ผกั โขม พันธุไ์ มค้ ลมุ ดนิ การใชง้ าน ผกั โขมเป็ นไมพ้ ุ่มเตย้ี และเป็ นพืชลม้ ลุกปี เดยี ว สงู 30-100 ซม. ลาตน้ อวบน้ามสี ีเขียวตงั้ ตรงแตกกิง่ กา้ นสาขามาก โคนมีสีแดงน้าตาล ใบเป็ นใบเดี่ยวรูปไขค่ ลา้ ยสามเหลย่ี มใบออก แบนสลบั กว้าง 2.5-8 ซม.ยาว 3.5-12 ซม. สไตล์การจัดสวน ทรอปิ คัล อังกฤษ บาหลี ไทย
ข้าว พันธุไ์ มค้ ลมุ ดนิ การใช้งาน ขา้ วสามารถโตได้เกือบทกุ ท่ี แมบ้ นเนินชันหรือ เขตภเู ขาที่ใชร้ ะบบควบคมุ น้าแบบข้นั บนั ได สไตล์การจัดสวน ทรอปิ คัล อังกฤษ บาหลี ไทย
อัญชนั พันธุไ์ มเ้ ลอ้ื ย การใช้งาน ไม้เล้อื ยขนาดเลก็ ทีน่ ิยมปลกู ประดับริมรั้วบา้ น พืชชนิดนี้มสี ารท่ชี ่ือว่า “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซง่ึ มีหน้าทชี่ ่วยกระตนุ้ การ ไหลเวียนของโลหติ ทาใหเ้ ลอื ดไปเลยี้ งส่วน ตา่ ง ๆ ไดด้ มี ากขน้ึ เช่น บริเวณรากผมท่ีทาให้ ผมดกดา เงางาม นอกจากน้ีดอกยงั นามาใช้ ทาเป็ นสีผสมอาหารได้ สไตลก์ ารจัดสวน ทรอปิ คัล อังกฤษ บาหลี
พวงชมพู พันธุไ์ มเ้ ลอื้ ย การใชง้ าน เป็ นไมเ้ ลื้อยมลี าตน้ เล็กสีเขียว มีมือสาหรับ เกาะยึด ใบเป็ นใบเด่ียวรูปหวั ใจ ขอบใบและ แผ่นใบเรียบเหน็ เส้นใบชัดเจน ดอกออกเป็ นช่อ ท่ีปลายยอด ส่วนใหญ่ดอกสีชมพู ดอกสีขาวมี ใหเ้ หน็ บา้ งแตม่ ีไมบ่ อ่ ยนัก โตเร็ว ไมค่ วรปลูก รวมกบั ไม้เลอ้ื ยชนดิ อื่น ใบแน่นทึบ เม่ือแหง้ จะ ไมร่ ่วงจากตน้ ทาใหด้ รู กรุงรัง ไมส่ วยงาม เหมาะกับการทาซมุ้ ปลกู ตามแนวรั้ว หรือคลมุ ดินได้ สไตล์การจัดสวน ทรอปิ คัล อังกฤษ บาหลี ไทย ญป่ี ่ ุน
ตาลึง พันธุไ์ มเ้ ลอ้ื ย การใชง้ าน ตาลงึ จดั เป็ นไม้เถาลม้ ลุกอายุหลายปี เถาแก่ ของตาลงึ จะใหญแ่ ละแข็ง เถาตาลงึ จะมี ลกั ษณะกลม สีเขียว ตามขอ้ มตี าลึงจดั เป็ น เอาไว้ยดึ เกาะ ใบเป็ นใบเดี่ยวออกแบบสลบั ใบ รูปร่างคล้าย 5เหลี่ยม ขอบใบเว้าเลก็ นอ้ ย บางครั้งจะเว้ามากเป็ น 5 แฉก ขนาดกว้าง 5- 8 เซนตเิ มตร ใบสีเขยี วเรียบไมม่ ขี นของใบมี ตอ่ มคายนา้ กา้ นใบยาว 3-6 เซนติเมตร สไตลก์ ารจัดสวน ทรอปิ คลั อังกฤษ โมเดริ ์น บาหลี ไทย ญีป่ ่ ุน
ตนี ตกุ๊ แก พันธุไ์ มเ้ ลอื้ ย การใชง้ าน ไม้เลื้อยทน่ี ยิ มปลกู ใหข้ ้ึนผนงั กันมานาน ขอ้ ดี ของพืชชนดิ น้ีคอื ตวั รากจะยึดเกาะกับผนัง แนบไปกับตวั อาคาร จึงไมจ่ าเป็ นตอ้ งทาโครง ช่วยใหย้ ึดเกาะ แตห่ ากตน้ เตบิ โตไปจนสุดผนัง แลว้ กงิ่ นัน้ จะเจริญเป็ นกง่ิ ใหญ่ จึงควรหม่นั เล็มก่งิ อยา่ งสม่าเสมอใหผ้ นงั เขียวสวยตลอด ขอ้ ควรระวังอย่างหน่งึ ในการปลูกตนี ตกุ๊ แก คอื ผนังอาคารนั้นไม่ควรมรี อยร้าวหรือ กะเทาะเน่ืองจากรากอาจชอนไชเขา้ ไปตามรอย เหล่านแ้ี ละทาใหเ้ กิดความเสียหายได้ สไตล์การจัดสวน ทรอปิ คลั อังกฤษ บาหลี
ไม้ยืนตน้ • เหลอื งอินเดีย • ขนนุ • ยาง • หกู ระจง • ตีนเป็ ดน้า • เหลอื งปรีดยี าธร • อินทนลิ • ปี บ • แคนา • มะฮอกกานใี บใหญ่
ไม้พุ่ มสูง สงู 1.50 ม. ขนึ้ ไป • ตะขบ • ลาดวน • การบรู • จันทร์แดง • ตะคร้อ
ไม้พุ่ มสูง สูง 0.50 – 1.50 ม. • ตะขบ • กระเจ๊ียบ
ไม้คลมุ ดนิ สูงไม่เกนิ 0.30 ม. • ผกั ชลี าว • กระเจีย๊ บเปร่ียว • ตะไคร้ • โหระพา • ผกั โขม • ขา้ ว • หญา้ หางกระรอก • จิ่งจูฉาย • ผกั สวนครัวอ่ืนๆ
04. Hardscape ภูมิทัศน์ดาดแข็ง
ผนงั ประดบั เพราะคอนเซปต์คือภเู ขา วัสดุหลักท่ใี ช้จึง เป็ นอิฐทใ่ี หค้ วามรู้สึกเป็ นใกล้ธรรมชาติ
ประติมากรรม เมอ่ื มองไปยังบริเวณดา้ นหนา้ อุทยานฯ จะพบ อนสุ าวรีย์ของอาจารยป์ ๋ วย และอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ต้ังอยู่อย่างเรียบงา่ ย โดย มานพ สุวรรณปิ ณฑะ ต้ังใจถา่ ยทอดภาพถา่ ย ประวัตศิ าสตร์ ณ ประเทศ อังกฤษ ของทา่ นทง้ั สอง ออกมาเป็ น ประติมากรรม เพ่ือเป็ นอนสุ รณ์ถงึ คณุ ูปการ ของทา่ นทง้ั สองทม่ี ตี อ่ สงั คม ไทยและ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์
04. Waterscape นา้
“นาขน้ั บนั ไดทปี่ ระกอบไปด้วยพืชพรรณหลากชนิด จะชว่ ยลดแรงปะทะและ การไหลบ่าของน้าฝนจากหลงั คาอาคารใหช้ ้าลง หลังคาเขยี วนี้สามารถชะลอ ความเร็วของน้าได้เกือบ 20 เท่า ลดความเส่ียงการเกิดนา้ ท่วมขัง เพิ่ม ปริมาณการรองรับน้าฝน โดยนา้ ฝนจะถูกเก็บกักไว้ตามนาขน้ั บนั ไดแต่ละ แปลงกอ่ น จึงคอ่ ยๆ ไหลรินลงมาชา้ ๆ สูส่ ระน้าทง้ั 4 รอบอาคาร” แมม้ หาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์จะมพี ื้นท่ีกว้างใหญก่ ว่า 1,700 ไร่ แต่ไม่เคยใช้ น้าประปารดนา้ ตน้ ไม้แมแ้ ต่ตน้ เดียว น้าท่ีใชเ้ ป็ นนา้ จากลาคลองทไ่ี หลผา่ น มหาวิทยาลยั และน้าฝนทีเ่ กบ็ กักไว้ ตอนนมี้ สี ระเกบ็ นา้ ฝนเพ่ิมอีก 4 สระ โดยน้าในสระจะถกู สูบข้นึ มาใช้รดน้าต้นไม้ พืชพรรณที่เพาะปลูกไว้ รวมถึงใชใ้ นระบบชะลา้ งสาหรับหอ้ งนา้ ในอาคาร อุทยานฯ ในอนาคตทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มแี ผนปลกู พืชน้ากนิ ได้ใน สระท้งั 4 ดว้ ย หนั กลับไปมองอดีต พื้นท่ตี รงนี้เคยเป็ น ‘ทุ่งรังสติ ’ หรือพ้ืนทีช่ ุม่ นา้ ทอี่ ุดม สมบรู ณ์มากอ่ น และยังเป็ นพ้ืนทีร่ ับนา้ ของกรุงเทพฯ เมือ่ เป็ นเช่นนัน้ ระบบ จัดการนา้ ของอุทยานฯ จึงเช่อื มโยงกบั เร่ืองน้าทัง้ หมดของผังแม่บทเร่ือง การระบายน้าของมหาวิทยาลยั เพ่ือเป็ นสว่ นหนง่ึ กับตัวมหาวิทยาลยั และ เมือง โดยใหร้ ะบบคแู ละทางระบายน้าของมหาวิทยาลัยเชื่อมกบั สวน อุทยานเรยี นรูป้ ๋ วย 100 ปี สวนแหง่ ใหมข่ องธรรมศาสตร์ที่เป็ น Green Roof Urban Farm ใหญส่ ุดในเอเชีย เมอื่ มนี า้ มา สวนแหง่ นีจ้ ะรองรับน้า ซึมนา้ และบาบัดน้า ดว้ ยพืชชนิดต่างๆ ก่อนปลอ่ ยนา้ สรู่ ะบบคลองเดิม นอกจากนี้ถา้ เกดิ น้าท่วม ธรรมศาสตร์ตอ้ ง สามารถพลกิ ตวั เองไปเป็ นศูนยบ์ าบดั หรือศูนยช์ ว่ ยเหลืออย่างทเ่ี คยเกิดขน้ึ สวนน้กี จ็ ะไมใ่ ชแ่ คท่ ีช่ ว่ ยรับนา้ แตจ่ ะกลายเป็ นศูนยพ์ ักพิงท่ีผู้ประสบภยั มาใช้ ประโยชน์กางเต็นท์นอนได้ มีหลังคาอาคารทรงเนนิ ดนิ เป็ นสว่ นพื้นทแ่ี หง้ พ้น น้าดว้ ย
พ้ืน พื้นทางเดนิ พื้นตา่ งระดบั ลาน คอนเซปต์ในการออกแบบ Green Roof Urban Farm ของอุทยานเรียนรู้ป๋ วย 100 ปี คอื ‘นาขนั้ บนั ได’ พื้นส่วนใหญจ่ ะเป็ นในรูปแบบขน้ั บนั ได ไต่เป็ นระดับๆ
พ้ืนทางเดนิ ใช้ในรูปแบบขั้นบันได
พื้นตา่ งระดบั พื้นทส่ี ว่ นใหญเ่ ป็ นพ้ืนทต่ี า่ งระดบั เนอ่ื งมาจาก คอนเซ็ป นาขน้ั บนั ได
ลาน จะแบง่ เป็ นตามจุดเพ่ือเป็ นการพัก ระหว่างทาง และลานตรงดา้ นหนา้ อุทยาน
สมาชกิ
Search