โปรแกรมตารางคำนวน (1)

MICROSOFT EXCEL 2013 โปรแกรมตารางคํานวน รหัส2204-2103 E-Book

คํานํ า เทคโนโลยสี ารสนเทศในหนังสือออนไลน์(E-Book) ผู้จัดทาํ จดั ทําข้ึนเพ่ือเป็น ส่วนหน่ึงของการศึ กษา เรยี นรู้ และให้เข้าใจในความหมาย MS Excel2013 ให้ มากข้ึน วา่ โปรแกรมน้ีมีประโยชน์อยา่ งไร และมวี ิธีการทาํ งานและวิธกี ารใช้งาน อย่างไร และเป๋นส่ือการเรียนการสอนของนักเรียน นักศึ กษา เพื่อให้นักเรยี น นักศึ กษาหาความรู้ ความเข้าใจ เก่ยี วกับการใช้งานของโปรแกรม Excel ให้มาก ข้ึน

สารบัญ 1 2-18 ความหมายMicrosoft Excel 2013 ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม 19 คุณสมบัติ 20-41 ฟังชั่นในการทาํ งานและตวั อย่างฟังชั่นในการทํางาน

ความหมายของ MS Excel 2013 โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมหน่ึง ท่อี ย่ใู นชุด Microsoft Office มจี ดุ เดน่ ในดา้ น การคํานวณเก่ยี วกับตวั เลข โดยการทางานของ โปรแกรมจะใช้ตารางตามแนวนอน (Row) และแนวตงั้ (Column) เป็นหลกั ซ่ึงเรียกโปรแกรมในลกั ษณะน้ีว่าตารางทาการ (Spread Sheet) ไฟล์ของ Excel เปรยี บเสมือนเอกสารหนังสือ 1 เล่ม ท่ปี ระกอบไปดว้ ย หน้าหลาย ๆ หน้า เรยี กวา่ สมุดงาน (Workbook) โดยในแตล่ ะหน้าเรยี กว่า แผ่นงาน (Worksheet) ในแตล่ ะแผ่นงานจะแบง่ ออกเป็นตาราง ซ่ึงประกอบ ไปด้วย ช่องตารางซ่ึงเป็นส่วนท่ตี ดั กนั ของแถวและคอลมั น์เรียกว่า เซลล์ (Cell) ในแผน่ งานหน่ึง ๆ จะมแี ถวทงั้ หมด 1,048,576 แถว และ 16,384 คอลัมน์ โดยใช้ช่ือคอลมั น์เป็นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ ตงั้ แต่ A จนถึง Z และ ตอ่ ดว้ ย AA จนถึง AZ, BA จนถึง BZ ไปจนถึง XFD 1

ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม 2

หน้าตา่ งโปรแกรม Microsoft Excel มีส่วนประกอบ หลกั ท่ีควรทราบ ดังน้ี 1. แถบช่ือเรื่อง (Title Bar) = เป็นส่วนท่ใี ช้แสดงช่ือโปรแกรม และรายช่ือ ไฟลท์ ่ไี ดเ้ ปิดใช้งาน 2. แถบเครอ่ื งมอื ดว่ น (Quick Access) = เป็นส่วนท่ใี ช้ในการแสดงคําสั่ง ท่ใี ช้งานบ่อย 3. ป่มุ ควบคุม = เป็นส่วนท่ใี ช้ควบคุมการเปิด หรือปิดหน้าตา่ งโปรแกรม 4. รบิ บอน (Ribbon) = เป็นส่วนท่ใี ช้แสดงรายการคําสั่งตา่ ง ๆ ท่ใี ช้ใน การทํางานกับเอกสาร 5. Name Box = เป็นช่องท่ใี ช้แสดงช่ือเซลลท์ ่ใี ช้งานอย่ใู นขณะนั้น เช่น ถ้ามกี ารใช้งานข้อมูลในเซลล์ A1 รายชื่อเซลล์น้ีก็จะไปแสดงอย่ใู นช่อง Name Box 3

ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม 6. แถบสูตร (Formula Bar) = เป็นช่องท่ีใช้แสดงการใช้งานสตู รการคํานวณ ตา่ ง ๆ 7. เซลล์ (Cell) = เป็นช่องตารางท่ใี ช้สําหรับบรรจุข้อมลู ตา่ ง ๆ ซ่ึงช่องเซลล์ แตล่ ะช่องนั้นจะมชี ่ือเรยี กตามตาํ แหน่งแถว และคอลมั น์ ท่แี สดงตาํ แหน่ง ของเซลล์ เช่น เซลล์ B1 จะอยใู่ น คอลัมน์ B ในแถวท่ี 1 เป็นตน้ 8. คอลมั น์ (Column) = เป็นช่องเซลล์ท่เี รียงกนั ในแนวตงั้ ของแผ่นงาน (Worksheet) 9. แถว (Row) = เป็นช่องเซลล์ท่เี รียงกนั ในแนวนอนของแผ่นงาน 10.Sheet Tab = เป็นแถบท่ใี ช้แสดงจํานวนแผ่นงานท่เี ปิดข้ึนมาใช้งาน 11.แถบสถานะ (Status Bar) = เป็นส่วนท่ใี ช้แสดงจํานวนหน้ากระดาษ และ จํานวนตวั อักษรท่ใี ช้ในเอกสาร 4

1. เมนูหน้าแรก (Home) จะเป็นท่รี วบรวมชุดเครื่องมือพ้ืนฐานท่ผี ู้ใช้งานส่วน มากตอ้ งใช้บ่อยๆ เช่น การจดั การแบบตวั อกั ษร รูปแบบตารางหรือเซลล์ เป็นตน้ 5

1) A คือ คลิปบอรด์ (Clipboard) ใช้สาหรับการตดั คัดลอก และวางรูปแบบ 2) B คือ แบบอักษร (Font) ใช้สาหรับจดั รูปแบบตวั อกั ษร เช่น รูปแบบตวั อักษร ขนาด ตวั หนา บาง และการเปล่ยี นสีตวั อักษรหรือสีพื้นหลงั ของเซลล์ 3) C คือ การจดั แนว (Alignment) ใช้สําหรบั จดั ตาํ แหน่งชิดซ้าย ชิดขวา ก่งึ กลาง และจดั ระดบั ให้อย่ชู ิดด้านบน ก่ึงกลาง ดา้ นลา่ ง รวมถึงการจดั ยอ่ หน้า 4) D คือ ตวั เลข (Number) ใช้สําหรับจัดรูปแบบแสดงตวั เลขในเซลล์ เช่น แสดง รูปแบบของเวลา วนั ท่ี สกุลเงินหรอื แบบบัญชี รวมถึงการใส่จุลภาคและ จุดทศนิ ยม 6

5) E คือ ลักษณะ (Styles) ใช้สําหรับจดั รูปแบบตารางแบบสําเร็จรูป เช่น สี ของตารางหรอื สีเซลล์ และจัดรูปแบบตามเง่อื นไข เช่น ใส่สัญลักษณ์ หรอื แถบสี แบบไล่ระดับ 6) F คือ เซลล์ (Cells) ใช้สําหรับแทรกหรือลบเซลล์ เปล่ยี นช่ือแผ่นงาน ซ่อนและลอ็ คแผ่นงาน 7) G คือ การแก้ไข (Editing) ใช้สําหรับหาผลรวม ลา้ งเซลล์ เรียงลาํ ดบั ค้น หา และการแทนท่คี ําศั พท์

2. เมนแู ทรก (Insert) เป็นเมนูท่ใี ช้สาหรับแทรกออบเจก็ ตห์ รือองค์ประกอบ ตา่ งๆ ลงไปบนแผ่นงาน เพื่อใช้อา้ งอิงประกอบข้อมลู ให้สมบรู ณ์ย่งิ ข้ึน รวม ถึงการเพ่ิมความสวยงาม เช่น กราฟ รูปภาพ หรือไดอะแกรมเป็นตน้ 7

1) A คือ ตาราง (Tables) ใช้สําหรบั สร้างเส้นขอบตาราง การจัดการข้อมูลมากๆ ดว้ ย PivotTable และ PivotChart 2) B คือ ภาพประกอบ (Illustrations) ใช้สําหรับสรา้ งการสรา้ งผงั งาน หรอื ได อะแกรม 3) C คือ แอพพลเิ คชัน (Apps) ใช้สําหรับเชื่อมตอ่ กับแอพพลิเคชันของไมโครซอฟท์ 4) D คือ แผนภมู ิ (Charts)ใช้สรา้ งแผนภมู หิ รอื กราฟแบบตา่ งๆ 5) E คือ รายงาน (Reports) ใช้สําหรบั สร้างรายงานตา่ ง ๆ 6) F คือ วิเคราะห์ข้อมูล (Spark lines) ใช้สําหรบั การวิเคราะห์ข้อมูล ในลักษณะ แผนภมู ิ 7) G คือ ตวั กรอง (Filters) ใช้สําหรบั สร้างตวั กรองสําหรบั กรองข้อมูล 8) H คือ การเชื่อมโยง (Link) ใช้สําหรบั สรา้ งจุดเชื่อโยงไปยงั เว็บไซต์ อเี มล์ หรอื โปรแกรมตา่ งๆ 9) I คือ ข้อความ (Text) ใช้สําหรับสรา้ งข้อความศิ ลป์ ใส่หัวหรอื ท้ายกระดาษ และใส่ สัญลกั ษณ์ 8

3. เมนเู ค้าโครงหน้ากระดาษ (Page Layout) เป็นเมนทู ่ใี ช้สา หรับปรับแตง่ กําหนดขนาด หรือมมุ มองตา่ งๆ บนหน้าแผ่นงานให้ เป็นไปตามความตอ้ งการ 9

1แ)บAบสคํืาอเรชจ็ ุดรรูปูปแบบ (Themes) ใช้สาหรับออกแบบตาราง ตวั อกั ษร และสีสัน 2ก)รBะดคาือษ ตรงัู้ปคแ่าบหบนก้าากรรวะาดงากษระ(ดPาaษgeแลSะeขtuอpบ)กใรชะ้สดาาหษรบั กําหนดระยะห่าง ขนาด พ3)อCดีกคบั ือหตนน้าเกอรงะปดราับษพอดี (Scale to Fit) ใช้สาหรบั กาํ หนดความสงู หรอื กว้างให้ 4แ)ลDะรคายือลตะวัเอเลียอืดกขแอผงน่แผงน่านงา(นSheet Options) ใช้สาหรบั กําหนดการแสดงมุมมอง 5) E คือ จัดเรียง (Arrange) ใช้สาหรับจดั เรียงลาดับของวตั ถุท่วี างซ้อนกันอยู่ 10

4. เมนสู ูตร (Formula) เป็นเมนทู ่ใี ช้สาหรบั ใส่สูตรคํานวณและฟังก์ชันสา เร็จรูปตา่ งๆ ลงในเซลลโ์ ดยแยกประเภทตามการใช้งาน เช่นฟังกช์ ันการเงิน ฟังก์ชันเก่ยี วกับข้อความ ฟังกช์ ันทางคณิตศาสตร์ เป็นตน้ 11

1ก)าAรคคําือนวไณลบตรา่ างรๆฟี ังกช์ ัน (Function Library) ใช้สาหรบั ใส่สูตรและฟังกช์ ันด้าน 2อ)้างBอคงิ ือในชส่ือูตทร่ีกาํ หนด (Define Names) ใช้สาหรับกาํ หนดช่ือของกลุม่ เซลล์เพ่ือใช้ 3ผ)ลCกรคะือทบตแรลวจะสควอาบมสผูตดิ รพ(ลFาoดrจmาuกlaกาAรuคdําitนinวgณ) ใช้สาหรบั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แ4)บDบอคัตือโนกามรัตคิ ํานวณ (Calculation) ใช้สาหรบั กาํ หนดให้โปรแกรมมกี ารคํานวณ 12

5. เมนขู ้อมูล (Data) เป็นเมนูท่ใี ช้สาหรบั ตดิ ตอ่ ข้อมลู กับภายนอกโปรแกรม และทางานกบั ข้อมูลท่ีมีจานวนมาก เพื่อให้มคี วามคลอ่ งตวั ในการใช้งานและ มีประสิทธภิ าพเพ่ิมข้ึน 13

1) A คือ รับข้อมลู ภายนอก (Get External) เป็นส่วนรบั ข้อมูลจากภายนอก โปรแกรม เช่น จากฐานข้อมลู โปรแกรม Access เว็บไซต์ หรือแหลง่ ข้อมลู อืน่ ๆ 2) B คือ การเช่ือมตอ่ (Connections) ใช้สาหรบั เช่ือมโยงไปยังข้อมูลท่อี ย่นู อก สมุดงาน 3) C คือ เรยี งลาดับและกรองข้อมูล (Sort & Filter) ใช้สาหรับเรยี งลาดับ ตวั เลข/ตวั อกั ษร และกรองข้อมลู เพื่อให้แสดงเฉพาะผลลพั ธ์ท่ตี อ้ งการ 4) D คือ เครือ่ งมือข้อมูล (Data Tools) ใช้สาหรบั จดั การข้อมลู เช่น แบง่ ข้อความเป็นคอลมั น์เลอื กรายการท่ีซากันออกไป และกาํ หนดการตรวจสอบ การกรอกข้อมลู ลงในเซลล์ 5) E คือ เค้าร่าง (Outline) ใช้สาหรบั จัดกลุ่มข้อมลู ท่มี ีมากๆ โดยสามารถยบุ หรอื ขยายกลุ่มเซลล์นั้น 14

6แซ.ล่ึงเปะมกรนาะรตู กปรอว้อบจงดทกว้ ันายนกคาว(รRามตeปรviวลeจอwสด)อภเบปยั ค็นขวอเมางมนแถผทู ูกน่ ่รี ตวงอ้ บางนรขวอมงปตรวั ะสโะยกชดน์หกาลราแยทๆรอกยข่า้องคเขิด้าเดห้ว็นยกนั 15

1ค)้นAคคว้าืออก้างาอรงิพขิส้อจู มนูล์อกัแษละรก(าPรrใoชo้พfiจnนg)านใชุก้ตรรมวเพจสื่ออแบปคลวคาามศถั พูกทต์ อ้ งของตวั สะกด 2) B คือ ภาษา (Language) ใช้สาหรับเปล่ยี นภาษา 3ใน) Cเซคลือล์ ข้อคิดเห็น (Comments) ใช้สาหรับเพ่ิมข้อคิดเห็นหรือเสนอแนะลง 4ไม) ่ใDหค้ผือ้อู น่ื กใาชร้รเป่วลม่ีย6นแปลง (Changes) ใช้สาหรับลอ็ คแผ่นงานหรือสมดุ งาน 16

7. เมนมู ุมมอง (View) เป็นเมนทู ่ใี ช้ปรับเปล่ียนมุมมองของแผน่ งานแบบ ตา่ งๆ ให้เหมาะสมกับลกั ษณะการทางานในขณะนั้น 17

1หข)อรAงือหมคนมุ ือ้มามแอมุผงมน่แอบงงาบสนเคมใ้หาดุ โ้เงคปาร็นนงไ(ปเWปตo็นาrมตkลbน้ กัooษkณVะiขeอwงsก) าใรชใ้สชา้งหารนบั เปชร่นบั เมปุมลม่ยี อนงมแุมบมบอปงกติ ใ2)นBแผค่นืองแานสดเงช/่นซเ่อสน้น(ตSาhรoาwง/หHัวidเรeอื่ ) งใชห้สราือหแรถับบกสาํ ูตหรนเดปใ็นหต้แน้ สดง/ซ่อนส่วนตา่ งๆ 3ข)้ึนCหรคอื ือเลยก็ อ่ ล/ขงยาย (Zoom) ใช้สาหรบั สาหรับย่อหรอื ขยายหน้าแผน่ งานให้ใหญ่ ต4)รึงDแคนือวแหผนน่ ้างตาา่ นง (เWป็นinตdน้ows) ใช้สาหรบั จัดการแผน่ งาน เช่น ซ่อนแผ่นงาน 5ท)างEาคนือไวม้ใาชโ้งคารน(ภMาaยcหrลoังs) ใช้สาหรบั สร้างมาโคร โดยการบนั ทกึ ขั้นตอนการ 18

คุณสมบตั ิ 19 1. ความสามารถดา้ นการคํานวโปรแกรม Microsoft Excel สามารถป้อนสูตรการ คํานวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เป็นตน้ 2. ความสามารถด้านใช้ฟังกช์ ัน เช่นฟังก์ชันเก่ยี วกับตวั อักษร ตวั เลข วนั ท่ี ฟังก์ชัน เก่ยี วกบั การเงนิ หรอื เก่ยี วกับการตดั สินใจ 3. ความสามารถในการสร้างกราฟ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถนําข้อมูลท่ี ป้อนลงในตารางมาสรา้ งเป็นกราฟได้ทันที 4. ความสามารถในการตกแตง่ ตารางข้อมลู โปรแกรม Microsoft Excel สามารถ ตกแตง่ ตารางข้อมลู หรอื กราฟ ข้อมลู ดว้ ยภาพ สี และรูปแบบตวั อักษรตา่ ง ๆ เพ่ือให้เกดิ ความสวยงามและทําให้แยกแยะข้อมลู ไดง้ า่ ยข้ึน 5. ความสามารถในการเรยี งลําดับข้อมูล โปรแกรม Microsoft Excel สามารถ คัดเลือกเฉพาะข้อมูลท่ตี อ้ งการมาวเิ คราะห์ได้ 6. ความสามารถในการพิมพ์งานออกทางเคร่ืองพิมพ์ โปรแกรม Microsoft Excel สามารถพิมพ์งานทงั้ ข้อมูลและรูปภาพหรือกราฟออกทางเครือ่ งพิมพ์ได้ทนั ที ซ่ึงทําให้ งา่ ยตอ่ การสรา้ งรายงาน 7. ความสามารถในการแปลงข้อมูลในตารางให้เป็นเวบ็ เพจ เพื่อนําไปแสดงในโฮ มเพจ

ฟังชั่นในการใช้งาน ฟังชั่น SUM 1.SUM(การหาผลรวมของข้อมูล) =SUM(Number 1,Number2,...) Number เป็นกลมุ่ ของข้อมูลท่ตี อ้ งการหาผลรวมซ่ึงสามารถจะใส่ไดม้ ากกว่า1กล่มุ โดยใช่ เครอ่ื งหมาย , คั่นระหวา่ งแตล่ ะกลมุ่ ข้อมูล เช่น ให้หาผลรวมตงั้ แตเ่ ซลล์ A1 ถึง A10 =SUM(A1:A10) 20

ฟังชั่นSUMIF(การหาผลรวมแบบมีเงือ่ นไข) =SUMIF(Range,Criteria,_range) Range ขอบเขตของข้อมูลท่ตี อ้ งการตรวจสอบตามเง่ือนไข Criteria เงือ่ นไขท่กี าํ หนดให้คํานวณหาผลรวม Sum_range ช่วงของเซลล์ท่ตี รวจสอบตามเงอื่ นไขเพื่อนํามาคํานวณ เช่น ให้หาผล รวมเฉพาะเส้ือสีฟ้าโดยเซลลท์ ่อี ้างคือเซลล์ B1 ถึงเซลล์ B12 และให้อ้าง เซลลร์ าคาของเสื้อสีฟาท่เี ซลล์ C1 ถึงเซลล์ C12 =SUMIF(B1:B12,”เส้ื อสี ฟ้า”,C1:C12) 21

ฟังชั่นMIN (การหาค่าตาสุดของจํานวน) =MIN (Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมูลท่ตี อ้ งการหาค่าตาสดุ เช่น ให้หาค่าตาสุดของ เซลล์ B3 ถึงเซลล์ B12 =MIN(B3:B12) 22

ฟังชั่นMAX (การหาค่าสูงสุดของจํานวน) =MAX(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมงู ท่ตี อ้ งการหาค่าสูงสุด เช่น ให้หาค่าสูงสดุ ของ เซลล์ B2 ถึงเซลล์ F2 =MAX(B2:F2) 23

ฟังชั่นAVERAGE(การหาค่าเฉล่ียของข้อมูล) =AVERAGE(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมูลท่ตี อ้ งการหาค่าเฉล่ีย เช่น ให้หาค่าเฉล่ียของ เซลล์ F1 ถึงเซล์ F8 =AVERAGE(F1:F8) 24

ฟังชั่นCOUNT(การนับจาํ นวนข้อมลู ท่ีเป็นเฉพาะตวั เลข =COUNT(Value1,Value2,...) Value ช่วงของกล่มุ เซลล์ท่นี ํามาใช้ในการนับจํานวน เช่น ให้นับจาํ นวนรหัส นักเรยี นวา่ มกี ่คี น โดยอ้างท่เี ซลล์ C2 ถึงเซลล์ C10 =COUNT(C2:C10) 25

ตวั อยา งฟังชั่นCOUNT มตี ัวอยา ง ใชสตู ร COUNT ใหนาํ ชอง (B3:B7) มาคูณกัน จะไดผลลพั ธ = 4 26

ฟังชั่นCOUNTA(การนับจํานวนข้อมูลท่ีเป็นทัง้ ข้อความและ ตวั เลขปนกนั ) =COUNTAZValue1,Value2,...) Value ช่วงของกลมุ่ เซลลท์ ่นี ํามาใช้ในการนับจํานวน เช่น ให้นับรหัสของสินค้า วา่ มจี ํานวนเทา่ ใด โดยอ้างท่ีเซลล์ A3 ถึงเซลล์ A20 =COUNTA(A3:A20) 27

ตัวอยา งฟังชั่นCOUNTA ตัวอยาง ใชส ูตร COUNTA นาํ เซลลที่ B2:B6 มาคณู กันจะ ไดผลลพั ธต ามภาพ สวนเซลลอ ื่นๆ ถา จะหาผลรวมกท็ ําตามแบบที่มี ใหไวไ ดเลย 28

ฟังชั่นCOUNTIF(การนับจาํ นวนข้อมลู แบบมี เงอ่ื นไข =COUNTIF(Range,Criteria) Range ช่วงของเซลลท์ ่ตี อ้ งการนับตามเงือ่ นไข Criteria เงือ่ นไขท่ใี ช้ตรวจสอบและนับจาํ นวนของเซลล์ เช่น ให้นับเฉพาะนักเรยี นท่ผี า่ นกิจกรรม ชมรม โดยอา้ งอิงท่เี ซลล์ G2 ถึงเซลล์ G40 =COUNTIF(G2:G40,”ผา่ น”) 29

ตัวอยา งฟังชั่นCOUNTIF เชน่ การหาเพศวา่ ชายมีกค่ี นหญงิ มีก่คี น 1.เขียนสตู รCOUNTIFและเลือกตรงเพศเพื่อหาจํานวนเพศ 2.เขียนสตู รตอ่ วา่ COUNTIF(B2:B6,”หญงิ ”) 3.และ Enter 30

ฟังชั่นVAR(การหาค่าความแปรปรวน) รู ปแบบ =VAR(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมูลท่ีตอ้ งการหาค่าความแปรปรวน เช่น ให้หาค่าความแปรปรวนท่ีเซลล์ C1 ถึงเซลล์ C16 =VAR(C1:C16) 31

ฟังชั่นSTDEV (การหาค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน) = STDEV(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมูลท่ีตอ้ งการหาค่าเบ่ยี งเบนมารตรฐาน เช่น การหา ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐานท่ีเซลล์ B1 ถึงเซลล์ B8 =STDEV (B1:B8) 32

ฟังชั่นMEDIAN (การหาค่ากลาง) =MEDIAN(Numver1,Number2,) Number เป็นกล่มุ ของข้อมูลท่ตี อ้ งการหาค่ากลาง เช่น ให้หาค่ากลางท่เี ซลล์ G4 ถึงเซลล์ G9 =MEDIAN (G4:G9) 33

ฟังชั่นROUND (การปัดจดุ ทศนิยมข้ึนหรือลง) =ROUND(Number,Num_digits) Number เป็นกล่มุ ของข้อมลู ท่ีตอ้ งการกาํ หนดปัดจุดทศนิยม Num_digits จํานวนหลกั ของทศนิยม เช่น ให้กาํ หนดทศนิยมเป็น 0 ท่เี ซลล์ C3 ถึงเซลล์ C6 =ROUND(C3:C6) 34

ฟังชั่นIF (การหาค่าจรงิ หรอื เทจ็ จากเงอ่ื นไขท่ีระบ)ุ =IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false) Logical เงื่อนไขท่ใี ช้ในการเปรยี บเทียบหรือตรวจสอบข้อมลู Value_if_true ค่าของเงื่อนไขท่ถี ูกตอ้ ง (จรงิ ) Value_if_false ค่าของเงอ่ื นไขท่ไี ม่ถูกตอ้ ง (เทจ็ ) เช่น ถ้าท่ีเซลล์ B2 มากกว่า หรือเท่ากบั 60 ให้แสดงผ่าน ถ้าท่เี ซลล์ B2 น้อยกวา่ 60 ให้แสดง ไม่ผ่าน =IF(B2>=60,”ผ่าน”,”ไมผ่ ่าน”) 35

ฟังชั่นDATE (การระบขุ ้อมลู ท่ีเป็นวนั ท่ี) =DATE(Year,Month,Day) Year ใส่ค่าค.ศ. Month ใส่ค่าเดือน Day ใส่ค่าวันท่ี เช่น =DATE(20,10,06,11)ผลลัพธ์11มิถุนายน 2010 36

ฟังชั่นDATEDIF (การระบุเงื่อนไขในการหาข้อมลู ท่ีเป็นวนั ท่ี) =DATEDIF(ระบเุ งือ่ นไข) เช่น การหาอายุ =DATEDIF(F2,TODAY(),”Y”&”ปี”&DATEDIF(F2,TODAY(),”YM”)& “เดอื น” หากผู้ใช้พิมพ์ข้อมูลท่ชี ่อง F2 คือ 5/12/1985 ผลลัพธ์ คือ อายุ 24 ปี 4เดือน 37

ตัวอยา่ งฟังชั่นDATEDIF เช่นการหาอายุ 38 หากตอ้ งการรู้วา่ ปัจจบุ นั เราอายเุ ทา่ ไรแลว้ เราสามารถหาไดจ้ ากวนั ท่เี ราเกดิ โดยใช่สูตร DATERDIF และตามดว้ ย(ช่องเชลล์,TODAY(),\"Y\")&\" ปี\"&DATEDIF(ช่องเชลล์,TODAY(),\"YM\")&\"เดือน\" และ Enter เราจะได้อายขุ องเราในปัจจบุ นั

ฟังชั่นNOW (การหาวันท่ีและเวลาปัจจบุ นั ) =NOW() เช่น =NOW()ผลลพั ธ์ 7/11/2015 14:24 39

ฟังชั่นHOUR (การหาชั่วโมง) =HOUR(Serial_number) Serial_number ค่าของตวั เลขหรือข้อความท่อี ยใู่ นรูปแบบของเวลา เช่น ท่เี ซลล์ A5 คือ 8:32น. ให้หาชั่วโมง =HOUR(A5)ผลลัพธ์ 8 40

ฟังชั่นVLOOKUP (การค้นหาและแสดงข้อมูล) =VLOOKUP(Lookup_value,Table_array,Col_index_num,Ran ge_lookup) Lookup_value ค่าท่ใี ช้ในการค้นหา Table_array ตารางข้อมูลท่ีใช้สําหรับแสดงผลและค้นหาข้อมูล Col_index_num คอลัมน์ท่ตี อ้ งการข้อมลู โดยคอลมั น์แรกมคี ่าเป็น 1 และคอ ลัมน์ ตอ่ ไปจะเป็น2,3,...ตามลาํ ดับ Range_lookup ค่าทางตรรกะท่ีกําหนดในการค้นหามี 2รูปแบบ False ใช้หาค่าท่ตี รงกับค่าท่ใี นการค้นหา True ใช้ค้นหาค่าท่ใี กล้เคียงท่ีสุดท่นี ้อยกว่าค่าในการค้นหา 41

บรรณานุกรม ความหมายของ Excel เข้าไดจ้ าก https://is.gd/s2Mska ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม เข้าไดจ้ าก https://is.gd/WC6S4u คุณสมบตั ขิ องโปรแกรม เข้าไดจ้ าก https://is.gd/yhYfl9 ฟังชั่นในการทํางาน นํามาจากหนังสือโปรแกรมตารางคํานวน 2204-2103 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศั กราช 2556

ช่ือ-สกลุ : นางสาว บุณรดา เน่ื องปิยา ระดบั ชั้น : ปวช.1/2 แผนก : คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ ประวตั สิ ่วนตวั เกดิ : วนั ท่ี 26 พฤษภาคม 2547 อาย:ุ 15ปี สงู : 169 นาหนัก : 70 สัญชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธ ท่ีอยู่ : บา้ นเลขท่ี 6/2 หม.ู่ 6 ต.บ้านมา้ อ.บางไทร จ. พระนครศรอี ยธุ ยา เบอร์ : 062-694-3840 ประวตั กิ ารศึ กษา มธั ยมตน้ : รร. ไตร อรุณศึกษา ปัจจบุ ัน : วิทยาลัยเทคนิ คปทมุ ธานี

ชื่อ-สกลุ : นางสาว กาญจนา ธรรมมา ระดับชั้น : ปวช.1/2 แผนก : คอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ ประวัตสิ ่วนตวั เกดิ :วนั ท่ี 1 กมุ ภาพันธ์ 2546 อายุ :ุ 16ปี สงู : 173 นาหนัก : 52 สัญชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธ ท่อี ยู่ บ้านเลขท่ี 30 หมู่. 4 ต. สิงหนาท อ. ลาดบัวหลวง จ. พระนครศรอี ยธุ ยา เบอร์ : 096-739-4948 ประวัตกิ ารศึ กษา มธั ยมตน้ : รร. ไตรอรุณ ศึกษา ปัจจบุ ัน : วิทยาลยั เทคนิ คปทมุ ธานี

อาจารย์ผสู้ อน วชิ าโปรแกรมตารางคํานวน (รหัสวชิ า2204-2103) ครู รัตนภรณ์ จันทะวงศ์ (อาจารย์ ฟ้า) ตาํ แหน่ง: ครู ฝึกสอน แผนกวชิ า: คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลยั เทคนิคปทมุ ธานี

79 หม5ู่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี วิทยาลยั เทคนิคปทมุ ธานี (Pathumthani Technical College) แผนกคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ Bussiness Computer