อา้ งองิ ....................................................................................................15 เกีย่ วกบั ...........................................................................................................16
1 นักเรียนคงเคยได้ยินว่า \"ปัจจบุ นั เปน็ ยคุ ของขอ้ มลู และข่าวสาร\" นกั เรยี นทราบหรอื ไม่ วา่ ข้อมลู หมายถึงอะไร และเราสามารถแบง่ ข้อมูลออกเปน็ ก่ีประเภท นกั เรยี นจะไดท้ ราบจากการ เรยี นร้จู ากบทเรียนนี้ พร้อมแลว้ ไปเรียนรู้กันเลย ความหมายของข้อมลู ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเร่ืองราวที่เก่ียวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ ส่ิงของ สถานที่ ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ท่ีเหมาะสมต่อการส่ือสาร การแปลความหมายและการ ประมวลผลซง่ึ ข้อมูลอาจจะไดม้ าจากการสงั เกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือ สัญลักษณ์ใด ๆ ที่สาคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเน่ืองตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ช่ือ นักเรยี น เพศ อายุ เป็นต้น
2 ข้อมูลทีส่ ามารถนามาใชก้ ับคอมพวิ เตอรไ์ ด้ มี 5 ประเภท คอื 1. ข้อมูลตัวเลข (Numeric Data) ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลท่เี ป็นจานวนตวั เลข สามารถนาไป คานวณได้ เช่น จานวนเงินเดือน ราคาสนิ ค้า 2. ขอ้ มลู ตวั อักษร (Text Data) ไดแ้ ก่ ข้อมูลท่ีเปน็ ตวั อักษร และสญั ลักษณเ์ ชน่ ช่อื สกุล ทีอ่ ยู่ เลขหมายโทรศัพท์ 3. ขอ้ มูลเสยี ง (Audio Data) ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลทีเ่ ปน็ เสยี งตา่ ง ๆ เช่น เสยี งดนตรี เสยี งพดู 4. ข้อมูลภาพ (Images Data) คือ ข้อมลู ที่เป็นจดุ สีตา่ ง ๆเม่อื นามาเรียงต่อกันแล้ว เกิดรูปภาพขึน้ เช่น ภาพถา่ ย ภาพลายเสน้ เปน็ ต้น 5. ขอ้ มลู ภาพเคลือ่ นไหว (Video Data) ไดแ้ ก่ ข้อมลู ทเ่ี ป็นภาพเคลอ่ื นไหวตา่ ง เชน่ ภาพเคล่ือนไหวทถี่ ่ายดว้ ยกลอ้ งวิดีโอ หรอื ภาพท่ที าจากโปรแกรมตา่ งๆ เปน็ ต้น
3 ความหมายของแหลง่ ขอ้ มลู แหลง่ ขอ้ มลู หมายถึง สถานท่หี รอื แหล่งท่ีเกิดข้อมูล แหล่งข้อมูลจะแตกต่างกันไปตาม ข้อมูลท่ีต้องการ เช่น บ้านเป็นแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวกับนักเรียน โดยบันทึก ข้อมูลไว้ใน ทะเบียนบ้าน, หอ้ งสมดุ เป็นแหลง่ ข้อมูลเกยี่ วกบั ความรู้ตา่ ง ๆ ข้อมูลบางอย่างเราอาจจะนามาจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งได้ เช่นราคาของเล่นชนิด เดียวกัน เราอาจจะหาข้อมูลจากร้านค้าหลายร้านได้ และข้อมูลหรือราคาที่ได้อาจจะ แตกตา่ งกันไป, หนังสือ สง่ิ พมิ พ์ เปน็ แหล่งข้อมูลทีม่ ที ้งั ข้อความ ตัวเลข รูปภาพ เราสามารถแบง่ แหลง่ ข้อมลู ตามลักษณะการเกดิ ได้ดงั น้ี 1.แหลง่ ข้อมลู ปฐมภูมิ หมายถึง ข้อมลู ทวั่ ไปท่ไี ดจ้ ากการเก็บรวบรวม หรอื บันทึกจาก แหลง่ ข้อมูลโดยตรง อาจเปน็ การสาอบถาม การสัมภาษณ์ การจดบันทึก และการจดั หา ด้วยเคร่อื งอัตโนมัติ 2.แหล่งข้อมูลทตุ ยิ ภูมิ หมายถึง ข้อมูลที่ไดม้ ีผ้รู วบรวมไวแ้ ลว้ ในลักษณะเอกสารตีพิมพ์ เผยแพร่และตาราทางวชิ าการ เชน่ ข้อมลู สถติ ติ ่าง ๆ ขอ้ มูลเหล่าน้ีมีการตีพิมพ์เผยแพร่ เพอ่ื ใช้งานหรือนาไปประมวลผลตอ่
4 ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเร่ืองราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ขอ้ มลู สามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คอื 1. ข้อมูลปฐมภูมิ เป็นข้อมูลท่ีได้จากแหล่งข้อมูลโดยตรง เช่น ข้อมูลท่ีได้ จากการสอบถามโดยตรง การสมั ภาษณ์ การสารวจ การจดบันทึก ข้อมูลท่ีได้จากเคร่ืองจักร อตั โนมตั ิ ไดแ้ ก่ เครือ่ งอ่านรหัสแทง่ เคร่อื งอา่ นเครอ่ื งหมายบนกระดาษ 2. ข้อมลู ทตุ ยิ ภมู ิ เป็นขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากขอ้ มูลทมี่ ีผ้อู ่นื รวบรวมไวใ้ หแ้ ล้ว ข้อมูลในชีวิตประจาวันมีมากมาย การใช้ประโยชน์จากข้อมูล เช่น ข้อมูลของภูมิอากาศ เมื่อนามาประมวลผลแล้วจะใช้ประโยชน์ด้านการพยากรณ์อากาศ ข้อมูลด้านประชากร สามารถนามาวางแผนในการพัฒนาประเทศ ข้อมูลด้านการเงินนามาใช้ในการพัฒนา เศรษฐกจิ ขอ้ มูลดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ราใช้ประโยชนด์ ้านการวจิ ัย เป็นต้น ประโยชนข์ องขอ้ มูล มีมากมายดังน้ี 1. ดา้ นการเรียน เชน่ ขอ้ มูลทไี่ ด้จาก โทรทศั น์ วทิ ยุ หนงั สอื พิมพ์ มาใช้ประโยชน์ ในการเรียนได้ เปน็ ข้อมูลหรอื ความร้เู พ่มิ เติม 2. ดา้ นการติดต่อส่ือสาร เชน่ ถา้ เรามขี ้อมลู เราสามารถท่จี ะสนทนาพูดคุย หรอื บอกเรือ่ งต่าง ๆ ใหก้ ับผูอ้ ืน่ ได้ 3. ด้านการตดั สนิ ใจ เป็นการใช้ชว่ ยให้เราตดั สินใจต่าง ๆ ไดด้ ขี น้ึ เช่น การเลือก ซือ้ ของเลน่ ถ้าเราทราบราคาของเล่น ในแต่ละร้าน จะทาให้เราเลอื กซ้อื ของเล่นท่ี เหมือนกันไดใ้ นราคาที่ถกู ท่สี ุด
5 ความหมายของสารสนเทศ สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจ กล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนาข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คานวณ วิเคราะห์ และแปลความหมายเป็นขอ้ ความที่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ ความสาคัญของสารสนเทศ การรสู้ ารสนเทศมีความสาคญั ต่อความสาเรจ็ ของบคุ คลในด้านตา่ งๆ ดังนี้ 1. การศึกษา การรู้สารสนเทศเป็นสิ่งจาเป็นสาหรับการศึกษาของบุคคลทุก ระดับ ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียน การศึกษานอกระบบโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเฉพาะอย่างย่ิงการศึกษาในปัจจุบันตามพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มกี ารปฏิรปู การเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ดังนั้นบทบาท ของผู้สอนจงึ เปลี่ยนเปน็ ผูใ้ หค้ าแนะนาชีแ้ นะโดยอาศัยทรพั ยากรเปน็ พน้ื ฐานสาคญั 2. การดารงชีวติ ประจาวัน การรู้สารสนเทศเป็นสิ่งสาคัญยิ่งในการดารงชีวิต ประจาวัน เพราะผู้รูส้ ารสนเทศจะเปน็ ผทู้ สี่ ามารถวเิ คราะห์ประเมินและใช้สารสนเทศให้เกิด ประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองเม่ือต้องการตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ถ้าต้องการซื้อเคร่ืองปรับอากาศของบริษัทใดบริษัทหนึ่งก็ต้องพิจารณามาตรฐาน คุณภาพ บริการหลังการขาย และเปรียบเทยี บราคา แลว้ จงึ ค่อยตดั สนิ ใจ เปน็ ต้น 3. การประกอบอาชีพ การรู้สารสนเทศมีความสาคัญต่อการประกอบอาชีพ ของบุคคลใดบุคคลหนงึ่ เพราะบุคคลน้ันสามารถแสวงหาสารสนเทศท่ีมีความจาเป็นต่อการ ประกอบอาชพี ของตนเองได้ เช่น เกษตรกร เมื่อประสบปัญหาโรคระบาดกับพืชผลทางการ เกษตรของตน ก็สามารถหาตัวยาหรอื สารเคมเี พ่ือมากาจัดโรคระบาด ดงั กลา่ วได้ เป็นต้น 4. สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง การรู้สารสนเทศเป็นสิ่งสาคัญโดยเฉพาะ สังคมในยุคสารสนเทศ (Information Age) บุคคลจาเป็นต้องรู้สารสนเทศเพ่ือปรับตนเอง ให้เข้ากับสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เช่น การอยู่ร่วมกันในสังคม การบริหารจัดการ การดาเนินธุรกจิ และการแข่งขัน การบรหิ ารบ้านเมืองของผนู้ าประเทศ เป็นต้น อาจกล่าวได้ วา่ ผูร้ สู้ ารสนเทศ คอื ผู้ท่มี อี านาจสามารถาชีว้ ัดความสามารถขององค์กรหรือประเทศชาติได้ ดังน้นั ประชากรทเ่ี ปน็ ผรู้ ู้สารสนเทศจงึ ถอื วา่ เป็นทรพั ยากรที่มีค่ามากท่ีสุดของประเทศ
6 องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง 1. ฮาร์ดแวร์ ฮาร์ดแวรเ์ ปน็ องคป์ ระกอบสาคญั ของระบบสารสนเทศ หมายถงึ เครือ่ งคอมพิวเตอร์ อปุ กรณร์ อบขา้ ง รวมทงั้ อปุ กรณส์ ือ่ สารสาหรับเชือ่ มโยงคอมพิวเตอรเ์ ข้าเปน็ เครอื ขา่ ย เชน่ เครอ่ื งพิมพ์ เมือ่ พจิ ารณาเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งเป็น 3 หนว่ ย คอื หน่วยรบั ข้อมลู (input unit) ไดแ้ ก่ แผงแปน้ อักขระ เมาส์ หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หนว่ ยแสดงผล (output unit) ไดแ้ ก่ จอภาพ เครอื่ งพมิ พ์
7 2 . ซอฟตแ์ วร์ ซอฟตแ์ วร์หรอื โปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ ป็นองคป์ ระกอบที่สาคัญประการทสี่ อง ซงึ่ ก็คอื ลาดบั ข้ันตอนของคาส่ังท่ีจะสั่งงานใหฮ้ าร์ดแวร์ทางาน เพอ่ื ประมวลผลขอ้ มูลใหไ้ ดผ้ ลลัพธ์ ตามความตอ้ งการของการใช้งาน ในปัจจุบนั มีซอฟต์แวรร์ ะบบปฏิบตั งิ าน ซอฟตแ์ วรค์ วบคุม ระบบงาน ซอฟตแ์ วร์สาเร็จ และซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์สาหรบั งานต่างๆ ลกั ษณะการใชง้ าน ของซอฟตแ์ วร์ก่อนหนา้ นี้ ผใู้ ชจ้ ะต้องติดตอ่ ใช้งานโดยใชข้ อ้ ความเป็นหลัก แต่ในปัจจบุ นั ซอฟต์แวรม์ ลี ักษณะการใชง้ านทงี่ า่ ยข้ึน โดยมรี ูปแบบการติดต่อทส่ี ่ือความหมายให้เขา้ ใจ ง่าย เช่น มีสว่ นประสานกราฟิกกบั ผู้ใชท้ เ่ี รยี กว่า กยุ (Graphical User Interface : GUI) สว่ นซอฟต์แวรส์ าเร็จทีม่ ใี ชใ้ นท้องตลาดทาใหก้ ารใชง้ านคอมพิวเตอร์ในระดบั บุคคลเป็นไป อยา่ งกวา้ งขวาง และเริ่มมีลักษณะสง่ เสรมิ การทางานของกลมุ่ มากข้ึน สว่ นงานในระดบั องคก์ รส่วนใหญม่ ักจะมกี ารพัฒนาระบบตามความตอ้ งการโดยการว่าจ้าง หรือโดยนัก คอมพิวเตอรท์ อ่ี ย่ใู นฝา่ ยคอมพิวเตอร์ขององค์กร เป็นต้น ซอฟตแ์ วร์ คือ ชดุ คาสง่ั ท่ีสัง่ งานคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกได้หลายประเภท เช่น 1. ซอฟต์แวร์ระบบ คือ ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ชจ้ ัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ และอปุ กรณ์ ตา่ งๆ ท่มี อี ย่ใู นระบบ เช่น ระบบปฏบิ ตั ิการวินโดวส์ ระบบปฏบิ ตั กิ ารดอส ระบบปฏบิ ตั ิการ ยนู ิกซ์ 2. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ คอื ซอฟต์แวรท์ ่ีพฒั นาข้นึ เพ่อื ใช้งานด้านตา่ งๆ ตามความ ตอ้ งการของผู้ใช้ เช่น ซอฟตแ์ วรก์ ราฟิก ซอฟตแ์ วร์ประมวลคา ซอฟต์แวร์ตาราง ทางาน ซอฟต์แวร์นาเสนอข้อมูล
8 3. ขอ้ มูล ข้อมลู เป็นองคป์ ระกอบทส่ี าคัญอีกประการหนง่ึ ของระบบสารสนเทศ อาจจะเปน็ ตัวชีค้ วามสาเร็จหรอื ความล้มเหลวของระบบได้ เนื่องจากจะตอ้ งมีการเกบ็ ขอ้ มูลจาก แหล่งกาเนดิ ขอ้ มลู จะตอ้ งมีความถูกต้อง มกี ารกลน่ั กรองและตรวจสอบแล้วเท่าน้ันจึง จะมีประโยชน์ ขอ้ มูลจาเปน็ จะต้องมมี าตรฐาน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเมือ่ ใชง้ านในระดบั กลมุ่ หรือระดับองค์กร ขอ้ มลู ต้องมีโครงสรา้ งในการจดั เก็บทเ่ี ป็นระบบระเบยี บเพ่อื การ สบื ค้นที่รวดเรว็ มีประสิทธิภาพ
4. บคุ ลากร 9 บุคลากรในระดับผู้ใช้ ผู้บริหาร ผู้พัฒนาระบบ นักวิเคราะห์ระบบ และ นักเขียนโปรแกรม เป็นองค์ประกอบสาคัญในความสาเร็จของระบบสารสนเทศ บุคลากรมีความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์มากเท่าใดโอกาสที่จะใช้งานระบบ สารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ได้เต็มศักยภาพและคุ้มค่าย่ิงมากข้ึนเท่านั้น โดยเฉพาะระบบสารสนเทศในระดับบุคคลซ่ึงเครื่องคอมพิวเตอร์มีขีดความสามารถ มากขึ้น ทาให้ผู้ใช้มีโอกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและพัฒนาระบบงานได้ เองตามความต้องการ สาหรับระบบสารสนเทศในระดับกลุ่มและองค์กรท่ีมีความ ซับซอ้ นจะตอ้ งใช้บุคลากรในสาขาคอมพิวเตอรโ์ ดยตรงมาพัฒนาและดแู ลระบบงาน 5. ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนของผู้ใช้หรือของบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องก็เป็นเร่ือง สาคัญอกี ประการหน่ึง เมือ่ ไดพ้ ัฒนาระบบงานแล้วจาเป็นต้องปฏิบัติงานตามลาดับข้ันตอน ในขณะที่ใช้งานก็จาเป็นต้องคานึงถึงลาดับขั้นตอนการปฏิบัติของคนและความสัมพันธ์กับ เคร่ือง ทั้งในกรณีปกติและกรณีฉุกเฉิน เช่น ข้ันตอนการบันทึกข้อมูล ขั้นตอนการ ประมวลผล ขั้นตอนปฏิบัติ เม่ือเคร่ืองชารุดหรือข้อมูลสูญหาย และขั้นตอนการทาสาเนา ข้อมูลสารองเพื่อความปลอดภัย เป็นต้น สิ่งเหล่าน้ีจะต้องมีการซักซ้อม มีการเตรียมการ และการทาเอกสารคมู่ อื การใชง้ านที่ชดั เจน
10 สรุป เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสาร และได้ ผนวกเอาเทคโนโลยีหลักสองสาขาไว้ด้วยกัน คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีส่ือสารคมนาคม และอาจ รวมถงึ ระบบอตั โนมัตริ ะบบงานพิมพ์ และระบบโทรทัศนท์ ี่มแี นวโนม้ จะผนวกเขา้ กันด้วย วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารมีความเป็นมาที่ยาวนานมากกว่าที่จะมาเป็น เทคโนโลยีทใ่ี ช้งานกนั อยใู่ นปจั จุบันน้ี หากสงั เกตจะเหน็ วา่ ในปัจจุบันการค้นคิดเทคโนโลยีเหล่าน้ีเปลี่ยนไปอย่างเร็ว มากจนผู้ใช้แทบจะตามไมท่ ัน ซ่งึ ความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับววิ ฒั นาการของเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารจะ มีสว่ นช่วยทาให้มองภาพในอนาคตของเทคโนโลยเี หล่านไี้ ด้ คอื วิวัฒนาการของคอมพวิ เตอรแ์ ละวิวัฒนาการสรปุ ผู้คนที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันและต่อไปในอนาคตจาเป็นท่ีจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารที่มีเนื้อหาสาระครอบคลุมเทคโนโลยีสองด้านคือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร ได้เข้ามาเก่ยี วข้องกับชีวิตผู้คนทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเร่ืองการเมือง เศรษฐกิจการศึกษา การทางาน การรักษาโรค และ การบันเทิง เป็นต้น ซึ่งความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของผู้คนในประเทศใดๆ ก็ตาม สามารถใช้เป็นตัวช้ืวัดความเจริญก้าวหน้าของประเทศ ส่วนการนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารมา ประยุกต์ใช้ในองค์กรต้องกระทาอย่างรอบคอบ เพราะต้องลงทุนสูงและไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะประสบความสาเร็จใน การนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารมาใช้ สาหรับในระดับประเทศภาครัฐต้องทาหน้าท่ีเป็นผู้อานวยความ สะดวกในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารอย่างปลอดภัย เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศ ตา่ งๆของเทคโนโลยกี ารสอ่ื สารโทรคมนาคม
11 แบบทดสอบ 1.ขอ้ ใดหมายถงึ ข้อมลู ก.ข้อเท็จจรงิ ข.ส่งิ ท่ีเรารับรู้ ค.ส่ิงที่สัมผัสได้ ง.สงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง 2.ขอ้ ใดเป็นข้อมลู ตัวเลข ก.บ้านเลขท่ี ข.หมายเลขโทรศพั ท์ ค.ป้ายทะเบยี นรถ ง.จานวนนกั เรยี นท่ีมาสาย 3.ขอ้ มูลจากแหลง่ ใดไมน่ ่าเช่ือถอื ทีส่ ดุ ก.คาบอกเล่า ข.หนังสือราชการ ค.เจ้าหน้าทตี่ ารวจ ง.ข่าวโทรทัศน์ 4.ข้อใดเป็นข้อมลู ทีไ่ ด้จากแหล่งขอ้ มูลโดยตรง(ข้อมูลปฐมภูม)ิ ก.คาบอกเล่าของผ้ปู ระสบเหตุ ข.ขอ้ มลู ในอินเทอรเ์ น็ต ค.ขา่ วโทรทัศน์ ง.ขา่ วจากหนงั สอื พิมพ์ 5.ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์ของขอ้ มูล ก.ช่วยในการตัดสนิ ใจ ข.ทนั เหตกุ ารณ์ ค.ไดค้ วามรู้ ง.ไดค้ วามบันเทิง 6.\"การนาขอ้ มลู ผา่ นระบบการประมวลผล คานวณ วเิ คราะห์และแปลความหมาย เป็นขอ้ ความท่สี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้\" หมายถึงขอ้ ใด ก.เรอ่ื งราว ข.ข้อความ ค.สารสนเทศ ง.เหตกุ ารณ์
12 แบบทดสอบ 7.ขอ้ ใดคอื ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ก.หนังสอื ข.โปรแกรมพิมพ์เอกสาร ค.เครื่องคอมพิวเตอร์ ง.เอกสาร 8.โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทีจ่ ัดเป็นเทคโนโลยสี ารสนเทศด้านใด ก.การสือ่ สาร ข.ธุรกิจพาณิชย์ ค.การบันเทิง ง.การศึกษา 9.ข้อใดคอื การววิ ฒั นาการทางเทคโนโลยี ก.เรอื , รถ , เครอ่ื งบนิ ข.ไดโนเสาร์ , สัตว์โบราณ , สตั วป์ จั จบุ ัน ค.เสื้อ กางเกง กระเปา๋ ง.แผน่ ดสิ ก์ , แผ่นซดี ี , แฟลชไดรฝ์ 10.อปุ กรณ์ใดทาหนา้ ทบ่ี นั ทกึ ภาพ ก.แผน่ ซดี ี ข.แฟลชไดรฟ์ ค.กลอ้ งดิจทิ ลั ง.คอมพิวเตอร์ 11.เครอื ข่ายคอมพิวเตอรข์ นาดใหญ่ ทม่ี กี ารเชอื่ มตอ่ ระหว่างเครือขา่ ยหลาย ๆ เครือขา่ ยทว่ั โลก หมายถึงขอ้ ใด ก.อินเทอรเ์ น็ต ข.เครอื ข่าย ค.ระบบไฟฟา้ ง.โทรศพั ท์
13 แบบทดสอบ 12.ในครง้ั แรก อินเทอร์เนต็ ถกู วจิ ยั และพัฒนาขึน้ มาเพอื่ วัตถุประสงค์ด้านใด ก.การแพทย์ ข.การศึกษา ค.การทหาร ง.การคมนาคม 13.ขอ้ ใดช่วยต่อเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ เข้ากบั อนิ เทอร์เน็ต ก.แปน้ พิมพ์ ข.เมาส์ ค.โมเดม็ ง.เครื่องพิมพ์ 14.ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของอินเทอรเ์ นต็ ก.ส่ือสาร ข.คน้ ควา้ ค.บันเทิง ง.ป้องกันโรค 15.เดก็ ติดเกมเกิดจากอะไร ก.เด็กไดอ้ อกกาลังกาย ข.พ่อแม่ส่งเสริม ค.เลน่ ไม่กาหนดเวลา ง.มีเกมมากเกินไป 16.โปรแกรมที่วาดภาพ ตกแตง่ ภาพไดค้ อื โปรแกรมใด ก.โปรแกรม Paint ข.โปรแกรม Dos ค.โปรแกรม Windows ง.โปรแกรม Words
14 แบบทดสอบ 17. .จากภาพ เป็นโปรแกรมท่ีทาอะไร ก.พมิ พเ์ อกสาร ข.คานวณตวั เลข ค.เปิดหน้าเว็บ ง.วาดภาพ 18. เม่อื เราบันทกึ เอกสารแลว้ ช่อื ของไฟลจ์ ะปรากฏท่ี หมายเลขใด ก.5 ข.2 ค.1 ง.3 19.ข้อใดปฏิบัติถกู ตอ้ ง ก.เสียบปลั๊กไฟท้งิ ไวเ้ มอ่ื จะใช้จะเปดิ ได้สะดวก ข.กดแป้นพมิ พ์แรง ๆ เพอื่ ให้เครื่องเปดิ เรว็ ๆ ค.ปิดจอภาพเมือ่ ไม่ใช้งานเคร่อื งคอมพิวเตอรแ์ ลว้ ง.เวลาปิดเคร่อื งรอใหจ้ อภาพดับกอ่ นค่อยปิดเครื่องสารองไฟ 20.ขอ้ ใดเป็นการใช้งานเครอื่ งคอมพิวเตอรท์ ีเ่ หมาะสมท่สี ุด ก.ใช้คอมพวิ เตอร์เล่นเกมครง้ั ละ 4 ชั่วโมง ข.เปิดเคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ้งิ ไว้นาน ๆ ค.เมือ่ จ้องจอนาน ๆ ให้พักสายตาดว้ ยการมองไกล ๆ ง.เม่ือจะปิดใหก้ ดสวติ ช์ปดิ ทันที
15 แหลง่ ขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/site/krulek0012/data
16 เก่ียวกบั ผจู้ ัดทำ ชอื่ นางนา้ ทิพย์ ตนั สขุ ชอื่ เลน่ แนท เกิดวนั ท่ี 21 กนั ยายน 2529 รหสั นกั ศึกษา 61941900513 ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ครู มหาวิทยาลยั ราชภฏั ลาปาง
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: