65_7_2social2

10 แผนการสอน/การเรยี นรภู้ าคทฤษฎี หน่วยท่ี 2 ช่อื วิชา หนา้ ทพ่ี ลเมืองและศลี ธรรม สอนสปั ดาหท์ ี่ 2 ชอ่ื หน่วย องคป์ ระกอบของศาสนา คาบรวม 2 ช่อื เรื่อง องคป์ ระกอบของศาสนา จานวนคาบ 2 หัวข้อเรื่อง ดา้ นความรู้ 1. องคป์ ระกอบของศาสนา 2. ความแตกตา่ งระหวา่ งศาสนากบั ลทั ธิ 3. ศาสนาพราหมณ–์ ฮินดู 4. ศาสนาพุทธ 5. ศาสนาครสิ ต์ 6. ศาสนาอสิ ลาม ด้านทักษะ 7. อภิปรายประโยชน์ขององค์ประกอบของศาสนา ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ 3D 8. เตรยี มความพร้อมด้าน วสั ดุ อุปกรณ์ สอดคล้องกบั งานได้อยา่ งถูกต้องและใช้วสั ดุอุปกรณ์อย่างค้มุ ค่า ประหยดั ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ลักษณะ3D (ความรบั ผิดชอบ ความประหยดั ความขยัน ความอดทน แบ่งปัน) 9. ปฎิบตั งิ านได้อย่างถูกต้องและสาเรจ็ ภายในระยะเวลาที่กาหนดอยา่ งมเี หตุและผลตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงและคุณลกั ษณะ3D (ความสนใจใฝ่รู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ) สาระสาคญั ดา้ นความรู้ ศาสนากบั ลัทธมิ ีความแตกต่างกัน ในแต่ละศาสนาอาจมีความเหมือนและแตกตา่ งกนั ดังน้ันควรศึกษาให้ เข้ากบั องคป์ ระกอบของแต่ละศาสนา เพื่อสรา้ งใหเ้ กิดความเขา้ ใจอนั ดรี ะหว่างศาสนกิ ชนแตล่ ะศาสนา เพราะโดย พื้นฐานแล้วทกุ คนล้วนมหี ลักคาสอน ใหเ้ ปน็ คนดี มีคุณธรรม ผู้นบั ถือศาสนาทม่ี ีความเข้าใจในข้อปฏบิ ัตจิ ะได้รบั ประโยชน์จากการปฏิบัติอย่างแทจ้ ริง

11 ดา้ นทักษะ อภปิ รายประโยชน์ขององค์ประกอบของศาสนา นักศึกษาจะสามารถยกตวั อย่างอภปิ รายประโยชน์ ขององคป์ ระกอบของศาสนาไดอ้ ยา่ งถูกต้อง และรู้จักคน้ คว้าหาข้อมลู เพิ่มเติมในระบบอนิ เตอร์เน็ต ชว่ ยเสริมสรา้ ง ทกั ษะ ความสามารถทางด้านการปฏบิ ัติ การพดู การฟัง มกี ารพัฒนาบุคลกิ ภาพในการพูด การถาม กาตอบ คาถาม และการแลกเปลย่ี นความรู้ซึง่ กันและกัน ทาให้นักศกึ ษาได้มบี ทบาทในการเรยี น และสรา้ งสรรค์ บรรยากาศท่ีดจี ากการเรยี น มีความพร้อมในการเตรียมตวั และสามารถปฏิบตั งิ านได้อยา่ งถกู ต้อง และสาเร็จ ภายในเวลาที่กาหนดอย่างมีเหตุและผลตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลักความประหยัดรจู้ ักใช้และ จัดการอยา่ งฉลาดและรอบคอบ มีเหตมุ ีผล มีภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ทีด่ ไี ด้ (ดา้ นทกั ษะ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม) สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย (สง่ิ ทตี่ ้องการใหเ้ กิดการประยุกต์ใช้ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม เขา้ ด้วยกัน) แสดงความรเู้ กย่ี วกบั องค์ประกอบของศาสนา จดุ ประสงคก์ ารสอน/การเรยี นรู้  จุดประสงคท์ ั่วไป/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพ่ือใหม้ ีความรู้เกีย่ วกบั องค์ประกอบของศาสนา ความแตกต่างระหวา่ งศาสนากับลทั ธิ และ องคป์ ระกอบสาคัญของศาสนาพราหมณ์–ฮนิ ดู ศาสนาพุทธ (ดา้ นความร้)ู 2. เพือ่ ให้มที ักษะในการอภิปรายประโยชนข์ ององค์ประกอบของศาสนา(ดา้ นทักษะ) 3. เพื่อให้มเี จตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมด้านการเตรยี ม วสั ดุ อปุ กรณ์ และการปฏิบัติงานอย่าง ถูกต้อง สาเร็จภายในเวลาที่กาหนด มีเหตแุ ละผลตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ลักษณะ 3D (ดา้ น คณุ ธรรม จริยธรรม)  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ดา้ นความรู้ 1.อธบิ ายองค์ประกอบของศาสนาได้อย่างถูกตอ้ ง 2.อธิบายความแตกต่างระหว่างศาสนากบั ลทั ธิไดอ้ ย่างถูกต้อง 3. อธบิ ายองค์ประกอบสาคัญของศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ศาสนาพุทธ ศาสนาครสิ ต์ และศาสนาอสิ ลาม ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 4. อธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งขององคป์ ระกอบของศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ศาสนาพทุ ธ ศาสนาครสิ ต์ และศาสนาอสิ ลามได้อย่างถูกต้อง

12 ด้านทกั ษะ 5. อภปิ รายประโยชนข์ ององค์ประกอบของศาสนาได้อย่างถูกต้อง ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ 3D 6. เตรยี มความพร้อมด้าน วสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคล้องกับงานได้อยา่ งถูกต้องและใชว้ ัสดอุ ุปกรณอ์ ยา่ งค้มุ ค่า ประหยดั ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลักษณะ3D (ความรับผิดชอบ ความประหยดั ความขยัน ความอดทน แบง่ ปัน) 7. ปฎิบตั ิงานได้อยา่ งถูกต้องและสาเรจ็ ภายในระยะเวลาท่ีกาหนดอย่างมีเหตแุ ละผลตามหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพยี งและคุณลกั ษณะ3D (ความสนใจใฝ่รู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั )  หลักความพอประมาณ 1. ผู้เรยี นจดั สรรเวลาในการฝกึ ปฎิบตั ิตามใบงานได้อย่างเหมาะสม 2. กาหนดเน้อื หาเหมาะสมกบั เกณ์ก์ ารประเมินองค์ประกอบของศาสนา 3. ผู้เรียนรูจ้ ักใช้และจัดการวัสดุอุปกรณ์ตา่ ง ๆ อย่างประหยัดและคุม้ คา่ 4. ผู้เรียนปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้นู าและผูต้ ามท่ีดี 5. ผเู้ รียนเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องกลุ่มเพอื่ และสังคม  หลกั ความมเี หตผุ ล 1. เห็นคณุ คา่ ของประโยชนข์ ององค์ประกอบของศาสนาได้อย่างถกู ต้อง 2. กล้าแสดงความคิดอยา่ งมเี หตุผล 3. กล้าทักท้วงในสงิ่ ที่ไมถ่ ูกต้องอย่างถกู กาละเทศะ 4. กล้ายอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ื่น 5. คดิ สิง่ ใหม่ ๆ ทเี่ กดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง และสังคม 6. ใช้วัสดุถูกต้องและเหมาะสมกับงาน 7. ไม่มีเรื่องทะเลาะววิ าทกบั ผอู้ ่ืน 8. มีความคดิ วเิ คราะห์ในการแก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบ  หลกั ความมภี ูมิคุ้มกนั 1. มที ักษะในการอภิปรายประโยชนข์ ององค์ประกอบของศาสนา ได้อย่างถูกต้อง 2. ผู้เรยี นได้รับความรูท้ ่ีถูกต้อง พรอ้ มทัง้ กาหนดเนอ้ื หาได้ครบถว้ นถกู ต้องตามลกั ษณะองค์ประกอบ ของศาสนา 3. มกี ารเตรยี มความพร้อมในการเรียน และการปฏบิ ัติงาน 4. กลา้ ซักถามปญั หาหรือข้อสงสัยตา่ ง ๆ อย่างถกู กาลเทศะ 5. แก้ปญั หาเฉพาะหน้าได้ด้วยตนเองอย่างเปน็ เหตุเป็นผล 6. ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ 7. ควบคมุ กรยิ าอาการในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ไดเ้ ปน็ อย่างดี

13 การตดั สินใจและการดาเนนิ กจิ กรรมต่าง ๆ ใหอ้ ย่ใู นระดบั พอเพียงหรือตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงนนั้ ตอ้ งอาศยั ท้ังความรแู้ ละคณุ ธรรมเป็นพน้ื ฐานดังน้ี  เงือ่ นไขความรู้ 1. ผเู้ รียนได้ใช้กระบวนการคดิ ในการองค์ประกอบของศาสนา (ความสนใจใฝร่ ู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั ) 2. มีความรู้ ความเข้าใจ ในการอภิปรายประโยชน์ขององคป์ ระกอบของศาสนา 3. ใชว้ สั ดอุ ย่างประหยดั และคุ้มคา่ 4. ปฏิบตั งิ านดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 5. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง  เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. ปฏิบัตงิ านทไี่ ด้รับมอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรับผิดชอบ) 2. ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์อยา่ งคุ้มค่า ประหยัด (ความประหยัด) 3. มคี วามเพยี รพยายามและกระตอื รือรน้ ในการเรียนและการปฏิบัตงิ าน (ความขยนั ความอดทน) 4. ใหค้ วามร่วมมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวม อาสาช่วยเหลืองานครูและผู้อืน่ (แบ่งปัน) เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรียนรู้  ดา้ นความรู้ (ทฤษฎี) (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อท่ี 1-4) 1. องคป์ ระกอบของศาสนา 2. ความแตกตา่ งระหวา่ งศาสนากับลัทธิ 3. องคป์ ระกอบสาคัญของศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ศาสนาพทุ ธ ศาสนาครสิ ต์ และศาสนาอสิ ลาม 4. ความเหมือนและความแตกต่างขององค์ประกอบของศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ศาสนาพทุ ธ ศาสนา คริสต์ และศาสนาอิสลาม  ด้านทกั ษะ (ปฏิบัติ) (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 5) 5. ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง องคป์ ระกอบของศาสนา 6. แบบฝึกหดั ท้ายบทเรียน  ดา้ นคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 6-7) 7. การเตรยี มความพร้อมด้านการเตรียม วสั ดุ อปุ กรณ์นักเรียนจะตอ้ งกระจายงานได้ทัว่ ถึง และตรง ตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดั เตรยี มสถานที่ ส่อื วัสดุ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียงและนักเรยี นทุก คนจะต้องรูจ้ กั ใช้และจัดการกับวสั ดุอุปกรณ์เหล่าน้ันอย่างฉลาดและรอบคอบ สามารถนาวสั ดุอุปกรณ์ในท้องถ่นิ มาประยุกตใ์ ช้อย่างคุ้มคา่ และประหยดั งานจะสาเรจ็ ได้นกั ศึกษาจะต้องมีความขยันอดทน มคี วามเพียรพยายาม และกระตอื รือรน้ ในการเรยี นและการปฏิบัตงิ าน และร้จู กั แบ่งปันให้ความรว่ มมอื กับการทากจิ กรรมของสว่ นรวม อาสาช่วยเหลอื งานครแู ละผอู้ ่ืน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคณุ ลักษณะ3D

14 8. ความมีเหตุมีผลในการปฏบิ ตั ิงาน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง นักเรยี นจะต้องมีการใช้ เทคนิคทแ่ี ปลกใหม่ ใช้สือ่ และเทคโนโลยี ประกอบการนาเสนอทนี่ า่ สนใจ นกั เรียนจะมีภูมิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ไี ด้ นกั เรยี นจะต้องมีความสนใจใฝร่ ู้ รอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้ ขัน้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขนั้ ตอนการเรียนร้หู รอื กจิ กรรมของนกั เรยี น ขัน้ เตรยี ม (20 นาที ) ข้นั เตรยี ม (20 นาที ) 1. จดั เตรยี มเอกสาร ส่อื การเรียนการสอน 1. จดั เตรยี มเอกสาร สื่อการเรยี นการสอนตามท่ี เกย่ี วกับองคป์ ระกอบของศาสนา ความแตกต่างระหวา่ ง ครผู ู้สอนและบทเรยี นกาหนด (บรรลุจดุ ประสงค์เชงิ ศาสนากบั ลทั ธิ และองค์ประกอบสาคัญของศาสนา พฤติกรรมข้อท่ี 4) พราหมณ–์ ฮินดู ศาสนาพทุ ธ แนะนา วิธีการเรียน การ มอบหมายงาน และวิธีวัดผลประเมนิ ผล (บรรลุ จุดประสงคท์ ่วั ไปข้อท่ี 3) 2. แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนของหนว่ ยเรียนท่ี 2 2. ทาความเข้าใจเก่ียวกับจดุ ประสงค์การเรยี นของ และการให้ความร่วมมือของนักเรียนในการทากจิ กรรม หน่วยเรียนที่ 2 และการให้ความรว่ มมือในการทา กจิ กรรม 3. ใหน้ กั ศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. นักศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ข้นั การเรยี นการสอน (80 นาที) ขัน้ การเรียนการสอน (80 นาท)ี 1. ครูอธิบายเกย่ี วกับองคป์ ระกอบของศาสนา 1. นกั เรียนฟังและคิดตามพรอ้ มทั้งจดบนั ทึก ความแตกต่างระหวา่ งศาสนากับลทั ธิ และองค์ประกอบ เก่ยี วกับเกี่ยวกับองคป์ ระกอบของศาสนา ความแตกต่าง สาคญั ของศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ศาสนาพทุ ธ พร้อมทั้ง ระหวา่ งศาสนากับลัทธิ และองคป์ ระกอบสาคัญของ ยกตัวอย่างประกอบ (บรรลุจุดประสงค์ทวั่ ไปข้อท่ี 1) ศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ศาสนาพุทธ (บรรลจุ ุดประสงค์ เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1) 2. แบง่ กลุ่มนักเรยี น ออกเป็น 4 กลมุ่ แลว้ มอบหมายใบงานที่ 1 เรอื่ ง องคป์ ระกอบของศาสนา 2. เขา้ กลุ่มตามท่ีครจู ัดแบง่ แล้วปฏิบัติตามใบงาน (บรรลจุ ุดประสงค์ทวั่ ไปข้อท่ี 2-3) จากนนั้ ให้นักเรียน ที่ 1 เร่อื ง องคป์ ระกอบของศาสนา โดยนกั ศึกษาแตล่ ะ ร่วมกันสรุปเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน เมอ่ื เสนอผลงาน กลุ่มจะต้องอภปิ รายองคป์ ระกอบของศาสนา (บรรลุ หนา้ ช้ันเรียน โดยให้ผ้ฟู ังแสดงความคดิ เห็นภายในช้นั จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมข้อที่ 2-3) จากน้ันนกั ศึกษา เรยี นได้อย่างอสิ ระ (Democracy ด้าน ประชาธิปไตย : รว่ มกันสรุปรายงานผลการระบุความแตกต่างระหว่าง 3D) (บรรลุจุดประสงคท์ ่วั ไปข้อท่ี 3) สงั คมชนบทและสงั คมเมอื ง หน้าชน้ั เรยี น โดยต้ังคาถาม ให้ผฟู้ ังแสดงความคดิ เห็นภายในชนั้ เรยี นไดอ้ ยา่ งอิสระ

15 (Democracy ด้าน ประชาธปิ ไตย : 3D) (บรรลุ จุดประสงค์พฤติกรรมข้อที่ 4-5) ข้นั สรปุ (20 นาที) ข้นั สรุป (20 นาท)ี 1. ครสู รุปจากทน่ี กั ศกึ ษานาเสนอผลงานพร้อมท้ัง 1. นักศกึ ษารับฟังคาสรปุ และข้อแนะนาจากครู อธิบายเพิ่มเติม และสรปุ เนื้อหาตามจดุ ประสงคเ์ ชิง พรอ้ มทั้งจดบันทึกข้อมูล และซกั ถามหรอื ตอบคาถาม พฤติกรรม ตามหัวข้อสาระสาคัญพร้อมทั้งปลูกฝงั ให้ หรอื แสดงความคดิ เห็นในหัวข้อทย่ี งั ไม่เข้าใจพร้อมทั้งรบั นักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนรู้ ดหู นังสอื อยา่ งสมา่ เสมอ ฟังการปลูกฟงั จากท่านอาจารย์เรือ่ งการเอาใจใส่ในการ และส่งเสริมใหเ้ ล่นกีฬาอยูเ่ สมอเพื่อให้ร่างกายแขง็ แรง เรียนรู้ ดูหนงั สอื อย่างสม่าเสมอ และส่งเสริมให้เลน่ ความจาดี เปน็ การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ (สง่ ผล กฬี าอยเู่ สมอเพ่ือใหร้ า่ งกายแข็งแรงความจาดี เป็นการ ทาใหห้ า่ งไกลจากยาเสพตดิ อย่างแทจ้ ริง Drug-Free ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ (สง่ ผลทาให้หา่ งไกลจากยา ดา้ นภูมิค้มุ กนั ภัยจากยาเสพติด :3D) เสพติดอยา่ งแท้จริง Drug-Free ด้านภมู คิ ุม้ กันภัยจาก ยาเสพตดิ :3D) 2. ให้นักศึกษาทาแบบทดสอบหลังเรยี น 2. นกั ศึกษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 3. ครตู รวจแบบทดสอบพร้อมกับบนั ทึกคะแนน 3. นกั ศกึ ษานาคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลัง เรียนมาเปรียบเทยี บกนั วา่ เป็นอยา่ งไรมผี ลตา่ งกนั อยา่ งไร เพื่อดคู วามก้าวหนา้ ของตนเอง 4. ใหน้ กั ศึกษาทาแบบฝกึ หดั ทา้ ยบทเรยี น 4. นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน (บรรลจุ ุดประสงค์ท่วั ไป) (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม) (รวม 120 นาที หรือ 2 ชวั่ โมงเรียน) (รวม 120 นาที หรอื 2 ชว่ั โมงเรียน) การบูรณาการกบั คุณลักษณะ 3D แกผ่ ู้เรยี น ดา้ นประชาธิปไตย (Democracy) 1. การรายงานหน้าชนั เรียนได้อย่างอิสระ 2. การให้ผฟู้ งั แสดงความคิดเหน็ ภายในชัน้ เรียนได้อย่างอสิ ระ ด้านคุณธรรมจริยธรรมและความเป็นไทย (Decency) 1. ปฏิบัติงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรับผดิ ชอบ) 2. ใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างคุ้มคา่ ประหยดั (ความประหยดั ) 3. มีความเพยี รพยายามและกระตือรือร้นในการเรยี นและการปฏิบัตงิ าน (ความขยนั ความอดทน) 4. ให้ความร่วมมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลอื งานครแู ละผอู้ ่นื (แบง่ ปัน)

16 ด้านภมู คิ มุ้ กนั ภัยจากยาเสพตดิ (Drug-Free) การปลกู ฝังให้นกั ศึกษาเอาใจใส่ในการเรยี นรดู้ หู นงั สืออย่างสม่าเสมอ ค้นควา้ หาข้อมูลเพ่ิมเติมจาก อนิ เตอร์เน็ตเพิ่มมากข้นึ และส่งเสริมให้เล่นกฬี าอยู่เสมอเพอ่ื ให้ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ ซงึ่ สง่ ผลทาใหห้ ่างไกลจากยาเสพติดอย่างแทจ้ ริง งานทไี่ ดม้ อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล  ก่อนเรยี น 1. จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนตามที่อาจารย์ผสู้ อนและบทเรยี นกาหนด 2. ทาความเข้าใจเกย่ี วกบั จุดประสงคก์ ารเรียนของหนว่ ยเรียนที่ 2 และการให้ความร่วมมือในการทา กิจกรรมในหน่วยการเรียนท่ี 2 3. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น  ขณะเรยี น 1. ปฏิบัติตามใบงานที่ 1 เร่ือง องค์ประกอบของศาสนา 2. ดตู ัวอย่างใบความรูท้ ่ี 1 เรื่อง องค์ประกอบของศาสนา 3. รว่ มกันสรปุ ลกั ษณะเดน่ ของสังคมไทย และความแตกต่างระหว่างสงั คมชนบทและสังคมเมือง 4. จัดทาสอ่ื ประกอบการรายงาน 5. รายงานหนา้ ชนั้ เรยี น เรอ่ื ง “องค์ประกอบของศาสนา ”  หลงั เรียน 1. ทาแบบฝึกหดั ท้ายบทเรียน 2. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสาเรจ็ ของผเู้ รียน ผลการทาใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง องค์ประกอบของศาสนา สอื่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้  สื่อส่ิงพมิ พ์ 1. หนังสอื เรยี นวชิ า หนา้ ท่พี ลเมืองและศลี ธรรม ของ ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย 2. ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง องค์ประกอบของศาสนา (ใชป้ ระกอบการเรยี นการสอน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 1-4) 3. ใบงานที่ 1 เรื่อง องค์ประกอบของศาสนา (ใช้ประกอบการเรยี นการสอน จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 5) 4. แบบฝกึ หัดทา้ ยบทเรยี น ใชป้ ระกอบการสอนขั้นสรุป ข้อ 2 5. แบบประเมนิ ผลงานตามใบงาน ใชป้ ระกอบการสอนข้ันการเรียนการสอน ข้อ 2 6. แบบประเมินพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ใช้ประกอบการสอนขัน้ การเรียนการสอน ข้อ 2

17 สือ่ โสตทัศน์ (ถา้ มี) - สอื่ ของจรงิ - แหล่งการเรยี นรู้  ในสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคพัทยา 2. หอ้ งปฏิบตั กิ ารคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลองค์ประกอบของศาสนา ทาง Internet  นอกสถานศึกษา - การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอน่ื 1. บูรณาการกบั วิชากฬี าเพื่อพฒั นาสุขภาพและบุคลิกภาพ ด้านบคุ ลิกภาพในการนาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น 2. บรู ณาการกบั วชิ าหลกั เศรษฐศาสตร์ ด้านการเลือกใชท้ รัพยากรอย่างประหยัด 3. บูรณาการกบั วชิ าภาษาไทยเพื่องานอาชพี ดา้ นการเขยี นสรุปผลรายงาน การประเมินผลการเรียนรู้ หลักการประเมนิ ผลการเรียนรู้  กอ่ นเรียน 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน  ขณะเรียน 1. ตรวจผลงานตามใบงานที่ 1 องคป์ ระกอบของศาสนา 2. สังเกตการทางานกลมุ่ ผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสาเร็จของผูเ้ รียน ผลการทาใบงานที่ 1 เรอื่ ง องค์ประกอบของศาสนา

18 รายละเอยี ดการประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 1-4 อธิบายองค์ประกอบของศาสนาได้อย่างถกู ต้อง, อธิบาย ความแตกต่างระหว่างศาสนากบั ลัทธิได้อย่างถูกต้อง, อธบิ ายองคป์ ระกอบสาคัญของศาสนาพราหมณ์–ฮนิ ดู ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามได้อยา่ งถูกต้อง,อธบิ ายความเหมือนและความแตกต่างของ องค์ประกอบของศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามไดอ้ ย่างถูกต้อง(ดา้ น ความร)ู้ 1. วิธกี ารประเมิน ทดสอบ 2. เครอ่ื งมือ แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน อธบิ ายองค์ประกอบของศาสนาได้อย่างถูกต้อง, อธิบายความแตกต่าง ระหว่างศาสนากับลทั ธิได้อยา่ งถูกต้อง, อธิบายองคป์ ระกอบสาคัญของ ศาสนาพราหมณ–์ ฮินดู ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามได้ อยา่ งถูกต้อง,อธิบายความเหมอื นและความแตกต่างขององคป์ ระกอบของ ศาสนาพราหมณ–์ ฮินดู ศาสนาพทุ ธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอสิ ลามได้ อยา่ งถูกต้อง จะได้ 5 คะแนน 4. เกณฑ์การตัดสินการผ่าน ผ่านระดบั รอ้ ยละ 60 (ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 3.00 คะแนน) จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 5 อภปิ รายประโยชน์ขององคป์ ระกอบของศาสนาได้อย่างถูกต้อง (ดา้ นทกั ษะ) 1. วิธกี ารประเมิน ทดสอบ 2. เครือ่ งมอื แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน อภิปรายประโยชน์ขององค์ประกอบของศาสนาได้อย่างถูกต้อง จะได้ 5 คะแนน 4. เกณฑก์ ารตัดสนิ การผ่าน ผา่ นระดับร้อยละ 60 (ต้องได้คะแนนไม่น้อยกวา่ 3.00 คะแนน)

19 แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ชอ่ื กลมุ่ ………………………………………….. …………….ชัน้ ………………………..หอ้ ง ……………………………………………………….. รายช่อื สมาชิก 1. ………………………………………………. รหัส ……………………………………………… 2. ………………………………………………. รหสั ……………………………………………… 3. ………………………………………………. รหัส ……………………………………………… ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคดิ เห็น 32 1 1 เน้อื หาสาระครอบคลมุ ชดั เจน (ความรเู้ กย่ี วกับเนอ้ื หา ความถกู ต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนาเสนอ 3 การมีสว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ 4 บคุ ลกิ ลักษณะ กริ ยิ า ท่าทางในการพดู น้าเสยี ง ซึ่งทาให้ผู้ฟงั มคี วาม สนใจ รวม ผปู้ ระเมิน ………………………………………………………. เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. เนอ้ื หาสาระครอบคลมุ ชดั เจนถูกตอ้ ง 3 คะแนน = มสี าระสาคญั ครบถ้วนถูกตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ครบถ้วน แตต่ รงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสาคญั ไมถ่ ูกต้อง ไม่ตรงตามจดุ ประสงค์ 2. รูปแบบการนาเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนาเสนอที่เหมาะสม ใช้ส่อื และเทคโนโลยี มีการนาเสนอท่นี ่าสนใจ มีการนาวัสดุ ในท้องถน่ิ มาประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งคมุ้ คา่ และประหยดั 2 คะแนน = มีเทคนคิ การนาเสนอที่แปลกใหม่ ใช้ส่อื และเทคโนโลยี มกี ารนาเสนอที่ นา่ สนใจ แต่ ขาดการประยกุ ตใ์ ชว้ ัสดุในท้องถ่ิน 1 คะแนน = เทคนคิ การนาเสนอไม่เหมาะสมและไม่น่าสนใจ 3. การมีสว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมบี ทบาทและมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญม่ บี ทบาทและมสี ว่ นร่วมกิจกรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมีสว่ นร่วมกิจกรรมกลมุ่

20 4. ความสนใจของผู้ฟัง = ผู้ฟงั มากกว่ารอ้ ยละ 90 สนใจ และให้ความรว่ มมอื 3 คะแนน = ผฟู้ งั รอ้ ยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื 2 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน

21 แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม ช่ือกลุ่ม ……………………………………………………………………….ช้ัน ………………………..หอ้ ง …………………………… รายชื่อสมาชกิ 1. …………………………………………………………………. รหสั ……………………………………………… 2. …………………………………………………………………. รหสั ……………………………………………… 3. …………………………………………………………………. รหสั ……………………………………………… ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเหน็ 32 1 1 การกาหนดเป้าหมายรว่ มกนั 2 การแบง่ หน้าท่รี บั ผดิ ชอบและการเตรยี มความพร้อม 3 การปฏิบัตหิ น้าที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย 4 การประเมินผลและปรบั ปรงุ งาน รวม ผู้ประเมนิ ………………………………………………………. วนั ท่ี …………………..เดือน …………………พ.ศ. ………….. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน สมาชกิ ทุกคนมีส่วนร่วมในการกาหนดเปา้ หมายการทางานอยา่ งชดั เจน 1. การกาหนดเปา้ หมายรว่ มกนั สมาชกิ สว่ นใหญม่ สี ่วนรว่ มในการกาหนดเปา้ หมายในการทางาน สมาชิกส่วนนอ้ ยมสี ่วนร่วมในการกาหนดเปา้ หมายในการทางาน 3 คะแนน = 2 คะแนน = 1 คะแนน = 2. หนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทัว่ ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มกี ารจดั เตยี ม สถานที่ สื่อ/อุปกรณไ์ วอ้ ยา่ งพร้อมเพรยี ง ยดึ หลกั ความประหยดั 2 คะแนน = การกระจายงานได้ทวั่ ถงึ แต่ไมต่ รงตามความสามารถ และมสี ่อื /อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ ง พร้อม เพรียง แต่ขาดการจัดเตรยี มสถานท่ี และไมย่ ดึ หลักความประหยดั 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมสี อ่ื /อปุ กรณไ์ ม่เพยี งพอ และไมย่ ดึ หลกั ความประหยัด 3. การมีส่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ 3 คะแนน = ทางานได้สาเรจ็ ตามเป้าหมาย และตามเวลาที่กาหนด มคี วามรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั 2 คะแนน = ทางานไดส้ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย แตช่ า้ กวา่ เวลาท่กี าหนด ไม่มคี วามรอบรู้ รอบคอบ และ

22 ระมัดระวัง = ทางานไมส่ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย และไมม่ ีความรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั 1 คะแนน 4. ความสนใจของผฟู้ ัง สมาชกิ ทกุ คนรว่ มปรกึ ษาหารอื ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ มี 3 คะแนน = ความรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวัง 2 คะแนน = สมาชกิ บางส่วนมสี ่วนรว่ มปรกึ ษาหารือ แตไ่ มป่ รบั ปรุงงาน ไม่มคี วามรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวัง สมาชิกบางสว่ นไมม่ สี ว่ นรว่ มปรึกษาหารอื และปรบั ปรุงงาน ไมค่ วามรอบรู้ 1 คะแนน = รอบคอบ และระมดั ระวงั