Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-Book.. กนกพร มะลิฉิม เลขที่ 1

E-Book.. กนกพร มะลิฉิม เลขที่ 1

Published by kanokporn.malichim, 2022-03-05 15:25:28

Description: E-Book.. กนกพร มะลิฉิม เลขที่ 1

Search

Read the Text Version

95 การเข้าถึงสารสนเทศบนอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับระบบเครือข่าย อนิ เทอรเ์ น็ตโดยอาศัยอปุ กรณเ์ ชื่อมต่อระบบเครือข่ายและโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ โปรแกรมทีใ่ ช้เป็นเครื่องมือ ในการเข้าถึงสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ตที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน ได้แก่ โปรแกรมค้นดู (Browsers) เช่น Internet Explorer Netscape Communicator เปน็ ตน้ สารสนเทศโดยทั่วไปบนเวลิ ด์ไวดเ์ ว็บ (World Wide Web – WWW.) อาจเป็นได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพยนตร์ หรือแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ หน่วยงานต่าง ๆในปัจจุบันนิยมเผยแพร่ ข้อมูลเหล่านี้ผ่านระบบเวิลด์ไวด์เว็บในอินเทอร์เน็ต หน่วยงานต่าง ๆ ในปัจจุบันนิยมเผยแพร่ข้อมูลเหล่า ดงั กล่าวมี สถาบนั การศกึ ษา เอกชนและบุคคลทัว่ ไปทั้งทเ่ี ปน็ สว่ นราชการ เว็บไซตท์ ่พี บ WWW. มี 2 ลักษณะ คือ 1) เวบ็ ไซตเ์ ปน็ แหล่งข้อมูลสารสนเทศทใ่ี ห้เนอื้ หาโดยตรง 2) เว็บไซต์ทีเ่ ป็นแหลง่ สบื คน้ ไปยังแหล่งสารสนเทศอื่น เช่น Yahoo ( http://www.yahoo.com/) Sanook ( http://www.sanook.com/) กระบวนการสบื ค้นสารสนเทศใน WWW. Word Wide Web (WWW.) เป็นอนิ เทอร์เน็ตในลักษณะ มัลติมิเดยี แสดงผลในรูปอักษร ภาพเคลื่อนไหวและเสียง มกี ารเชื่อมโยงข้อมูลไดอ้ ย่างรวดเร็ว สะดวกและใช้ งานงา่ ย จึงมีผูท้ ีน่ ยิ มใชเ้ พือ่ สืบค้นข้อมูลตา่ งๆตามความต้องการของตนอยา่ งมากข้ึนทกุ วนั การสบื คน้ และรับส่งข้อมูล แฟม้ ข้อมูล ความหมายของการรบั -สง่ ข้อมูลบนเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต การรับ-ส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) หรือท่ี นยิ มเรยี กกนั วา่ อเี มล (E-Mail) หมายถึง การส่ือสารหรือการสง่ ข้อความจากคอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งหนึง่ ผา่ นไปเข้า เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งโดยส่งผ่านทางระบบเครือข่าย (Network) ผู้ส่งจะต้องมีเลขที่อยู่ (E-mail Address) ของผู้รับ และผูร้ ับสามารถเปดิ คอมพวิ เตอร์เรยี กข่าวสารน้นั ออกมาดเู มือ่ ใดก็ได้ โดยทว่ั ไปจัดว่าเป็น งานส่วนหน่ึงของสำนกั งานอตั โนมตั ิ (Office Automatic) ซ่ึงปจั จบุ นั ได้รับความนิยมเป็นอยา่ งมาก ประโยชนข์ องการรบั -ส่งขอ้ มลู ทางจดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์

96 การรับ-ส่งข้อมูลทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารบนเครือข่าย อินเทอร์เน็ตท่นี ิยมใชม้ ากทส่ี ดุ เพราะมปี ระโยชนม์ ากมาย ดังนี้ 1. ทำให้การติดต่อสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็ว ระยะทางไม่เปน็ อุปสรรคสำหรบั อเี มลในทกุ แหง่ ท่ัวโลกทมี่ ีเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรเ์ ช่ือมต่อถงึ กนั ได้ สามารถเข้าไปสถานทเ่ี หลา่ นนั้ ไดท้ ุกท่ี ทำใหผ้ คู้ นทั่วโลก ตดิ ตอ่ ถงึ กันไดท้ ันที ผูร้ ับสามารถจะรับข่าวสารจากอีเมลได้ทนั ทีท่ีผู้สง่ จดหมายสง่ ข้อมูลผ่านทางคอมพิวเตอร์ เสรจ็ ส้ิน 2. สามารถสง่ จดหมายถึงผู้รับทตี่ ้องการไดท้ กุ เวลา แม้ผู้รบั จะไม่ได้อย่ทู ่หี นา้ จอคอมพวิ เตอร์กต็ าม จดหมายจะถกู เก็บไว้ในตู้จดหมายของคอมพวิ เตอรแ์ ละเป็นส่วนตวั จนกวา่ เจ้าของจดหมายท่มี รี หัสผ่านจะเปดิ ตูจ้ ดหมายของตนเองอา่ น 3. สามารถสง่ จดหมายถึงผ้รู บั หลายๆคนได้ในเวลาเดยี วกนั โดยไม่ต้องเสยี เวลาส่งใหท้ ีละคน กรณนี ี้จะใช้กบั จดหมายท่เี ปน็ ข้อความเดียวกนั เช่น หนงั สือเวยี นแจง้ ข่าวให้สมาชิกในกล่มุ ทราบหรือเป็นการ นดั หมายระหว่างสมาชิกในกลุ่ม เปน็ ตน้ 4. ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปสง่ จดหมายทตี่ ู้ไปรษณียห์ รอื ทท่ี ำการไปรษณยี ์ ทำให้ ประหยดั ค่าใช้จา่ ยในการสง่ เน่อื งจากไมต่ ้องคำนึงถึงปริมาณน้ำหนกั และระยะทางของจดหมายเหมอื นกับการ ส่งทางไปรษณยี ์ธรรมดา 5. ผู้รบั จดหมายสามารถเรยี กอา่ นจดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก ซงึ่ จะทำให้ทราบว่าใน ตู้จดหมายของผูร้ บั มีจดหมายกีฉ่ บบั มีจดหมายที่อ่านแลว้ หรอื ยังไม่ได้เรียกอา่ นกี่ฉบับ เมอื่ อ่านจดหมายฉบับ ใดแล้ว หากต้องการลบท้งิ กส็ ามารถเกบ็ ข้อความไวใ้ นรปู ของแฟม้ ข้อมลู ได้ หรือจะพมิ พ์ออกมาลงกระดาษกไ็ ด้ เชน่ กนั 6. สามารถถ่ายโอนแฟม้ ขอ้ มูล (Transferring Flies) แนบไปกับจดหมายถงึ ผูร้ บั ได้ ทำใหก้ าร แลกเปลีย่ นข่าวสารเปน็ ไปไดโ้ ดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลาและทนั เหตุการณ์ จากความสำคญั ของอีเมลท่ี สามารถอำนวยประโยชน์ใหก้ บั ผู้ใชอ้ ย่างคมุ้ ค่านี้ ทำให้ในปจั จบุ นั อีเมลกลายเปน็ ส่วนหน่งึ ของสำนักงานทกุ แห่งทวั่ โลก ทีท่ ำให้สมาชิกในชมุ ชนโลกสามารถติดต่อกันผ่านทางคอมพิวเตอร์ไดใ้ นทุกที่ทุกเวลา การวเิ คราะห์ปญั หาทีเ่ กดิ จากการใช้นวัตกรรม ความหมายของปัญหา ความหมายปัญหาคือประเด็นที่เปน็ อุปสรรค ความยากลำบาก ความท้าทาย หรือเป็นสถานการณใ์ ด ๆ ทต่ี อ้ งมีการแก้ปัญหาซึ่งการแกป้ ัญหาจะรบั รู้ได้จากผลลพั ธข์ องการแก้ปัญหาหรอื ผลงานทน่ี ำไปสู่วัตถุประสงค์ หรือเป้าหมาย ประเด็นปัญหาแสดงถึงทางออกที่ต้องการ ควบคู่กับความบกพร่อง ข้อสงสัย หรือความไม่ สอดคล้องท่ีปรากฏขึ้นซง่ึ ขดั ขวางมใิ ห้ผลลัพธ์ประสบผลสำเร็จ วิธกี ารหรือกระบวนการวิเคราะห์ปัญหา

97 กระบวนการวิเคราะหป์ ัญหากระบวนการแก้ไขปญั หามขี นั้ ตอนท่ีเกย่ี วข้อง 5 ประการ ดงั น้ี 1. การกำหนดหรือนิยามปัญหา 2. การวเิ คราะหส์ าเหตุ 3. การตดั สนิ ใจ 4. การลงมือปฏบิ ตั ิ 5. การประเมินผล เหตผุ ล ท่ีครูต้องมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เกีย่ วกับปัญหาการจัดการเรยี นร้ทู เี่ กดิ จากการใช้นวัตกรรมและ เทคโนโลยีสารสนเทศ ครูต้องมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกย่ี วกับ ปญั หาการจัดการเรียนร้ทู ี่เกิดจากการใช้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครูจะตอ้ งมคี วามเขา้ ใจ และผลกระทบท่ีจะตามมาจากการใช้งาน นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศ เนอ่ื งจากการใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศนอกจากจะมี ประโยชน์มากมายในการพัฒนาการเรียนการสอนแลว้ ยังมีโทษของการใชง้ านและปัญหาอ่ืน ๆหากใช้อย่างไม่ เหมาะสม ครูจงึ ต้องตระหนกั และมีความรู้ มคี ุณธรรมในการใช้งาน เพื่อใหเ้ กดิ ผลประสิทธภิ าพท่ีดี และเพื่อ ป้องกนั ปญั หาทอี่ าจจะตามมาในการจดั การเรยี นรู้ ปัญหา และสาเหตุ การจดั การเรียนรทู้ เี่ กิดจากการใชน้ วตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการกระจายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการศกึ ษามีคอมพิวเตอร์ยงั ไมม่ ีหรือมีไมเ่ พียงพอตอ่ ความ ต้องการและที่มอี ย่กู ข็ าดการบำรงุ รักษา รวมทง้ั ไมอ่ ยู่ในสภาพทีใ่ ช้การได้ ดา้ นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื พัฒนาการเรียนรู้ครูใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพ่ือ พัฒนาทักษะวิชาชีพครูน้อยมากและคอมพิวเตอร์มีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการที่ครูจะใช้ มีการ วางแผนที่ไม่ดีพอวางแผนจัดการความเสี่ยงไม่ดีพอ ยิ่งสถานศึกษามีขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าใด การจัดการกับ ความเสี่ยงย่อมจะมีความสำคัญมากขึ้นตามลำดับ ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านนี้เพิ่มสูงขึ้นการน ำเทคโนโลยีที่ไม่ เหมาะสมมาใช้งานการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาใชใ้ นสถานศึกษาจำเป็นต้องพิจารณาใหส้ อดคลอ้ งและ ตรงกับลักษณะของแนวการสอนหรือนโยบายของสถานศึกษาการขาดการจัดการหรอื สนับสนนุ จากผู้บริหาร สถานศึกษาระดับสงู

98 ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร เพ่อื พัฒนาการบรหิ ารจัดการและให้บริการทางการ ศึกษา สถานศึกษายงั ขาดรปู แบบระบบสารสนเทศ และจัดให้ผู้บรหิ ารมคี วามรู้ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการส่อื สารในระดับเบื้องตน้ ปัญหาการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ พบวา่ สว่ นใหญ่การใช้วัสดุ เครอื่ งมอื หรืออปุ กรณ์ และเทคนคิ วิธีการครู หรือบุคลากรทางการศกึ ษาในโรงเรยี นมปี ัญหาด้านงบประมาณไมเ่ พยี งพอและมีความลา่ ช้า วัสดุ เครอื่ งมอื หรอื อุปกรณ์มไี มเ่ พยี งพอกบั ความต้องการ สาเหตุ ของการเกิดปญั หาการจัดการเรียนรทู้ เ่ี กิดจากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ แตล่ ะด้าน โดยใชเ้ คร่อื งมือ 1. ผ้บู รหิ าร ครู และนกั เรียน บคุ ลากรขาดความรู้ความเขา้ ใจในการผลติ สือ่ ประกอบการจดั กิจกรรม บคุ ลากรขาดประสบการณใ์ นการใช้ส่อื นวัตกรรมทางการศกึ ษา 2. เครื่องมอื และอุปกรณ์ เคร่ืองมือ และอุปกรณ์ ขาดงบประมาณในการพัฒนานวัตกรรม อุปกรณไ์ ม่ เพยี งพอกับผเู้ รียน 3. วสั ดุ วสั ดขุ าดงบประมาณในการจดั ซื้อ ไม่มีงบประมาณและการจัดเกบ็ ไมม่ ปี ระสิทธภิ าพ ทำให้ วัสดเุ กดิ ความเสยี หาย 4. วธิ กี ารการจัดกจิ กรรม วิธีการ กิจกรรม ครยู ึดวธิ ีการสอนแบบเดิม คอื บรรยายหน้าช้นั เรยี น แต่ สว่ นใหญม่ แี นวโนม้ ในการพฒั นาท่ีดขี นึ้ ครูยังไม่มกี ารนำสือ่ นวตั กรรมมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนอยา่ ง ตอ่ เนือ่ ง 5. สภาพแวดลอ้ ม สภาพแวดล้อมโดยทัว่ ไปยงั ไมเ่ หมาะสมกับการใช้ส่ือ เนือ่ งจากความยุ่งยากและไม่ คล่องตัว มสี ถานที่ไมเ่ ป็นสัดส่วน ไม่มีห้องทใ่ี ชเ้ พือ่ เกบ็ รักษาส่อื เสนอแนวทางการแก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้ทเี่ กิดจากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ละดา้ น 1. สร้างความตระหนัก ความรับผิดชอบในส่วนที่ยังบกพร่องทางนวัตกรรมของบุคลากร ส่งเสริมให้ เข้าร่วมการอบรมสัมมนา ส่งเสริมให้เกิดการศึกษาด้วยตนเอง เพื่อให้ความรู้และประสบการณ์ในการใช้ส่ือ นวัตกรรมทางการศึกษาทมี่ ากขน้ึ 2. เพม่ิ งบประมาณใหเ้ พียงพอ ให้หนว่ ยงานท่มี สี ว่ นเก่ยี วขอ้ งจัดหางบประมาณสนบั สนุน สำนักงาน เขตพืน้ ทต่ี อ้ งช่วยดูแลและให้ความช่วยเหลือจัดสรรงบประมาณได้ เพ่ือใช้ในการพฒั นานวตั กรรมใหม้ ีคณุ ภาพ ดียิง่ ขึ้น และระดมทรพั ยากรที่มใี นทอ้ งถ่ิน มาช่วยสนบั สนนุ 3. แนวทางการแก้ไข คือ ใช้ส่อื นวตั กรรมตามความเหมาะสมของเนอื้ หาวิชาตามความยากงา่ ยของ เน้อื หา แบ่งสอ่ื ไปตามหอ้ งให้ครรู บั ผดิ ชอบ ควรจัดหาห้องเพ่ือการน้ีเป็นการเฉพาะ

99 4. จัดกลุ่มให้เพ่อื นชว่ ยเพ่ือน คอยกำกับแนะนำชว่ ยเหลอื จัดครูเข้าสอนตามประสบการณ์ความถนัด ควรจัดอบรมเพื่อให้ความรู้ จัดทำนวัตกรรมที่มีโอกาสเป็นไปได้ และสร้างการมีส่วนร่วมจากชุมชน สอน เพิ่มเตมิ นอกเวลา 5. เน้นการเรยี นการสอนท่ีนกั เรยี นได้ฝึกปฏบิ ัตจิ ริง และสรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง จดั แบบทดสอบที่ หลากหลาย ทง้ั แบบปรนยั และอตั นยั และประเมินผลตามสภาพจรงิ ประเมนิ ผลงานจากแฟ้มสะสมงาน วเิ คราะห์ปญั หา ในชัน้ เรียน

100 ข้อสอบท้ายบท 1. ขอ้ ใดไม่ใช่มารยาทในการใช้อินเตอร์เนต็ 1. ไม่ใช้ขอ้ ความหยาบคายในการสง่ ขอ้ ความ 2. ไม่ใชภ้ าพท่ีไม่เหมาะสม 3. ไม่ควรใช้ตัวอกั ษรตัวพมิ พ์ใหญ่ทง้ั หมด 4. ควรเคารพในสิทธสิ ว่ นบคุ คลของผอู้ ่นื 2. บุคคลใดปฏิบัติถูกตอ้ งเกีย่ วกับการใชอ้ ินเตอร์เน็ต 1. โปง้ ใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ขายสินค้าผิดกฎหมาย 2. กลางใหอ้ นิ เตอร์เนต็ ตดิ ต่อส่ือสารกบั เพ่อื น 3. นางใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ โหลดเพลงมาขาย 4. กอ้ ยใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ ล่อลวงบคุ คลอ่ืน 3. อินเตอร์เนต็ คอื อะไร 1. ระบบเมนเฟรม 2. ระบบเครือขา่ ยที่เช่อื มโยงกันหลาย ๆ เครือข่ายท่วั โลก 3. ระบบเครอื ข่ายเดย่ี ว 4. ระบบไมโครคอมพิวเตอร์ 4. ข้อใดคอื เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1. Technology System 2. System technology 3. Information technology 4. Technology information 5. ขอ้ ใดคอื ผลกระทบทางด้านลบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. การทำให้เกิดอาชญากรรมขอ้ มูล 2. การตดิ ตอ่ สอื่ สารขา้ มประเทศ 3. การทำธรุ กรรมผ่านมือถอื 4. จำเปน็ สำหรบั การดำเนินงานในทกุ หน่วยงาน 6. ผลกระทบทางด้านลบจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งผลเสยี ดา้ นใดมากท่ีสุด 1. ค่านิยมและวัฒนธรรม 2. ระบบเศรษฐกจิ

101 3. ระบบการเมอื ง 4. ความปลอดภัย 7. ข้อใดไมใ่ ช่ผลกระทบทางบวกของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 1. มีการนำสอ่ื ตา่ งๆ มาใช้ในระบบการศึกษา 2. เพ่มิ ความสะดวกสบายในการสื่อสาร 3. สามารถแชร์ขอ้ มูลส่วนตัวกนั ไดอ้ ย่างขวา้ งขวาง 4. สร้างโอกาสให้คนพิการและคนดอ้ ยโอกาส 8. แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตจะเป็นอย่างไร 1. เทคโนโลยีสารสนเทศจะไม่มอี ิทธพิ ลต่อทกุ ๆคนในครอบครัว และหน่วยงานตา่ ง ๆ 2. คอมพวิ เตอรจ์ ะกลายเปน็ เคร่ืองมือเครือ่ งใช้ในชวี ติ ประจำวนั เช่นเดยี วกบั รถยนต์ ตู้เยน็ เคร่อื งรบั โทรทัศน์ 3. ระบบสือ่ สารแบบมีสายจะกลับมาแทนระบบไร้สาย 4. พนักงานจะทำงานมากขึน้ 9. ขอ้ ใดเปน็ พฤติกรรมท่ไี ม่เหมาะสมในการใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ 1. การดาวนโ์ หลดฟรแี วร์ 2. การอพั โหลดข่าวการเมือง 3. การรบั สง่ อเี มล์ 4. การโพสตข์ อ้ มลู เท็จ 10. ไวรัสคอมพิวเตอรเ์ กดิ ข้ึนกับสว่ นใดของระบบคอมพวิ เตอร์ 1. ฮารด์ แวร์ 2. ซอฟต์แวร์ 3. พีเพิลแวร์ 4. สปายแวร์ 11.บทบาทสำคญั ของผูเ้ รยี นในกระบวนการเรยี นการสอนแบบ Project Based Learning ? ก. สามารถเรยี นรู้ และสร้างองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ข. มีภาวะผ้นู ำสงู ค. มีความเช่ยี วชาญในเทคโนโลยี ง. มีทกั ษะท่ดี ีการสรา้ ง การออกแบบ

102 12.ขอ้ ใดคอื บทบาทของผสู้ อน ? ก. ถ่ายโอนองคค์ วามรู้สผู่ ู้เรยี นอย่างหมดเปลือก ข. สามารถสรา้ งสภาวะท่ีกดดนั เพื่อกระตุ้นใหเ้ กิดการพัฒนา ค. เอ้ืออำนวยให้ผู้เรยี น สามารถสรา้ งองค์ความรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง ง. มคี วามเขา้ ใจในศาสตร์เฉพาะเป็นอย่างดี 13. ลักษณะของโครงงานท่ดี ีตอ้ งเป็นอยา่ งไร ? ก. เกิดจากความอยากรู้ ข. เกิดจากนโยบายของผบู้ ริหาร ค. เกิดจากผสู้ อนแนะนำ ง. ไมม่ ีขอ้ ใดถกู 14. การเรียนรูโ้ ดยใช้ Project Based Learning มลี กั ษณะอยา่ งไร ? ก. รูปแบบการสอนทีเ่ นน้ ผสู้ อน และการถา่ ยโอนความรู้เป็นสำคญั ข. รปู แบบการสอนท่ีเนน้ การสร้างสรรคน์ วัตกรรมใหม่เป็นสำคญั ค. รูปแบบการสอนทเี่ น้นกจิ กรรมเปน็ สำคัญ ง. รูปแบบการสอนท่เี นน้ ผู้เรยี น และการศึกษาด้วยตนเองเป็นสำคัญเปน็ สำคัญ 15. PBL คืออะไร ก. Project Based Learning ข. Project Based Leader ค. Project Beta Learning ง. Project Boundary Learning 16. ขอ้ ใด ไม่ใช่ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศกึ ษา ก. การใช้ e-learning. ข. ออกแบบป้ายชื่อโรงเรียน. ค. จดั เก็บขอ้ มลู นักเรยี นในแผน่ ดสิ ก.์ ง. การใช้โปรแกรม Microsoft Power Point 17. การนำข้อมูลเขา้ สู่ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเรียกว่าอยา่ งไร ก. การแสดงผล. ข. การประมวลผล ค. การสอื่ สารและเครอื ขา่ ย ง. การบันทกึ และจัดเกบ็ ข้อมูล

103 18. เทคโนโลยีสารสนเทศมบี ทบาทตอ่ มนุษย์ ยกเว้น ข้อใด ก. การเบกิ ถอนเงินอตั โนมตั ิ ข. การส่งไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนกิ ส์. ค. การมีคอมพวิ เตอรท์ ี่มปี ระสทิ ธภิ าพ ง. การค้นหาข้อมูลประกอบการทำรายงาน 19. การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการศกึ ษา เพื่อเผยแพร่ข่าวสารประชาสมั พันธ์ระหวา่ ง สถานศึกษากับผเู้ กีย่ วขอ้ งและบคุ คลทัว่ ไป ก. อินเตอรเ์ นต็ ข. เว็บไซต์ ค. คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน ง. การเรยี นรผู้ า่ นส่ือ 20. สถานศึกษาควรดำเนินการด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารอยา่ งไร ก. นำความรูเ้ รอื่ งเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ข. ผลิตและสรา้ งสอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาใหม่ๆ ค. ใช้เทคโนโลยีเปน็ เคร่อื งมือในการคน้ คว้าหาความรู้ ง. ถูกทกุ ข้อ 21. ขอ้ ใดคือแนวโน้มในด้านบวกของเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การสอื สารในอนาคต ก. ความผดิ พลาดในการทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ ข. การละเมดิ ลขิ สิทธขิ์ องทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา ค. การบรหิ ารจัดการภาครฐั สมยั ใหม่ ง. การกอ่ อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 22. ข้อใดไมใ่ ช่แนวโน้มในด้านบวกของเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการสือสารในอนาคต ก. การพัฒนาเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ ข. การพฒั นาใหค้ อมพวิ เตอร์สามารถฟงั และตอบเป็นภาษา ค. การศกึ ษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (e-learning) ง. ถูกทกุ 23. บทบาทของครูตอ่ นโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารเพอื่ การศึกษา

104 ก. ประสาน บริการวชิ าการชุมชน ข. ใชแ้ ละผลิต ค. พฒั นาบุคลากร ง. พฒั นาระบบ 24. เร่มิ มีการใชเ้ ครื่องฉายภาพแบบขา้ มศรีษะศรี ษะ (overhead projector) เครื่องบันทึกเสยี ง วทิ ยุกระจายเสยี ง และภาพยนตร์ ในชว่ งทศวรรษใด ก. ในช่วงทศวรรษที่ 1920 – 1930 ข. ในชว่ งทศวรรษที่ 1930 – 1940 ค. ในช่วงทศวรรษที่ 1940 – 1950 ง. ในช่วงทศวรรษที่ 1950 – 1960 25. ขอ้ ใดไมใ่ ช่บทบาทของเทคโนโลยี ก. การศึกษา ข. การดำเนินชวี ติ ประจำวัน ค. การทำงาน ง. การทำอาหาร 26. ขอ้ ใดกล่าวถึงผลกระทบจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศไดถ้ กู ตอ้ ง ก. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศจะไม่เกดิ ผลกระทบใดๆทง้ั สน้ิ ข. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสง่ ผลกระทบทางบวกเท่านน้ั ค. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศส่งผลกระทบทางบวกและทางลบ ง. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสง่ ผลกระทบทางลบเท่านนั้ 27. เทคโนโลยีสารสนเทศชว่ ยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการทำงานอย่างไร ก. ช่วยลดจำนวนพนกั งานลง ข. ชว่ ยให้ทำงานได้เรว็ และถกู ต้องมากขึ้น ค. ชว่ ยเพิม่ เวลาในการทำงานให้มากขน้ึ ง. ชว่ ยให้ประหยัดทรพั ยากรและรักษาสิ่งแวดลอ้ ม 28. สารสนเทศสามารถจัดเกบ็ ไดใ้ นรูปแบบใด ก. ข้อความทเี่ ป็นเสยี ง ข. ขอ้ ความท่ีเป็นภาพน่ิงและภาพเคลอ่ื นไหว ค. ข้อความทีเ่ นน้ ตวั อกั ษรและตวั เลข ง. ถูกทุกข้อ

105 29. ข้อใดเขยี นคำวา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ไดถ้ ูกต้อง ก. Information Technology ข. Technology Information ค. Information Techno ง. Techno Information 30. ขอ้ ใดเป็นองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ ก. ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ขอ้ มลู ข. ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ ข้อมูล บุคลากร ค. ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ ข้อมูล บุคลากร ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ าน ง. ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ ขอ้ มลู ขน้ั ตอนการปฏิบตั งิ าน

106 เฉลยขอ้ สอบท้ายบท 1. 3 11. ข 2. 2 12. ข 3. 2 13. ค 4. 3 14. ก 5. 1 15. ง 6. 4 16. ค 7. 3 17. ง 8. 2 18. ข 19. ก 9. 4 20. ง 21. ค 10. 2 22. ข 26. ก 23. ง 27. ค 24. ก 28. ก 25. ค 29. ง 30. ก

107 บรรณานกุ รม จนั ทรา ตันติพงศานุรักษ์.254 4. การจัดการเรียนรแู้ บบร่วมมือ (Cooperative Leamning) วารสารวิชาการ. 12 (ธนั วาคม), 36-56. ใจทพิ ย์ ณ สงขลา. 2547. การออกแบบการเรยี นการสอนบนเว็บในระบบการเรยี น อิเล็กทรอนิกส์.กรุงเทพมหานคร : คณะคุรศุ าสตร จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ชยั ยงค์ พรหมวงศ์. 2523. เอกสารการสอนซวุ ชิ าเทคโนโลยแี ละส่ือสารการศึกษา. บนทบุร:ี มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช ไชยยศ เร่ืองสุวรรณ. 2533. เทคโนโลการศกึ ษาทฤษฎแี ละการวัจัย. กรุงเทพมหานคร: โอ เอส พรนิ้ ดง้ิ เฮ้าส์. ทพิ ย์เกสร บญุ อำไพ. 2540, อ้างถึงในนวัตกรรมการศกึ ษาและเทคโนโลยที างการศกึ ษา (ออนไลน)์ สบื ค้นได้จาก : htp://school.obec.go.th/sup br3/t 1.htm (15/05/2548) ทศิ นา แขมมณ.ี 2545. ศาสตร์การสอน : องคค์ วามรูเ้ พอื่ การจดั กระบวนการเรียนรทู้ มี่ ี ประสทิ ธิภาพ. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ธวัชชยั อดิเทพสถิต. 2546. \"E-Learning กับห้องเรยี นเสมอื นจรงิ \". วารสารวิทยบริการ.2 (พฤษภาคม - สิงหาคม), 62 - 65. นวัตกรรมการศกึ ษาสำหรบั สหัสวรรษใหม่ ห้องเรยี นเสมอื นจริง (The virtual Classroom) (ออนไลน)์ สบื ค้นไดจ้ าก : http://members. fortunecity.com,jojo246(21/12/2547) นารี ขนั แก้ว. 2545. ผลการเรยี นแบบร่วมมือในคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนทใ่ี ชป้ ฏิสมั พันธช์ ้ีนำ ทางการเรยี น ในรายวชิ าคณิตศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่3ี ,วทิ ยานพิ นธ์ ศกึ ษาศาสตร์ มหาบณั ฑติ สาขาวิชาเทคโนโลยกี ารศกึ ษา มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . นิพนธ์ สขุ ปด.ี 2533. นวดั กรรมเทคโนโลการศึกษา. นนทบุร:ี มหาวทิ ยาลัย สุโขทัยธรรมาธริ าช บุญชม ศรีสะอาด. 2541. วิธีการทางสถิตสิ ำหรับการวิจัย เล่ม1. มหาสารคาม : ภาควิชาพ้นื ฐาน ของการศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ มหาสารคาม.

108 บุญเกือ้ ควรหาเวช. 2542. อา้ งถงึ ในนวัตกรรมการศกึ ษาและเทคโนโลยที างการศกึ ษา (ออนไลน์) สบื ค้นได้จาก : htp://school.obec.go.th/sup br3/t_ 1.htm (15/05/2548)ประวัติความเป็นมาของคอมพวิ เตอร์ (ออนไลน)์ . (2555). สืบค้นจาก : http://www.thaiwbi.com/course/ntro_con/ntro_com/wbi1./hie/menu2.htm (วนั ทสี่ ืบต้น : 6 สงิ หาคม 2555 เปรอ่ื ง กมุ ท. 2535. ปจั จบุ ัน และอนาคดของเทคโนโลยกี ารศกึ ษา เอกสารประกอบสมั มนา ทาง วชิ าการ เทคโนโลยี สมั พันธแ์ ห่งประเทศไทย คร้ังท่ี 7. กรงุ เทพมหานตร มหาวิทยาลัยศรี นครนิ ทรวีโรณ วรี ะยทุ ธ ชาตะกาญจน์,ปัญญา เลศิ ไกร. แนวทางในการบรหิ ารจดั การเทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่ือสารเพ่ือเป็นองคก์ ารแหง่ การเรยี นรู้ โรงเรียนเทศบาลวดั ชยั ชุมพลเทศบาลเมือง ทุ่งสง จังหวดั นครศรีธรรมราช, 2557 มหาสารคาม, มหาวทิ ยาลยั . คณาจารย์สาขาบรรณารักศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์. เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารเพือ่ การเรียนร้ตู ลอดชีวิต = ICT for life-long. พมิ พ์ ครั้งที่ 3. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2549 ศกึ ษาธิการ, กระทรวง. กองวิจัยทางการศกึ ษา. รายงานการวิจัยเร่ือง สภาพการใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศการศกึ ษาเพื่อพฒั นาการเรยี นรขู้ องนกั เรียนระดับมัธยมศึกษา. กรงุ เทพฯ: กอง วิจัยทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ, 2544 ศึกษาธกิ าร, กระทรวง. เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การศกึ ษาและการสอ่ื สาร ICT. กรงุ เทพฯ : กระทรวงศกึ ษาธิการ, 2548 อภิชัย นาคศร.ี บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผา่ นเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ เรอ่ื งเทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ือการเรียนรู้ (อินเทอรเ์ น็ต), 2545

109

110


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook