Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore gene1

gene1

Published by น.ส.จิราภรณ์ บุญสงค์, 2019-03-18 03:52:42

Description: gene1

Search

Read the Text Version

BOBBYtutor Biology Note การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม (ตอนที่ 1) ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม หมายถงึ ลกั ษณะของสง่ิ มชี วี ติ ทถ่ี กู ควบคมุ โดยกรดนวิ คลอี กิ ชนดิ DNA หรอื RNA ทส่ี ามารถถา ยทอดจากรนุ หนง่ึ ไปยงั รนุ ตอ ๆ ไป โดยอาศยั เซลลส บื พนั ธหุ รอื เซลลช นดิ อน่ื ๆ เปน สอ่ื กลางในการถา ยทอด ประเภทของลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมจําแนกเปน 2 ประเภท คือ 1. ลกั ษณะทม่ี คี วามแปรผนั ไมต อ เนอ่ื ง (Discontinuous variation) เปน ลกั ษณะพนั ธกุ รรมท่ี - แยกความแตกตา งกนั ไดอ ยา งเดน ชดั - มกั ถกู ควบคมุ ดว ยยนี นอ ยคู - มกั เกย่ี วขอ งกบั ทางดา นคณุ ภาพ (Qualitative trait) - ตวั อยา งลกั ษณะทม่ี คี วามแปรผนั ไมต อ เนอ่ื ง เชน การหอ ลน้ิ การถนดั ใชม อื ขวาหรอื มอื ซา ย จาํ นวนชั้นของ หนงั ตา คนผวิ เผอื กกบั คนผวิ ปกติ การมหี รอื ไมม ลี กั ยม้ิ การเวยี นของขวญั พนั ธกุ รรมหมเู ลอื ด การมตี ง่ิ หหู รอื ไมม ตี ง่ิ หู 2. ลกั ษณะทม่ี คี วามแปรผนั ตอ เนอ่ื ง (Continuous variation) เปน ลกั ษณะพนั ธกุ รรมท่ี - ไมส ามารถแยกความแตกตา งไดอ ยา งเดน ชดั - มกั ถกู ควบคมุ ดว ยยนี หลายคู (Polygenes หรอื Multiple genes) - มกั เกย่ี วขอ งกบั ทางดา นปรมิ าณ (Quantitative trait) - ตวั อยา งลกั ษณะทม่ี คี วามแปรผนั ตอ เนอ่ื ง เชน สผี วิ ปกตขิ องคน นํ้าหนกั สว นสงู ผลผลิต ระดับ- สตปิ ญ ญา เปน ตน คําศพั ทท ค่ี วรทราบในการศกึ ษาพนั ธศุ าสตร 1. เซลลส บื พนั ธุ (Gamete หรือ Sex cell) หมายถงึ ไข (Egg) หรอื สเปร ม (Sperm) ซง่ึ เปน โครงสรา งทบ่ี รรจุ สารพนั ธกุ รรมทจ่ี ะถา ยทอดไปยงั รนุ ลกู เมอ่ื มกี ารปฏสิ นธเิ กดิ ขน้ึ ในเซลลส บื พนั ธจุ ะไมม ยี นี ทเ่ี ปน อลั ลลี (Allele) กนั 2. ลกั ษณะเดน (Dominance) หมายถงึ ลกั ษณะทป่ี รากฏออกมาในรนุ ลกู หรอื รนุ ตอ ๆ ไปเสมอ เชน การถนดั มือขวา หนงั ตา 2 ชั้น 3. ลกั ษณะดอ ย (Recessive) หมายถงึ ลกั ษณะทไี่ มม โี อกาสปรากฏในรนุ ตอ ไป เปน ยนี ทแ่ี ฝงอยจู ะถกู ขม โดยยนี เดน 4. ยนี (Gene) หมายถงึ หนว ยควบคมุ ลกั ษณะพนั ธกุ รรมของสง่ิ มชี วี ติ ซง่ึ เปน สารเคมจี ําพวกกรดนวิ คลอี กิ (Nucleic acid) โดยเฉพาะชนิด DNA จะพบมากทส่ี ดุ หรือชนิด RNA ในไวรสั บางชนดิ และไวรอยด 5. โฮโมไซกัสยีน (Homozygous gene) หมายถงึ ยนี ทเ่ี หมอื นกนั อยดู ว ยกนั เชน TT, tt, AA, bb, IAIA, ii 6. เฮเทอโรไซกสั ยนี (Heterozygous gene) หมายถงึ ยนี ทต่ี า งกนั อยดู ว ยกนั เชน Tt, Aa, Bb, IAIB, IAi 7. จโี นไทป (Genotype) หมายถงึ ลกั ษณะหรอื แบบของยนี ทค่ี วบคมุ ลกั ษณะ จาํ แนกเปน 3 ประเภท คือ 7.1 Homozygous genotype หมายถงึ จโี นไทปท ม่ี ยี นี เหมอื นกนั มกั เรยี กวา พนั ธแุ ท ซง่ึ มี 2 ประเภท คือ - Homozygous dominance เปน จโี นไทปท ปี่ ระกอบดว ยยนี เดน เชน TT, SS, IAIA, IBIB มกั เรยี กวา พนั ธแุ ทข องลกั ษณะเดน - Homozygous recessive เปน จโี นไทปท ป่ี ระกอบดว ยยนี ดอ ย เชน tt, ss, ii มกั เรยี กวา พนั ธแุ ท ของลกั ษณะดอ ย

BOBBYtutor Biology Note 7.2 Heterozygous genotype เปน จโี นไทปท ป่ี ระกอบดว ยยนี ตา งกนั มกั เรยี กวา พนั ธทุ าง เชน Tt, IAi, IAIB 7.3 Hemizygous genotype เปน จโี นไทปท ป่ี ระกอบดว ยยนี เพยี งยนี เดยี วในการควบคมุ พนั ธกุ รรมหนง่ึ เชน XCY 8. ฟโ นไทป (Phenotype) หมายถงึ ลกั ษณะของสง่ิ มชี วี ติ ทป่ี รากฏออกมาเนอ่ื งจากการแสดงออกของยนี และ อทิ ธพิ ลของสง่ิ แวดลอ ม ฟโ นไทป = จโี นไทป + สง่ิ แวดลอ ม 9. โฮโมโลกัสโครโมโซม (Homologous chromosome) หมายถงึ โครโมโซมทเ่ี ปน คกู นั มขี นาดและรปู รา งภายนอก เหมอื นกนั (แตย นี ภายในอาจแตกตา งกนั ) โดยทอ นหนง่ึ มาจากพอ ทอ นหนง่ึ มาจากแม 10. โฮโมไซกัสโครโมโซม (Homozygous chromosome) หมายถงึ โครโมโซมที่เปนโฮโมโลกัสกัน และมยี นี ทเ่ี ปน โฮโมไซกสั กนั อยา งนอ ย 1 คู กฎพนั ธกุ รรมของเมนเดล เมนเดลไดท ดลองผสมถว่ั ลนั เตาทม่ี ลี กั ษณะตา งๆ กนั 7 ลกั ษณะซง่ึ กระจายอยบู นโครโมโซมตา งทอ นกนั ดงั ภาพ โดยไดทาํ การทดลองนานถงึ 7 ป จงึ พบกฎเกณฑก ารถา ยทอดลกั ษณะตา งๆ และไดร บั การยกยอ งเปน บดิ าแหง วชิ า พนั ธศุ าสตร (Father of Genetics) ลกั ษณะทน่ี ํามาศึกษา รูปราง สีของ สขี องเปลอื ก รูปรางของ สีของ ตําแหนง ความสงู ของเมล็ด เมลด็ หมุ เมลด็ ฝก ถว่ั ทแ่ี ก ฝก ถว่ั ของดอก ของ เตม็ ท่ี ออน ลําตน ลกั ษณะเดน สงู กลม เหลือง มสี เี ทา อวบเตง เขยี ว ทก่ี ง่ิ ลกั ษณะดอ ย ขรุขระ เขยี ว ขาว คอดแฟบ เหลอื ง ทย่ี อด เตย้ี แสดงลกั ษณะทง้ั 7 ของถว่ั ทเ่ี มนเดลไดศ กึ ษา

BOBBYtutor Biology Note ความสาํ เรจ็ ของเมนเดลเนอ่ื งจาก 1. ลกั ษณะทเ่ี มนเดลศกึ ษาถกู ควบคมุ ดว ยยนี เพยี งคเู ดยี วเทา นน้ั และสามารถแยกลกั ษณะตา งๆ ไดอ ยา งชดั เจน เชน ตน สงู ตน เตย้ี เมลด็ เรยี บ เมล็ดขรุขระ เปน ตน 2. ตน ถว่ั ลนั เตาเปน ถว่ั ทห่ี างา ย ปลกู งา ย อายสุ น้ั และใหเ มลด็ ไดจ ํานวนมาก นอกจากนส้ี ามารถควบคมุ การ ผสมพันธุได 3. เมนเดลใชรุนพอแม (Parent breeding) ทเ่ี ปน พนั ธแุ ทม าผสมกนั ทาํ ใหไ ดล กั ษณะตา งๆ ทอ่ี อกมาเปน แบบแผนเดยี วกนั กฎการถา ยทอดลกั ษณะพนั ธกุ รรมของเมนเดล ทส่ี ําคญั คือ กฎขอ ท่ี 1 กฎแหง การแยก (Law of segregation) มสี าระสคาํ ญั ดงั นค้ี อื : ยนี ทอ่ี ยคู กู นั จะแยกตวั ออกจากกนั ไปอยใู นแตล ะเซลลส บื พนั ธุ กอ นทจ่ี ะมารวมตวั กนั ใหมเ มอ่ื มกี ารปฏสิ นธิ กฎขอ นเ้ี มนเดลไดจ ากการผสมโดยพจิ ารณายนี คเู ดยี วทม่ี ลี กั ษณะตรงขา มกนั เดน ชดั (ลกั ษณะ เดน กบั ลกั ษณะดอ ย) ดงั แผนภาพ Aa A a เซลลสืบพันธุ : สดั สว นของจโี นไทปแ ละฟโ นไทปจ ากการผสมโดยพจิ ารณายนี คเู ดยี ว (Monohybrid cross) ตัวอยาง ถา นําถว่ั ลนั เตารนุ พอ แม (P) ลกั ษณะเมลด็ กลมกบั เมลด็ ขรขุ ระทต่ี า งเปน พนั ธแุ ทม าผสมกนั จะไดร นุ ลกู (F1) มจี โี นไทปแ ละฟโ นไทปช นดิ เดยี วกนั ทง้ั หมด และปลอ ยใหร นุ F1 ผสมกนั เองไดร นุ หลาน (F2) จะไดจ โี นไทป แตกตา งกนั เปน 3 ชนิดในสดั สว น 1 : 2 : 1 และไดฟ โ นไทปแ ตกตา งกนั เปน 2 ชนิดในสดั สว น 3 : 1 ซง่ึ พจิ ารณาไดต ามแผนภาพดงั น้ี

BOBBYtutor Biology Note รนุ พอ แม (P) ฟโ นไทป เมล็ดกลม ฟโ นไทป เมล็ดขรุขระ เซลลส บื พนั ธุ จีโนไทป RR จีโนไทป rr RR rr F1 : จีโนไทป Rr จโี นไทป Rr จโี นไทป Rr จีโนไทป Rr ฟโนไทป เมลด็ กลม ฟโ นไทป เมลด็ กลม ฟโ นไทป เมล็ดกลม ฟโนไทป เมลด็ กลม เซลลส บื พนั ธุ R r Rr F2 : จโี นไทป RR จีโนไทป RR จโี นไทป Rr จีโนไทป rr ฟโ นไทป เมลด็ กลม ฟโ นไทป เมลด็ กลม ฟโ นไทป เมลด็ กลม ฟโนไทป เมล็ดขรุขระ สรุป 1. ในรนุ F1 มจี โี นไทปเ ปน Rr ทง้ั หมด และมฟี โ นไทปเ ปน เมลด็ กลมทง้ั หมด แสดงวา อลั ลลี R แสดงลกั ษณะ เดน หรอื ลกั ษณะขม อลั ลลี r อยา งสมบรู ณ 2. ในรนุ F2 มจี โี นไทป 3 ชนิด คือ RR : Rr : rr ในสดั สว น 1 : 2 : 1 แตม ฟี โ นไทป 2 ชนิด คือ เมลด็ กลม : เมล็ดขรุขระ ในสดั สว น 3 : 1 กฎขอ 2 กฎแหง การรวมกลมุ อยา งอสิ ระ (Law of independent assortment) กฎขอ นมี้ สี าระสําคญั ดงั น้ี : ยนี ทเ่ี ปน คกู นั เมอ่ื แยกออกจากกนั แลว แตล ะยนี จะไปกบั ยนี อน่ื ใดกไ็ ดอ ยา งอสิ ระนน่ั คอื เซลลส บื พนั ธจุ ะมกี ารรวมกลมุ ของหนว ยพนั ธกุ รรมของลกั ษณะตา งๆ โดยการรวมกลมุ ทเ่ี ปน ไปอยา งอสิ ระ จงึ ทําให สามารถทํานายผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ในรนุ ลกู รนุ หลานได กฎขอ นเ้ี มนเดลไดจ ากการศกึ ษาการถา ยทอดลกั ษณะโดยพจิ ารณาจาก ยนี 2 คู (Dihybrid cross)

BOBBYtutor Biology Note Aa Bb (AaBb) เซลลส บื พนั ธุ A BA ba Ba b ทเ่ี กดิ ขน้ึ มยี นี ตา งกนั 4 แบบ (AB) (Ab) (aB) (ab) 1:1:1:1 ดงั นน้ั เราสามารถใชส ตู รหาชนดิ เซลลส บื พนั ธุ คือ 2n (n = จาํ นวนคูของ Heterozygous gene) ตัวอยาง สง่ิ มชี วี ติ ชนดิ หนง่ึ มจี โี นไทป AaBbCc จะสรา งเซลลส บื พนั ธทุ ม่ี ยี นี ตา งกนั ไดก แ่ี บบ วธิ ที ่ี 1 ใชส ตู ร ชนดิ เซลลส บื พนั ธุ = 2n วธิ ที ่ี 2 = 23 = 8 ชนิด ใชก ฎแหง การรวมกลมุ โดยอสิ ระ C = ABC B c = ABc A C = AbC b c = Abc C = aBC B c = aBc a C = abC b c = !abc เซลลส บื พนั ธตุ า งกนั 8 ชนดิ

BOBBYtutor Biology Note ขอควรทราบ 1. ยนี ทอ่ี ยใู นเซลลส บื พนั ธเุ ดยี วกนั จะตอ งไมม ยี นี ทเ่ี ปน คอู ลั ลลี กนั 2. โครโมโซมทอ่ี ยใู นเซลลส บื พนั ธเุ ดยี วกนั จะตอ งไมม โี ครโมโซมทเ่ี ปน คกู นั หรอื เปน โฮโมโลกสั กนั เนอ่ื งจาก เซลลส บื พนั ธม กั เกดิ จากแบง เซลลแ บบไมโอซสิ สดั สว นของจโี นไทป และฟโ นไทปข องการผสมโดยพจิ ารณายนี 2 คู (Dihybrid cross) โดยปกตถิ า ผสมระหวา งพอ แมท ม่ี ลี กั ษณะตรงขา มกนั อยสู องลกั ษณะ และแสดงลกั ษณะเดน อยา งสมบรู ณ รนุ F2 จะไดส ดั สว นของฟโ นไทปเ ปน 9 : 3 : 3 : 1 ทง้ั นเ้ี นอ่ื งจากการแยกกนั ของยนี แตล ะคไู ปสเู ซลลส บื พนั ธเุ ปน อสิ ระจากคู อื่นๆ ตามกฎแหง การรวมกลมุ อยา งอสิ ระของเมนเดล ตวั อยา งเชน ถา สง่ิ มชี วี ติ ชนดิ หนง่ึ มจี โี นไทปเ ปน BbSs เมื่อสราง เซลลส บื พนั ธุ ยนี B กบั b ซง่ึ เปน อลั ลลี กนั จะแยกออกจากกนั ไปอยตู า งเซลลส บื พนั ธกุ นั และในทํานองเดยี วกนั ยนี S กบั s ซง่ึ เปน อลั ลลี กนั กจ็ ะแยกออกจากกนั ไปอยตู า งเซลลส บื พนั ธกุ นั และในเซลลส บื พนั ธหุ นง่ึ ๆ ยนี B จะไปอยกู บั ยนี S หรอื s กไ็ ด และในทํานองเดยี วกบั ยนี b จะไปอยกู บั ยนี S หรอื s กไ็ ด ดงั นน้ั จงึ ทาํ ใหโ อกาสทจ่ี ะเกดิ เซลลส บื พนั ธไุ ด เปน 4 ชนิดคือ BS : Bs : bS : bs = 1 : 1 : 1 : 1 ดงั ภาพ จโี นไทป BbSs กฎแหง การแยก (สอดคลอ งกบั แอนาเฟส-1) B bS s กฎแหง การรวมกลมุ อยา งอสิ ระ BS Bs bS bs 1 : 1: 1 : 1 ตัวอยาง ถา ผสมถว่ั เมลด็ เรยี บสเี หลอื งทเ่ี ปน Homozygous dominance กบั ถว่ั เมลด็ ขรขุ ระสเี ขยี วทเ่ี ปน Homozygous recessive จะไดล กู F1 ถา นํา F1 ผสมกันเอง จงหา F2 genotype และ F2 phenotype วธิ ที ํา 1. สรา งตาราง Punnet squarc 2. สรา งเสน แบบแตกแขนง (Branching หรอื Forked-Line method) 3. ใชห ลกั ความนา จะเปน (Probability) โดยผสมทลี ะลกั ษณะ

BOBBYtutor Biology Note 1. ตารางพนั เนต (Punnet Square) ของ F2 ssyy รุนพอแม (P) : SSYY × (เมลด็ ขรขุ ระสเี ขยี ว) (เมลด็ เรยี บสเี หลอื ง) SsYy (เมลด็ เรยี บสเี หลอื ง) เซลสืบพันธุ F 1 SY Sy sY sy F2 Genotype : - เซลลสืบพันธุเพศผู SY Sy sY sy เซลลสืบพันธุเพศเมีย SY SSYY SSYy SsYY SsYy Sy SSYy SSyy SsYy Ssyy sY SsYY SsYy ssYY ssYy sy SsYy Ssyy ssYy ssyy จากตาราง จโี นไทปม ี 9 ชนิด (16 Combinations) คือ 1/16 SSYY 2/6 Ssyy 2/16 SSYy 1/6 ssYY 1/16 SSyy 2/16 ssYy 2/16 SsYY 1/16 ssyy 4/16 SsYy สตู ร หาชนดิ จโี นไทป = 3n (n = จาํ นวนคูของ Heterozygous gene) เชน จากกรณตี วั อยา งผสม YySs เขา ดว ยกนั จะเหน็ วา n = 2 คอื จาํ นวนคขู อง Heterozygous gene มี 2 คู ดงั นนั้ ชนดิ จโี นไทปจ งึ มี 9 ชนดิ (32 = 9) จากตารางพนั เนต ฟโ นไทป 4 ชนิด คือ 9/16 เมลด็ เรยี บสเี หลอื ง (S_Y_) 3/16 เมล็ดขรุขระสีเหลือง (ssY_) 3/16 เมลด็ เรยี บสเี ขยี ว (S_yy) 1/16 เมล็ดขรุขระสีเขียว (ssyy)

BOBBYtutor Biology Note สตู ร หาชนดิ ของฟโ นไทปค อื 2n (n = จาํ นวนคูของ Heterozygous gene) จากกรณตี วั อยา งมี Heterozygous gene 2 คู คือ Ss และ Yy ดงั นน้ั จํานวนชนดิ ฟโ นไทปเ ทา กบั 22 = 4 ชนิด 2. สรา งเสน แบบแตกแขนง (Branching หรือ Forked-line method) 2.1 หาชนดิ จโี นไทป : ใหแ ยกคยู นี แลว ผสมทลี ะลกั ษณะเปน Monohybrid พรอ มกบั นําความนา จะเปน ของแต ลกั ษณะมาคณู กนั ดงั น้ี Ss × Ss Yy × Yy 1/4 SS, 2/4 Ss, 1/4 ss 1/4 YY, 2/4 Yy, 1/4 yy 1/4 YY 1/16 SSYY 1/4 SS 2/4 Yy 2/16 SSYy 1/4 yy 1/16 SSyy 1/4 YY 2/16 SsYY 2/4 Ss 2/4 Yy 4/16 SsYy 1/4 yy 2/16 Ssyy 1/4 YY 1/16 ssYY 1/4 ss 2/4 Yy 2/16 ssYy 1/4 yy 1/16 ssyy 2.2 หาชนดิ และสดั สว นฟโ นไทป : ใหร วมจโี นไทป ฟโ นไทป เปน แบบเดยี วกนั แลว นาํ ไปผสมกบั แตล ะลกั ษณะ โดยนําคา ความนา จะเปน มาคณู กนั ดงั น้ี 3/4 S_ 3/4 Y_ 9/16 S_Y_(เมลด็ เรยี บสเี หลอื ง) 1/4 yy 3/16 S_yy (เมลด็ เรยี บสเี ขยี ว) 1/4 ss 3/4 Y_ 3/16 ssY_ (เมลด็ ขรขุ ระสเี หลอื ง) 1/4 yy 1/16 ssyy (เมลด็ ขรขุ ระสเี ขยี ว) 3. ใชห ลกั ความนา จะเปน (Probability) ใหผ สมทลี ะลกั ษณะ (Monohybrid cross) และนําคา ความนา จะเปน ของแตล ะลกั ษณะมาคณู กนั เชน Ss × Ss Yy × Yy 1/4 SS, 2/4 Ss, 1/4 ss 1/4 YY, 2/4 Yy, 1/4 yy

BOBBYtutor Biology Note 3.1 จงหาโอกาสทจ่ี ะไดจ โี นไทปเ ปน Heterozygous ของทง้ั 2 ลกั ษณะ จะไดค ําตอบเปน 2/4 Ss × 2/4 Yy = 4/16 SsYy 3.2 จงหาโอกาสทจ่ี ะไดจ โี นไทปเ ปน Homozygous recessive ของทง้ั 2 ลกั ษณะ จะไดค ําตอบเปน 1/4 ss × 1/4 yy = 1/16 ssyy 3.3 จงหาโอกาสทจ่ี ะไดฟ โ นไทปเ ปน เมลด็ เรยี บสเี ขยี ว จะไดค ําตอบเปน 3/4 S_ × 1/4 yy = 3/16 S_ yy (เมลด็ เรยี บสเี ขยี ว) 3.4 จงหาโอกาสทจ่ี ะไดฟ โ นไทปเ ปน เมลด็ เรยี บสเี หลอื ง จะไดค ําตอบเปน 3/4 S_ × 3/4 Y_ = 9/16 S_Y_ (เมลด็ เรยี บสเี หลอื ง) แบคครอส (Back cross) แบคครอส (Back cross) เปน การผสมระหวา งลกู ผสม (Hybrid) กบั รนุ พอ หรอื แม (Parental genotype) อนั ใด อนั หนง่ึ ทเ่ี ปน ลกั ษณะดอ ย (Homozygous recessive) รุนพอแม : เมลด็ กลม × เมลด็ ขรขุ ระ RR rr เซลลสืบพันธุ Rr F1 : Rr เมลด็ กลม Back cross : F1 Rr × rr Rr r r Rr Rr rr rr 2Rr : 2rr เมลด็ กลม : เมลด็ ขรขุ ระ โดยสว นมากการผสม Back cross นม้ี กั เปน การผสมระหวา งลกู F1 (Heterozygote) กบั พอ หรอื แมท เ่ี ปน ลกั ษณะดอ ยพนั ธแุ ท (Homozygous recessive) เปน สว นใหญ

BOBBYtutor Biology Note เทสตค รอส (Test cross) เทสตค รอส (Test cross) เปน การผสมระหวา ง 1. ลกู ชว งใดๆ กไ็ ด กบั รนุ พอ แมท เ่ี ปน ลกั ษณะดอ ย (Recessive parental type) ซง่ึ กรณนี บ้ี างครง้ั อาจถอื เปน Back cross แบบหนง่ึ กไ็ ด 2. สง่ิ มชี วี ติ ทไ่ี มท ราบจโี นไทป (Unknown genotype) กบั ตวั ทดสอบทเ่ี ปน ลกั ษณะดอ ย (Recessive tester) โดยทว่ั ไปการผสมแบบนเ้ี ปน การตรวจสอบของจโี นไทปว า มจี โี นไทปเ ปน พนั ธแุ ท (Homozygous genotype) หรอื พนั ธทุ าง (Heterozygous genotype) เชน รุนพอแม : เมลด็ กลม × เมลด็ ขรขุ ระ RR rr Test cross progenies : Rr (เมลด็ กลมทง้ั หมด) รุนพอแม : เมลด็ กลม × เมลด็ ขรขุ ระ Rr rr Test cross progenies : Rr , rr = 1 : 1 (กลม) (ขรขุ ระ) ระดบั การแสดงลกั ษณะเดน 1. การถา ยทอดลกั ษณะเดน อยา งสมบรู ณ การถา ยทอดลกั ษณะเดน อยา งสมบรู ณ (Complete dominance) หมายถงึ การแสดงลกั ษณะเดน หรอื การขม ของอลั ลลี เดน ตอ อลั ลลี ดอ ยเปน ไปไดอ ยา งสมบรู ณ ทําใหจ โี นไทปท เ่ี ปน โฮโมไซกสั ของลกั ษณะเดน (Homozygous dominant genotype) และเฮเทอโรไซกสั มฟี โ นไทปเ หมอื นกนั เชน RR = Rr เมลด็ เรยี บ ดงั ตวั อยา งการทดลองของ เมนเดล 2. การถา ยทอดลกั ษณะเดน แบบไมส มบรู ณ การถา ยทอดลกั ษณะเดน แบบไมส มบรู ณ (Incomplete dominance หรอื Partial dominance) หมายถงึ การทอ่ี ลั ลลี หนง่ึ แสดงการขม อลั ลลี ของมนั ไดแ ตเ ปน ไปอยา งไมส มบรู ณ ทาํ ใหจ โี นไทปท เ่ี ปน เฮเทอโรไซกสั มลี กั ษณะของ ฟโ นไทปค อ นไปทางโฮโมไซกสั ของลกั ษณะเดน กรณนี จ้ี ะไดส ดั สว นของจโี นไทปแ ละฟโ นไทปเ ทา กนั ตวั อยา งเชน พนั ธกุ รรมของสดี อกลน้ิ มงั กร และดอกบานเยน็ หรอื ในสตั ว เชน สีขนของวัวชนิดหนึ่ง

BOBBYtutor Biology Note P แดงพันธุแท× ขาวพันธุแท รุนพอแม ดอกสีแดง ดอกสีขาว RR WW RW F1 สีชมพู RW ผสมตัวเอง ดอกสีชมพู RW × RW F2 1 ชมพู WR 1 แดง 2 RW 4 R สีชมพู W RR WW F2 สีแดง RW สีขาว สีชมพู 1 ขาว 4 ขอสรุปจากตาราง 1. จโี นไทปร นุ F1 เปนเฮเทอโรไซกัส (RW) และมฟี โ นไทปม สี ชี มพทู ง้ั หมด 2. จโี นไทปใ นรนุ F2 มี 3 ชนิด คือ RR, RW, WW เปน สดั สว น 1 : 2 : 1 3. ฟโ นไทปใ นรนุ F2 มี 3 ชนิด คือ ดอกสแี ดง, ดอกสชี มพู, ดอกสขี าว เปน สดั สว น 1 : 2 : 1 3. การแสดงลกั ษณะเดน พเิ ศษ (Overdominance) การถายทอดลักษณะเดนพิเศษเปนการถายทอดลักษณะท่ีเกิดข้ึนเน่ืองจากเฮเทอโรไซกัสมีฟโนไทปเหนือกวา ฟโ นไทปท เ่ี ปน โฮโมไซกสั ของลกั ษณะเดน เชน ลกู ผสม Tt ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในลกั ษณะนเ้ี รยี ก เฮเทอโรซิส (Heterosis) หรอื ไฮบรดิ วเิ กอร (Hybrid vigor) พอแม : ถว่ั ตน สงู 3 ฟตุ × ถว่ั ตน สงู 1 ฟตุ (TT) (tt) ถว่ั ตน สงู 5 ฟตุ ลูก : (Tt) 4. การถา ยทอดลกั ษณะเดน รว มกนั (Co-dominance) การถา ยทอดลกั ษณะเดน รว มกนั หมายถงึ การทย่ี นี แตล ะอลั ลลี จะแสดงออกรว มกนั ในลกู ผสมเนอ่ื งจากตา ง เปน ลกั ษณะเดน ทง้ั คขู ม กนั ไมล ง เชน พนั ธกุ รรมหมเู ลอื ดระบบ ABO พบวา อลั ลลี IA เปน Co-dominance กบั อลั ลลี IB ดงั นน้ั ผทู ม่ี จี โี นไทป IAIB จะมเี ลอื ดหมู AB

BOBBYtutor Biology Note มัลติเปลอัลลีลส (Multiple alleles) อัลลีล หรืออัลลีโลมอรฟ อัลลีล หรืออัลลีโลมอรฟ (Allele หรือ Allelomorph) หมายถงึ ยนี ตา งชนดิ กนั ทเ่ี ขา คกู นั ได หรอื หนว ยกรรม- พนั ธทุ ต่ี า งชนดิ กนั แตอ ยใู นตาํ แหนง เดยี วกนั (Locus) ของโครโมโซมที่เปนคูกัน (Homologous chromosome) และ ควบคมุ ลกั ษณะพนั ธกุ รรมเดยี วกนั ตวั อยา งเชน ลกั ษณะความสงู ของตน ถว่ั ถกู ควบคมุ ดว ยยนี 2 อลั ลลี คอื ยนี ทค่ี วบคมุ ลกั ษณะเดน (T) กบั ยนี ทค่ี วบคมุ ลกั ษณะดอ ย (t) ดงั นน้ั ยนี T จงึ เปน อลั ลลี กบั ยนี t T โฮโมโลกสั โครโมโซม t ตาํ แหนง ของยนี ทค่ี วบคมุ ความสงู ของตน ถว่ั ตําแหนง ของยนี ทค่ี วบคมุ ความสงู ของตน ถว่ั อัลลีล T นาํ ลกั ษณะสงู อัลลีล t นําลกั ษณะเตย้ี ดงั นน้ั ยนี T เปน อลั ลลี กบั ยนี t มลั ตเิ ปล อลั ลลี ส หมายถงึ พนั ธกุ รรมลกั ษณะใดลกั ษณะหนง่ึ ทถ่ี กู ควบคมุ ดว ยยนี มากกวา 2 อลั ลลี ส (Alleles) ทต่ี ําแหนง (Locus) หนง่ึ ของโครโมโซมทเ่ี ปน คกู นั (Homologous chromosome) เชน พนั ธกุ รรมเลอื ดระบบ ABO มยี นี ควบคมุ 3 อลั ลลี ส คือ IA เปนยีนนาํ แอนตเิ จน A IB เปน ยนี นาํ แอนตเิ จน B i เปน ยนี ดอ ยตอ ทง้ั IA และ IB ไมน ําแอนตเิ จน โดย IA กบั IB เปน Co-dominance IA IB i  A B และ i  Locus ของ I , I  จากอลั ลลี ทง้ั 3 ชนิดทําใหเ กดิ จโี นไทปไ ด 6 ชนิด และฟโ นไทป 4 ชนิด ดงั ตาราง

BOBBYtutor Biology Note ตําแหนง ของมลั ตเิ ปล อลั ลลี สบ นโฮโมโลกสั โครโมโซมในเซลลข องแตล ะบคุ คล จโี นไทป ฟโ นไทป IAIA , IAi เลอื ดหมู A AA IBIB , IBi เลอื ดหมู B II IAIB เลอื ดหมู AB , ii เลอื ดหมู O A Ii BB II , B Ii IA IB i i สตู รการหาจํานวนจโี นไทปข องพนั ธกุ รรมทเ่ี ปน มลั ตเิ ปล อลั ลลี ส Possible genotype = n (n + 1) 2 n = จาํ นวนมลั ตเิ ปล อลั ลลี ส ตัวอยาง พนั ธกุ รรมหมเู ลอื ด ABO มี 3 อลั ลลี ส คือ IA, IB, i ดงั นน้ั จํานวนจโี นไทปท แ่ี ตกตา งกนั เทา กบั 3 (3 + 1) = 6 แบบ 2 จากตารางนกั เรยี นจะเหน็ ไดว า แมว า จะมยี นี ควบคมุ ทต่ี ําแหนง หนง่ึ มากกวา 2 อลั ลลี ส แตใ นบคุ คลหนง่ึ ๆ (2n) จะมยี นี ควบคมุ ลกั ษณะนน้ั ไดไ มเ กนิ 2 อลั ลลี ส มัลติเปลยีนส หรอื พอลยี นี ส (Mulitple genes หรอื Polygenes) มลั ตเิ ปล ยนี ส หรอื พอลยี นี ส หมายถงึ กลมุ ของยนี หรอื ยนี หลายๆ คทู ก่ี ระจายอยบู นโครโมโซมคเู ดยี วกนั หรอื ตา ง คกู นั ตา งทําหนา ทร่ี ว มกนั ในการควบคมุ ลกั ษณะพนั ธกุ รรมหนง่ึ ๆ ของสิ่งมีชีวิต เชน พนั ธกุ รรมสผี วิ ปกตขิ องคน โดย สผี วิ ของคนควบคมุ ดว ยยนี อยา งนอ ย 3 คู โดยยนี แตล ะคตู า งเปน อสิ ระตอ กนั เพราะอยใู นโครโมโซมตา งคกู นั เชน ถา คนผวิ ขาวแตง งานกบั คนผวิ ดาํ ทต่ี า งเปน พนั ธแุ ทจ ะไดล กู F1 ทม่ี ผี วิ อยรู ะหวา งกลาง ถา ใหล กู F1 ผสมกนั ตอ ไปจะได F2 มสี ผี วิ ตา งกนั หลายแบบโดยบางคนผวิ ดาํ บางคนผิวคอ นขา งดาํ บางคนผิวขาว เปน ตน โดยในรุน F2 นั้น ความเขม ของสผี วิ จะขน้ึ อยกู บั ปรมิ าณการมอี ลั ลลี เดน ของแตล ะยนี และขน้ึ กนั จํานวนกลมุ ของยนี ดว ย

BOBBYtutor Biology Note รุนพอแม : ผวิ ขาว × ผวิ ดาํ สนทิ AABBCC A'A'B'B'C'C' F1 : AA'BB'CC' ผวิ ปานกลาง การคํานวณหาชนดิ และสดั สว นของเซลลส บื พนั ธุ จโี นไทป และฟโ นไทปช นดิ ตา งๆ การคํานวณหาชนดิ และสดั สว นของเซลลส บื พนั ธุ จโี นไทป และฟโ นไทปช นดิ ตา งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการผสมระหวา ง จโี นไทปท เ่ี ปน เฮเทอโรไซกสั 1. จํานวนชนดิ ของเซลลส บื พนั ธทุ จ่ี ะสรา งขน้ึ จนาํ วนชนดิ ของเซลลส บื พนั ธทุ จ่ี ะสรา งขน้ึ = 2 n (n = จาํ นวนคขู องยนี ทเ่ี ปน เฮเทอโรไซกสั ) ตัวอยาง สง่ิ มชี วี ติ ทม่ี จี โี นไทป RrYy จะสรา งเซลลส บื พนั ธไุ ดก ช่ี นดิ วธิ ที ํา จโี นไทปเ ปน RrYy มจี ํานวนคขู องเฮเทอโรไซกสั ยนี 2 คู คือ Rr และ Yy ดงั นน้ั n = 2 จาํ นวนเซลลส บื พนั ธุ = 2n = 22 = 4 ชนิด หรอื หาดงั น้ี RrYy 1 R 1 r 1 Y 1 y 2 2 2 2 1/2Y 1/4RY 1/2R 1/4Ry 1/4rY 1/2y 1/4ry 1/2Y 1/2r 1/2y สดั สว นของเซลลส บื พนั ธุ RY : Ry : rY : ry = 1 : 1 : 1 : 1

BOBBYtutor Biology Note 2. จํานวนชนดิ ของจโี นไทปท จ่ี ะเกดิ ขน้ึ จากการผสม = 3n ตัวอยาง ถา สง่ิ มชี วี ติ ชนดิ หนง่ึ มจี โี นไทปเ ปน RrYy ปลอ ยใหผ สมตวั เองจะไดล กู มจี โี นไทปเ กดิ ขน้ึ กช่ี นดิ วธิ คี ดิ จโี นไทป RrYy มจี ํานวนเฮเทอโรไซกสั ยนี 2 คู คือ Rr และ Yy ดงั นน้ั n = 2 จาํ นวนชนดิ ของจโี นไทปท จ่ี ะ เกิดขนึ้ จากการผสมตวั เอง = 3n = 32 = 9 ชนิด หรอื หาไดด งั น้ี RrYy × RrYy 1 R 1 r 1 Y 1 y 1 R 1 r 1 Y 1 y 2 2 2 2 2 2 2 2 1 RR, 1 Rr, 1 rR, 1 rr, 1 YY, 1 Yy, 1 yY, 1 yy 4 4444444 2 Rr 2 Yy 4 4 1/16 RRYY 1/4 YY 2/16 RRYy 1/4RR 2/4 Yy 1/16 RRyy 2/16 RrYY 1/4 yy 4/1 6RrYy 1/4 YY 2/16 Rryy 2/4Rr 2/4 Yy 1/16 rrYY 1/4 yy 2/16 rrYy 1/4 YY 1/16 rryy 1/4rr 2/4 Yy 1/4 yy

BOBBYtutor Biology Note 3. จาํ นวนชนดิ ของฟโ นไทปท ไ่ี ดจ ากเฮเทอโรไซกสั จโี นไทปผ สมกนั และมกี ารถา ยทอดลกั ษณะเดน อยา งสมบรู ณ = 2n ตัวอยาง ถา ฟโ นไทปท ค่ี วบคมุ ลกั ษณะเมลด็ ถว่ั เมลด็ เรยี บสเี หลอื งเปน RrYy จะไดฟ โ นไทปใ นรนุ ลกู กช่ี นดิ ถา ปลอ ยให ผสมกันเอง วธิ ที ํา จาํ นวนเฮเทอโรไซกัสยีนมี 2 คู คือ Rr และ Yy ดงั นน้ั n = 2 จาํ นวนชนดิ ฟโ นไทป = 2n = 22 = 4 ชนิด หรอื หาไดจ าก 3 3 Y_ = 9 R _ Y _ (เมลด็ กลมสเี หลอื ง) 4 4 16 R_ 1 yy = 3 R_ yy (เมลด็ กลมสเี ขยี ว) 4 16 1 3 Y_ = 3 rrY _ (เมลด็ ขรขุ ระสเี หลอื ง) 4 4 16 (เมลด็ ขรขุ ระสเี ขยี ว) rr 1 yy = 1 rryy 4 16 สรปุ สตู รในการคาํ นวณชนดิ เซลลส บื พนั ธุ จโี นไทปแ ละฟโ นไทป สง่ิ ทต่ี อ งการหา สตู ร ชนดิ ของเซลลส บื พนั ธุ ชนิดของจีโนไทป 2n ชนิดของฟโนไทป ชนดิ ของจโี นไทปข องมลั ตเิ ปล อลั ลลี ส 3n 2n n (n + 1) 2 n = จาํ นวนคขู องเฮเทอโรไซกสั แตใ นกรณขี องมลั ตเิ ปล อลั ลลี ส n = จาํ นวนอลั ลลี

BOBBYtutor Biology Note แบบทดสอบ จงเลือกคําตอบที่ถูกตอง 1. การผสมลกั ษณะโดยพจิ ารณายนี คเู ดยี ว (Monohybrid cross) ในกรณที แ่ี สดงลกั ษณะเดน สมบรู ณ (Complete dominance) กบั ลกั ษณะเดน ไมส มบรู ณ (Incomplete dominance) จะมชี นดิ ฟโ นไทปต า งกนั กแ่ี บบ 1) 1 แบบ 2) 2 แบบ 3) 3 แบบ 4) 4 แบบ 2. ขอ ใดเปน ลกั ษณะพนั ธกุ รรมแบบแปรผนั ตอ เนอ่ื ง (Continuous variation) ในมนษุ ย 1. = ลกั ษณะผิวเผอื ก กบั ผวิ ปกติ 2. = ลกั ษณะความสงู 3. = ระดบั สตปิ ญ ญา 4. = จาํ นวนชน้ั ของหนงั ตา 5. = รอยบมุ หรอื ความเดน ชดั ของรอยลกั ยม้ิ 1) ขอ 1., 2. และ 3. 2) ขอ 2., 3. และ 5. 3) ขอ 1., 2., 3. และ 5. 4) ทง้ั ขอ 1., 2., 3., 4. และ 5. 3. ถา ตอ งการตรวจสอบฟโ นไทปข องสง่ิ มชี วี ติ วา เปน Homozygous dominance หรอื Heterozygous จะตอ งใช ตวั ทดสอบ (Tester) ทเ่ี ปน 1) Homozygous recessive 2) Homozygous dominance 3) Heterozygous 4) ไดท ง้ั 1), 2) และ 3) 4. ถา นําเมลด็ ถว่ั ลนั เตาเนอ้ื เมลด็ สเี หลอื งทเ่ี ปน Heterozygous มาผสมกนั แลว นาํ เมลด็ ในรนุ ตอ มาไปเพาะพนั ธตุ อ โดยการหยอดหลมุ หลมุ ละ 5 เมล็ด โอกาสทเ่ี มลด็ จะงอกเปน ตน ใหเ นอ้ื เมลด็ สเี ขยี วทง้ั 5 เมลด็ เทา กบั เทา ใด 1) 1 2) 1 3) 1 4) 1 4 16 64 1024 5. สง่ิ มชี วี ติ ทม่ี จี โี นไทป AaBbCcDdee ถา สรา งเซลลส บื พนั ธจุ ะไดเ ซลลส บื พนั ธทุ ม่ี ยี นี ตา งกนั กแ่ี บบ 1) 4 แบบ 2) 8 แบบ 3) 16 แบบ 4) 24 แบบ 6. สาม-ี ภรรยาคหู นง่ึ มเี ลอื ดหมู A และ B ลกู คนแรกมเี ลอื ดหมู O โอกาสทจ่ี ะไดล กู คนตอ ไปเปน หญงิ และมเี ลอื ด หมู AB เทา กบั เทา ใด 1) 2.5% 2) 25% 3) 50% 4) 75% 7. สง่ิ มชี วี ติ ทม่ี จี โี นไทปเ ปน B S จะสรา งเซลลส บื พนั ธไุ ดห ลายแบบ เซลลส บื พนั ธแุ บบใดทไ่ี มค วร bs จะเกิดขึ้น 1) BS 2) Bs 3) bs 4) Ss

BOBBYtutor Biology Note 8. อลั ลลี (Allele) ในทางพนั ธศุ าสตรห มายถงึ 1) ยนี เหมอื นกนั ทค่ี วบคมุ พนั ธกุ รรมเดยี วกนั 2) หนว ยพนั ธกุ รรมทอ่ี ยเู ปน คกู นั บนโฮโมโลกสั โครโมโซม 3) ยนี ตา งชนดิ กนั อยบู นตําแหนง เดียวกนั ของโฮโมโลกัสโครโมโซม 4) ยนี ทเ่ี ปน โฮโมโลกสั กนั บนตําแหนง เดียวกันของโฮโมโลกัสโครโมโซม 9. การผสมระหวา งคใู ดทจ่ี ะทาํ ใหล กู ทเ่ี กดิ ขน้ึ มจี โี นไทปเ ปน Homozygous recessive ทง้ั 2 ลกั ษณะ 1) Aabb × AAbb 2) AaBb × aaBB 3) AaBb × aaBb 4) aaBB × AAbb 10. สง่ิ มชี วี ติ ชนดิ หนง่ึ มยี นี ควบคมุ สขี นเปน มลั ตเิ ปล อลั ลลี ส (Multiple alleles) โดยมยี นี ควบคมุ ทง้ั หมด 5 อลั ลลี ส ชนดิ ของจโี นไทปท ค่ี วบคมุ สขี นมที ง้ั หมดกแ่ี บบ 1) 8 แบบ 2) 15 แบบ 3) 18 แบบ 4) 24 แบบ 11. ผสมถว่ั พนั ธสุ งู ทเ่ี ปน Homozygous dominance กบั ตน เตย้ี ทเ่ี ปน Homozygous recessive ไดล กู F1 นําลกู ทไ่ี ดไ ปผสมกบั ถว่ั ตน เตย้ี ทเ่ี ปน Homozygous recessive จะไดล กู F2 นาํ ลกู Homozygous ของ F2 ไปผสมกบั ลกู F1 จะไดล กู สงู : เตย้ี เปน อตั ราสว นเทา ใด 1) 1 : 1 2) 1 : 2 3) 3 : 1 4) 2 : 1 12. พชื ดอกชนดิ หนง่ึ มจี โี นไทป SsTTXxYy จะสรา งละอองเรณทู ม่ี ยี นี ทกุ ยนี เปน ยนี เดน กอ่ี นั ถา ในอบั ละอองเรณู หนง่ึ มลี ะอองเรณอู ยู 100,000 อนั 1) 400 อนั 2) 12,500 อนั 3) 25,000 อนั 4) 50,000 อนั 13. ตารางบนั ทกึ ผลการศกึ ษาลกั ษณะตา งๆ ของบคุ คลในครอบครวั ลกั ษณะ พอ แม ปู ยา ตา ยาย อา นา ตาสนี ้าํ ตาล ! - ! - - - !! ถนดั ซา ย -!-!-!- - ผิวดํา ! - - !! - - - ผมหยิก -!- -!- - - ถา ลกั ษณะทง้ั หมดเปน ลกั ษณะดอ ย ลกั ษณะใดจะไมมโี อกาสปรากฏในลกู 1) ผิวดํา 2) ผมหยิก 3) ถนดั ซา ย 4) ตาสนี ้าํ ตาล 14. ลกั ษณะพนั ธกุ รรมสขี นของหนู ถา หนขู นสดี าํ แสดงลกั ษณะเดน ตอ ขนสขี าวและผสมหนู 100 คู แตล ะตวั ลว นมขี น สดี าํ ทเ่ี ปน เฮเทอโรไซกสั ลกู ทเ่ี กดิ ขน้ึ 700 ตวั ประมาณไดว า 1) มีขนสีดําทง้ั หมด 2) มีขนสีดําและสขี าวอยา งละครง่ึ 3) มีขนสีดํา : ขนสีขาว = 2 : 1 4) มีขนสีดํา : ขนสีขาว = 3 : 1 15. ถา ผสมหนตู ะเภาทม่ี จี โี นไทปเ ปน Bbss กบั bbSs และไดล กู ทเ่ี กดิ ขน้ึ มจี ํานวนมากพอ ขอใดผิด (กําหนดให B = ลกั ษณะขนสดี าํ , b = ขนสนี ํ้าตาล, S = ขนหยิก, s = ขนเรียบ) 1) 50% ของลูกที่เกิดขึ้นมีขนเรียบ 2) 50% ของลูกที่เกิดขึ้นนาจะมีขนสีดํา 3) 50% ของลกู ทเ่ี กดิ ขน้ึ จะมขี นหยกั สดี าํ 4) 50% ของลกู ทเ่ี กดิ ขน้ึ นา จะมขี นสขี าวและในจํานวนนจ้ี ะมขี นหยกั และขนเรยี บอยา งละครง่ึ

BOBBYtutor Biology Note 16. สดี อกของตน ถว่ั ควบคมุ ดว ยยนี 2 คูคือ P, p และ Q, q ดอกจะมสี มี ว งถา มยี นี เดน อยา งนอ ย 1 ตวั ของแตล ะคู (P_Q_) จโี นไทปอ น่ื ๆ เปนสีขาว จงหาจโี นไทปข องพอ แมใ นการผสมตอ ไปน้ี P : ดอกสมี ว ง × ดอกสขี าว F1: 3/8 ดอกสมี ว ง 5/8 ดอกสขี าว 1) PPQq × ppqq 2) PqQQ × Ppqq 3) PpQq × ppqq 4) PpQq × Ppqq 17. ถา นํา F1 จากการผสมระหวา ง AA × aa มาผสมในตน เดยี วกนั (Self fertilization) ทกุ รนุ จนถงึ รนุ F9 จะเกดิ อะไรขน้ึ ในแตล ะรนุ 1) อตั ราสว น Heterozygote ลดลง 2) อตั ราสว น Heterozygote เพิ่มขึ้น 3) อตั ราสว น Heterozygote ไมม เี ปลย่ี นแปลง 4) อตั ราสว น Heterozygote 3 : 1 คงเดมิ ทกุ รนุ 18. ขอใดไมใ ชล กั ษณะทค่ี วบคมุ ดว ยพนั ธกุ รรมแบบมลั ตเิ ปล อลั ลลี ส 1) IAIA × IBi ใหล กู ทม่ี กี ลมุ เลอื ด A และกลมุ เลอื ด AB 2) BB′ × B′B′′ ใหล กู ทม่ี ดี อกสมี ว ง, สแี ดง, สชี มพู 3) CRCW × CRCW ใหล กู ทม่ี ขี นสแี ดง, สนี ้าํ ตาล, สขี าว 4) Aa, aa1 ใหล กู ทม่ี เี มลด็ กลมและเมลด็ รี ใชข อ กําหนดตอไปนี้ตอบคาํ ถามขอ 19-20 หนตู ะเภาลกั ษณะความยาวของขนมี 2 อยา ง คือ ขนสั้นเปน ลกั ษณะเดน (S) กบั ขนยาวเปน ลกั ษณะดอ ย (s) ลกั ษณะสขี นสดี าํ เปน ลกั ษณะเดน (B) สนี ้าํ ตาลเปน ลกั ษณะดอ ย (b) เมอ่ื ผสมหนตู ะเภาซง่ึ เปน Homozygous ของขนสั้นสีนํ้าตาล (พอ ) กบั หนตู ะเภาขนยาวสดี ํา (แม) 19. คําตอบขอ ใดไมถ กู ตอ ง 1) F1 มจี โี นไทป SsBb 2) พอ แมม จี โี นไทปเ ปน SSBB และ ssbb 3) เซลลส บื พนั ธขุ องพอ และแมเ ปน Sb และ sB 4) F2 มฟี โ นไทปข นสน้ั -สดี าํ : ขนสั้น-สขี าว : ขนยาว-สดี าํ : ขนยาว-สนี ้าํ ตาล ดว ยอตั ราสว น 9 : 3 : 3 : 1 20. คําตอบในขอ ใดสามารถพสิ จู นก ฎพนั ธกุ รรมของเมนเดลได 1) ฟโ นไทปข องลกู F1 เปนขนสั้นสีดํา 2) เซลลส บื พนั ธขุ องพอ และแมม ยี นี Sb และ sB 3) พอ และแมม ฟี โ นไทปข นสน้ั สนี า้ํ ตาลและขนยาวสดี าํ 4) ฟโ นไทปข องลกู F2 เปนขนสั้น-สดี าํ : ขนสั้น-สนี ้าํ ตาล : ขนยาว-สดี าํ : ขนยาว-สนี ้าํ ตาล ดว ยอตั ราสว น 9:3:3:1 21. ลกั ษณะเตย้ี แคระชนดิ หนง่ึ (Achondoplasia) ควบคมุ โดยยนี เดน ในออโตโซม ถา ทง้ั พอ และแมม ลี กั ษณะเตย้ี แคระ จะ มโี อกาสไดล กู ทเ่ี ตย้ี แคระเทา ใด 1) 100% 2) 25% เปน อยา งนอ ย 3) 50% เปน อยา งนอ ย 4) 75% เปน อยา งนอ ย

BOBBYtutor Biology Note 22. จากพนั ธปุ ระวตั ขิ องพนั ธกุ รรมอยา งหนง่ึ (แรเงา) ของ 4 ครอบครวั แผนภาพใดทแ่ี สดงวา ลกั ษณะทม่ี อี ยนู อ ย ในประชากรถกู ควบคมุ ดว ยยนี ดอ ยในโครโมโซมรา งกาย (Autosome) 1. 2. 3. 4. 23. ถา นาํ เมลด็ ทไี่ ดจ ากพชื ตน หนงึ่ ซงึ่ มดี อกสเี หลอื งไปปลกู พบวา มตี น ทใ่ี หด อกสเี หลอื ง 124 ตน และดอกสขี าว 36 ตน ในตน ทม่ี ดี อกสเี หลอื ง 124 ตน จะมแี บบของยนี เปน ชนดิ ใด 1) โฮโมไซกัสทั้งหมด 2) เฮเทอโรไซกสั ทง้ั หมด 3) โฮโมไซกสั และเฮเทอโรไซกสั ในอตั ราสว น 1 : 1 4) โฮโมไซกสั และเฮเทอโรไซกสั ในอตั ราสว น 1 : 2 24. ถา กําหนดใหอ ลั ลลี C ควบคุมขนสีขาว Ch ควบคมุ ขนสฮี มิ าลายนั Cch ควบคุมขนสีเงินเทา C+ ควบคุมขนสีนํ้าตาล P : กระตา ยขนสเี งนิ เทา × กระตา ยขนสฮี มิ าลายนั F1 : 2 ขนสีเงินเทา : 1 สฮี มิ าลายนั : 1 ขนสีขาว F1 ขนสีเงินเทา × ขนสนี ํ้าตาล F2 : ขนสนี ํ้าตาลทกุ ตวั จงเรยี งลาํ ดบั ของอลั ลลี จากลกั ษณะเดน ไปหาลกั ษณะดอ ย 1) Cch → C+ → C → Ch 2) Ch → C+ → Cch → C 3) C+ → Cch → Ch → C 4) C → Cch →C+ →Ch 25. A, B, C เปน ยนี เดน สมบรู ณ 3 ชนิดที่ควบคุม 3 ลกั ษณะตามกฎแหง การรวมกลมุ โดยอสิ ระของเมนเดล ถา นํา AaBbCc × AaBbCc มาผสมกัน ในรุนลูกจะมีชนิด Genotype และ Phenotype กแ่ี บบ (ตอบเรยี งตามลําดับ) 1) 8 และ 27 2) 27 และ 8 3) 64 และ 8 4) 64 และ 27 26. ในประชากร 1,000 คน พบวา มคี นเปน ผวิ เผอื ก 250 คน คนปกตทิ มี่ จี โี นไทปเ ปน Homozygous dominance มกี ค่ี น 1) 50 คน 2) 250 คน 3) 500 คน 4) 750 คน

BOBBYtutor Biology Note 27. เชื้อรา Neurospora มยี นี A และ B ทําใหส ามารถสรา งทรปิ โตเฟนไดจ ากสารตง้ั ตน ดงั สมการ สารตง้ั ตน ยนี A กรดแอนตรานลิ คิ ยนี B ทรปิ โตเฟน เชอ้ื ราอกี ชนดิ หนง่ึ ไมส ามารถสรา งทรปิ โตเฟนจากสารตง้ั ตน ไดเ อง นอกจากจะใสก รดแอนตรานลิ คิ ลงในจาน เพาะเลย้ี งดว ย เชอ้ื รานจ้ี ะมจี โี นไทปแ บบใด 4) aaBb 1) Ab 2) aB 3) ab 28. ถา ลกั ษณะสขี องดอกไมช นดิ หนง่ึ ควบคมุ ดว ยยนี แบบ Multiple allele โดยมสี แี ดงเปน ลกั ษณะเดน (A), สเี หลอื ง (a1), สชี มพู (a2) และสขี าว (a) เปน ลกั ษณะดอ ย การขม กนั ของยนี ทง้ั 4 อลั ลลี นเ้ี ปน ไปอยา งมลี ําดบั คอื A, a1, a2 และ a ถา ตอ งการดอกไมส เี หลอื งและสชี มพใู นรนุ ลกู จะตอ งผสมพชื ทม่ี จี โี นไทปเ ปน อยา งไร 1) a1a1 × a2a2 2) AA × a1a2 3) Aa1 × a1a2 4) Aa2 × a1a2 29. ถา ผสมสงิ่ มชี วี ติ ทม่ี ี Genotype AaBbCC กบั AabbCc โอกาสของลกู ทมี่ ฟี โ นไทปเ ดน ในยนี ทงั้ 3 คจู ะเปน เทา ใด 1) 1/64 2) 9/64 3) 24/64 4) 27/64 30. ถา ลกั ษณะสตี วั ของแมลงชนดิ หนง่ึ ควบคมุ ดว ยยนี 1 คู เมอ่ื เอาแมลงตวั สเี ทากลมุ หนง่ึ ผสมพนั ธกุ นั เอง พบวา คแู รกไดล กู สเี ทาทง้ั หมด คทู ส่ี องไดล กู สเี ทา 95 ตวั และสดี ํา 25 ตวั จโี นไทปข องพอ และแมข อง 2 คูนั้น คือ 1) คแู รก aa × aa คทู ส่ี อง Aa × Aa 2) คแู รก Aa × Aa คทู ส่ี อง Aa × Aa 3) คแู รก AA × Aa คทู ส่ี อง Aa × Aa 4) คแู รก AA × AA คทู ส่ี อง Aa × AA เฉลย 1. 1) 2. 2) 3. 1) 4. 4) 5. 2) 6. 1) 7. 4) 8. 3) 9. 3) 10. 2) 11. 1) 12. 2) 13. 2) 14. 4) 15. 3) 16. 3) 17. 1) 18. 3) 19. 2) 20. 4) 21. 4) 22. 1) 23. 4) 24. 3) 25. 2) 26. 2) 27. 2) 28. 4) 29. 3) 30. 3)

สําหรับเนอื้ หาที่เรยี งลําดบั กอนเรอ่ื งน้ี และเนอื้ หาตอจากน้ี ยังมีอกี มากกวา 180 หนา ไมส ามารถ นํามาลงใหดาวนโ หลดได เน่ืองจากไฟลมีขนาดใหญมาก หากสนใจสรปุ โนตยอท้ังหมดทกุ รายวิชา วชิ าละไมต่าํ กวา 180 หนา รวม แลวไมต าํ่ กวา 1500 หนา เนอ้ื หาครบทกุ เร่ือง ที่เรยี นในระดับม.ปลาย ตั้งแต ม.4-5-6 ทุกรายวชิ า ทั้ง คณิตศาสตร ฟสิกส เคมี ชวี วทิ ยา สังคมศกึ ษา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ คาํ ศัพท ภาษาอังกฤษ รวบรวมไวเ ปน E-book ในรูปแบบ CD ทสี่ ามารถเปด อานหรือ Print เก็บไวอา นได สามารถสงั่ ซือ้ ไดท่ี ติวเตอรบอบบ้ี โทร. 01-934-1712 โดยโทรแจง ชอ่ื ท่อี ยู แลวโอนเงินเขา บัญชี (ซง่ึ จะสง SMS ใหภายหลงั ) เราจะจดั สง CD สรปุ โนต ยอทกุ รายวชิ า ทางพสั ดไุ ปรษณยี  EMS ใหไ ดรบั ภายใน 3 วัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook