แผนการสอนมุ่งเน้นสมรรถนะ วิชางานเครื่องยนต์ดีเซล รหัสวิชา 20101-2002 หลักสูตาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชา อุตสาหกรรม ระบบไฟฟ้าเครื่อหงยน่นวตย์ดทีี่เซ1ล2 นายธนาธิป ทองศิริ เเผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคชุมพร
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 12 สอนครงั้ ท่ี 15
77 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 ช่ือวชิ า งานเครอ่ื งยนตด์ ีเซล เวลาเรยี นรวม 126 ช่ัวโมง ช่อื หน่วย ระบบไฟฟา้ เครอ่ื งยนต์ดเี ซล สอนครั้งที่ 15 ช่ือเร่ือง ระบบไฟฟา้ เครอื่ งยนตด์ ีเซล จานวนชวั่ โมง 7 ชว่ั โมง หวั ข้อเร่ือง 12.1 พน้ื ฐานทางไฟฟา้ 12.2 ระบบไฟฟ้าของเครื่องยนต์ดเี ซล 12.3 ระบบมอเตอรส์ ตาร์ท สาระสาคญั ระบบไฟฟ้าเคร่ืองยนตด์ เี ซลรุ่นเกา่ จะทีความซับซ้อนน้อยกวา่ เครื่องยนต์ร่นุ ใหม่ ๆ มากเนอื่ งจาก เคร่อื งยนตด์ ีเซลใช้การจุดระเบดิ ด้วยการอดั อากาศให้มีความร้อนสงู พอในการเผาไหม้เชื้อเพลิงโดยไมต่ ้องใช้ อุปกรณ์ในการจุดประกายไฟ สาหรับเครอ่ื งยนต์ท่ีมีห้องเผาไหมช้ ่วย ในชว่ งอากาศเยน็ เกดิ การเผาไหม้ได้ ยาก จาเป็นตอ้ งมีอปุ กรณช์ ่วยทาใหอ้ ากาศร้อนในขณะสตาร์ทเคร่อื งยนตต์ อนเคร่ือง สาหรบั เครอ่ื งยนต์ที่มี ห้องเผาไหมแ้ บบฉีดเขา้ ห้องเผาไหม้โดยตรง (Direct Injection Chamber) ไม่จาเปน็ ต้องใชห้ ัวเผา ยกเวน้ ในแถบประเทศทม่ี ีอากาศเยน็ อยา่ งไรกด็ ี ปัจจบุ ันการพัฒนาระบบไฟฟ้าเครอ่ื งยนต์ดีเซลมี ความกา้ วหน้ามาก โดยนาอปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาควบคุมการทางานในระบบตา่ ง ๆ แทนการใช้กลไก ควบคุม เพ่ือให้สามารถควบคุมการทางานระบบต่าง ๆ ได้อยา่ งแมน่ ยา การทางานของเครือ่ งยนต์มี ประสทิ ธภิ าพสงู ส่งผลใหร้ ะบบไฟฟา้ ของเคร่อื งยนตม์ ีความซับซ้อนมากขึ้น การเรยี นระบบไฟฟ้าจงึ จาเป็นต้องศกึ ษาพน้ื ฐานทางไฟฟ้าใหด้ เี สียก่อน เพ่ือใชเ้ ป็นพ้นื ฐานในการเรียนไฟฟา้ รถยนตต์ อ่ ไป สมรรถนะหลกั (สมรรถนะประจาหนว่ ย) 1 แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ระบบไฟฟ้าของเครื่องยนต์ดเี ซล 2 ถอดประกอบชน้ิ ส่วนไฟฟ้าเครอื่ งยนต์และสว่ นตา่ งๆตามคูม่ ือซ่อม
78 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 12 ชอ่ื วชิ า งานเครอ่ื งยนต์ดเี ซล เวลาเรยี นรวม 126 ชว่ั โมง ชื่อหนว่ ย ระบบไฟฟา้ เคร่ืองยนต์ดีเซล สอนครั้งที่ 15 ช่ือเรือ่ ง ระบบไฟฟ้าเครื่องยนตด์ เี ซล จานวนชว่ั โมง 7 ชวั่ โมง สมรรถนะย่อย (สมรรถนะการเรียนร)ู้ สมรรถนะทวั่ ไป (ทฤษฎ)ี 1 แสดงความร้เู กี่ยวกบั พ้ืนฐานทางไฟฟ้าเคร่ืองยนตด์ ีเซล 2 แสดงความร้เู กี่ยวกบั ระบบไฟฟ้าของเครื่องยนต์ดีเซล สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ทฤษฎ)ี เมอ่ื ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาเน้อื หาในบทนแ้ี ลว้ ผเู้ รยี นสามารถ ๑ บอกพื้นฐานทางไฟฟ้าเคร่ืองยนตด์ เี ซลได้ถกู ต้อง ๒ อธิบายระบบไฟฟา้ ของเคร่ืองยนตด์ ีเซลได้ถูกต้อง สมรรถนะทวั่ ไป (ปฏิบตั )ิ 1 แสดงทกั ษะในการถอดระบบมอเตอร์สตารท์ ไดถ้ ูกตอ้ ง สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ปฏิบตั ิ) เมอ่ื ผเู้ รยี นไดศ้ ึกษาเน้ือหาในบทนแี้ ลว้ ผเู้ รยี นสามารถ 1 สามารถถอดระบบมอเตอร์สตารท์ เครอื่ งยนตด์ เี ซลได้ถูกตอ้ งตามคู่มือ กจิ กรรมการเรยี นการสอน ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชางานเคร่ืองยนต์ดีเซล ได้กาหนดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะเชิงรุก (Active Learning Competency Based) ด้านเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบ MAIP โดยมีข้ันตอนในการดาเนินกิจกรรมการเรียนการ สอน ดงั น้ี กิจกรรมการเรยี นการสอน (สอนครั้งท่ี ๑ ) เวลา 7 ช่วั โมง/สปั ดาห์ ๑. ผู้สอนชี้แจงรายละเอียดเก่ียวกับจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาอธิบาย รายวิชา การวัดและประเมินผลการเรียนรายวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของรายวิชา และข้อตกลงใน การจดั การเรียนการสอนในรายวชิ า ๒. ผู้สอนแสดงตวั อยา่ งเกยี่ วกับระบบระบบไฟฟา้ เครือ่ งยนต์ดีเซล ๓. ผ้สู อนถา่ ยทอดความรู้ในหน่วยที่ 12 เร่อื งระบบไฟฟา้ เคร่ืองยนตด์ ีเซล ๔. ผู้สอนแสดงใบงานเร่ืองระบบไฟฟ้าเคร่ืองยนต์ดเี ซลและอธิบายขัน้ ตอนวิธกี ารในการ ปฏิบตั ิงานตามใบงานเรอื่ งระบบไฟฟา้ เคร่ืองยนต์ดเี ซล ๕. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นปฏบิ ัติงานของตนตามใบปฏิบัติงานระบบไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซล ๖. ผูส้ อนประเมินผลการปฏิบตั งิ านของผเู้ รยี นและให้ผูเ้ รียนสรุปสาระสาคญั ของเร่ืองท่เี รียน ประจาสปั ดาห์
79 \\ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 12 ช่อื วิชา งานเครื่องยนตด์ เี ซล เวลาเรียนรวม 126 ชว่ั โมง ชื่อหน่วย ระบบไฟฟ้าเครือ่ งยนต์ดเี ซล สอนครง้ั ที่ 15 ชอ่ื เรอื่ ง ระบบไฟฟ้าเคร่ืองยนตด์ ีเซล จานวนชว่ั โมง 7 ชวั่ โมง สือ่ การสอน ๑. เอกสารประกอบการสอน ๒. เอกสารประกอบการเรยี น ๓. สื่อนาเสนอ PowerPointงานทมี่ อบหมาย/กจิ กรรม ให้นกั เรยี นทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะตามใบงานท้ายหนว่ ยการเรียนที่ 12 การวดั และประเมนิ ผล วดั ผล/ประเมนิ ผล วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ - ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๖๐ ๑. สมรรถนะที่พงึ - ทาแบบฝกึ เสริมทักษะ - แบบฝกึ เสริมทักษะ ประสงค์ ทา้ ยหน่วย ท้ายหน่วย - ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - แบบประเมนิ ๒. คุณลักษณะอันพงึ - ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั คณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงค์ (Attitude) พึงประสงค์ ประสงค์
85 ภาคผนวก ใบความรู้ – แบบทดสอบ ใบปฏิบตั งิ าน – สื่อการสอน
ใบความรู้ เร่ือง ระบบไฟฟ้าของเคร่ืองยนต์ดีเซล 1 พื้นฐานทางไฟฟ้า กฎของโอห์ม(Ohm’s Law) ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งแรงเคล่อื น กระแสและความตา้ นทานเรียนวา่ กฎของโอหม์ ซง่ึ เปน็ พนื้ ฐานทางด้านไฟฟ้า กฎของโอหม์ กลา่ วไว้ว่า “กระแสที่ไหลในวงจรจะเป็นสัดส่วน โดยตรงกบั แรงเคลื่อนและเป็นสดั สว่ นกลบั กนั กับความต้านทาน” อกี นัยหนึ่งจานวนกระแสที่ไหลในวงจรจะ เป็น 2 เทา่ จะลดลงเหลือคร่ึงหนงึ่ ถา้ ความตา้ นทานเพม่ิ เป็น 2 เท่า กฎของโอห์ม(Ohm’s Law) สามารถเขียนสมการความสัมพันธร์ ะหว่างกระแส แรงเคลื่อน และความตา้ นทานจะชว่ ยให้สามารถจดจากฎ ของโอห์มได้ I = E/R (A) R = E/I (Ω) E = I.R (V)
แบตเตอรี่ สายไฟ โหลด สายไฟ วงจรไฟฟา้ ในรถยนต์ทส่ี มบูรณ์แบบ - แหล่งจ่าย(Power) แบตเตอรีแ่ ละเสน้ ทางเดินจากแบตเตอรีไ่ ปยังโหลด เปน็ ทางด้าน(+)ของวงจร - ภาระ(Load) คือ อปุ กรณ์ไฟฟา้ ต่างๆ เช่นหลอดไฟ ขดลวดความร้อน มอเตอรว์ ทิ ยุ แอร์ในวงจร - สายดนิ (Ground) คือ เส้นทางเดินของอปุ กรณไ์ ฟฟา้ จากโหลดกลับไปสแู่ บตเตอรี่ ซึง่ ก็คือดา้ น(-)ของ วงจร ระบบไฟฟา้ a. เครอ่ื งยนต์ดีเซล หน้าทหี่ ลักของระบบไฟฟา้ ในเครอ่ื งยนต์ดเี ซลคือ การตดิ เครื่องยนต์ และ ให้แสงสว่างเกจวัดและอปุ กรณ์ไฟฟา้ ต่างๆภายในตวั รถโดยเครือ่ งยนต์รถรนุ่ ใหมๆ่ จะมีการ ควบคุมด้วยอเิ ล็กทรอนกิ ส์ แบตเตอร่ี วงจรพืน้ ฐานของระบบไฟฟ้าเคร่อื งยนต์ดเี ซล
แบตเตอรี(่ Battery) ทาหน้าทเ่ี ก็บและจา่ ยพลังงานไฟฟ้าใหก้ ับระบบไฟฟา้ ในรถยนต์ แบตเตอร(ี่ Battery) อันเทอร์เนเตอร(์ Alternater) ทาหนา้ ท่ีสรา้ งพลังงานไฟฟ้าเพือ่ ประจเุ ข้าไปในแบตเตอรี่ให้มี ไฟเต็มในอัลเทอรเ์ นเตอรจ์ ะมีควั ควบคมุ โวลต์เตจอยู่ด้วย อันเทอร์เนเตอร(์ Alternater) มอเตอรส์ ตารต์ ถกู ขับเคลื่อนโดยใช้พลงั งานไฟฟ้าจากแบตเตอร่ี มหี น้าที่ในการขับใหเ้ คร่ืองยนต์หมนุ ในชว่ ง เร่ิมตดิ เคร่ืองยนต์ มอเตอรส์ ตาร์ต
8.2.4 หวั เผา(Glow plug) ทาหนา้ ทอ่ี นุ่ ไอดที เ่ี ข้ามาในห้องเผาไหมเ้ พ่ือให้ติดเครอื่ งยนตไ์ ด้งา่ ย ซง่ึ หวั เผาน้ีจะใชส้ าหรบั ในเครอื่ งยนตช์ นดิ ทม่ี หี ้องเผาไหมช้ ่วยเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรกต็ าม อาจมีการนาหวั เผามา ใช้ในเคร่อื งยนตแ์ บบฉดี ตรง หัวเผา(Glow plug) ระบบไฟฟา้ ทางานโดยแบตเตอรีจ่ ะเกบ็ พลังงานและจ่ายกระแสไฟตามที่ต้องการเพื่อใชใ้ นการ ตดิ เครอ่ื งยนต์ ดังนัน้ เม่ือพลงั งานหมดจะต้องทาการประจุไฟใหม่ ตวั อลั เทอรเ์ นเตอร์จะทาหน้าท่ีสรา้ งพลังงาน ไฟฟา้ ในระหว่างที่เคร่ืองยนต์ทางานเพ่ือประจุเขา้ ในแบตเตอรี่ วงจรพื้นฐานทั่วไปในระบบไฟฟา้ เครอื่ งยนตด์ ีเซล
B ระบบสตารต์ เครอ่ื งยนตด์ ีเซล(Start System) มหี นา้ ท่ีสตาร์ตใหเ้ ครอื่ งยนต์ให้หมนุ ลูกสูบดูดอากาศ อดั อากาศ หวั ฉดี ฉดี น้ามนั ให้เกิดการจดุ ระเบิดและคายไอเสยี ทาใหเ้ กิดแรงออกไปใช้งาน ไฟท่ีใช้เปน็ ไฟฟา้ กระแสตรง(DC) จากแบตเตอร่ปี ระกอบดว้ ยชิน้ ส่วนสาคัญ คือ 8.3.1 มอเตอร์ทม่ี แี รงบิดสงู 8.3.2 แมกเนติกสวติ ช์ ทาหน้าทเี่ ลื่อนขาเขยี่ ซงึ่ เลื่อนเฟืองกียรม์ อเตอรส์ ตาร์ต ใหข้ บกบั เฟอื งล้อ ชว่ ยแรงและจะ เลื่อนกลับเมื่อเครื่องยนตต์ ดิ และมอเตอร์สตารด์ ก็จะหยุดหมนุ 8.3.3 เฟอื งเกยี รม์ อเตอรส์ ตารต์ ระบบสตาร์ตเครอ่ื งยนต์ดีเซล(Start System) 8.4 ระบบประจุไฟฟา้ (Charging System) คือส่วนหนึง่ ของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ กาลงั ไฟฟา้ ท่ีผลติ ออกมา แตกตา่ งกันนน้ั ขึ้นอยู่กบั การทางานของเครื่องยนต์ กาลังไฟฟา้ ทผ่ี ลิตออกมามากหรอื น้อยขนึ้ อนกู่ บั รอบของ เคร่ืองยนต์ และเมื่อต้องการให้อัลเทอร์เนเตอรผ์ ลติ ไฟฟา้ มากขึ้น เพ่ือประจุใหก้ บั แบตเตอร่ีใหร้ อบเครือ่ งยนต์ สูงขึ้น อัลเทอร์เนเตอร์ผลิตไฟมากข้นึ ให้เพยี งพอกับการใชง้ านและเกบ็ ในแบตเตอร่ี 8.4.1 หนา้ ทชี่ ิน้ ส่วนของระบบประจุไฟฟ้าหรอื ระบบชารจ์ ไฟ ระบบประจุไฟฟ้า ประกอบด้วย อลั เทอรเ์ นเตอร์ เร็กกเู ลเตอร์ และหลอดไฟเตือน 1. อลั เทอร์เนเตอร(์ Alternater) อลั เทอรเ์ นเตอร์ถูกขบั โดยตรงจาดมู่เล่ย์เพลาข้อเหวย่ี งของ เครอ่ื งยนต์โดยใชส้ ายพาน การผลิตไฟฟ้าโดยการหมุนของเครอ่ื งยนต์(พลงั งานกล) ใหเ้ ป็นพลงั งานไฟฟา้ 2. ตวั ควบคมุ แรงเคลือ่ นไฟฟา้ (Voltage Regulater) โวลตเ์ ตจเร็กกเู ลเตอรเ์ ปน็ ตัวควบคุม กระแสไฟฟ้าท่ผลิตออกมาจากอลั เทอร์เนเตอร์ให้มีคา่ คงท่ี ตัวควบคมุ แรงเคลือ่ นไฟฟา้ มีอยู่ 2 แบบ คือแบบมี หนา้ ทองขาว(Contact)และแบบไม่มหี น้าทองขาว ปัจจบุ นั รถยนตท์ ้ังส่วนใหญ่ใชไ้ อซใี นอัลเทอรเ์ นเตอร์กค็ ือ แบบไม่มหี น้าทองขาว
3. หลอดไฟเตอื นไฟชารจ์ (Charge Warning Lamp) หลอดไฟเตือนการชาร์จจะสวา่ งขึ้นเม่ืออลั เทอรเ์ น เตอร์ไม่ทางานหรือยังไม่ผลิตกระแสไฟออกมา หนา้ ท่ชี ้นิ สว่ นของระบบประจุไฟฟ้าหรอื ระบบชารจ์ ไฟ
ระบบไฟฟ้าของเครื่องยนตด์ เี ซล กฎของโอหม์ (Ohm’s Law) กฎของโอห์ม(Ohm’sLaw) ความสัมพนั ธ์ระหว่างแรงเคลื่อน กระแสและความ ตา้ นทานเรียนว่ากฎของโอห์ม ซ่ึงเป็นพ้ืนฐานทางดา้ นไฟฟ้า กฎของโอห์มกล่าวไวว้ ่า “กระแสที่ไหล ในวงจรจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกบั แรงเคลื่อนและเป็นสัดส่วนกลบั กนั กบั ความตา้ นทาน” อีกนยั หน่ึง จานวนกระแสที่ไหลในวงจรจะเป็น 2 เท่า จะลดลงเหลือคร่ึงหน่ึงถา้ ความตา้ นทานเพิม่ เป็น 2 เท่า
สามารถเขียนสมการความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกระแส แรงเคล่อื น และความ ตา้ นทานจะช่วยใหส้ ามารถจดจากฎของโอหม์ ได้ I = E/R (A) R = E/I (Ω) E = I.R (V)
แบตเตอร่ี สายไฟ โหลด สายไฟ วงจรไฟฟ้าในรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบ - แหลง่ จ่าย(Power) แบตเตอร่ีและเส้นทางเดินจากแบตเตอร่ีไปยงั โหลด เป็นทางดา้ น(+)ของวงจร - ภาระ(Load) คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่นหลอดไฟ ขดลวดความร้อน มอเตอร์วทิ ยุ แอร์ในวงจร - สายดิน(Ground) คือ เสน้ ทางเดินของอุปกรณ์ไฟฟ้าจากโหลดกลบั ไปสู่แบตเตอร่ี ซ่ึงกค็ ือดา้ น(-)ของ วงจร
วงจรพนื้ ฐานของระบบไฟฟา้ เครอ่ื งยนต์ดีเซล เครื่องยนตด์ เี ซล หนา้ ท่ีหลกั ของระบบไฟฟา้ ในเครือ่ งยนตด์ ีเซลคือ การตดิ เครอ่ื งยนต์ และใหแ้ สงสวา่ งเกจวดั และอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ตา่ งๆภายในตวั รถโดยเครอ่ื งยนตร์ ถรุน่ ใหมๆ่ จะมีการควบคมุ ดว้ ยอเิ ลก็ ทรอนิกส์
ชิ้นส่ วนในระบบไฟฟ้ารถยนต์ แบตเตอรี่(Battery) ทาหนา้ ท่ีเก็บและจ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหก้ บั ระบบไฟฟา้ ในรถยนต์
ชิ้นส่ วนในระบบไฟฟ้ารถยนต์ อนั เทอร์เนเตอร์(Alternater) ทาหนา้ ที่สร้างพลงั งานไฟฟ้าเพ่อื ประจุเขา้ ไป ในแบตเตอร่ีใหม้ ีไฟเตม็ ในอลั เทอร์เนเตอร์จะมีควั ควบคุมโวลตเ์ ตจอยดู่ ว้ ย
ชิ้นส่ วนในระบบไฟฟ้ารถยนต์ มอเตอรส์ ตารต์ ถกู ขบั เคล่ือนโดยใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าจากแบตเตอร่ี มี หนา้ ท่ีในการขบั ใหเ้ คร่อื งยนตห์ มนุ ในช่วงเรม่ิ ตดิ เครอ่ื งยนต์
ชิ้นส่ วนในระบบไฟฟ้ารถยนต์ หัวเผา(Glow plug) ทาหนา้ ท่ีอนุ่ ไอดีท่ีเขา้ มาในหอ้ งเผาไหมเ้ พ่ือให้ ตดิ เครอ่ื งยนตไ์ ดง้ ่าย ซง่ึ หวั เผานีจ้ ะใชส้ าหรบั ในเครอ่ื งยนตช์ นิดท่ีมีหอ้ งเผาไหม้ ช่วยเป็นสว่ นใหญ่ อยา่ งไรกต็ าม อาจมีการนาหวั เผามาใชใ้ นเคร่อื งยนตแ์ บบฉีด ตรง
วงจรพนื้ ฐานท่วั ไปในระบบไฟฟ้าเครื่องยนตด์ เี ซล วงจรพืน้ ฐานทัว่ ไปในระบบไฟฟา้ เครอื่ งยนต์ดเี ซล ระบบไฟฟา้ ทางานโดยแบตเตอรจ่ี ะเกบ็ พลงั งานและจา่ ย กระแสไฟตามท่ีตอ้ งการเพ่ือใชใ้ นการตดิ เครอื่ งยนต์ ดงั นนั้ เม่ือพลงั งาน หมดจะตอ้ งทาการประจไุ ฟใหม่ ตวั อลั เทอรเ์ นเตอรจ์ ะทาหนา้ ท่ีสรา้ ง พลงั งานไฟฟา้ ในระหวา่ งท่ีเครือ่ งยนตท์ างานเพ่ือประจเุ ขา้ ในแบตเตอร่ี
ระบบสตารต์ เครื่องยนตด์ เี ซล(Start System) ระบบสตาร์ตเคร่ืองยนต์ดเี ซล(Start System) ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ดเี ซล(Start System) มีหนา้ ที่สตาร์ตใหเ้ คร่ืองยนต์ ใหห้ มุนลูกสูบดูดอากาศ อดั อากาศ หวั ฉีด ฉีดน้ามนั ใหเ้ กิดการจุดระเบิดและคายไอเสีย ทาให้ เกิดแรงออกไปใชง้ าน ไฟที่ใชเ้ ป็นไฟฟ้ากระแสตรง(DC) จากแบตเตอร่ีประกอบดว้ ยชิ้นส่วน สาคญั คือ 1. มอเตอร์ท่ีมีแรงบิดสูง 2. แมกเนติกสวติ ช์ ทาหนา้ ท่ีเล่ือนขาเขี่ยซ่ึงเล่ือนเฟื องกียร์มอเตอร์สตาร์ต ใหข้ บกบั เฟื องลอ้ ช่วยแรงและจะ เล่ือนกลบั เม่ือเครื่องยนตต์ ิดและมอเตอร์สตาร์ดกจ็ ะหยดุ หมุน 3. เฟื องเกียร์มอเตอร์สตาร์ต
ระบบประจุไฟฟ้า ระบบประจุไฟฟ้า(Charging System) คือสว่ นหนง่ึ ของระบบ ไฟฟา้ ในรถยนต์ กาลงั ไฟฟา้ ท่ีผลติ ออกมาแตกตา่ งกนั นนั้ ขนึ้ อย่กู บั การทางานของ เครื่องยนต์ กาลงั ไฟฟา้ ท่ีผลติ ออกมามากหรอื นอ้ ยขนึ้ อนกู่ บั รอบของเครอ่ื งยนต์ และเม่ือตอ้ งการใหอ้ ลั เทอรเ์ นเตอรผ์ ลติ ไฟฟา้ มากขนึ้ เพ่ือประจใุ หก้ บั แบตเตอร่ใี ห้ รอบเครอื่ งยนตส์ งู ขนึ้ อลั เทอรเ์ นเตอรผ์ ลติ ไฟมากขนึ้ ใหเ้ พียงพอกบั การใชง้ านและ เกบ็ ในแบตเตอร่ี
ระบบประจุไฟฟ้า หน้าที่ชิ้นส่วนของระบบประจุไฟฟ้าหรือระบบชาร์จไฟ ระบบประจุไฟฟ้าประกอบดว้ ย อลั เทอร์เนเตอร์ เร็กกเู ลเตอร์ และหลอดไฟเตือน 1. อลั เทอร์เนเตอร์(Alternater) อลั เทอร์เนเตอร์ถูกขบั โดยตรงจาดมู่เล่ยเ์ พลาขอ้ เหวีย่ งของเครื่องยนตโ์ ดยใช้ สายพาน การผลิตไฟฟ้าโดยการหมุนของเครื่องยนต(์ พลงั งานกล) ใหเ้ ป็นพลงั งานไฟฟ้า 2. ตวั ควบคุมแรงเคล่ือนไฟฟ้า(Voltage Regulater) โวลตเ์ ตจเร็กกเู ลเตอร์เป็นตวั ควบคุมกระแสไฟฟ้าท่ ผลิตออกมาจากอลั เทอร์เนเตอร์ใหม้ ีค่าคงท่ี ตวั ควบคุมแรงเคล่ือนไฟฟ้า มีอยู่ 2 แบบ คือแบบมีหนา้ ทองขาว (Contact)และแบบไม่มีหนา้ ทองขาว ปัจจุบนั รถยนตท์ ้งั ส่วนใหญ่ใชไ้ อซีในอลั เทอร์เนเตอร์กค็ ือ แบบไม่มีหนา้ ทองขาว 3. หลอดไฟเตือนไฟชาร์จ(Charge Warning Lamp) หลอดไฟเตือนการชาร์จจะสวา่ งข้ึนเม่ืออลั เทอร์เน เตอร์ไม่ทางานหรือยงั ไม่ผลิตกระแสไฟออกมา
แบบทดสอบเรือ่ งระบบไฟฟ้าเคร่ืองยนตด์ เี ซล วิชางานเครื่องยนต์ดีเซล รหสั วชิ า 20101 - 2002 คำสั่ง จงเลือกคำตอบทถ่ี กู ต้องทส่ี ุด (X) ลงในข้อสอบเพียงคำตอบเดียว (10 คะแนน) 1. ถา้ ฉนวนหุม้ สายไฟทเ่ี ปน็ จุดจ่ายไฟชารุดและเกิดการชอ็ ตกราวดใ์ นวงจรจะเกดิ ผลอยา่ งไร ก. กระแสไหลในวงจรเพมิ่ ขึ้น ข. แรงเคลอ่ื นในวงจรเพ่ิมข้นึ ค. กระแสไหลในวงจรนอ้ ยลง ง. ความต้านทานในวงจรเพ่มิ ขนึ้ 2. วงจรไฟฟา้ ในรถยนตม์ ีก่ีแบบ อะไรบ้าง ก. 2 แบบ คอื วงจรกระแสตรงและวงจรกระแสสลบั ข. 1 แบบ คือ วงจรกระแสตรง ค. 2 แบบ คอื วงจรอนุกรมและวงจรอันดับ ง. 2 แบบ คือ วงจรอนุกรมและวงจรขนำน 3. ข้อใดไมใ่ ชห่ น้าทีข่ องระบบไฟฟ้าเครอ่ื งยนต์ดีเซล ก. จา่ ยไฟใหว้ งจรส่องสว่าง ข. จำ่ ยไฟให้ระบบไฟชำรจ์ ค. จ่ายไฟให้วงจรสตาร์ต ง. ประจุไฟเขา้ แบตเตอรี่ 4. ข้อใดกล่าวถึง “มอเตอรส์ ตาร์ต” และ “อัลเทอร์เนเตอร์” ได้ถกู ตอ้ ง ก. มอเตอร์สตำรต์ ใช้พลงั งำนไฟฟ้ำ อัลเทอรเ์ นเตอรผ์ ลติ พลังงำนไฟฟำ้ ข. มอเตอร์สตารต์ ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ อลั เทอร์เนเตอรใ์ ชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ค. มอเตอรส์ ตารต์ ผลิตพลังงานไฟฟ้า อลั เทอรเ์ นเตอรผ์ ลติ พลงั งานไฟฟ้า ง. มอเตอร์สตารต์ ผลิตพลังงานไฟฟ้า อัลเทอรเ์ นเตอร์ใช้พลงั งานไฟฟ้า 5. กระแสไฟฟา้ ทอ่ี ลั เทอร์เนเตอร์ผลิตไดเ้ ปน็ กระแสอะไร ก. กระแสแรงดันสูง ข. กระแสแรงดันตา่ ค. กระแสตรง ง. กระแสสลับ 6. อปุ กรณ์ที่ใช้แปลงกระแสสลบั เปน็ กระแสตรงคือข้อใด ก. ทรานซสิ เตอร์ ข. รีดวิ สเ์ ซอร์ ค. ไดโอด ง. รีซิสเตอร์ 7. อุปกรณ์ใดของอลั เทอรเ์ นเตอรท์ าใหเ้ กิดสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ก. ไดโอด ข. ขดลวดฟิลล์คอยล์ ค. ขดลวดสเตเตอร์ ง. เรก็ กูเลเตอร์ 8. อัลเทอรเ์ นเตอรจ์ ะควบคมุ แรงดันไฟฟา้ ให้อยูใ่ นช่วงใด ก. 12 โวลต์ ข. 13–15 โวลต์ ค. 8–2 โวลต์ ง. 10–12 โวลต์ 9. ขอ้ ใดคอื วตั ถปุ ระสงคข์ องหัวเผาในการอุ่นอากาศ ก. ต้องการให้สตาร์ตเครอ่ื งยนต์งา่ ยขึ้น ข. ต้องการใหไ้ อนา้ ในอากาศระเหยออก ค. ตอ้ งกำรใหก้ ำรเผำไหม้ดขี ้ึน ง. ต้องการใหป้ ระหยดั เช้ือเพลิง 10. ความตา้ นทานระหว่างสะพานไฟหัวเผาและหวั เผาอยู่ในช่วงใด ก. 0.6–0.8 โอหม์ ข. 6–8 โอหม์ ค. 0.2–0.3 โอหม์ ง. 2–3 โอหม์
ใบงำนที่ 10 กำรถอดและประกอบมอเตอรส์ ตำรท์ วัตถปุ ระสงค์ เพ่อื ให้นกั เรียน-นักศกึ ษาสามารถการถอดและประกอบมอเตอรส์ ตารท์ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง อปุ กรณส์ อ่ื กำรสอน เคร่ืองยนต์ดเี ซล เวลา 6 ชว่ั โมง รูปที่ 29 วงจรมอเตอร์สตาร์ท 1. แบตเตอรี่ 2. สวิตชจ์ ดุ ระเบดิ 3. มอเตอรส์ ตาร์ท กำรทำงำนของมอเตอรส์ ตำร์ท มอเตอรส์ ตาร์ทจะหมุนเครื่องยนต์ โดยใช้เฟืองขับไปขบั กบั ริงเกียร์ของลอ้ ช่วยแรง
ข้ันตอนกำรปฏบิ ตั งิ ำน กำรถอดมอเตอรส์ ตำรท์ ออกจำกเคร่อื งยนต์ 1. ถอดแบตเตอรี่ข้วั ลบ ( - ) ออก รูปที่ 30 ถอดสายไฟขัว้ ลบ โดยคลายนอ๊ ตพอหลวมแลว้ ดงึ สายไฟออก 2. ถอดขวั้ เสยี บสายไฟท่ที า้ ยโซลนิ อยดอ์ อก น๊อตมอเตอรส์ ตารท์ มอเตอร์ สตารท์ ขวั้ สตารท์ (st) สายไฟ น๊อตมอเตอรส์ ตาwรwท์ w.bmwe34แขclวับ้ uบตbวเ.cตกoอจmารก่ี รูปที่ 31 ขั้วเสยี บสายไฟมอเตอรส์ ตารท์ 3. ถอดสายไฟท่ตี อ่ มาจากแบตเตอร่ี มาเข้าทท่ี า้ ยมอเตอรส์ ตารท์ ออก 4. ถอดนอ๊ ตยึดมอเตอรส์ ตาร์ท ระหวา่ งเสือ้ สบู กบั ชดุ เกียรอ์ อก ขนั้ ตอนกำรประกอบ ใหป้ ระกอบย้อนกลับจากขั้นตอนในการถอด ขอ้ ควรระวัง 1. ห้ามตอ่ สาย ขัว้ แบตเตอร่กี อ่ นทีจ่ ะประกอบมอเตอรส์ ตารท์
ใบประเมินผล เร่ือง/งำน ระบบไฟฟา้ ของเครอ่ื งยนตด์ ีเซล ชือ่ – นามสกลุ ……………………………………………… วันที่ ....................... เลขประจาตวั …………………………………ช้นั …………… ผู้ประเมนิ .................. คำแนะนำ ให้ทาเครอ่ื งหมาย ในช่องคะแนนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากเกณฑ์คะแนนท่ีใหม้ า จดุ ประเมิน คะแนน คะแนนทไ่ี ด้ 10 6 1 0 กระบวนกำรแกป้ ัญหำ 1. การเตรยี มเครือ่ งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ 2. ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ คร่อื งมือ 3. ขนั้ ตอนการปฏบิ ัตงิ าน 4. ความต้งั ใจในการทางาน คณุ ภาพของ 1. ผลสาเรจ็ ของงาน ผลงาน 2. วิธแี ก้ปัญหาเหมาะกบั สถานการณ์ 3. มกี ารรายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน เจตคติ 1. การทางานร่วมกับผ้อู น่ื 2. มีมารยาทและสมั มาคาราวะ 3. มีความรับผดิ ชอบ ซื่อสัตย์ และตรงต่อเวลา รวมคะแนน เร่ิมงานเวลา.................... เสรจ็ งานเวลา.................................. ใชเ้ วลา...........ชม.............นาที สรุปผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผา่ น เพราะ...............................................................
เกณฑก์ ำรให้คะแนน คะแนน 10 หมายถงึ มผี ลการปฏิบตั ิงานอยา่ งครบถ้วน คะแนน 6 หมายถึง มผี ลการปฏบิ ตั งิ านบางสว่ น แตไ่ มน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 50 คะแนน 1 หมายถงึ มผี ลการปฏิบตั งิ านบางสว่ น แต่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 50 คะแนน 0 หมายถงึ ไมม่ ผี ลการปฏบิ ตั งิ าน
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: