Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนงานเครื่องยนต์ดีเซล หน่วยที่ 8

แผนงานเครื่องยนต์ดีเซล หน่วยที่ 8

Published by ธนาธิป ทองศิริ, 2023-06-29 14:31:13

Description: แผนงานเครื่องยนต์ดีเซล หน่วยที่ 8

Search

Read the Text Version

แผนการสอนมุ่งเน้นสมรรถนะ วิชางานเครื่องยนต์ดีเซล รหัสวิชา 20101-2002 หลักสูตาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชา อุตสาหกรรม งานลูกสูบเครื่องยหนน่ต์วดยีเทซี่ ล8 นายธนาธิป ทองศิริ เเผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคชุมพร

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 สอนครง้ั ที่ 10-11

61 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 ชือ่ วิชา งานเคร่อื งยนต์ดีเซล เวลาเรียนรวม 126 ชว่ั โมง ชื่อหน่วย งานลกู สูบเครื่องยนตด์ ีเซล สอนครงั้ ที่ 10 - 11 ชื่อเร่อื ง งานลกู สบู เครอ่ื งยนตด์ เี ซล จานวนชวั่ โมง 7 ชวั่ โมง หวั ข้อเรื่อง 1 ชอ่ื และหนา้ ทีแ่ ละส่วนประกอบของลูกสูบงานเคร่ืองยนต์ดเี ซล 2 การถอดลูกสบู 3 การถอดแหวนลูกสูบ 4 การตรวจสอบลูกสบู แหวนลูกสบู และกา้ นสบู 5 การวดั ระยะปากแหวน 6 การประกอบแหวนลกู สบู สาระสาคญั ลูกสูบเป็นสว่ นประกอบหลักที่สาคญั ในการรบั กาลังอัด และความดนั จากการขยายตัวของแกส๊ จากการเผาไหมใ้ นเคร่ืองยนต์สง่ กาลังผ่านก้านสูบไปหมนุ เพลาขอ้ เหวยี่ ง ด้านบนของลกู สูบแตล่ ะชนดิ จะมี รปู ร่างแตกตา่ งกัน ลูกสูบต้องเคลื่อนที่ขึ้นและลงอยู่ในกระบอกสบู ทางานสัมพนั ธก์ ับกลไกควบคมุ การเปิด ปิดล้ินไอดีและลิน้ ไอเสีย เมื่อใชง้ านไปนาน ๆ ตอ้ งมกี ารชารุดสกึ หรอ ตามสภาพการใชง้ านหรอื เสื่อมสภาพ จากการท่ผี ดิ ปกติเช่น ไม่เปล่ยี นถา่ ยน้ามันเครอ่ื งตามกาหนดหรอื นา้ มนั เครื่องรวั่ ซึมทาให้ปริมาณลดลงทาให้ เกดิ ความร้อนจากการเสยี ดสีระหวา่ งช้นิ สว่ นเกดิ การชารุดเสียหาย จาเปน็ ต้องถอดลูกสูบออกมาซ่อมแซม แกไ้ ข สมรรถนะหลัก (สมรรถนะประจาหน่วย) 1 แสดงความร้เู กยี่ วกับงานลกู สูบเคร่ืองยนตด์ ีเซล 2 ถอดประกอบชิ้นส่วนเครอื่ งยนต์และสว่ นตา่ งๆตามค่มู ือซ่อม

62 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 ช่อื วชิ า งานเคร่ืองยนต์ดีเซล เวลาเรยี นรวม 126 ช่วั โมง ช่อื หนว่ ย งานลกู สบู เคร่อื งยนตด์ เี ซล สอนครงั้ ท่ี 10 - 11 ชื่อเรอื่ ง งานลกู สบู เคร่อื งยนตด์ เี ซล จานวนชว่ั โมง 7 ชวั่ โมง สมรรถนะยอ่ ย (สมรรถนะการเรียนรู้) สมรรถนะทว่ั ไป (ทฤษฎ)ี 1 แสดงความรูเ้ ก่ยี วกับชื่อและหน้าทีแ่ ละสว่ นประกอบของลูกสบู งานเคร่ืองยนต์ดีเซล สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ทฤษฎ)ี เมอื่ ผ้เู รยี นไดศ้ กึ ษาเน้อื หาในบทนแ้ี ลว้ ผเู้ รยี นสามารถ 1 อธิบายหนา้ ที่หน้าท่ชี ่ือและหน้าท่แี ละส่วนประกอบของลูกสบู งานเครื่องยนต์ดเี ซลได้ถูกต้อง สมรรถนะทวั่ ไป (ปฏบิ ตั ิ) 1 แสดงทกั ษะในการถอดลูกสบู 2 แสดงทกั ษะในการถอดแหวนลูกสบู 3 แสดงทักษะในการตรวจสอบลกู สูบ แหวนลกู สบู และก้านสบู 4 แสดงทกั ษะในการวัดระยะปากแหวน 5 แสดงทักษะในการประกอบแหวนลกู สบู สมรรถนะทพ่ี ึงประสงค์ (ปฏบิ ัติ) เมอื่ ผู้เรยี นไดศ้ กึ ษาเนื้อหาในบทนแี้ ลว้ ผเู้ รยี นสามารถ 1 สามารถถอดลูกสูบเครื่องยนต์ดีเซลได้ถูกต้องตามคมู่ ือ 2 สามารถถอดแหวนลกู สบู เครอื่ งยนตด์ เี ซลไดถ้ ูกตอ้ งตามคู่มือ 3 สามารถตรวจสอบลกู สบู แหวนลกู สูบและก้านสูบเครื่องยนต์ดีเซลไดถ้ ูกต้องตามคูม่ ือ 4 สามารถวดั ระยะปากแหวนเคร่อื งยนตด์ ีเซลได้ถูกต้องตามค่มู ือ 5 สามารถประกอบแหวนลูกสูบเครือ่ งยนตด์ ีเซลได้ถกู ต้องตามคมู่ ือ

63 \\ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 ช่ือวิชา งานเครือ่ งยนตด์ ีเซล เวลาเรยี นรวม 126 ช่วั โมง ช่ือหน่วย งานลูกสบู เครอื่ งยนตด์ ีเซล สอนครัง้ ท่ี 10 - 11 ชือ่ เรื่อง งานลกู สบู เครอ่ื งยนตด์ เี ซล จานวนชว่ั โมง 7 ชวั่ โมง กิจกรรมการเรยี นการสอน ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชางานเครื่องยนต์ดีเซล ได้กาหนดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะเชิงรุก (Active Learning Competency Based) ด้านเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบ MAIP โดยมีข้ันตอนในการดาเนินกิจกรรมการเรียนการ สอน ดงั น้ี กิจกรรมการเรยี นการสอน (สอนครั้งท่ี ๑ ) เวลา 7 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ๑. ผู้สอนช้ีแจงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาอธิบาย รายวิชา การวัดและประเมินผลการเรียนรายวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของรายวิชา และข้อตกลงใน การจัดการเรียนการสอนในรายวชิ า ๒. ผู้สอนแสดงตวั อย่างเกีย่ วกับงานลูกสูบเครื่องยนตด์ ีเซล ๓. ผู้สอนถา่ ยทอดความรู้ในหนว่ ยท่ี 8 เรื่องงานลูกสบู เคร่ืองยนต์ดเี ซล ๔. ผสู้ อนแสดงใบงานเร่อื งงานลกู สูบเครอ่ื งยนต์ดเี ซลและอธบิ ายขน้ั ตอนวิธกี ารในการ ปฏบิ ัติงานตามใบงานเรอื่ งงานลกู สูบเครอื่ งยนต์ดเี ซล ๕. ผู้สอนให้ผเู้ รียนปฏิบตั ิงานของตนตามใบปฏิบตั ิงานเรอื่ งงานลกู สบู เครื่องยนต์ดเี ซล ๖. ผู้สอนประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานของผเู้ รยี นและให้ผเู้ รยี นสรปุ สาระสาคัญของเรื่องท่เี รียน ประจาสัปดาห์ กจิ กรรมการเรยี นการสอน (สอนครง้ั ท่ี ๒ ) เวลา 7 ช่วั โมง/สัปดาห์ กจิ กรรมการเรียนการสอน (สอนคร้ังท่ี ๒ ) เวลา 7 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ๑. ผสู้ อนแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นประจาสัปดาห์และนาเข้าสบู่ ทเรียน ๒. ผู้สอนถ่ายทอดความรใู้ นหน่วยท่ี 8 เรื่องงานงานลกู สบู เคร่อื งยนตด์ เี ซล ๓. ผสู้ อนแสดงใบงานเรื่องงานลกู สบู เครื่องยนต์ดเี ซล และอธิบายขน้ั ตอนวิธกี ารในการ ปฏิบตั ิงานตามใบงานเรอื่ งงานงานลูกสูบเคร่ืองยนต์ดีเซล ๔. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏิบัตงิ านงานลกู สบู เครอื่ งยนต์ดเี ซลตามใบปฏบิ ัตงิ านเร่ืองงานลกู สูบ เครื่องยนต์ดีเซล ๕. ผู้สอนประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของผเู้ รยี นและให้ผูเ้ รียนสรุปสาระสาคญั ของเร่ืองทเ่ี รียน ประจาสัปดาห์

64 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 ชอ่ื วชิ า งานเครื่องยนต์ดเี ซล เวลาเรียนรวม 126 ชว่ั โมง ชื่อหน่วย งานลกู สูบเคร่ืองยนต์ดเี ซล สอนคร้งั ท่ี 10 - 11 ช่ือเร่อื ง งานลกู สบู เครอื่ งยนตด์ เี ซล จานวนชว่ั โมง 7 ชว่ั โมง สื่อการสอน ๑. เอกสารประกอบการสอน ๒. เอกสารประกอบการเรียน ๓. สอ่ื นาเสนอ PowerPointงานทม่ี อบหมาย/กจิ กรรม ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะตามใบงานทา้ ยหน่วยการเรียนท่ี 8 การวดั และประเมนิ ผล วดั ผล/ประเมนิ ผล วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ - ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๖๐ ๑. สมรรถนะทพี่ งึ - ทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะ - แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ ประสงค์ ทา้ ยหนว่ ย ทา้ ยหนว่ ย - ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - แบบประเมนิ ๒. คณุ ลกั ษณะอันพึง - ประเมินคุณลักษณะอนั คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude) พึงประสงค์ ประสงค์

85 ภาคผนวก ใบความรู้ – แบบทดสอบ ใบปฏิบตั งิ าน – สื่อการสอน

เรอื่ ง งานลกู สูบเคร่อื งยนต์ดีเซล ลูกสบู เครอ่ื งยนต์ ( Piston) เปน็ ชิน้ สว่ นหลักท่เี คลอ่ื นที่ กลับไปกลับมา ภายในกระบอกสบู เครื่องยนต์ ลูกสูบเปน็ ตัวเปลยี่ น พลงั งานความร้อน เปน็ พลงั งานกลสง่ ถา่ ยพลงั งานต่อไปยังเพลาข้อเหวี่ยง การออกแบบลูกลูบจงึ ต้องใช้ ความรู้หลายสาขามาบูรณาการเข้าดว้ ยกัน เปน็ ต้นว่าความรทู้ ่เี ก่ียวกบั โลหะวิทยา , พลงั งาน, ฟสิ ิกส,์ เคมีฯลฯ รูปท่ี 1 – 7 ลูกสูบเครือ่ งยนต์ ทีม่ า : Automotive Encyclopedia : 62 ความสาคญั ของลกู สูบ ลกู สูบมีความสาคัญที่สดุ เน่อื งจากในทุก กลวฏั การทางานของเครอื่ งยนตจ์ ะต้องอาศยั ลูกสูบ ท้ังส้ิน เร่ิมต้ังแต่จังหวะดูด จนถึงจังหวะคาย การออกแบบลูกสูบจะต้องใช้วัสดุท่ีขยายตัวได้น้อยที่สุด ทน ความร้อนได้มากถึง 2,000. C นอกจากน้ันจะต้องทนต่อแรงกระแทกและการเสียดสีท่ีเกิดข้ึนติดต่อกันเป็น เวลานาน การออกแบบลกู สบู จะต้องมีช่องว่างกับกระบอกสูบตามท่ีกาหนดโดยท่ัวไปประมาณ 0.03 – 0.06 มม. เพราะถ้าออกแบบใหส้ ามารถสวมได้พอดีก็จะเกิดปญั หาตามมา เช่น ความฝืดจะเพิ่มมากข้ึน ลูกสบู ตดิ อัน เน่ืองจากความรอ้ น แต่ถ้าออกแบบให้ห่างจนเกินไป ก็จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการรั่วของแก๊สรอ้ น การร่ัวของ น้ามันหล่อล่ืน ทาให้กาลังอัดตกต่า ดังน้ันจึงสรุปได้ว่า ไม่ว่าชิด หรือห่าง จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของ เครือ่ งยนต์ท้งั ส้ิน

คุณลกั ษณะเฉพาะของลูกสูบ การออกแบบและสร้างลูกสูบ จะต้องกาหนดคุณลักษณะเฉพาะไว้หลายประการ แต่ท้ังน้ีก็ขึ้นอยู่ กับองค์ประกอบอื่นด้วยเช่น ประเภทการใช้เชื้อเพลิง การกวาดล้างไอเสีย ขนาดและความเร็วรอบของ เครื่องยนต์ คุณลกั ษณะเฉพาะทวั่ ไปท่ีจะต้องกาหนดไว้ เช่น 1. รปู แบบและลักษณะทวั่ ไป เช่น ความกวา้ ง ความยาว นา้ หนกั 2. ประเภทโลหะที่นามาใช้ เนื่องจากโลหะทน่ี ามาใชใ้ นแต่ละสว่ น อาจจะต่างชนิดกัน 3. อณุ หภมู ิคงท่ี อุณหภมู ิการขยายตวั และอุณหภมู ิการหลอมละลาย ความแขง็ แรงทท่ี นต่อการกระแทก การเสยี ดสี และการกดั กร่อน ลกั ษณะการออกแบบหัวลูกสบู แบบตา่ งๆ การออกแบบหวั ลกู สบู มจี ดุ ประสงคห์ ลกั เพ่อื ให้ การเผาไหมส้ มบรู ณ์ เพิ่มประสทิ ธิภาพการ ทางาน และลดมลพษิ จากไอเสยี ใหน้ อ้ ยทส่ี ดุ รูปที่ 2 – 7 ลกู สูบแบบต่างๆ ที่มา :Automotive Service Technology : 35 การออกแบบหวั ลูกสบู ทม่ี ลี ักษณะตา่ งๆ เช่น แบบแบนเรียบ แบบเวา้ แบบนูน ท้งั น้ี เกิดจาก การ ออกแบบห้องเผาไหมท้ แี่ ตกต่างกัน โดยคานงึ ถึงการเผาไหม้ทส่ี มบรู ณ์ และการกวาดลา้ งไอเสียทหี่ มดจด จุดประสงคห์ ลักทีจ่ ะต้องออกแบบหัวลกู สบู มลี ักษณะต่างๆ เพอื่ ให้อากาศเกิดการหมุนวนคลุกเคล้า ระหว่างอากาศ และน้ามัน เพ่อื ให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากยงิ่ ขึน้ เนอื่ งจากลกู สูบจะตอ้ งมีคณุ สมบตั ิพิเศษ เม่ือ ไดร้ ับความร้อน ทาให้ลูกสบู เกดิ การขยายตัว ซึ่งจะทาให้ลูกสบู ตดิ ขณะทเ่ี ครื่องยนต์ทางาน ดังนน้ั เพื่อ แกป้ ญั หาดงั กลา่ วจงึ ได้ออกแบบลกั ษณะพิเศษไว้ คือ

1 การกาหนดใชโ้ ลหะทตี่ ่างกัน จุดใดทไ่ี ด้รบั ความรอ้ นสูง(Over heat) ให้เลอื กใชว้ ัสดุที่เปน็ โลหะ ทนความรอ้ นสงู จุดหลอมละลายสูง จุดใดทีไ่ ด้รับความร้อนต่า กจ็ ะใช้โลหะท่มี ีการหลอมละลายต่า แต่ขยายตัวได้ดี รูปท่ี 3 – 7 แสดงการนาโลหะต่างชนิดมาทาลูกสูบ ทม่ี า : : Automotive Encyclopedia : 62 รปู ท่ี 4 – 7 ซา้ ยมอื เม่อื ลกู สูบเย็นชอ่ งว่างภายในกระบอกสบู จะมาก ขวามอื ลูกสูบร้อนชอ่ งว่างจะน้อย ทมี่ า : : Automotive Encyclopedia : 62

2 การเซาะร่อง โดยการผ่าเปน็ แนวยาว ไม่ให้เนือ้ โลหะเช่ือมต่อกนั เมอ่ื เกิดความร้อนโลหะขยายตัว รอ่ งทผ่ี า่ ไว้จะช่วยใหโ้ ลหะขยายตัวได้ โดยไมเ่ กิดการติดตายของลูกสบู รปู ท่ี 5 – 7 แสดงเซาะรอ่ งเพ่ือให้เนอ้ื โลหะขยายตวั ป้องกนั การชารุดเสยี หาย ทม่ี า : : Automotive Encyclopedia : 62 ค่ามาตรฐาน ระยะหา่ งระหวา่ ง ผนงั กระบอกสบู กบั ลกู สบู มีคา่ ประมาณ 0.03 – 0.06 มม. รูปท่ี 6 – 7 แสดงการเสริมความแข็งแรงด้วยโลหะท่ีทนต่อแรงกระแทก ทีม่ า : Automotive Encyclopedia : 62

การเสรมิ ความแขง็ แรง เนื่องจากลูกสบู ได้รบั แรงกระแทกเม่อื เกดิ การจดุ ระเบดิ ทาให้ลกู สูบ เกิดการชารดุ เสยี หาย จงึ ไดเ้ สริมความแข็งโดยใช้โลหะต่างชนิดท่ีมคี วามแข็ง จดุ หลอมละลายสงู เสรมิ รบั แรงกระแทก โลหะที่ใชเ้ สรมิ ความแข็งแรง เป็น โละตา่ งชนดิ กบั เรอื นลกู สบู มี คณุ สมบตั ิ ทนความรอ้ น ขยาย ตวั ไดน้ อ้ ย การชารดุ เสยี หายของลูกสบู 1 ลูกสูบเกดิ แรงกระแทกไมเ่ ท่ากันอนั เน่ืองมาจากผลของการออกแบบ หรอื เกิดจากความ ผดิ ปกตขิ องชิน้ ส่วน ทาให้ลูกสูบและกระบอกสบู ชารุดเรยี กว่า “ตบขา้ ง” (Side thrust)ดา้ นข้าง ของลูกสบู มีรอยถลอกเปน็ แนวยาว ลูกสบู เมือ่ ใช้งานไปนานๆ จะเกิดการชารุด หรือเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ซ่ึงสาเหตุที่เกดิ ขึน้ เมอ่ื ถอดลกู สบู ออกมา จะเหน็ รอย ถลอกเป็นทางยาวขนานไปกบั ผนงั กระบอกสบู รอยถลอกดงั กลา่ วจะ เกิดเพียงดา้ นเดยี วเรยี กวา่ ตบ ข้าง “Side Thrust” รูป ท่ี 6 , 7 – 7 แสดงความ เสียหายท่ีเกิดข้นึ กับลกู สูบ “ตบขา้ ง” ท่ีมา : Auto Service and Repair : 278

2 เกิดจากการจุดระเบิดไม่ถูกต้อง เป็นการชิงจุดระเบดิ ก่อนกาหนด (Pre Ignition burned) หรอื เกดิ จากการใช้เชอื้ เพลิงผดิ ประเภท เมือ่ เกิดจุดระเบิดอย่างรนุ แรงทาให้หวั ลกู สูบทะลุ การชิงจดุ ระเบดิ ก่อนกาหนด (Pre Ignition burned) หรือการใชเ้ ชือ้ เพลงิ ท่ีมี Octain สงู เป็น สาเหตทุ าใหเ้ กิดการจดุ ระเบิดอยา่ งรุนแรง ทาให้ หวั ลกู สบู ทะลุ รปู ท่ี 8 -7 แสดงหวั ลูกสูบทะลเุ นอ่ื งจากการชงิ จุดระเบิด ทม่ี า : Auto Service and Repair : 278 3 เกดิ จากน้าระบายความร้อนร่วั (Coolant leakage)ผา่ นปะเก็นฝาสบู เข้าไปภายในห้องเผา ไหม้ ทาให้นา้ เขา้ ทาปฏิกิริยากับเน้ือโลหะที่เคลือบลูกสบู จนเกดิ การกัดกร่อนผิวของลูกสบู บริเวณส่วนล่าง เนื่องจากบริเวณนมี้ ีขนาดโตท่ีสดุ (Skirt of piston) ของลูกสูบ นา้ ร่วั เขา้ ไปภายในกระบอกสบู มีอณุ หภมู ิสงู ถึงจดุ เดือด เม่ือสมั ผสั กบั ผนงั ของลกู สบู ท่ี เคลือบความแข็งไวจ้ ะทาใหเ้ กิดกการกดั กรอ่ น ท่ีผิวเป็นจดุ ๆ สีดา รูปท่ี 9 – 7 แสดงร่องรอยของการกัดกรอ่ นที่เกดิ จากนา้ รัว่ เข้าทาปฏกิ ิริยา กับผิวของลูกสูบ ทีม่ า : Auto Service and Repair : 278

สลกั ลกู สบู (Piston pin) สลักลกู สูบเป็นตัวจับยดึ ระหว่างลูกสบู กบั กา้ นสูบ สลักลกู สูบได้รบั การออกแบบใหส้ ามารถปรบั มุม ได้ตลอดเวลา เม่ือลกู สูบเคลื่อนที่ รูป A เม่ือลกู สบู รอ้ นสลกั ลกู สบู จะหลดุ ออกจากบชู รูป B เม่ือลกู สบู เยน็ สลกั ลกู สบู จะ ยดึ แนน่ และสวมอยใู่ นบชู AB เม่ือสลกั หลดุ หรือตดิ ตาย เคล่ือนท่ีไมไ่ ด้ ทาใหล้ กู สบู แตก ชารุด รปู ที่ 10 – 7 แสดงสว่ นประกอบของชุดลกู สูบและการติดตายของสลักลูกสบู ทม่ี า : Auto Service and Repair : 2848.14.

แหวนอัด (Compression Ring) ทาหนา้ ท่ีป้องกันการรั่วของไอดที ่ีอดั ตวั อยูภ่ ายในห้องเผาไหม้ โดยปกติ แหวนอดั จะติดตง้ั อยู่ ในร่องแหวนลกู สบู ด้านบน ประมาณ 1 – 2 อนั แล้วแต่ขนาดของลกู สบู 1 2 การเคล่ือนท่ี ขนึ้ – ลง ของลกู สบู แหวนเป็นซีลกนั ร่วั 1 แหวนอดั 2 แหวนนา้ มนั รปู ที่ 12 – 7 แสดงแหวนอัดและแหวนนามัน รูปท่ี 13 – 7 แสดงหน้าที่ของแหวนลกู สูบ ทีม่ า : Automotive Encyclopedia : 67 แหวนลกู สบู ท่ดี ี จะต้องป้องกันการร่ัวได้ 100 % การออกแบบจะต้องใหพ้ ้ืนทด่ี า้ นขา้ งของแหวนสัมผัสกับ ผนงั กระบอกสบู ได้พอดี โดยมีพ้นื ท่สี มั ผัสน้อยท่ีสุด เพื่อลดความฝดื เมื่อลูกสบู เคล่ือนที่ขึน้ -ลงภายในกระบอก สูบ รูปท่ี 13 – 7 แสดงหน้าสัมผัสของแหวนกับผนงั กระบอกสบู ท่ีมา : Automotive Encyclopedia : 698.17.ตรวจเช็คทีป่ ัด

รปู ท่ี 14 – 7 แสดงลกั ษณะภาพตัดของแหวนลกู สูบชนดิ ตา่ งๆ ปากแหวนลกู สูบ มอี ยู่ 3 แบบ แบบปากเสมอ 1 แบบปากเสมอ (Butt joint) แบบประกบ 2 แบบประกบ (Lab joint) แบบปากฉลาม 3 แบบปากฉลาม (Angle joint) ท่มี า : Auto Service Technology : 28

การชารุดเสยี หายของแหวนลกู สบู เกดิ จากสาเหตุหลายประการ แตส่ ามารถสรุปสาเหตุทส่ี าคญั ไดด้ งั นี้ 1 การหลอ่ ลน่ื ไมส่ มบรู ณ์ อันเน่ืองมาจากปญั หาในระบบหลอ่ ลื่น 2 การเกดิ ความรอ้ นสูง (Over heat) เนื่องมาจากปญั หาในระบบระบายความร้อน 3 วสั ดทุ น่ี ามาสรา้ งแหวนลกู สูบ ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม การหล่อลน่ื ระหวา่ งแหวนและผนงั กระบอก สบู ทไ่ี มส่ มบรู ณ์ จะทาใหล้ กู สบู ติด ความรอ้ น ทาใหแ้ หวนเปลยี่ นรูปรา่ ง และตดิ ตายอยใู่ นรอ่ ง แหวน  ถา้ เป็นรถจกั รยานยนตท์ ลี่ กู สบู ตดิ จะ รปู ท่ี 15 -7 แสดงการติดตายของแหวนเน่ืองจาการหลอ่ ลืน่ ไม่สมบรู ณ์ ทีม่ า : musclecarthailand . com จากภาพที่ 15 - 7 แสดงให้เห็น การติดตายและหลอมละลายของแหวนลูกสูบ อันเนื่องมาจากปัญหา เกีย่ วกับการหล่อลนื่ ไม่สมบรู ณ์ ทาใหเ้ ครื่องยนต์ร้อนจดั (Over heat) โลหะขยายตัวติดตายในรอ่ งแหวน ลูกสูบ โดยปกตกิ ารออกแบบลกู สบู แหวนลกู สบู สามารถทนตอ่ ความรอ้ นไดส้ งู ถึง 1600 c. โดยไมห่ ลอมละลาย แตใ่ นปัจจบุ นั ปรากฏวา่ การสรา้ งลกู สบู แหวนลกู สบู ไมไ่ ด้ มาตรฐาน บรษิ ัทผสู้ รา้ งนาเอาโลหะทีด่ อ้ ยคณุ ภาพมาสรา้ งชิน้ สว่ น ทาใหช้ ิน้ สว่ นที่ ผลติ ออกมาไมเ่ ป็นไปตามมาตรฐานทกี่ าหนด กอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายตอ่ ผใู้ ชเ้ ป็นอยา่ งยงิ่

ลูกสูบ เครื่องยนต์ ( Piston) เป็ นชิ้นส่วนหลักที่เคล่ือนท่ี กลับไปกลับมา ภายในกระบอกสูบ เครื่องยนต์ ลูกสูบเป็ นตวั เปล่ียนพลงั งานความร้อน เป็ นพลงั งานกลส่งถ่าย พลงั งานต่อไปยงั เพลาขอ้ เหวี่ยง การออกแบบลูกลูบจึงตอ้ งใชค้ วามรู้หลายสาขา มาบูรณาการเขา้ ด้วยกัน เป็ นตน้ ว่าความรู้ท่ีเก่ียวกับ โลหะวิทยา , พลงั งาน, ฟิ สิกส์, เคมีฯลฯ

ความสาคญั ของลูกสูบ ลูกสูบมีความสาคญั ท่ีสุด เน่ืองจากในทุก กลวฏั การทางานของ เครื่องยนตจ์ ะตอ้ งอาศยั ลูกสูบท้งั สิ้น เร่ิมต้งั แต่จงั หวะดูด จนถึงจงั หวะคาย การ ออกแบบลูกสูบจะตอ้ งใชว้ สั ดุท่ีขยายตวั ไดน้ อ้ ยที่สุด ทนความร้อนไดม้ ากถึง 2,000. C นอกจากน้นั จะตอ้ งทนต่อแรงกระแทกและการเสียดสีที่เกิดข้ึนติดต่อกนั เป็นเวลานาน การออกแบบลูกสูบจะตอ้ งมีช่องวา่ งกบั กระบอกสูบตามที่กาหนด โดยทวั่ ไปประมาณ 0.03 – 0.06 มม. เพราะถา้ ออกแบบใหส้ ามารถสวมไดพ้ อดีก็ จะเกิดปัญหาตามมา เช่น ความฝืดจะเพิ่มมากข้ึน ลูกสูบติดอนั เน่ืองจากความร้อน แต่ถา้ ออกแบบใหห้ ่างจนเกินไป กจ็ ะเกิดปัญหาเกี่ยวกบั การร่ัวของแก๊สร้อน การ รั่วของน้ามนั หล่อลื่น ทาใหก้ าลงั อดั ตกต่า ดงั น้นั จึงสรุปไดว้ า่ ไม่วา่ ชิด หรือห่าง จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเคร่ืองยนตท์ ้งั สิ้น

คุณลกั ษณะเฉพาะของลกู สูบ การออกแบบและสร้างลูกสูบ จะตอ้ งกาหนดคุณลกั ษณะเฉพาะไวห้ ลาย ประการ แต่ท้งั น้ีกข็ ้ึนอยกู่ บั องคป์ ระกอบอื่นดว้ ยเช่น ประเภทการใชเ้ ช้ือเพลิง การ กวาดลา้ งไอเสีย ขนาดและความเร็วรอบของเครื่องยนต์ คุณลกั ษณะเฉพาะทว่ั ไปท่ี จะตอ้ งกาหนดไว้ เช่น 1. รูปแบบและลกั ษณะทวั่ ไป เช่น ความกวา้ ง ความยาว น้าหนกั 2. ประเภทโลหะที่นามาใช้ เน่ืองจากโลหะที่นามาใชใ้ นแต่ละส่วน อาจจะต่าง ชนิดกนั 3. อุณหภูมิคงที่ อุณหภูมิการขยายตวั และอุณหภูมิการหลอมละลายความแขง็ แรง ที่ทนตอ่ การกระแทก การเสียดสี และการกดั กร่อน

ลักษณะการออกแบบหวั ลูกสูบแบบต่างๆ การออกแบบหวั ลกู สบู มจี ดุ ประสงคห์ ลกั เพื่อให้ การเผาไหมส้ มบรู ณ์ เพ่มิ ประสทิ ธิภาพการ ทางาน และลดมลพิษจากไอเสยี ใหน้ อ้ ยท่ีสดุ การออกแบบหวั ลกู สบู ท่ีมีลกั ษณะตา่ งๆ เชน่ แบบแบนเรยี บ แบบ เวา้ แบบนนู ทงั้ นี้ เกิดจาก การออกแบบหอ้ งเผาไหมท้ ่ีแตกตา่ งกนั โดยคานงึ ถงึ การเผาไหมท้ ่ีสมบรู ณ์ และการกวาดลา้ งไอเสียท่ีหมดจด

จุดประสงคห์ ลกั ที่จะตอ้ งออกแบบหวั ลูกสูบมีลกั ษณะต่างๆ เพ่ือใหอ้ ากาศ เกิดการหมุนวนคลุกเคลา้ ระหวา่ งอากาศ และน้ามนั เพ่ือใหก้ ารเผาไหมส้ มบูรณ์มาก ยง่ิ ข้ึนเนื่องจากลูกสูบจะตอ้ งมีคุณสมบตั ิพิเศษ เมื่อไดร้ ับความร้อน ทาใหล้ ูกสูบเกิด การขยายตวั ซ่ึงจะทาใหล้ ูกสูบติดขณะที่เครื่องยนตท์ างาน ดงั น้นั เพ่ือแกป้ ัญหา ดงั กล่าวจึงไดอ้ อกแบบลกั ษณะพิเศษไว้ คือ

แสดงการนาโลหะต่างชนดิ มาทาลูกสูบ ซา้ ยมือ เม่อื ลกู สูบเย็นช่องวา่ งภายในกระบอกสูบจะมาก ขวามือ ลูกสูบร้อนชอ่ งวา่ งจะนอ้ ย 1 . การกาหนดใชโ้ ลหะที่ต่างกนั จุดใดที่ไดร้ ับความร้อนสูง(Over heat) ให้ เลือกใชว้ สั ดุท่ีเป็นโลหะทนความร้อนสูง จุดหลอมละลายสูง จุดใดท่ีไดร้ ับความร้อนต่า ก็ จะใชโ้ ลหะที่มีการหลอมละลายต่า

ค่ามาตรฐาน ระยะหา่ งระหวา่ ง ผนงั กระบอกสบู กบั ลกู สบู มีคา่ ประมาณ 0.03 – 0.06 มม. แสดงเซาะรอ่ งเพือ่ ใหเ้ นอื้ โลหะขยายตวั ป้องกันการชารุดเสียหาย 2. การเซาะรอ่ ง โดยการผา่ เป็นแนวยาว ไมใ่ หเ้ นือ้ โลหะเช่ือมต่อกนั เม่ือเกิดความรอ้ นโลหะขยายตวั รอ่ งท่ีผา่ ไวจ้ ะช่วยใหโ้ ลหะขยายตวั ได้ โดยไม่ เกิดการติดตายของลกู สบู

โลหะทใ่ี ช้เสริมความแขง็ แรง เป็ นโละต่างชนิดกับเรือน ลูกสูบ มคี ุณสมบตั ิ ทนความร้อน ขยาย ตัวได้น้อย การเสรมิ ความแขง็ แรง เน่ืองจากลกู สบู ไดร้ บั แรงกระแทกเม่ือเกิดการจดุ ระเบิด ทาใหล้ กู สบู เกิดการชารุดเสียหาย จงึ ไดเ้ สรมิ ความแขง็ โดยใชโ้ ลหะตา่ ง ชนิดท่ีมีความแข็ง จดุ หลอมละลายสงู เสรมิ รบั แรงกระแทก

การชารุดเสยี หายของลูกสูบ เมอื่ ถอดลกู สบู ออกมา จะเห็นรอย ถลอกเป็นทางยาวขนานไปกบั ผนงั กระบอกสบู รอยถลอกดงั กลา่ วจะ เกิดเพยี งดา้ นเดยี วเรยี กวา่ ตบ ข้าง “Side Thrust” ลกู สูบเมื่อใช้งานไปนานๆ จะเกดิ การชารุด หรือเสือ่ มสภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งสาเหตทุ เี่ กิดขึ้น 1 ลกู สบู เกิดแรงกระแทกไมเ่ ทา่ กนั อนั เน่ืองมาจากผลของการ ออกแบบ หรือเกิดจากความผิดปกติของชิน้ สว่ น ทาใหล้ กู สบู และ กระบอกสบู ชารุดเรยี กวา่ “ตบขา้ ง” (Side thrust)ดา้ นขา้ ง ของลกู สบู มีรอยถลอกเป็นแนวยาว

การชารุดเสยี หายของลูกสูบ การชงิ จดุ ระเบดิ กอ่ นกาหนด (Pre Ignition burned) หรอื การใชเ้ ชือ้ เพลงิ ท่ีมี Octain สงู เป็นสาเหตทุ า ใหเ้ กิดการจดุ ระเบดิ อยา่ งรุนแรง ทาใหห้ วั ลกู สบู ทะลุ 2 เกิดจากการจุดระเบิดไม่ถูกตอ้ ง เป็นการชิงจุดระเบิดก่อน กาหนด (Pre Ignition burned) หรือเกิดจากการใชเ้ ช้ือเพลิงผิด ประเภท เม่ือเกิดจุดระเบิดอยา่ งรุนแรงทาใหห้ วั ลูกสูบทะลุ

การชารุดเสียหายของลูกสูบ นา้ ร่วั เขา้ ไปภายในกระบอกสบู มีอณุ หภมู ิสงู ถึง จดุ เดอื ด เม่ือสมั ผสั กบั ผนงั ของลกู สบู ท่ีเคลือบ ความแขง็ ไวจ้ ะทาใหเ้ กิดกการกดั กรอ่ นท่ีผิวเป็น จดุ ๆ สีดา 3. เกิดจากน้าระบายความร้อนรั่ว (Coolant leakage)ผา่ นปะเกน็ ฝาสูบ เขา้ ไปภายในหอ้ งเผาไหม้ ทาใหน้ ้าเขา้ ทาปฏิกิริยากบั เน้ือโลหะที่เคลือบ ลูกสูบ จนเกิดการกดั กร่อนผวิ ของลูกสูบบริเวณส่วนล่าง เนื่องจากบริเวณน้ีมีขนาด โตที่สุด(Skirt of piston) ของลูกสูบ

สลักลูกสูบ (Piston pin) สลกั ลกู สบู เป็นตวั จบั ยดึ ระหวา่ งลกู สบู กบั กา้ นสบู สลกั ลกู สบู ไดร้ บั การออกแบบใหส้ ามารถปรบั มมุ ไดต้ ลอดเวลา เม่ือลกู สบู เคล่อื นท่ี รูป A เม่ือลกู สบู รอ้ นสลกั ลกู สบู จะหลดุ ออกจากบชู รูป B เม่ือลกู สบู เยน็ สลกั ลกู สบู จะ ยดึ แนน่ และสวมอยใู่ นบชู เม่ือสลกั หลดุ หรอื ตดิ ตาย เคล่ือนท่ีไมไ่ ด้ ทาใหล้ กู สบู แตก ชารุด

แหวนลูกสูบ 1 2 การเคล่ือนท่ี ขนึ้ – ลง ของลกู สบู แหวนเป็นซีลกนั ร่วั 1. แหวนอดั 2. แหวนนา้ มนั แหวนอดั (Compression Ring) ทาหนา้ ที่ป้องกนั การรั่วของไอดีที่อดั ตวั อยภู่ ายในหอ้ งเผาไหม้ โดยปกติแหวนอดั จะติดต้งั อยู่ ในร่องแหวนลูกสูบดา้ นบน ประมาณ 1 – 2 อนั แลว้ แตข่ นาดของลูกสูบ

แหวนลูกสูบทด่ี ี จะตอ้ งปอ้ งกนั การร่วั ได้ 100 % การ ออกแบบจะตอ้ งใหพ้ ืน้ ท่ีดา้ นขา้ งของแหวนสมั ผสั กบั ผนงั กระบอก สบู ไดพ้ อดี โดยมีพืน้ ท่ีสมั ผสั นอ้ ยท่ีสดุ เพ่ือลดความฝืดเม่ือลกู สบู เคล่อื นท่ีขนึ้ -ลงภายในกระบอกสบู

ปากแหวนลูกสูบ แบบปากเสมอ แบบประกบ แบบปากฉลาม ปากแหวนลกู สูบ มีอยู่ 3 แบบ 1 แบบปากเสมอ (Butt joint 2 แบบประกบ (Lab joint) 3 แบบปากฉลาม (Angle joint)

การหล่อล่ืน ระหวา่ งแหวนและผนงั กระบอกสบู ที่ ไมส่ มบรู ณ์ จะทาใหล้ กู สบู ติด ความรอ้ นทาให้ แหวนเปลยี่ นรูปรา่ ง และตดิ ตายอยใู่ นรอ่ งแหวน  ถา้ เป็นรถจกั รยานยนตท์ ล่ี กู สบู ตดิ จะเป็น อนั ตรายตอ่ ผขู้ บั ขี่ การชารุดเสียหายของแหวนลูกสูบ เกิดจากสาเหตุหลายประการ แต่สามารถสรุปสาเหตุที่สาคญั ไดด้ งั น้ี 1. การหล่อลื่นไม่สมบูรณ์ อนั เน่ืองมาจากปัญหาในระบบหลอ่ ล่ืน 2. การเกิดความร้อนสูง (Over heat) เน่ืองมาจากปัญหาในระบบระบายความร้อน 3. วสั ดุที่นามาสร้างแหวนลกู สูบ ไม่มีคุณสมบตั ิที่เหมาะสม



แบบทดสอบหลังเรยี นเรื่องลกู สบู วิชางานเคร่อื งยนต์ดีเซล รหัสวิชา 20101 - 2002 คำส่ัง จงเลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องทส่ี ุด (X) ลงในข้อสอบเพยี งคำตอบเดียว (10 คะแนน) 1. ลูกสบู มหี นา้ ที่อยา่ งไร ก. เปลยี่ นแรงในแนวต้ังให้เปน็ แรงในแนวเส้นรอบวง ข. เปล่ยี นแรงขน้ึ ลงให้เปน็ แนวแรงหมุนรอบเพลาข้อเหวยี่ ง ค. เปล่ยี นพลงั งำนควำมร้อน เปน็ พลังงำนกล ง. เปล่ียนพลงั งานกล เป็นพลังงานความร้อน 2. การออกแบบลกู สบู จะต้องคานึงถงึ เรอื่ งใด ก. ทนความรอ้ นได้สูง ข. ทนต่อแรงกระแทกและการเสยี ดสี ค. มกี ารขยายตวั น้อยทส่ี ดุ ง. ถูกทุกข้อ 3. จุดประสงคห์ ลักท่ีจะต้องออกแบบหวั ลกู สูบมีลักษณะต่าง ๆ เชน่ หัวลูกสบู เวา้ นูน ฯลฯ เพื่ออะไร ก. เพื่อให้สามารถรองรับปรมิ าณของอากาศท่เี ข้าหอ้ งเผาไหมไ้ ด้อยา่ งเพียงพอ ข. เพอ่ื ลดการส่นั สะเทือนเมอื่ เคร่ืองยนต์ทางานทีค่ วามเร็วรอบสูงตงั้ แต่ 2,000 รอบข้ึนไป ค. เพ่อื ใหร้ ับแรงกระแทกได้ดเี มื่อเกดิ การจุดระเบดิ ในห้องเผาไหม้ ง. เพ่ือใหอ้ ำกำศเกิดกำรหมนุ วนคลุกเคล้ำระหวำ่ งอำกำศและนำมนั 4. การเซาะร่องของลูกสบู โดยการผา่ เปน็ แนวยาวไวด้ ้านข้าง ไมใ่ ห้เนอ้ื โลหะเช่อื มต่อกันจะเกดิ ผลดตี อ่ ลกู สูบอยา่ งไร ก. เนือโลหะท่ีนำมำทำลกู สบู สำมำรถขยำยตวั ได้ โดยไม่ทำให้ลกู สบู ติดตำย ข. โลหะที่นามาทาลูกสบู จะมนี ้าหนักเบา ทาให้ปรับเปล่ยี นความเรว็ รอบเปน็ ไปอย่างฉับพลนั ค. ลูกสบู จะมีการหล่อลนื่ ได้ดี เนอื่ งจากมีการเซาะรอ่ งไว้ ง. ลกู สูบจะไมร่ อ้ นจนเกนิ ไป ทาให้สามารถทางานติดตอ่ เปน็ เวลานานได้ 5. จากรูปดา้ นขวา จะเหน็ ได้วา่ มรี อยถลอกด้านข้างของลูกสูบเพียงดา้ นเดียว ลกั ษณะที่เหน็ น้ี ชา่ งเรยี ก อาการที่เกิดขนึ้ ว่าอะไร ก. ตบข้ำง ข. รนั อนิ ค. ไฟแก่ ง. ไฟออ่ น 6. แหวนลกู สบู ไดร้ ับการออกแบบและสร้างด้วยโลหะพิเศษ ทนตอ่ อณุ หภูมสิ ูง ทนต่อการเสยี ดสี แต่มขี อ้ ดอ้ ยท่คี วร ระมดั ระวังคือ ก. ข้ึนสนิมเม่อื ท้งิ ไวเ้ ปน็ เวลานาน ข. เกบ็ ความรอ้ นไดด้ ี ถ่ายเทความร้อนยาก ค. อ่อนตวั เมื่อไดร้ บั ความร้อนสูง ง. เปรำะและหักได้ง่ำย

7. แหวนลูกสูบแบง่ ออกเปน็ ก่ชี นิด ก. 4 ชนดิ ข. 3 ชนดิ ค. 2 ชนิด ง. ยงั สรปุ แนน่ อนไมไ่ ด้ 8. แหวนลกู สูบที่อยดู่ า้ นลา่ งสดุ ของลกู สูบเรยี กวา่ แหวนอะไร ก. แหวนล็อก ข. แหวนโอรงิ ค. แหวนอดั ง. แหวนน้ำมัน 9. จากรูปดา้ นขวาเปน็ บริการแหวนลกู สูบ เรยี กวธิ ดี ังกลา่ ววา่ อะไร ก. วัดร่องแหวน ข. วดั การบิดเบย้ี วของแหวน ค. วัดปากแหวน ง. วัดความหนาแหวน 10. ปากแหวนลกู สูบทีถ่ ูกต้องควรเป็นอยา่ งไร ก. ปำกแหวนจะต้องมรี ะยะห่ำงกนั เลก็ น้อยประมำณ 0.20 มม. ข. ปากแหวนจะชนกันหรือหา่ งกนั กไ็ ดข้ ้ึนอยกู่ บั บรษิ ทั ผผู้ ลติ แตล่ ะรุ่น ค. ปากแหวนจะตอ้ งชนกันพอดปี ระมาณ 0.00 มม. ง. ปากแหวนจะต้องล้ากนั อยเู่ ล็กน้อยประมาณ 0.50 มม.

•158 ใบงานท่ี ๘8 งานบรกิ ารลูก ูบเคร่ื งยนต์ดีเซล จุดประ งคก์ ารเรียนรู้ 1. ถ ดลูก บู ได้ 2. ถ ดแ นลูก บู ได้ 3. ตร จ บลูก ูบ แ นลูก บู และกา้ น ูบได้ 4. ัดระยะปากแ นได้ 5. ประก บแ นลูก ูบได้ 6. ประก บลูก บู ได้ 7. มีเจตคติและกิจนิ ัยท่ีดีในการเรยี นและในการปฏิบัติงาน เคร่ืองมอื วั ดุอปุ กรณใ์ นการปฏบิ ัติงาน 1. เครื่ งยนตด์ ีเซล 2. เคร่ื งมื ชุดประแจกระบ ก ชุดประแจร ม คมี ถ่างแ นลกู ูบ เคร่ื งรดั แ นลกู ูบและ คมี ุบแ นล็ ก 3. เครื่ งมื ดั ละเ ียดไมโครมเิ ต ร์ พลา ทิเกจและฟีลเล ร์เกจ ขัน้ ตอนการปฏิบตั ิงาน 1. เตรียมเคร่ื งมื ั ดุและ ุปกรณ์ เตรียมประแจกระบ ก า รบั ใช้ขันน็ ตและ ลักเกลีย เตรียมประแจ ดั แรงบิด า รบั ขัน ลกั เกลยี เพ่ื ใ ไ้ ด้คา่ การขนั ทเ่ี ท่ากันเตรียมฟลี เล ร์เกจ า รับ ัด ระยะปากแ น เตรียมเคร่ื งถ่างแ นลูก ูบ า รับถ่างแ นลูก ูบเพ่ื ถ ดประก บแ นลูก ูบ เตรียมเคร่ื งมื รดั แ นลูก บู า รับรดั แ นลูก ูบใ ้ นิท ยู่กับร่ งแ นเพื่ ประก บลูก ูบลงไป ในกระบ ก บู ป้ งกันไมใ่ แ้ นลกู ูบชนกบั ข บกระบ ก บู แตก ักชารุดเ ีย ายได้

•159 ตู้เครื่ งมื เตรียมประแจร ม ประแจกระบ ก ประแจ ัดแรงบิด ฟลี เล รเ์ กจ

•160 เคร่ื งถ่างแ นลูก บู เคร่ื งมื รดั แ นลูก ูบ พลา ทิเกจ ไมโครมเิ ต ร์

•161 2. ใชป้ ระแจกระบ ก คลายน็ ตยดึ ่างน้ามันเครื่ ง กในทิ ทางท นเข็มนา ิกาคลายครงั้ ละน้ ย ลับกนั จากน้นั ถ ด า่ งนา้ มันเครื่ ง กจากเ ้ื บู ด้ ยค ามระมัดระ ัง คลายน็ ตยดึ า่ งน้ามันเคร่ื ง 3. ใชป้ ระแจกระบ ก คลายน็ ตยดึ ชุดป๊มั นา้ มนั เคร่ื ง กในทิ ทางท นเข็มนา ิกาและถ ด ปมั๊ น้ามันเคร่ื ง กจากเ ื้ บู ด้ ยค ามระมดั ระ ัง ถ ดน็ ตยดึ ชุดปม๊ั นา้ มนั เคร่ื ง 4. ตร จ บระยะ ่างด้านขา้ งข งก้าน บู กบั เพลาข้ เ ีย่ ง โดยขยับก้าน บู ดา้ นใดดา้ น นึ่ง ใ ้ชิดข บขา้ งข งเพลาข้ เ ่ียงจากนั้นใ ้ฟีลเล ร์เกจ ด ัดระยะ ่างระ ่างฝาร งลื่นก้าน ูบกับ เพลาข้ เ ี่ยง ค่ามาตรฐานตามคู่มื ซ่ มเครื่ งยนต์2L กา นด 0.23 มิลลิเมตร (ค่า ูง ุดไม่เกิน 0.35 มิลลเิ มตรถา้ เกนิ ต้ งเปล่ียนก้าน บู ชุดใ ม่)

•162 ตร จ บระยะ า่ ง ด้านข้างข งกา้ น ูบ 5. ใช้ประแจกระบ ก คลายน็ ตยดึ ฝาร งลนื่ ก้าน ูบ กในทิ ทางท นเข็มนา กิ าคลาย ก คร้งั น้ ย ลับกนั ทง้ั 2 ตั จากนน้ั ถ ดน็ ตยึดฝาร งล่นื ก้าน ูบ กจากกา้ น บู ถ ดน็ ตยดึ ฝาร งลนื่ ก้าน ูบ 6. ถ ดฝาร งลน่ื ก้าน ูบ กจากเพลาข้ เ ีย่ ง ข้อควรระวัง: 6.1 ก่ นถ ดใ ้ ังเกตและจดจาเครื่ ง มายด้านข้างฝาร งลื่นก้าน ูบ (ถ้าไม่มี เครื่ ง มายด้านข้างใ ้ใช้เ ลก็ ต ก มายเลขทาเครื่ ง มายเพื่ ง่ายในการประก บ) 6.2 กรณีฝาร งลื่นก้าน ูบแน่นถ ดไม่ ก ้ามใช้ไขค ง รื ข งมีคมงัด ใ ้ใช้น็ ตขัน กลบั เข้าไปประมาณ 1-2 และใช้ค้ นเคาะที่ ั น็ ตเบาๆ เพื่ ใ ้ร งลนื่ กา้ น ูบ ลดุ ก

•163 ทาเครื่ ง มายด้านขา้ ง ฝาร งล่นื กา้ น ูบ 7. ตร จ บระยะ ่างช่ ง ่างน้ามัน ล่ ลื่นระ ่างร งล่ืนก้าน ูบกบั เพลาข้ เ ี่ยง โดยใช้ พลา ทิเกจ างบนร งล่ืนก้าน ูบ จากน้ันประก บฝาร งล่ืนก้าน ูบเข้ากับเพลาข้ เ ่ียงขันใ ้แน่น ด้ ยประแจ ดั แรงบดิ คา่ มาตรฐานตามคู่มื ซ่ มเคร่ื งยนต์2L (3.5 kg-m รื 25 lb-ft รื 34 Nm) จากน้ันถ ดฝาร งล่ืนก้าน ูบ กมา ีกครั้งเพื่ ตร จ บขนาด โดยใช้ เกลด้านข้างซ งพลา ทิเกจ ดั ค ามก ้างข งพลา ทิเกจท่ีแบน กบนร งล่ืนก้าน ูบเปรียบเทียบค่าที่ ัดได้กับค่ามาตรฐานตาม คูม่ ื ซ่ ม

•164 8. ถ ดลูก บู กจากกระบ ก บู ใ ้ใชด้ ้ามค้ นไม้ รื ท่ นไมด้ นั บริเ ณก้าน ูบจากด้านล่าง ด้านล่างเ ้ื บู ใ ก้ า้ น ูบและลกู ูบเลื่ นข้นึ มาด้านบนข งเ ้ื ูบ ข้อควรระวงั : ้ามใช้แทง่ เ ล็ก รื ข งมีคมดนั ก้าน บู เดด็ ขาดเพราะ าจจะทาใ ้ก้าน บู เ ยี ายได้ ถ ดลกู ูบ กจากเ ื้ ูบ 9. ถ ดแ นลูก ูบใ ้ใช้เคร่ื งถา่ งแ นลูก ูบถ ดแ น กจากลูก ูบด้ ยค ามระมัดระ ัง ครั้งละ 1 ตั โดยถ ดแ นลูก ูบตั บน ุดก่ นจากน้ันใ ้ถ ดแ น ัดตั ร งและถ ดแ นก าด น้ามนั เครื่ ง กเป็นตั ดุ ท้ายจดั เรยี งแ นลูก บู ตามลาดบั ถ ดแ นลูก ูบตั บน ุด

•165 10. ถ ดแยกลูก ูบ กจากกา้ น ูบ โดยใช้คมี ุบแ นล็ กถ ดแ นล็ ก ลักลกู ูบ กจาก ลักลูก ูบ จากน้ันติดต้ังก้าน ูบเข้ากับปากกาจับช้ินงานร งก้าน ูบด้ ยไม้และใช้เ ล็ก ่ง รื แท่ง ท งเ ลื งขนาดพ ดกี ับ ลกั ลกู ูบ างที่ ลักลูก บู ต กด้ ยค้ นเพื่ ง่ ลกั ลูก บู กจากลูก บู ถ ดแยกและจดั เรยี งลกู ูบ แ นลูก ูบ ก้าน ูบ ลักลูก ูบ แ นล็ ก ลักลูก ูบ ฝาร งลื่นก้าน ูบ และร งลื่นกา้ น บู ตามลาดับ ถ ดแ นล็ ก ลักลกู ูบ ใชค้ ้ นต กเ ล็ก ่ง ลักลกู ูบ ลักลกู ูบ

•166 ถ ดแยกและจัดเรียงชน้ิ ่ น 11. ทาค าม ะ าดขูดคราบเขม่าบน ั ลูก บู ด้ ยมีดขูดปะเกน็ และทาค าม ะ าดร่ งแ น ลกู บู โดยใชแ้ นลูก ูบเก่าที่แตก ักชารดุ แล้ ขูดเ เขมา่ ในร งแ นและทาค าม ะ าด ั ลูก ูบ ด้ ยแปรงท งเ ลื งล้างทาค าม ะ าดใช้ลมเปา่ ใ ้แ ง้ ทาค าม ะ าดลูก บู

•167 ทาค าม ะ าดแ นลูก ูบ ลา้ งทาค าม ะ าด ร่ งแ นลูก ูบ การตรวจ อบลูก ูบ 1. ตร จ บการชารดุ กึ ร ข งลูก ูบ ตร จร่ งร ยขีดข่ นร ยร้า คราบเขม่าร ยไ ม้ ตา่ งๆ ด้ ย ายตา

•168 ผลการตรวจ ภาพการชารุด กึ รอของลูก บู ด้วย ายตา ปกติ ผดิ ปกติ (ระบุ) …………………………………………………. 2. ตร จ บขนาดเ ้นผา่ น นู ยก์ ลางข งลกู บู โดยใช้ไมโครมเิ ต ร์ ดั น กตร จ บขนาด ข งลูก ูบค่ามาตรฐานตามคู่มื ซ่ มเคร่ื งยนต์2L กา นดขนาดโ เ ร์ไซด์ (Oversize: O/S 0.50) เทา่ กับ 92.44-92.47 มิลลิเมตร (ตาแ นง่ ตามมาตรฐานการ ัดคื ่างจากข บบน ุดข ง ั ลูก ูบลง มาประมาณ 58.27-58.33 มลิ ลิเมตรดงั ภาพด้านล่าง) ตาแ นง่ ในการ ัดขนาด เ ้นผา่ น ูนย์กลางลูก ูบ

•169 บนั ทึกผลการตรวจ อบขนาดเ ้นผา่ นศนู ยก์ ลางลกู บู ผลการตร จ ัด ลกู บู ลูกท่ี 1 ลกู บู ลกู ที่ 2 ลกู ูบลกู ท่ี 3 ลูก ูบลูกท่ี 4 ลูก บู ………….…… ม.ม. ………….…… ม.ม. ………….…… ม.ม. ………….…… ม.ม. รปุ ผลการตร จ บขนาดเ ้นผา่ น นู ย์กลางลกู บู ปกติ ไมป่ กติ (ระบุ) ………………….…………………………………………. การตรวจ อบแ วนลูก ูบ 1. ตร จ บ ภาพการชารุด ึก ร ข งแ นลูก ูบด้ ย ายตา ผลการตร จ บการชารดุ ึก ร ข งแ นลูก บู ปกติ ผิดปกติ (ระบุ) …………………………………………………. 2. ตร จ บระยะปากแ นลกู บู ทง้ั มด 3 ตั ประก บด้ ยแ น ดั จาน น 2 ตั และ แ นก าดน้ามันจาน น 1 ตั เริม่ จากดันแ นเขา้ ไปในกระบ ก ูบใช้ ั ลูก ูบดันข บแ นเพ่ื ใ ้ ปากแ นเ ม กัน จากนั้นใช้ฟลี เล ร์เกจ ด ดั ระยะ า่ งปากแ นลกู ูบค่ามาตรฐานตามคู่มื ซ่ ม เคร่ื งยนต์กา นดแ น ัดตั ที่ 1 และแ น ัดตั ที่ 2 คื 0.20-0.40 มิลลิเมตรค่าจากัดไม่เกิน 1.50 มลิ ลเิ มตร ่ นแ นก าดนา้ มนั 0.10-0.30 มิลลเิ มตรคา่ จากัดไมเ่ กนิ 1.50 มิลลเิ มตร ใช้ ั ลกู บู ดันใ ้ข บ ปากแ นเรียบเ ม กัน ัดระยะ ่างปากแ นลกู บู

•170 บันทกึ ผลการตรวจวัดระยะ า่ งปากแ วนลูก บู ผลการตร จ ดั แ นลกู บู ลูกท่ี 1 แ นลกู ูบ ลูกที่ 2 ระยะ ่าง แ น ดั ตั ท่ี 1 ………….…… ม.ม. แ น ดั ตั ท่ี 1 ………….…… ม.ม. ปากแ นลูก ูบ แ น ดั ตั ที่ 2 ………….…… ม.ม. แ น ัดตั ที่ 2 ………….…… ม.ม. แ นก าดน้ามนั ………….…… ม.ม. แ นก าดน้ามัน………….…… ม.ม. แ นลูก ูบ ลกู ที่ 4 แ นลกู ูบ ลูกท่ี 3 แ น ดั ตั ท่ี 1 ………….…… ม.ม. แ น ดั ตั ที่ 1 ………….…… ม.ม. แ น ัดตั ที่ 2 ………….…… ม.ม. แ นก าดนา้ มนั ………….…… ม.ม. แ น ดั ตั ท่ี 2 ………….…… ม.ม. แ นก าดน้ามนั ………….…… ม.ม. รปุ ผลการ ัดระยะ ่างปากแ นลกู ูบ ปกติ ไมป่ กติ (ระบุ) ………………….…………………………………………. 3. ตร จ บระยะ า่ งช่ ง ่างระ า่ งร่ งแ นกบั แ นลูก ูบใช้ฟีลเล ร์เกจ ัดระยะ า่ ง ด้านข้างระ ่างแ นกับร่ งแ นลูก ูบร่ งที่ 1 ค่ามาตรฐานตามคู่มื ซ่ มเครื่ งยนต์2L กา นด 0.028-0.077 มลิ ลิเมตรคา่ จากัด ูง ดุ ไม่เกิน 0.20 มิลลิเมตร ัดระยะ า่ งระ า่ งแ น กับร่ งแ นลกู ูบ

•171 ระยะ ่างแ นกับร่ งแ นร่ งที่ 2 คา่ มาตรฐานตามคู่มื ซ่ มเครื่ งยนต2์ L กา นด 0.070-0.075 มลิ ลิเมตรและแ นก าดน้ามัน 0.030-0.070 มิลลิเมตรและค่าจากัด ูง ุดไม่เกนิ 0.20 มลิ ลเิ มตร ดั ระยะ ่างระ า่ งแ น กับร่ งแ นลูก ูบ บนั ทึกผลการตรวจวัดระยะ า่ งช่องว่างระ ว่างแ วนกบั รอ่ งแ วนลกู ูบ ผลการตร จ ัด ร่ งแ นลกู บู ท่ี 1 ร่ งแ นลูก บู ที่ 2 ระยะ า่ ง ร่ งแ นตั ท่ี 1 ………….…… ม.ม. ร่ งแ นตั ที่ 1 ………….…… ม.ม. ปากแ นลกู ูบ ร่ งแ นตั ที่ 2 ………….…… ม.ม. ร่ งแ นตั ท่ี 2 ………….…… ม.ม. แ นก าดน้ามนั ………….…… ม.ม. แ นก าดน้ามัน………….…… ม.ม. ร่ งแ นลกู ูบท่ี 3 ร่ งแ นลกู บู ที่ 4 ร่ งแ นตั ท่ี 1 ………….…… ม.ม. ร่ งแ นตั ท่ี 1 ………….…… ม.ม. ร่ งแ นตั ที่ 2 ………….…… ม.ม. ร่ งแ นตั ท่ี 2 ………….…… ม.ม. แ นก าดน้ามนั ………….…… ม.ม. แ นก าดนา้ มัน………….…… ม.ม. รปุ ผลการตร จ ดั ระยะ ่างช่ ง ่างระ า่ งแ นกบั ร่ งแ นลูก บู ปกติ ไมป่ กติ (ระบุ) ………………….…………………………………………. การตรวจ อบก้าน ูบ 1. ตร จ บการชารดุ ึก ร ตร จ บการคดง ชารุดแตกรา้ ข งกา้ น ูบด้ ย ายตา ผลการตรวจ อบการชารดุ ึก รอของก้าน บู ปกติ ผดิ ปกติ (ระบุ) …………………………………………………. 2. ตร จ บร งลนื่ กา้ น ูบโดยตร จ บท้งั ร งลน่ื กา้ น บู ตั บนและร งลืน่ ก้าน ูบตั ลา่ ง ตร จ บร ยขดี ข่ นชารุดแตกรา้ ข งร งลนื่ กา้ น บู ด้ ย ายตา ขอ้ ังเกต: ร งล่ืน (Bearing) ทมี่ ี ภาพดีจะมีลกั ณะผิ เปน็ เี งนิ มัน า ไมร่ ่ งร ยการชารุด กึ ร ถ้าพบ า่ ร งลน่ื ก้าน บู กึ ร เป็นร่ ง รื ล กถล ก กเปน็ ที งแ ดง า่ ชารดุ เ ่ื ม ภาพ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook