Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นรินรัตน์ ปละสอน

นรินรัตน์ ปละสอน

Published by Narinrat Phalason, 2021-02-19 01:34:58

Description: นรินรัตน์ ปละสอน

Search

Read the Text Version

เรอ่ื ง ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล จดั ทาโดย นางสาว นรนิ รตั น์ ปละสอน ปวส.1 นาเสนอ นางสาวจตพุ ร เมอื งมา วทิ ยาลยั เทคนคิ เทงิ

คานา ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล เป็นภาษอี ากรประเภทหน่งึ ทบ่ี ญั ญตั ไิ ว ้ ในประมวลรษั ฎากร จดั เก็บจากเงนิ ไดข้ องบรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ คุ คลทจ่ี ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ นางสาว นรินรตั น์ ปละสอน

สารบญั ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล ............................................................................................................................1 กจิ การร่วมคา้ .....................................................................................................................................2 ภาษหี กั ณ ทจ่ี า่ ย ..................................................................................................................................3 ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ .......................................................................................................................................4 ภาษธี ุรกจิ ฉพาะ ......................................................................................................................................5 อากรแสตมป์ ...........................................................................................................................................6 นิตบิ ุคลท่ไี มต่ อ้ งเสยี ภาษเี งนิ ได้ .................................................................................................................7 ค่าแหง่ กูด๊ วลิ ส์ ...........................................................................................................................................8 การเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบุคลจากกาไรสุทธิ .......................................................................................................9 เงนิ ไดท้ ไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ นติ ิบุคคล ................................................................................................................10 เงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ 8 ประเภท .........................................................................................................................11

ภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล เป็นเคร่อื งมอื ของรฐั ประเภทหน่งึ ท่จี ดั เก็บจากผูป้ ระกอบการท่ีมรี ายไดจ้ ากการ ประกอบกิจการหรอื เน่อื งจากการประกอบกจิ การของบรษิ ทั หรือหา้ งหุน้ สว่ นนติ ิบุคคลในแต่ละรอบระยะเวลา บญั ชี มกี าหนดสบิ สองเดอื นต่อหน่งึ รอบระยะเวลาบญั ชี นอกจากน้ยี งั มวี ธิ ีการจดั เก็บวธิ อี ่นื อกี คอื เกบ็ จาก ยอดรายรบั หรือยอดขายก่อนหกั รายจ่ายใด ๆ หรอื เก็บจากค่าโดยสาร ค่าระวางฯ ของกิจการขนส่งระหวา่ ง ประเทศ หรอื เก็บจากการจาหน่ายเงนิ กาไรไปต่างประเทศ เป็นตน้ ผูม้ หี นา้ ทเ่ี สยี ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคล บริษทั หรอื หา้ งหุน้ สว่ นนิตบิ ุคคล ทจ่ี ดทะเบยี นตง้ั ข้นึ ตามกฎหมายไทย 1.บริษทั หรือหา้ งหนุ้ สว่ นนิติบุคคล ทจ่ี ดทะเบยี นตงั้ ข้นึ ตามกฎหมายต่างประเทศ และเขา้ มาประกอบกจิ การ ในประเทศไทย (กรณีมสี าขาในไทย) หรือมตี วั แทนซง่ึ เป็นลูกจา้ ง หรือผูท้ าการแทน หรอื ผูท้ าการติดต่อในการ ประกอบกิจการในประเทศไทย ซง่ึ เป็นเหตุใหไ้ ดร้ บั เงนิ หรอื ผลกาไรในประเทศไทย 2.กิจการขนส่งระหวา่ งประเทศ 3.บริษทั หรอื หา้ งหนุ้ ส่วนทจ่ี ดทะเบยี นจดั ตง้ั ข้นึ ตามกฎหมายต่างประเทศ มไิ ดป้ ระกอบกิจการในประเทศ ไทย แต่ไดร้ บั เงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามประมวลรษั ฎากร มาตรา ๔๐ (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) ทจ่ี า่ ยจากหรือใน ประเทศไทย 4.กจิ การซง่ึ ดาเนินการเป็นทางการคา้ หรือหากาไรโดยรฐั บาลต่างประเทศ องคก์ ารของรฐั บาลต่างประเทศ หรือนติ บิ ุคคลอ่นื ทต่ี ง้ั ข้นึ ตามกฎหมายของต่างประเทศ 5.กจิ การร่วมคา้ ซง่ึ ไดแ้ ก่กิจการทด่ี าเนนิ การร่วมกนั เป็นทางคา้ หรอื หากาไรระหวา่ งบริษทั กบั บริษทั บริษทั กบั หา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ คุ คล หา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ ุคคลกบั หา้ งหนุ้ ส่วนนติ ิบคุ คล หรือระหวา่ งบรษิ ทั และหรือหา้ ง หุน้ ส่วนนติ บิ ุคคลกบั บุคคลธรรมดา คณะบุคคลทม่ี ใิ ช่นิติบุคคล หา้ งหนุ้ สว่ นสามญั หรอื นติ บิ คุ คลอน่ื

เงนิ ไดท้ ่ไี ดร้ บั ยกเวน้ ภาษเี งนิ ไดน้ ิติบคุ คล ยกเวน้ ตามอนุสญั ญาภาษซี อ้ น 1.ยกเวน้ ตามพระราชบญั ญตั ิภาษเี งนิ ไดป้ ิโตรเลยี ม 2.ยกเวน้ ค่าลงทะเบยี นหรือค่าบารุงจากการรบั บริจาคของมลู นิธหิ รือสมาคม 3.ยกเวน้ เงนิ ไดจ้ ากกจิ การของโรงเรียนเอกชนท่มี ลู นิธิหรือสมาคมจดั ตง้ั ข้นึ ตามกฎหมายว่าดว้ ยโรงเรียน เอกชน กาไรสุทธทิ ่จี ะตอ้ งเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ ุคคล ไดม้ าจากรายไดข้ องกจิ การหรือเน่อื งจากกิจการหกั ดว้ ยรายจ่าย ของกจิ การ ตามเงอ่ื นไขท่รี ะบุไวใ้ น มาตรา ๖๕ ทวิ และ มาตรา ๖๕ ตรี แหง่ ประมวลรษั ฎากร 1. บรษิ ทั หรือหา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ ุคคลท่ตี ง้ั ข้ึนตามกฎหมายไทย โดยใหน้ ารายไดท้ ง้ั ทเ่ี กิดข้นึ จากการประกอบกิจการในประเทศไทย และในต่างประเทศ มารวม คานวณกาไรสุทธเิ พอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบคุ คลตามประมวลรษั ฎากร 2. บรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนิติบุคคลท่ีตง้ั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศ บรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ ส่วนทเ่ี ขา้ มาประกอบกจิ การในประเทศไทยแห่ง เดยี วโดยเฉพาะ หรือเขา้ มาตงั้ สาขาในประเทศไทยตามมาตรา 66 แห่งประมวลรษั ฎากร ทง้ั น้ี กจิ การทก่ี ระทาดงั กลา่ วตอ้ งเป็นกิจการอย่าง อน่ื ท่มี ใิ ช่กิจการขนสง่ ระหวา่ ง ประเทศ 3. บริษทั หรือหา้ งหนุ้ สว่ นนิติบุคคลท่ีตง้ั ข้นึ ตามกฎหมายของตา่ งประเทศ บริษทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นทม่ี ลี ูกจา้ งผูท้ าการแทนหรือผูท้ าการ ติดต่อในการประกอบกจิ การในประเทศ ไทย ซง่ึ เป็นเหตุใหไ้ ดร้ บั เงนิ ไดห้ รือผลกาไรในประเทศไทยตามมาตรา 76 ทวแิ หง่ ประมวลรษั ฎากร

กิจการรว่ มคา้ ไดแ้ ก่ กิจการท่ดี าเนนิ ร่วมกนั เป็นทางคา้ หรือหากาไรระหวา่ งบริษทั กบั บริษทั บรษิ ทั กบั หา้ งหนุ้ ส่วน นิตบิ คุ คล หา้ งหุน้ ส่วนนติ บิ คุ คลกบั หา้ งหุน้ สว่ นนติ ิบุคคล หรอื บรษิ ทั และ/หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั บุคคล ธรรมดา คณะบุคคลหรือหา้ งหนุ้ ส่วนสามญั ท่มี ใิ ช่นติ ิบคุ คล หรือบุคคลอ่นื บริษทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนิติบุคคลท่ตี ง้ั ข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศ ซง่ึ มหี นา้ ท่เี สยี ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลใน ประเทศไทย กต็ ่อเมอ่ื เขา้ เงอ่ื นไขขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ดงั ต่อไปน้ี บริษทั หรอื หา้ งหนุ้ ส่วนนิติบคุ คลต่างประเทศนน้ั มไิ ดป้ ระกอบกิจการในประเทศไทย แต่ไดร้ บั เงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) ทจ่ี ่ายจากหรอื ในประเทศไทย (มาตรา 70) ภาษหี กั ณ ท่จี ่าย การทบ่ี รษิ ทั ทาธุรกิจ บางครง้ั ก็ตอ้ งมกี ารจา้ งบคุ คลภายนอกซง่ึ ตามกฎหมายการทาแบบน้ี บริษทั มหี นา้ ทต่ี อ้ ง เสยี ภาษแี บบ “หกั ณ ท่จี า่ ย” แลว้ เอาเงนิ ทเ่ี กบ็ ไวม้ ายน่ื ใหส้ รรพากรในปีภาษนี นั่ เอง ตวั อยา่ งเช่น ถา้ บริษทั จา้ งช่างรบั เหมาทางาน เวลาจะจา่ ยเงนิ เขา บริษทั ก็มหี นา้ ทจ่ี ะตอ้ งหกั ค่าจา้ งของเขาสว่ น หน่งึ ท่เี รยี กวา่ ภาษแี บบหกั ณ ทจ่ี ่าย และย่นื ใหก้ บั สรรพากร ท่หี กั แบบน้ี ส่วนหน่งึ เป็นการการนั ตวี า่ ทกุ ๆ การจา้ งงานบุคคลภายนอกโดยนิติบุคคลจะทาใหร้ ฐั ไดภ้ าษที ม่ี า จากเงนิ ไดข้ องบคุ คลรบั จา้ งเหลา่ นน้ั มาอยู่ในมอื ก่อน พรอ้ มกบั รบั รูร้ ายไดบ้ างส่วนของบคุ คลเหลา่ นนั้ ซง่ึ ภาษี สว่ นนน้ั ก็จะนบั เป็นภาษที ถ่ี อื วา่ บุคคลเหลา่ นนั้ ไดจ้ ่ายเป็นภาษเี งนิ ไดข้ องตวั เองไปแลว้ ลว่ งหนา้ สว่ นภาษเี หลา่ น้ี จะตอ้ งจา่ ยเพม่ิ หรอื จะไดภ้ าษคี ืน กข็ ้นึ อยู่กบั รายไดข้ องบุคคลเหลา่ นนั้ วา่ ตอ้ งเสียภาษเี ท่าใดในปีนนั้ ๆ ถา้ เขา ถกู “หกั ณ ทจ่ี ่าย” มากกวา่ ภาษที ่เี ขาตอ้ งเสยี ในปีภาษนี น้ั ๆ เขากม็ สี ทิ ธ์ิย่นื ขอภาษคี ืนได้

ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ เป็นสง่ิ ทเ่ี ราคนุ้ เคย เพราะเรา “จา่ ย” รวมกบั ราคาทเ่ี ราซ้อื สนิ คา้ และบริการจากภาคธุรกิจ ซง่ึ ในทางทฤษฎี ธุรกิจทุกรูปแบบ ไมว่ า่ จะเป็นของบุคคลธรรมดาไปจนถงึ จดทะเบยี นบริษทั ถา้ มีรายไดต้ ่อปีถงึ 1.8 ลา้ นบาท ก็ลว้ นมหี นา้ ทต่ี อ้ งจา่ ยภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ทงั้ ส้นิ พดู งา่ ย ๆ ถา้ เรามรี ายไดเ้ยอะ รฐั บงั คบั ใหต้ อ้ งจ่ายภาษมี ลู ค่าเพม่ิ แบบไมม่ เี งอ่ื นไข และเน่อื งจากเรา ตอ้ งจ่าย เราจงึ ตอ้ งไปชารจ์ จากผูท้ ่มี าซ้อื สนิ คา้ และบริการเราอกี ที น่เี ป็นสาเหตุท่ธี ุรกจิ จานวนมากทาการคดิ ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ จากสนิ คา้ และบริการทเ่ี ราซ้อื เสมอ อยา่ งไรก็ดี สาหรบั ธุรกิจรายเลก็ กต็ อ้ งไมล่ มื วา่ พอรายไดเ้ราถงึ 1.8 ลา้ นบาทเมอ่ื ไร ทางสรรพากรกจ็ ะเก็บภาษตี รงน้จี าก เราทนั ที เรากต็ อ้ งคดิ ดว้ ยวา่ ในปีไหนธุรกิจเราจะใหญ่ขนาดรายได้ 1.8 ลา้ นบาท และตอ้ งเสยี ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ เพราะนนั่ หมายถงึ เราอาจตอ้ งเปลย่ี นราคาสนิ คา้ และบรกิ ารเราเลย เพราะเรามตี น้ ทุนทางภาษมี ากข้นึ จาก สนิ คา้ ทกุ หน่วยทเ่ี ราขายออกไป และถา้ เราประเมนิ วา่ เราจะรายไดถ้ งึ 1.8 ลา้ นบาทในปีภาษใี ด เราก็ควรจะไป จดภาษมี ลู ค่าเพม่ิ กบั กรมสรรพากรใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎหมาย ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ ภาษคี อื มนั จะมเี ฉพาะตามธุรกจิ ท่กี ฎหมายกาหนด คอื จะตอ้ งเก็บภาษแี บบเฉพาะกิจ นอกเหนือจากทุกแบบ ทว่ี า่ มา ธุรกิจพวกทจ่ี ะตอ้ งโดนภาษธี ุรกิจเฉพาะก็อย่างเช่น ธนาคารพาณิชย์ โรงรบั จานา ธุรกจิ คา้ ขาย อสงั หาริมทรพั ย์

อากรแสตมป์ อากรแสตมป์ถา้ จะพดู งา่ ย ๆ กค็ อื มนั เป็นภาษที ่รี ฐั จะเก็บเมอ่ื ธุรกจิ ทาสญั ญาบางชนิด ธุรกจิ ก็ตอ้ งเชค็ กบั ฝ่าย กฎหมายดี ๆ วา่ การทาสญั ญาอะไรจะเสยี อากรแสตมป์ เพราะไมใ่ ช่การทาสญั ญาทกุ ชนิดทจ่ี ะตอ้ งเสยี อากร แสตมป์ ตวั อยา่ งของอากรแสตมป์ทเ่ี ราตอ้ งเสยี ใหร้ ฐั ก็เช่น การทาสญั ญาเช่าท่ดี นิ การเช่าซ้อื ทรพั ยส์ นิ การ จา้ งทาของ การทาสญั ญากูย้ มื เงนิ เป็นตน้ ทง้ั น้กี ารเกบ็ อากรแสตมป์นนั้ ก็มคี วามแตกต่างกนั ไปในอากรแต่ละประเภท บางประเภทจะเก็บตายตวั ต่อการ ออกเอกสาร 1 ฉบบั เช่นการออกใบมอบอานาจ หรอื ใบรบั ของ แต่บางประเภทกจ็ ะคิดอากรแสตมป์เป็น อตั ราสว่ นของมลู ค่าธุรกรรม เช่น การเช่าท่ดี นิ หรือการโอนใบหุน้ เป็นตน้ นอกจากน้เี ราก็ตอ้ งเขา้ ใจดว้ ยวา่ อากรแสตมป์ในแต่ละชนิดนน้ั มกี ารกาหนดอยา่ งต่างกนั ไปวา่ ฝ่ายใดของคู่สญั ญานนั้ จะตอ้ งเป็นผูจ้ ่ายภาษี ตรงส่วนน้ี ซง่ึ รายละเอยี ดเหลา่ น้เี ราสามารถไปดูไดใ้ นประมวลรษั ฎากร •กจิ การรว่ มคา้ (Joint Venture) ไดแ้ ก่ กจิ การท่ดี าเนินการร่วมกนั เป็นทางคา้ หรือหากาไร ระหวา่ งบคุ คลดงั ต่อไปน้คี อื บริษทั •บริษทั กบั หา้ งหนุ้ ส่วนนติ ิบคุ คล •หา้ งหนุ้ ส่วนนิตบิ ุคลกบั หา้ งหนุ้ สว่ นนติ บิ คุ คล •บรษิ ทั และ/หรือหา้ งหุน้ สว่ นนติ ิบคุ คลกบั บุคคลธรรมดา •บริษทั และ/หรือหา้ งหนุ้ ส่วนนติ ิบุคคลกบั คณะบุคคลทไ่ี มใ่ ช่นิตบิ คุ คล •บรษิ ทั และ/หรือหา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ ุคคลกบั หา้ งหนุ้ ส่วนสามญั •บริษทั และ/หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั นติ ิบุคคลอน่ื

•นิตบิ คุ คลท่ีไม่ตอ้ งเสยี ภาษีเงนิ ไดน้ ิติบุคคลอน่ื ๆนอกจากท่กี ลา่ วใน 1. และเฉพาะท่ตี งั้ ข้นึ ตามกฎหมายไทย เช่น กระทรวง ทบวง กรม องคก์ ารของรฐั บาลหรือสหกรณ์ ไมม่ หี นา้ ทต่ี อ้ งเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ิติบุคคลแต่อย่าง ใด เน่อื งจากไมเ่ ขา้ ลกั ษณะเป็นบรษิ ทั หรือหา้ งหนุ้ สว่ นนติ ิบุคคลตามบทบญั ญตั แิ หง่ ประมวลรษั ฎากร อย่างไร กด็ ยี งั มนี ติ บิ คุ คลอกี บางประเภททเ่ี ขา้ ลกั ษณะตอ้ งเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลตามประมวลรษั ฎากร •อตั ราภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบคุ คลการเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ิติบคุ คลจะคานวณจากฐานภาษขี องเงนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ซง่ึ ก็คือ ” กาไร (ขาดทุน) สุทธ”ิ ในหลกั เกณฑข์ องการคานวณกาไรสุทธิ กจิ การจะตอ้ งนารายไดท้ ง้ั หมดทเ่ี กดิ จากการ ดาเนินงานมาหกั ออกจากค่าใชจ้ ่ายทง้ั หมด ผลแตกต่างทเ่ี กดิ ข้นึ จะออกมาในรูปของกาไรหรือขาดทนุ สุทธิทาง บญั ชี กิจการจะตอ้ งนา “กาไรทางบญั ชี” มาปรบั ปรุงใหเ้ป็น “กาไรทางภาษีอากร” เพอ่ื นาไปคานวณเสยี ภาษี เงนิ ไดน้ ติ ิบคุ คล อตั ราภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลท่จี ะนาไปคานวณกาไรหรือขาดทนุ สุทธิ •ภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ ุคคลคานวณจากกาไรสทุ ธิการเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลจะคานวณจากฐานภาษขี องเงนิ ไดน้ ติ ิ บุคคล ซง่ึ กค็ อื ”กาไร (ขาดทนุ ) สทุ ธ”ิ ในหลกั เกณฑข์ องการคานวณกาไรสุทธิ กิจการจะตอ้ งนารายได้ ทง้ั หมดทเ่ี กดิ จากการดาเนนิ งานมาหกั ออกจากค่าใชจ้ ่ายทง้ั หมด ผลแตกต่างทเ่ี กดิ ข้นึ จะออกมาในรูปของกาไร หรือขาดทุนสุทธิทางบญั ชี กจิ การจะตอ้ งนา “กาไรทางบญั ชี” มาปรบั ปรุงใหเ้ป็น “กาไรทางภาษีอากร” เพอ่ื นาไปคานวณเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ิติบุคคล อตั ราภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลทจ่ี ะนาไปคานวณกาไรหรือขาดทุนสุทธิ

•ค่าแหง่ กูด๊ วลิ ล์ คา่ แหง่ ลขิ สทิ ธ์อิ ย่างอน่ื ค่าแหง่ กูด๊ วลิ ล์ ค่าแห่งลขิ สทิ ธ์ิหรืออสทิ ธิอย่างอ่นื ท่ไี ดร้ บั จากผูท้ ่ี ไดร้ บั การสง่ เสรมิ การลงทุน ตามสญั ญาทไ่ี ดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสง่ เสริมการลงทุนไดร้ บั การ ยกเวน้ ไมต่ อ้ งรวมคานวณเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดม้ กี าหนดระยะเวลา 5 ปีนบั แต่วนั ท่ผี ูไ้ ดร้ บั การสง่ เสริมมรี ายได้ จากการประกอบกจิ การท่ไี ดร้ บั การส่งเสรมิ การลงทนุ ทงั้ น้ตี ามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารท่คี ณะกรรมการสง่ เสริม การลงทุน ผมู้ ีหนา้ ที่เสยี ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คล (ม.39) 1. บริษทั หรอื ห้างห้นุ ส่วนนิติบคุ คล ท่ีตงั้ ขึ้นตามกฎหมายไทย 1) บรษิ ทั จำกดั บรษิ ทั มหำชนจำกดั 2) หำ้ งหนุ้ สว่ นจำกดั 3) หำ้ งหนุ้ สว่ นสำมญั จดทะเบยี น ฐานภาษีเงินได้ นิ ติบคุ คล เงินได้สทุ ธิหลงั หกั ค่าใช้จ่าย ฐานกาไรสทุ ธิ และค่าหย่อนต่างๆ (รายได้หกั รายจ่ายเนื่องจากกิจการ)

การเสยี ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลจากกาไรสทุ ธิ สาหรบั บริษทั หรือห้างห้นุ ส่วนนิ ติบุคคล และกิจการอ่ืนที่กาหนดไว้ใน มาตรา 39 แห่ง ประมวลรษั ฎากร ให้คานวณเสียภาษีเงินได้นิ ติบุคคลจากกาไรสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชี โดยปกติจะ กาหนดให้มี 12 เดือน ยกเวน้ กรณดี งั น้ี จะน้อยกวา่ 12 เดอื นกไ็ ด้ 1) บรษิ ทั หรอื หำ้ งทเ่ี รม่ิ ตงั้ ใหม่ 2) บรษิ ทั หรอื หำ้ งทย่ี น่ื คำรอ้ งขอเปลย่ี นรอบบญั ชี 3) บรษิ ทั หรอื หำ้ งทเ่ี ลกิ กนั 4) บรษิ ทั หรอื หำ้ งทค่ี วบเขำ้ กนั กำรคำนวณกำไรสุทธเิ พ่อื เสยี ภำษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคล ซง่ึ ไดจ้ ำกกำรคำนวณรำยไดแ้ ละรำยจ่ำย เน่อื งจำกกจิ กำรทก่ี ระทำในรอบระยะเวลำบญั ชี การคานวณกาไรสทุ ธิจะต้องใช้เกณฑส์ ิทธิเท่านัน้ ยกเว้นรายได้บางกรณีตามคาสงั่ อธิบดีกรมสรรพากรท่ี ทป. 155/2549 รายได้และรายจ่ายเนื่องจากกิจการเพื่อการคานวณกาไรสทุ ธิต้องเป็ นไปตาม มาตรา 65 แห่งประมวลรษั ฎากร

เงินได้ที่ได้รบั ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบคุ คล เชน่ 1) เงนิ ปันผล (มำตรำ 65 ทวิ (10)) 2) เงนิ ไดเ้ กย่ี วขอ้ งกบั กม.วำ่ ดว้ ยกำรสง่ เสรมิ กำรลงทุน 3) เงินปันผล ส่วนแบ่งกำไร และกำไรสุทธิท่ีได้จำกกิจกำรโรงเรียนหรือ สถำบนั อุดมศกึ ษำเอกชน (พ.ร.ฎ. ฉบบั ท่ี 284) 4) กำไรสุทธเิ ฉพำะไมเ่ กนิ 150,000 บำทสำหรบั กจิ กำรทม่ี ที ุนไมเ่ กนิ 5 ลำ้ นบำท ทเ่ี รม่ิ หรอื หลงั วนั ท่ี 1 ม.ค.51 5) จำนวนเงินได้เท่ำกบั รำยจ่ำยท่กี ำหนดในมำตรำ 65 ทวี หรอื 65 ตรี หรอื พ.ร.ฎ. ฉบบั อ่นื ) รายจ่ายที่มีเงื่อนไขในการคานวณกาไรสทุ ธิ ตามมาตรา 65 ไดแ้ ก่ (ก) มาตรา 65 ทวิ กำหนดจำนวนเงนิ หรอื เกณฑใ์ นกำรนำรำยจำ่ ยในมำตรำน้ี มำคำนวณกำไรสุทธิ (ข) มาตรา 65 ตรี รำยจ่ำยท่ไี ม่ถอื เป็นรำยจ่ำยทำงประมวลรษั ฎำกร หรอื รำยจำ่ ยตอ้ งหำ้ ม จะถอื เป็นรำยจำ่ ยในกำรคำนวณกำไรสทุ ธไิ มไ่ ด้ 1. ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรพั ยส์ ิน (พ.ร.ฎ. ฉบบั ท่ี 145) (2) เฉพำะทรพั ยส์ นิ ประเภทรถยนตน์ งั่ ไมเ่ กนิ 10 คน ใหห้ กั คำ่ เสอ่ื มรำคำเฉพำะส่วนทไ่ี มเ่ กนิ 1 ลำ้ นบำท

การยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษีเงินได้ นิติบคุ คลจากกาไรสทุ ธิ

การเสียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลจากยอดรายไดก้ อ่ นหกั รายจา่ ย  สำหรบั นิตบิ คุ คล 2 ประเภท คอื 1. กิจการขนส่งคนโดยสารหรือขนของระหว่าง ประเทศ และกระทากิจการในประเทศไทย ซ่ึง จดั ตงั้ ตามกฎหมายของต่างประเทศ (มาตรา 67) 2. มลู นิธิหรอื สมาคม

การเสียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลจากยอดรายไดก้ อ่ นหกั รายจา่ ย  กิจการขนส่งคนโดยสารหรือขนของระหว่าง ประเทศ และกระทากิจการในประเทศไทย การคานวณภาษี (ก) กรณีรบั ขนคนโดยสาร รำยไดท้ เ่ี กบ็ ในประเทศ ไทย ก่อนหกั รำยจ่ำยให้คำนวณอตั รำภำษีร้อยละ 3 (มำตรำ 65 หรอื มำตรำ 67) (ข) กรณีรบั ขนของ รำยได้ท่ีเรียกเก็บทงั้ ในและ นอกประเทศไทย ก่อนหกั รำยจ่ำยให้คำนวณอตั รำ ภำษรี อ้ ยละ 3 (มำตรำ 65 หรอื มำตรำ 67)

เงนิ ได้พงึ ประเมนิ มี 8 ประเภท ดงั นี้ 1. เงินได้ประเภทที่ 1 ได้แก่ เงนิ ได้เน่ืองจากการจ้างแรงงาน ไมว่ า่ จะเป็น - เงนิ เดือน คา่ จ้าง เบยี ้ เลยี ้ ง โบนสั เบยี ้ หวดั บาเหน็จ บานาญ - เงินคา่ เชา่ บ้านที่ได้รบั จากนายจ้าง - เงินท่ีคานวณได้จากมลู ค่าของการได้อย่บู ้าน ซงึ่ นายจ้างให้อย่โู ดยไม่เสยี ค่าเชา่ - เงนิ ท่ีนายจ้างจา่ ยชาระหนีใ้ ด ๆ ซง่ึ ลกู จ้างมีหน้าท่ีต้องชาระ - เงิน ทรพั ย์สนิ หรือประโยชน์ใด ๆ บรรดาท่ีได้เน่ืองจากการจ้างแรงงาน เชน่ มลู ค่าของการได้รบั ประทานอาหาร เป็นต้น เงินได้ประเภทที่ 2 ได้แก่ เงนิ ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตาแหนง่ งานท่ีทา หรือจากการรบั ทางานให้ ไมว่ า่ จะเป็น - ค่าธรรมเนียม ค่านายหน้า คา่ สว่ นลด - เงินอดุ หนนุ ในงานที่ทา เบยี ้ ประชมุ บาเหน็จ โบนสั - เงินคา่ เชา่ บ้านที่ได้รบั เนื่องจากหน้าท่ีหรือตาแหนง่ งานที่ทา หรือจากการรับทางานให้ - เงนิ ที่คานวณได้จากมลู คา่ ของการได้อย่บู ้าน ท่ีผ้จู ่ายเงินได้ให้อย่โู ดยไม่เสยี คา่ เช่า - เงินที่ผ้จู ่ายเงินได้จ่ายชาระหนีใ้ ด ๆ ซงึ่ ผ้มู ีเงนิ ได้มีหน้าที่ต้องชาระ - เงนิ ทรพั ย์สนิ หรือประโยชน์ใด ๆ บรรดาท่ีได้เนื่องจากหน้าท่ีหรือตาแหนง่ งานท่ีทาหรือ จากการ รับทางานให้นนั้ ไมว่ า่ หน้าที่หรือตาแหน่งงาน หรืองานท่ีรบั ทาให้นนั้ จะเป็นการประจาหรือชวั่ คราว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook