Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักการคิดเชิงออกแบบ

หลักการคิดเชิงออกแบบ

Published by Thanawat Srisukha, 2022-02-23 06:53:53

Description: หลักการคิดเชิงออกแบบ

Search

Read the Text Version

ห น่ ว ย ที่ 1 หลักการคิด เชิง ออกแบบ

ประเด็นสำคัญ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking)จะทำให้เรามองเห็น วิธีการใหม่ๆในการแก้ไขปัญหาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆตลอดจนสร้าง นวัตกรรมตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) จะทำให้เรารู้จัก มองปัญหาตลอดจนโจทย์ของการทำงานต่างๆได้รอบทิศและ รอบคอบขึ้น กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ฝึกให้มีการคิดอย่าง เป็นระบบเป็นขั้นตอนและมีลำดับการบริหารจัดการที่ดีไม่ว่าจะนำไปใช้กับ การปฎิบัติงานอย่างไรก็ตาม ทำไมองค์กรต้องเรียนรู้เรื่อง Design หรือ “การออกแบบ” ทั้งๆ ที่องค์กรไม่ ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับความสร้างสรรค์, ศิลปะ, ผลิตผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่ด้าน สถาปัตยกรรมเลยแม้แต่น้อย ความคิดเหล่านั้นเป็นความคิดดั้งเดิมแบบยุค เก่าที่ต้องทำความเข้าใจกับเรื่องของ “การออกแบบ” ใหม่ เพราะในยุคนี้การ ออกแบบหรือ Design นั้นเป็นได้มากกว่าแค่การคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้ออกมาเป็นวัตถุจับต้องได้ แต่การออกแบบจริงๆ แล้วสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมเลยทีเดียวการออกแบบ ที่กำลังถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางกับองค์กรต่างๆ นั้นก็คือ Design Thinking หรือ “กระบวนการคิดในเชิงออกแบบ” นั่นเอง กระบวนการคิดนี้ถูกนำมา ประยุกต์ใช้กับการบริหารองค์กรตลอดจนปลูกฝังระบบวิธีคิดรูปแบบนี้ให้กับ บุคลากรในองค์กรที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานของตนเองได้ด้วย ซึ่ง กระบวนการคิดในรูปแบบนี้มีลักษณะและกระบวนการที่สร้างสรรค์ขึ้นมาซึ่ง ถือว่าเป็นหลักการที่ช่วยทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้อย่างดีทีเดียว

Design Thinking คืออะไร? กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) คือ กระบวนการ คิดเพื่อแก้ไขปัญหาหรือโจทย์ให้ถูกจุด ตลอดจนพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือโจทย์ที่ตั้งไว้ เพื่อที่จะหาวิถีทางที่ดีที่สุดและเหมาะ สมที่สุดการแก้ปัญหาบนพื้นฐาน กระบวนการนี้จะเน้นยึดไปที่หลักของผู้ใช้/ผู้บริโภค(User-centered) เป็นหลัก โดย มีเจตนาในการสร้างผลลัพธ์ในอนาคตที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้ตอบโจทย์ ตลอดจนแก้ ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็น ประโยชน์อีกด้วย ทำไมการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) จึงมีความสำคัญกับองค์กรในยุคปัจจุบัน การนำเอากระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) นั้นอาจจะเห็นผลชัดเจนและเข้าใจได้แจ่มแจ้งกว่าสำหรับกระบวนการ คิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ผู้บริโภคตลอดจนตอบโจทย์ผู้ที่ บริโภคต้องการรวมไปถึงสามารถผลิตสินค้าและบริการขึ้นมาเพื่ออุดรู รั่วของตลาดนั้นๆ ตลอดจนสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งการคิดโดยนำเอากระบวนการคิดเชิงออกแบบมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นี้จะทำให้เราเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้และผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อ ตอบโจทย์ตลาด ตลอดจนแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง

สำหรับการบริหารองค์กรเองนั้นการประยุกต์เอารูปแบบ กระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) มาใช้อาจทำให้เรารู้จักคิดวิเคราะห์ในปัญหาที่เกิดขึ้นมากขึ้น รู้อย่าง ถี่ถ้วน ถ่องแท้ ละเอียด ซึ่งบางครั้งทำให้เราอาจรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงที่ ซ่อนอยู่ได้ก็เป็นได้ นั่นทำให้เราจับจุดปัญหาได้ถูก และมีวิธีการในการ แก้ไขปัญหาที่เป็นลำดับ มีการคิดวิเคราะห์วิธีแก้ไขอย่างถี่ถ้วน และ รอบด้าน นั่นทำให้เราสามารถมองวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ได้รอบมุม หลากหลายมุมมอง และทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น หรือไม่ก็สามารถหาทางแก้อื่นสำรองได้ทันท่วงที หากทางแก้ที่เลือกไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะเราได้ลองมองทุกมุมมา แล้ว นอกจากนั้นกระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) ยังก่อให้เกิดการคิดแบบสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะนำมาคิด วิเคราะห์แก้ปัญหา พยายามหาหนทางที่มากกว่าสิ่งที่ตนเองคุ้นเคย ตลอดจนสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นได้เช่นกันซึ่งก็รวมถึงนวัตกรรมที่เกี่ยว กับการบริหารองค์กรได้ด้วยเช่นกัน

ในยุคที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูงนี้ใครๆ ต่างก็ขวนขวายที่จะหาทางคิด ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ตลอดจน คิดหาวิธีทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ยอดเยี่ยมที่สุด นั่นเลยทำให้ หลายองค์กรมีการนำเอาการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) นี้มาใช้ในธุรกิจของตน รวมไปถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก อย่าง Google, Apple หรือแม้แต่ Airbnb ที่นำเอากระบวนการคิด รูปแบบนี้ไปใช้ในองค์กรจนประสบความสำเร็จมาแล้ว และนั่นก็ทำให้ หลายองค์กรต่างนำมาใช้กับองค์กรของตนบ้าง และสร้างความสำเร็จ ได้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว

HR มีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้ Q: จะออกแบบให้การเมืองในบริษัทเบาบางลงได้อย่างไรคะ รู้สึกว่าที่ Office การเมืองแรงมาก เกิดการดราม่า แบ่งฝักแบ่งฝ่ายพูดคุยนินทากันลับหลังข้ามแผนก มันทำให้การ ทำงานขาดคามร่วมมือมีมวความเครียดบางอย่างในที่ทำงานเราจะจะ ออกแบบให้การเมืองในบริษัทเบาบางลงได้อย่างไรคะ A: ต้องเริ่มจาก Leaders ในการลดปัญหาการเมืองใน บริษัทครับ ฝ่ายบริหารต้องมองเห็นเป้าหมายเดียวกันและเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ โดยทางฝ่ายบริหารต้องเก็บข้อมูลให้มากที่สุดและรู้ว่าการเมืองเกิดขึ้น เพราะอะไร และใครเป็น influencer ของการเมืองนั้นๆ ครับ หาก แก้ไขอย่างเบาอาจจะทำ..

ประโยชน์ของระบบการคิดเชิงออกแบบ การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) มีประโยชน์มากมายทั้งต่อบุคลากรไปจนถึงองค์กรเลยทีเดียว ซึ่ง ประโยชน์ในด้านต่างๆ นั้นมีดังนี้ ฝึกกระบวนการแก้ไขปัญหาตลอดจนหาทางออกที่เป็นลำดับขั้น ตอน : ปกติเราอาจจะมีการหาทางแก้ปัญหาแบบสะเปะสะปะ ไม่มี การหาสาเหตุ หรือไม่มีการมองรอบด้าน กระบวนการนี้จะทำให้เรา มองอย่างรอบคอบและละเอียดมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจปัญหาได้ อย่างถ่องแท้ และแก้ไขได้ตรงจุด มีทางเลือกที่หลากหลาย : การคิดบนพื้นฐานข้อมูลที่มีหลากหลาย ตลอดจนพยายามคิดหาวิถีทางหรือแชร์ไอเดียที่ดีออกมาหลาก หลายรูปแบบ ทำให้เรามองเห็นอะไรรอบด้าน และมีตัวเลือกที่ดี ที่สุด ก่อนนำไปใช้แก้ปัญหาจริง หรือนำไปปฎิบัติจริง มีตัวเลือกที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด : เมื่อเรามีตัวเลือกหลากหลายเรา ก็จะรู้จักคิดวิเคราะห์ และการคิดวิเคราะห์นี้เองจะทำให้เราสามารถ เลือกทางเลือกที่ดีและเหมาะสมที่สุดได้ มีประสิทธิภาพมากกว่า ฝึกความคิดสร้างสรรค์ : การแชร์ไอเดีย ตลอดจนระดมความคิด นั้น จะทำให้สมองเราฝึกคิดหลากหลายรูปแบบ หลากหลายวิธีการ หลากหลายมุมมอง และทำให้เรารู้จักหาวิธีแปลกๆ ใหม่ๆ ซึ่งเป็น พื้นฐานในการฝึกความคิดสร้างสรรค์ที่ดี ที่เป็นพื้นฐานที่ดีในการ แก้ปัญหา ตลอดจนการบริหารจัดการเช่นกัน เกิดกระบวนการใหม่ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ : มีการคิดมากมาย หลากหลายรูปแบบ ตลอดจนแชร์ไอเดียดีๆ มากมาย การที่เราได้ พยายามฝึกคิดจะทำให้เรามักค้นพบวิธีใหม่ๆ เสมอ หรือเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาได้เช่นกัน

มีแผนสำรองในการแก้ปัญหา : การคิดที่หลากหลายวิธีนอกจากจะ ทำให้เราสามารถวิเคราะห์เลือกวิธีที่ดีที่สุดได้แล้วนั้นก็ยังทำให้เรามี ตัวเลือกสำรองไปในตัวโดยผ่านกระบวนการลำดับความสำคัญมา เรียบร้อยแล้ว ทำให้เราสามารถเลือกใช้แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีหาก วิธีการที่เลือกไม่ประสบความสำเร็จ องค์กรมีการทำงานอย่างเป็นระบบ : เมื่อบุคลากรถูกฝึกให้คิด อย่างเป็นระบบแบบแผนแล้วจะปลูกฝังระบบการทำงานที่ดี นั่น ย่อมส่งผลให้องค์กรมีการทำงานอย่างเป็นระบบ และทำงานได้มี ประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากรและองค์กร ไปในตัว กระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) การทำความเข้าใจในขั้นตอนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) จะสามารถทำให้เราลำดับการปฎิบัติการ ตลอดจนรู้วิธีคิดและ กระบวนการในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไปจนถึงสามารถสร้างนวัตกรรม หรือผลลัพธ์เพื่อมาตอบโจทย์ที่ต้องการได้ ซึ่งกระบวนการของการคิด เชิงออกแบบ (Design Thinking Process) ในรูปแบบสากลนั้นมี การสร้างสรรค์ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจและเป็นขั้นตอนดังนี้

1.Empathize – เข้าใจปัญหา ขั้นแรกต้องทำความเข้าใจกับปัญหาให้ถ่องแท้ในทุกมุมมองเสียก่อน ตลอดจนเข้าใจผู้ใช้กลุ่มเป้าหมายหรือเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการแก้ไขนี้ เพื่อหาหนทางที่เหมาะสมและดีที่สุดให้ได้การเข้าใจคำถามอาจเริ่มตั้ง ด้วยการตั้งคำถามสร้างสมมติฐาน กระตุ้นให้เกิดการใช้ความคิดที่นำไป สู่ความคิดสร้างสรรค์ที่ดีได้ตลอดจนวิเคราะห์ปัญหาให้ถ้วนถี่เพื่อหา แนวทางที่ชัดเจนให้ได้การเข้าใจในปัญหาอย่างลึกซึ้งถูกต้องนั้นจะนำ ไปสู่การแก้ปัญหาที่ตรงประเด็นและได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม 2.Define – กำหนดปัญหาให้ชัดเจน เมื่อเรารู้ถึงข้อมูลปัญหาที่ชัดเจน ตลอดจนวิเคราะห์อย่างรอบด้านแล้ว ให้นำเอาข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อที่จะคัดกรองให้เป็นปัญหาที่แท้ จริง กำหนดหรือบ่งชี้ปัญหาอย่างชัดเจน เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการ ปฎิบัติการต่อไป รวมถึงมีแก่นยึดในการแก้ไขปัญหาอย่างมีทิศทาง 3.Ideate – ระดมความคิด การระดมความคิดนี้คือการนำเสนอแนวความคิดตลอดจนแนวทางการ แก้ไขปัญหาในรูปแบบต่างๆ อย่างไม่มีกรอบจำกัด ควรระดมความคิด ในหลากหลายมุมมอง หลากหลายวิธีการ ออกมาให้มากที่สุด เพื่อที่จะ เป็นฐานข้อมูลในการที่เราจะนำไปประเมินผลเพื่อสรุปเป็นความคิดที่ดี ที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหานั้นๆ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเกิดจากความ คิดเดียว หรือเลือกความคิดเดียว แต่เป็นการผสมผสานหลากหลาย ความคิดให้ออกมาเป็นแนวทางสุดท้ายที่ชัดเจนก็ได้ การระดมความคิด นี้ยังช่วยให้เรามองปัญหาได้อย่างรอบด้านและละเอียดขึ้นด้วย รวมถึง หาวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างรอบคอบได้ด้วยเช่นกัน

4.Prototype – สร้างต้นแบบที่เลือก หากเป็นเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมขั้น Prototype นี้ ก็คือการสร้างต้นแบบเพื่อทดสอบจริงก่อนที่จะนำไปผลิตจริง สำหรับ ในด้านอื่นๆ ขั้นนี้ก็คือการลงมือปฎิบัติหรือทดลองทำจริงตามแนวทาง ที่ได้เลือกแล้ว ตลอดจนสร้างต้นแบบของปฎิบัติการที่เราต้องการจะนำ ไปใช้จริง 5.Test – ทดสอบ ทดลองนำต้นแบบหรือข้อสรุปที่จะนำไปใช้จริงมาปฎิบัติก่อนเพื่อ ทดสอบประสิทธิภาพตลอดจนประเมินผลเสร็จแล้วก็นำเอาปัญหาหรือ ข้อดีข้อเสียที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข ก่อนนำไปใช้จริงอีกครั้ง นั่นเอง

HR มีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้ Q: แนวทางการพัฒนางานด้านแรงงานที่เหมาะสมและมี ประสิทธิภาพในยุคปัจจุบัน แนวทางการพัฒนางานด้านแรงงานที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพใน ยุคปัจจุบัน สามารถมีออกแบบแนวทางไหนบ้างคะ A: ก่อนอื่นเราต้องรู้จักวิเคราะห์พนักงานท่านนั้นก่อน อาจจะใช้วิธีการถาม แต่ต้องถามในลักษณะที่เป็นเชิงบวกนะครับ เราต้องสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเขาก่อนหลังจากนั้นก็มองหาเครื่องมือ มาใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพของเขา โดยอาจใช้หลักการใช้ง่าย ๆ โดยการตั้งเป้าหมาย SMART GOAL ดังนี้..

โมเดลเพชรคู่ (Double Diamond) กระบวนการของการ คิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) ที่นำมา ประยุกต์ใช้กับองค์กรได้อย่างเหมาะสม กระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) นั้นมีการนำมาประยุกต์ใช้และสร้างเป็นโมเดลขึ้นหลายรูป แบบ และหนึ่งในโมเดลที่นิยมนำมาใช้กับงานบริหารจัดการตลอดจน สร้างสรรค์การทำงานให้กับองค์กรก็คือโมเดลเพชรคู่ หรือ Double Diamond ที่ได้รับความนิยมในระดับสากลนั่นเอง ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอนที่เรียกง่ายๆ ว่า 4D ดังนี้ แหล่งอ้างอิง : Design Council

Double Diamond – Design Thinking Process 1.Discover – ทำความเข้าใจผู้บริโภคเพื่อมองเห็นถึงปัญหา 2.Define – คัดกรองและจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องการ จะแก้ไข 3.Develop – ระดมไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหา 4.Deliver – นำไอเดียที่ดีที่สุดไปพัฒนาต่อ และทดลองใช้ ขั้นตอนที่ 1 : ค้นพบ – Discover ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการการคิดเชิงออกแบบทุกครั้งเรามักหยิบเอา ปัญหามาเป็นโจทย์สำคัญในการเริ่มต้น ในขั้นตอนแรกนี้ก็คือการค้น พบปัญหาแล้วทำความเข้าใจกับปัญหาให้ลึกซึ้งมากที่สุด หลากหลาย มิติที่สุด เพื่อที่จะนำไปสู่การหาทางออกที่ดีและตอบโจทย์มากที่สุด ขั้นตอนที่ 2 : บ่งชี้ / กำหนด – Define หลังจากที่เรามองปัญหาอย่างรอบด้านแล้ว ให้นำเอาข้อมูลทั้งหมดมา วิเคราะห์เพื่อที่จะคัดกรองให้เป็นปัญหาที่แท้จริง กำหนดหรือบ่งชี้ว่า เป็นปัญหาอะไร ประเภทไหน เพื่อให้เข้าใจลักษณะของปัญหาให้ได้ ชัดเจนที่สุดเพียงประเด็นเดียว เพื่อที่จะได้มีจุดหมายในการหาทางแก้ไข ได้อย่างตรงประเด็น มีทิศทางชัดเจน ขั้นตอนที่ 3 : พัฒนา – Develop หลังจากที่เรามีแก่นของปัญหาที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนของการพัฒนานี้ก็ คือการระดมสมองเพื่อ แชร์ไอเดีย เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ นานา ทั้งในกรอบและนอกกรอบ โดยคิดให้รอบด้านที่สุด ถ้าเปรียบกับการ ออกแบบสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แล้วขึ้นตอนนี้ก็คือการหาไอเดียเพื่อที่จะ ออกแบบไปในทิศทางต่างๆ หลากหลายรูปแบบเพื่อนำมาเลือกไอเดียที่ ดีที่สุดไปผลิตนั่นเอง ขั้นตอนที่ 4 : นำไปปฎิบัติจริง – Deliver ขั้นตอนนี้เราจะเลือกวิธีที่ดีที่สุดเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาจริง ปฎิบัติจริง เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่เราตั้งไว้ นำไปทดลองหรือทดสอบจริงว่ามี ประสิทธิภาพหรือไม่ ตลอดจนเก็บข้อมูลเพื่อนำมาประมวลผลด้วย

บทสรุป การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) เป็นการ ประยุกต์วิธีการออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่การทำงานในส่วนต่างๆ ตลอดจนการบริหารจัดการองค์กรให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) จะเป็นประโยชน์สำหรับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ แล้ว ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อการทำงานที่จะช่วยให้บุคลากรมีระบบความ คิดที่ดีและพร้อมในการหาวิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่พัฒนาอยู่เสมอด้วย ซึ่งนั่นอาจเป็นวิธีการตอบโจทย์ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรไม่ว่าจะเจอ ปัญหาอะไร หรือสร้างแนวทางใดให้ไปสู่ความสำเร็จ โปรแกรมที่ใช้ออกแบบ (canva) โปรแกรมที่ใช้ทำebook (issuu)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook