Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทริปเชียงใหม่3วัน2คืน (2)

ทริปเชียงใหม่3วัน2คืน (2)

Published by peed_thai, 2022-04-18 06:43:32

Description: ทริปเชียงใหม่3วัน2คืน (2)

Search

Read the Text Version

ทริป3วัน2คืนเชียงใหม่

กำหนดการ DAY 1 05:30 พร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง สายการบินแอร์เอเชีย

09:45 นำท่านสู่อุทยานหลวงราชพฤกษ์โดยรถบัส หอคำหลวง วัดพระธาตุดอยคำขอพรจากหลวงพ่อทันใจ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ แสดงพันธุ์ไม้นานาชนิดจากทัว่ โลก ด้านในสามารถชมหอคำหลวงสร้างด้วยสถาปัตยกรรมท้องถิ่นล้านนาภายใต้ แนวคิดว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือ ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย” พระบรมธาตุดอยสุเทพ เดมิชื่ อดอยอ้อยช้าง เป น็ เชิง ดอยอยู่ห่างจากตัวเมือง 6กิโลเมตรบนเส้นทางข้ึนสู่ยอดดอยประมาณ 16กิโลเมตร พระตำหนักภูพิงค์ เป ็นทปี่ ระทับในโอกาสทเี่สดจ็ พระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมทจี่ งั หวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงานและเยี่ยมเยือนราษฎร วัดอุโมงค์ มอีโุมงค์ใต้พระเจด ยี์700ป ที มี่ คีวามแปลกแบบทไี่ม่สามารถพบเห็นได้จากวัดทัว่ ไปโดยเป ็นอโุมงค์ทเี่ชื่ อมต่อกันถึง 4อโุมงค์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือชื่ อเดิม สวนเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 468 ไร่ ตั้งอยู่ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เคยใช้เป็นสถานที่ที่ใช้จัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระ เกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 และ มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่มีดอกไม้งามหลากหลายสายพันธุ์ ชูช่อ เบ่ง บานนับแสนนับล้านดอก อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษาในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ศูนย์กลางการเรียนรู้พืชสวนโลก และวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทย มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด การจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรและอื่น ๆ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษางานวิจัย และเป็นแหล่งพบปะกันในกลุ่มเกษตรกร ภายในพื้นที่มีการจัดภูมิสถาปัตย์อย่างสวยงาม

การตั้งชื่ ออุทยานหลวงราชพฤกษ์นั้น หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้มีลายพระหัตถ์ถึงพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2552 ขอพระราชทานชื่ อสวนซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ว่า “สวนหลวงราชพฤกษ์ ” ต่อมาท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ อสวนดังกล่าวว่า “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553 และได้รับพระราชทานชื่ อภาษาอังกฤษว่า “Royal Park Rajapruek” ภายในของ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Royal Park Rajapruek) มีสิ่งปลูกสร้าง และดอกไม้นานาพันธุ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 468 ไร่ เช่น หอคำหลวง หากใครไปเที่ยวที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หนึ่งในที่ห้ามพลาดก็คือ หอคำหลวง อาคารที่ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมท้องถิ่นล้านนาภายใต้แนวคิดว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรม หาภูมิพลอดุลยเดช คือ ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย” ตั้งอยู่บนเนินดิน พื้นที่ 3,000 ตารางเมตร

รับประทานอาหารกลางวัน 12:00 โรงแรมฮอลิเดย์การ์เด้น (HOLIDAY GARDEN HOTEL & RESORT)

13:50 เดินทางไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพพระตำหนักภูพิงค์วัดอุโมงค์

พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง ใช้เส้นทางเดียวกันกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักฯอยู่เลยจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร พระตำหนักภูพิงค์ฯ เป็นพระตำหนักประทับในวโรกาสที่เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใช้ เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะที่เสด็จฯเยือนประเทศไทยซึ่งแต่เดิมจะประทับรับรองแต่ในพระนครหลวงเท่านั้น โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2504 ในครั้งแรกได้ก่อสร้างเฉพาะ องค์พระตำหนักที่ประทับและเรือนรับรองเท่านั้น ส่วนอาคารอื่นๆได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมต่อมาในภายหลัง ภายในพระตำหนักฯ มีสถานที่น่าชม ดังนี้ เรือนปีกไม้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เรือน รับรอง พลับพลาผาหมอนและสวนเฟิร์น อ่างเก็บน้ำ พระตำหนักต่างๆ และหอพระ โดยระหว่างเส้นทางเยี่ยมชมจะผ่านสวนกุหลาบเป็นระยะ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ การเดินทางมายังพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์แห่งนี้ใช้เส้นทางเดียวกันกับวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาคดเคี้ยวลาดชันพอสมควร แต่ด้วยการสร้าง ถนนที่มีช่องทางจราจรหลายช่อง ก็ทำให้การเดินทางขึ้นเขาดอยสุเทพไม่ใช่เรื่องยากมากนัก เมื่อมาถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพให้ตรงไปเรื่อยๆ ตามถนน จะมาถึงลานจอดรถหน้าพระตำหนักภูพิงครา ชนิเวศน์ เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีรถเข้า-ออกกันเยอะมาก นักท่องเที่ยวที่มาสักการะองค์พระธาตุดอยสุเทพส่วนใหญ่จะแวะมาชมพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ด้วยเสมอ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์จะปิด พักกลางวันเวลา 11.30 - 13.00 น. เป็นประจำทุกวัน เว้นแต่จะมีกรณีพิเศษจะเปิดโดยไม่พักกลางวัน พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ณ ยอดสูงดอย \"บวกห้า\" ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางตะวันตกประมาณ 22 กิโลเมตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างพระราชนิเวศน์ขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2504 เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทรงต้อนรับพระราชอาคันตุกะ และได้กลายเป็นที่ประทับในคราวที่เสด็จแปรพระราชฐาน เพื่อทรงเยี่ยมเยียนเหล่าพสกนิกรทางภาคเหนือเป็นประจำเสมอมา พระสาสนโสภณ วัดบวรนิเวศวิหาร (คือสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในกาลต่อมา) ได้ถวายชื่ อเพื่อมีพระราชวินิจฉัย 2 ชื่ อ คือ \"พิงคัมพร\" และ \"ภูพิงครา ชนิเวศน์\" เมื่อมีพระราชวินิจฉัยแล้วจึงพระราชทานนามว่า \"พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์\" พระตำหนักทรงไทย งามสง่า อยู่ท่ามกลางแมกไม้อันร่มรื่น ประดับประดาด้วยสวนหย่อม ลำธาร สระน้อยๆและโขดหิน แต่งแต้มด้วยไม้ดอกต่างชนิด ต่างสี หลากกลิ่น แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ของพระ ราชนิเวศน์แห่งนี้ ก็คือ กุหลาบหลากหลายพันธุ์ที่เบ่งบานอวดสีสันให้ดอกโตชนิดที่ไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน ผู้ใดที่ได้มีโอกาสไปชมภูพิงคราชนิเวศน์ในฤดูหนาว จะต้องตื่นตาตื่นใจกับกุหลาบหลากสี หลายร้อยพันธุ์ ที่ส่งกลิ่นหอมตลบและประชันขันแข่งความงามกันอยู่ทั่วบริเวณพระราชนิเวศน์แห่งนี้ ส่งผล ให้ภูพิงคราชนิเวศน์สดสวยราวอุทยานสวรรค์

รับประทานอาหารเย็น และ เข้าพัก 18:00 โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว

08:50 หลังอาหารเช้าที่โรงแรมเดินทางเที่ยวชมม่อนแจ่มหรือโครงการหลวงหนองหอยจากนั้นเพลิดเพลินกับจังเกิ้ลโคสเตอร์รถไฟรางไม้ DAY 2

อำเภอแม่แจ่มเป็นดินแดนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ มีหมู่บ้านอยู่ตามที่ราบและกระจัดกระจายอยู่ตามหุบเขา ใหญ่น้อยที่ล้อมรอบเรียงรายอยู่ มองจากที่สูงลงมาจะเหมือนแอ่งกระทะ มีลำน้ำไหลผ่าน ท่ามกลางมวลพฤกษชาตินานาพันธุ์ที่ปรากฏอยู่ในดินแดน สุวรรณภูมิ ดินแดนแห่งนี้เดิมเป็นที่อาศัยของชนชาติลัวะ (ละว้า) ซึ่งครอบครองดินแดนแถบนี้ตลอดจนถึงบางส่วนของอาณาจักรล้านนาในอดีต ชนเผ่าลัวะมีความเจริญไม่แพ้พวกขอม-มอญ ซึ่งเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้ร่วมกัน เพียงแต่แยกการปกครองออกเป็นหมู่เหล่า เป็นอิสระไม่ขึ้นตรง ต่อพวกใด ชนใดมีความเข้มแข็งก็ตั้งตัวเป็นเจ้าเมืองขึ้นปกครองกันเอง มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และได้สร้างวัฒนธรรมของตนจนรุ่งเรือง ตามหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม จิตรกรรมฝาผนัง เครื่องปั้ นดินเผา อาจจะเป็นเพราะในอดีตเมืองแจ๋มเป็นเส้นทางการค้าขายระหว่าง พม่า ไทย จีน และอินเดียก็เป็นได้ เพราะสินค้าของทุกประเทศตกทอดมาสู่รุ่นลูกหลานซึ่งได้รับจากบรรพบุรุษที่อยู่ในสมัยนั้นด้วย ต่อมาเมื่อมีกลุ่ม คนไท-ยวน (ไต) เข้ามามากเข้า อำนาจของลัวะจึงหมดไป แต่ลัวะเริ่มเรืองอำนาจขึ้นมาใหม่อีกครั้งในยุคสมัยของพญามังรายซึ่งถือว่าเป็นเชื้ อสา ยลัวะเหมือนกัน ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น คิชฌกูฏ ในวิหารของวัดยางหลวง พระเจ้าตนหลวง วัดกองกาน พระพุทธรูปหล่อด้วยสัมฤทธิ์ ศิลปะตระกูล ช่างเชียงแสนและตระกูลช่างสุโขทัยซึ่งมีอายุเกิน 500 ปีขึ้นไป ดังนั้น เมืองแจ๋มก็น่าจะตั้งมาไม่ต่ำว่า 500 ปี ราว ๆ ปลายพุทธศตวรรษที่ 18 (พ.ศ. 1800) สิงหนวัติกุมารได้พากลุ่มคนไท-ยวนอพยพมาจากยูนนานทางตอนใต้ของจีน ยึดอำนาจจากลัวะในสมัยปู่จ้าวลาวจก (ลวจักราช) บรรพบุรุษของพญามังราย แล้วสร้างเมืองใหม่ในพื้นที่ที่มีชนพื้นเมืองลัวะอาศัยอยู่ก่อน แต่อาศัยการวางตนเป็นผู้ที่มีวัฒนธรรมสูงกว่าลัวะ ต่อมา เมื่อกลุ่มคนไทเสื่ อมอำนาจลง ปู่จ้าวลาวจกจึงสถาปนาตนเองเป็นปฐมกษัตริย์ กลุ่มคนไทจึงกระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งตามประวัติ ของเมืองแจ๋มที่กล่าวไว้ว่าเริ่มมีคนไทเข้ามา ก็คงจะในสมัยของสิงหนวัติกุมารนั่นเอง เพราะประวัติของเมืองแจ๋มก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิงห์อยู่ เหมือนกัน แล้วถ้าเราลองมานับปีกันแล้ว ปีนี้ พ.ศ. 2545-1800 จะได้ประมาณ 745 ปี ซึ่งก็ใกล้เคียงกับอายุของหลักฐานที่อยู่ตามวัดต่าง ๆ เช่น คิชฌกูฏ

รับประทานอาหารกลางวัน 12.00ร้านอาหาร ริมน้ำตกแม่สาน้อย ลาบวัว ขนมครกหลากสี ขนมครกโบราณ มาม่าต้มยำกุ้ง ข้าวซอย ไก่ย่างแม่สา

13:30กิจกรรมเพลิดเพลินกับจังเกิ้ลโคสเตอร์รถไฟรางไม้ จังเก้ิลโคสเตอร์หรอืโป่งแยงซิปไลน์ รถไฟรางไม้แห่งแรกใน ประเทศไทย สวนสนกุ สุดมันส์ในอำเภอแม่รมิ ท่านจะได้แอดเวน เจอร์กันแบบสุดๆ(ไม่รวมค่าเครอื่ งเล่นราคาเรมิ่ ต้นที่300บาท กรณที่านใดไม่เล่นเครอื่ งเล่นมีมุมถ่ายรปู เก๋ๆ)

15.30ท่องเที่ยวแดนเทวดา ”แดนเทวดา”สวนสไตล์ทรอปิคอล สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิคแห่งใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่นักธุรกิจค้าเพชร ได้เนรมิตอลังการงานสร้างที่ให้บรรยากาศที่ รายล้อมไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด อีกทั้งยังมีุมน้ำตกที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงมากๆ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ของเชียงใหม่ อีกที่หนึ่งที่น่าสนใจ และยังให้พื้นที่บริเวณรอบๆมีรายได้จากการท่องเที่ยวอีกด้วย แดนเทวดา ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แตง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 ก.ม. ใกล้กับที่ว่าการอำเภอแม่แตง เมื่อมาถึงบริเวณหน้าแดนเท ดาสามารถจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถฝั่ งตรงข้ามมีที่จอดรถกว้างขวาง ค่าเข้าชมแดนเทวดาคนละ 80 บาท (เฉพาะพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เข้าฟรี ) พื้นที่ภายในแดนเทวดากว้างขวางมาก โดยจัดแบ่งเป็นโซนต่างๆ เป็นทางเดินวงกลมที่มาบรรจบ กัน จากประตูทางเข้า เราเลือกเดินไปทางฝั่ งขวาก่อน จะเจอกับทางเดินเต็มไปด้วยต้นไม้และสวนขนาดย่อม

17.00เชิญช็อปปิ้ งตามอัธยาศัยไนท์บาร์ซ่าเชียงใหม่ และ รับประทานอาหารตามอิสระ

หากจะพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในยามราตรีของเมืองเชียงใหม่ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น “เชียงใหม่ไนท์บาซาร์” ซึ่งถือเป็นตลาดนัดกลางคืนที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักช้อปชาวต่าง ชาติ ที่ต้องการจะมาเดินเลือกซื้ อสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน ภาพวาด เครื่องเขิน เครื่องเงิน และสินค้าอื่นๆ จนส่งผลทำให้ตลาดไนท์บาซาร์กลายเป็นอีก หนึ่งจุดท่องเที่ยวที่มีชื่ อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับไนท์บาซาร์ นั้นมีความหมายตรงตัว ว่าเป็นตลาดขายของกลางคืน ตั้งอยู่ในย่านใจเมืองเชียงใหม่บนถนนช้างคลาน โดยจุดเริ่มต้นของตลาดแห่งนี้ถือกำเนิดจากกแนวคิดของ กลุ่มพ่อค้าชาวจีนในเชียงใหม่ ในนามของมูลนิธิสามัคคีการกุศล ที่ต้องการให้มีพื้นที่สำหรับการตั้งขายสินค้า จำพวกหัตถศิลปะ เครื่องจักรสาน ผ้าและเครื่องประดับพื้นเมืองฝีมือ ของชาวเชียงใหม่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติ เพราะเห็นว่าในยุคนั้นชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตกนิยมซื้ องานจำพวกหัตถศิลป์ของเชียงใหม่กลับไป เป็นที่ระลึก

19.00พักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศั ย

06:30 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม DAY3 เมนูอาหารเช้า ไข่ดาวแพนเค้กเด็ก เบค่อนดับเบิ้ลไข่ดาว อาหารเช้าสไตล์แม็คซิกัน

07.10ไปยังอุทยานแห่งชาติแม่น้ำปิง และ กิจกรรมล่องเรือ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดตาก ครอบคลุมพื้นที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยที่ทำการอุทยา นฯตั้งอยู่ที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก เป็นป่าที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่า มีทิว เขาทอดยาวเหยียดสลับซับซ้อน ลำห้วยน้อยใหญ่หลายสิบสาขาไหลผ่านที่สำคัญคือ ลำห้วยแม่หาด ลำห้วยแม่ก้อและทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะพื้นที่ป่าตั้งอยู่ทางฝั่ งซ้ายของลำน้ำปิงตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำเขื่อน ภูมิพล มีเนื้อที่ประมาณ 627,346 ไร่ หรือ 1,003.7536 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวสภาจังหวัดลำพูน ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2521 เสนอแนะให้จังหวัดลำพูน จัดตั้งวนอุทยานขึ้นครอบคลุมบริเวณจุดท่องเที่ยวต่างๆ ในป่าสงวนแห่งชาติแม่ หาด-ป่าแม่ก้อ ท้องที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เพื่อจะได้เข้าไปควบคุมและจัดระเบียบกิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งทางสำนักงานป่าไม้เขตเชียงใหม่ได้ให้ นายเฉลียว นิ่มนวล ไปสำรวจ พื้นที่และมีความเห็นควรจัดเป็นวนอุทยานขึ้น จึงรายงานให้กรมป่าไม้ดำเนินการ ประกอบกับทางจังหวัดลำพูนได้เสนอให้กรมป่าไม้จัดพื้นที่ป่าแม่หาด-แม่ก้อเป็นแหล่งสงวนพันธุ์สัตว์ป่าหรืออุทยานแห่งชาติเช่นกัน ตามรายงาน การสำรวจของ นายจีรเดช บารมี เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 ประจำอำเภอลี้ ดังนั้นในเดือนธันวาคม 2522 กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่ ง ที่ 2294/2522 ให้ นายสัมพันธ์ มิเดหวัน เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 ไปทำการ สำรวจอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า พื้นที่ป่าแม่หาด-แม่ก้อ เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพป่าสมบูรณ์ดี มีทิวทัศน์สวยงามดีและมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ ที่สำคัญหลายแห่ง เช่น น้ำตกก้อหลวง ทุ่งหญ้า มีสัตว์ป่าชุกชุม เหมาะสม ที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือรายงานการสำรวจ ที่ กส 0708(มก)/51 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2523 กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 ให้กำหนดพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนด บริเวณที่ดินป่าแม่หาดและป่าแม่ก้อ ในท้องที่ตำบลดอยเต่า ตำบลโป่งทุ่ง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลแม่ลาน ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และตำบลบ้านนา ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เนื้อที่ ประมาณ 626,875 ไร่ หรือ 1,003 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2524 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 115 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 32 ของประเทศ อนึ่งในระหว่างดำเนินการจัดตั้งได้ใช้ชื่ อว่า อุทยานแห่งชาติแม่หาด-แม่ก้อ ต่อมาเมื่อ ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กรมป่าไม้จึงได้เปลี่ยนชื่ อเป็น อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เพราะแนวเขตอุทยานแห่งชาติซีกซ้ายทั้งหมด ครอบคลุมลำน้ำแม่ปิง ซึ่งเป็นเส้นน้ำสายใหญ่ และมีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นจุดเด่นที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติ ต่อมาได้มีการขยายเขตอุทยานแห่งชาติให้ครอบคลุมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1087 ในท้องที่ตำบลแม่ลาน และตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ระยะทาง 14.198 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 471 ไร่ หรือ 0.7536 ตาราง กิโลเมตร เพื่อให้สามารถควบคุม ป้องกัน และปราบปรามการลัดลอบตัดไม้ทำลายป่า ล่าสัตว์ และเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 111 ตอนที่ 59 ก ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2537

08.40 ไปยังสถานีรถไฟเชียงใหม่กลับกรุงเทพมหานครโดยรถไฟด่วนพิเศษถึง 19.30 ขอขอบคุณที่มาเดินทางกับบริษั ททัวร์ของเรา เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

ราคา จำนวนผู้ เดินทาง ราคา / คน 2 -3 คน- รถ 6ที่นั่ง 7,500 4 -5คน- รถ 6ที่นั่ง 6,950 6-9 คน- รถตู้ 6,700


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook