51 เรยี ก a วา่ จานวนแรก หรอื จานวนทหี่ นงึ่ เรียน b ว่า จานวนหลงั หรือ จานวนทส่ี อง การเขียนอัตราส่วน a : b อาจเขียนใหอ้ ยู่ในรูปเศษส่วน a ได้ b และอ่านว่า a ตอ่ b โดยกฎบางขอ้ ของเศษส่วน สามารถนามาใชก้ ับ อัตราส่วนได้ ข้อสงั เกต (1) อตั ราส่วนไมใ่ ชเ่ ศษส่วน แต่เขยี นอตั ราส่วน a : b ในรปู a เปน็ การอาศยั รปู ของเศษส่วน b เพ่อื สะดวกในการคานวณ (2) สาหรับอัตราสว่ น a : b หรอื a ปรมิ าณ a และ b แต่ละตัวไมเ่ ทา่ กับศนู ย์ b (3) การบวกอัตราสว่ นต่างจากการบวกเศษสว่ น เชน่ อัตราสว่ น 2 : 3 แทนการเปรียบเทียบ บาสเกตบอลไทย เล่นชนะ 2 ครัง้ จากการเลน่ 3 คร้ังในปีน้ี และอัตราส่วน 3 : 5 แทนการ เปรียบเทียบที่ทีมบาสเกตบอลไทยชดุ เดยี วกนั น้ีเลน่ ชนะ 3 ครัง้ ในการเลน่ 5 คร้ังเมอ่ื ปีที่แลว้ เมอ่ื คิดรว่ มกันจะได้ว่า ทีมบาสเกตบอลชนะ 5 คร้งั จากการเล่น 8 ครงั้ ในรอบ 2 ปี ตาแหนง่ ของจานวนในแตล่ ะอตั ราส่วนนั้นมคี วามสาคัญ กล่าวคือ อัตราส่วน a : b ไม่ใช่อัตราสว่ น b : a ใบงาน เร่อื ง อตั ราส่วน คาช้ีแจง เขียนอัตราส่วนลงในชอ่ งวา่ งให้ถกู ตอ้ ง 1. เขียนอัตราส่วนแทนการเปรียบเทียบจานวนสง่ิ ต่างๆ ในแตล่ ะขอ้ ต่อไปน้ี 1) จานวนชา้ ง ตอ่ จานวนนก ……………………………………… 2) จานวนปลา ตอ่ จานวนหมู ………………………………………
52 3) จานวนนก ต่อ จานวนปลา ……………………………………… 4) จานวนหมู ต่อ จานวนช้าง ……………………………………… 5) จานวนนก ต่อ จานวนหมู ……………………………………… 6) จานวนปลา ต่อ จานวนชา้ ง ……………………………………… 7) จานวนช้าง ตอ่ จานวนหมู 8) จานวนนก ต่อ จานวนชา้ ง ……………………………………… ……………………………………… 2. เขยี นอัตราสว่ นของสว่ นผสมตา่ งๆ ในนา้ มะนาวปรงุ รสตอ่ ไปนี้ นา้ มะนาวปรงุ รส นา้ มะนาว 4 ชอ้ นโตะ๊ นา้ ตาล 8 ชอ้ นโต๊ะ เกลอื ป่น 1 ช้อนโต๊ะ น้าสกุ 4 10 ชอ้ นโต๊ะ 1) นา้ มะนาว ตอ่ นา้ ตาล ……………………………………… 2) น้าตาล ต่อ นา้ สุก ……………………………………… 3) นา้ มะนาว ตอ่ เกลือป่น ……………………………………… 4) นา้ สุก ต่อ นา้ มะนาว ……………………………………… 5) นา้ ตาล ต่อ เกลอื ป่น ……………………………………… 3. เขยี นอตั ราสว่ นแทนข้อความในแตล่ ะข้อต่อไปน้ี ข้อความ อตั ราส่วน 1) กาแฟผง 3 ช้อน ตอ่ น้ารอ้ น 2 ถ้วย 2) นมสด 6 กระปอ๋ ง ราคา 38 บาท 3) ระยะทาง 15 กโิ ลเมตร ตอ่ 1 ชว่ั โมง 4) ราคาไข่ไก่โหลละ 35 บาท 5) ผงซกั ฟอก 1 ถว้ ย ต่อ นา้ 4 ลิตร 6) แป้ง 3 ถว้ ย ตอ่ น้า 1 ถ้วย
53 ใบงาน เรื่อง อัตราส่วนตอ่ เนอ่ื งของจานวนหลายๆ จานวน (1) คาชีแ้ จง เขยี นอัตราสว่ นของจานวนหลายๆ จานวน ลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง 4. พิจารณารปู ต่อไปนี้ แล้วเขยี นอัตราสว่ นลงในช่องวา่ ง 1) อัตราสว่ นแสดงจานวนดินสอ ตอ่ จานวนกรรไกร ตอ่ จานวนหนังสอื …………………….……… 2) อัตราส่วนแสดงจานวนหนงั สอื ต่อ จานวนกรรไกร ต่อ จานวนดินสอ………………………….… 3) อตั ราส่วนแสดงจานวนกรรไกร ต่อ จานวนหนงั สอื ต่อ จานวนดนิ สอ…………………………… 4) อตั ราสว่ นแสดงจานวนหนังสือ ตอ่ จานวนดินสอ ตอ่ จานวนกรรไกร…………………………… 5) อัตราส่วนแสดงจานวนดนิ สอ ต่อ จานวนหนงั สอื ตอ่ จานวนกรรไกร…………………………… 6) อัตราส่วนแสดงจานวนกรรไกร ต่อ จานวนดนิ สอ ต่อ จานวนหนงั สอื …………………………… 5. พิจารณารูปตอ่ ไปนี้ แลว้ เขยี นอตั ราส่วนลงในช่ิงว่าง 1) อตั ราส่วนแสดงจานวนผีเส้ือ ต่อ จานวนตัก๊ แตน ตอ่ จานวนมด ……………………………… ……………………………… 2) อัตราสว่ นแสดงจานวนผีเสื้อ ต่อ จานวนมด ต่อ จานวนตก๊ั แตน ……………………………… 3) อตั ราสว่ นแสดงจานวนมด ตอ่ จานวนตก๊ั แตน ต่อ จานวนผเี สอ้ื ……………………………… 4) อัตราสว่ นแสดงจานวนมด ตอ่ จานวนผีเสอื้ ต่อ จานวนตัก๊ แตน …………………………..….. 5) อัตราสว่ นแสดงจานวนต๊กั แตน ต่อ จานวนผเี ส้ือ ตอ่ จานวนมด
54 6) อัตราสว่ นแสดงจานวนตกั๊ แตน ตอ่ จานวนมด ต่อ จานวนผเี สอ้ื ……………………………… แบบทดสอบก่อนเรยี น ง. เกา้ ง. สบิ 1. ตวั เลข 7 อา่ นวา่ ง. ห้ารอ้ ยห้าสิบห้า ง. รอ้ ยเอด็ ก. หนึง่ ข. หา้ ค. เจด็ ง. สบิ 2. ตัวเลข 11 อ่านว่า ก. หน่ึงหนง่ึ ข. สบิ เอด็ ค. สิบหนง่ึ 3. ตวั เลข 555 อ่านวา่ ก. ห้าหา้ ห้า ข. หา้ สบิ ห้า ค. ห้ารอ้ ยห้า 4. ตัวเลข 101 อา่ นวา่ ก. หนึ่งรอ้ ยหนงึ่ ข. ร้อยหนงึ่ ค. หน่ึงรอ้ ยเอ็ด 5. ถ้ามีนกอยู่ สบิ ตวั ถกู ยงิ ตาย หา้ ตวั จะเหลอื นกอยกู่ ่ีตัว ก. หน่ึง ข. ห้า ค. เจ็ด 6. จากรปู มีค่าเท่ากับเท่าไหร่ ก. หก ข. เจด็ ค. แปด ง. เก้า 7. จากรูป ข. หก ค. สิบเอด็ มคี า่ เทา่ กบั เทา่ ไหร่ ก. หา้ ค. เก้า ง. สิบสอง ค. คูณ 8. จากรปู ข. แปด มีคา่ เทา่ กับเท่าไหร่ ก. สบิ เอ็ด ง. หก 9. เคร่อื งหมาย อา่ นวา่ ง.หาร ก. บวก ข. ลบ 10. เครอื่ งหมาย อ่านวา่ ข. บวก ข. ลบ ค. คูณ ง.หาร
55 แบบทดสอบหลังเรยี น 1. ตัวเลข 9 อ่านว่า ก. หนง่ึ ข. หา้ ค. เจ็ด ง. เก้า ง. ห้าร้อยหา้ สบิ ห้า 2. ตวั เลข 555 อ่านว่า ง. ร้อยเอ็ด ง. หน่งึ รอ้ ยสบิ หนงึ่ ก. หา้ หา้ หา้ ข. หา้ สิบหา้ ค. หา้ รอ้ ยห้า ง. สิบ 3. ตวั เลข 101 อ่านวา่ ก. หนึง่ ร้อยหนงึ่ ข. รอ้ ยหน่งึ ค. หนึ่งร้อยเอ็ด 4. ตัวเลข 111 อา่ นว่า ก. หนึง่ หนงึ่ หน่ึง ข. หนง่ึ รอ้ ยหนงึ่ ค. หนึ่งรอ้ ยสิบเอด็ 5. ถา้ มีแมวอยสู่ ามตัว คลอดลกู อีกสตี่ ัว จะมแี มวอยู่กตี่ ัว ก. หน่งึ ข. หา้ ค. เจ็ด 6. จากรปู ข. เจด็ ค. แปด มีค่าเทา่ กบั เท่าไหร่ ก. หก ง. เก้า 7. จากรูป มคี า่ เท่ากบั เท่าไหร่ ก. ห้า ข. หก ค. สิบเอ็ด ง. เจด็ 8. จากรปู ข. แปด มคี ่าเท่ากับเทา่ ไหร่ ค. เกา้ ง. หก ก. สาม อา่ นว่า ข. ลบ ค. คูณ ง.หาร 9. เครอ่ื งหมาย ก. บวก อ่านวา่ ค. คูณ ง.หาร ข. ลบ 10. เคร่อื งหมาย ก. บวก แบบทดสอบหลงั เรยี น 1. เครอ่ื งหมาย อา่ นวา่ ค. คูณ ง.หาร ค. บวก ข. ลบ 2. เครอื่ งหมาย อ่านวา่
56 ก. บวก ข. ลบ ค. คูณ ง.หาร ค. ไม่เท่ากับ ง. ไม่เทา่ กนั 3. เคร่ืองหมาย ≠ อ่านว่า ค. หนงึ่ ขีดสอง ก. เทา่ กับ ข. เท่ากนั 4. คาตอ่ ไปนี้ 1 อา่ นว่า 2 ก. ครงึ่ หน่ึง ข. เศษหนง่ึ สว่ นสอง ง. หนง่ึ หารสอง 5. คาตอ่ ไปนี้ 102 อา่ นว่า ก. สิบยกกาลังสอง ข. สิบ ค. หนึ่งศนู ย์สอง ง. หนึ่งร้อยสอง 6. รปู ภาพน้ี อา่ นวา่ ก. กรอบ ข. สเ่ี หลีย่ ม ค. สามเหลย่ี ม ง. ไม่มคี าตอบ ค. คูณ ง.หาร 7. เครือ่ งหมาย % คือ ก. เปอร์เซน็ ข. เปอรเ์ ซน็ ต์ 8. จากรูป ข. ส่ีลบสาม อา่ นวา่ ง. ห้าลบสาม ก. กบลบหมี ค. ห้าลบสอง 9. จากรูป ข. หา้ ลบสอง อา่ นวา่ ง. ห้าหารสอง ก. หา้ บวกสอง ค. หา้ คูณสอง ง. ย่สี บิ ลกู 10. ถา้ มีสมสามกอง กองละหา้ ลกู จะมสี ม้ ทง้ั หมดเท่าไหร่ ก. สิบลูก ข. หนึง่ ลูก ค. สิบห้าลกู แบบทดสอบก่อนหลงั เรยี น 1. ตวั เลข 9 อา่ นวา่ ก. หน่งึ ข. ห้า ค. กา้ ว ง. เกา้ ค. รอ้ ยยสี่ บิ สาม ง. หนึ่งรอ้ ยซาวสาม 2. ตวั เลข 123 อ่านวา่ ค. ส่ีสิบ ง. สี่สบิ ห้า ข. หน่ึงสองสาม ข. หน่งึ รอ้ ยยีส่ ิบสาม 3. ตวั เลข 44 อา่ นวา่ ก. ส่สี ิบสี่ ข. สี่ส่ี 4. จากรูป มีคา่ เทา่ กับเท่าไหร่
57 ข. สิบ ข. ยี่สิบ ค. ซาว ง. ยส่ี ิบหา้ ง. สบิ 5. ถ้ามแี มวอยู่สามตวั คลอดลกู อีกส่ตี วั จะมีแมวอยกู่ ่ตี วั ก. หนึ่ง ข. หา้ ค. เจด็ 6. จากรปู ข. เจด็ ค. สิบเก้า มีค่าเทา่ กบั เท่าไหร่ ก. หก ง. สบิ ก้าว 7. จากรปู มีคา่ เทา่ กับเท่าไหร่ ก. หา้ ข. หก ค. สิบเอด็ ง. เจด็ 8. จากรปู มีค่าเท่ากบั เท่าไหร่ ค. เก้า ง. หก ก. สาม ข. แปด ค. คูณ ง.หาร ค. คูณ ง.หาร 9. เคร่อื งหมาย = อ่านวา่ ก. เทา่ กนั ข. เท่ากับ 10. เครอ่ื งหมาย % คือ ก. เปอร์เซ็น ข. เปอรเ์ ซ็นต์ แบบสังเกตพฤติกรรม วชิ า ภาคเรยี นที่ ปีการศึกษา ครผู ้สู อน วันท่ปี ระเมนิ ............................. ลาดับ ชอ่ื -สกลุ ความ ัรบผิดชอบและเ ีพยรพยายาม รวม ความมีเห ุตผล ความรอบคอบ ความ ืซ่อสัตย์ ความสามารถในการทางานร่วมกับผู้อื่น ความประหยัด
58 เกณฑ์ในการประเมิน ๒ = แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ๓ = แสดงพฤติกรรมนั้นเปน็ ประจา ๐ = ไม่เคยแสดงพฤตกิ รรมเลย ๑ = แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยมาก
18 แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี นของนักเรยี น วิชา ช้ัน ชอื่ กลุม่ คาชี้แจง เพือ่ ประเมินพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนเปน็ รายบุคคล ครูผ้สู อนเปน็ ผู้ประเมนิ นักเรียน โดยใช้วิธีสงั เกต ในขณะดาเนนิ การสอน แลว้ ใสค่ ะแนนให้ตรงกบั พฤตกิ รรมทเ่ี ป็นจริงของนักเรียน ตามระดบั คะแนน ดังน้ี ๕ = กระทามากที่สุด ๔ = กระทามาก ๓ = กระทาปานกลาง ๒ = กระทาน้อย ๑ = ไม่คอ่ ยกระทา/ไมก่ ระทาเลย พฤตกิ รรมนักเรียน การซักถาม ่ีทตรงประเ ็ดนน่าสนใจ การตอบคาถาม ชอื่ -กล่มุ การร่วมกิจกรรม การร่วมอ ิภปรายตรงประเ ็ดน การแสดงความ ิคดเ ็หนให ่ม ๆ / สา ัคญ รวมคะแนน หมายเห ุต
19 ๒.๒ กิจกรรมการเรียนรู้ : สมุดบนั ทึกการสวดมนต์ คาอธบิ ายรายวิชา สมุดบันทึกการสวดมนต์เป็นเคร่ืองมือหน่ึงในการติดตามการเรียนรู้ด้านการพัฒนาทักษะการ สวดมนต์ เพ่ือให้สามเณร เจ้าอาวาส และครู ได้ใช้เรียนรู้ร่วมกัน เป็นท้ังตัวกาหนดเน้ือหาบทสวดมนต์ท่ีต้อง ฝึกฝน และจานวนการปฏิบัติกิจนิมนต์ที่ต้องผ่าน เป็นการประเมินผลการเรียนรู้ร่วมกันของสามเณรและผู้ท่ี เกี่ยวขอ้ ง ผลการเรยี นรู้ ๑. สามเณรมีเปา้ หมายในการท่องจาบทสวดมนต์ ๒. สามเณรได้พฒั นากระบวนการการเรียนรู้ด้วยตนเอง กล่มุ เปา้ หมาย ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ สามเณรโรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมวัดนโิ ครธาราม จานวน ๑๓๙ รปู จานวน ๕๐๐ ชว่ั โมง สาระการเรียนรู้ ๑. บทสวดมนต์ทค่ี วรจา แผนกิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ เตรียม ๓. ประชุมผมู้ สี ่วนเกย่ี วขอ้ งจดั ทาสมดุ บันทึกสวดมนต์ ๔. ประชุมวางแผนการดาเนนิ งานการใช้สมุดบันทกึ สวดมนต์ ข้นั ดาเนินงาน ๒. ดาเนินการใชส้ มดุ บันทึกสวดมนต์ สือ่ การเรยี นรู้ ๑. หนังสอื สวดมนต์ แหล่งเรียนรู้ ๑. ศาสนพิธีกรรมตา่ งๆ วัด บา้ น และในโรงเรียน การวัดผลประเมนิ ผล วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล - ตรวจสมุดบันทกึ สวดมนต์ - สงั เกต - สมั ภาษณ์สอบถาม เครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล - แบบทดสอบ - แบบสังเกตพฤติกรรม ๒.๓ กิจกรรมการเรียนรู้ : สวดมนต์ประจาสปั ดาห์
20 คาอธบิ ายรายวชิ า การสร้างกระแสเรียนรู้เรื่องการสวดมนต์ ผ่านการสวดมนต์ประจาสัปดาห์ จึงเป็นกิจกรรมหน่ึง เพ่ือให้สามเณรเกิดความสนใจและตระหนักถึงความสาคัญของการสวดมนต์ และเป็นขวัญกาลังใจให้แก่ สามเณรทม่ี ีทักษะการสวดมนตใ์ นขั้นดี ด้วยการสวดมนตเ์ ป็นพ้ืนฐานของศาสนพิธีท้องถิน่ ต่อไป ผลการเรยี นรู้ ๑. สามเณรมีเปา้ หมายในการท่องจาบทสวดมนต์ ๒. สามเณรได้พัฒนากระบวนการการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง กล่มุ เปา้ หมาย ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ สามเณรโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดนโิ ครธาราม จานวน ๑๓๙ รปู สาระการเรียนรู้ ๑. บทสวดมนตท์ ่ีควรจา แผนกจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ข้ันเตรียม ๑. ประชุมผู้มีส่วนเกยี่ วขอ้ งทาความเข้าใจและกาหนดหนา้ ที่รบั ผิดชอบ ๒. ประชมุ วางแผนการดาเนินงานการใชส้ มุดบนั ทกึ สวดมนต์ ข้ันดาเนินงาน ๑. ดาเนนิ สวดมนตป์ ระจาสัปดาห์ สอื่ การเรยี นรู้ ๒. หนังสอื สวดมนต์ แหลง่ เรยี นรู้ ๒. วัด และในโรงเรยี น การวัดผลประเมินผล วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล - สังเกต เครือ่ งมอื วดั และประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรม ๓.การเรยี นร้กู ารเทศน์มหาชาติ ๓.๑ กิจกรรมการเรียนรู้ : คา่ ยพฒั นาการเทศน์ชาดก คาอธบิ ายรายวิชา
21 การเทศนช์ าดกเป็นบทบาทหนา้ ที่ของพระสงฆ์สามเณร ในวนั พระชว่ งเขา้ พรรษาพระสงฆ์สามเณร จะเทศนฯ์ ให้ชาวบ้านทถี่ ือศีล ๘ ฟงั แตจ่ ากการสารวจทกั ษะดา้ นศาสนพธิ ีทอ้ งถิน่ พบวา่ สามเณรส่วนใหญม่ ี ทักษะการเทศนช์ าดกอยู่ในระดบั คอ่ นข้างออ่ น จึงจาเป็นต้องพฒั นาทักษะการเทศน์ฯ ข้ึนมา ผลการเรียนรู้ ๑. สามเณรมที ักษะในการเทศนช์ าดก ๒. สามเณรไดม้ กี ระบวนการเรียนรูแ้ ละการฝึกทักษะดว้ ยตนเอง กลุม่ เป้าหมาย ดา้ นปรมิ าณ สามเณรนกั เรียนโรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมวัดนิโครธาราม ด้านคณุ ภาพ โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรมวดั นิโครธารามมกี ารพัฒนาดา้ นการเทศน์ธรรมพื้นเมือง สาระการเรยี นรู้ การเทศน์ธรรมพ้ืนเมือง และ คัมภีร์พุทธศาสนาและศาสนพิธีท้องถ่ินของชาวล้านนาในอดีตที่มี ความสาคญั กบั ชาวลา้ นนา เพ่อื ศกึ ษาและสบื สานความรูแ้ ละภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ สบื ไป แผนกจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ขัน้ เตรียม ๑. ประชุมผูม้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งจัดทาแผนงานการจดั อบรมการเทศนธ์ รรมชาดก ข้ันดาเนินงาน ๑. ดาเนนิ การจัดอบรมการเทศนธ์ รรมชาดก ข้ันนา - พระสมุห์รฐั ศาสตร์ ฐติ ิโก สาธิต การอา่ นธรรมพืน้ เมอื ง และสรุปหลักการฝกึ อ่านธรรมพืน้ เมอื ง ท่ผี า่ นมา ๒๕ นาที - พระครูอปุ ถัมภ์นันทการ สาธิต การอ่านธรรมพ้ืนเมอื งและสรุปหลักการฝึกอา่ นธรรมพ้นื เมอื ง ตามท่ผี ่านมา ๒๕ นาที - พระครูวสิ ุทธิ์นนั ทสาร สาธิต สาธิต การอ่านธรรมพ้ืนเมืองและสรปุ หลักการฝกึ อ่านธรรมพ้ืนเมอื ง ตามประสบการณ์ท่ผี ่านมา ๒๕ นาที - พระปลัดบญุ ส่ง พทุ ธธมฺโม สาธิต การอา่ นธรรมพืน้ เมืองและสรปุ หลักการฝกึ อา่ นธรรมพนื้ เมอื ง ตามประสบการณ์ที่ผา่ นมา ๒๕ นาที ข้ันสอน - สามเณรนกั เรียนแยกจัดกลุ่มการเรียนรู้ ฝกึ อ่านธรรมพ้นื เมือง แบ่งเปน็ กลมุ่ ๆ ประมาณ ๑๐ รูป กลุ่มที่ ๑ ขอรบั การฝกึ ทักษะการอา่ นธรรมพื้นเมืองจาก พระครูวิบูลนนั ทการ กลุ่มท่ี ๒ ขอรับการฝกึ ทกั ษะการอ่านธรรมพืน้ เมอื งจาก พระสมหุ ์รัฐศาสตร์ ฐิตโิ ก
22 กลุ่มท่ี ๓ ขอรบั การฝกึ ทกั ษะการอา่ นธรรมพืน้ เมอื งจาก พระครูวาปีปทมุ พิทกั ษ์ กลุ่มท่ี ๔ขอรบั การฝึกทกั ษะการอ่านธรรมพ้นื เมืองจาก พระครูวสิ ทุ ธ์ินันทสาร กลมุ่ ท่ี ๕ขอรับการฝกึ ทกั ษะการอ่านธรรมพ้ืนเมืองจาก พระครอู ปุ ถมั ภ์นนั ทการ กลุม่ ท่ี ๖ขอรับการฝึกทักษะการอา่ นธรรมพ้ืนเมอื งจาก พระครพู นิ จิ นันทการ กลุ่มท่ี ๗ขอรบั การฝึกทักษะการอ่านธรรมพื้นเมืองจาก พระอธกิ ารเดช ฐติ สโี ล กลมุ่ ที่ ๘ขอรับการฝกึ ทักษะการอ่านธรรมพนื้ เมืองจาก พระปลดั บญุ ส่ง พทุ ธธมฺโม กลมุ่ ที่ ๙ขอรับการฝึกทักษะการอา่ นธรรมพน้ื เมอื งจาก พระอธิการอดุ ม ปภสสฺ โร กลุ่มท่ี ๑๐ ขอรบั การฝึกทกั ษะการอา่ นธรรมพ้ืนเมอื งจาก พระอธิการนติ ย์ เขมธโร กลุ่มที่ ๑๑ ขอรับการฝกึ ทักษะการอา่ นธรรมพน้ื เมืองจาก พระคงศกั ด์ิ โสภณปญฺโญ กลุ่มท่ี ๑๒ ขอรบั การฝึกทักษะการอ่านธรรมพ้นื เมอื งจาก พระสมุห์ศรีนนุ่ ขนตฺ ิธโร กลุ่มที่ ๑๓ ขอรบั การฝกึ ทักษะการอ่านธรรมพน้ื เมืองจาก พระอธกิ ารสมจิต ติกขปญโฺ ญ กลุ่มที่ ๑๔ ขอรบั การฝึกทกั ษะการอ่านธรรมพืน้ เมืองจาก เจา้ อธกิ ารสมศักดิ์ อนิ ฺทวีโร กลมุ่ ที่ ๑๕ ขอรับการฝึกทักษะการอ่านธรรมพื้นเมืองจาก พระครอู ปุ ถัมภ์นันทกิจ กล่มุ ท่ี ๑๖ขอรับการฝึกทักษะการอา่ นธรรมพ้นื เมอื งจาก พระครูโกวทิ ยว์ รโสภณ กลุ่มที่ ๑๗ ขอรับการฝึกทักษะการอา่ นธรรมพื้นเมืองจาก พระอธกิ ารสิงห์ทอง จติ ตฺ ธมโฺ ม กลุ่มท่ี ๑๘ ขอรบั การฝกึ ทักษะการอ่านธรรมพืน้ เมืองจาก พระอธกิ ารอินสม ฐานรโต กลมุ่ ที่ ๑๙ ขอรับการฝกึ ทกั ษะการอา่ นธรรมพืน้ เมอื งจาก พระผา่ น ปภสฺสโร กลมุ่ ท่ี ๒๐ขอรบั การฝกึ ทกั ษะการอ่านธรรมพื้นเมอื งจาก พระวชิ ัย จนทฺ ธมโฺ ม - สามเณรนกั เรียนฝึกอ่านธรรมและขอรบั การฝึกทักษะการอ่านธรรมพน้ื เมอื งจากพระวทิ ยากร - พระอาจารย์สมุ่ ตัวแทนจากการจบั ฉลาก ออกมาสาธติ อา่ นธรรมพนื้ เมอื ง ในขณะทตี่ วั แทนอ่านให้ สามเณรนกั เรยี นดเู น้ือหาอา่ นในใจตามไปด้วย (รวมกนั ท้งั หมด) ขั้นสรุป - สามเณรนักเรียนรบั การประเมินทักษะการอา่ นธรรมพ้นื เมอื ง (แยกประจากลุ่ม) - ประเมนิ เพื่อขึน้ ทะเบยี นสามเณรยอดนกั เทศน์ธรรมพ้นื เมืองประจาโรงเรียน กลุ่มท่ี ๑ ขอรับการประเมินจาก พระครูวบิ ูลนนั ทการ กลมุ่ ท่ี ๒ ขอรบั การประเมนิ จาก พระสมุหร์ ฐั ศาสตร์ ฐติ ิโก กลมุ่ ที่ ๓ ขอรบั การประเมนิ จาก พระครวู าปปี ทุมพิทกั ษ์ กล่มุ ที่ ๔ ขอรบั การประเมนิ จาก พระครูวิสทุ ธนิ์ นั ทสาร กลุ่มท่ี ๕ ขอรบั การประเมนิ จาก พระครอู ุปถมั ภน์ ันทการ กลมุ่ ที่ ๖ ขอรบั การประเมินจาก พระครพู ินจิ นนั ทการ กลมุ่ ท่ี ๗ ขอรบั การประเมนิ จาก พระอธิการเดช ฐิตสโี ล กล่มุ ที่ ๘ ขอรบั การประเมินจาก พระปลดั บุญสง่ พทุ ธธมโฺ ม กลมุ่ ท่ี ๙ ขอรบั การประเมินจาก พระอธกิ ารอดุ ม ปภสฺสโร กล่มุ ท่ี ๑๐ ขอรับการประเมินจาก พระอธิการนติ ย์ เขมธโร กลมุ่ ที่ ๑๑ ขอรบั การประเมินจาก พระคงศักดิ์ โสภณปญโฺ ญ
23 กลุ่มท่ี ๑๒ ขอรับการประเมินจาก พระสมหุ ์ศรีนุน่ ขนฺตธิ โร กลุ่มท่ี ๑๓ ขอรบั การประเมินจาก พระอธกิ ารสมจิต ตกิ ขปญฺโญ กลมุ่ ท่ี ๑๔ ขอรบั การประเมินจาก เจ้าอธิการสมศักดิ์ อนิ ฺทวโี ร กลุ่มที่ ๑๕ ขอรับการประเมินจาก พระครูอุปถมั ภ์นันทกจิ กลมุ่ ที่ ๑๖ ขอรบั การประเมนิ จาก พระครโู กวทิ ยว์ รโสภณ กลุ่มท่ี ๑๗ ขอรับการประเมนิ จาก พระอธิการสิงหท์ อง จิตตฺ ธมฺโม กลุ่มท่ี ๑๘ ขอรับการประเมินจาก พระอธกิ ารอนิ สม ฐานรโต กลมุ่ ที่ ๑๙ ขอรบั การประเมินจาก พระผ่าน ปภสสฺ โร กลมุ่ ท่ี ๒๐ การประเมนิ จาก พระวิชัย จนฺทธมฺโม สือ่ การเรียนรู้ - พระธรรมเทศนาพ้ืนเมอื งเหนอื คมั ภรี ์ธรรมพืน้ เมอื ง (ผกู ) - ใบงาน แหล่งเรียนรู้ - วิทยากรจากเจ้าอาวาสวัดต่างๆ - พระธรรมเทศนาพ้ืนเมืองเหนอื คัมภีรธ์ รรมพ้ืนเมอื ง (ผูก) การวดั ผลประเมินผล ๑ วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล - ทดสอบ ๒ เครื่องมอื วัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล - แบบทดสอบ แบบประเมนิ การเทศน์ธรรมพื้นเมอื ง ชอื่ .................................................................ชน้ั .....................สังกดั วดั ........................................ พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั การปฏบิ ัติ ๕ ๑. อา่ นออกเสียงไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจน ๑๒ ๓ ๔ ๒. อ่านออกเสยี งคลอ่ ง
24 ๓. น้าเสียงไพเราะ ๔. บคุ ลิกภาพของผู้เทศน์ สรปุ ภาพรวม รวม เกณฑ์การประเมนิ เฉลย่ี ระดับคุณภาพ ๕ =ดเี ยย่ี ม ๔ = ดีมาก ๓ = ดี ๒ = พอใช้ ๑ = ปรบั ปรุง จุดเดน่ / ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ประเมนิ วันที.่ ......................เดือน............................................... พ.ศ. ........................... ลงช่ือ.......................................................................ผู้ประเมิน (.......................................................................) ๓.๒ กิจกรรมการเรียนรู้ : ยอดนักเทศน์ชาดก คาอธิบายรายวชิ า ภายหลังงานค่ายพัฒนาการเทศน์ชาดกแลว้ สามเณรจะทาหนา้ ทเี่ ทศนฯ์ ในวันพระชว่ งเขา้ พรรษา กิจกรรมยอดนักเทศน์ชาดก เปน็ การประเมนิ ผลทักษะด้านการเทศนฯ์ โดยให้เจา้ อาวาส พระสงฆ์ เพอื่ น สามเณร พอ่ อาจารยว์ ัด และชาวบ้านท่ถี ือศีล ๘ ได้ร่วมประเมนิ ผลทักษะความสามารถการเทศนฯ์ ของ สามเณร เพอื่ ใหร้ างวลั เป็นขวญั กาลงั ใจของการเรียนร้ตู ่อไป ผลการเรียนรู้ ๑. สามเณรมีทกั ษะในการเทศนช์ าดก ๒. สามเณรไดม้ ีกระบวนการเรียนรู้และการฝึกทักษะด้วยตนเอง กลมุ่ เปา้ หมาย ด้านปริมาณ สามเณรนกั เรียนโรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมวดั นโิ ครธาราม ด้านคณุ ภาพ โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรมวดั นโิ ครธาราม มกี ารพฒั นาด้านการเทศน์ธรรมพื้นเมอื ง สาระการเรียนรู้ การเทศน์ธรรมพ้ืนเมือง และ คัมภีร์พุทธศาสนาและศาสนพิธีท้องถิ่นของชาวล้านนาในอดีตที่มี ความสาคญั กบั ชาวล้านนา เพ่ือศกึ ษาและสบื สานความรู้และภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ สบื ไป แผนกจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ๑. คณะครู ประชุมวางแผนการดาเนนิ การจดั กิจกรรมยอดนักเทศน์ ๒. ดาเนินการประเมนิ การเทศนธ์ รรมชาดกของสามเณรแตล่ ะวดั ๓. คณะครูนาผลการประเมินสรุปตามเกณฑร์ ้อยละ ๗๐
25 สอ่ื การเรยี นรู้ ธรรมเทศนาพื้นเมืองเหนือ แหล่งเรยี นรู้ พระอาจารย์,เจ้าอาวาสและวทิ ยากรประจาวัดแต่ละวดั การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ ีการวัดและประเมินผล - แบบประเมินการเทศน์ธรรมชาดก เครือ่ งมอื วัดและประเมินผล - แบบประเมนิ การเทศนธ์ รรมชาดก แบบประเมนิ โครงการเทศนธ์ รรมชาดก รายการทปี่ ระเมนิ ชอื่ -สกุล ่อานออกเสียงไ ้ด ูถก ้ตอง ัชดเจน รวม ผลการ เลขที่ อ่านออกเสียงคล่อง ประเมิน น้าเสียงไพเราะ ุบคลิกของผู้เทศน์ คะแนน ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐
26 ๓.๓ กิจกรรมการเรยี นรู้ : ค่ายพฒั นาการเทศน์มหาชาติ ๓.๓ กิจกรรมการเรียนรู้ : ค่ายพฒั นาการเทศน์มหาชาติ คาอธิบายรายวิชา การเทศน์มหาชาตเิ ป็นศาสนพธิ ที น่ี ิยมจดั กนั มาแต่โบราณ ถือกันวา่ เปน็ งานสาคญั ในรอบปี เพราะ ถอื วา่ การฟังเทศน์ครบ ๑๓ กณั ฑ์ จะไดผ้ ลบุญมาก แต่จากการสารวจทักษะดา้ นศาสนพธิ ที อ้ งถิน่ พบว่า สามเณรสว่ นใหญม่ ีทักษะการเทศนม์ หาชาติอยู่ในระดบั คอ่ นข้างอ่อน จงึ จาเปน็ ตอ้ งพฒั นาทักษะการเทศนฯ์ ขึ้นมา ผลการเรียนรู้ ๑. สามเณรมีทักษะในการเทศนม์ หาชาติ ๒. สามเณรไดม้ กี ระบวนการเรียนร้แู ละการฝึกทักษะด้วยตนเอง กลุ่มเป้าหมาย ดา้ นปรมิ าณ สามเณรนกั เรยี นโรงเรียนพระปริยัตธิ รรมวดั นโิ ครธารามจานวน ๒๐ รปู ทีไ่ ด้รบั การคัดเลอื ก จากการเข้าคา่ ยเทศน์ธรรมพ้นื เมอื ง ด้านคณุ ภาพ โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรมวัดนโิ ครธารามมกี ารพฒั นาดา้ นการเทศน์ธรรมมหาชาติ สาระการเรียนรู้ การเทศน์มหาชาติเป็นศาสนพิธีท้องถ่ินของชาวล้านนาในอดีตที่มีความสาคัญกับชาวล้านนาเป็น เรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างมหาทานบารมีของพระเวสสันดรอันแผงด้วยคติความเชื่อและสอดแทรกคาสอน คณุ ธรรมจริยธรรมนบั เปน็ ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นสาคัญอย่างย่ิงทค่ี วรอนรุ ักษ์และสบื ทอดตอ่ ไป แผนกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ข้ันนา
27 ๑. หลงั จากการจดั กิจกรรมค่ายเทศนธ์ รรมพื้นเมือง ได้คดั สรร สามเณรได้ ทั้งหมด ๒๐ รูป ๒. ทาการแบง่ กลุ่มสามเณรออกเปน็ ๔ กลมุ่ และแบง่ ไปตามวัดทม่ี ีวทิ ยากรฝกึ อบรม ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี ๑วัดตาลชุม (พระครวู สิ ุทธ์นิ นั ทสาร เปน็ วิทยากร) ๑ สามเณรพงศกร ปุกคาม ๒ สามเณรธีรนาถ อปุ ทะ ๓ สามเณรธนาดล กาวรรณ์ ๔ สามเณรพุฒิพงศ์ ปนั คา ๕ สามเณรชัยณรงค์ จนั ทร์ตะ๊ นุ กลมุ่ ที่ ๒ วัดศิรธิ าดา (พระครูอปุ ถมั ภน์ นั ทการ เป็นวทิ ยากร) ๑ สามเณรเผ่าเทพ คาสุข ๒ สามเณรกิตตชิ ัย บารงุ ศรี ๓ สามเณรธรี วัฒน์ จติ ตะ๊ ๔ สามเณรปรีชา แซโ่ ซง้ ๕ สามเณรฤทธิพงศ์ ปายสาร กลมุ่ ที่ ๓ วัดดอนชัย (พระสมุหร์ ัฐศาสตร์ ฐิตโิ ก เปน็ วิทยากร) ๑ สามเณรศิลป์ชัย อนุ่ ใจ ๒ สามเณรพชร สทิ ธกิ นั ๓ สามเณรสุวทิ ย์ ศรนี ้าเทย่ี ง ๔ สามเณรสมัย แคแดง ๕ สามเณรธนวันต์ ยะแสง กลมุ่ ท่ี ๔ วัดหนองบวั (พอ่ ศลิ ป์ เขอื่ นอน้ เปน็ วิทยากร) ๑ สามเณรไกรวนิ ปนั ดี ๒ สามเณรสมชาติ แสงศรจี นั ทร์ ๓ สามเณรพลรตั น์ รกั ษา ๔ สามเณรวชริ วิทย์ กองโกย ๕ สามเณรนิกร กลุ ผล ข้ันสอน ๑ วิทยากร แนะนาธรรมชาดกแต่ละกณั ฑ์ ที่สามเณรแตล่ ะรูปรบั ผิดชอบ ๒ วิทยากรแตล่ ะวดั อ่านธรรมชาดกเปน็ ตวั อยา่ งใหก้ ับสามเณร และให้สามเณรลองฝกึ อ่าน ๓ ทดสอบเสยี งการอ่านพรอ้ มแจกธรรมชาดกแตล่ ะกณั ฑ์ ให้สามเณรฝึก โดยมีวทิ ยากรคอย ให้คาปรึกษาในการอ่าน ท้ังสาเนียง และบคุ ลกิ ขณะที่อ่าน ขัน้ สรุป ๑. มีการประเมนิ การอ่านทุกวัน โดยวทิ ยากรให้คาแนะนาเพอ่ื ให้แกไ้ ข ตอ่ ไป ๒. สามเณรแต่ละรูปรบั การประเมินจากวิทยากร สอ่ื การเรยี นรู้ ธรรมเทศนามหาชาตพิ ระเวสสนั ดรชาดก
28 แหลง่ เรยี นรู้ ภาพจติ รกรรมฝาผนงั , พระอาจารย์,เจ้าอาวาสและวทิ ยากรประจาวัด การวัดผลประเมินผล วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล - แบบประเมนิ การเทศน์มหาชาติ เครอ่ื งมือวัดและประเมินผล - แบบประเมินการเทศน์มหาชาติ แบบประเมินการเทศนธ์ รรมมหาชาติ ชือ่ .................................................................ชนั้ .....................สงั กัดวัด........................................ พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๑. อา่ นออกเสียงได้ถูกตอ้ งชดั เจน ๑๒ ๓ ๔๕ ๒. อา่ นออกเสยี งคลอ่ ง ๓. นา้ เสียงไพเราะ รวม ๔. บุคลกิ ภาพของผ้เู ทศน์ เฉล่ยี ระดบั คณุ ภาพ สรุปภาพรวม เกณฑ์การประเมิน ๕ =ดีเย่ียม ๔ = ดมี าก ๓ = ดี ๒ = พอใช้ ๑ = ปรบั ปรุง จดุ เด่น / ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ประเมิน วันท่.ี ......................เดือน............................................... พ.ศ. ........................... ลงช่ือ.......................................................................ผู้ประเมิน
29 (.......................................................................) แบบสอบถามงานเทศน์มหาชาติ คาชแ้ี จง แบบสอบถาม เพอ่ื ให้ผู้จัดไดม้ ีโอกาสรับทราบผลการดาเนนิ งานของตนเอง และเพอื่ ประโยชน์ในการปรับปรุง โครงการให้มปี ระสิทธิภาพมากขึน้ โปรดเตมิ เครื่องหมาย และกรอกข้อความให้สมบูรณ์ ความพึงพอใจต่อโครงการ ความหมายระดับของการประเมิน ๕ = มากท่สี ุดหรอื ดมี าก ๔ = มากหรือดี ๓ = ปานกลางหรือพอใช้ ๒ = น้อยหรอื ตา่ กวา่ มาตรฐาน ๑ = น้อยทีส่ ุดหรอื ตอ้ งปรบั ปรุงแก้ไข รายการ ระดับความพงึ พอใจ ๑ ๕๔๓๒ ๑. กระบวนการ ขนั้ ตอน ๑.๑ การประชาสัมพนั ธง์ านเทศนม์ หาชาติ ๑.๒ ความเหมาะสมของสถานท่ี ๑.๓ ความเหมาะสมของระยะเวลา ๑.๔ การจัดลาดับขน้ั ตอนของกิจกรรม ๒. ความรู้ของวทิ ยากร ๒.๑ ความรอบรู้ ในเนอ้ื หาของวิทยากร และพระ อาจารย์ สามเณร ๒.๒ ความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ๒.๓ การตอบคาถาม ๒.๔ ความเหมาะสมของวิทยากร และพระ อาจารย์ สามเณร ในภาพรวม ๓. การอานวยความสะดวก ๓.๑ เอกสารเก่ยี วกบั การให้ความรู้ ๓.๒ บุคลากรทีส่ นบั สนนุ ๓.๓ อาหารเพลและนา้ ปานะ ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ๓.๕ กจิ กรรมการเรียนรู้ : งานเทศน์มหาชาติ
30 คาอธิบายรายวชิ า ภายหลังงานคา่ ยพัฒนาการเทศน์มหาชาติแลว้ วัดและโรงเรยี นพระปริยัตธิ รรมจะจดั งานเทศน์ มหาชาติข้ึน เพือ่ เปน็ งานสาคญั ในรอบปี เพือ่ ให้สามเณรที่ผา่ นหลกั สูตรการเรยี นรู้ศาสนพิธีท้องถ่นิ ได้มี เวทฝี ึกฝนทักษะด้านนี้ โดยให้เจา้ อาวาส พระสงฆ์ เพ่อื นสามเณร พ่ออาจารย์วัด และชาวบา้ นได้ร่วม ประเมนิ ผลทักษะความสามารถการเทศนฯ์ และการทางานศิลปะของสามเณร เพื่อใหร้ างวัลเป็นขวัญกาลงั ใจ ของการเรยี นรตู้ ่อไป ผลการเรียนรู้ ๑ สามเณรนกั เรยี นมีความรเู้ กยี่ วกบั งานเทศนม์ หาชาติ กลุ่มเป้าหมาย ด้านปริมาณ สามเณรนักเรยี นโรงเรียนพระปริยตั ธิ รรมวัดนโิ ครธาราม ๑๓๙ รปู ด้านคุณภาพ โรงเรียนพระปริยัตธิ รรมวดั นิโครธาราม มีความร้คู วามเข้าใจเก่ียวกับการจัดงาน เทศน์มหาชาติ สาระการเรียนรู้ งานเทศนม์ หาชาติเปน็ งานศาสนพธิ ที สี่ าคัญท่ีสืบทอดกนั มาตง้ั แต่ในอดตี เป็นส่ิงทพ่ี ระภิกษุสามเณร ควรร้แู ละมีทกั ษะในการจดั กิจกรรมอันจะเป็นการสบื ทอดประเพณีท่ดี ีงามตอ่ ไป แผนกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ - กาหนดใหส้ ามเณรนกั เรยี นมีส่วนร่วมกิจกรรมร่วมทาร่วมเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ - งานเทศนม์ หาชาติ แหล่งเรียนรู้ - ซมุ้ นิทรรศการตา่ งๆ - วิทยากร ที่ใหค้ วามรู้ การวดั ผลประเมนิ ผล - ตรวจแบบทดสอบ เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล - แบบทดสอบ แบบสอบถามงานเทศนม์ หาชาติ คาช้ีแจง แบบสอบถาม เพ่ือใหผ้ ู้จัดได้มีโอกาสรบั ทราบผลการดาเนินงานของตนเอง และเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุง โครงการให้มปี ระสิทธิภาพมากขึน้ โปรดเตมิ เคร่อื งหมาย และกรอกข้อความให้สมบรู ณ์
ความพึงพอใจตอ่ โครงการ 31 ๑ ความหมายระดบั ของการประเมนิ ๕ = มากท่ีสุดหรอื ดีมาก ๔ = มากหรอื ดี ๓ = ปานกลางหรือพอใช้ ๒ = น้อยหรือต่ากว่ามาตรฐาน ๑ = นอ้ ยท่สี ดุ หรือตอ้ งปรบั ปรงุ แกไ้ ข รายการ ระดับความพึงพอใจ ๕๔๓๒ ๑. กระบวนการ ข้ันตอน ๑.๑ การประชาสมั พันธ์งานเทศนม์ หาชาติ ๑.๒ ความเหมาะสมของสถานท่ี ๑.๓ ความเหมาะสมของระยะเวลา ๑.๔ การจัดลาดับขั้นตอนของกิจกรรม ๒. ความรู้ของวทิ ยากร ๒.๑ ความรอบรู้ ในเนอ้ื หาของวทิ ยากร และพระ อาจารย์ สามเณร ๒.๒ ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ๒.๓ การตอบคาถาม ๒.๔ ความเหมาะสมของวทิ ยากร และพระ อาจารย์ สามเณร ในภาพรวม ๓. การอานวยความสะดวก ๓.๑ เอกสารเกี่ยวกับการให้ความรู้ ๓.๒ บคุ ลากรทส่ี นบั สนุน ๓.๓ อาหารเพลและนา้ ปานะ ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ๔.การเรียนรภู้ าษาล้านนา ๔.๑ กิจกรรมการเรยี นรู้ : เรียนภาษาล้านนา ๔.๒ กิจกรรมการเรยี นรู้ : ประกวดการเขยี นภาษาล้านนา ๔.๓ กิจกรรมการเรียนรู้ : สืบคน้ ตารายาสมนุ ไพรจากใบลาน
32 ๔.๔ กจิ กรรมการเรียนรู้ : บนั ทกึ ภาษติ ล้านนา คาอธิบายรายวชิ า ภาษาล้านนาเป็นอัตลักษณ์ของชาวล้านนา เป็นภาษาท่ีใช้จารลงบนใบลาน เพ่ือบันทึกความรู้ใน ดา้ นต่าง ๆ และคัมภีร์พุทธศาสนาและศาสนพิธีท้องถิน่ ของชาวล้านนาในอดีต ดังนั้น สามเณรที่สนใจศึกษา ศาสนพิธีท้องถิ่นอย่างลึกซ้ึงจึงจาเป็นต้องมีความรู้ภาษาล้านนา การสร้างกระแสความสนใจภาษาล้านนา ผา่ นการประกวดการเขียนภาษาล้านนา จึงเปน็ กิจกรรมหน่ึงเพื่อให้สามเณรเกิดความสนใจเรียนภาษาล้านนา เพ่ิมข้ึน และเป็นขวัญกาลังใจให้แก่สามเณรท่ีเรียนภาษาล้านนาอยู่ ด้วยการเรียนภาษาล้านนาเป็นทั้ง การศึกษาศาสนพิธีท้องถ่ินอย่างลึกซึ้งและสืบสานภูมิปัญญาท้องถ่ินต่อไปการค้นคว้าหาความรู้เพ่ือนามาใช้ ประโยชน์ได้ เป็นแนวทางการเรียนรทู้ ่ีใช้เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าของการเรยี นรู้ในส่ิงน้ัน การเรียน ภาษาล้านนาผ่านกจิ กรรมสืบค้นตารายาสมุนไพรจากใบลาน อาจจะฟ้ืนความรู้จากภูมิปญั ญาและพัฒนาการ เรียนภาษาล้านนาอย่างควบคู่กันแนวทางหน่ึงของการเรียนภาษาอย่างง่ายและสนุก คือเรียนผ่านกิจกรรม ดังน้ัน การบันทึกภาษติ ล้านนาจงึ เป็นกจิ กรรมหนึ่งของการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาลา้ นนา เพื่อให้สามเณรได้ รับรถู้ งึ ความเชือ่ ค่านิยม และโลกทัศน์ของผู้คนในอดีต ควบคกู่ บั การรู้ภาษาลา้ นนา ผลการจดั การเรียนรู้ ๑. สามเณรมีความรดู้ า้ นการเขียนและการอ่านอักษรภาษาล้านนา ๒. สามเณรไดม้ ีกระบวนการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง กลมุ่ เปา้ หมาย ดา้ นปรมิ าณ สามเณรนักเรยี นโรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรมวัดนโิ ครธารามจานวน ๒๐ รปู ดา้ นคณุ ภาพ โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมวดั นโิ ครธารามมกี ารพัฒนาใหน้ ักเรียนเรียนรภู้ าษาล้านนา สาระการเรยี นรู้ ภาษาล้านนาเป็นอัตลักษณ์ของชาวล้านนา เป็นภาษาที่ใช้จารลงบนใบลาน เพื่อบันทึกความรู้ใน ดา้ นตา่ ง ๆ และคัมภรี ์พุทธศาสนาและศาสนพธิ ที อ้ งถ่ินของชาวลา้ นนาในอดีต แผนกจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ขัน้ นา ๑. ครวู ทิ ยากรบรรยายความเปน็ มาของภาษาล้านนา ๒. ทดสอบการอา่ น และการเขยี นภาษาล้านนาก่อนนาเข้าสบู่ ทเรียน ขน้ั สอน ๑. ครูวิทยากร สอน เร่ือง การเขียนพยัญชนะ สระ และตวั สะกดภาษาลา้ นนา(ตวั๋ เมือง) และการเทียบพยัญชนะ สระ และตวั สะกด ตว๋ั เมืองเปน็ ภาษาไทยกลาง
33 ๒. ครกู าหนดหัวข้อ สภุ าษติ ล้านนา (ตัว๋ เมอื ง) ให้นกั เรยี นเขยี นเป็นเปน็ ภาษาไทยกลาง และ ภาษาไทยกลางเปน็ ภาษาลา้ นนา (ต๋ัวเมือง) ๓. ครูสุ่มเลือกนกั เรยี นออกมาเขยี นภาษาลา้ นนา (ตว๋ั เมือง) หน้าห้องเรียน ๔. ครูและนักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการเขียนภาษาล้านนา (ต๋ัวเมอื ง) ๕. ครูแจกใบงาน เกี่ยวกับการฝึกเขียนพยัญชนะ สระ และตัวสะกด ภาษาล้านนา (ตัว๋ เมอื ง) ๖. ครสู รุปเกย่ี วกับหลักการเขยี นพยญั ชนะ สระ และตัวสะกด ภาษาลา้ นนา(ตวั๋ เมือง) ๗. ทดสอบการเขยี นภาษาไทยกลางเป็นภาษาล้านนาและภาษาลา้ นนาเปน็ ภาษาไทยกลาง ๘. ครูสอน เรอ่ื ง โครงสร้างคาผสมสระ โครงสร้างคามีตัวสะกด โครงสร้างคามีตัวสะกดวาง ไวด้ ้านล่างพยญั ชนะต้นและดา้ นหลงั พยัญชนะตน้ โครงสร้างคาตวั ข่มและตวั ซอ้ น ๙. ครูใหน้ ักเรยี นฝึกเขียนโครงสรา้ งการผสมคาของพยญั ชนะและตัวสะกด ๑๐.ทดสอบการเขยี นและการอ่านภาษาลา้ นนา ๑๑.ครูแจกตารายาสมุนไพรจากใบลาน ให้นักเรียนแต่ละรูปศึกษาและแปล เขียน ภาษา ลา้ นนา (ตว๋ั เมือง) เปน็ ภาษาไทยกลาง ๑๒.นกั เรียนแต่ละรปู เขยี นสุภาษติ ภาษาล้านนา (ตัว๋ เมอื ง) ๑๓.ครูทดสอบการเขียน การอ่านและการแปลภาษาล้านนาเป็ นภาษาไทยกลางและ ภาษาไทยกลางเปน็ ภาษาล้านนา(ตัว๋ เมือง) ๑๔.ครูจัดให้นักเรียนมีการแข่งขันการเขียนสุภาษิตภาษาล้านนา และประกาศผลผู้ท่ีเขียน และแปลไดถ้ กู ต้องมากท่สี ดุ ๑๕.วดั ระดับความพงึ พอใจต่อการเรยี นภาษาลา้ นนา ข้นั สรุป ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปหลักการเขียน การอา่ นและการแปล ภาษาล้านนาเปน็ ภาษาไทยกลาง สื่อการเรียนรู้ ๑. ใบความรู้ / หนังสอื เรียนภาษาลา้ นนา ๒. ใบงาน ๓. เอกสารตารายาสมุนไพรจากใบลาน แหลง่ เรยี นรู้ - วทิ ยากร ท่ีให้ความรู้ การวดั ผลประเมินผล - ตรวจแบบทดสอบ เครอื่ งมอื วัดและประเมินผล
34 - แบบทดสอบ - แบบวดั ระดบั ความพงึ พอใจ แบบวัดระดับความพงึ พอใจ โครงการศกึ ษาภาษาลา้ นนา คาชีแ้ จง เพอื่ ใหผ้ จู้ ัดได้มีโอกาสรับทราบผลการดาเนนิ งานของตนเอง และเพอื่ ประโยชนใ์ นการปรบั ปรุง โครงการให้มีประสทิ ธิภาพมากขน้ึ โปรดเตมิ เครื่องหมาย และกรอกข้อความให้สมบรู ณ์ ความพึงพอใจตอ่ โครงการ ความหมายระดับของการประเมิน ๕ = มากทีส่ ุดหรือดีมาก ๔ = มากหรือดี ๓ = ปานกลางหรอื พอใช้ ๒ = น้อยหรือต่ากว่ามาตรฐาน ๑ = นอ้ ยท่ีสุดหรือตอ้ งปรบั ปรงุ แกไ้ ข รายการ ๕ ระดับความพึงพอใจ ๑ ๔๓ ๒ ๑. กระบวนการ ข้ันตอน ๑.๑ การประชาสมั พนั ธโ์ ครงการการศกึ ษาภาษาล้านนา ๑.๒ ความเหมาะสมของสถานที่ ๑.๓ ความเหมาะสมของระยะเวลา ๑.๔ การจัดลาดับข้ันตอนของกิจกรรม ๒. ความรูข้ องวทิ ยากร ๒.๑ ความรอบรู้ ในเน้ือหาของครู ๒.๒ ความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ๒.๓ การตอบคาถาม ๒.๔ ความเหมาะสมของวิทยากร ในภาพรวม
35 ๓. คณุ ภาพการสอน ๓.๑ เนอ้ื หาสาระสอดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงค์ ของหัวข้อโครงการ ๓.๒ ความรู้ความเข้าใจ เกยี่ วกบั เน้อื หาในการเรียนเรื่องภาษาล้านนา ๓.๓ ความรคู้ วามเขา้ ใจ เกยี่ วกับการเขยี นป้ายภาษิตลา้ นนา ๓.๔ ความรคู้ วามเขา้ ใจ เกีย่ วกบั ตารายาสมุนไพร ๓.๕ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับในการเรียน ๔. การอานวยความสะดวก ๔.๑ เอกสารเกี่ยวกบั การเรยี นการสอน ๔.๒ บคุ ลากรท่ีสนับสนุน ๔.๓ อาหารเพลและนา้ ปานะ ขอ้ เสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๕.การทาห้องเรยี นศาสนพิธีท้องถ่ิน ๕.๑ กิจกรรมการเรยี นรู้ : นักสืบศาสนพิธีท้องถิ่น ๕.๒ กิจกรรมการเรียนรู้ : ภาพถา่ ย ศิลปะ และขา้ วของเครื่องใช้ในศาสนพิธีท้องถ่ิน ๕.๓ กิจกรรมการเรยี นรู้ : วิจยั สร้างองคค์ วามร้ศู าสนพิธีท้องถิ่น คาอธิบายรายวชิ า การเรียนรู้ผ่านโครงงาน เป็นการแสวงหาความรูแ้ บบหน่ึงท่เี กิดจากการลงมือปฏิบัติจริง นักสืบศา สนพิธีท้องถนิ่ เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีให้สามเณรสังเกตและเก็บข้อมูลพิธีกรรมท่ีสนใจ เพื่อสร้างความรู้และ ทาความเข้าใจในพิธีกรรมนั้น และนาผลงานมาเก็บรวบรวมเป็นแหล่งเรียนรู้ การเรียนรู้ผ่านส่ิงของ เป็นการ แสวงหาความรู้แบบหน่ึงที่ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผ่านการถ่ายรูป และเก็บรวมรวบส่ิงของต่าง ๆ ดังนั้น ภาพถ่าย ศิลปะ และขา้ วของเครื่องใช้ในศาสนพิธีท้องถิ่นเป็นกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ีให้สามเณรได้เก็บรวมรวบ ข้อมูลส่ิงของท่ีใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้และทาความเข้าใจในพิธีกรรมนั้น และนาผลงานมาเก็บ รวบรวมเป็นแหล่งเรยี นรู้ การวิจัยเป็นการสร้างความรู้ใหม่ เป็นการเรียนรู้ต่อยอดจากการรวบรวมองค์ ความรู้ศาสนพิธีท้องถ่ินของท่าวังผา จังหวัดน่านที่มีอยู่ในตัวบุคคลและในส่ิงต่าง ๆ ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพือ่ สรา้ งเปน็ แหลง่ คน้ ควา้ ความร้ขู องสามเณรและผูส้ นใจต่อไป ผลการจดั การเรยี นรู้ ๑. สามเณรมีความรู้ดา้ นศาสนพิธใี นท้องถิ่นบางประการ ๒. สามเณรไดม้ กี ระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
36 กล่มุ เป้าหมาย ดา้ นปริมาณ สามเณรนักเรียนโรงเรียนพระปรยิ ัติธรรมวดั นิโครธารามระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ดา้ นคณุ ภาพ โรงเรียนจัดใหน้ ักเรียนได้แสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง สาระการเรยี นรู้ การแสวงหาความรู้แบบหน่ึงที่เกิดจากการลงมือปฏิบัติจริง นักสืบศาสนพิธีท้องถ่ินเป็นกิจกรรม การเรยี นรู้ท่ใี ห้สามเณรสงั เกตและเก็บขอ้ มลู พิธกี รรมท่ีสนใจ เพือ่ สรา้ งความรูแ้ ละทาความเขา้ ใจในพธิ กี รรมน้ัน และนาผลงานมาเก็บรวบรวมเปน็ แหลง่ เรยี นรู้ การเรียนรผู้ ่านส่งิ ของ เป็นการแสวงหาความรู้แบบหนึง่ ท่ผี เู้ รยี น ได้ลงมือปฏิบัติจริง ผ่านการถ่ายรูป และเก็บรวมรวบสิ่งของต่าง ๆ ดังน้ัน ภาพถ่าย ศิลปะ และข้าวของ เครื่องใช้ในศาสนพิธีท้องถิ่นเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้สามเณรได้เก็บรวมรวบข้อมูลส่ิงของที่ใช้ในพิธีกรรม ต่าง ๆ เพ่ือสร้างความรู้และทาความเข้าใจในพิธีกรรมนั้น และนาผลงานมาเก็บรวบรวมเป็นแหล่งเรียนรู้ การวิจัยเป็นการสร้างความรู้ใหม่ เป็นการเรียนรู้ต่อยอดจากการรวบรวมองค์ความรู้ศาสนพิธีท้องถ่ินของ ท่าวังผา จังหวัดน่านที่มีอยู่ในตัวบุคคลและในส่ิงต่าง ๆ ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อสร้างเป็นแหล่งค้นคว้า ความรูข้ องสามเณรและผู้สนใจตอ่ ไป แผนกิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั เตรียม ๑. ประชุมหาปรึกษาการจัดกิจกรรม นักสบื ศาสนพธิ ที อ้ งถน่ิ ภาพถ่าย ศลิ ปะ และขา้ ว ของเครอ่ื งใชใ้ นศาสนพธิ ที อ้ งถน่ิ และการวจิ ยั สรา้ งองคค์ วามรศู้ าสนพธิ ที อ้ งถน่ิ ๒. วางแผนการทากาหนดการจดั กิจกรรม ขัน้ ดาเนินงาน ๑. ได้มกี ารประชุมวางแผนการการดาเนนิ งาน แบง่ กลุ่มนักเรยี น และเตรียมแบบประเมนิ ๒. ได้มกี ารแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๓-๔ รูป เพื่อศกึ ษาคน้ คว้าเก่ียวกบั ศาสนพิธที ้องถ่นิ ๓. มกี ารจดั ครูท่ปี รกึ ษาใหก้ ับนักเรยี น กลุ่มละ ๑ คน เพอื่ คอยดูแล และใหค้ าปรึกษา ๔. ให้ผู้เรยี นไดเ้ ขา้ ร่วมสงั เกตการสวดของพระในพธิ ีกรรมตา่ ง ๆ โดยใหจ้ ดบนั ทกึ ส่งิ ทีพ่ บ เห็น เพอ่ื เตรยี มตวั ในการเปน็ ผ้ทู าพธิ ีกรรมต่อไป (ศาสนพิธ)ี ๕. ให้นักเรยี นสรปุ การดาเนนิ กจิ กรรม ข้นั สรุป ๑. ใหส้ ามเณรสรปุ เปน็ เอกสารโครงงาน ๒. สามเณรกรอกแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ
37 สือ่ การเรยี นรู้ ๑. ผู้ทรงความรู้ในทอ้ งถิน่ แหล่งเรยี นรู้ ๑. วดั ๒. ชมุ ชน ๓. หอ้ งสมุด ๔. อนิ เทอร์เนต็ การวดั ผลประเมนิ ผล ๗.๑ วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมกลุม่ ๗.๒ เครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล - แบบสังเกตพฤตกิ รรมกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม กล่มุ ท.ี่ ................................................. สมาชกิ ของกลมุ่ ๑. .............................................................................. ๒. .............................................................................. ๔. .............................................................................. ๓. .............................................................................. คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิ ลาดั พฤตกิ รรม บที่ ๔ ๓ ๒๑ ๑ มีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ ๒ มีความกระตือรอื ร้นในการทางาน ๓ รบั ผิดชอบในงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ๔ มีขน้ั ตอนในการทางานอย่างเป็นระบบ ๕ ใช้เวลาในการทางานอย่างเหมาะสม รวม ลงชอื่ ..............................................................................ผปู้ ระเมิน / /....................... ........................... ........................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ = ดีมาก ให้ ๔ คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง = ดี ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั = พอใช้ ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง = ปรบั ปรงุ ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑๗-๒๐ ดีมาก
38 ๑๓-๑๖ ดี ๙-๑๒ พอใช้ ๕-๘ ปรบั ปรุง
Search