คำนำ แผนการเรียนรู้ฉบับนี้ ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนวิชา ชื่อวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพื่อการจัดการอาชีพ รหัสวิชา 20001-2001 สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชา อุตสาหกรรม หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วยแผนการเรียนรู้ 7 หน่วย โดยได้จัดแบ่งให้สอดคล้อง กับคำอธิบาย รายวิชา สมรรถนะรายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเบื้องต้น ระบบปฏิบัติการเบื้องต้น การใช้งาน โปรแกรมประมวลผลคำ การใชง้ านโปรแกรมตารางทำการ การใชง้ านโปรแกรมการนำเสนอผลงาน การใช้งาน อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น และ กฎหมายและจรยิ ธรรมในการใชร้ ะบบสารสนเทศ นอกจากน้ใี นแตล่ ะหนว่ ย การ จัดกระบวนการเรียนรูจ้ ะเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พทุ ธศกั ราช 2542 ซึ่งไดก้ ำหนดเปา้ หมายการจัดการศกึ ษาโดยให้ถือว่า “ผู้เรียนสำคัญทสี่ ดุ และต้องสง่ เสริมให้ ผ้เู รียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศกั ยภาพ” ผจู้ ดั ทำ หวังเปน็ อย่างยงิ่ วา่ แผนการจัดการเรยี นรู้ ฉบับน้ี คงจะมีประโยชนต์ อ่ การจัดการศึกษาในยุค ปจั จบุ นั หากมขี ้อผิดพลาดประการใด ผู้จดั ทำยนิ ดรี บั คำติชมจากทา่ น ลงช่อื (นางสาวพัณฑิภา ชมนาวัง)
สว่ นท่ี 1 ➢ การวเิ คราะหร์ ายวชิ า
คำอธบิ ายรายวชิ า รหัส 20001-2001 ชื่อวิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชีพ จำนวน 2 หนว่ ยกติ จำนวนชว่ั โมง/ภาคเรียน 54 ชัว่ โมง ระดับช้นั ปวช.2 หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาวชิ าช่างเทคนคิ คอมพิวเตอร์ จดุ ประสงค์รายวิชา 1. เข้าใจหลกั การและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ การใช้ ระบบปฏบิ ัตกิ าร โปรแกรมสำเร็จรปู และอนิ เทอร์เนต็ เพ่ืองานอาชีพ 2. สามารถใชร้ ะบบปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรปู และเทคโนโลยีสารสนเทศตาม ลักษณะงานอาชพี 3. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศในงาน อาชีพ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบตั กิ าร โปรแกรมสำเร็จรูปและอนิ เทอรเ์ นต็ เพื่องานอาชพี 2. ใชร้ ะบบปฏิบัตกิ ารในการจัดสภาพแวดลอ้ มและจดั สรรทรัพยากรตา่ ง ๆ บนเครอื่ งคอมพิวเตอร์ 3. ใช้โปรแกรมสำเร็จรปู ในงานอาชพี ตามลักษณะงาน 4. ข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยใช้อินเทอรเ์ นต็ 5. สือ่ สารข้อมูลสารสนเทศโดยใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ คำอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพ การใช้ ระบบปฏบิ ตั ิการ (Windows หรือ Mac OS) การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพอื่ จัดทำเอกสารในงานอาชีพ การใชโ้ ปรแกรมตารางทำการเพ่ือการคำนวณในงานอาชพี การใช้โปรแกรมการนำเสนอผลงาน หรอื การใช้ โปรแกรมสำเร็จรปู อ่นื ๆ ตามลักษณะงานอาชพี การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตเพอ่ื สืบค้นและสอ่ื สารข้อมูลสารสนเทศ ในงานอาชีพ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้ คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศในงานอาชีพ
ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะประจำหนว่ ย รหสั 20001-2001 ชอื่ วชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ จำนวน 2 หนว่ ยกิต จำนวนชัว่ โมง/ภาคเรยี น 54 ชว่ั โมง ระดับช้ัน ปวช.2 หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม สาขาวิชาช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ ท่ี สมรรถนะประจำหน่วย เวลาเรยี น (ชม.) ทฤษฎี ปฏบิ ัติ รวม 1 คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเบ้ืองต้น 2 ระบบปฏบิ ตั ิการเบอื้ งต้น 1 23 3 การใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำ 1 23 4 การใช้งานโปรแกรมตารางทำการ 1 23 5 การใช้งานโปรแกรมการนำเสนอผลงาน 1 23 6 การใช้งานอนิ เทอร์เน็ตเบื้องต้น 1 23 7 กฎหมายและจรยิ ธรรมในการใช้ระบบสารสนเทศ 1 23 1 23 รวม 7 14 21
ตารางวิเคราะห์หลักสูตร รหัส 20001-2001 ชอื่ วชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี จำนวน 2 หน่วยกิต จำนวนชั่วโมง/ภาคเรียน 54 ชว่ั โมง ระดบั ชัน้ ปวช.2 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม สาขาวิชาช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ พฤติกรรม พทุ ธพิ ิสยั ชอื่ หน่วย ความ ู้ร 1.คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเบ้อื งต้น ความเ ้ขาใจ นำไปใ ้ช 2.ระบบปฏิบตั กิ ารเบ้ืองตน้ ิวเคราะห์ 3.การใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคำ สังเคราะห์ 4.การใชง้ านโปรแกรมตารางทำการ ประเมิน ่คา 5.การใชง้ านโปรแกรมการนำเสนอผลงาน ทักษะพิสัย 6.การใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตเบ้อื งตน้ จิตพิสัย 7.กฎหมายและจริยธรรมในการใชร้ ะบบ รวม สารสนเทศ ลำ ัดบ จำนวนคาบ 111- - - - 1443 1111- -11633 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 12 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 12 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 12 - 111111 1 7 2 6 - 111111 1 7 2 6 รวม 57765567 54 ลำดบั ความสำคัญ 3 1 1 2 3 3 2 1 48
กำหนดการสอน รหัส 20001-2001 ชอื่ วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี จำนวน 2 หน่วยกิต จำนวนช่วั โมง/ภาคเรียน 54 ชั่วโมง ระดบั ช้นั ปวช.2 หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม สาขาวิชาช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้/ สมรรถนะประจำหนว่ ย เกณฑ์การปฏบิ ตั งิ าน สปั ดาห์ที่ ชัว่ โมงที่ รายการสอน 1 1-3 1 แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั 1. แบบฝกึ หัด 2 4-6 1. คอมพวิ เตอรแ์ ละ คอมพิวเตอรเ์ บือ้ งตน้ แบบทดสอบ สารสนเทศเบื้องต้น 2 แสดงความรูเ้ กี่ยวกับ 2. คะแนนจากแบบ 3-6 7-18 เทคโนโลยีและระบบ ประเมินผลใบงาน 7-10 19-30 2. ระบบปฏิบตั ิการเบ้อื งต้น สารสนเทศเบอื้ งตน้ 3. คะแนนจากการทำ แบบทดสอบวดั ผล 3. การใชง้ านโปรแกรม 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับ สัมฤทธทิ์ างการเรียน ประมวลผลคำ ระบบปฏิบัติการ 1. แบบฝึกหัด 2. บอกวธิ กี ารใช้งานของ แบบทดสอบ 4. การใชง้ านโปรแกรมตาราง ระบบปฏิบตั กิ าร 2. คะแนนจากแบบ ทำการ 3. บอกวิธีการจดั การ ประเมินผลใบงาน เก่ยี วกับไฟล์ขอ้ มลู 3. คะแนนจากการทำ แบบทดสอบวดั ผล 1. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกับ สัมฤทธท์ิ างการเรียน การใชง้ านโปรแกรม 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ ประมวลผลคำได้อยา่ ง 2. คะแนนจากแบบ ถกู ต้อง ประเมินผลใบงาน 2. ใชเ้ ครือ่ งมอื ของ 3. คะแนนจากการทำ โปรแกรมโปรแกรม แบบทดสอบวัดผล ประมวลผลคำไดอ้ ยา่ ง สมั ฤทธิท์ างการเรียน ถูกต้อง 1. แสดงความรพู้ ื้นฐาน 1. แบบฝกึ หัด เก่ยี วกับการใช้โปรแกรม แบบทดสอบ ตารางทำการ 2. คะแนนจากแบบ 2. ใช้สูตรคำนวณตัวเลข ประเมินผลใบงาน ในตารางได้ถูกตอ้ ง 3. คะแนนจากการทำ 3. สร้างกราฟนำเสนอ แบบทดสอบวัดผล ขอ้ มูลได้ถูกตอ้ ง สมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น
ชือ่ หนว่ ยการเรยี นร้/ู สมรรถนะประจำหนว่ ย เกณฑก์ ารปฏิบัติงาน สัปดาหท์ ่ี ช่วั โมงท่ี รายการสอน 11-14 31-42 1. แสดงความรู้ -อธบิ ายวิธีการคำนวณได้ 15-16 43-48 5.การใชง้ านโปรแกรมการ นำเสนอผลงาน เก่ียวกบั การใชง้ าน -อธบิ ายประเภทของ 17-18 49-54 6.การใชง้ านอินเทอร์เน็ต โปรแกรมนำเสนอ ฟังกช์ ันท่ใี ชง้ านได้ เบอ้ื งตน้ ผลงานได้ -คำนวณโดยใชฟ้ ังกช์ นั ได้ 7.กฎหมายและจรยิ ธรรมใน การใชร้ ะบบสารสนเทศ 2. ใชเ้ ครื่องมอื ของ โปรแกรมโปรแกรม นำเสนอผลงานได้ 3. สรา้ งงานนำเสนอ ผลงานได้ 1. แสดงความรู้ 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ เบ้ืองต้น 2. คะแนนจากแบบ เกี่ยวกบั อินเทอร์เนต็ ประเมินผลใบงาน 2. สบื ค้นขอ้ มลู 3. คะแนนจากการทำ อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ 3. รบั สง่ ข้อมูลผ่าน ทางการเรียน ระบบ อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ 1. แสดงความรู้ 1. แบบฝึกหัด / ทดสอบ เกี่ยวกับกฎหมายและ 2. คะแนนจากแบบ จริยธรรมในการใช้ ประเมนิ ผลใบงาน ระบบสารสนเทศ 3. คะแนนจากการทำ 2. สรปุ สาระสำคัญของ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ พระราชบญั ญัติว่าดว้ ย ทางการเรียน การกระทำความผดิ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ 2550 และทป่ี รับปรงุ แก้ไข 2560 3. แสดงความรู้ เกยี่ วกับคณุ ธรรมและ จริยธรรมในการใช้ คอมพวิ เตอร์
สว่ นท่ี 2 ➢ แผนการจดั การเรยี นร้บู ูรณาการและการประเมนิ ตามสภาพจริง ➢ หนว่ ยการเรยี นรู้
ตารางกรอบแนวทางการจัดการเรียนรู้และการป หน่วยที่ รายการสอน สมรรถนะ 1 1.คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศ 1 แสดงความรเู้ กย่ี วกับ เบอ้ื งต้น คอมพิวเตอร์เบอื้ งตน้ 2 แสดงความร้เู กีย่ วกบั เทคโนโลย และระบบสารสนเทศเบอ้ื งต้น 2 2.ระบบปฏิบตั กิ ารเบื้องต้น 1. แสดงความรู้เก่ียวกบั ระบบปฏิบัตกิ าร 2. บอกวธิ ีการใช้งานของ ระบบปฏิบตั กิ าร 3. บอกวธิ ีการจัดการเกีย่ วกบั ไฟล์ข้อมูล
ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ประจำหน่วยการเรยี นรู้ แนวทางการประเมนิ เกณฑ์การปฏิบัติงาน ทดสอบความ ู้ร ประเมินการปฏิบั ิตงาน ประเมินผลงาน ประเมินพฤ ิตกรรม อื่น ๆ 1. แบบฝึกหัด / ทดสอบ 2. คะแนนจากแบบประเมนิ ผลใบ ยี งาน 3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ วดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น 1. แบบฝึกหัด / ทดสอบ 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ งาน 3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ วดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
3 3.การใช้งานโปรแกรมประมวลผล 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับการใชง้ า คำ โปรแกรมประมวลผลคำไดอ้ ย่าง ถูกต้อง 2. ใช้เครือ่ งมือของโปรแกรม โปรแกรมประมวลผลคำได้อยา่ ง ถกู ต้อง 4 4.การใช้งานโปรแกรมตารางทำการ 1. แสดงความรูพ้ ้ืนฐานเกย่ี วกับก ใชโ้ ปรแกรมตารางทำการ 2. ใช้สตู รคำนวณตัวเลขในตาราง ถูกตอ้ ง 3. สรา้ งกราฟนำเสนอข้อมลู ได้ ถกู ต้อง 5 5.การใช้งานโปรแกรมการนำเสนอ 1. แสดงความรเู้ กีย่ วกบั การใชง้ า ผลงาน โปรแกรมนำเสนอผลงานได้ 2. ใช้เครือ่ งมือของโปรแกรม โปรแกรมนำเสนอผลงานได้ 3. สร้างงานนำเสนอผลงานได้ 6 6.การใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ตเบ้ืองตน้ 1. แสดงความรเู้ บ้ืองต้น เกย่ี วกับอนิ เทอร์เน็ต 2. สืบคน้ ข้อมูลอนิ เทอร์เนต็ ได้
าน 1. แบบฝึกหัด / ทดสอบ 2. คะแนนจากแบบประเมนิ ผลใบ งาน 3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ วดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน การ 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ งได้ งาน 3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ วัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น าน 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ งาน 3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ วัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ งาน
3. รบั ส่งข้อมลู ผา่ นระบบ อนิ เทอร์เนต็ ได้ 7 7.กฎหมายและจรยิ ธรรมในการใช้ 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับกฎหมาย ระบบสารสนเทศ และจรยิ ธรรมในการใช้ระบบ สารสนเทศ 2. สรุปสาระสำคัญของ พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทำ ความผดิ เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ 2550 และทปี่ รับปรงุ แกไ้ ข 256 3. แสดงความร้เู ก่ยี วกบั คณุ ธรรม และจริยธรรมในการใชค้ อมพิวเตอ
3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ย 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ งาน 3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ ำ วดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน 60 ม อร์
แผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับชัน้ ปวช.2 รหสั วิชา 20001-2001 ช่อื วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี จำนวน 3 ชั่วโมง สปั ดาห์ที่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ชอ่ื หน่วย คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเบือ้ งต้น ชือ่ เร่ือง คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเบื้องต้น 1. สาระสำคญั คอมพิวเตอรเ์ ป็นเทคโนโลยีท่ีสำคญั ต่อชีวิตประจำวนั เพราะมีสว่ นเกี่ยวข้องในดา้ นการดำรงชีวิต ใน สังคมโลกปัจจบุ ันข้อมูลสารสนเทศมคี วามจำเป็นในการตัดสินใจเพื่อแข่งขันด้านธุรกจิ ทุกหน่วยงานจงึ ต้องใช้ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่ออำนวยความสะดวกหลาย ๆ ด้าน ดังนั้นทุกคนควรมีความรู้พื้นฐานเบื้องต้น เกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ การใช้โปรแกรมพื้นฐาน การซ่อมบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์และระบบบ สารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 2.1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์เบ้ืองต้น 2.2. แสดงความรู้เก่ียวกบั เทคโนโลยแี ละระบบสารสนเทศเบอื้ งตน้ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 จุดประสงคท์ ่วั ไป 3.1.1 เข้าใจหลกั การและกระบวนการดา้ นคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี 3.1.2 เข้าใจหลกั การและกระบวนการด้านเทคโนโลยแี ละระบบสารสนเทศเบ้อื งต้น 3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี ) 3.2.1. บอกความหมายของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3.2.2. บอกประเภทของคอมพิวเตอร์ได้ 3.2.3. บอกประโยชน์ของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3.2.4. บอกองคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ได้ 3.2.5. อธิบายหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ 3.2.6. ใชแ้ ละบำรุงรักษาคอมพวิ เตอร์ได้ 3.2.7. บอกความหมายของเทคโนโลยไี ด้ 3.2.8. อธบิ บายระบบสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพได้ 3.2.9. มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม คา่ นิยม และมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์
4. สาระการเรยี นรู้ 4.1. ความหมายของคอมพวิ เตอร์ 4.2. ประเภทของคอมพวิ เตอร์ 4.3. ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ 4.4. องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ 4.5. หลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์ 4.6. การใชแ้ ละการบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์ 4.7. ความหมายของเทคโนโลยี 4.8. ระบบสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 1) กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 5.1 ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น 5.1.1. ครูช้ีแจงการวดั ผลและประเมนิ ผลในวชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ 5.1.2. ครูและนักเรยี นสรา้ งขอ้ ตกลงรว่ มกนั ในการจดั การเรียนรู้วชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ือ งานอาชพี เช่น การไม่นำอาหาร ขนม และน้ำด่ืม เขา้ มารับประทานในหอ้ งเรียน การแบง่ เวรดแู ลความ เรียบร้อยของห้องเรียน การมาสายได้ไมเ่ กิน 15 นาที การงดใชเ้ สยี งเครือ่ งมอื สือ่ สารทกุ ชนดิ เปน็ ต้น 5.1.3. ครสู นทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเบ้ืองตน้ เชน่ ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ คณุ สมบัติของคอมพวิ เตอร์ และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ 5.2 ขน้ั สอน 5.2.1. นักเรยี นศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน เรอ่ื ง คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเบ้ืองต้น 5.2.2. ครอู ธิบายเน้ือหาเพม่ิ เติมใน เรอื่ ง คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเบ้อื งตน้ ความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ คณุ สมบัติคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเบอ้ื งตน้ 5.2.3. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด ทำใบงาน 5.3 ขน้ั สรปุ 5.3.1. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปเนอ้ื หาวิชา เร่อื ง ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ คณุ สมบตั ิ คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเบ้ืองตน้ 5.3.2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น 6. สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 6.1 ใบความรู้ 6.2 แบบฝกึ ปฏิบัติ 6.3 แบบทดสอบ หลังเรียน 6.4 เครอื่ งฉายโปรเจ็คเตอร์
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ แบบทดสอบ การค้นคว้าข้อมูล ท่ีได้รับการเรยี บเรียง สวยงาม เปน็ ระเบยี บ ถูกตอ้ ง 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการค้นคว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เป็นระเบียบ ถกู ต้อง พร้อมท้ังเอกสารประกอบการนำเสนองานหนา้ ชน้ั เรียนของผู้เรยี น และภาพประกอบ 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เคร่ืองมือประเมนิ 1. แบบฝกึ ปฏิบัติ 3. แบบทดสอบหลังเรยี น 4. แบบประเมินการนำเสนอผลงาน 8.2 เกณฑก์ ารประเมิน เครือ่ งมอื การประเมนิ วธิ ีวัดและประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน แบบฝึกปฏบิ ัติ ไดค้ ะแนน ตรวจแบบฝกึ ปฏิบตั ิ รอ้ ยละ 75 ขึน้ ไป แบบทดสอบหลังเรียน ขอ้ ละ 1 คะแนน ถกู 1 คะแนน ไดค้ ะแนน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม ไมถ่ ูก 0 คะแนน ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน ไดค้ ะแนน ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป ถูก 1 คะแนน ไม่ถูก 0 คะแนน สังเกตพฤตกิ รรม ดี 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรับปรงุ 0 คะแนน 9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถ้ามี) 1. ผเู้ รียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพ่อื หาเทคนคิ วธิ ีการ หรอื หลักการง่ายเพ่อื ให้หาคำตอบได้ อย่างถกู ต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนคิ วิธกี ารทค่ี รูผู้สอนสรุปในขณะทีท่ ำการสอน และ นำข้อสงสัยซักถามครูในการเรยี นทุกครั้งทเ่ี กิดความสับสน และไม่เข้าใจ 2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพ่ือเสรมิ สร้างความเขา้ ใจอย่างแท้จริง 3. ผู้เรยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ที่ผดิ ให้ถกู ตอ้ งเสมอ 4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกับ ความจำเป็นในการนำไปประยุกตใ์ ช้ให้เกดิ ข้ึนโดยตนเองให้ได้เพ่ือเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงไมใ่ ช่ เกิดจากการท่องจำ 10. เอกสารอา้ งอิง มนัสชยั กีรตผิ จญ โปรแกรมตารางงาน บ.สำนักพิมพเ์ อมพนั ธ์, นนทบุรี, 2563
ใบความรทู้ ่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 รหัสวชิ า 20001-2001 ภาคเรยี นท่ี 1 ชอ่ื วชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี เวลารวม 3 ชั่วโมง ช่ือหน่วย คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเบื้องต้น เวลา 3 ชัว่ โมง ชอ่ื เรื่อง คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเบื้องต้น จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป 1. เข้าใจหลกั การและกระบวนการด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ 2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการดา้ นเทคโนโลยีและระบบสารสนเทศเบ้ืองต้น จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี ) 1. บอกความหมายของคอมพวิ เตอร์ได้ 2. บอกประเภทของคอมพิวเตอร์ได้ 3. บอกประโยชน์ของคอมพิวเตอรไ์ ด้ 4. บอกองคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ได้ 5. อธบิ ายหลักการทำงานของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 6. ใช้และบำรุงรกั ษาคอมพิวเตอร์ได้ 7. บอกความหมายของเทคโนโลยไี ด้ 8. อธิบบายระบบสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพได้ 9. มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และมคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะรายหน่วย 1. แสดงความร้เู กยี่ วกับคอมพวิ เตอรเ์ บ้ืองตน้ 2. แสดงความรู้เกย่ี วกบั เทคโนโลยีและระบบสารสนเทศเบ้ืองต้น
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเบ้อื งต้น 1.1 ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ ความหมายของของพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถจำ ข้อมูลและคำสัง่ ได้ ทำให้สามารถทำงานไปได้โดยอัตโนมัติด้วยอัตราความเร็วทีส่ ูงมาก ใช้ประโยชน์ในการ คำนวณหรือการทำงานต่างๆได้เกือบทุกชนิด คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการคำนวณและ ประมวลผลขอ้ มูล ซึ่งประกอบด้วยคณุ สมบตั ิ 3 ประการ คอื 1. ความเรว็ (Speed) เครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ ำงานดว้ ยความเร็วสูงมาก หน่วยความเร็วของ การทำงานของคอมพิวเตอร์วัดเปน็ มิลลิเซกนั (Millisacond) ซ่งึ เทียบความเร็วเท่ากับ 1/1,000 วินาที , ไม โครเซกัน (Microsecond) ซึ่งเทียบความเร็วเท่ากบั 1/1,000,000 วินาที ,นาโนเซกัน (Nanosacond) ซ่ึง เทียบความเรว็ เทา่ กับ 1/1,000,000,000 วนิ าที 2. หน่วยความจำ (Memory) เครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบไปดว้ ยหน่วยความจำ สามารถ ใช้บันทึกและเก็บข้อมูลได้คราวละมากๆ สามารถเก็บคำสั่งต่อๆ กันที่เราเรียกว่า โปรแกรม และนำมา ประมวลในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานเก็บข้อมูลได้คราวละมากๆ และ สามารถประมวลผลได้เรว็ และถูกตอ้ ง 3. ความสามารถในการเปรียบเทียบ (Logical) เครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วย คำนวณและตรรกะ นอกจากจะมีความสามารถในการคำนวณแล้วยังมีความสามารถในการเปรียบเทียบ ความสามารถนี้เองท่ีทำให้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ต่างกับเครอื่ งคิดเลข และคุณสมบัตินี้ที่ทำให้นักคอมพิวเตอร์ สรา้ งโปรแกรมอตั โนมตั ขิ น้ึ ใช้อย่างกว้างขวาง คอมพิวเตอรย์ งั มีความแม่นยำในการคำนวณ มีความเทยี่ งตรง แมจ้ ะทำงานเหมอื นเดมิ ซ้ำกนั หลายรอบ และสามารถติดต่อสือ่ สารกบั คอมพวิ เตอร์เครอ่ื งอน่ื ๆ ดว้ ย 1.2 การทำงานของคอมพวิ เตอร์ อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ทีม่ นษุ ย์สร้างข้นึ เพอ่ื ชว่ ยให้ ➢ การทำงานเอกสารที่ซ้ำๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ➢ การคำนวณตัวเลข ถกู ต้อง แมน่ ยำ ➢ สามารถเก็บข้อมูล ปรบั ปรุงแก้ไข ได้โดยงา่ ย ➢ การจดั เก็บข้อมูลให้เปน็ ฐานข้อมูล แล้วสืบค้นได้ ➢ การตดิ ต่อสอื่ สาร เพ่ือสืบค้นข้อมูล เพือ่ บันเทงิ ภาพที่ 1 ภาพหลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์ ท่มี า: https://www.google.com/url?sa=i&url=https%3A%2F%2F
ขัน้ ตอนการทำงานทส่ี ำคัญของคอมพิวเตอร์ 4 ขน้ั ตอน ภาพท่ี 2 ภาพประมวลผลหรอื คิดคำนวณ ท่มี า: home.kku.ac.th/hslib/412141/412141_2548/c1intro.htm 1.3 ส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์ ส่วนประกอบภายใน และอปุ กรณเ์ สรมิ ตอ่ พว่ ง ภายนอก 2.1 Monitor Screen, Display ใชแ้ สดงผลท้งั ขอ้ ความ ภาพนิ่ง และภาพเคลอื่ นไหว จอภาพในปัจจุบัน สว่ นมากใช้ จอแบบหลอดภาพ (CRT หรอื Cathode Ray Tube) และจอแบบผลึกเหลว (LCD หรือ Liquid Crystal Display) 2.2 Computer Case เก็บอุปกรณห์ ลกั ของคอมพวิ เตอร์ เชน่ CPU, Disk Drive, Hard Disk ฯลฯ 2.3 Keyboard ใช้พมิ พค์ ำสง่ั หรือปอ้ นข้อมูล มลี ักษณะคล้าย 2.4 Mouse แปน้ พิมพด์ ีด แต่มปี ่มุ พิมพม์ ากกว่า ใช้ชต้ี ำแหนง่ บนจอภาพ เพอ่ื สงั่ ให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน เชน่ เดียวกับการปอ้ นคำส่ังทางคีย์บอรด์
2.5 Modem อุปกรณ์ท่ีทำหนา้ ทแี่ ปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ให้ สามารถสง่ ไปตามสายโทรศพั ท์ได้ 2.6 Printer อปุ กรณแ์ สดงผลข้อมลู ออกมาทางกระดาษ 2.7 Scanner อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลท่ีเปน็ รปู ภาพหรือขอ้ ความมา สแกน แลว้ จัดเกบ็ ไว้เปน็ ไฟล์ภาพ เพอื่ นำไปใช้งาน ต่อไป ข้อความจากการ Scan แตกต่างกบั ขอ้ ความ จากการพิมพ์ผา่ น Keyboard ภาพท่ี 3 ภาพสว่ นประกอบภายใน และอุปกรณเ์ สรมิ ตอ่ พว่ ง ภายนอก ที่มา: https://sites.google.com/site/bd02541/swn-prakxb-khxng- khxmphiwtexr/swnprakxbphaynilaeaxupkrnserimtxphwngphaynxk ฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์ คอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยอปุ กรณ์ท่สี ำคัญ 2 ส่วน 3.1 Hardware ไมโครโปรเซสเซอร์ หนว่ ยความจำ อุปกรณ์เกบ็ ขอ้ มูล อปุ กรณ์รบั ขอ้ มูล อุปกรณ์แสดงผล ภาพที่ 4 ภาพส่วนประกอบฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ ทมี่ า: https://sites.google.com/site/bd02541/swn-prakxb-khxng- khxmphiwtexr/swnprakxbphaynilaeaxupkrnserimtxphwngphaynxk
3.2 Software ชุดคำสัง่ ท่ีเขยี นขน้ึ โดยโปรแกรมเมอร์ เพือ่ ส่ังใหเ้ ครื่องคอมพวิ เตอรท์ ำงาน ซอฟต์แวร์จะถูกอา่ นจาก หนว่ ยบนั ทึกข้อมูล สง่ ต่อไปยงั ซีพยี ู เพอื่ ควบคุมการประมวลผล และคำนวณ ซอฟต์แวร์ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทคือ 1.ซอฟตแ์ วร์ระบบปฏิบตั ิการ (Operating System Software) เปน็ ซอฟต์แวรท์ ค่ี วบคมุ การทำงานท้งั หมดของฮารด์ แวร์ ซง่ึ คอมพวิ เตอร์ทุกเคร่ืองจะต้องมี ระบบปฏิบัตกิ ารอยา่ งใดอย่างหน่งึ เสมอ ระบบปฏิบตั กิ ารยอดนิยมในปจั จบุ นั น้ี คอื Window Me, Windows XP, OS/2, Unix และ Linux ระบบปฏิบัติจะมีการพฒั นา และปรบั ปรุงใหม้ รี ุ่นใหม่อยู่ เรือ่ ยๆ ****ตวั อยา่ งซอฟต์แวรร์ ะบบปฏบิ ัติการ (Operating System Software) ภาพท่ี 5 ภาพตัวอยา่ งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ (Operating System Software) ท่มี า: https://sites.google.com/site/bd02541/home 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ชดุ คำสง่ั ที่เขยี นข้นึ เพ่อื สัง่ ใหเ้ คร่อื งคอมพิวเตอร์ทำงานเฉพาะด้านต่างๆ ตามท่ผี ้ใู ช้ตอ้ งการ ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์จำแนกได้เปน็ 2 ประเภท คอื ซอฟต์แวรส์ ำหรบั งานเฉพาะดา้ น (Special Purpose Software) จะมคี วามเหมาะสมกบั งาน เฉพาะด้าน เชน่ โปรแกรมสำหรับการซอื้ ขาย มีประโยชน์กับร้านคา้ หรือโปรแกรมสำหรบั ฝากถอนเงนิ ก็ จะมปี ระโยชน์กับองคก์ รเกี่ยวกบั การเงนิ เช่น ธนาคาร ซอฟตแ์ วร์สำหรบั งานทว่ั ไป (General purpose Software) เป็นซอฟต์แวรท์ ่สี ามารถนำมา ประยุกต์ใชก้ บั งานส่วนตัวไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ทำใหไ้ ดร้ บั ความนิยมสูงสดุ ในปจั จุบนั เชน่ Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint, Photoshop และ Oracle เป็นตน้ ****ตวั อย่างซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ (Application Software) สำหรบั งานทัว่ ไป ภาพที่ 6 ภาพตวั อยา่ งซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) สำหรบั งานทั่วไป ทม่ี า: https://sites.google.com/site/bd02541/home
1.4 ส่วนประกอบภายในเครือ่ ง ในตวั เคร่ืองคอมพวิ เตอรจ์ ะมชี ิ้นส่วนภายในหลายช้ิน แต่ละชน้ิ ทำหนา้ ท่เี ฉพาะอย่าง เมนบอร์ด (Motherboard) แผงวงจรอเิ ล็กทรอนิกส์หลกั ของคอมพิวเตอร์ อุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ สท์ กุ ช้ินของคอมพวิ เตอร์ จะต้องต่อเช่อื มเขา้ กับเมนบอรด์ นี้ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU-Central เปน็ อปุ กรณ์หลกั ของคอมพิวเตอร์ ทำหน้าท่ี Processing Unit) คำนวณ ประมวลผล และควบคมุ อุปกรณอ์ นื่ ๆ ประกอบดว้ ยหน่วยยอ่ ย 3 หนว่ ย คือ หนว่ ยความจำแรม (RAM - Random Access หนว่ ยความจำหลัก หนว่ ยคณติ ศาสตรแ์ ละตรรกะ Memory) หรือหน่วยคำนวณ และหนว่ ยควบคุม เป็นหน่วยความจำหลกั ทใ่ี ชพ้ กั ข้อมลู ชั่วคราว ระหวา่ งอปุ กรณ์บนั ทกึ ขอ้ มลู ต่างๆ กบั หน่วย ประมวลผลกลาง เม่ือปดิ เคร่อื ง ขอ้ มูลทอี่ ยู่ในแรม จะหายไป หน่วยความจำรอม (ROM-Read Only Memory) เปน็ หนว่ ยความจำถาวร ท่ใี ช้บนั ทกึ ขอ้ มูลของ อุปกรณท์ ต่ี ิดต้งั บนเมนบอร์ด เชน่ ขนาดและ ประเภทของฮาร์ดดสิ ก์ทใ่ี ช้ ขนาดของแรม หนว่ ย ประมวลผลที่ใช้ การติดต้งั ฟลอปป้ีไดรฟ์ เปน็ ตน้ และใชเ้ กบ็ คำสัง่ ทีม่ ักใชบ้ อ่ ยๆ เชน่ คำส่ังเริ่มต้น การทำงานของคอมพวิ เตอร์ ข้อมูลท่บี นั ทึกใน รอม จะยงั คงอยู่แม้จะปิดเคร่ือง มักจะเปน็ ขอ้ มูลท่ี มีการเปล่ยี นแปลงน้อยมาก โดยเฉพาะข้อมูลที่ใช้ ในการเร่มิ ระบบ (Start Up) ขอ้ มลู ควบคมุ การ รบั สง่ คำส่ังและขอ้ มูล ตลอดจนการแสดงผล ภาพท่ี 7 ส่วนประกอบภายในเครอื่ งเมนบอรด์ ทม่ี า: https://sites.google.com/site/bd02541/home
ความหมายและความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ มาจากคำภาษาอังกฤษว่า Information Technology และมีผู้นิยม เรียกทับศัพท์ย่อว่า IT สุชาดา กีระนันท์ (2541) ให้ความหมายว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีทุกด้านที่เข้าร่วมกัน ในกระบวนการจัดเก็บสร้าง และสื่อสารสนเทศ ครรชิต มาลัยวงศ์ (2539) กล่าวว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วยเทคโนโลยที ี่สำคัญสองสาขาคือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม โดยทั่วไปแล้วเทคโนโลยีสารสนเทศจะครอบคลุมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ท่ี เกี่ยวข้องกับการบันทึก จัดเก็บ ประมวลผลสืบค้น ส่งและรับข้อมูลในรูปของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึง เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์จัดเก็บ บันทึกและค้นคืน เครือข่ายสื่อสาร ข้อมูล อปุ กรณส์ ื่อสารและโทรคมนาคม รวมทั้งระบบที่ควบคมุ การทำงานของอุปกรณเ์ หล่าน้ี ครรชติ มาลัยวงศ์ (2541) กล่าววา่ เทคโนโลยีสารสนเทศมคี วามสำคญั ดังน้ี 1. สามารถจดั เก็บขอ้ มลู จากจุดเกดิ ได้อยา่ งรวดเรว็ 2. สามารถบนั ทึกขอ้ มูลจำนวนมากๆไวใ้ ช้งานหรอื ไว้อ้างองิ การดำเนินงานหรอื การตดั สนิ ใจใดๆ 3. สามารถคำนวณผลลัพธ์ตา่ งๆได้รวดเร็ว 4. สามารถสร้างผลลัพธ์ได้หลากหลายรูปแบบ 5. สามารถสง่ สารสนเทศ ขอ้ มลู หรอื ผลลัพธท์ ไี่ ดจ้ ากที่หนงึ่ ไปยังอีกทหี่ นงึ่ ได้อย่างรวดเรว็ ข้อมูล (data) => กลุ่มตัวอักษรอักขระที่เมื่อนำมารวมกันแล้วมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่งและ สำคัญควรค่าแก่การจัดเก็บเพ่อื นำไปใช้ในโอกาศต่างๆ ข้อมูลมกั เป็นขอ้ ความที่อธิบายถึงสิ่งใดสิ่งหน่ึง อาจ เปน็ ตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณใ์ ดๆ ทสี่ ามารถนำไปประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ สารสนเทศ => ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ที่ได้รับการสรุป คำนวณ จัดเรียงหรือประมวลแลว้ จาก ขอ้ มูลตา่ งๆ ที่เก่ียวขอ้ งอย่างเป็นระบบตามหลกั วชิ าการจนได้เปน็ ความรเู้ พือ่ นำมาเผยแพร่และใช้ประโยชน์ ในงานดา้ นต่างๆ ข้อมูลและสารสนเทศนบั ว่าเป็นประโยชน์ตอ่ การนำไปใชบ้ รหิ ารงานดา้ นต่างๆ มากมายอาทิ เชน่ ด้านการวางแผน ,ด้านการตดั สนิ ใจ ,ดา้ นการดำเนนิ งาน เทคโนโลยีและสารสนเทศ Information Technology หรือ IT คือ การประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในระบบ สารสนเทศ ตง้ั แต่กระบวนการจดั เกบ็ ประมวลผล และการเผยแพร่สารสนเทศ เพอ่ื ชว่ ยให้ไดส้ ารสนเทศที่มี ประสทิ ธิภาพและรวดเรว็ ทันต่อเหตุการณ์ โดยเทคโนโลยสี ารสนเทศ อาจประกอบด้วย - เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์สื่อสาร โทรคมนาคมต่างๆ รวมทั้งซอฟท์แวร์ทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในงานเฉพาะด้าน ซ่ึง เคร่ืองมอื เหลา่ น้ีจดั เปน็ เครื่องมือทันสมยั และใชเ้ ทคโนโลยรี ะดับสูง (High Technology) - กระบวนการในการนำอปุ กรณ์เครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ข้างตน้ มาใชง้ าน เพ่อื รวบรวม จดั เกบ็ ประมวลผล และแสดงผลลัพธ์เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป เช่น การจัดเก็บ ข้อมลู ในลักษณะของฐานขอ้ มูล เปน็ ต้น ระบบสารสนเทศ (Information system) ระบบสารสนเทศ (Information system) หมายถึง ระบบที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่ ระบบ คอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล ผู้พัฒนาระบบ ผู้ใช้ระบบ พนักงานที่ เกี่ยวข้อง และ ผู้เชี่ยวชาญในสาขา ทุกองค์ประกอบนี้ทำงานร่วมกันเพื่อกำหนด รวบรวม จัดเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูลเพื่อสร้างสารสนเทศ และส่งผลลัพธ์หรือสารสนเทศที่ได้ให้ผู้ใช้เพื่อช่วยสนับสนุนการ ทำงาน การตัดสินใจ การวางแผน การบริหาร การควบคมุ การวเิ คราะห์และติดตามผลการดำเนินงานของ องค์กร
ระดับของผูใ้ ช้ระบบสารสนเทศ ระดบั ของผใู้ ชร้ ะบบสารสนเทศแบ่งตามลักษณะการบรหิ ารจัดการได้ 3 ระดบั ดังน้ี - ระดับสูง (Top Level Management) กลุ่มของผู้ใช้ระดับนี้จะเกี่ยวข้องกับ ผู้บริหาร ระดับสูง มีหน้าที่กำหนดและวางแผนกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย โดยมีทั้งสารสนเทศภายใน และสารสนเทศภายนอก เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์โดยรวม ซึ่งระบบสารสนเทศในระดับนี้ต้อง ออกแบบให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน ไมม่ ีความซับซ้อนหรือย่งุ ยาก แสดงผลทางดา้ นกราฟฟิคบ้าง ต้อง ตอบสนองทีร่ วดเรว็ และทันทว่ งทีดว้ ยเช่นกนั - ระดับกลาง (Middle Level Management) เกยี่ วขอ้ งกับกลุ่มผู้ใช้งานระดับการบรหิ ารและ จดั การองค์กร ซ่ึงมหี น้าท่ีรับนโยบายมาจากผู้บริหารระดบั สูง นำมาสานต่อให้บรรลตุ ามเป้าหมายท่ีกำหนด ไว้ ด้วยการใช้หลักบริหารและจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบสารสนเทศที่ใช้มักได้มาจากแหล่งข้อมูล ภายใน ระบบสารสนเทศจงึ ต้องมีการจดั อนั ดับทางเลือกแบบตา่ งๆไว้ โดยเลือกใช้คา่ ทางสถิติช่วยพยากรณ์ หรือทำนายทศิ ทางไวด้ ้วย หากระดับของการตัดสนิ ใจน้ันมีความซบั ซ้อนหรือยงุ่ ยากมากเกนิ ไป - ระดับปฏิบัติการ (Operation Level Management) ผู้ใช้กลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องกับการผลิต หรือการปฏิบัติงานหลักขององค์กร เช่น การผลิตหรือประกอบสินค้า งานทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องใช้การ วางแผนหรือระดับการตัดสินใจมากนัก ข้อมูลหรือสารสนเทศในระดับน้ี จะถูกนำไปประมวลผลใน ระดบั กลางและระดบั สูงต่อไป ประเภทของระบบสารสนเทศ ปัจจุบันจะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร กับระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ชัดเจนมากขึ้น และเนื่องจากการบริหารงานในองค์กรมีหลายระดับ กิจกรรมขององค์กรแต่ละประเภท อาจจะแตกต่างกัน ดงั น้ันระบบสารสนเทศของแต่ละองคก์ รอาจแบง่ ประเภทแตกตา่ งกันออกไป พิจารณาจำแนกระบบสารสนเทศตามการสนับสนุนระดับการทำงานในองค์กร จะแบ่งระบบ สารสนเทศไดเ้ ปน็ 6 ประเภท ดงั น้ี (Laudon & Laudon, 2001) 1. ระบบประมวลผลรายการ (Transaction Processing Systems - TPS) เป็นระบบที่ทำ หน้าทใี่ นการปฏิบตั ิงานประจำ ทำการบนั ทกึ จดั เก็บ ประมวลผลรายการท่ีเกิดข้ึนในแต่ละวัน โดยใช้ระบบ คอมพวิ เตอรท์ ำงานแทนการทำงานดว้ ยมือ ทง้ั นเ้ี พ่อื ทจี่ ะทำการสรปุ ขอ้ มูลเพอื่ สร้างเป็นสารสนเทศ ระบบ ประมวลผลรายการน้ี ส่วนใหญ่จะเป็นระบบที่เชื่อมโยงกิจการกับลูกค้า ตัวอย่าง เช่น ระบบการจองบัตร โดยสารเครอ่ื งบนิ ระบบการฝากถอนเงินอัตโนมตั ิ เปน็ ตน้ ในระบบตอ้ งสร้างฐานข้อมลู ท่ีจำเปน็ ระบบน้ีมัก จัดทำเพื่อสนองความต้องการของผู้บริหารระดับต้นเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานประจำได้ ผลลัพธ์ของระบบนี้ มักจะอย่ใู นรปู ของ รายงานทมี่ รี ายละเอียด รายงานผลเบอ้ื งตน้ 2. ระบบสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation Systems- OAS) เป็นระบบที่สนับสนุน งานในสำนักงาน หรืองานธุรการของหน่วยงาน ระบบจะประสานการทำงานของบุคลากรรวมทั้งกับ บุคคลภายนอก หรอื หนว่ ยงานอ่ืน ระบบน้ีจะเก่ยี วข้องกับการจัดการเอกสาร โดยการใช้ซอฟท์แวร์ด้านการ พิมพ์ การติดต่อผ่านระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้นผลลัพธ์ของระบบนี้ มักอยู่ในรูปของเอกสาร กำหนดการ สิง่ พมิ พ์ 3. ระบบงานสร้างความรู้ (Knowledge Work Systems - KWS) เป็นระบบที่ช่วยสนับสนุน บุคลากรที่ทำงานด้านการสร้างความรูเ้ พ่ือพัฒนาการคิดค้น สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บริการใหม่ ความรู้ใหม่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในหน่วยงาน หน่วยงานต้องนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาสนับสนุนให้การพัฒนา เกิดขึ้นได้โดยสะดวก สามารถแข่งขันได้ทั้งในด้านเวลา คุณภาพ และราคา ระบบต้องอาศัยแบบจำลองที่ สร้างขึ้น ตลอดจนการทดลองการผลิตหรือดำเนินการ ก่อนที่จะนำเข้ามาดำเนินการจริงในธุรกิจ ผลลัพธ์ ของระบบน้ี มักอยู่ในรปู ของ ส่ิงประดษิ ฐ์ ตวั แบบ รปู แบบ เปน็ ต้น
4. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information Systems- MIS) เป็น ระบบสารสนเทศสำหรับผู้ปฏิบัติงานระดับกลาง ใช้ในการวางแผน การบริหารจัดการ และการควบคุม ระบบจะเชื่อมโยงขอ้ มลู ที่มอี ยู่ในระบบประมวลผลรายการเขา้ ด้วยกัน เพื่อประมวลและสร้างสารสนเทศท่ี เหมาะสมและจำเปน็ ต่อการบริหารงาน ตวั อยา่ ง เชน่ ระบบบรหิ ารงานบคุ ลากร ผลลัพธข์ องระบบนี้ มักอยู่ ในรปู ของรายงานสรปุ รายงานของส่งิ ผิดปกติ 5. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems – DSS) เป็นระบบที่ช่วย ผู้บริหารในการตัดสินใจสำหรับปัญหา หรือที่มีโครงสร้างหรือขั้นตอนในการหาคำตอบที่แน่นอนเพียง บางส่วน ข้อมูลท่ีใชต้ ้องอาศัยทงั้ ข้อมลู ภายในกิจการและภายนอกกิจการประกอบกนั ระบบยังต้องสามารถ เสนอทางเลือกให้ผ้บู รหิ ารพจิ ารณา เพ่ือเลือกทางเลอื กทเ่ี หมาะสมท่ีสดุ สำหรับสถานการณน์ ้ัน หลักการของ ระบบ สรา้ งขนึ้ จากแนวคดิ ของการใช้คอมพิวเตอร์ชว่ ยการตัดสนิ ใจ โดยใหผ้ ้ใู ชโ้ ต้ตอบโดยตรงกับระบบ ทำ ให้สามารถวิเคราะห์ ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขและกระบวนการพิจารณาได้ โดยอาศัยประสบการณ์ และ ความสามารถของผู้บริหารเอง ผู้บริหารอาจกำหนดเงื่อนไขและทำการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆ ไป จนกระทงั่ พบสถานการณ์ท่เี หมาะสมทีส่ ุด แลว้ ใชเ้ ปน็ สารสนเทศที่ช่วยตัดสินใจ รูปแบบของผลลพั ธ์ อาจจะ อยู่ในรูปของ รายงานเฉพาะกิจ รายงานการวเิ คราะหเ์ พ่ือตดั สนิ ใจ การทำนาย หรือ พยากรณ์เหตกุ ารณ์ 6. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง (Executive Information System - EIS) เป็น ระบบที่สร้างสารสนเทศเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งทำหน้าที่กำหนดแผนระยะยาวและ เป้าหมายของกิจการ สารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูงนี้จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลภายนอกกิจกรรมเป็น อย่างมาก ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เป็นยุค Globalization ข้อมูลระดับโลก แนวโน้มระดับสากลเป็นข้อมูลท่ี จำเป็นสำหรับการแขง่ ขันของธรุ กิจ ผลลพั ธข์ องระบบนี้ มกั อย่ใู นรปู ของการพยากรณ์/การคาดการณ์
แบบทดสอบท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 รหสั วชิ า 20001-2001 ชอื่ วชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละ ภาคเรียนที่ 1 เวลารวม 3 ช่ัวโมง สารสนเทศเพือ่ งานอาชพี ช่อื หนว่ ย คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเบื้องต้น ชือ่ งาน คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเบื้องต้น จำนวน 3 ชวั่ โมง ตอนที่ 1 คำสงั่ จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง 1. คอมพวิ เตอร์ (Computer) มคี วามหมายวา่ อย่างไร .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. 2. คอมพิวเตอรม์ ีกปี่ ระเภท จงอธบิ ายแต่ละประเภท .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... 3. เคร่ือง PC Computer มลี ักษณะอยา่ งไร .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... 4. จงบอกประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ต่อไปนี้ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... 5. องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ประด้วยอะไรบ้าง .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... 6. จงอธิบายหลักการทำงานของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... 7. จงบอกวิธีการดูแลบำรุงรกั ษาคอมพิวเตอร์เบอ้ื งตน้ ตอ่ ไปนี้มาอยา่ งละ 3 ข้อ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ...............................................................................................................................................................
ตอนท่ี 2 จงเลอื กคาํ ตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ดุ เพียงข้อเดียว คำส่ัง จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท () หนา้ ข้อทีถ่ กู ตอ้ งมากที่สดุ เพียงขอ้ เดยี ว 1. ข้อใดกลา่ วถูกต้องท่ีสดุ เก่ียวกับความหมายของคอมพิวเตอร์ ก. เป็นอปุ กรณ์ทมี่ นษุ ย์สร้างขึน้ ทำงานได้อย่างรวดเรว็ ถกู ตอ้ ง แม่นยำ และมีประสทิ ธภิ าพ ข. เปน็ อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ สท์ มี่ นุษย์สร้างข้ึนเพื่อเป็นช่วยในการทำงานที่ซับซอ้ นให้สามารถ ทำงานไดอ้ ย่างรวดเรว็ ถูกต้อง แมน่ ยำ และมปี ระสทิ ธภิ าพ ค. เป็นเคร่อื งมอื ทที่ ำงานได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ต้อง แมน่ ยำ และมปี ระสิทธิภาพ ง. เปน็ อุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ท่ีมีประสิทธภิ าพ 2. เป็นเครอื่ งคอมพิวเตอรท์ ีม่ ีความสามารถด้านงานวิจยั ทางดา้ นนวิ เคลยี ร์และอนุภาคหมายถงึ ข้อใด ก. ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ข. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ ค. มินิคอมพิวเตอร์ ง. ไมโครคอมพิวเตอร์ 3. ข้อใดตอ่ ไปนีเ้ ปน็ ฮาร์ดแวร์คอมพวิ เตอรท์ งั้ หมด ก. เมนบอรด์ เมาส์ จอภาพ ข. ซพี ยี ู เมนบอร์ด โปรแกรมประยกุ ต์ ค. โปรแกรมเพาเวอรพ์ อย จอภาพ แรม ง. โปรแกรมเพาเวอรพ์ อย ซีพียู เมาส์ 4. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั ซอฟต์แวร์ ก. ซอฟต์แวร์คือโปรแกรมหรอื ชดุ คำส่งั ท่ีเขยี นขึ้นเพ่ือส่ังให้คอมพิวเตอรท์ ำงานตามทีต่ ้องการ ข. ซอฟตแ์ วร์ระบบ ไดแ้ ก่ Microsoft Word, Microsoft Excel ค. ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ เป็นโปรแกรมทเ่ี ขียนขนึ้ มาเพอื่ ทำงานเฉพาะอยา่ งตามที่ตอ้ งการ ง. ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป คอื Package Software 5. อุปกรณ์ในข้อใดทำหนา้ ท่ีในการประมวลผลข้อมูล ก. Mouse ข. Monitor ค. CPU ง. RAM 6. ถา้ ต้องการปิดเครอื่ งคอมพิวเตอรท์ ุกครงั้ ตอ้ งเลอื กข้อใด ก. Restart ข. Shut down ค. close Program ง. Sleep 7. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ ก. ฮารด์ แวร์ ข. ซอฟต์แวร์ ค. ระบบเครือข่าย ง. ระบบออนไลน์
8. Geographic Information System หมายถึงระบบสารสนเทศประเภทใด ก. ระบบสารสนเทศเพอื่ การจัดการ ข. ระบบสนบั สนนุ การตัดสินใจ ค. ระบบสารสนเทศแบบประมวลรายการ ง. ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ 9. Windows เปน็ องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศด้านใด ก. ฮาร์ดแวร์ ข. ซอฟตแ์ วร์ ค. กระบวนการ ง. บุคลากร 10. Personnel หมายถึงขอ้ ใดในองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศด้านใด ก. เป็นอปุ กรณต์ ่าง ๆ ของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ข. ชุดคำสั่งหรอื โปรแกรมท่เี ขยี นขึน้ ค. ผู้ออกแบบและวเิ คราะหร์ ะบบ ผู้เขยี นโปรแกรม ง. เป็นขนั้ ตอนวิธกี ารดำเนินงานการกำหนดนโยบาย เอกสารอา้ งองิ มนัสชยั กรี ติผจญ โปรแกรมตารางงาน บ.สำนักพมิ พเ์ อมพนั ธ์, นนทบุรี, 2563 https://sites.google.com/site/praevisutthikhun/khwam-ru-beuxng-tn-keiyw-kab- khxmphiwtexr-laea-thekhnoloyi-sarsnthes-1
ใบงานท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 รหสั วิชา 20001-2001 ชือ่ วชิ า คอมพวิ เตอร์และ ภาคเรยี นที่ 1 สารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ เวลารวม 3 ชั่วโมง ชอื่ หนว่ ย คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเบ้อื งต้น จำนวน 3 ชัว่ โมง ชอื่ งาน คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเบอื้ งต้น จุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1. เข้าใจหลักการและกระบวนการดา้ นคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี 2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการดา้ นเทคโนโลยแี ละระบบสารสนเทศเบอ้ื งตน้ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ) 1. บอกความหมายของคอมพิวเตอร์ได้ 2. บอกประเภทของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. บอกประโยชนข์ องคอมพวิ เตอร์ได้ 4. บอกองค์ประกอบของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 5. อธบิ ายหลักการทำงานของคอมพิวเตอรไ์ ด้ 6. ใชแ้ ละบำรุงรักษาคอมพิวเตอรไ์ ด้ 7. บอกความหมายของเทคโนโลยไี ด้ 8. อธิบบายระบบสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพได้ 9. มคี ณุ ธรรมจริยธรรม ค่านิยม และมีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะรายหนว่ ย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์เบื้องต้น 2. แสดงความร้เู กีย่ วกบั เทคโนโลยีและระบบสารสนเทศเบอ้ื งต้น เครอื่ งมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์ 1. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook 2. โปรเจค็ เตอร์ 3. หนังสือ ลำดบั ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 1. ใหน้ กั ศึกษาแบง่ กลุม่ ตามความเหมาะสม เพื่อศึกษาและอภปิ ราย 1.1 อธบิ ายความรู้เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น 1.2 อธิบายเทคโนโลยแี ละระบบสารสนเทศเบอ้ื งต้น 1.3 เขียนรปู พร้อมอธบิ ายความองคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ 2. เขียนอภิปรายและวิเคราะหใ์ สก่ ระดาษ 3. นำผลงานสง่ ครผู ู้สอนเพ่อื ประเมินผล ภาพประกอบ ข้อควรระวัง ผูเ้ รยี นควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนใหถ้ ่ีถว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพ่ือป้องกนั ความผิดพลาดก่อน การส่งงาน ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี)
นักศกึ ษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเน้อื หาให้สอดคล้องกับภาพให้ถกู ตอ้ ง การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน) 1. สงั เกตผเู้ รียนมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ในการแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหน่วย 2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาทกี่ ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ 3. ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหัดหลงั เรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เปน็ อย่างต่ำ เอกสารอ้างอิง มนสั ชยั กรี ตผิ จญ โปรแกรมตารางงาน บ.สำนกั พิมพเ์ อมพนั ธ์, นนทบุรี, 2563
แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรทู้ ี่............................................................................................................................. ช่ือกลมุ่ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายช่อื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรยี มความพรอ้ ม 2 เนอ้ื หาสาระ 3 รูปแบบการนำเสนอ 4 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผฟู้ ัง รวม ผปู้ ระเมนิ .............................................. วนั ท.่ี .............เดอื น...............................พ.ศ...................
เกณฑก์ ารประเมิน 1. การเตรยี มความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีการจัดเตรยี มสถานที่ ส่ือ/อปุ กรณ์ไว้อยา่ งพร้อมเพรยี ง 2 คะแนน = มสี ื่อ/อุปกรณ์พร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = สื่อ/อปุ กรณ์ไมเ่ พียงพอ ขาดการจดั เตรียมสถานท่ี 2. เน้ือหาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ครบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 3. รปู แบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรปู แบบการนำเสนอทีเ่ หมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสื่อและ ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวัสดุในท้องถิ่นมาประยกุ ตใ์ ช้ อยา่ งคมุ้ ค่าและประหยดั 2 คะแนน = ใชเ้ ทคนิคแปลกใหม่ มสี อื่ และใชเ้ ทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ ขาดการประยุกตใ์ ช้วสั ดุในทอ้ งถิน่ 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่น่าสนใจ 4. การมสี ่วนร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมบี ทบาทและมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญม่ ีบทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมกลุ่ม 5. การรักษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนนิ กจิ กรรมไดต้ ามเวลาท่ีกำหนด 2 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมเรว็ กว่าเวลาท่กี ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกจิ กรรมช้ากว่าเวลาทก่ี ำหนด 6. ความสนใจของผู้ฟงั 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ ร้อยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมอื 2 คะแนน = ผฟู้ ังรอ้ ยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน = ผู้ฟงั นอ้ ยกว่า รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ
บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ………………………………………...……………………………………………………...………………….………………….....…………… ………………………………………...……………………………………………………...………………….………………….....…………… ………………………………………...……………………………………………………...………………….………………….....…………… ลงช่ือ................................................... (...................................................) บันทกึ หลังสอน 1. ผลการจัดการเรียนการสอน ……………………………………………………………………………………………...………………….……………………………………… ……………………………………………………………...………….……………………………………………………………………………… ………………………...……….………………………………………………………………………………………………………...……….…… ………………………………………………………………………………………………................................................................... 2. ปญั หา/อุปสรรค ……………………………………………………………………………………………...………………….……………………………………… ……………………………………………………………...………….……………………………………………………………………………… ………………………...……….………………………………………………………………………………………………………...……….…… 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………...………………….……………………………………… ……………………………………………………………...………….……………………………………………………………………………… ………………………...……….………………………………………………………………………………………………………...……….…… ลงชื่อ ครูผ้สู อน (...............................................) วนั ที.่ ......เดือน..........................พ.ศ……………
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: