Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 10รูปแบบการสอน

10รูปแบบการสอน

Published by ธนณินทร์ กลิ่นพุฒ, 2021-11-11 09:00:36

Description: 10รูปแบบการสอน

Search

Read the Text Version

10 รูปแบบในการจัดการเรียนการสอน

1.วธิ ีสอนโดยใช้เกม (Game Method) การสอนท่ีผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนไดเ้ ล่นเกมตามกติกา โดยนาเน้ือหาใน บทเรียนมาเป็นส่วนประกอบของการเล่นเกม ซ่ึงจะสงั เกตพฤติกรรม จากการเล่น เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนและผสู้ อนนาการเล่นเกมดงั กล่าวมาใชใ้ น การอภิปรายสรุปผล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใหผ้ เู้ รียนไดร้ ับประสบการณ์ จริง ไดเ้ รียนรู้เน้ือหาสาระจากเกม ฝึกฝนเทคนิคและทกั ษะต่างๆ เกิด ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน อีกท้งั มีส่วนร่วมในการเรียนการสอนดว้ ย

2.Active Learning เป็นกระบวนการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ ทางปัญญา (Constructivism) ท่ีเนน้ กระบวนการเรียนรู้มากกวา่ เน้ือหาวชิ า เพ่อื ช่วยใหผ้ เู้ รียนสามารถเช่ือมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ใหเ้ กิดข้ึนใน ตนเอง ดว้ ยการลงมือปฏิบตั ิจริงผา่ นส่ือหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผสู้ อน เป็นผแู้ นะนา กระตุน้ หรืออานวยความสะดวก ใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้ข้ึน โดยกระบวนการคิดข้นั สูง กลา่ วคือ ผเู้ รียนมีการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และ การประเมินคา่ จากสิ่งที่ไดร้ ับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทาใหก้ ารเรียนรู้เป็นไป อยา่ งมีความหมายและนาไปใชใ้ นสถานการณ์อื่นๆไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

3.วธิ ีการสอนแบบระดมพลงั สมอง(Brainstorming) คือ วิธีสอนที่ใชใ้ นการอภิปรายโดยทนั ที ไม่มีใครกระตุน้ กลุ่มผเู้ รียนเพอ่ื หา คาตอบหรือทางเลือกสาหรับปัญหาท่ีกาหนดอยา่ งรวดเร็ว ในระยะเวลาส้นั โดย ในขณะน้นั จะไม่มีการตดั สินวา่ คาตอบหรือทางเลือกใดดีหรือไม่อยา่ งไร โดยผเู้ รียนแบ่งเป็นกลุ่มเลก็ ๆ ช่วยกนั คิดหาคาตอบหรือทางเลือก สาหรับ ปัญหาที่กาหนดใหม้ ากที่สุดและเร็วท่ีสุดเท่าท่ีจะทาได้ แลว้ ช่วยกนั พิจารณา เลือกทางเลือก ที่ดีท่ีสุด ซ่ึงอาจมีมากกวา่ หน่ึงทาง

4.วธิ ีการสอนแบบโครงงาน (Project Method) เป็นการสอนที่ใหน้ กั เรียนเป็นหม่หู รือรายบุคคลไดว้ า่ งโครงการ และดาเนินงาน ใหส้ าเร็จตามโครงการน้นั นบั วา่ เป็นการสอนที่ สอดคลอ้ งกบั สภาพชีวิตจริง เดก็ จะทางานดว้ ยการต้งั ปัญหา ดาเนินการแกป้ ัญหาดว้ ยการลงมือทาจริง เช่ือ โครงการรักษา ความสะอาดของหอ้ งเรียน

5.วธิ ีสอนแบบสาธิต หมายถึง การท่ีครูหรือนกั เรียนคนใดคนหน่ึง แสดงบางสิ่ง บางอยา่ งใหน้ กั เรียนดู หรือใหเ้ พอื่ นๆดู อาจเป็นการแสดงการใชเ้ ครื่องมือแสดงใหเ้ ห็น กระบวนการวธิ ีการ กลวธิ ีหรือการทดลองที่มีอนั ตราย ซ่ึงไม่เหมาะที่จะใหน้ กั เรียนทา การทดลอง การสอนวธิ ีน้ีช่วยใหน้ กั เรียนเกิดความรู้ความเขา้ ใจและสามารถทาในสิ่งน้นั ไดถ้ กู ตอ้ ง และ ยงั เป็นการสอนใหน้ กั เรียนไดใ้ ชท้ กั ษะในการสังเกต และถือวา่ เป็นการ ไดป้ ระสบการณ์ตรงวธิ ีหน่ึง วธิ ีสอนแบบสาธิต จึงเป็นการสอนที่ยดึ ผสู้ อนเป็น ศนู ยก์ ลาง เพราะผสู้ อนเป็นผวู้ างแผน ดาเนินการ และลงมือปฏิบตั ิ ผเู้ รียนอาจมีส่วนร่วม บา้ งเลก็ นอ้ ย วธิ ีสอนแบบน้ีจึงเหมาะสาหรับ จุดประสงคก์ ารสอนที่ตอ้ งการใหผ้ เู้ รียน เห็นข้นั ตอนการปฏิบตั ิ เช่น วชิ าพลศึกษา ศิลปศึกษา อุตสาหกรรมศิลป์ วชิ าในกลุม่ การ งานและพ้นื ฐานอาชีพ เป็นตน้ .

6.วธิ ีการสอนโดยใช้กรณีตวั อย่าง(Case Method) วธิ ีสอนโดยใช้กรณตี วั อย่าง คอื กระบวนการทผ่ี ู้สอนใช้ในการช่วยให้ ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ตามวตั ถุประสงค์ทก่ี าหนด โดยให้ผู้เรียนศึกษาเร่ือง ท่สี มมตขิ นึ้ จากความเป็ นจริงและตอบประเด็นคาถามเกยี่ วกบั เรื่องน้ัน แล้วนาคาตอบและเหตุผลทมี่ าของคาตอบน้ันมาใช้เป็ นข้อมูลในการ อภปิ ราย เพอ่ื ให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ตาวตั ถุประสงค์

7. การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ันตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้น้นั เป็นรูปแบบการเรียนที่พานกั เรียนไปสู่ การพิจารณาขอ้ โตแ้ ยง้ และขอ้ สงสยั ต่างๆ ซ่ึงจะก่อใหเ้ กิดประเดน็ คาถามท่ี ตอ้ งการสารวจตรวจสอบ และจะเป็นกระบวนการเช่นน้ีต่อเนื่องกนั ไปเร่ือยๆ จนเรียกไดว้ า่ เป็น วฎั จกั รการสืบเสาะ (Inquiry cycle) ซ่ึงจะช่วยใหน้ กั เรียน เกิดการเรียนรู้และมีทกั ษะในการหาความรู้ตามหลกั วทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงการเรียน แบบสืบเสาะหาความรู้ท้งั 5 ข้นั ตอนน้นั มีข้นั ตอนในการดาเนินการดงั น้ี 1. การสร้างความสนใจ (Engagement) 2. การสารวจและคน้ หา (Exploration) 3. การอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 4. การขยายความรู้ (Elaboration) 5. การประเมินผล (Evaluation)

8.การเรียนรู้แบบร่วมมอื การจดั กิจกรรมการเรียนรู้สาหรับผเู้ รียนต้งั แต่สองคนข้ึนไปหรือโดยการแบ่งผเู้ รียน ออกเป็นกลุ่มยอ่ ยๆ ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนทากิจกรรมร่วมกนั โดยในกลุม่ ประกอบดว้ ย สมาชิกที่มีความสามารถแตกต่างกนั มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการช่วยเหลือ พ่ึงพากนั มีความรับผดิ ชอบร่วมกนั ท้งั ในส่วนตนและส่วนรวม เพอ่ื ใหต้ นเองและ สมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสาเร็จตามเป้ าหมายที่กาหนด ซ่ึงตรงขา้ มกบั การ เรียนที่เนน้ การแขง่ ขนั และการเรียนตามลาพงั

9.วธิ ีสอนแบบแบ่งกลุ่มทางาน (Committee Work Method) วธิ ีสอนแบบแบ่งกลุ่มทางานเป็นวธิ ีสอนท่ีครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทางานร่วมกนั เป็นกลุม่ ร่วมมือกนั ศึกษาคน้ ควา้ หาวธิ ีการแกป้ ัญหาหรือปฏิบตั ิกิจกรรมตาม ความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจ เป็นการฝึกใหน้ กั เรียนทางานร่วมกนั ตาม วถิ ีแห่งประชาธิปไตย

10. วธิ ีสอนแบบปฏิบตั กิ ารหรือการทดลอง เป็นวธิ ีสอนที่ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนลงมือปฏิบตั ิหรือทา การทดลองคน้ หาความรู้ดว้ ยตนเอง ทาใหเ้ กิดประสบการณ์ ตรง วธิ ีสอนแบบปฏิบตั ิหรือการทดลอง แตกต่างจากวธิ ีสอนแบบสาธิต คือ วธิ ีสอนแบบปฏิบตั ิการ หรือการทดลองผเู้ รียนเป็นผกู้ ระทาเพอ่ื พสิ ูจน์ หรือคน้ หาความรู้ดว้ ยตนเอง ส่วนวธิ ีสอนแบบสาธิตน้นั ครู หรือนกั เรียนเป็นผสู้ าธิตกระบวนการและผลท่ี ไดร้ ับจากการสาธิต เม่ือจบการสาธิตแลว้ ผเู้ รียนตอ้ งทาตาม กระบวนการและวธิ ีการสาธิตน้นั

จบการนาเสนอ นาย ธนณินทร์ กลิ่นพฒุ รหสั 63031090104


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook