หนว่ ยที่ 5 ปจั จยั ท่ีมีผลต่อความสาเรจ็ ในการประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์ สาระสาคัญ การเรมิ่ ตน้ เลยี้ งสัตว์น้ัน มคี วามจาเปน็ ทจ่ี ะต้องรถู้ ึงปัจจัยต่างๆ ทีม่ ผี ลตอ่ ความสาเรจ็ ในการประกอบอาชีพ การเล้ยี งสตั ว์ เช่น คุณสมบัติของผ้ทู ่จี ะเลี้ยงสัตว์ การเร่ิมต้นการเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป 1. เพ่อื ให้ผู้เรยี น มีความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกับปัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ ความสาเร็จในการประกอบอาชพี การเลี้ยงสตั ว์ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมคี วามสามารถ 1. บอกปัจจัยทีม่ ีผลต่อความสาเร็จในการประกอบอาชพี การเลี้ยงสัตว์ได้ 2. อธิบายเก่ียวกับปัจจัยที่มีผลต่อความสาเร็จในการประกอบอาชีพการเลีย้ งสัตว์ได้ 3. ทางานและรบั ผิดชอบงานกลมุ่ ได้เป็นอย่างดี 4. ผู้เรยี นมีคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ขอ้ 4. เป็นการบรู ณาการคุณธรรม 8 ประการ ขยนั ซอื่ สัตย์ ประหยัด มีวนิ ัย สภุ าพ สะอาด สามัคคี มีน้าใจ) สาระการเรียนรู้ 1. คุณสมบัตขิ องผู้เล้ียงสัตว์ 2. การเริม่ ตน้ เลย้ี งสตั ว์ 3. ปัจจยั ท่มี ผี ลต่อความสาเร็จในการประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์ 4. หน่วยงานและแหล่งวิชาการที่เก่ยี วข้องกบั การเล้ียงสัตว์ 1. คุณสมบตั ิของผ้เู ลย้ี งสตั ว์ ผู้เลยี้ งสัตวท์ ่จี ะประสบผลสาเรจ็ ควรมีคณุ สมบตั ดิ ังต่อไปนี้
1.1 มนี สิ ยั รักและชอบสตั ว์ ซึ่งความรกั สตั ว์ หรอื ชอบสตั ว์จะเปน็ บอ่ เกิดของความเอาใจใสด่ แู ลสัตว์อยู่เสมอ ทาให้สัตว์ เล้ียงมกี ารเจริญเตบิ โต ให้ผลผลติ สูง ผู้เลีย้ งบางคนเห็นผู้อ่นื ลงทนุ เล้ยี งสตั วแ์ ล้วไดร้ ับความสาเร็จมีรายได้สงู ก็เลย้ี งตาม แต่เมื่อลงทุนไปแลว้ พบว่ามีนสิ ยั ที่ไม่ชอบ และไมเ่ หมาะสมกับการเลย้ี งสตั ว์ ทาใหก้ จิ การนั้นตอ้ ง เลิกล้มไปในที่สดุ 1.2 ต้องแสวงหาความรู้ ความชานาญอยเู่ สมอ ทง้ั สองอยา่ งนี้นับเป็นหวั ใจสาคญั ในการท่จี ะผลิตสตั ว์ให้ไดป้ ระสทิ ธิผลสูงสดุ ซง่ึ ความรู้ สามารถหาได้ทว่ั ไปจากเอกสาร ตารา การศกึ ษาด้วยตวั เอง การศกึ ษาดงู านจากฟารม์ ทป่ี ระสบผลสาเร็จ ความชานาญน้ันเกิดจากการนาเอาความรู้มาปฏิบตั ิ ทาให้เกดิ ความรู้และประสบการณ์ 1.3 ต้องมีความละเอียดรอบครอบ ผเู้ ลี้ยงสัตวต์ อ้ งคอยสังเกต เอาใจใส่ตรวจตราอยเู่ สมอ ไม่มองขา้ มจดุ เลก็ ๆ น้อยๆ เพราะ อาจเป็นสาเหตทุ าใหก้ จิ การไม่ประสบผลสาเร็จ 1.4 มคี วามขยัน อดทน สู้งาน การเลี้ยงสตั วน์ น้ั เปน็ งานที่ต้องทาด้วยตวั เอง งานบางอย่าง ไม่ควรไว้วางใจใหผ้ ู้อื่นทาแทน เพราะความใจใส่ ความท่มุ เทให้กบั งานของลูกจ้างมักจะไม่สงู เทา่ กับเจา้ ของ และการทาดว้ ยตัวเองเท่ากับ การเพิ่มทักษะ ความชานาญให้กบั ตนเอง 1.5 ตรงต่อเวลา รับผิดชอบต่องานที่ทา ตอ้ งมีความตรงต่อเวลา และรับผิดชอบงานท่ีทา ไม่ผลดั วนั ประกันพรุ่งจนทาใหเ้ สยี งาน เชน่ ไมใ่ ห้วัคซนี ตามกาหนดก็จะทาให้สัตว์ขาดภูมิคุ้มโรคทาให้สัตว์เป็นโรคและอาจเกิดโรคระบาดร้ายแรง ขึ้นในฟาร์มได้ หรือการให้อาหารไมต่ รงตามเวลากจ็ ะทาให้สตั วช์ ะงกั การเจรญิ เติบโต เป็นตน้ 1.6 กลา้ ตัดสนิ ใจ เนอื่ งจากการเลี้ยงสัตว์มีอปุ สรรคป์ ัญหา และตัวแปรมากมาย โดยเฉพาะปญั หาเรื่อง การตลาด ปญั หาราคาวัตถุดิบอาหารสตั ว์ หากไม่มคี วามกล้า หรอื ความแน่วแนน่ ในการตอ่ สู้กับปัญหา อุปสรรคท์ ี่เกิดขน้ึ กจ็ ะไมป่ ระสบผลสาเร็จ 2. การเร่ิมตน้ เลี้ยงสัตว์ ผ้เู ลยี้ งสตั วแ์ ม้นจะมีคุณสมบัติเหมาะสมตามที่กลา่ วมาแล้วก็ตาม หลักการเรม่ิ ตน้ เลย้ี งสตั วก์ ็มี ความสาคญั ไม่ต่างกัน ซงึ่ มหี ลกั การท่ีควรปฏบิ ัตดิ งั น้ี
2.1 เร่ิมต้นจากการเล้ียงสตั ว์ทีง่ า่ ยๆก่อน เน่ืองจากสัตว์ทจี่ ะเลี้ยงมหี ลายประเภท ผทู้ ีข่ าดความชานาญ ควรเร่มิ เลี้ยงสตั วท์ ี่งา่ ยๆ กอ่ น เชน่ การเลี้ยงไก่พื้นเมืองก่อนเลี้ยงไกเ่ นื้อ การเลย้ี งสุกรขุนก่อนเล้ยี งสกุ รพันธ์ุ หรอื เลยี้ งโคพ้นื เมืองหรอื โค เนอื้ ก่อนเลี้ยงโคนม เป็นต้น 2.2 เริ่มตน้ จากการเล้ยี งสัตว์จานวนนอ้ ยตัวไปหาจานวนมากตวั เพ่ือเป็นการเรยี นรู้ใหเ้ กิดทักษะประสบการณ์กอ่ น เมื่อมั่นใจแล้วคอ่ ยขยายจานวนมากขึ้น การเริ่มต้นแต่น้อยหากประสบความล้มเหลวก็จะสูญเสยี เงินลงทุนไม่มาก 2.3 เรม่ิ ตน้ ด้วยสัตว์พนั ธ์ุดี ซ่งึ ถึงแมจ้ ะมรี าคาสงู แตจ่ ะให้ผลผลติ สูงคุม้ ค่ากบั การลงทนุ กว่าการเลย้ี งสตั ว์พนั ธไ์ุ มด่ ี ทาให้ เสยี เวลาในการจัดการเล้ียงดู 3. ปัจจัยท่ีมีผลตอ่ ความสาเรจ็ ในการประกอบอาชพี การเลย้ี งสตั ว์ 3.1 การเลือกสถานท่ตี ้งั ฟารม์ การเลีย้ งสตั วเ์ พอ่ื เป็นอาชีพหลกั ทาเลทต่ี ้ังนับวา่ มสี ว่ นสาคญั มีผลกระทบตอ่ ความสาเร็จ และความลม้ เหลวในการทาฟาร์มได้ ดงั นนั้ ผเู้ ลีย้ งจะต้องพิจารณาอย่างรอบครอบในการเลือกสถานที่ตัง้ ฟาร์ม ซึง่ มีหลักในการพิจารณาดังต่อไปนี้ 3.1.1 ควรเลือกพ้ืนท่หี า่ งจากชุมชนและผูเ้ ลี้ยงรายอนื่ ๆพอสมควร เพ่ือป้องกนั กลน่ิ และเสียงรบกวน และหากฟาร์มอยูใ่ กลก้ ับผเู้ ล้ยี งรายอนื่ ๆจะมคี วาม ยงุ่ ยากในการจดั การด้านสุขาภบิ าล อาจทาใหเ้ กิดโรคระบาดได้ 3.1.2 ควรเลอื กพน้ื ที่ ที่มที าเลเหมาะสม สะดวกในการติดต่อกบั ตลาดหรือชมุ ชน การอยูใ่ กลแ้ หล่งรบั ซอ้ื ผลติ ผลและแหลง่ วตั ถุดิบอาหารสัตว์ ทาใหป้ ระหยัดต้นทุนคา่ ขนส่ง 3.1.3 สภาพพืน้ ทไ่ี มค่ วรเป็นที่ลุ่มหรือสูงเกนิ ไป สภาพพ้นื ที่ไมค่ วรเปน็ ท่ลี มุ่ หรือสงู เกินไป มีขนาดกว้างพอสมควรที่จะขยายกิจการได้ ดินมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ดี เหมาะกบั การปลกู พืชอาหารสตั ว์ การระบายนา้ ดี น้าไม่ท่วมขงั และไม่เป็นทีท่ ี่ เคยมโี รคระบาดมาก่อน 3.1.4 สภาพภมู อิ ากาศ ควรมกี ารถ่ายเทอากาศทีด่ ี ไมเ่ ปลยี่ นแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะมผี ลต่อการปรับตัวของสัตว์ ซึง่ อาจทาใหส้ ตั ว์ เจ็บป่วยได้ 3.2 การวางผงั ฟารม์
จะตอ้ งคานึงถึง สภาพพืน้ ท่ี ถนน ระบบน้า ไฟฟ้า และชนิดประเภทของสตั ว์ทจ่ี ะเลยี้ ง โดยวางผังฟารม์ มีขนั้ ตอนดังนี้ 3.2.1 เขียนแผนผังแสดงขอบเขตและทิศทางของสถานท่ีต้งั ฟาร์ม การตัดถนนภายในฟารม์ ใหส้ ะดวกต่อการปฏิบตั ิงาน และจดุ ทีเ่ ช่อื มต่อกบั ถนน ภายนอกฟาร์มจะต้องอยู่ในจุดทเี่ ปน็ อนั ตรายน้อยท่ีสุดเม่ือยานพาหนะเข้าฟารม์ หรือออกจากฟาร์ม 3.2.2 กาหนดขนาดและจานวนโรงเรอื น จดั ให้สตั วอ์ ยู่เปน็ กลุม่ ตามชนิดประเภทของสัตว์ โดยใหก้ ลุ่มของโรงเรอื นหา่ งกัน 30 เมตร กาหนดให้ความยาวของโรงเรือนอยใู่ นแนวทิศตะวันตก ตะวนั ออก 3.2.3 กาหนดจดุ ระบบประปา และระบบไฟฟา้ ภายในฟารม์ กาหนดจุดระบบประปา และระบบไฟฟ้าภายในฟาร์ม โดยคานึงถงึ การประหยัดวัสดุ และพลังงานใหม้ ากที่สดุ 3.2.4 ทาแนวร้ัวรอบฟาร์ม ทาแนวร้ัวรอบฟาร์ม โดยให้โรงเรอื นห่างจากเขตรัว้ 20 เมตร มปี ระตเู ขา้ ออกเพยี ง ทางเดียว เพ่ือสะดวกในการจัดการด้านสขุ าภิบาล ทางเข้าออกควรมบี ่อนา้ ยาฆ่าเชอื้ โรค 3.3 พันธ์สุ ัตว์ พันธุ์สัตวท์ ่ผี ้เู ล้ียงจะนามาเลย้ี งควรมีคณุ สมบัติดงั ต่อไปนี้ 3.1 เปน็ พนั ธุ์สัตว์ท่มี าจากสายพันธท์ุ ด่ี ี ให้ผลผลิตสงู 3.2 มีลักษณะรูปรา่ งและโครงสรา้ งที่ดีตรงตามสายพันธ์ุ 3.3 มคี วามทนทานต่อโรคและแมลง ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดลอ้ มไดด้ ี 3.4 มีอัตราการเจริญเติบโตดี 3.4 อาหารสัตว์ อาหารท่ใี ชใ้ นการเลีย้ งสัตว์ ควรมคี ณุ ค่าทางโภชนาการครบถ้วน เปน็ อาหารใหม่ ราคาถกู คณุ ภาพดี 3.5 การจดั การฟารม์ รู้หลักการจดั การฟารม์ ทดี่ ี รจู้ กั การใช้ประโยชน์จากวัสดุอุปกรณต์ ลอดจนทรัพยากรท่ีมีอย่ใู น ฟารม์ ใหเ้ กดิ ประโยชนม์ ากท่ีสุด ทาให้ประหยัดตน้ ทุนและแรงงานในการล้ยี งสัตว์ หากการจัดการไม่ดีอาจ กอ่ ใหเ้ กิดปัญหาขึ้นในฟาร์มได้ เชน่ การจดั การเลีย้ งดู การจดั การดา้ นสุขาภบิ าล การจัดการอาหารสัตว์ เป็นตน้ 3.6 ทนุ สาหรบั ดาเนนิ การ ทุนสาหรบั ดาเนนิ การมีส่วนสาคัญในการทาฟารม์ เปน็ อย่างยง่ิ ทนุ ท่ีใช้ทาฟาร์มแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื
3.6.1 ประเภททนุ นอน ประเภททนุ นอน ไดแ้ ก่ คา่ ที่ดนิ โรงเรอื น อุปกรณต์ ่างๆ เป็นการลงทุนครงั้ เดียว แต่จะใชเ้ วลานานกว่าจะถอนทุนคนื ได้ ทนุ จาพวกนจ้ี งึ ไม่ควรเกินครึ่งหน่ึงของเงินลงทนุ ทั้งหมด 3.6.2 ประเภททนุ หมุนเวยี น ประเภททุนหมุนเวียน ได้แก่ คา่ อาหาร ค่าพันธสุ์ ัตว์ ค่ายา เวชภณั ฑ์ คา่ แรงงาน เงินทนุ ประเภทน้ีมีค่าลงทุนที่สงู โดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์ที่กนิ อาหารข้นเป็นหลัก เชน่ ไก่ สกุ ร คา่ อาหาร จะสูงถงึ 60-70 เปอร์เซน็ ต์ ของเงินลงทนุ ทง้ั หมด 3.7 การตลาด การตลาดเป็นปจั จัยทสี่ าคญั ในการทาฟาร์ม ซึ่งมีผลกาไรหรอื ขาดทุนขึ้นอยู่กับการจัดการ ตลาดเชน่ กนั ดงั นั้นผู้เลีย้ งสตั วต์ ้องศึกษาข้อมูล ข่าวสาร ความเคลือ่ นไหวและแนวโน้มต่างๆ ที่ เปล่ยี นแปลง เพอ่ื ทจี่ ะวางแผนผลติ สัตวอ์ อกจาหน่ายในช่วงที่มีความตอ้ งการสูง 4. หน่วยงานและแหล่งวชิ าการท่เี กย่ี วข้องกบั การเลยี้ งสัตว์ 4.1 หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาครฐั มีหลายหนว่ ยงานที่เกีย่ วข้องกับการส่งเสรมิ สนบั สนุนการเลยี้ งสตั ว์ ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม ต้ังแต่ฝกึ อบรมให้ความรูแ้ กเ่ กษตรกร การบริการด้านสุขภาพสัตวแ์ ละการป้องกัน โรค การบริการผสมเทียม การวจิ ัยและการทดลอง การจัดหาแหล่งเงนิ ทนุ เป็นตน้ หน่วยงานเหล่าน้ไี ด้แก่ กรมปศสุ ัตว์ องคก์ ารสง่ เสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารเพ่ือการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร สถาบันการศึกษาทีส่ ังกัดคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสงั กัดคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา 4.2 หน่วยงานภาคเอกชน หน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ เอกชนรายบุคคล บริษัท ธนาคารพานชิ ที่มบี ทบาทในดา้ น ส่งเสรมิ และใหค้ วามรแู้ ก่เกษตร การใหส้ นิ เชื่อ การดาเนินธรุ กจิ เก่ียวกบั ปจั จัยการผลติ การตลาด ตลอด การรณรงคเ์ ผยแพร่ความรู้ข่าวสารดา้ นการเลยี้ งสตั ว์ผา่ นสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทใ่ี หก้ ารสนับสนนุ ด้านการ ส่งเสริมเงนิ ทุนและวชิ าการ เช่น องค์การอาหารและเกษตรแหง่ สหประชาชาติ (FAO) ความชว่ ยช่วยเหลือ ของประเทศประเทศต่างๆ ผา่ นทางองค์กรเอกชน เชน่ GTZ จากประเทศเยอรมณี เปน็ ตน้ 4.3 แหล่งวิชาการเกี่ยวข้องกับการเล้ยี งสตั ว์ นอกจากกรมปศุสตั วท์ ่ที าหน้าทีเ่ กยี่ วกบั การเลีย้ งสัตวโ์ ดยตรงแล้ว ยงั มีสถาบนั ศึกษาตา่ งๆ ท่ัวประเทศทเ่ี ปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ความรทู้ างวิชาการ สามารถให้คาแนะนาต่างๆ แกผ่ เู้ ล้ียงสตั ว์ ไดแ้ ก่ มหาวิทยาลยั วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมง
4.4.1 มหาวิทยาลยั มหาวิทยาลัยเป็นสถาบนั การศกึ ษาที่สังกดั ทบวงมหาวทิ ยาลัยต้งั อยู่ท่วั ประเทศ เป็น สถาบันการศึกษาระดบั สูง ทาหน้าทีผ่ ลติ นิสติ สาขาสตั วบาล สตั วศาสตร์ และเทคโนโลยกี ารผลิตสตั ว์ นอกจากนี้มหาวทิ ยาลยั ยังทาหน้าท่ี คน้ ควา้ ทดลอง วิจัย ทางด้านสตั ว์เพ่อื ส่งเสรมิ ปรับปรุงรปู แบบการ เล้ียงสตั ว์ให้ทันสมยั ข้นึ เรื่อยๆ 4.4.2 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยเี ป็นสถาบนั การศกึ ษาทส่ี ังกัดกองวทิ ยาลยั เกษตรกรรม สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ ารทาหนา้ ทีผ่ ลิตนัก สตั วบาลในระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชพี วฒุ ิ ปวช. และระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้ันสงู วฒุ ิ ปวส. ในปจั จบุ ันมีอยู่ ทัง้ หมด 45 แหง่ หากรวมวิทยาลัยประมงด้วยรวมทัง้ หมด 47 แหง่ รายละเอยี ดดังแสดงใน ตารางที่2.4
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 5 ช่ือหนว่ ย ปัจจัยท่ีมีผลต่อความสาเรจ็ ในการประกอบอาชพี การเล้ียงสัตว์ คาช้แี จง ให้เลอื กคาตอบท่ถี ูกทส่ี ดุ เพียงข้อเดยี ว 1. สตั ว์ปว่ ย เกษตรกรควรปรกึ ษาหน่วยงานใด ก. ทกุ หน่วยงานทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การเล้ียงสัตว์ ข. ปศุสตั วจ์ งั หวดั , ปศสุ ตั วอ์ าเภอ, เจา้ หน้าทป่ี ศสุ ัตว์ ค. เกษตรกรผูเ้ ลยี้ งสัตว์ใกล้เคยี ง ง. ผู้ใกลช้ ดิ 2. เกษตรกรผู้เลีย้ งสัตว์มปี ัญหาเก่ยี วกบั โคนมผสมติดยาก ควรปรึกษาหน่วยงานใด ก. กรมปศสุ ตั ว์, ศนู ย์บารงุ พนั ธสุ์ ัตว์ ข. สถานวี จิ ยั พืชอาหารสตั ว์ ค. ทกุ หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งกับการเลี้ยงสัตว์ ง. เจา้ หน้าที่ผสมเทยี ม 3.เกษตรกรต้องการเคล่ือนย้ายโคนมจากจงั หวดั หนึง่ ไปยังอกี จังหวัดหนง่ึ ควรตดิ ต่อประสานงานกับหน่วยใด ก. ผใู้ หญบ่ ้าน, กานัน ข. ปศุสัตวอ์ าเภอนนั้ ๆ ค. เจ้าหน้าทีผ่ สมเทยี ม ง. กองบารุงพนั ธุ์สัตว์
4. หน่วยงานภาครฐั และหนว่ ยงานเอกชนทม่ี สี ว่ นเกี่ยวขอ้ งและสนับสนุนการเลยี้ งสตั ว์ หวงั ผลประโยชน์ใด ก. เพือ่ ให้เกษตรกรมีฐานะทางการเงินดีขึ้น ข. เพอ่ื ใหม้ ผี ลพลอยได้ ค. เพื่อให้เกิดผลสาเรจ็ และเศรษฐกจิ ทางครัวเรือนดขี ้นึ ง. ทาตามหนา้ ทรี่ ับผิดชอบ 5. อาหารทใ่ี ช้ในการเล้ยี งสัตวค์ วรมีคณุ ลักษณะอย่างไร ก. เปน็ อาหารที่มีราคาถกู คุณภาพปานกลาง ข. มโี ภชนาการครบถ้วน เป็นอาหารใหม่ ค. ให้คานงึ ถึงอาหารทมี่ ีปรมิ าณมากๆ คุณภาพดี ง. อาหารทม่ี รี าคาถูก มีปรมิ าณมาก 6. ทุนสาหรบั ดาเนินการในการเลยี้ งสตั ว์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แกป่ ระเภทใดบ้าง ก. ทุนจากการเกบ็ สะสมและทนุ จากมรดก ข. ทนุ จากการเก็บสะสม และทุนหมุนเวียน ค. ประเภททุนนอน และทนุ หมนุ เวียน ง. ทุนหมุนเวียน และทุนที่ได้จากการกยู้ ืมจากแหลง่ เงินของรัฐบาล 7. เงินทนุ ท่ีใชจ้ า่ ยค่าอาหารข้นเปน็ หลักในการเลย้ี งสกุ รหรือไก่ จะสูงประมาณกเ่ี ปอรเ์ ซน็ ต์ของเงินทนุ ทงั้ หมด ก. 15 – 30% ข. 30 – 40% ค.40 – 50% ง. 60 – 70% 8. การศกึ ษาตลาดเกย่ี วกับข้อมูล ข่าวสาร ความเคล่อื นไหว และแนวโน้มต่างๆ ท่เี ปลยี่ นแปลงมีประโยชน์ อยา่ งไรเก่ียวกบั การเล้ยี งสัตว์ ก. มีประโยชน์ เพ่ือท่ีจะวางแผนผลิตสตั ว์ออกจาหนา่ ยในชว่ งทม่ี ีความต้องการสงู ข. มปี ระโยชนใ์ นดา้ นการประสานงานภายในฟารม์ ค. มปี ระโยชนใ์ นดา้ นการประสานงานภายในฟาร์ม
ง. ไม่มีส่วนเก่ยี วข้องกบั การเลีย้ งสตั วแ์ ต่อยา่ งใด 9. คุณสมบตั ิของผูเ้ ลย้ี งสัตว์ท่ีดี ก. มีความรู้ทุกอยา่ ง ข. มีความรู้และประสบการณใ์ นการเลย้ี งสตั ว์ ค. ควรมอบหมายใหผ้ ู้อน่ื ทาแทน ง. ไม่ใส่ใจจุดเล็กๆนอ้ ยๆ เพราะจะทาให้เสยี เวลาบรหิ ารงานฟารม์ 10. ผเู้ ลี้ยงสัตว์จะประสบผลสาเรจ็ ได้ จะต้องมีคุณสมบัติอยา่ งไร ก. เลย้ี งสัตวต์ ามผทู้ ป่ี ระสบผลสาเรจ็ ข. มที นุ เพียงพอต่อการดาเนนิ กิจการเลีย้ งสัตว์ ค. มแี รงงานมากมาย ง. มีนิสัยรักและชอบสตั ว์ 11. หลกั การเร่ิมต้นในการเลย้ี งสัตว์ มหี ลกั การควรปฏิบัตอิ ย่างไร ก. ตัดสนิ ใจเลย้ี งสตั วพ์ ันธ์ุดี เพอ่ื ปอ้ งกนั ความผิดหวัง ข. ลงทนุ เลยี้ งสัตว์จานวนมากๆ สนองความต้องการของตลาด ค. เริม่ ต้นจากการเลีย้ งสตั ว์จานวนน้อยๆ ไปหาจานวนมาก เพื่อสร้างประสบการณ์ ง. ตดั สนิ ใจเล้ยี งสตั วต์ ามราคาขึ้นลงของตลาด 12. ปัจจยั ทมี่ ผี ลสาเร็จในการประกอบอาชพี การเลยี้ งสัตว์ ก. มคี วามรู้สูง ข. มที นุ สงู ค. เลือกสถานที่ต้งั ฟาร์มใหเ้ หมาะสม ง. หาพนักงานทีม่ ีความรู้
13. พนั ธ์สุ ัตวท์ ผ่ี ้เู ลยี้ งจะนามาเลี้ยงควรมคี ณุ สมบัติอยา่ งไร ก. เปน็ สัตวท์ ี่สั่งมาจากตา่ งประเทศโดยตรง ข. เลอื กซื้อตามฟารม์ เลย้ี งสตั ว์ทั่วไป ค. มาจากสายพนั ธ์ดุ ี ใหผ้ ลผลติ สงู ง. เป็นพนั ธสุ์ ัตว์ต่างประเทศที่มาจากเขตหนาว เพราะเจรญิ เติบโตดี
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: