2 ประวตั ิความเป็นมา 4 ประเพณลี ากพระ ส 5 เรือพระ า ร 6 การอญั เชิญพระลากข้นึ ประดษิ ฐานบน บั 8 พระลากสมเด็จเจา้ ลาวทอง ญ 10 ประเภทการลากพระ 11 การจดั เตรียมอปุ กรณ์ในการลากพระ 12 กิจกรรมประจำ�ประเพณี 2 : ประเพณีลากพระ เมอื งนครศรีธรรมราช
ประวัติความเป็นมา ประเพณชี กั พระ เป็นประเพณี ประเพณนี ี้เกิดขึน้ ครั้งแรกใน ประกาศพระคุณของมารดา ท้องถน่ิ ของชาวใต้ ซึ่งเปน็ ประเทศอนิ เดยี ที่นยิ มเอา แกเ่ ทวสมาคมและแสดงพระ ประเพณีทำ�บุญในวันออก เทวรปู ออกแห่ในโอกาสตา่ ง อภิธรรมโปรดพุทธมารดา 7 พรรษา ซ่งึ ตรงกับ วนั แรม ๆ ตอ่ มาพุทธศาสนกิ ชนได้ คัมภีร์ จนพระมหามายาเทพ 1 คำ่ �เดอื น 11 ซึง่ เช่อื กันวา่ นำ�เอาคตคิ วามเชือ่ ดงั กลา่ ว และเทพยดา ในเทวสมาคม เมอ่ื ครง้ั ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ เสด็จ มาปรับปรุงให้สอดคล้องกับ บรรลโุ สดาบันหมด ถึงวัน ไปจำ�พรรษา ณ สวรรค์ชนั้ ความเชอ่ื ทางพุทธศาสนา ข้ึน 15 คำ่ � เดือน 11 อนั ดาวดงึ ส์เพอ่ื โปรดพระมารดา ประเพณชี กั พระเล่ากันเปน็ เปน็ วนั สุดทา้ ยของพรรษา เมื่อครบพรรษาจงึ เสด็จมายงั เชิงพุทธตำ�นาน ว่า หลัง พระพุทธองค์ไดเ้ สดจ็ กลบั โลกมนษุ ย์ พุทธศาสนิกชน จากพระพทุ ธองค์ทรงกระทำ� มนุษยโลกทางบันได ทิพย์ท่ี จงึ มารอรบั เสดจ็ แลว้ ยมกปาฏิหารย์ปราบเดียรถยี ์ พระอินทร์นมิ ติ ถวาย บันไดน้ี อัญเชญิ พระพทุ ธ เจา้ ข้นึ ณ ป่ามะมว่ ง กรุงสาวัต ทอดจากภเู ขาสิเนนุราชท่ีต้ัง ประทับบน บุษบกแล้วแห่ไป ถี แล้วไดเ้ สร็จไปจำ�พรรษา สวรรค์ ชัน้ ดุสติ มายงั ประตู รอบเมือง ณ ดาวดงึ ส์เพ่อื โปรดพุทธ นครสงั กสั สะ ประกอบดว้ ย ประเพณีชักพระเปน็ ประ มารดา ซงึ่ ขณะนั้นทรงจตุ ิ บันไดทอง บนั ไดเงินและบนั ได เพณีทพราหมณ์ศาสนกิ ชน เปน็ มหามายาเทพ สถิต แก้ว บันไดทองนน้ั สำ�หรับ และพุทธศาสนกิ ชนปฏิบัติ อยู่ ณ ดุสิตเทพพิภพตลอด เทพยดา มาสง่ เสด็จอยเู่ บื้อง สืบต่อกันมา สันนิษฐานวา่ พรรษา พระพุทธองคท์ รง ขวาของพระพทุ ธองค์ บนั ได 3 : ประเพณีลากพระ เมืองนครศรีธรรมราช
ประเพณีลากพระ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ประเพณชี กั พระเป็นประเพณี พทุ ธศาสนิกชนทที่ ราบ หอ่ ภัตตาหารด้วยใบไม้โยนไป ทอ้ งถน่ิ ของชาวใต้ ซึง่ เป็น กำ�หนดการเสด็จกลับของ บ้าง ปาบ้าง ขา้ ไปถวายเปน็ ประเพณีทำ�บุญในวันออก พระพุทธองค์จากพระโมคคลั ที่โกลาหล โดยถือวา่ เป็นการ พรรษา ซึง่ ตรงกบั วันแรม ลานไดม้ ารอรับเสดจ็ อย่าง ถวายทตี่ งั้ ใจดว้ ยความ 1 ค่ำ�เดอื น 11 ซ่ึงเชอ่ื กนั วา่ เนอื งแนน่ พรอ้ มกบั เตรยี ม บรสิ ทุ ธด์ิ ว้ ยแรงอธษิ ฐานและ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้า เสดจ็ ภตั ตาหารไปถวายดว้ ย แต่ อภนิ ิหารแหง่ พระพทุ ธองค์ ไปจำ�พรรษา ณ สวรรค์ เนอื่ งจากพุทธศาสนิกชนทมี่ า ภตั ตาหารเหลา่ น้ันไปตกใน ชั้นดาวดงึ สเ์ พ่อื โปรด รอรับเสด็จมเี ป็นจำ�นวนมาก บาตรของพระพุทธองคท์ ั้ง พระมารดา เมือ่ ครบพรรษา จึงไม่สามารถจะเข้าไปถวาย ส้ิน เหตนุ ีจ้ งึ เกิด ประเพณี จึงเสด็จมายงั โลกมนุษย์ ภตั ตาหารถึงพระพทุ ธองค์ “หอ่ ตม้ ” “หอ่ ปดั ” ข้ึน เพื่อ พุทธศาสนิกชนจงึ มารอรับ ไดท้ ่วั ทกุ คน จึงจำ�เปน็ ท่ตี ้อง เป็นการแสดงถงึ ความปิติ เสดจ็ แล้วอญั เชิญพระพุทธ เอาภัตตาหารห่อใบไม้ส่งต่อ ยนิ ดที พี่ ระพทุ ธองคเ์ สดจ็ กลบั เจ้าขนึ้ ประทับบน บุษบกแลว้ ๆ กนั เขา้ ไปถวายสว่ นคนท่ี จากดาวดงึ ส์ พทุ ธศาสนกิ ชน แหไ่ ปรอบเมอื ง อยูไ่ กลออกไปมาก ๆ จะสง่ ได้อญั เชิญพระพุทธองค์ขึ้น ซึง่ เปน็ วันออกพรรษานนั้ ต่อ ๆ กันก็ไม่ทันใจ จึงใชว้ ธิ ี ประทับบนบุษบกทเ่ี ตรยี ม 4 : ประเพณีลากพระ เมืองนครศรีธรรมราช
รือพระ คือ รถหรอื ลอ้ เลือ่ นที่ และตอ้ งทำ�ให้มีนำ้ �หนกั นอ้ ยทีส่ ดุ บุษบก มีการประดษิ ประดอย ประดับตกแตง่ ใหเ้ ปน็ รปู เรอื แลว้ จงึ ใชไ้ มไ้ ผส่ านมาตกแตง่ สว่ นที่ อยา่ งมาก หลงั คาบษุ บกนยิ ม วางบุษบก ซง่ึ ภาษาพน้ื เมือง เป็นแคมเรอื และหัวท้ายเรือคง ทำ�เปน็ รปู จตุรมขุ ตกแตง่ ด้วย ของภาคใตเ้ รยี กวา่ “นม” หรอื ทำ�ให้แนน่ หนา ทางดา้ นหวั และ หางหงส์ ช่อฟา้ ใบระกา และทุก “นมพระ” ยอดบษุ บก เรยี กวา่ ทา้ ยทำ�งอนคล้ายหวั และทา้ ยเรือ ครอบครัวตอ้ งเตรียม “แทงตม้ ” “ยอดนม” ใชส้ ำ�หรบั อาราธนา แล้วตกแต่งเป็นรปู พญานาค ใช้ เตรยี มหาในกระพ้อ และขา้ วสาร พระพทุ ธรปู ข้นึ ประดษิ ฐานแล้ว กระดาษสีเงินสที องทำ�เปน็ เกล็ด ขา้ วเหนยี วเพือ่ นำ�ไปทำ�ขนมต้ม ลากในวันออกพรรษา ลาก นาค กลางลำ�ตวั พญานาค “แขวนเรอื พระ” พระทางน้ำ� เรยี กว่า “เรือพระ ทำ�เป็นรา้ นสูงราว 1.50 เมตร นำ้ �” ส่วนลากพระทางบก เรยี ก เรยี กวา่ “ร้านมา้ ” ส่วนที่ วา่ “เรือพระบก” สมยั ก่อนจะทำ� สำ�คัญทีส่ ดุ คอื บุษบก ซ่ึง เป็นรูปเรือ ให้คล้ายเรือจรงิ ๆ แต่ละท่จี ะมีเทคนคิ การออกแบบ เรือพระ 5 : ประเพณีลากพระ เมอื งนครศรธี รรมราช
การอัญเชิญพระลากข้นึ ประดษิ ฐานบนบุษบก 6 : ประเพณีลากพระ เมอื งนครศรีธรรมราช
พระลาก คอื พระพทุ ธรปู ยืน แตท่ ีน่ ยิ ม คอื พระพทุ ธรูปปางอุ้มบาตร เมอ่ื ถงึ วันข้ึน 15 ค่ำ�เดอื น 11 พทุ ธบรษิ ทั จะสรงน้ำ�พระและเปล่ยี นจวี ร แล้ว อญั เชญิ ขนึ้ บนบุษบก แลว้ พระสงฆ์จะ เทศนา เรอื่ ง การเสด็จไปดาวดึงส์ ของพระพทุ ธเจ้า ในวนั แรม 1 คำ่ �เดือน 11 ในตอนเช้ามดื ชาวบา้ นจะ มาตกั บาตรหน้านมพระ เรยี กวา่ “ตกั บาตรหน้าล้อ” แล้วอญั เชญิ ข้ึน ประดิษฐาน บนนมพระ ใชเ้ ชอื กแบง่ ผกู เป็น 2 สาย เปน็ สายผหู้ ญิงและสายผู้ชาย ใชโ้ พน ฆอ้ ง ระฆงั เป็นเคร่ืองตใี หจ้ ังหวะในการลากพระ คนลากจะเบียดเสยี ดกันสนกุ สนานและ ประสาน เสียงรอ้ งบทลากพระเพอ่ื ผ่อนแรง ตวั อย่างบทร้องทใี่ ช้ลากพระ คอื อี้สาระพา เฮโล เฮโล ไอ้ไหรกลมกลม หวั นมสาวสาว ไอไ้ หร ยาวยาว สาวสาวชอบใจ 7 : ประเพณลี ากพระ เมอื งนครศรีธรรมราช
พระลากสมเด็จเจา้ ลาวทอง เป็นพระลอยน้ำ�มาติดด้านหลังค ร้างพระองค์ใหม่พระองค์น้ีเป็นพระ ลองวัดสวนหลวงสมัยก่อนคน ที่เป็นเชื้อเจ้าของประเทศลาวสมัย เลยอัญเชิญท่านมาประดิษฐสัน อยธุ ยา ฐาน ณ วดั สวนหลวงสร้างในสมัย อยุธยาตอนปลายเป็นพระของคน ลาวคนลาวตามหาพระที่ลอยน้ำ� มาเเต่มาเจอท่ีวัดสวนหลวงก็เลย ขอเอาปรอทในองค์พระแต่องค์พระ ก็ไม่นำ�กลับไปเอาแต่ปรอทกลับไแส 8 : ประเพณีลากพระ เมอื งนครศรธี รรมราช
มือ่ พระพุทธองคท์ รงผนวชได้ 7 พรรษา และ พรรษา ท่ี 7 น้นั ไดเ้ สด็จไปจำ�พรรษา ณ สวรรค์ชน้ั ดาวดึงส์ ครน้ั ออกพรรษาแลว้ ยามเช้าของแรม 1 คำ่ � เดือน 11 ได้เสด็จกลบั มายงั โลกมนุษย์ ในการน้พี ุทธบริษทั ท้งั 4 ประกอบดว้ ย ภิกษุ ภิกษณุ ี อบุ าสก และ อบุ าสิกา ซ่งึ รอคอยพระพทุ ธองค์มาเป็นเวลานานถึง 3 เดือน คร้ัง ทราบว่า พระพุทธเจ้าเสดจ็ กลับ จงึ ได้รับเสดจ็ และได้ นำ�ภตั ตาหารคาวหวานไปถวายดว้ ย ผู้ไปทีหลังนงั่ ไกล ไม่สามารถเข้าไปถวายภัตตาหารดว้ ยตวั เองได้ จึงใช้ใบไม้ห่ออาหารและส่งผ่านชุมชน ตอ่ ๆกนั ไป เพือ่ ขอความอนุเคราะห์ตอ่ ผู้ น่ังใกลๆ้ ถวายแทน บญุ ประเพณลี าก พระ จงึ มีขนมตม้ หรือทเี่ รียกตามภาษา ถ่ินวา่ “ตม้ ” เป็นขนมประจำ�ประเพณีทำ� ดว้ ยขา้ วเหนยี ว หอ่ ดว้ ยใบไม้อ่อนๆ เช่น ใบจาก ใบลาน ใบตาล ใบมะพรา้ ว หรอื ใบกะพ้อ เป็นตน้ การลากพระ เป็นการบำ�เพ็ญบญุ ประเพณใี นเทศกาลคล้ายวนั พระพทุ ธเจ้าเสดจ็ กลบั จาก สรวงสวรรค์ชัน้ ดาวดงึ ส์มาส่โู ลกมนษุ ย์ เพอื่ ใหป้ ระเพณดี งั กล่าวโน้มนา้ วเร้าจติ ใจใหค้ ดิ ระลึกถงึ วันทพี่ ระพทุ ธองค์ทรงกลับมาสู่มนษุ ยโ์ ลก และ โปรดเวไนยสตั ว์จนเสด็จดับขัน ปรนิ พิ พาน ประเพณีลากพระจดั ทำ�ในวนั แรม 1 ค่ำ� เดอื น 11 โดยอัญเชญิ พระพุทธรปู ปาง หา้ มญาติ หรอื ปางห้ามสมุทร ซึ่งเป็นปางประทบั ยนื ปละทรงยกพระหตั ถ์เสมอพระอุระ ประดษิ ฐานเหนอื บุษบกคือมณฑปขนาดเล็กสำ�หรับประดิษฐานพระพุทธรปู ท่ีจัดต้งั ไวใ้ นยานพาหนะสำ�หรับลากจงู ต่อไป ขบวนลากจงู เรอื พระน้ี เป็นประเพณีที่ชาว ภาคใต้เรียกว่า “พธิ ลี ากพระ” 9 : ประเพณลี ากพระ เมืองนครศรีธรรมราช
ประเภทการลากพระ การลากพระแบ่งเป็น 2 ประเภท เน่อื งจากพ้ืนท่ีภาคใตบ้ างแห่งเป็นที่ราบลุ่ม ชุมชนที่อยู่อาศยั ในสถานท่ีแหง่ น้ซี ่งึ เป็นพืน้ ที่ ใกลท้ ะเล แม่นำ้ �ลำ�คลอง การคมนาคมใช้เรือเปน็ พาหนะ สำ�หรบั ชมุ ชนทีอ่ าศัยในทีร่ าบสูง ใช้เกวยี นหรือรถยนต์เปน็ พาหนะ ดังนั้น บญุ ประเพณีลากพระจำ�เป็นต้องใชย้ านพาหนะให้ เหมาะกบั พน้ื ที่ จงึ จะประกอบพธิ ีลากพระได้ท่ัวภมู ภิ าคและตอ่ ละสถาน ท่มี ีวตั ถุประสงค์ อยา่ งเดียวกนั ตา่ งกันแตร่ ปู แบบ หรอื อุปกรณท์ ่ีนำ�มาใช้ในพิธดี งั น้ี 1.การลากพระเรอื เป็นประเพณีลากพระทางน้ำ�ของชมุ ชนทต่ี ้งั ถิ่นฐานอยใู่ นทรี่ าบลมุ่ การ คมนาคมใช้เรอื เปน็ พาหนะ 2.การลากพระบก เปน็ ประเพณ๊ลากพระทางบกของชุมชนท่ีตงั้ ถิ่นฐานอยูใ่ นทร่ี าบสูง การ คมนาคมในชีวติ ประจำ�วนั ใช้เกวยี นหรอื รถยนตแ์ ละรถไฟเป็นพาหนะ แตร่ า้ นม้าทจ่ี ดั ตงั้ บษุ บกใชค้ ำ�วา่ “เรอื ” นำ�หนา้ จึงเรียกว่า “เรือพระบก” สนั นษิ ฐานว่า การลากพระคงเรมิ่ จากลากพระเรอื ก่อนที่จะดดั แปลงมาเป็นลากพระบก 10 : ประเพณลี ากพระ เมืองนครศรธี รรมราช
การอัญเชิญพระพุทธรูปปางอมุ้ บาตรข้ึนประดษิ ฐานบนบุษบกในเรอื แลว้ แห่แหนโดยการ ลากไปทางน้ำ�ประเพณลี ากพระ ที่มกั กระทำ�ด้วยวิธนี ี้ เป็นของวดั ท่ีสว่ นใหญอ่ ยใู่ กลแ้ มน่ ำ้ � ลำ�คลอง การลากพระทางน้ำ�จะสนกุ กวา่ การลากพระทางบก เพราะสภาพการเออื้ อำ�นวย ต่อกจิ กรรมอน่ื ๆ เช่น สะดวกในการลากพระ ง่ายแกก่ ารรวมกลุม่ กนั จัดเรอื พาย แหล่ง ลากพระน้ำ�ทมี่ ชี อื่ เสียงอยา่ งย่ิง คอื ทอ่ี ำ�เภอกระบุรี จงั หวดั ระนอง อำ�เภอหลงั สวน จังหวดั ชุมพร อำ�เภอพนุ พนิ และอำ�เภอเมอื งสุราษฎรธ์ านี จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี อำ�เภอปากพนัง จงั หวัดนครศรีธรรมราช รองลงมาอำ�เภอระโนด จงั หวัดสงขลา อำ�เภอปากพะยูน จังหวดั พัทลุง การชักพระทางน้ำ�ของเกาะพะงัน จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี แปลกกว่าทีอ่ ืน่ คือ จะลาก กัน 3 วัน ระหว่างแรม 8 ค่ำ�ถงึ แรม 10 ค่ำ� เดือน 11 มีการปาสาหร่ายโตต้ อบกนั ระหว่าง หนมุ่ สาวมีการเล่นเพลงเรอื และท่ีแปลกพเิ ศษ คอื มกี ารทอดผ้าปา่ สามัคคีในวันเร่ิมงาน 11 : ประเพณีลากพระ เมอื งนครศรีธรรมราช
12 : ประเพณลี ากพระ เมอื งนครศรีธรรมราช
13 : ประเพณลี ากพระ เมอื งนครศรีธรรมราช
ผู้จัดท�ำ นายสริ ธีร์ สุทธิเดช รหสั 611152202 ชั้นปที ่ี 3 สาขาเทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละอตุ สาหกรรมดจิ ทิ ลั คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: