Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book เรื่องความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality Technology (AR)

E-book เรื่องความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality Technology (AR)

Published by อังคณา 106, 2022-01-13 09:56:49

Description: E-book เรื่องความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality Technology (AR)

Keywords: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์,AR,เทคโนโลยีสารสนเทศ

Search

Read the Text Version

หนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ เรอื่ งความรู้พื้นฐานเกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศดว้ ยเทคโนโลยี Augmented Reality Technology (AR) จดั ทำโดย นำงสำวองั คณำ กรเม และ นำงสำวสนุ ิสำ พนั ธน์ อ้ ย สำขำเทคโนโลยีสำรสนเทศทำงธุรกิจ คณะบรหิ ำรธรุ กิจ ปี 4 มหำวทิ ยำลยั เทคโนโลยีรำชมงคลรตั นโกสินทร์ วทิ ยำเขตวงั ไกลกงั วล

สารบัญ เรอื่ ง หนา้ สารบญั ก 1. ความหมายของคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ 1 2. ววิ ฒั นาการของคอมพิวเตอร์ 6 3. ประโยชนข์ องคอมพิวเตอร์ 7 4. องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 8 5. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 14 6. ประโยชนข์ องเทคโนโลยสี ารสนเทศสารสนเทศ 17 7. ระบบสารสนเทศ 18 8. กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ 19 ก

สารบญั หนหา้ นา้ 20 เเรรือ่ อื่ งง 21 9. เปา้ หมายของระบบสารสนเทศ 24 10. ชนิดของคอมพิวเตอร์ 11. หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 25 12. ประโยชนแ์ ละโทษของคอมพิวเตอร์ 13. ระดับของผู้ใชร้ ะบบสารสนเทศ 28 14. ประเภทของระบบสารสนเทศ 29 15. คอมพิวเตอร์กบั บทบาทในงานดา้ นตา่ งๆ 30 16. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 32 17. ความปลอดภัยและความเป็นสว่ นตวั 34 ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ข

1 ความหมายของคอมพิวเตอรแ์ ละ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์ชนิดหนึง่ ที่ทางานด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ สามารถจาข้อมลู และคาสัง่ ได้ ทาให้สามารถทางาน ได้โดยอัตโนมัติด้วยอัตราความเร็วที่สูงมาก ใช้ประโยชน์ในการ คานวณหรือการทางานต่างๆได้เกือบทุกชนิด คอมพิวเตอร์เป็น เครื่องมือที่ช่วยในการคานวณและประมวลผลข้อมูล ซึ่งประกอบ ดว้ ยคณุ สมบตั ิ 3 ประการ ดังนี้ 1.ความเรว็ (Speed) 2.หนว่ ยความจา (Memory) 3.ความสามารถในการเปรยี บเทียบ (Logical) 01

1 ความหมายของคอมพิวเตอร์และ เทคโนโลยีสารสนเทศ 1.ความเร็ว (Speed)เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานด้วยความเร็ว สูงมาก หน่วยความเร็วของการทางานของคอมพิวเตอร์วัดเป็น ดังนี้ มิลลเิ ซกัน (Millisacond) ซงึ่ เทียบความเรว็ เท่ากับ 1/1,000 วนิ าที ไมโครเซกัน (Microsecond) ซึง่ เทียบความเรว็ เทา่ กบั 1/1,000,000 วินาที นาโนเซกัน (Nanosacond) ซึง่ เทยี บความเรว็ เทา่ กบั 1/1,000,000,000 วินาที 02

1 ความหมายของคอมพิวเตอรแ์ ละ เทคโนโลยีสารสนเทศ เ ค รื่ อ ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด้ ว ย หน่วยความจา สามารถใช้บันทึกและเก็บข้อมูลได้ คราวละมากๆ สามารถเก็บคาสั่งต่อๆ กันที่เรา เรียกว่า โปรแกรม และนามาประมวลในคราว เดียวกัน ซึ่งเป็นปัจจัยทาให้คอมพิวเตอร์สามารถ ทางานเก็บข้อมูลได้คราวละมากๆ และสามารถ ประมวลผลได้เร็วและถกู ต้อง 2.หน่วยความจา (Memory) 03

1 ความหมายของคอมพิวเตอร์และ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3.ความสามารถในการเปรียบเทียบ (Logical) เ ค รื่ อ ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย ห น่ ว ย ค า น ว ณ แ ล ะ ตรรกะ นอกจากจะมีความสามารถในการคานวณแล้วยังมี ความสามารถในการเปรียบเทียบ ความสามารถนีเ้ องที่ทาให้ เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างกับเครื่องคิดเลข และคุณสมบัตินี้ที่ ทาให้นักคอมพิวเตอร์สร้างโปรแกรมอัตโนมัติขึ้นใช้อย่าง กว้างขวาง คอมพิวเตอร์ยังมีความแม่นยาในการคานวณ มี ความเที่ยงตรงแม้จะทางานเหมือนเดิมซ้ากันหลายรอบ และ สามารถตดิ ต่อสือ่ สารกับคอมพิวเตอร์เครือ่ งอนื่ ๆ อกี ดว้ ย 04

1 ความหมายของคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ความหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยี เทคโนโลยี สารสนเทศ ส่ิงที่มนุษย์พั ฒนาขึ้น เพ่ื อช่วยในการ หรอื ไอที ทางานหรือแกป้ ัญหาต่าง ๆ เข่น อปุ กรณ์ , เคร่ืองมือ, เคร่ืองจักร, วัสดุ หรือ ( IT ) แมก้ ระทั่งทีไ่ ม่ไดเ้ ป็นส่ิงของทจี่ ับตอ้ งได้ โลกแหง่ ยุคไอที สารสนเทศ ประกอบดว้ ยคา ข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงและความคิด วา่ “เทคโนโลย”ี ต่ า ง ๆ ท่ี ไ ด้ มี ก า ร ป ร ะ ม ว ล ผ ล บั น ทึ ก จัดพิ มพ์หรือเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ และ สามารถน าไปใช้ ประโยชน์ได้ทั้งส่วน “สารสนเทศ บคุ คลและสังคม การประยกุ ต์ ความรทู้ างดา้ น วทิ ยาศาสตรม์ า จดั การ สารสนเทศที่ ต้องการ 05

2 วิวฒั นาการของคอมพิวเตอร์ ประกอบดว้ ย 5 ยุค ยคุ ที่ 1 ค.ศ 1951 - 1958 ยุคที่ 2 ค.ศ 1959 - 1964 ยุคที่ 3 ค.ศ 1965 - 1971 ยุคที่ 4 ค.ศ 1972 - 1980 ยคุ ที่ 5 1981 จนถึงปัจจบุ นั 06

3 ประโยชนข์ องคอมพิวเตอร์ 1.ประโยชนด์ า้ นการศกึ ษา 2.ด้านความบนั เทิง 3.ด้านการเงิน 4.ดา้ นการสอื่ สารและคมนาคม 5.ด้านศลิ ปะและการออกแบบ 6.ดา้ นการแพทย์ 7.ด้านวิทยาศาสตร์และเคมี 07

4 องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ทางานอย่างเป็ นระบบ (System) หมายถึง ภายในระบบงานคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยที่มี หน้าที่เฉพาะ ทางานประสานสัมพันธ์กัน เพื่อให้งานบรรลุตาม เป้าหมาย ในระบบงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากจะให้คอมพิวเตอร์ ทางานได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ ควรจะประกอบไปด้วย ดังนี้ 1.ฮาร์ดแวร์ 5. กระบวนการทางาน (Hardware) (Documentation /Procedure) 2.ซอฟตแ์ วร์ 4. บคุ คลากร (Software) (Peopleware) 08 3. ขอ้ มูล/สารสนเทศ (Data/Information)

4 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง สิ่งที่มองเห็นและจับต้อง สัม ผั ส ไ ด้ ท้ั ง ห ม ด ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ คอมพิวเตอร์ เช่น อุปกรณต์ อ่ พ่วงรอบข้าง เครือ่ งคอมพิวเตอร์ เมนบอร์ด ทเี ก่ียวขอ้ ง เชน่ (Case) (Mainboard) ฮ า ร ์ ด แ ว ร ์ จ ะ ไ ม่ ส า ม า ร ถ ทางานด้วยตวั เองเด่ียว ๆ ได้ ฮาร์ดดสิ ก์ แปน้ พิมพ์ เม้าส์ จ ะ ต้ อ ง น า ม า ต่ อ เ ช่ื อ ม เ พ่ื อ ท า ง า น ร่ ว ม กั น เ ป็ น ร ะ บ บ ที่ เรียกว่า \"ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ มี โ ค ร ง ส ร้ า ง ข อ ง ร ะ บ บ จ ะ ทา ง า น ต า ม โ ป ร แ ก ร ม ห รื อ ซอฟต์แวร์ท่เี ขยี นขึน้ หน่วยประมวล จอภาพ เครอื่ งพิมพ์ ผลกลาง 09

4 องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ 2.ซอฟต์แวร์(Software) หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคาสั่งท่ีควบคุม ให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทางานให้ได้ผลลัพธ์ตามท่ีต้องการ ซึ่งคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ท่ีประกอบออกมาจากโรงงานจะยังไม่สามารถทางานได้ใน ทันที ต้องมีซอฟต์แวร์ซ่ึงเป็นโปรแกรมหรือชุดคาส่ังที่ส่ังให้ฮาร์ดแวร์ทางานตาม ต้องการได้ โดยโปรแกรมหรือชุดคาสั่งนั้นจะเขียนจากภาษาต่าง ๆ ที่มนุษย์ สร้างข้ึน เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Language) ภาษา ใดภาษาหน่ึง และมีโปรแกรมเมอร์ (Programmer) หรือนักเขียนโปรแกรม เป็นผู้ใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เหล่าน้ันเขียนซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ ขึ้นมา ซอฟตแ์ วร์ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1) ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ 2) ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ (System Software) (Application Software) 10

4 องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ 3. ข้อมูล/สารสนเทศ (Data/Information) คือ ข้อมูลต่างๆ ที่เรานามาให้คอมพิวเตอร์ทาการประมวลผล คานวณ หรือกระทาการอย่างใดอย่างหน่ึงให้ได้มาเป็นผลลัพธ์ท่ีเรา ต้องการ เช่น ข้อมูลบุคลากรเก่ียวกับรายละเอียดประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา หรือ ประวัติการทางาน ซึ่งอาจนามาจาแนกเป็น รายงานต่างๆ เกี่ยวกับบุคลากรในหน่วยงานได้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับ ตวั เลขไฟฟา้ ของบา้ นแตล่ ะหลัง ก็ใช้สาหรับคานวณเป็นปริมาณไฟฟา้ ทใ่ี ช้ในแต่ละเดือน แล้วคิดเป็นเงนิ ท่ีจะตอ้ งชาระใหก้ ับการไฟฟา้ ฯ 11

4 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 4. บุคคลากร (Peopleware) คือ เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานต่างๆ และผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ใน หน่วยงานนั้นๆ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์นั้น มีความสาคัญมาก เพราะ การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานต่างๆ น้ันจะต้องมีการจัดเตรียมเปลี่ยน ระบบ จัดเตรียมโปรแกรมดาเนินการต่างๆ หลายอย่าง ซ่ึงไม่สามารถทา ด้วยตัวเองได้ ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่รู้เร่ืองคอมพิวเตอร์มากนัก เราจึงถือว่า บุคลากร เป็นส่วนประกอบท่ีสาคัญของระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่ง สามารถสรปุ เป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังน้ี เจ้าหนา้ ทปี่ ฏบิ ตั ิการ บุคลากรทีเ่ กีย่ วข้องกับระบบ (Operator) (System) ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ผจู้ ัดการศนู ยป์ ระมวลผลคอมพิวเตอร์ (Computer user) (Electronic Data Processing Manager) 12

4 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 5. กระบวนการทางาน (Documentation/Procedure) ขั้ น ต อ น ก า ร ท า ง า น เ พื่ อ ใ ห้ ไ ด้ ผ ล ลั พ ธ ์ ห รื อ ข้ อ ส น เ ท ศ จ า ก คอมพิวเตอร์ ในการทางานกับคอมพิวเตอร์จาเป็นท่ีจะต้องให้ผู้ใช้เข้าใจ ข้ันตอนการทางาน ต้องมีระเบียบปฏิบัติให้เป็นแบบเดียวกัน มีการจัดทา คูม่ ือการใช้คอมพิวเตอร์ให้ทุกคนเรียนรู้และใช้อ้างอิงได้นอกจาก น้ันเม่ือ การใช้มาตรฐาน ช่วยให้การประสานงาน ระหว่างหน่วยงานย่อยๆ ราบรื่น การจัดซื้อจัดหา ตลอดจนการบารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ และซอฟตแ์ วรก์ ็จะงา่ ยข้นึ เพราะทกุ หน่วยงานใช้มาตรฐานเดียวกนั 13

5 องคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. ซอฟตแ์ วร์ 2. ขนั้ ตอนการทางาน 4. ฮารด์ แวร์ 1. บคุ ลากร 5. ขอ้ มูล 14

5 องคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 1. บุคลากร เป็นองค์ประกอบที่สาคัญ เพราะบุคลากรที่มี ความรู้ ความสามารถ และเข้าใจวิธีการใน ก า ร ด า เ นิ น ก า ร แ ล ะ จั ด ก า ร เ กี่ ย ว กั บ สารสนเทศทัง้ หมด บุคลากรจึงต้องมีความรู้ ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ขัน้ ตอนการทางาน ระเบียบวิธีการปฏิบัติงานในการจัดเก็บรักษา ข้ อ มู ล ใ ห้ อ ยู่ ใ น รู ป แ บ บ ที่ จ ะ ท า ใ ห้ เ ป็ น สารสนเทศได้ เช่น การกาหนดให้มีการปอ้ น ข้อมูลทุกวัน การปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้ ถกู ตอ้ งอยเู่ สมอ 3. ซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์ เป็ นอุปกรณ์ที่ประมวลผล ข้ อ มู ล เ พื่ อ ส ร้ า ง ข้ อ มู ล ส า ร ส น เ ท ศ ซึ่ ง ประกอบด้วยคีย์บอร์ด เมาส์ จอภาพ หน่วย ระบบ และอุปกรณ์อื่นๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือฮาร์ดแวร์จะถูกควบคุมโดยซอฟต์แวร์ เป็นเครือ่ งมอื ทชี่ ่วยในการจัดการสารสนเทศ 15

5 องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ฮาร์ดแวร์ ห รื อ โ ป ร แ ก ร ม ใ น ร ะ บ บ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ระบบและซอฟท์แวร์ แอพพลิเคชั่น เป็นชุดคาสั่งที่เรียงเป็นลาดับ ขั้นตอน มีหน้าที่สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ทางานตามวัตถุประสงค์ และประมวลผล เพื่อใหไ้ ดส้ ารสนเทศทีต่ อ้ งการ 5. ข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ บุคคล วัตถุหรือสถานที่ ข้อมูลมีความสาคัญ อย่างยิ่งเ พราะใช้เ ป็ นเ ครื่องช่วยในการ วางแผนงานการบริหารจัดการ ดังนั้นข้อมูล จะต้องมีความถูกต้อง มีความเที่ยงตรง ส า ม า ร ถ เ ชื่ อ ถื อ ไ ด้ มี ค ว า ม เ ป็ น ปั จ จุ บั น สามารถตรวจสอบได้ และมีความสมบูรณ์ ชดั เจน 16

6 ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศ 1.ติดต่อสอื่ สารกนั อย่างสะดวกรวดเร็ว 2.ช่วยในการจัดระบบขา่ วสารจานวน มหาศาล 3.ช่วยเก็บข้อมูลสารสนเทศทสี่ ามารถ เรียกใช้หลายคร้ังอยา่ งสะดวก 4.ช่วยเพ่ิมประสิทธภิ าพการผลติ สารสนเทศ 5.ช่วยให้สามารถจดั ระบบอตั โนมัติ เพื่อการเกบ็ 6. สามารถจาลองแบบระบบการ วางแผนและทานาย 7. อานวยความสะดวกในการเข้าถงึ สารสนเทศดีกว่าสมัยกอ่ น 8.ลดอปุ สรรคเกีย่ วกบั เวลาและระยะทาง ระหวา่ งประเทศ 17

7 ระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ คือ ระบบของการจดั เก็บ ประมวลผลข้อมูล โดยอาศัยบุคคลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการดาเนินการ เพื่อให้ ได้สารสนเทศทีเ่ หมาะสมกบั งานหรือภารกิจแตล่ ะอยา่ งและระบบ สารสนเทศสามารถมีความหมายตา่ งๆได้ ดังนี้ 1. ระบบทีป่ ระกอบดว้ ยส่วนต่างๆ ไดแ้ ก่ ระบบ คอมพิวเตอรท์ งั้ ฮาร์ดแวร์ ซอฟทแ์ วร์ ฯ 2. ชดุ ขององคป์ ระกอบทีท่ าหนา้ ทรี่ วบรวม ประมวลผล จัดเกบ็ และแจกจา่ ยสารสนเทศ เพื่อชว่ ยการตัดสนิ ใจ 3. ระบบคอมพิวเตอรท์ จี่ ัดเกบ็ ขอ้ มลู และประมวลผล เป็นสารสนเทศ และระบบสารสนเทศเป็นระบบทตี่ ้อง อาศัยฐานขอ้ มลู 4. ชุดของกระบวนการ บคุ คล และเครือ่ งมือ ทีจ่ ะเปลีย่ นขอ้ มูลใหเ้ ป็นสารสนเทศ 18

8 กระบวนการทางาน ของระบบสารสนเทศ ในกระบวนการทางานของระบบสารสนเทศประกอบดว้ ย สว่ นประกอบหลกั 3 ส่วน ดงั นี้ 1 23 ปัจจัยนาเข้า กระบวนการ ผลลพั ธ์ Input Process Output เป็ นการป้อนข้อมูลต่างๆ เป็ นการรวบรวมและ เป็ น ผ ลลัพ ธ์ท่ีเกิด จา ก เ ป็ น ข้ั น ต อ น ก า ร ส า ร ว จ วิเคราะห์ข้อมูลท่ีป้อนเข้า ก า ร ด า เ นิ น ง า น ใ น ก า ร ปัญหา และความต้องการ มา เพื่อดาเนินการตาม แก้ปัญหาดังกล่าว ควรมี ต่างๆ โดยรวบรวมข้อมูล วตั ถุประสงค์เพ่ือให้ได้ผล การตรวจสอบและ เ ห ล่ า น้ี น า ม า ใ ช้ ใ น ก า ร ลัพธ์ออกมา ประเมินผลลัพธ์ ว่ามีความ พิจารณา เพื่อหาแนวทาง เช่อื ถือเพียงใด แก้ปัญหา และนามากาหนด เป็ นวัตถุประสงค์ของการ ดาเนินงาน 19

9 เปา้ หมายของระบบสารสนเทศ เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มผลผลติ ใหแ้ กอ่ งค์กร ในการทางาน เพิ่มความไดเ้ ปรียบ เพิ่มคณุ ภาพในการบริการ ในการแขง่ ขัน ลูกคา้ 20

10 ชนดิ ของคอมพิวเตอร์ เครอื่ งคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถแบ่งเป็นประเภทต่างๆ โดยใช้ความแตกต่างจากขนาดของเครื่อง ความเร็วในการ ประมวลผล รวมทงั้ ราคาเป็นหลัก ซึง่ แบง่ ได้เป็นดงั นี้ 1. ซูเปอรค์ อมพิวเตอร์ 2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ 3. มนิ ิคอมพิวเตอร์ 4. เวริ ค์ สเตชัน่ และไมโครคอมพิวเตอร์ 21

10 ชนดิ ของคอมพิวเตอร์ 1. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ที่มีสมรรถนะสูง มีความเร็วในการ ทางาน และประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ ชนิดอื่นๆ มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่ สามารถคานวณทาง คณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที และได้รับการ ออกแบบเพื่อให้ใช้แก้ปัญหาขนาดใหญ่มากได้อย่างรวดเร็ว เช่น การพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเป็ นเวลาหลายวัน งานควบคุม ขปี นาวุธ งานควบคุมทางอวกาศ เป็นต้น 2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีสมรรถนะสูง แต่ยังต่า กวา่ ซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ มคี วามเร็วสูงมาก มีหน่วยความจาขนาด มหึมา เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการผู้ใช้จานวนหลาย ร้อยคน ทีใ่ ช้โปรแกรมทีแ่ ตกตา่ งกันนับรอ้ ยพรอ้ มๆ กันได้ 22

10 ชนดิ ของคอมพิวเตอร์ 3. มินคิ อมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง มีสมรรถนะต่ากว่าเครื่อง เมนเฟรม แต่สงู กวา่ เวิรค์ สเตชนั จุดเด่นทีส่ าคัญคือราคาย่อมเยา กวา่ เมนเฟรม 4. เวิร์คสเตชนั่ และไมโครคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์สาหรับผู้ใช้คนเดียว สามารถแบ่งออกเป็นสอง รนุ่ คือ เวิร์คสเตชัน หมายถึง คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ถูกออกแบบ มาให้เป็นคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ สามารถทางานพร้อมกันได้ หลายงาน และประมวลผลเร็วมาก ไมโครคอมพิวเตอร์ หมายถึง คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก และใช้ งานคนเดียว เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คอมพิ วเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) 23

11 หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ หลกั การทางานเบอื้ งตน้ ของระบบประกอบด้วย 4 สว่ นด้วยกัน ขัน้ ตอนที่ 1 ขัน้ ตอนที่ 2 ขนั้ ตอนที่ 3 รบั ขอ้ มลู ประมวลผลขอ้ มลู จดั เก็บขอ้ มลู ขนั้ ตอนที่ 4 แสดงผลขอ้ มลู 24

12 ประโยชน์และโทษของคอมพิวเตอร์ VS ประโยชน์ โทษ ดา้ นการศีกษา 1 เสยี สขุ ภาพ 1. ช่วยนาเสนอข้อมูลได้ หลากหลายรูปแบบ 2. ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถ ศึกษาหาความรู้ไดด้ ้วยตย เอง ดา้ นความบนั เทงิ 2 ความสมั พันธ์กับ คนรอบขา้ งลดลง 1. ชว่ ยใหเ้ กิดความสนุกสนาน และทาให้ร้สู ึกผ่อนคลาย 2. เพิ่มทกั ษะการใช้ คอมพิวเตอร์ 25

12 ประโยชนแ์ ละโทษของคอมพิวเตอร์ VS ประโยชน์ โทษ ดา้ นติดต่อสอื่ สาร 3 เกิดปัญหาสังคม 1. ช่วยประหยัดเวลาและ เกดิ การเลียนแบบ คา่ ใชจ้ า่ ยในการ พฤติกรรมทีไ่ ม่ดี ติดต่อสอื่ สาร 2. ช่วยกระจายขอ้ มลู จาก แหลง่ ข้อมลู หนงึ่ ไปยงั ผูใ้ ช้ ทุกคน ดา้ นการออกแบบ 4 และสร้างงานศลิ ปะ 1. ชว่ ยในเรือ่ งการออกแบบ งาน 2. ชว่ ยสรา้ งงานกราฟกิ ตา่ งๆ 26

12 ประโยชน์และโทษของคอมพิวเตอร์ VS ประโยชน์ โทษ ดา้ นการพิมพ์เอกสาร 5 1. สามารถนาคอมพิวเตอร์ มา สรา้ งงานด้านเอกสารสิง่ พิมพ์ ต่างๆ 2. ชว่ ยนาเสนองานเป็นรปู เลม่ ได้ 27

13 ระดบั ของผู้ใชร้ ะบบสารสนเทศ ระดับของผใู้ ชร้ ะบบสารสนเทศแบง่ ตามลักษณะการบริหาร จัดการได้ 3 ระดบั ดงั นี้ ระดับสูง (Top Level Management) กาหนดและวางแผนกลยทุ ธข์ อง องค์กรเพ่ือนาไปสเู่ ปา้ หมาย ระดับกลาง (Middle Level Management) รบั นโยบายมาจากผบู้ ริหารระดบั สูง นามาสาน ตอ่ ใหบ้ รรลตุ ามเปา้ หมายที่กาหนดไว้ ระดับปฏบิ ัตกิ าร (Operation Level Management) ผลิตหรอื การปฏบิ ัติงานหลกั ขององค์กร 28

14 ประเภทของระบบสารสนเทศ พิจารณาจาแนกระบบสารสนเทศตามการสนบั สนุนระดับ การทางานในองค์กร จะแบง่ ระบบสารสนเทศไดเ้ ป็น 6 ประเภท ดังนี้ 1. ระบบประมวลผลรายการ (Transaction Processing Systems - TPS) 2. ระบบสานักงานอตั โนมัติ (Office Automation Systems- OAS) 3. ระบบงานสรา้ งความรู้ (Knowledge Work Systems - KWS) 4. ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ (Management Information Systems- MIS) 5. ระบบสนับสนนุ การตัดสินใจ (Decision Support Systems – DSS) 6. ระบบสารสนเทศสาหรับผู้บรหิ ารระดับสงู (Executive Information System - EIS) 29

15 คอมพิวเตอร์กบั บทบาทในงานด้านตา่ งๆ คอมพิวเตอร์สามารถมีบทบาทในงานดา้ นตา่ งๆ ทัง้ หมด 14 ด้าน ดงั นี้ 1 . บทบาทของคอมพิวเตอร์ 2 . บทบาทของคอมพิวเตอร์ 3 . บทบาทของคอมพิวเตอรใ์ น ในสถานศึกษา ในงานวศิ วกรรม งานวทิ ยาศาสตร์ 4 . บทบาทคอมพิวเตอร์ 5 . บทบาทของ 6 . บทบาทของคอมพิวเตอร์ ในงานธุรกจิ คอมพิวเตอร์ในงานธนาคาร ในร้านคา้ ปลีก 7 . บทบาทคอมพิวเตอร์ ในวงการแพทย์ 30

15 คอมพิวเตอร์กับบทบาทในงานดา้ นตา่ งๆ 8 . บทบาทของคอมพิวเตอรใ์ น 9 . บทบาทของคอมพิวเตอร์ 10 . บทบาทของคอมพิวเตอร์ การคมนาคม และการสือ่ สาร ในงานดา้ นอตุ สาหกรรม ในวงราชการ 11. บทบาทของคอมพิวเตอร์ 12. คอมพิวเตอร์กับการเกบ็ 13. คอมพิวเตอร์กับงานดา้ น กับงานด้านสถานอี วกาศ ประวัติอาชญากร บนั เทงิ ตา่ ง ๆ 14. คอมพิวเตอร์กบั ธุรกจิ การนาเข้าและสง่ ออกสินคา้ 31

16 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลกระทบทางบวก 1. เพิ่มความ สะดวกสบายในการ สอื่ สาร 7. ผู้บรโิ ภคไดร้ ับ 2. เป็นสงั คมแห่งการ ประโยชนจ์ ากการบริโภค สอื่ สาร สินคา้ ทหี่ ลากหลาย 6. การทางาน 3. มีระบบผ้เู ชยี่ วชาญ เปลยี่ นแปลงไปในทางที่ ตา่ งๆ ในฐานข้อมูล ดขี นึ้ ความรู้ 5. พัฒนาคณุ ภาพ 4. เทคโนโลยสี ารสนเทศ การศึกษา สรา้ งโอกาสให้คนพิการ 32

16 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลกระทบทางลบ 1. กอ่ ใหเ้ กดิ ความเครียดข้ึน ในสังคม 2. กอ่ ใหเ้ กิด การรับ วฒั นธรรม 3. กอ่ ใหเ้ กิดผล ดา้ นศลิ ธรรม 4. การมสี ่วนร่วม ของคนในสังคมลด น้อยลง 5. การละเมิดสิทธิ เสรภี าพสว่ น บุคคล 6. เกิดชอ่ งวา่ ง ทางสังคม 7. เกดิ การตอ่ ตา้ น เทคโนโลยี 8. อาชญากรรม บนเครอื ข่าย 9. กอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหา ด้านสขุ ภาพ 33

17 ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตวั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ อ า ช ญ า ก ร ร ม ท า ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ เ กิ ด ขึ้ น ไ ด้ ห ล า ย รู ป แ บ บ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆขึน้ ดงั ตัวอยา่ งต่อไปนี้ การขโมยข้อมูลหรือสารสนเทศในขณะที่ สง่ ผ่านไปบนระบบเครอื ขา่ ย การแอบใช้รหัสผ่านของผู้มีอานาจเพื่อ เขา้ ถงึ และเรียกใช้ข้อมูลทเี่ ป็นความลบั การใหบ้ ริการสารสนเทศทีม่ กี าร หลอกลวง รวมถึงการบ่อนทาลายข้อมูล ทมี่ ีอยู่ในเครอื่ งคอมพิวเตอรต์ ่างๆใน ระบบเครอื ขา่ ย เชน่ ไวรสั เครอื ขา่ ยการ แพร่ข้อมูลทเี่ ป็นเทจ็ การละเมดิ สิทธิเสรภี าพสว่ นบคุ คล ความเป็นส่วนตัวของขอ้ มูลและ สารสนเทศ 34